ในสวนศิลป์
พี่ต้นกล้า นาวาตรีจิรวัติ สุกปลั่งนั้น ไม่ใช่ปัญหาของกฤษณะอีกต่อไปแล้ว วันนี้เป็นวันวิวาห์ของเขากับพี่แพรวพรรณที่เพาะบ่มความรักดูใจกันตามที่แม่ของพี่แพรวพรรณต้องการมาถึงเกือบสองปี..
ปัญหาของกฤษณะก็คือพี่ต้นกล้วย เดชาพงษ์ ซึ่งจนบัดนี้ก็ดูไม่มีวี่แววว่าจะชอบพอกับผู้หญิงคนไหน แต่เธอก็มั่นใจว่าด้วยญาณหยั่งรู้ของที่ได้จับมือและได้ทำนายพี่ชายของเธอไปแล้วนั้น เขาจะต้องได้เจอกับเนื้อคู่ของเขาและลงเอยด้วยการแต่งงานกันอย่างแน่นอน..แต่ว่าเธอไม่รู้ว่ามันจะใช้เวลานานแค่ไหน
เพราะคนเฉย ๆ อย่างพี่ต้นกล้วย เมขลาคิดไม่ออกจริง ๆ ว่า ถึงคราวจะต้องจีบผู้หญิงจะทำอย่างไร..แต่เธอก็มั่นใจว่า พระพรหมท่านก็คงมีวิถีของท่าน..คงมีวิธีการที่ทำให้คนสองคนได้พบกันมีเรื่องทำด้วยกันและผูกพันจนกระทั่งรักกันในที่สุด..เหมือนคู่ของเธอกับกฤษณะ ที่เริ่มต้นจากการเดินชนกันที่สถานีรถไฟและสุดท้ายมันก็กลายเป็นเรื่องจุดไต้ตำตอ..
ปัญหาของกฤษณะก็คือพี่ต้นกล้วย เดชาพงษ์ ซึ่งจนบัดนี้ก็ดูไม่มีวี่แววว่าจะชอบพอกับผู้หญิงคนไหน แต่เธอก็มั่นใจว่าด้วยญาณหยั่งรู้ของที่ได้จับมือและได้ทำนายพี่ชายของเธอไปแล้วนั้น เขาจะต้องได้เจอกับเนื้อคู่ของเขาและลงเอยด้วยการแต่งงานกันอย่างแน่นอน..แต่ว่าเธอไม่รู้ว่ามันจะใช้เวลานานแค่ไหน
เพราะคนเฉย ๆ อย่างพี่ต้นกล้วย เมขลาคิดไม่ออกจริง ๆ ว่า ถึงคราวจะต้องจีบผู้หญิงจะทำอย่างไร..แต่เธอก็มั่นใจว่า พระพรหมท่านก็คงมีวิถีของท่าน..คงมีวิธีการที่ทำให้คนสองคนได้พบกันมีเรื่องทำด้วยกันและผูกพันจนกระทั่งรักกันในที่สุด..เหมือนคู่ของเธอกับกฤษณะ ที่เริ่มต้นจากการเดินชนกันที่สถานีรถไฟและสุดท้ายมันก็กลายเป็นเรื่องจุดไต้ตำตอ..
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้
ตอน: 11.1“สุอยากเตือนอาจารย์ไว้นิดหน่อยค่ะ ....จินเค้ามีปัญหาทางจิตค่ะ”
บทที่ 11
“หอมแกงอะไรเหรอป้า” จรินนาที่แต่งตัวเสร็จเรียบร้อยพร้อมออกจากบ้านเดินเข้ามาในครัวแล้วลอบกอดเอวป้าสำเนียงถามไถ่ด้วยน้ำเสียงบอกว่าวันนี้อารมณ์ดีเป็นอย่างมาก
“แกงหมูเพโท”
“ทำไมทำเยอะจัง” ปกติแล้วอาหารเช้าที่บ้านหลังนี้จะเป็นพวกข้าวต้ม ผัดผัก เนื้อสัตว์ทอด แล้วอาหารบนโต๊ะนั้นไม่เน้นเผ็ด
“เอ่อ...สุนันทาสั่งให้ทำ...”
“ทำไปไหน”
“เห็นว่าอาจารย์เดชาพงษ์ชอบ เลยจะทำไปกินด้วยกันมื้อกลางวันวันนี้ที่โรงแรม”
พอได้ยินจรินนากรอกตาไปมาคิดแก้เกมของสุนันทาในทันที...
