ปีกนางฟ้า (Angel Wing)
เมื่อ สิ่งที่ เรียก ว่า "โชคซะตา" ที่ เรา ทุก คนเชื้อมา ตลอดว่า เราเป็นผู้ กำหนด เส้นทางของเราเอง แต่ ทว่า สิ่งที่ เราทำได้ กลับมี เพียง แต่ เดินไป ตามเส้นทางของ โชคซะตา ที่ถูกกำหนดมาให้เรา แล้ว
Tags: เวทมนตร์.วิญญาญ.ยมทูต.เทวทูต.ความดี.ความเลว.รักหวานซึ้ง

ตอน: The Book Of Darkness III

มาสเตอร์ จ้องมองรูปถ่ายที่ตนเองถืออยู่ในมือสักพักหนึ่ง ก็เดินออกมาจากที่เก็บของหลังร้าน เดินออกมาด้านนอกบริเวณด้านหลังร้าน ที่มีเพียงโรงเก็บของหลังเล็กๆถูกสร้างขึ้นใกล้ๆกับด้านหลังของบาร์ ถัดจากโรงเก็บของก็ล้อมรอบไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ ที่ถูกย้อมด้วยความมืดของยามราตรี มาสเตอร์เดินนำ

รี ฟอสไปยังโรงเก็บของที่อยู่ห่างจากด้านหลังบาร์ไม่มากนัก รีฟอสก้าวเดินตามหลังมาสเตอร์ไป ปลายเท้าของเขาสัมผัสกับยอดของต้นไม้ใบหญ้าที่ถูกปกคลุมด้วยน้ำค้างยามราตรี ขณะที่เขาเดินตามหลังมาสเตอร์เขาก็พลางนึกใจ ว่า “ ปกติเวลามาขอข่าวมาสเตอร์มาสเตอร์ก็จะบอกในร้านเลยไม่เคยพาออกมาข้างนอกแบบ นี้ ” ขณะที่รีฟอสกำลังคิดอยู่ในใจ เขาและมาสเตอร์ก็เดินมาถึงหน้าประตูของโรงเก็บของ มาสเตอร์ดันประตูให้เปิดออกแล้วเดินนำรีฟอสเข้าไปด้านใน ภายในโรงเก็บของมีเพียงแต่ลังไม้วางอยู่ทั่วบริเวณ และมีเพียงแต่แสงสว่างจากตะเกียงที่แขวนอยู่ด้านบนให้แสงสว่างแก่บริเวณโดย รอบ ขณะที่รีฟอสกำลังมองสำรวจบริเวณรอบๆอยู่ มาสเตอร์ก็เดินลึกเข้าไปด้านในของโรง เก็บของ เมื่อเดินมาด้านในพอสมควรมาสเตอร์ก็ดันกล่องบางกล่องหลบออก เผยให้เห็นประตูลับที่อยู่ใต้กล่องเหล่านั้น เมื่อมาสเตอร์ดึงประตูขึ้นก็เผยให้เห็นขั้นบันไดที่ถูกสร้างขึ้นจากหินทอด ยาวลงไปด้านล่าง
มาสเตอร์หันกลับมามองรี ฟอสที่ยืนอยู่ด้านหลังก่อนจะก้าวเท้านำลงไปด้านล่าง รีฟอสเดินตามหลังมาสเตอร์ลงไปเมื่อเข้าก้าวตามลงมาเขาก็ต้องแปลกใจทั้งๆที่ ด้านล่างควรจะมืดมิด แต่กลับมีแสงสว่างมาจากกำแพงทั้งสองด้านเป็นแสงสีเขียนอ่อน ทำให้สามารถมองเห็นขั้นบันไดที่ทอดยาวลงไปด้านล่าง ขณะที่รีฟอสกำลังเดินตามมาสเตอร์ลงไปก็เกิดความคิดต่างๆนาๆขึ้นมา แต่ความคิดของรีฟอสก็ต้องหยุดลงเมื่อเท้าของเขาสัมผัสกับบันไดขั้นสุดท้าย มาสเตอร์เดินนำไปที่ประตูบานหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นอย่างแข็งแรง เมื่อมาสเตอร์ดันประตูให้เปิดออกแสงสว่างจากด้านในของบานประตูก็กระทบกับ ความมืดด้านนอก รีฟอสเดินตามมาสเตอร์เข้าไปในห้องที่อยู่ด้านหลังบานประตู เมื่อเดินเข้ามา สภาพภายในห้องที่เขา เห็นคือ ห้อง

