ลมรักวาเลนไทน์
ในความเหมือน..มีความแตกต่าง ในความแข็งแกร่ง..มีความเยือกเย็น ในความพริ้วพราย..มีความอ่อนแอ แต่สุดท้ายระหว่าง "เพชรกล้า" กับ "น้ำริน" ก็มีความเป็นหนึ่งเดียว

"ความรัก"ที่ดี" จะเกิดขึ้นต่อเมื่อจิตใจคุณถูกฝึกให้มีคุณภาพดีพอจะคู่ควรเท่านั้น
ไม่ใช่ได้มา ในขณะที่กำลังเพลิดเพลิน "หลงทาง"อยู่กับความเหงาจนไม่มีแสงสว่างพอของใจที่จะลืมตาตื่นขึ้นพบคนดีจริงๆสักคน
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: บทที่ ๑ ผิดตัว

เรื่องนี้ ผู้เขียนเคยนำไปลงในเว็บเลิฟเวอร์ชันเก่า ประมาณปีที่แล้ว นักอ่านบางท่านอาจเคยเห็น แต่คราวนี้ขอเอามาลงใหม่ คั่นเวลา..รออัพ เรื่อง เพทายพ่ายตะวัน ไปพลางๆก่อนนะคะ เผื่อใครยังไม่เคยอ่าน^^



บทที่ ๑




“ฮ้า!...ตัวจะกลับพรุ่งนี้เหรอ พูดผิดพูดใหม่ยังทัน”

น้ำรินร้องเสียงหลงใส่กระบอกโทรศัพท์ยี่ห้อล้าสมัยสุดๆ บนโต๊ะไม้ทรงกลมข้างหน้าต่าง ดวงหน้าเคลือบสีสันวิทยาศาสตร์แต่พองามมีแววเคร่งเครียดขึ้นมาฉับพลัน ผิวสีน้ำผึ้งอ่อนเริ่มแดงเรื่อด้วยอารมณ์ฉุน

“เห็นนัดของพู่กันสำคัญกว่างานวิจัยหรือเพชร อืม ...ไม่ต้องตอบ พู่กันรู้ว่าไงๆก็ต้องเป็นงานวิจัยแน่นอน!”

ปลายสายตอบอะไรบางอย่างกลับมาเป็นการตัดบทประมาณสองสามประโยคก็วางสายไป ไม่ฟังคำทัดทานใดๆของหญิงสาวเลยสักนิด น้ำรินจำใจวางกระบอกโทรศัพท์ลงบนแท่น ก่อนจะพ่นลมหายใจยาวอย่างเหนื่อหน่าย

เดินลากเท้ามาตามพื้นดิน... พื้นดินใน "บ้านดิน" ซึ่งทำจากดินเหนียวเกือบทั้งหลังยกเว้นหลังคาที่เป็นสังกะสีและมีหญ้าแฝกทับอีกชั้น ช่วยลดอุณหภูมิไม่ให้ร้อนจัด มีสักกี่คนจะเชื่อ...เจ้าของบ้านคือจิตแพทย์ผู้มั่งคั่ง และเป็นผู้ลากมากดีมีตระกูล!

ในที่สุดน้ำรินก็เดินหน้าตาไร้ชีวิตชีวาผ่านเขตธรณีประตูบ้านดินออกมายังม้านั่งหินอ่อนด้านนอก หล่อนหย่อนตัวลง กำมือทุบโต๊ะแรงๆ สักพักก็ยกสันมือของตนขึ้นมาคลำป้อยๆด้วยความรู้สึกเจ็บปวด ปื้นแดงช้ำที่ปรากฏทำให้หล่อนสำเหนียกได้ว่าไม่ควรทำร้ายตัวเองโดยเปล่าประโยชน์เอาเสียเลย

"ชิ! อยู่คนเดียวก็ได้วะ ใครว่าฉันกลัวผี" สบถกับตัวเองเสร็จสรรพก็นึกขึ้นได้ว่าไม่น่าพูดคำในท้ายประโยคออกมาเลย ก้มลงคอตก หมดสภาพนางพญาผู้เย่อหยิ่ง และถือดีเหมือนเมื่อครู่ "ก็ใช่น่ะเซ่..ฉันกลัวจริงๆนี่นา เพชรนะเพชร..ทำกันได้ลงคอ"

