ไม้เรียวกับครูเกลียวใจ
นิยายที่มองเห้นถึงความรักในอาชีพครู
Tags: ครู

ตอน: บทที่๒


ทุกสายตากำลังมองร่างบางในชุดดำไว้ทุกข์ เธอช่างเหมือนกับคุณครูสายสวาทเสียจริงๆ เกลียวใจ ลูกสาวคนเดียวของครูสายสวาทผู้ที่คนทั้งอำเภอให้ความเคารพ
“แม่จ๋าเกลียวขอโทษที่ไม่ได้อยู่กับแม่ในวาระสุดท้าย”
เกลียวใจรับธูปเธอคุกเข่ามองภาพของแม่ในชุดข้าราชการครูที่แม่ภาคภูมิใจในอาชีพนี้ เกลียวใจมองใบหน้าเปื้อนยิ้มในรูปภาพสองเดือนที่ไม่ได้กลับมาภาพสุดท้ายที่เธอเห็นแม่ยังแข็งแรงและนิสัยที่ชอบปกปิดความเจ็บป่วยของตัวเองของครูสายสวาทนั้นเกลียวใจรู้ดีเพราะแม่กลัวจะเป็นภาระของคนอื่นเธอเองก็เป็นอย่างนั้น แต่เธอนั้นอ่อนแอกว่าแม่หลายเท่า เธอมักจะร้องไห้ต่อหน้าเพื่อนที่ไว้ใจ ต่อหน้าเพื่อนที่สนิทสนมมาก แต่กับแม่เธอจะไม่มีวันให้แม่เห็นน้ำตาเด็ดขาด
“เกลียวรู้ไหมอะไรที่ทำให้มนุษย์เรานั้นต่างกับสัตว์นั้นคือสามัญสำนึกของความเป็นมนุษย์ไง มนุษย์นั้นต้องการความรักเสมอไม่ว่าจะเป็นความรักในรูปแบบไหนก็ตามบางคนพยายามไขว่คว้ามาตลอดชีวิตแต่ความรักที่ต้องการกลับอยู่ใกล้ๆ แต่เขามองไม่เห็นมัน บางคนพยายามวิ่งหนีความรักเท่าไรความรักนั้นก็ยิ่งวิ่งเข้าหา แล้วเราจะรู้ค่าความสำคัญนั้นก็ต่อเมื่อเราสูญเสียมันเวลาในชีวิตของเรามันน้อยเหลือเกินเพราะฉะนั้นทำไมเกลียวจะต้องเก็บความรู้สึกที่เกลียวมีต่อสิ่งรอบตัวไว้คนเดียวเสมอในเมื่อเกลียวมีแม่อยู่ตรงนี้ใกล้ๆ เกลียวเสมอ”
ถ้อยคำที่แม่ปลอบในวันที่เธอได้เรียนรู้ความรักแรกและมันจากไป สร้างความเสียใจให้เธอเหลือเกินแต่วันนั้นเธอยังมีแม่คอยปลอบและเตือนสติให้ลุกขึ้นมองอนาคตภายหน้าแต่วันนี้สิ่งที่เกลียวใจเห็นตรงหน้าที่พึ่งเดียวที่เธอมีมาตลอดชีวิตหลุดลอยไปจากชีวิตของเธออย่างไม่มีวันกลับเกลียวใจเหนื่อยและสับสนสองเหตุการณ์ที่เหมือนรุมเร้าเข้ามาในจิตใจเธอโดยที่เธอไม่ทันได้ตั้งตัวเลย
“แม่อยากให้เกลียวรู้ไว้อย่างหนึ่งว่าหากเกลียวผิดหวัง เสียใจ ร้องไห้ เกลียวไม่ต้องขวนขวายที่พักใจที่ไหนเลยเกลียวแค่นึกถึงแม่ ไม่ว่าจะยังไงเสียแม่ไม่มีวันที่จะทำร้ายเกลียว หรือซ้ำเติมให้เกลียวแน่นอน”