สี เหลี่ยมขนาดใหญ่ มีชั้นวางหนังสืออยู่หลายชั้น และที่พื้นของห้องก็ยังมีกองหนังสือถูกวางอยู่อีกหลายกอง มาสเตอร์เดินผ่านกองหนังสือเหล่านั้น ไปนั่งที่โต๊ะสีดำตัวใหญ่ที่ตั้งเด่นสง่าอยู่กลางห้อง รีฟอสเงยหน้าขึ้นมองเพดานของห้อง ที่มีแสงสว่างไม่ต่างอะไรไปจากยามกลางวัน พร้อมๆกับเดินไปนั่งที่เก้าอี้ที่ตั้งอยู่หน้าโต๊ะสีดำ แล้วจ้องมองมาสเตอร์ที่กำลังค้นหาอะไรบางอย่างที่อยู่ใกล้ๆกับโต๊ะ สักพักหนึ่งมาสเตอร์ก็หยิบหนังสือสีขาวเล่มใหญ่เล่มหนึ่งขึ้นมาวางบนโต๊ะ รีฟอสจ้องมองหนังสือเล่นนั้น แล้วสังเกต ว่าหน้าปกของหนังสือเป็นสีขาวบนหน้าปกสีขาวมีตัวอีกษรสีทองเขียนอยู่ว่า “ธอธ(Thoth)” มาสเตอร์เปิดหนังสือออกแล้วพลิกหาหน้าที่ต้องการอยู่พักหนึ่ง แล้วอ่านประโยคประโยคหนึ่งให้รีฟอสฟัง
“หนังสือปกสีดำ อันมืดมิด ประดุจไร้แสงสว่าง ผู้ครอบครองจะกำหนดซะตาของทุกสรรพสิ่ง” เมื่อมาสเตอร์อ่านจบก็ส่งรูปคืนให้กับรีฟอส พร้อมๆกับถามขึ้น
“รีฟอส เธอรับงานนี้มาจากใคร จ๊ะ”ด้วยน้ำเสียงที่สงสัย
“รับมาจาก คนชื่อ คาราส ครับ” “แต่คาราสน่าจะถูกสั่งมาอีกที จากคนที่อยู่ในคฤหาสน์กลางป่าครับ” มาสเตอร์พยักหน้ารับ
“รีฟอส อย่างรับงานนี้เลยนะจ๊ะ” รีฟอสจ้องมองหน้าคนพูดด้วยสีหน้าแปลกใจ
“ทำไมล่ะครับ” มาสเตอร์นิ่งไปชั่วครู่หนึ่งแล้วอธิบายขึ้น

“หนังสือ เล่มสีขาวเล่มนี้”รีฟอสจ้องมองหนังสือที่วางอยู่บนโต๊ะ
“ถูก ตั้งชื่อตามเทพผู้สร้าง” “ซึ่งเล่มนี้เป็นฉบับคัดลอก ซึ่งมีอยู่เพียงไม่กี่เล่น” มาสเตอร์เว้นช่วงแล้วพูดต่อด้วยน้ำเสียงที่เป็นกังวนจนรีฟอสรู้สึกได้
“เนื้อหา ในหนังสือจะกล่าวถึงรายละเอียดต่างๆของสิ่งของที่ เทพผู้สร้าง สร้างขึ้น” มาสเตอร์ก้มลงมองหนังสือแล้วพูดต่อด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ถ้าหากหนังสือ ที่อยู่ในรูปถ่าย เป็นเล่มเดียวกันกับถูกกล่าวในหนังสือเล่มนี้” มาสเตอร์เอามือวางบนหนังสือพร้อมๆกับพูดต่อด้วยน้ำเสียงเชิงขอร้อง
“รีฟอส อย่ารับงานนี้ เลยนะจ๊ะ” พร้อมๆ กับจ้องมองรีฟอส รีฟอสมองสบตามาสเตอร์ก็เห็นแววตาที่ห่วงใยอยู่ภายใน ก็คิดในใจว่า งานนี้ต้องมีอะไรสักอย่างแน่ไม่อย่างนั้นมาสเตอร์คงไม่ห้ามหรอก
“มาสเตอร์ ครับ ผมต้องการงานนี้” “เพราะถ้างานนี้สำเร็จความฝันของผมจะเป็นจริง” มาสเตอร์มองสบตา

