ในสวนศิลป์
พี่ต้นกล้า นาวาตรีจิรวัติ สุกปลั่งนั้น ไม่ใช่ปัญหาของกฤษณะอีกต่อไปแล้ว วันนี้เป็นวันวิวาห์ของเขากับพี่แพรวพรรณที่เพาะบ่มความรักดูใจกันตามที่แม่ของพี่แพรวพรรณต้องการมาถึงเกือบสองปี..
ปัญหาของกฤษณะก็คือพี่ต้นกล้วย เดชาพงษ์ ซึ่งจนบัดนี้ก็ดูไม่มีวี่แววว่าจะชอบพอกับผู้หญิงคนไหน แต่เธอก็มั่นใจว่าด้วยญาณหยั่งรู้ของที่ได้จับมือและได้ทำนายพี่ชายของเธอไปแล้วนั้น เขาจะต้องได้เจอกับเนื้อคู่ของเขาและลงเอยด้วยการแต่งงานกันอย่างแน่นอน..แต่ว่าเธอไม่รู้ว่ามันจะใช้เวลานานแค่ไหน
เพราะคนเฉย ๆ อย่างพี่ต้นกล้วย เมขลาคิดไม่ออกจริง ๆ ว่า ถึงคราวจะต้องจีบผู้หญิงจะทำอย่างไร..แต่เธอก็มั่นใจว่า พระพรหมท่านก็คงมีวิถีของท่าน..คงมีวิธีการที่ทำให้คนสองคนได้พบกันมีเรื่องทำด้วยกันและผูกพันจนกระทั่งรักกันในที่สุด..เหมือนคู่ของเธอกับกฤษณะ ที่เริ่มต้นจากการเดินชนกันที่สถานีรถไฟและสุดท้ายมันก็กลายเป็นเรื่องจุดไต้ตำตอ..

Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: 10.1 “ราคากับคุณค่ามันคนละเรื่องกันนะลูก...”

บทที่ 10

กลับมาจากใส่บาตร คุณบรรจงรู้สึกแปลกใจเป็นอย่างมากเมื่อเห็นว่าลูกสาวตื่นนอนแต่เช้าตรู่แถมยังเดินดูดอกกุหลาบที่แม่สำเนียงปลูกไว้ริมรั้วด้วยท่าทางสดชื่นมีความสุข..ส่วนจรินนาเองนั้นเมื่อเห็นว่าพ่อถือถาดวางขันใส่ข้าวเดินกลับเข้ามาในบ้านก็นิ่วหน้าแปลกใจเช่นกัน

“ป๊าไปไหนมาแต่เช้าค่ะ” จรินนาเดินไปหาแล้วช่วยแบ่งเบาภาระในมือ และถามกลับไปทั้งที่พอรู้อยู่แล้วว่าผู้เป็นพ่อไปไหนมา

“ใส่บาตร”

“บ้านเราพระมาบิณฑบาตด้วยเหรอคะ”

“ตรงหน้าปากซอยน่ะ เดินออกกำลังกายไปรอหน่อย... แล้ววันนี้ทำไมลูกตื่นแต่เช้า”

“จินก็ตื่นเช้าทุกวันนี่ค่ะ”

“แต่นี่พระอาทิตย์เพิ่งแตะขอบฟ้าเองนะ”

“ป๊าจะว่าจินนอนกินบ้านกินเมืองใช่ไหมคะ”

“จะตื่นกี่โมงป๊าไม่ว่าหรอก แต่ขอให้ไปทำงานให้ทันแล้วกัน แล้ววันนี้จะไปไหนหรือเปล่า” หลายวันแล้วที่จรินนาไปเรียนรู้งานกับคุณดิเรก และมื้อเย็นก็ฝากท้องไว้นอกบ้านทั้งกับเอกรินทร์และตามงานเลี้ยงแล้วแต่ว่าผู้เป็นพ่อจะบอกให้ไปทำหน้าที่แทน...

“ป๊าจะชวนจินไปไหนหรือเปล่าคะ”

“ไปดูโรงแรมกันไหม อาจารย์เดชาพงษ์พาเด็กลงมือทำงานกันแล้วนะ”

จรินนาทำหน้าครุ่นคิดทั้งที่รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง...แต่ว่างานนี้ขอให้ผู้เป็นพ่อคะยั้นคะยอสักนิดสักหน่อยเถอะ...