เกลียวใจนึกถึงคำพูดของแม่ที่ผ่านตัวอักษรในจดหมาย เธอลืมมันไปได้อย่างไรกัน แม่พยายามให้รู้เธอไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวในโลก เธอยังมีแม่ที่อยู่ข้างเธอเสมอ เกลียวใจลำพองคิดเสียแต่ว่าหากไม่กลับมาวันนี้ พรุ่งนี้แม่ก็ยังอยู่ เธอเสียใจกับความคิดไม่ได้เรื่องของตัวเอง
“เกลียวๆ พระกำลังจะสวดแล้ว”
ซูซี่ประคองหญิงสาวกลุ่มนักเรียนปัจจุบันมองลูกสาวครูสายสวาทได้ยินจากคำบอเล่าของครูสายสวาทเสมอ
“คนนี้หรือที่ผู้อำนวยจะให้มาเป็นครูประจำชั้นใหม่ของพวกเรา”
ศิรินทิพย์มองเกลียวใจเธอแต่งตัวทันสมัยดูจะชอบแฟชั่นกว่าที่นักเรียนทุกคนวาดภาพไว้
“เขาจะมาเป็นหรือเปล่ายังไม่รู้เลยผู้อำนวยการแค่บอกกับพ่อว่าจะลองทาบทาม”
สานนลูกชายของสารวัตรสราวุธบอก
“มันก็ยังไม่แน่หรอกห้องเราเหมือนใครเขาที่ไหน”
สุนทรมองหญิงสาวอย่างไม่ชอบกายแต่งกายที่ไม่เหมาะกับการเป็นครูประจำชั้นคนใหม่ของพวกเขา
“ท่าทางไม่เห็นจะเสียใจที่แม่ตัวเองตายเลยหรือไง”
วสินธ์ เอ่ย เด็กชายในชุดนักเรียนเองก็มองเกลียวใจเหมือนกับผู้ที่ร่วมงานสวดอภิธรรมศพของครูสายสวาทสนใจกิริยาที่นิ่งๆ ของเกลียวใจ แม้จะไม่แสดงออกว่าไม่อ่อนแอแต่น้อยคนจะรู้ว่าเกลียวใจนั้นไม่ได้เข้มแข็งเหมือนที่ใครๆ เขาเห็นเลยนิสัยอย่างนี้ที่ชินมิตรรู้ว่าถ่ายทอดมาจากครูสายสวาทเต็มๆ

ผอ.วิทยา ผู้อำนวยการโรงเรียนสารสิทธิ์วิทยาที่ส่งเสียงมายังเครื่องขายเสียงเพื่อกล่าวไว้อาลัยให้กับครูสายสวาทคำพูดที่เป็นทั้งครูบังคับบัญชาและลูกศิษย์ได้กล่าวให้กับครูสายสวาทก่อนร่างไร้วิญญาณนั้นถูกใส่เข้าไปยังเมรุเพื่อฌาปนกิจ
‘ผมเป็นตัวแทนของสารสิทธิ์วิทยา ครูสายสวาทเป็นทั้งครูทั้งผู้ร่วมงาน เป็นทั้งแม่ เป็นทั้งครูของผมไม่มีใครเลยในอำเภอนี้ที่ไม่เคยเรียนกับครูสายสวาท ผมยังจำได้เสมอรอยไม้เรียวนั้น เสียงพร่ำสอนของคุณครูทุกสิ่งทุกอย่างผมเชื่อว่ายังอยู่ในความทรงจำไม่เคยลืมครูสายสวาทคือคุณครูที่เป็นครูจากหัวใจ’
สารวัตรสารวุธเดินเข้ามาแทนที่ของผอ.วิทยาเพื่อเป็นตัวแทนกล่าวไว้อาลัย
‘มันเป็นเรื่องยากเหลือเกินที่จะกล่าวคำไว้อาลัยให้แก่ครูสายสวาททุกคนรักครูสายสวาท ทุกคน...ผมเชื่อว่าจะไม่ลืมพระคุณของคุณครู...ครูสายสวาทของพวกเรา’
...........................................................................................