“แล้วนี่จะเอาไปอย่างไร”
“เดี๋ยวป้าตักใส่ปิ่นโตไป” ทำกับข้าวเสร็จแล้วนางสำเนียงจะต้องไปเฝ้าร้านดอกไม้แทนสุนันทาพอบ่าย ๆ สุนันทากลับมาที่ร้านนางสำเนียงก็กลับบ้านมาทำอาหาร ซึ่งนางสำเนียงได้บอกกับสองพ่อลูกไว้แล้วว่า ช่วงกลางวันเดือนสองเดือนนี้จะไม่ได้อยู่ดูแลบ้าน
“แล้วป้าจะขี่มอเตอร์ไซค์ได้เหรอ”
“ได้ไม่มีปัญหาหรอก เอาปิ่นโตใส่ถุงแล้วก็แขวนหน้ารถอีกที...”
“งั้นเดี๋ยวจินเอาไปให้สุเขาที่โรงแรมเองดีกว่า อย่างไรวันนี้จินต้องไปโรงแรมอยู่แล้ว ป้าจะได้ขี่รถง่าย ๆ เอาตามนี้เนอะ...”
มื้อกลางวันทั้งหมดจะห่อข้าวมากินด้วยกินด้วย โดยสุนันทานั้นจะเป็นเจ้าภาพข้าวสวย โดยหญิงสาวจะหุงใส่หม้อแล้วยกหม้อใส่ตะกร้ามา โดยอนงค์นางนั้นจะเป็นฝ่ายเตรียมถ้วยจานชามใส่ตะกร้ามาส่วนสราวุฒินั้นเขาขันอาสาล้างจานหลังจากกินอิ่ม
คนอื่น ๆ ก็จะต้องเตรียมกับข้าวมาด้วยแล้วแต่ว่าใครจะซื้อหาหรือทำอะไรติดมือมา อย่างอาจารย์เดชาพงษ์นั้น ตรงที่เขาพักอาศัยนั้นเป็นปั้มน้ำมันซึ่งมีร้านอาหารแบบตักราดข้าว เขาก็จะซื้อกับข้าวติดมาวันสามถุงสี่ถุง บางวันหลายๆ ทุกคนต่างซื้อมา ก็กลายเป็นว่าอาหารนั้นเหลือกิน ดังนั้นสุนันทาจึงต้องจัดเวรซื้อกับข้าว โดยสราวุฒิกับขจรเกียรตินั้นจะซื้อมาวันเดียว อาจารย์เดชาพงษ์นั้นหนึ่งวัน อนงค์นางหนึ่งวัน ส่วนตัวเองนั้นแล้วแต่จะสะดวกใจ
สุนันทาแปลกใจเป็นอย่างยิ่งที่จู่ ๆ แม่ก็บอกว่า แกงที่เธอให้เงินแม่แล้วสั่งให้แม่ซื้อของไปทำนั้น จรินนาอาสาจะถือไปให้ที่โรงแรม สุนันทารอจรินนากระทั่งเกือบเที่ยง หญิงสาวรอต่อไปไม่ไหวจึงได้โทรไปขอเบอร์แม่ขอเบอร์โทรศัพท์ของจรินนาแต่ว่าจรินนาก็ไม่เปิดเครื่อง...
“แกล้งกันชัด ๆ เลย...”
มื้อกลางวันผ่านไป กระทั่งจรินนาโทรกลับมาหาสุนันทาเอง...
“ขอโทษด้วยนะสุ พอดี จินลืมโทรศัพท์ไว้ที่บ้าน พอกลับมาเอามันก็เลยเที่ยงไปแล้ว จะรีบเอาไปให้ก็คงจะอิ่มข้าวกันแล้ว”
“แล้วเอาแกงไปไว้ที่ไหน”
“แกง ก็ยังอยู่ในรถ คงไม่เสียหรอก เดี๋ยวพรุ่งนี้จะให้ป้าเขาอุ่นให้”
“ทำอย่างนี้ต้องการแกล้งกันใช่ไหม”
“แกล้งอะไร ก็มันสุดวิสัยจริง ๆ นี่ วันนี้จินไปหาคุณดิเรก แล้วก็มัวเรียนงานจน
เพลิน...ขอโทษทีนะ”
“ฉันรู้นะว่าจินคิดอะไรอยู่”
“แล้วจินคิดอะไรอยู่”
“อยากได้เขาเหมือนกันละซิ”
“ว๊าย...ปรักปรำกันแล้ว ทำไมจินต้องอยากได้เขา เขามีอะไรให้อยากได้”
“ไม่น่าถาม น่าจะรู้อยู่แก่ใจตัวเองดี”
“ใจจินจินรู้ดี...แล้วสุก็ตรองซะใหม่นะว่าจินนะระดับไหนเขาระดับไหน”