“พวกงานศิลปะนะลูกมันเป็นเรื่องแปลก มันเป็นเรื่องมหัศจรรย์ ปกติแล้วเราจะเห็นตอนที่เขาทำเสร็จแล้วใช่ไหม เราก็ว่ามันสวยดี แต่ถ้าเราเห็นตั้งแต่มันเป็นพื้นโล่ง แล้วค่อย ๆ ขยับลวดลายอันวิจิตรไปทีละคืบ ๆ นะ เราจะรับรู้ถึงคุณค่าของงาน”

“มันก็มีราคามากอยู่แล้วนี่คะ”

“ราคากับคุณค่ามันคนละเรื่องกันนะลูก...”

จรินนากรอกตาเจ้าเล่ห์ไปมา

“ถ้าลูกไปดูเขาทำงาน ลูกอาจจะรู้สึกอย่างที่พ่อรู้สึกก็ได้นะ”

“โอเคค่ะ จินเข้าใจความรู้สึกของป๊า แต่ถ้าจินไปแล้วจินไม่รู้สึกว่าแบบที่ป๊ารู้สึก จนขอถอยพรีอุสได้ไหมคะ”

“ก็งบสามหมื่นห้านั่นแหละอยากออกมาก็ผ่อนเอง...ป๊าไปอาบน้ำก่อนดีกว่า” ว่าแล้วผู้เป็นพ่อก็ผละขึ้นข้างบนทิ้งให้ลูกสาวครุ่นคิดแผนการที่พ่อจะให้กลับมาฟุ่มเฟือยได้ตามเดิมต่อไป...

เสียงอาเจียนของขจรเกียรติทำให้เดชาพงษ์ต้องละงานในมือแล้วหันไปหาเหมือนกับคนอื่น ๆ ที่มองร่างของขจรเกียรติขย้อนอาหารเศษอาหารเก่าออกมา แต่ก็มีสราวุฒิเพียงคนเดียวที่ลงจากนั่งร้านแล้วเดินไปตักน้ำในกระติกน้ำเย็นถือไปส่งให้...

“ขอบใจมาก” ขจรเกียรติล้างปากกลั้วคอด้วยน้ำแก้วนั้นแล้วก็หันมาบอกสราวุฒิที่ยืนมองดูคน อื่น ๆ ทำงานตามมุมต่าง ๆ ของโรงแรมที่มีคนงานในส่วนอื่น ๆ ต่างกุลีกุจอกันทำงานเพื่อให้โรงแรมนั้นเปิดทันเวลาทีที่กำหนด

“ไหวไหม” เมื่อขจรเกียรติยืนขึ้นแล้วพ่นลมหายใจแรง ๆ ออกมาสราวุฒิจึงต้องหันไปถาม

“ไหวซิ...” ว่าแล้วขจรเกียรติก็เดินนำแก้วไปใช้น้ำในขวดพลาสติกที่อยู่ในถุงล้างตรงคราบปากตัวเองแล้วนำไปเก็บไว้บนกระติกเช่นเดิม

“ไม่ไหวก็กลับบ้านนอนก่อนก็ได้มั้งพี่..มึนหัวแบบนี้เส้นไม่โย้เย้หมดรึ”

“ไหวน่า...” ขจรเกียรติตัดบทก่อนปีนไปบนนั่งร้านเพื่อกลับไปทำงานอีกครั้ง สราวุฒิเองหลังจากพักสายตา ได้แสดงความห่วงใยขจรเกียรติที่เมียหนีตามชู้ไปทิ้งลูกสาวไว้ให้ดูแล เขาเองก็อยากมองดูอนงค์นางหญิงในดวงใจของเขา แต่ว่าเจ้าหล่อนก็ไม่หันมามอง ตาคู่สวยนิ่งอยู่กับมือและพู่กันที่ค่อย ๆ ระบายสีทองไปที่ตัวดอกไม้ที่ส่วนหนึ่งทุกคนจะได้แบบจากอาจารย์เดชาพงษ์ แต่ว่าในลายเถาดอกไม้ก้านและใบนั้นใครจะแต่งแต้มหรือดัดแปลงรูปวาดด้วยจินตนาการเช่นไรอาจารย์เดชาพงษ์ให้โอกาสเพียงแต่ขอให้ภาพทั้งหมดนั้นอยู่ในคอนเซ็ปเดียวกันก็คือป่าหิมพานต์..