ควันที่ล่องลอยสู่ท้องฟ้าร่างที่ไร้วิญญาณกลางเปลวเพลิงนั้นเกลียวใจไม่มีน้ำตาจะไหลเธอมองมันไปถึงก้อนเมฆนั้นมารดาของเธอคงกำลังเดินทางไปยังสรวงสวรรค์ แม้หัวใจที่แสนจะอ่อนแอสั่งให้เธอต้องไห้เท่าไหร่เกลียวใจได้แต่นิ่งเชย
“คุณเกลียวใจเข้าไปนั่งพักเถอะคุณยืนอยู่นานแล้ว”
ชินมิตรเดินเข้ามากระซิบเธอเขาเคยได้ยินถึงความเข้มแข็งกำแพงที่เกลียวใจสร้างเมื่ออ่อนแอจากครูสายสวาทเสมอ
‘ครูชินมิตรรู้ไหม ยัยเกลียวลูกสาวของครูนะบทจะเข้มแข็งเขาก็เข้มแข็งมากมายเวลาอ่อนแอไม่มีใครรู้หรอกเพราะท่าทีที่เขาแสดงมันตรงกันความกับความรู้สึกเสมอ ครูไม่รู้ว่าผิดหรือถูกที่เป็นคนสอนให้เขาแข็งกระด้างเองนั้นแหละเกลียวใจเลยเป็นผู้หญิงที่น้อยคนที่จะมองเขาจากหัวใจจริงๆ’
“ฉันรู้ว่าแม่อยากจะบอกว่าฉันสามารถยืนอยู่ได้คุณเชื่อไหมแม่ก็เป็นอย่างนี้ท่านมั่นใจในตัวฉันเกินไปทำให้ฉัน
กล้าเกินฉันก็อยากจะอ่อนแออยากจะร้องไห้เหมือนกัน”
เกลียวใจหันมองเขาดวงตาที่แดงกล่ำที่ไม่มีน้ำตาของเธอชินมิตรรู้ดีความกล้ำกลืนที่เธอมี
“บางครั้งคนเราก็ต้องอ่อนแอเสียบ้างไม่มีใครเขาว่าคุณหรอกคุณเกลียวใจ มนุษย์ทุกคนต่างก็สามารถอ่อนแอได้ครูสายสวาทเองก็เคยเป็น”
ผู้ชายคนนี้รู้เรื่องแม่ของเธอมากกว่าตัวเธอเสียอีก
“แม่นะหรือ”
เขาพยักหน้าไม่มีใครในอำเภอนี้ไม่เสียใจกับการจากไปของครูสายสวาท โดยเฉพาะชินมิตรผู้ที่สนิทกับครูสายสวาทเขาอยู่กับครูสายสวาทในวาระสุดท้าย
“ใช่ครูสายสวาทท่านเป็นผู้หญิงเก่งน้อยคนที่จะเป็นอย่างท่าน”
“แม่ก็เก่งเสมอนั้นแหละ”
“คุณเหมือนท่านมากเลยคุณเกลียวใจ”
เกลียวใจส่ายหน้าเธอก้มหน้าเธอไม่สามารถเป็นได้อย่างแม่
“ไม่หรอกยังไม่ถึงครึ่งหนึ่งของแม่”
ชินมิตรมองเธอ ทั้งสองเดินเข้ามายังที่นั่งข้างๆ ผู้อำนวยการโรงเรียนสารสิทธิ์ผ้าคลุมไหล่ที่เกลียวตั้งใจจะซื้อให้มารดาเธอคลุมไหล่ตัวเอง
“เสียใจด้วยหนูเกลียวใจ”
ผอ.วิทยาบอกลูกสาวของครูสายสวาท
“ค่ะ”
ซู่ซี่ที่นั่งข้างโอบไหล่เกลียวใจเพราะรู้นิสัยของเธอดี
“เกลียวจะกลับบ้านไหม”
หล่อนถามหญิงสาวเกลียวใจได้แต่พยักหน้าไม่สามารถเอ่ยอะไรได้มากกว่านี้
“เดี๋ยวหนูเกลียว”