“จินมันนางฟ้า...”
“ขอบใจ”
“ฉันเหนื่อยที่คุยกับเธอจริง ๆ เลย”
“เหรอ...แต่บอกอะไรหน่อยนะ อยากจะทำอะไรเอาใจเขา ก็ทำเอง ไม่ต้องมาใช้ป้าสำเนียงให้เหนื่อยยากหรอก เหตุผลก็มีแค่นี้แหละ...”
“ให้มันจริงเถอะ...”
“แค่นี้นะ ไม่อยากมีเรื่อง”...
จรินนาตัดสายทิ้งไปแล้วแต่สุนันทายังใจขุ่นข้องใจไม่หาย จรินนาทำแบบนี้หมายความอย่างไรนะ ถ้าไม่ได้ชอบเดชาพงษ์ แล้วมาแกล้งเธอไม่ให้สมหวังแล้ว เพื่อประโยชน์อะไร น่าสงสัยเสียจริง
ขณะที่มือลงสีให้ภาพตรงหน้าไปสุนันทาก็ครุ่นคิดขจัดมารหัวใจตัวของตัวเองบ้าง และเมื่อคิดวน ๆ เวียน ๆ สุนันทาก็คิดออกจนได้ หญิงสาวปีนนั่งร้านลงมาแล้วเดินขึ้นบันไดไปหยุดอยู่ตรงกลางทาง เดชาพงษ์หันมาเมื่อสุนันทาเรียกชื่อเขาเบา ๆ...
“มีอะไรหรือ”
“มีเรื่องอยากคุยกับอาจารย์ตามลำพังหน่อยค่ะ”
เมื่อเดชาพงษ์ลงจากนั่งร้านแล้วเดินตามสุนันทาออกไปด้านข้างโรงแรมตรงส่วนที่มีร่มเงาของตัวอาคารสุนันทาก็ไม่อ้อมค้อม
“เรื่องจินค่ะ”
“มีอะไร”
“สุอยากเตือนอาจารย์ไว้นิดหน่อยค่ะ ....จินเค้ามีปัญหาทางจิตค่ะ”
หัวคิ้วของเดชาพงษ์ขมวดเข้าหากันทันที
“จินเขาขาดแม่ค่ะ เขาพยายามจะแย่งแม่ของสุไป เขาอยากให้แม่โอ๋เขารักเขามากกว่าสุที่เป็นลูกแท้ ๆ ค่ะ แล้วมันก็สำเร็จเพราะแม่ใจอ่อนแล้วจินเขาก็เจ้าเล่ห์เพทุบาย คิดแผนนั่นแผ่นนี่แย่งความรักของแม่ไปตลอด”
“ครับ”
“กรณีอาจารย์ จินเขาก็คงคิดว่าสุกับอาจารย์รักกัน เขาก็เลยอยากให้อาจารย์ไปรักเขาแทนค่ะ เพื่อที่สุจะได้ผิดหวังเสียใจ ไม่มีความสุข...”
เดชาพงษ์หัวเราะแห้ง ๆ เมื่อได้รับฟังเรื่องราว
“อย่างนั้นหรือครับ”
“สุก็เตือนอาจารย์ได้แค่นี้แหละคะ ไม่อยากจะพูดมากไปกว่านี้เดี๋ยวจะหาว่าใส่ร้ายกัน แต่สุมีหลักฐานนะคะแต่อย่าให้สุต้องพูดไปมากกว่านี้เลย อาจารย์นะ อย่าเข้าใกล้เขามาก หรือเขาเข้ามาใกล้ ๆ ก็ระวังตัวหน่อยแล้วกันค่ะ คนอย่างเขา สุขอโทษนะคะ เขาไม่มองคนที่ธรรมดาอย่างเรา ๆ หรอกค่ะ อาจารย์อย่าลืมนะคะว่าเขานะนักเรียนนอก หัวนอก ผ่านเมืองนอกเมืองนามาแล้ว คงหาอะไรทำสนุกเล่น ๆ ไปตามประสาคนเป็นโรคจิตแหละคะ สุรบกวนเวลาอาจารย์แค่นี้แหละค่ะ”
“หอมแกงอะไรเหรอป้า” จรินนาที่แต่งตัวเสร็จเรียบร้อยพร้อมออกจากบ้านเดินเข้ามาในครัวแล้วลอบกอดเอวป้าสำเนียงถามไถ่ด้วยน้ำเสียงบอกว่าวันนี้อารมณ์ดีเป็นอย่างมาก
“แกงหมูเพโท”
“ทำไมทำเยอะจัง” ปกติแล้วอาหารเช้าที่บ้านหลังนี้จะเป็นพวกข้าวต้ม ผัดผัก เนื้อสัตว์ทอด แล้วอาหารบนโต๊ะนั้นไม่เน้นเผ็ด