หญิงสาวอุตส่าห์นัดกับเพชรกล้าอย่างดิบดีเมื่อสองสามสัปดาห์ก่อน ว่าหล่อนจะมาขออาศัยบ้านดินกลางสวนสมุนไพรแห่งนี้เป็น แหล่งพำนักชั่วคราว ในการคิดพล็อตนิยายเรื่องใหม่ แต่เพชรกล้ากลับผิดนัดขึ้นมากะทันหันในขณะที่หล่อนเดินทางมาถึงตามเวลานัดตรงเป๊ะ แถมยังปล่อยเกาะให้อยู่ตัวคนเดียวทั้งคืนอีก แล้วอย่างนี้จะไม่ให้หญิงสาวโกรธเป็นฟืนเป็นไฟยังไงไหว

หล่อนวางแผนไว้แล้วว่าจะมาศึกษาการดำเนินชีวิตของ"เพชรกล้า" จิตแพทย์สาวไฟแรง ผู้ใช้ชีวิตสมถะ รักสันโดษท่ามกลางที่ดินผืนนี้ มันช่างเป็นอะไรที่แปลก ท้าทาย และเป็นชิ้นงานที่หญิงสาวนำแฟชั่นอย่างนักเขียนนามปากกา "พู่กัน" ไม่เคยได้ริลองสรรสร้าง งานนี้ถ้าสำเร็จเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา คงนำไปส่งประกวดชนะหลายเวทีเลยทีเดียว

"น้ำริน" เป็นนักเขียนนิยายประจำสำนักพิมพ์แห่งหนึ่ง มีผลงานส่วนใหญ่เป็นนิยายโรแมนติกหวานซึ้ง หรือไม่ก็ออกแนวชีวิตดราม่าไปเลย หล่อนชอบเรียกตัวเอง รวมถึงให้คนอื่นเรียกหล่อนว่า "พู่กัน" ตามนามปากกาสุดรักสุดหวงของตน หากแต่เพชรกล้าก็ไม่เคยทำตามความต้องการของหล่อนเลยสักครั้งเดียว หญิงสาวยังคงถูกเรียกว่า "น้ำ" ตามชื่อเล่นเดิมที่พ่อแม่ตั้งให้ จิตแพทย์สาวให้เหตุผลอยู่เสมอว่า ไม่อยากให้หล่อนลืมว่าตัวเองเป็นใคร และกำลังทำอะไรอยู่ ไม่อยากให้จิตใจเพ้อฝัน หลุดลอยไปไกลสู่โลกส่วนตัวมากนัก

น้ำรินเป็นหญิงสาวบุคลิกทันสมัย ภายนอกดูเป็นสาวมั่น กล้าคิดกล้าทำ แต่งตัวดูดีมีสไตล์อยู่เสมอ ทว่าภายในจิตใจกลับอ่อนแอ อารมณ์อ่อนไหวง่ายมากเมื่อถูกกระทบกระทั่งจากสิ่งเร้า แตกต่างอย่างสุดขั้วกับจิตแพทย์ผู้เข้มแข็งสมชื่อและมีสมาธินิ่งเย็นอย่างเพชรกล้า ทั้งๆที่ภาพลักษณ์ภายนอกก็แสนอ่อนหวาน อ่อนโยนอย่างหญิงแท้

คืนนี้น้ำรินคงต้องอยู่เฝ้าบ้านดินหลังนี้คนเดียวตามคำบอกกล่าวของเพชรกล้าผู้เป็นเจ้าของ ด้วยเหตุปัจจุบันทันด่วนที่ต้องติดตามผลเคสคนไข้โรคจิตเภทเพื่อส่งสรุปงานวิจัยให้ทันในวันพรุ่งนี้ น้ำรินเป็นคนขี้เหงา ไม่ชอบอยู่ตัวคนเดียว เว้นเสียแต่ยามที่ต้องการสมาธิในการเขียนนิยายของหล่อน และที่สำคัญเหนืออะไรทั้งหมด..หล่อนเป็นคนกลัวผีเอามากๆเลยทีเดียว

ก่อนเดินทางมาถึงบ้านเพชรกล้า ซึ่งอยู่ในเขตจังหวัดสมุทรปราการ น้ำรินตั้งใจจะสลัดทุกอย่าง เพื่อสร้างโลกส่วนตัวขึ้นมาใหม่ชั่วคราว ทุ่มเทเวลาทั้งหมดให้กับการเขียนงานชิ้นใหม่ ซึ่งหล่อนหมายมั่นจะให้เป็นผลงานชิ้นโบว์แดง ถึงขั้นรางวัลซีไรต์ แม้แต่ชายหนุ่มผู้เป็นที่รักที่สุดอย่าง"สหพล" หรือ "ปาน" ครีเอทีฟโฆษณารุ่นใหม่ หล่อนยังลืมคิดถึงเขาไปได้เลย เมื่อมีชื่อเสียง และความสำเร็จของผลงานเข้ามาแทนที่