ผอ.วิทยาบอกแก่เกลียวใจเมื่อเธอลุกขึ้นกำลังจะกลับบ้านพร้อมซูซี่
“คะ”
“ผมอยากให้หนูมาทำงานที่สารสิทธิ์ถ้าเป็นไปได้โรงเรียนเราขาดครู เมื่อไม่มีครูสายสวาทตำแหน่งนั้นก็ว่างลงหนูเรียนมาด้านนี้คงจะมาสอนที่สารสิทธิ์ได้แล้วอีกอย่างบ้านของหนูก็อยู่ที่นี้”
เกลียวใจยังไม่ตอบรับหรือปฏิเสธเธอยังเหนื่อยกับปัญหาที่ถาโถมเข้ามา
“เอาไว้ถ้าหนูพร้อมผมจะรอฟังคำตอบ”
ผอ.วิทยารู้ดีว่าเกลียวใจคงอยากมีเวลาคิด
........................................................................................
“ว่าไงนะ ยัยเฮเลน เออ แล้วฉันจะบอกเกลียวใจ”
ซูซี่ได้รับโทรศัพท์จากเพื่อนที่ทำงานบริษัทดีไซเนอเหมือนกันกับหล่อนตลอดระยะเวลา 1 สัปดาห์ที่กลับมางานศพของครูสายสวาททำให้หล่อนตกใจเมื่อรู้ว่าบริษัทที่เคยจ้างให้เป็นดีไซเนอมีนโยบายปลดพนักงาน แต่อำเภอนี้ก็ยังไม่มีร้านตัดเสื้อผ้าหล่อนมองหาลู่ทางอยู่เหมือนกัน เกลียวใจสินั่งเหม่อมองต้นมะลิที่ริมรั้วบ้านของเธอทุกวัน
“เกลียว”
ซูซี่นั่งข้างๆ นอกจากหล่อนที่บ้านใกล้เธอแล้วชินมิตรก็เป็นแขกประจำของบ้านหลังนี้ ทุกคนในอำเภอต่างห่วงใยเกลียวใจลูกสาวคนเดียวของครูสายสวาทที่จากไปแล้ว
“ค่ะพี่ซูซี่”
เกลียวใจยิ้มแห้งไร้ชีวิตชีวาให้กับรุ่นพี่
“เกลียวว่าบ้านเราน่าอยู่หรือเปล่าอำเภอนี้แม้จะเป็นอำเภอเล็กๆ แต่ก็มีทุกอย่างยกเว้นร้านตัดเสื้อ”
เกลียวพอจะรู้ความเสียใจที่ถูกชนะพลที่เธอไว้ใจและการจากไปไม่มีวันกลับของแม่ทำให้เธอไม่อยากกลับไปเมืองหลวงที่วุ่นวายอีก
“ค่ะพี่ซู่ซี่เราน่าจะเปิดร้านที่นี้ได้”
“เกลียวอย่าหาว่าพี่ยังโน่นอย่างนี้นะร้านเล็กๆ พี่พอทำได้ถ้าเกลียวต้องงานอดิเรกตัดเสื้อผ้าก็ได้แต่พี่คิดว่าเกลียวไม่ลองทบทวนสิ่งที่ผอ.วิทยาบอกหรือ”
“เป็นครูนะหรือค่ะ”
“บริษัทเรากำลังจะปลดพนักงานรอบสองเฮเลนบอกพี่เมื่อกี้เขาไม่ยอมจ่ายเงินล่วงหน้าทุนที่จะเปิดร้านพ่อเขาช่วยแต่มันก็ได้แค่ช่างคนเดียว”
“ถ้าอย่างนั้นเกลียวก็รับงานจากพี่อีกต่อหนึ่งไม่ได้หรือค่ะ”
ซู่ซี่หวั่นใจกลัวเกลียวใจจะหาว่าหล่อนปฏิเสธเธอ
“ได้แต่ต้องให้มีลูกค้าเยอะๆ เสียก่อน”