รีฟอสแล้วเห็นสายตาที่มุ่งมั่นก็ถอนหายใจ
“ไม่ว่ายังไงก็จะรับงานนี้ให้ได้ ใช่มั้ย จ๊ะ” รีฟอสยิ้มรับ
“กำหนดเวลาส่งของ ล่ะจ๊ะ”
“ 1 อาทิตย์หลังจากนี้ครับ” มาสเตอร์ทำสีหน้าครุ่นคิดอยู่สักพักหนึ่ง
“ฉัน เองก็รู้เพียงแค่ว่า หนังสือเล่มที่ว่ามานี้อยู่ในเมือง เท่านั้นเองจ๊ะ” “ส่วนรายละเอียดอื่นๆไม่ทรายเลยจ๊ะ” เมื่อ รีฟอสได้ยินสิ่งที่มาสเตอร์บอกก็มีสีหน้าผิดหวังทันที เพราะถ้าคนที่หาข่าวเก่งที่สุดในเมืองแล้วไม่รู้ใครจะรู้ เมื่อมาสเตอร์เห็นสีหน้าของรีฟอสก็ยิ้มขึ้นแล้วพูดต่อด้วยน้ำเสียงที่มั่นใจ
“ขอเวลา หาข่าว สัก 2-3 วันนะจ๊ะ” “ต้องได้อะไรบ้างล่ะจ๊ะ” เมื่อมาสเตอร์พูดจบรีฟอสก็ยิ้มรับอย่างมีความหวัง
เมื่อคุยธุระกับมาสเตอร์เสร็จแล้ว มาสเตอร์และรีฟอสก็เดินกลับเข้ามาในบาร์ พอมาถึงด้านในร้าน