“เอ่อ...สุนันทาสั่งให้ทำ...”
“ทำไปไหน”
“เห็นว่าอาจารย์เดชาพงษ์ชอบ เลยจะทำไปกินด้วยกันมื้อกลางวันวันนี้ที่โรงแรม”
พอได้ยินจรินนากรอกตาไปมาคิดแก้เกมของสุนันทาในทันที...
“แล้วนี่จะเอาไปอย่างไร”
“เดี๋ยวป้าตักใส่ปิ่นโตไป” ทำกับข้าวเสร็จแล้วนางสำเนียงจะต้องไปเฝ้าร้านดอกไม้แทนสุนันทาพอบ่าย ๆ สุนันทากลับมาที่ร้านนางสำเนียงก็กลับบ้านมาทำอาหาร ซึ่งนางสำเนียงได้บอกกับสองพ่อลูกไว้แล้วว่า ช่วงกลางวันเดือนสองเดือนนี้จะไม่ได้อยู่ดูแลบ้าน
“แล้วป้าจะขี่มอเตอร์ไซค์ได้เหรอ”
“ได้ไม่มีปัญหาหรอก เอาปิ่นโตใส่ถุงแล้วก็แขวนหน้ารถอีกที...”
“งั้นเดี๋ยวจินเอาไปให้สุเขาที่โรงแรมเองดีกว่า อย่างไรวันนี้จินต้องไปโรงแรมอยู่แล้ว ป้าจะได้ขี่รถง่าย ๆ เอาตามนี้เนอะ...”
มื้อกลางวันทั้งหมดจะห่อข้าวมากินด้วยกินด้วย โดยสุนันทานั้นจะเป็นเจ้าภาพข้าวสวย โดยหญิงสาวจะหุงใส่หม้อแล้วยกหม้อใส่ตะกร้ามา โดยอนงค์นางนั้นจะเป็นฝ่ายเตรียมถ้วยจานชามใส่ตะกร้ามาส่วนสราวุฒินั้นเขาขันอาสาล้างจานหลังจากกินอิ่ม
คนอื่น ๆ ก็จะต้องเตรียมกับข้าวมาด้วยแล้วแต่ว่าใครจะซื้อหาหรือทำอะไรติดมือมา อย่างอาจารย์เดชาพงษ์นั้น ตรงที่เขาพักอาศัยนั้นเป็นปั้มน้ำมันซึ่งมีร้านอาหารแบบตักราดข้าว เขาก็จะซื้อกับข้าวติดมาวันสามถุงสี่ถุง บางวันหลายๆ ทุกคนต่างซื้อมา ก็กลายเป็นว่าอาหารนั้นเหลือกิน ดังนั้นสุนันทาจึงต้องจัดเวรซื้อกับข้าว โดยสราวุฒิกับขจรเกียรตินั้นจะซื้อมาวันเดียว อาจารย์เดชาพงษ์นั้นหนึ่งวัน อนงค์นางหนึ่งวัน ส่วนตัวเองนั้นแล้วแต่จะสะดวกใจ
สุนันทาแปลกใจเป็นอย่างยิ่งที่จู่ ๆ แม่ก็บอกว่า แกงที่เธอให้เงินแม่แล้วสั่งให้แม่ซื้อของไปทำนั้น จรินนาอาสาจะถือไปให้ที่โรงแรม สุนันทารอจรินนากระทั่งเกือบเที่ยง หญิงสาวรอต่อไปไม่ไหวจึงได้โทรไปขอเบอร์แม่ขอเบอร์โทรศัพท์ของจรินนาแต่ว่าจรินนาก็ไม่เปิดเครื่อง...
“แกล้งกันชัด ๆ เลย...”
มื้อกลางวันผ่านไป กระทั่งจรินนาโทรกลับมาหาสุนันทาเอง...
“ขอโทษด้วยนะสุ พอดี จินลืมโทรศัพท์ไว้ที่บ้าน พอกลับมาเอามันก็เลยเที่ยงไปแล้ว จะรีบเอาไปให้ก็คงจะอิ่มข้าวกันแล้ว”
“แล้วเอาแกงไปไว้ที่ไหน”
“แกง ก็ยังอยู่ในรถ คงไม่เสียหรอก เดี๋ยวพรุ่งนี้จะให้ป้าเขาอุ่นให้”
“ทำอย่างนี้ต้องการแกล้งกันใช่ไหม”
“แกล้งอะไร ก็มันสุดวิสัยจริง ๆ นี่ วันนี้จินไปหาคุณดิเรก แล้วก็มัวเรียนงานจน
เพลิน...ขอโทษทีนะ”