เกลียวใจพอจะเข้าใจสิ่งที่ซูซี่พูดเธอก็เห็นเป็นจริงเงินเก็บที่พอจะมีบ้างมันก็สามารถพยุงได้ไม่พ้นปีหรอกกระแสไม่มั่นคงของบริษัทที่เธอพอจะได้ยินอยู่บ้างแม้บริษัทจะได้รับงานหลายชิ้นก็ตามแต่เศรษฐกิจอย่างนี้ก็เป็นการยากที่จะต้านทานการขาดทุน
“เกลียวไม่รู้ว่าจะทำได้ไหม”
เกลียวใจไม่รู้ตัวเองว่าเหมือนครูสายสวาทในสายตาของทุกคน
“ทำไมล่ะเกลียวจบด้านนี้มา”
“ไม่รู้สิพี่ซูซี่เกลียวยังคิดว่าตัวเองอาจจะสู้แม่ไม่ได้”
ชินมิตรเข้ามาข้างหลังเธอพอดีที่ได้ยินคำพูดของหญิงสาว
“คุณเป็นได้คุณเกลียว”
“อ้าวมิตรแกเดินมาเงียบๆ”
ซูซี่ตำหนิเพื่อนสนิทของหล่อน ท่าทางของชินมิตรที่ซูซี่แม้จะเป็นสาวประเภทสองก็พอมองออกแต่เกลียวใจกลับไม่ไว้วางใจผู้ชายคนไหนนับตั้งแต่ชนะพลที่เธอเคยคบหาด้วย
“มาก็ดีฉันต้องกลับบ้านแล้วมีเรื่องต้องจัดการเดี๋ยวพี่มานะคืนนี้มานอนเป็นเพื่อน”
ไม่ทันที่เกลียวใจจะพูดตอบอะไรซูซี่ก็รีบลงขึ้นไปเสียแล้ว
“คุณเป็นครูได้คุณเกลียวใจ”
ชินมิตรยังยืนยันคำพูดของเขาเอง
“คุณรู้ได้ยังไง”
เขาอยากเท้าความเหตุการณ์ที่เธอยื่นขนมให้เขาตรงที่นั่งนี้เมื่อหลายสิบกว่าปีก่อน เธอคงจะลืมมันเสียแล้วกระมังหากพูดไปเป็นเขาเสียอีกที่จำไว้แค่คนเดียว
“คุณเหมือนครูสายสวาทมากไม่รู้หรือไง”
“รู้สิใครๆ ก็ย้ำอยู่นั้นตั้งแต่ฉันเล็กๆ แล้ว”
“สารสิทธิ์ยินดีต้อนรับลูกสาวของครูสายสวาท”
“ครูชินมิตรคุณไม่รู้หรอกการเป็นลูกของแม่ทำให้ฉันรู้สึกอย่างไรมันแตกต่างจากที่ทุกคนคิด แม่เป็นครูเป็นที่รักของทุกคนท่านทุ่มเททุกอย่างเพื่อนักเรียน แต่ฉัน...ฉันไม่ได้เป็นอย่างนั้นฉันไม่สามารถทุ่มเทตัวเองทั้งชีวิตเพื่ออาชีพครูหรอก”
เขาไม่น่าเปรียบเทียบเธอกับครูสายสวาทเลย
“คุณปฏิเสธความเป็นลูกครูสายสวาทหรือคุณเกลียวใจ”
“ฉันปฏิเสธมันได้ไหมล่ะ”
เธอจ้องเขาเกลียวใจคงเป็นสาวเมืองหลวงอย่างเต็มตัว แม้แต่งเครื่องแต่งกายที่เธอสวมใส่เวลานี้หากเทียบกับเสื้อผ้าของเขามันคนละราคากันเธอไม่อยากจะเป็นครูเพราะเงินเดือนน้อยและไม่ได้หรูหราอย่างนั้นจริงชินมิตรเข้าใจอย่างถ่องแท้
“หรือเพราะแฟนนายแบบคุณที่ทำให้คุณตัดใจเมืองกรุงไม่ได้”