เทีย น่าก็รีบเดินมาบอกว่า มีคนมาคอยอยู่ รีฟอสหันมองรอบๆร้านพบว่าไม่มีแขกอยู่เลยมีเพียง กลุ่มชายหญิงกลุ่มหนึ่งนั่งอยู่ที่โต๊ะกลางร้าน มาสเตอร์เดินนำรีฟอสเข้าไปทักทายกลุ่มชายหญิงที่นั่งอยู่ รีฟอสเดินตามมาสเตอร์ไปแล้วมองที่โต๊ะ ว่ามี ชายสองคน และหญิง หนึ่งคนนั่ง อยู่ เมื่อมาสเตอร์เดินมาถึงโต๊ะ ก็เอ่ยทักทายทุกคน “สวัสดี จ๊ะ” ทุกคนในโต๊ะต่างหันมองที่มาของต้นเสียงที่ทักทายพวกตนเอง ราทารี่ผู้หญิงคนเดียวในกลุ่มทักทายกลับเป็นคนแรก
“สวัสดีค่ะ มาสเตอร์” พร้อมๆ กับยิ้มให้มาสเตอร์ด้วยท่าทางน่ารัก รีฟอสจ้องมองผู้หญิงที่ทักทายมาสเตอร์ เธอมีผมสั้นสีดำ ดวงตาสีดำกลมโต ผิวสีขาวแต่ไม่ขาวมาก ตัวไม่สูงมาก ใส่เสื้อแขนสั้นสีดำ จัดว่าน่ารักแบบเด็กวัยรุ่น ขณะที่ชายหนุ่มที่เหลืออีกสองคนกำลังจะเอ่ยทักทายมาสเตอร์ มาสเตอร์ก็หันมาทางรีฟอส
“คนที่นั่งข้างๆราทารี่ เขาชื่อ มาคราส จ๊ะ” รี ฟอสหันมองชายหนุ่มที่มาสเตอร์แนะนำ เป็นชายหนุ่ม ผมสั้นสีแดง ตาสีฟ้า ผิวคล้ำ รูปร่างกำยำ ออกแนวคล้ายๆกับพวกทหาร รีฟอสหันมองชายหนุ่มอีกคนที่เหลือ เขาใส่เสื้อคลุมสีดำจนถึงศีรษะ ใส่แว่น หน้าตาสะอาดสะอ้าน แต่ดวงตาสีดำที่อยู่หลังแว่นดูเหม่อลอย ดูเป็นพวกนักวิชาการมากกว่าจะมาทำงานผิดกฎหมาย อายุไม่น่าจะเกิน 30 มาสเตอร์แนะนำว่าเขา ชื่อ “เจราส” หลัง จากที่มาสเตอร์แนะนำทุกคนให้รีฟอสรู้จักแล้วก็เดินไปที่เคาน์เตอร์ปล่อย ให้รีฟอสได้ทักทายกับเพื่อนร่วมทีม รีฟอสลากเก้าอี้ออก แล้วนั่งลง พร้อมๆกับแนะนำตัวเอง
“สวัสดีครับ ผมชื่อ รีฟอส” ทั้ง สามคนต่างจ้องมองเด็กหนุ่มที่แนะนำตัวเอง เพราะว่า รีฟอสนั้นดูเด็กเกินกว่าที่จะมารับทำงานอันตราบแบบนี้ รีฟอสหันมองหน้าผู้สนทนาทั้ง สามคนแล้วพูดต่อ
“ผมมีงานมาเสนอพวกคุณ” มาครอสจ้องมองหน้าผู้พูด
“นายนี้นะจะเอางานมาเสนอพวกฉัน” เมื่อพูดจบก็หัวเราะขึ้นทันที
“หวังว่าคงไม่ใช่ งานตามหาตุ๊กตา นะ”พร้อมๆกับจ้องมองรีฟอสด้วยสายตาดูถูก รีฟอสยิ้มรับแล้วตอบกลับด้วยน้ำเสียงสบายๆ
“ถ้านายถนัดงานตามหาตุ๊กตา ผมก็ไม่ว่าอะไรหรอก”
เมื่อ ราทารี่ได้ยินสิ่งที่รีฟอสพูดขึ้นมา ก็หัวเราะออกมา ส่วนเจราสก็ขยับยิ้มขึ้นที่มุมปากอย่างพอใจ มาครอสจ้องมองรีฟอสด้วยสายตาไม่พอใจเพราะรีฟอสทำให้เขากลายเป็นตัวตลก มาครอสลุกขึ้นอย่างรวดเร็วพร้อมๆกับปล่อยหมัดเข้าใส่ใบหน้ารีฟอส แต่ก่อนที่หมัดของมาครอสจะทันได้สัมผัสถูกใบหน้าของรีฟอส กลับถูกหยุดโดยเจราส เจราสจับข้อมือของมาครอสก่อนที่หมัดของมาครอสจะถึงใบหน้าของรีฟอสอีกเพียง นิดเดียว มาครอสหันมองเจราสด้วยสีหน้าที่แปลกใจ เพราะหมัดของตนเองถูกหยุดโดยคนที่ทางทางไม่น่าจะแข็งแรงมากขนาดนั้น มาครอสสะบัดมือให้หลุดจากการจับของเจราส ราทารี่นั่งมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ ขยับยิ้มขึ้นที่มุมปาก มาครอสจ้องมองเจราสด้วยสายตาไม่พอใจ พร้อมๆกับพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่โมโห