“ฉันรู้นะว่าจินคิดอะไรอยู่”
“แล้วจินคิดอะไรอยู่”
“อยากได้เขาเหมือนกันละซิ”
“ว๊าย...ปรักปรำกันแล้ว ทำไมจินต้องอยากได้เขา เขามีอะไรให้อยากได้”
“ไม่น่าถาม น่าจะรู้อยู่แก่ใจตัวเองดี”
“ใจจินจินรู้ดี...แล้วสุก็ตรองซะใหม่นะว่าจินนะระดับไหนเขาระดับไหน”
“จินมันนางฟ้า...”
“ขอบใจ”
“ฉันเหนื่อยที่คุยกับเธอจริง ๆ เลย”
“เหรอ...แต่บอกอะไรหน่อยนะ อยากจะทำอะไรเอาใจเขา ก็ทำเอง ไม่ต้องมาใช้ป้าสำเนียงให้เหนื่อยยากหรอก เหตุผลก็มีแค่นี้แหละ...”
“ให้มันจริงเถอะ...”
“แค่นี้นะ ไม่อยากมีเรื่อง”...
จรินนาตัดสายทิ้งไปแล้วแต่สุนันทายังใจขุ่นข้องใจไม่หาย จรินนาทำแบบนี้หมายความอย่างไรนะ ถ้าไม่ได้ชอบเดชาพงษ์ แล้วมาแกล้งเธอไม่ให้สมหวังแล้ว เพื่อประโยชน์อะไร น่าสงสัยเสียจริง
ขณะที่มือลงสีให้ภาพตรงหน้าไปสุนันทาก็ครุ่นคิดขจัดมารหัวใจตัวของตัวเองบ้าง และเมื่อคิดวน ๆ เวียน ๆ สุนันทาก็คิดออกจนได้ หญิงสาวปีนนั่งร้านลงมาแล้วเดินขึ้นบันไดไปหยุดอยู่ตรงกลางทาง เดชาพงษ์หันมาเมื่อสุนันทาเรียกชื่อเขาเบา ๆ...
“มีอะไรหรือ”
“มีเรื่องอยากคุยกับอาจารย์ตามลำพังหน่อยค่ะ”
เมื่อเดชาพงษ์ลงจากนั่งร้านแล้วเดินตามสุนันทาออกไปด้านข้างโรงแรมตรงส่วนที่มีร่มเงาของตัวอาคารสุนันทาก็ไม่อ้อมค้อม
“เรื่องจินค่ะ”
“มีอะไร”
“สุอยากเตือนอาจารย์ไว้นิดหน่อยค่ะ ....จินเค้ามีปัญหาทางจิตค่ะ”
หัวคิ้วของเดชาพงษ์ขมวดเข้าหากันทันที
“จินเขาขาดแม่ค่ะ เขาพยายามจะแย่งแม่ของสุไป เขาอยากให้แม่โอ๋เขารักเขามากกว่าสุที่เป็นลูกแท้ ๆ ค่ะ แล้วมันก็สำเร็จเพราะแม่ใจอ่อนแล้วจินเขาก็เจ้าเล่ห์เพทุบาย คิดแผนนั่นแผ่นนี่แย่งความรักของแม่ไปตลอด”
“ครับ”
“กรณีอาจารย์ จินเขาก็คงคิดว่าสุกับอาจารย์รักกัน เขาก็เลยอยากให้อาจารย์ไปรักเขาแทนค่ะ เพื่อที่สุจะได้ผิดหวังเสียใจ ไม่มีความสุข...”
เดชาพงษ์หัวเราะแห้ง ๆ เมื่อได้รับฟังเรื่องราว
“อย่างนั้นหรือครับ”
“สุก็เตือนอาจารย์ได้แค่นี้แหละคะ ไม่อยากจะพูดมากไปกว่านี้เดี๋ยวจะหาว่าใส่ร้ายกัน แต่สุมีหลักฐานนะคะแต่อย่าให้สุต้องพูดไปมากกว่านี้เลย อาจารย์นะ อย่าเข้าใกล้เขามาก หรือเขาเข้ามาใกล้ ๆ ก็ระวังตัวหน่อยแล้วกันค่ะ คนอย่างเขา สุขอโทษนะคะ เขาไม่มองคนที่ธรรมดาอย่างเรา ๆ หรอกค่ะ อาจารย์อย่าลืมนะคะว่าเขานะนักเรียนนอก หัวนอก ผ่านเมืองนอกเมืองนามาแล้ว คงหาอะไรทำสนุกเล่น ๆ ไปตามประสาคนเป็นโรคจิตแหละคะ สุรบกวนเวลาอาจารย์แค่นี้แหละค่ะ”