เกลียวใจมองครูชินมิตรเขาเป็นอะไรเรื่องของแม่ การเป็นครูของเธอมันคนละเรื่องกับอดีตคนรักอย่างชนะพล
“ไม่เกี่ยวกันคนละเรื่องนะครูชินมิตร”
“เรื่องเดียวกันนั้นแหละมันข่มเหงคุณอย่างนั้นไม่พอใจอีกหรือ”
เขายืนขึ้นจ้องเธอเขม็งอย่างโกรธเคือง
“คุณเป็นอะไร”
เธอเองก็ไม่กลัวจ้องกลับอย่างท้าทาย ครูชินมิตรไม่เข้าใจอารมณ์ของตัวเองเขาสะบัดหน้าไม่พอใจเธอที่พยายามหาคำตอบกับท่าทีที่เขาแสดงอารมณ์ฉุนเฉียวกับเธอ ร่างสูงของเขาเดินจากไปเธอได้แต่มองอย่างไม่เข้าใจ
...........................................................................................
เกลียวใจต้องมาตลาดเพื่อซื้อหาของกินของใช้ในตลาดประจำอำเภอ เงินทองที่เก็บไว้หากเธอยังไม่ทำงานมันคงหมดในเร็ววันรถยนต์ที่ไม่มีปัญญาผ่อนต่อ ซูซี่ที่กลับไปสะสางก็จัดการให้เธอไม่อยากกลับไปเรื่องของชนะพลที่เธอหลงใหล เขาทำร้ายจิตใจเธอเหลือเกินแต่อาการที่ชินมิตรเป็นความไม่พอใจที่เขามีให้เธอตั้งแต่วันนั้นเขาก็ไม่เยื้องกรายเข้ามาหาเธออีกเลย เกลียวใจเองก็พยายามที่จะอยู่คนเดียวให้ได้แม้เธอจะเหงาจับใจเสียงหิ่งห้อยที่ดังอยู่ข้างนอกหน้าต่างในเวลากลางคืนตลอดหนึ่งสัปดาห์ ทำให้เกลียวใจยิ่งเศร้ายิ่งคิดถึงแม่ทุกมุมในบ้านยังมีภาพอากัปกริยาของครูสายสวาทตลอด เธอต้องอยู่ให้ได้เกลียวใจบอกตัวเองเธอสลัดอาการเศร้าใจที่มีอยู่มองออกไปนอกประตูอำเภอเล็กๆ นี้ที่เธอเติบโตมาเธอจะอยู่ที่นี้ไม่กลับไปเมืองหลวงอีกแล้ว
“หนูเกลียวใจค่ะ”
แม่ค้าขายผักเมื่อสมัยเธอยังเด็กๆ ทักทายเธออย่างเป็นกันเอง
“สวัสดีค่ะป้าผักสดจังเลยนะคะมัดล่ะเท่าไหร่ค่ะเนี่ย”
เธอทักทายป้ากลับและถามราคา
“10 บาทจ๊ะ”

ค่าใช้จ่ายที่เธอต้องอยู่อย่างประหยัดแม้มีบ้านหลังเล็กๆ แต่แม่ของเธอยังค้างธนาคารเงินที่ได้จากสวัสดิการข้าราชการของแม่ก็ทำให้เกลียวใจจัดการให้บ้านไม่ติดค้างธนาคารมันก็เหลือบ้าง
“เอาป้าแถมถั่วฝักยาวให้”
เกลียวใจยกมือไหว้แล้วหยิบกระเป๋าสตางค์ที่เธอซื้อมาจากต่างประเทศ ที่อำเภอนี้คนที่นี่ไม่ให้ความสำคัญกับยี่ห้อแบรนด์เนมเกลียวใจรู้ดี เธอยื่นเหรียญให้แม่ค้า ความเป็นลูกของครูสายสวาททำให้เธอต้องหยุดทักทายพ่อค้าแม่ค้าที่ต่างก็รู้จักและเป็นลูกศิษย์ของแม่เธอทั้งนั้นเป็นระยะๆ