“อาจารย์หิวน้ำไหมคะ” สุนันทาที่ละร้านดอกไม้ของตัวเองเพื่อมาร่วมโปรเจคในครั้งนี้ด้วยเอ่ยปากถามเดชาพงษ์ทำลายสมาธิของเขาขึ้นมา เดชาพงษ์หันไปหาส่ายหน้าให้เบา ๆ ก่อนจะหันกลับไปลุยงานตรงหน้าต่อไป...สุนันทามองด้านหลังของอาจารย์ผู้ประสิทธิ์ประสาทวิชาให้แล้ว สายตาว่างเปล่าของเขาทำให้สุนันทารู้ตัวดีว่าเขาคิดอย่างไรกับหล่อน แต่ว่าคนอย่างสุนันทาไม่คิดจะยอมแพ้...ตราบใดที่อาจารย์ เดชาพงษ์ยังไม่มีใคร เธอก็ยังมีความหวัง เพราะความรักที่มันเกิดขึ้นแล้วสุนันทามองว่ามันสวยงาม มันทำให้โลกสีทึม ๆ หลังจากที่สามีของเธอเสียชีวิตไปนั้น สว่างไสวขึ้นมา...สุนันทาถอนหายใจเบา ๆ มองไปยังคนอื่น ๆ ที่กำลังขมีขมันทำงานแล้วสุนันทาก็ต้องพยายามรวบรวมสมาธิ

แต่ว่าสมาธิของสุนันทาก็ต้องถูกรบกวนจนได้เมื่อร่างของลุงบรรจงกับจรินนาก้าวเข้ามาในอาคารและแวบแรกที่สุนันทาหันไปเห็น แววาตาของจรินนานั้นมันยังเป็นสายตาของคนดูถูกดูแคลนกันอยู่ สุนันทาหันไปทักทายลุงบรรจงกับจรินนาตามมารยาทแล้วก็หันกลับไปทำงานต่อ ส่วนเดชาพงษ์ลงจากนั่งร้านมาหาสองพ่อลูกเพราะว่าตัวเองนั้นถือนั้นเป็นหัวหน้างาน

และสายตาของจรินนาที่มองเดชาพงษ์ซึ่งอยู่ในชุดกางเกงขาก๊วยเสื้อกล้ามสีดำและมีเสื้อลายผ้าขาวม้าตัวเก่าซีดสวมทับอยู่นั้น ทำให้เดชาพงษ์ต้องหลบสายตาเพราะไม่อยากให้คุณบรรจงนั้นรู้สึกได้ว่าเขานั้นคิดสนใจลูกสาวผู้สูงส่งของท่าน

“ทำงานกันได้เร็วดีนี่”

“หลายชั้นนี่ครับ ต้องรีบลุย”

“ไม่มีปัญหาอะไรนะ”

“ไม่มีครับ ราบรื่นดี ทุกคนอยากให้งานออกมาสมกับที่ทางโรงแรมไว้วางใจ”
ช่วงที่พ่อยืนคุยอยู่กับเดชาพงษ์นั้นจรินนาก็ถือโอกาสเร่ออกไปดูคนอื่น ๆ ทำงาน เริ่มตั้งแต่สาวอนงค์นางน้อยที่จรินนารู้จักแล้ว หญิงสาวหันมาทักมายิ้มให้แล้วก็หันกลับไปใช้พู่กันลงสีภาพต่อ จรินนาเดินไปหยุดตรงที่สุนันทาทำงานคราวนี้สุนันทาปีนลงจากข้างบนนั่งร้านลงมาคุยด้วยเพราะอยากพักแขนอยู่พอดี

“นึกอย่างไรมารับงานนี้” อันที่จริงจรินนารู้ว่าที่สุนันทายอมละทิ้งงานในร้านมาทำงานนี้เพราะความรู้สึกดี ๆ ที่มีให้กับเดชาพงษ์ แต่ว่าจรินนาก็อยากได้ยินกับหูตัวเอง ว่าฝ่ายสุนันทานั้นคิดไปเองกับความรักในครั้งนี้แค่ไหน

“ก็อยากโชว์ฝีมือทิ้งไว้...”