“นายเข้ามายุ่งทำไม ไอ้เด็กนี้มันปากเสีย” แล้ว จ้องมองไปทางรีฟอสที่นั่งอยู่ด้วยท่าทางสบายใจเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิด ขึ้น เจราสมองสบตากับมาครอสแล้วพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง
“นายคิดว่า จะทำให้เด็กคนนี้เจ็บตัวได้หรอ” แล้วยิ้มให้มาครอส มาครอสจ้องมองหน้าคนพูด
“นั้นสินะ ไม่ลองก็ไม่รู้” พร้อมๆกับปล่อยหมัดเข้าใส่รีฟอสอีกครั้ง
แต่ คราวนี้ เจราสกลับยืนมองดูเฉยๆพร้อมทั้งขยับยิ้มขึ้นที่มุมปากเล็กน้อย รีฟอสลุกขึ้นอย่างรวดเร็วพร้อมๆกับถอยไปด้านหลังเพื่อให้พ้นรัศมีของหมัด แล้วปัดหมัดของมาครอสลงบนโต๊ะ ดัง “ตึ้ง” มา ครอสรู้สึกเจ็บที่มือทันที แต่เมื่อมาครอสรู้สึกตัวอีกทีรีฟอสก็มายืนด้านหลังตนเองแล้ว มาครอสยืนนิ่งแต่มือกับค่อยๆยื่นไปจับปืนที่อยู่ข้างๆเอว ราทารี่สังเกตเห็นว่า รีฟอสกำลังเอามีดเล็กจ่อที่ท้ายทอยมาครอสอยู่ จึงยื่นมือไปทาบลงบนมือของมาครอสก่อนที่เขาจะทันได้สัมผัสถูกด้ามของปืน แล้วพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ถ้านายใช้ปืน เรื่องมันจะไม่จบแค่นี้นะ” มาครอสหันมองหน้าคนพูด แล้วสังเกตุ้ห็นสีหน้าของเธอบอกเป็นในๆว่า “ถ้านายไม่หยุด ฉันจะร่วมด้วย” มาครอสมองสบตาราทารี่ก็รู้ว่าเธอเอาจริง จึงยิ้มรับแล้วนั่งลงตามเดิม
“ก็ ได้ ฉันเห็นแก่เธอหรอกนะ” ราทารี่ก็ยิ้มรับ รีฟอสจ้องมองมาทางราทารี่ แล้วคิดในใจว่า “ผู้หญิงคนนี้มีอะไรมาก กว่าที่ตาเห็น” แล้ว เดินกลับไปนั่งลงที่เก้าอี้ตามเดิม มาสเตอร์ที่อยู่ด้านหลังเคาน์เตอร์เฝ้ามองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดก็ ขยับยิ้มขึ้นมาอย่างพอใจ
รีฟอสควักรูปถ่ายออกมาแล้วนำวางลงบนโต๊ะ แล้วเริ่มพูดต่อ “หนังสือเล่มนี้คือเป้าหมาย” ทั้งสามคนต่างจ้องมองรูปถ่ายที่ว่าวางอยู่บนโต๊ะ
“ค่าตอบแทนคนละ แสน 3 จีริ่ง” เมื่อ พูดจบ ทุกคนต่างจ้องมองรีฟอส ราทารี่ทำเสียงผิวปากแบบไม่น่าเชื่อว่าค่าจ้างจะมากขนาดนี้ มาครอสทำท่าทางตื่นเต้นที่ค่าจ้างมากขนาดนี้ ส่วนเจราสจ้องมองรูปถ่ายด้วยท่าทีเฉยๆ ราทารี่จ้องมองรูปถ่ายก่อนจะเอ่ยถามรีฟอส
“แล้วหนังสือเล่มที่ว่ามานี่ มันอยู่ที่ไหนล่ะ” พร้อมๆกับจ้องมองรีฟอส ทุกคนในโต๊ะต่างสนใจกับคำถามที่