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 17 ก.ค. 2555, 20:51:03 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 17 ก.ค. 2555, 21:06:18 น.
จำนวนการเข้าชม : 2464
<< 10.2 “แล้วถ้าจินไม่ชอบมันจะเป็นอย่างไรคะ” | 11.2 ในที่สุดผมก็สามารถเป็นอย่างที่พ่ออยากให้เป็นและเป็นในส่วนที่ผมอยากเป็น >> |

จุฬามณีเฟื่องนคร 17 ก.ค. 2555, 20:57:20 น.
วันนี้ทั้งวันได้มาแค่นี้แหละ เหมือนจะง่าย แต่ปวดหัวจัง...//ขอบคุณจากทุก ๆ กำลังใจนะครับ...
วันนี้ทั้งวันได้มาแค่นี้แหละ เหมือนจะง่าย แต่ปวดหัวจัง...//ขอบคุณจากทุก ๆ กำลังใจนะครับ...


รอให้เป็นเล่ม 17 ก.ค. 2555, 21:02:00 น.
วันนี้กลับบ้าน ฝนตก รถติด เปียกด้วยอีกต่างหาก
แต่พอเปิดเข้ามาเห็นตอนใหม่หายเซ็งทันที!!!
วันนี้กลับบ้าน ฝนตก รถติด เปียกด้วยอีกต่างหาก
แต่พอเปิดเข้ามาเห็นตอนใหม่หายเซ็งทันที!!!