“แค่นั้นจริง ๆ นะ” จรินนาทำเสียงเหมือนรู้ทัน ดวงตาและริมฝีปากนั้นแสดงความสมเพชให้คู่สนทนานิด ๆ สุนันทาเชิดหน้าขึ้นแรงริษยาเพราะไม่ค่อยชอบใจกันก่อนหน้านั้นที่มีอยู่แล้ว ทำให้สุนันทาต้องบอกว่า “ถ้ามากกว่านี้ แล้วจินมีอะไรเหรอ”

“ไม่มีอะไร เห็นมีร้านรวงอยู่แล้วนะ ไม่น่าจะมาปีนขึ้นลงนั่งร้านให้ลำบาก”

“ก็เราชอบ”

“คนหรืองาน” จรินนารีบถามทันที

“ทั้งสองอย่าง”

“ระวังจะเสียเวลานะ”

“ทำไม”

“ก็เท่าที่รู้มา เขาไม่ได้สนใจตัวเองสักนิดเลยไม่ใช่เหรอ”

“ใครบอก”

“จริงเปล่าล่ะ”

“ไม่รู้”

“โตแล้วนะ ทำอะไรนึกถึงลูกบ้างก็แล้วกัน แล้วอีกอย่าง เขาน่ะเป็นอาจารย์ตัวเองนะ จะให้ปล่อยตัวปล่อยใจกับตัวเองได้อย่างไร มันเสื่อมเสียรู้ไหม”
พอถูกตำหนิให้ ใจของสุนันทาก็เดือดปุด ๆ แต่ครั้นจะเถียงออกไปตัวเองก็มีแต่จะเสียเพราะว่าที่ จรินนาพูดนั้นก็ถูก

“ที่เตือนก็เพราะหวังดีหรอกนะ...อย่าลืมว่าเราโตมาด้วยกัน แต่ถ้าเธอจะตีความหวังดีของเราเป็นอื่น เราก็ไม่รู้จะว่าอย่างไร...ขอตัวก่อนนะ”

หมุนตัวหันหลังให้สุนันทาแล้วจรินนาก็อมยิ้มกับความเจ้าเล่ห์ของตนเอง...
จัดการบ่อนทำลายคนที่รู้สึกดี ๆ กับเดชาพงษ์ไปแล้วหนึ่งคน จรินนาก็รู้สึกสบายใจ ดังนั้นหญิงสาวจึงเดินกระหยิ่มกลับมาหาพ่อกับเดชาพงษ์ที่ยืนคุยกันอยู่ และเหมือนทั้งคู่กันจะยังมีเรื่องคุยกันอีกยืดยาว จรินนาจึงได้เดินไปดูภาพวาดของเขาซึ่งบัดนี้มันค่อย ๆ เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาแล้ว และมันก็เป็นอย่างที่พ่อของเธอบอกไว้ทีเดียว ถ้ามันเสร็จสมบูรณ์มันจะคงจะเสริมส่งให้โรงแรมของเธออลังการขึ้นมาจนกระทั่งคนที่เข้ามาพักหรือสื่อมวลชนต้องจะเอ่ยถึงอย่างแน่นอน...