ราทารี่ถามรีฟอส
“ไม่รู้ ว่าอยู่ที่ไหน รู้เพียงแต่ว่าอยู่ในเมืองนี้เท่านั้นเอง” เมื่อได้ยินคำตอบของ รีฟอส มาครอสก็มีสีหน้าผิดหวังทันที แล้วถามขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจมากนัก
“กำหนด เวลาส่งของล่ะ” รีฟอสหันมองทั้งสามคน
“1 อาทิตย์หลังจากนี้” ทุกคนต่างมีสีหน้าท้อแท้ เพราะการที่จะหาหนังสือเล่นเดียวในเมือง แบบนี้มันแทบเป็นไปไม่ได้ รีฟอสจึงพูดต่อ
“ผมอยากให้ทุกคนช่วย หาข่าวด้วยว่าหนังสือเล่มนี่อยู่ที่ไหน” ราทารี่จ้องมองคนพูด
“ก็ได้อยู่หรอกนะ แต่ว่าจะหาเจอมั้ยเป็นอีกเรื่องหนึ่ง” รีฟอสพยักหน้ารับแล้วควักเงินออกมาวางลงบนโต๊ะ
“ตอนนี้จ่ายก่อน คนละ 3หมื่นจีริ่ง” “แล้วภายในสองวันให้มาเจอกันที่บาร์นี้” ทุกคนต่างมองเงินและรูปถ่ายที่วางอยู่บนโต๊ะ แล้วคิดอยู่ชั่วครู่หนึ่ง ราทารี่หยิบเงินแล้วลุกขึ้น
“ตกลง ฉันรับงานนี้” มาครอสยื่นมือมาหยิบเงิน
“ฉันตกลง” แล้วลุกขึ้นเดินออกจากร้านไปคนแรก ราทารี่เดินไปที่ประตูแล้วหันกลับมามองรีฟอส “แล้วเจอกัน” ก่อน จะยิ้มให้แล้วเปิดประตูออกไป เจราสยังคงนั้นอยู่ตามเดิมเขายื่นมือไปหยิบรูปถ่ายที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมาดู ในระดับสายตา แล้ววางลงบนโต๊ะพร้อมๆกับลุกขึ้นแล้วหยิบเงินบนโต๊ะไป แล้วเดินไปที่ประตูร้านโดยที่ไม่พูดอะไรสักคำ ขณะที่เจราสกำลังจะผลักประตูออกไป รีฟอสก็พูดขึ้น
“คุณ เจราส” เจ้าของนามหันกลับมามองเด็กหนุ่มที่เรียกตนเอง รีฟอสจ้องมองเจราสแล้วพูดต่อด้วยน้ำเสียงไม่พอใจเล็กน้อย
“ผม ไม่ขอบคุณ คุณหรอกนะครับ” “เรื่องเมื่อกี้นี้ เพราะสุดท้ายแล้วคุณก็ยุให้ มาครอสมาหาเรื่องผม”