imsoul 17 ก.ค. 2555, 21:05:55 น.
มาอีกแล้ววว ขอบคุณคะ
มาอีกแล้ววว ขอบคุณคะ

Zephyr 17 ก.ค. 2555, 21:10:21 น.
คนพูดนั่นแหละจิตกว่า ฮ่าๆๆๆ
คนพูดนั่นแหละจิตกว่า ฮ่าๆๆๆ

wii 17 ก.ค. 2555, 21:20:25 น.
เเต่ยัยจินก็น่าจะโดนเอาคืนให้เจ็บๆบ้างนะ ทำเข้าไปใด้ไงน่ะยึดเอากับข้าวเขาเอาไว้ เกิดเขามีกับอย่างเดียวคือเเกงนั่นล่ะ ทุกคนมิกินข้าวเปล่าๆกันหรอกเหรอ
เเต่ยัยจินก็น่าจะโดนเอาคืนให้เจ็บๆบ้างนะ ทำเข้าไปใด้ไงน่ะยึดเอากับข้าวเขาเอาไว้ เกิดเขามีกับอย่างเดียวคือเเกงนั่นล่ะ ทุกคนมิกินข้าวเปล่าๆกันหรอกเหรอ

Orathai 17 ก.ค. 2555, 22:01:36 น.
อาจารย์เขาค่อนข้างเจียมตัว..เชื่อเลยละสิเนี่ย...ฮื่อ..ขนาดไม่มีใครพูดยังไว้ตัวเลย
อาจารย์เขาค่อนข้างเจียมตัว..เชื่อเลยละสิเนี่ย...ฮื่อ..ขนาดไม่มีใครพูดยังไว้ตัวเลย

konhin 17 ก.ค. 2555, 22:26:35 น.
ก็ถ้าหวั่นไหวง่ายๆเพราะมีคนมาพูดแค่นี้ ถึงรักกันไปแล้วก็ไม่รอดหรอก
ก็ถ้าหวั่นไหวง่ายๆเพราะมีคนมาพูดแค่นี้ ถึงรักกันไปแล้วก็ไม่รอดหรอก

goldensun 17 ก.ค. 2555, 22:33:31 น.
จินโดนวางยาบ้างแล้ว สุต้องเอาคืนบ้างอยู่แล้วสิ เหลือแต่อาจารย์จะชื่อรึเปล่าเท่านั้น
จินโดนวางยาบ้างแล้ว สุต้องเอาคืนบ้างอยู่แล้วสิ เหลือแต่อาจารย์จะชื่อรึเปล่าเท่านั้น


คิมหันตุ์ 18 ก.ค. 2555, 00:33:39 น.
อาจารย์ น่าจะรู้ดี คิคิ
อาจารย์ น่าจะรู้ดี คิคิ

nutcha 18 ก.ค. 2555, 15:21:05 น.
โอ้..สองสาวเปิดศึกแย่งพี่ต้นกล้วยแล้ว
โอ้..สองสาวเปิดศึกแย่งพี่ต้นกล้วยแล้ว

anOO 18 ก.ค. 2555, 15:30:12 น.
อาจารย์กล้วยเค้าน่าจะรู้นิสัยคุณหนูจินอยู่นะ พูดอะไรไปจะเสียป่าวๆ
อาจารย์กล้วยเค้าน่าจะรู้นิสัยคุณหนูจินอยู่นะ พูดอะไรไปจะเสียป่าวๆ

lookAme 20 ก.ค. 2555, 18:13:58 น.
เหอๆ เหมือนจะว่าตัวเองไหม?
เหอๆ เหมือนจะว่าตัวเองไหม?