“ลูกสาวครูสายใช่ไหมนั้น”
ชาวบ้านที่เธอเดินผ่านต่างพูดคุยกัน
“สวยเนอะนี้หรือที่ผอ.วิทยาจะให้เป็นครูแทนครูสายแก”
“จะเป็นได้หรือเปล่า”
เกลียวใจไม่อยากมองตามเสียงที่เอ่ยถึง เธอนั้นเรื่องที่เธอจะไปเป็นครูที่สารสิทธิ์วิทยาดูจะเป็นข่าวดังของอำเภอไปเสียแล้ว
“ลูกสาวครูสายสวาท”
ระยะทางจากตลาดสดถึงบ้านเธอไม่ไกล แต่เกลียวใจก็หอบเอาได้เหมือนกันเพราะเธอติดความสบายอย่างเธอเล่นเอาเหงื่อตกพอสมควร
“มาคนเดียวเสียด้วย”
ชายหนุ่มวัยรุ่นเสื้อผ้ามอมแมมข้างเสาไฟฟ้าในเวลาเย็นๆ แม้จะมีบ้านคนระหว่างทางแต่ไม่ค่อยมีใครเดินผ่านไปมานักในเวลานี้
“หยุดนะส่งกระเป๋ามา”
เมื่อเกลียวใจเดินผ่านโจรนั้นก็ประกบข้างหลังมีดที่จี้อยู่เกลียวใจหัวใจเธอแทบหยุดเต้น
“ทะ..เธอต้องการอะไร”
“เอากระเป๋ามา”
เธอรีบส่งให้โจรนั้นกระเป๋าใบโปรดเสียด้วย
“ว่าง่ายๆ จะได้ไม่ต้องเจ็บตัว”
เธอไม่อยากให้มันกระเป๋าสุดหวงกว่าจะได้มาไว้เป็นเจ้าของต้องสั่งจองทางอินเตอร์เน็ตเธอสู้อุตส่าห์เก็บเงิน
“เดี๋ยวเอาเงินเอาของไปแต่กระเป๋านั้นฉันขอนะ”
เด็กชายวัยรุ่นวิ่งเข้าใส่โจรกระชากกระเป๋าโดยไม่กลัวสิ่งใด
“โอะ โอ๊ย ตำรวจๆๆ” เด็กชายตะโกนลั่น คนร้ายมองหันรีหันขวางผู้คนแถวนั้นเริ่มเยอะขึ้น มันรีบวิ่งจากไปและไม่มีอะไรติดมือ



เด็กหนุ่มค่อยยันตัวยืนพิงพนังกำแพงริมฝีปากเปื้อนเลือดเล็กน้อยเสื้อผ้าเปื้อนฝุ่นดิน เกลียวใจรีบเข้าไปพยุง
“หนูเป็นยังไงบ้าง” เด็กหนุ่มแกะมือเธอที่แขนของเขาออกก่อนจะยื่นกระเป๋าถือราคาแพงคืนเธอ ไม่พูดอะไรออกมาได้แต่มองเธอก่อนพยายามเดินไป
“เดี๋ยวหนูขอบใจมาก” เกลียวใจมองไล่หลัง
แต่เด้กหนุ่มก็ไม่หันมาสนใจกับคำขอบคุณของเกลียวใจเลย



topaz
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 22 ก.ค. 2555, 18:59:09 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 22 ก.ค. 2555, 18:59:09 น.

จำนวนการเข้าชม : 1421





<< บทที่๑   
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account