เจ ราสมองสบตาคนพูด ก็ยิ้มรับแล้วผลักประตูออกเดินออกจากร้านไป รีฟอสมองเจราสที่เดินออกจากร้านไปแล้ว ก็ลุกขึ้นเดินไปนั่งที่เคาน์เตอร์ ซึ่งมาสเตอร์กำลังจัดของอยู่เมื่อเห็นรีฟอสเดินมานั่งก็วางมือจากของที่จัด แล้วหันมาคุยกับรีฟอส
“เป็นยังไง บ้างจ๊ะ” รีฟอสมองหน้าคนถาม
“ก็ มีปัญหานิดหน่อยครับ” มาสเตอร์ยิ้มขึ้นเพราะรู้ว่าปัญหาที่รีฟอสหมายถึงคืออะไร
“จะปิด ร้านแล้วหรอ ครับ” มาสเตอร์กำลังก้มหน้าจัดของอยู่ก็ เงยหน้าขึ้น
“จ้ะ กำลังจะปิดแล้ว” รีฟอสลุกขึ้นพร้อมๆกับพูดต่อ
“งั้น ผมช่วยนะครับ” มาสเตอร์ มองรีฟอสที่กำลังเดินไปเก็บแก้วที่โต๊ะ ก็ยิ้มขึ้นอย่างเอ็นดู หลังจากรีฟอสช่วยมาสเตอร์เก็บร้านจนเสร็จแล้ว เขาก็เดินไปบอกลามาสเตอร์ที่อยู่ที่เคาน์เตอร์
“ผมกลับ ก่อนนะครับ” มาสเตอร์มองรีฟอสที่กำลังเดินไปที่ประตู
“รีฟอส จ๊ะ” รีฟอสหันกลับมามองคนที่เรียกตนเอง
“นี่ ก็ดึก แล้ว คืนนี้นอนค้างที่นี้ก็ได้นะ จ๊ะ” รี ฟอสก็ยิ้มขึ้น พร้อมๆกับกล่าวขอบ คุณที่เป็นห่วง แล้วเปิดประตูเดินออกจากร้านไป มาสเตอร์จ้องมองรีฟอสที่เดินออกจากร้านไปด้วยสีหน้าเศร้าๆแล้วบ่นพึมพำขึ้น กับตัวเอง
“ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน เด็กคนนั้นก็ไม่เคยเปิดใจให้ใครอีกเลยนะ โรเว่น” ด้วยท่าทางเศร้าๆ
รี ฟอสเดินออกมานอกร้าน มาหยุดยืนอยู่ที่บริเวณหน้าร้าน แล้วเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้ายามราตรี ที่มีเพียงแต่ดวงจันทร์กลมมนสีเหลืองลอยเด่นสง่าอยู่ ปราศจากหมู่เมฆบดบัง แล้วเดินต่อไป โดยที่ไม่รู้เลยว่ามีใครบางคนกำลังเฝ้ามองเขาอยู่ตลอด ลูกแก้วกลมมนสีใส สะท้านภาพของเด็กหนุ่มที่กำลังเดินอยู่ในตัวเมืองอันเงียบสงัด บุรุษหนุ่มจ้องมองลูกแก้วแล้วขยับยิ้มขึ้นพร้อมๆกับเดินไปนั่งที่เก้าอี้ แล้วเอ่ยขึ้นขณะจ้องมองภาพที่กำลังดำเนินต่อไปในลูกแก้ว“อดีตและปัจจุบันไม่ใช่ สิ่งที่เจ้าควรจะกลัว อนาคตต่างหากที่เจ้าควรจะหวาดกลัว……..”
แสง แดดสาดส่องลอดผ่านบานหน้าต่างเข้ามาภายในห้องของเด็กหนุ่ม ทำให้เห็นสภาพภายในบ้านว่าไม่ต่างอะไรไปจากบ้านที่ไม่ควรจะมีใครมาอาศัยอยู่ เด็กหนุ่มลุกขึ้นเมื่อแสงอาทิตย์สาดส่องเข้ามาถึงเตียง แล้วเดินเข้าไปในห้องน้ำเพื่อจัดการธุระส่วนตัวแล้วเดินออกจากบ้านไป เดินมาถึงร้านขายดอกไม้ร้านหนึ่งที่ตั้งอยู่ใกล้ๆกับบริเวณจัตุรัสกลางเมือง ขณะที่เด็กหนุ่มเดินออกมาจากร้านขายดอกไม้ก็ได้ยินเสียงเด็กสาวดังขึ้น
“รีฟอส รีฟอส “เจ้าของนามหันมองหาต้นเสียงที่เรียกตนเอง
“รีฟอส รอด้วย” รีฟอสมองเด็กสาวที่กำลังก้มหน้าลงเพราะหายใจไม่ทัน
“นายจะรีบไปไหน นักหนา” เทียน่าพูดต่อทั้งๆที่ยังก้มหน้าอยู่
“โทษที เทียน่ากำลังคิดอะไรเพลินๆอยู่น่ะ” เด็ก สาวที่เอ่ยทักทายรีฟอสก็คือเทียน่า เธออยู่ในชุด เสื้อสีฟ้าแขนยาว กระโปรงสีครีม ผมดำที่ยาวสลวยถูกรวบไว้ด้านหลังอย่างเป็นระเบียบ เทียน่าเงยหน้าขึ้นมองรีฟอสแล้วยิ้มขึ้น
“ทำไมนายถึง แต่งตัวดูดีขนาดนี้ จะไปไหนหรอ” พร้อมๆ กับยื่นใบหน้าเข้ามาใกล้ๆรีฟอส เพราะรีฟอสอยู่ในสภาพที่ดูดี คือ ใส่เสื้อเชิ้ตสีดำ กางเกงขายาวสีดำ ผมดำยาวถูกปล่อยปะบ่า รีฟอสมองคนถามแล้วตอบกลับด้วยน้ำเสียงกวนๆ
“นั้น สิ แล้วนี่ฉันกำลังจะไปไหนนี่” เทีย น่าทำท่าทางไม่พอใจที่รีฟอสตอบคำถามเธอแบบกวนๆ เธอจึงยกมือขึ้นเพื่อหวังจะเขกหัวรีฟอส แต่ รีฟอสรู้ทันจึงก้าวถอยห่างเพื่อหลบให้พ้นรัศมีสังหาร แล้วพูดต่อด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“เธอนี่น้า เอะอะอะไรก็ใช้แต่กำลัง” เมื่อเทียน่าได้ยินเช่นนั้นก็ยิ้มขึ้น
“ฉันหวังดีน้า เผื่อว่าลองทุบหัวนายแล้ว” “นายจะได้นึกออกไงว่ากำลังจะไปไหน” พร้อมๆกับเดินเข้ามาใกล้รีฟอส แล้วยกมือขึ้น

“ลองหน่อยมะ เผื่อนายจะนึกออก”พร้อมๆกับยิ้มให้รีฟอส รีฟอสถอยห่างจาก เทียน่าแล้วยกมือขึ้นห้าม
“ฉัน พอจะ นึกออกล่ะว่ากำลังจะไปไหน” พร้อมๆ กับยิ้มให้เทียน่า เทียน่าสังเกตเห็นช่อดอกไม้ที่อยู่ในมือของรีฟอสก็พอจะเดาออกว่ารีฟอสกำลัง จะไปที่ไหน เทียน่ามองสบตารีฟอสแล้วพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เศร้าๆ
“ขอฉันไปด้วยคนได้ มั้ย” รีฟอสมองเทียน่าด้วยสายตาสงสัย
“ทำไมจะไม่ได้ ล่ะ”เทียน่ายิ้มรับแล้วเดินตามรีฟอสไป






นาฬิกาปลาวาฬทราย
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 23 ก.ค. 2555, 15:15:12 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 23 ก.ค. 2555, 15:18:02 น.

จำนวนการเข้าชม : 943





<< The Book Of Darkness II   The Book Of Darkness IV >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account