“อ้าว น้องจิน” วิษณุจักรร้องทักเมื่อเห็นจรินนาเดินขึ้นมายังชั้นสองที่เขากำลังดูคนงานติดตั้งเครื่องสุขภัณฑ์ในห้องน้ำอยู่

“สวัสดีค่ะพี่จักร” จรินนาเอ่ยทักเขาอย่างเป็นงานเป็นการ

“ทักซะพี่รู้สึกว่ามันห่างเหินกันจัง”

จริง ๆ จรินนาอยากจะบอกว่า ‘แหม พี่จักรนี่ฉลาดจัง’ แต่หญิงสาวก็จำต้องเอ่ยไม่ตรงกับใจไปว่า

“ก็ตามมารยาทของสังคมไทยนี่คะ”

“มากับคุณพ่อเหรอ”

“ป๊าอยู่กับข้างล่างค่ะ คุยกับอาจารย์เดชาพงษ์อยู่”

“แล้วนี่จะไปธุระไหนกันต่อหรือเปล่า” วิษณุจักรยกนาฬิกาข้อมือมาดู และจรินนาก็เดาว่าเขาจะต้องชวนเธอกับพ่อออกไปทานอาหารกลางวันแน่ ๆ และด้วยไม่อยากผูกมัดกับเขา หรือทำให้เขารู้สึกว่าเธอเป็นของตายของเขาไปแล้ว จรินนาจึงต้องเอ่ยว่า “นัดกับอาแปะไว้ค่ะ แม่พี่เอกจะทำอาหารกลางวันเลี้ยง”

“พี่ก็ไปด้วยไม่ได้ซิ”

“โอกาสหน้าแล้วกันค่ะ”

“ค่ำนี้ว่างไหม”

“จะชวนไปไหนคะ”

“ดูหนัง”

“จินไม่ชอบดูหนังค่ะ แล้วยังไม่รู้เลยว่าพี่เอกจะชวนไปไหนหรือเปล่า หรือป๊าจะพาไปงานเลี้ยงที่ไหนหรือเปล่า ช่วงนี้มีงานเลี้ยงตลอดเลย ขยันจัดกันจัง”

พอจรินนาปฏิเสธเขาในทุกกรณีแบบนี้ วิษณุจักรก็ต้องถอนหายใจเบา ๆ ออกมา...และคนอย่างเขา ก็ไม่เคยง้อใครเกินสามครั้งเช่นกัน...ดังนั้นเขาจึงต้องบอกว่า

“งั้นพี่ขอตัวขึ้นไปชั้นสามหน่อยนะ ช่างจะเบิกของ จินจะขึ้นไปชั้นสามกับพี่ไหม”

“ไม่ดีกว่าค่ะ จินจะลงไปข้างล่างแล้ว ข้างบนร้อน ฝุ่นเยอะด้วย..ขอตัวก่อนนะคะ”
พอหมุนตัวเดินมาหยุดตรงหน้าบันไดวนทางลงไปใช้หนึ่ง จรินนาก็พบเดชาพงษ์กลับขึ้นมานั่งทำงานในส่วนของตนซึ่งอยู่ตรงผนังสูงยาวตั้งแต่ชั้นหนึ่งถึงชั้นสองแล้ว...เขาไม่เห็นหรอกว่าเธอยืนมองเขาทำงานด้วยคำถามที่ถามใจตัวเองว่า ตอนนี้เธอรู้สึกกับเขาแค่ไหน แค่รู้สึกดี ๆ ด้วย รู้สึกชอบเขา หรือนึกรักเขาไปแล้ว แต่ถ้าเปรียบกับวิษณุจักรผู้ชายที่สมบูรณ์พร้อมกว่าเขาแล้ว คะแนนของคนตรงหน้านี้มันมากกว่าทั้งที่มองไปที่หาความเหมาะสมแล้ว เขาไม่เหมาะกับเธอเลยสักนิด..แต่คนที่ทำตามความรู้สึกของหัวใจเช่นจรินนาก็จะปล่อยให้หัวใจมีอำนาจเหนือเหตุผล...

เสียงกระแอมของเดชาพงษ์ทำให้จรินนาตื่นจากภวังค์ หญิงสาวทำท่าจะก้าวลงบันได แต่กลายเป็นว่าเขากระแอมอาจจะด้วยระคายคอ...และด้วยอารามจะรีบลงไปข้างล่างทำให้เท้าของจรินนาเหยียบพลาด..

“อุ้ย ๆ ๆ” หญิงสาวเสียหลักซวนเซดีแต่ว่ามือนั้นเกาะราวบันไดไว้ทัน เดชาพงษ์จึงได้รีบหันมาทางต้นเสียงทันที...

“เป็นอะไรครับ”

“ก้าวพลาดค่ะ”

“ไม่เป็นอะไรนะ”

“ไม่ค่ะ แล้วคุณพ่อไปไหนแล้วคะ” เมื่อเขาชวนเธอคุยก่อน จรินนาจึงต้องหยุดคุยกับเขาและเรื่องที่คุยด้วยนั้นก็เป็นเรื่องที่มันเป็นเรื่องกลาง ๆ

“เห็นเดินออกไปดูตรงที่เขาจัดสวนนะครับ” เดชาพงษ์ละพู่กันในมือแล้วก็หมุนตัวทั้งที่อยู่ในท่านั่งบนนั่งร้านมาหาหญิงสาวที่ยืนอยู่ตรงบันได และด้วยจรินนายืนอยู่ตรงนั้น สายตาทั้งคู่จึงประสานกันจัง ๆ

“สวยดีนะคะ” จรินนาจำใจต้องเอ่ยปากชมฝีมือของเขาที่พอเห็นเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาบ้างแล้ว

“ตั้งใจทำเต็มที่เลยครับ”

“แหลม ๆ นั่นอะไรคะ”

“ตรงนั้นจะวาดเป็นพระจุฬามณีเจดีย์ครับ”

“เกี่ยวกับวัดซิคะ”

“ก็ตามคติความเชื่อของชาวสวรรค์ บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ จะมีพระจุฬามณีเจดีย์ เป็นที่ประดิษฐานพระเขี้ยวแก้ว กับพระโมลี แล้วในวันพระชาวสวรรค์ก็จะไปที่นี่กันครับ แล้วอีกอย่างที่รูปนี้ต้องมีพระจุฬามณีอยู่ด้วยเพราะผมอยากให้ภาพมันโยงไปหาพระจุฬามณีเจดีย์บนยอดเขาดาวดึงส์วัดคีรีวงศ์ที่อยู่ในบ้านเราครับ..แต่ภาพหลักก็จะเน้นที่ป่าหิมพานต์จากด้านล่างแล้วค่อย ๆ ขยับมาที่ส่วนบนสุดนี่ครับภาพข้างล่างจะใหญ่กว่าแล้วจะเล็กลง ๆ จนมาถึงก้อนเมฆนี่เลยครับ...”

“เสร็จแล้วคงสวยมาก”

“ดีใจที่คุณจินชอบ...อย่างไม่ต้องจำใจ”

“ก็ยังจำใจอยู่ค่ะ แต่ว่าก็ไม่เท่าเดิมแล้ว”

“ถึงจะยังไม่เต็มร้อย แต่ผมก็ดีใจครับที่คุณจินรู้สึกดี ๆ ขึ้นมาแล้ว”

สายตาของเขาที่มองมายังใบหน้าของจรินนานั้นทำให้หญิงสาวรู้สึกร้อนวูบวาบขึ้นมา...

“เอ่อ จินเพิ่งนึกได้ว่า จินลืมกระเป๋าไว้ที่โรงเรียน...”

“ผมก็นึกว่าคุณจินลืมไปแล้วว่าเคยซื้อกระเป๋าใบนั้นซะแล้ว”

“ชอบนะคะถึงได้ซื้อ แต่พอดีรีบกลับก็เลยลืม”

พอบอกเขาแล้วโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงของจรินนาก็ดังขึ้น พอดึงออกมาดูจึงได้เห็นว่าเป็นเบอร์ผู้เป็นพ่อ นั่นก็คือ เธอจะต้องยุติการสนทนากับเขา และพอจรินนาขอเอ่ยปากขอตัวก้าวลงบันได สุนันทาที่บังเอิญเดินมาได้ยินประโยคก่อนหน้านั้นก็หลบวูบไปพร้อมกับใจที่ครุ่นคิดว่า อีคุณหนูจินตัวแสบนี้ต้องมีจิตพิศวาสอาจารย์เดชาพงษ์ของตัวแน่ ๆ เพราะถ้อยคำที่สนทนากันนั้น ๆ คล้าย ๆ จะเป็นเพลงยาวบอกความในใจกัน...



จุฬามณีเฟื่องนคร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 15 ก.ค. 2555, 21:50:55 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 15 ก.ค. 2555, 21:50:55 น.

จำนวนการเข้าชม : 2554





<< 9.2 ตอนพิเศษราชนาวีที่รัก 3   10.2 “แล้วถ้าจินไม่ชอบมันจะเป็นอย่างไรคะ” >>
จุฬามณีเฟื่องนคร 15 ก.ค. 2555, 21:56:45 น.
เหมือนเิดิมว่าขอบคุณจากทุก ๆ กำลังใจนะครับ...แล้วพอครบสิบตอนปุ๊บ ผมจะใจดี...(อีกครึ่งตอนของตอนที่ 10) จับฉลากแจกรางวัล "ม่านพรหม" หนึ่งเล่ม ครับ...ดีไหมครับ...ถ้าดี รีบเม้นท์ไว้ได้เลย เม้นท์มากมีสิทธิ์ลุ้นมากกกกกกก...คริคริ


konhin 15 ก.ค. 2555, 22:01:05 น.
โหยยยย มีตัวร้ายด้วยอ่ะ แต่จะบอกว่านางเอกร้ายกว่า


หนอนฮับ 15 ก.ค. 2555, 22:17:50 น.
จินมาเหนือเมฆค่าาาาาาาา


nutcha 15 ก.ค. 2555, 22:54:15 น.
ยังสับสนไม่รู้ว่ารู้สึกยังไงกับพี่ต้นกล้วยจินยังหาทางกำจัดคู่แข่งแล้ว อย่างนี้คงสู้กับตัวร้ายได้นะ


invisible 15 ก.ค. 2555, 22:59:06 น.
จินแอบร้ายนะเนี่ย 555


wii 15 ก.ค. 2555, 23:56:44 น.
สาวจินนี่ช่าวร้ายเหลือจริงๆ วางเเผนช่วงชิงสิ่งที่อยากใด้มาไว้ในกำมือในทุกๆทาง ในเรื่องนี้ก็ชิงอาจารย์กล้วยไง


sai 16 ก.ค. 2555, 00:09:35 น.
นางเอกเราใช่ย่อยนะคร้าา อิอิ


คิมหันตุ์ 16 ก.ค. 2555, 00:15:57 น.
ฮ่าฮ่า...แบบนี้แหละ ชีวิต ผู้หญิงสมัยนี้ กร๊ากๆ


รอให้เป็นเล่ม 16 ก.ค. 2555, 08:01:37 น.
ตอนที่10!!!


แว่นใส 16 ก.ค. 2555, 08:12:40 น.
หรอกกันนะเนี่ย


imsoul 16 ก.ค. 2555, 08:38:17 น.
นางเอก ถูกใจคนอ่านมากมาก


คนเหงา 16 ก.ค. 2555, 08:56:26 น.
นางเอกอย่าร้ายมานะ


Orathai 16 ก.ค. 2555, 10:52:09 น.
ตัวร้ายกับหนูจินสูสีกันนะเนี่ย


goldensun 16 ก.ค. 2555, 12:18:42 น.
ท่าทางจินจะตีลูกกันไม่สำเร็จนะคะ โดนสุจับไต๋ได้แล้ว
ใครจะเล่นใครก่อน น่าลุ้น


anOO 16 ก.ค. 2555, 15:45:38 น.
ตัวกลางอย่างอาจารย์กล้วย ดูท่าทางแล้วก็รู้ทันทั้งคุณหนูจินทั้งสุนันทานะ


Zephyr 16 ก.ค. 2555, 22:01:31 น.
เหมือนพี่กล้วยทำตัวซึมเซา แต่รู้ทันคนอื่นเค้าไปหมด หึหึ
หนูจินเป็นนางเอกแน่หรอ?? หุหุ


loveleklek 17 ก.ค. 2555, 08:23:53 น.
เพลงยาว?


nunoi 17 ก.ค. 2555, 10:35:07 น.
แอบร้ายนะนางเอกเรา


lookAme 20 ก.ค. 2555, 18:12:19 น.
หนูเอ๊ย บอกตัวเองหน่อยว่า นางเอกร้ายได้แต่ก็พอน่ารักนะจ้ะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account