หากแต่เวลานี้ เมื่อความเหงา ความว้าเหว่ และความกลัวย่างกรายเข้ามาเกาะกุมหัวใจ สหพล คือคนแรกที่หญิงสาวกำลังนึกถึง น้ำใสในหน่วยตาทำท่าจะพาลไหลลงมาเสียให้ได้ ยิ่งเมื่อสายตาเจ้ากรรมมันบังเอิญไปเหลือบเห็นปฏิทินแผ่นยาวที่แขวนอยู่ข้างฝาไม้ไผ่ ยิ่งเหงาจับใจ ก็วันที่ 14 กุมภาพันธุ์ วันแห่งความรักในวันนี้มันเสียดแทงใจเธอเหลือเกิน

ขณะที่กำลังทอดสายตาไปไกลอย่างไร้จุดหมาย ภาพรถเก๋งสีแดงมันปลาบที่ค่อยๆ เคลื่อนเข้ามาจอดตรงหน้ารั้วไม้ไผ่ก็ลอยเข้ามาแทนที่ภาพจางๆของคนรัก คิ้วเรียวเข้มขมวดเข้าหากันเมื่อชายคนหนึ่งมองเห็นลิบๆ ว่าเป็นคนผิวขาวจัดก้าวลงมาจากรถคันนั้น

ความรู้สึกแวบแรกของน้ำรินคือความสงสัย แปลกใจ แต่ความรู้สึกแวบที่สองคือความหวาดระแวง...ถ้าหากเป็นคนร้ายบุกเข้ามาจับตัวหล่อนไปเรียกค่าไถ่ หรือไปทำมิดีมิร้ายล่ะ จะทำยังไงกัน!

แต่คิดอีกที พยายามมองโลกในแง่ดี ก็ไม่น่าจะใช่ตามความคิดหลัง เพราะลักษณะการแต่งตัว บุคลิกภายนอก ของเขาก็ดูดี และน่าเชื่อถือพอตัว อีกอย่างในละครน้ำเน่าหลังข่าวที่หล่อนเคยดู ก็ไม่เคยเห็นโจรโหดป่าเถื่อนที่ไหน เดินทางมากับรถยี่ห้อหรูคันใหม่เอี่ยมแบบนี้

"เพชร"

มัวแต่ปล่อยความคิดไปต่างๆนานา แขกแปลกหน้าก้าวเข้ามาจะประชิดอยู่แล้วหล่อนก็คงยังไม่รู้ตัว หากเขาคนนั้นไม่ขานเรียกชื่อใครบางคนออกมาให้ได้ยิน พร้อมกับตรงเข้ามากอดรัดหล่อนอย่างสุดคิดถึงโดยไม่ให้ทันตั้งตัว

"เฮ้ย! เข้ามาได้ไงอ่ะ คุณเป็นใคร?" ถามด้วยน้ำเสียงหวาดระแวง น้ำรินสะดุ้งนิดหนึ่งกับเสียงห้าวทุ้ม แต่ก็แฝงไปด้วยเสน่ห์บางอย่างซึ่งเธอเองก็บอกไม่ถูกเหมือนกัน แล้วก็ต้องสะดุ้งสุดตัวเมื่อสัมผัสถึงไออุ่นของอ้อมกอดที่รัดรึงเสียแนบแน่นจนหายใจแทบไม่ออก

"ก็เดินเข้ามาด้วยสองขานี่แหละครับเพชร เราเล่นเปิดประตูรั้วล่อแขกเสียขนาดนั้น" เขาพูดติดตลก น้ำเสียงสบายๆ แบบไม่คิดอะไรมาก ต่างจากน้ำรินที่ออกจะตัวสั่นมือสั่นเกินกว่าเหตุเสียด้วยซ้ำ

"เฮ้ย! จริงดิ" หญิงสาวถามไปเหมือนถูกกดปุ่มพูดอัตโนมัติ พร้อมกับรีบสปริงตัวออกมาจากอ้อมแขนของนชาญ ซึ่งชายหนุ่มก็ปลดปล่อยพันธนาการให้หล่อนแต่โดยดี เพราะคิดในใจว่าอีกเดี๋ยวต้องได้ทำอะไรๆมากกว่านั้นเป็นแน่

หญิงสาวดูเป็นคนไร้สตินิดๆ ในสายตาผู้มาใหม่ นชาญ ย่นคิ้วเล็กน้อยกับการเปลี่ยนแปลงของคนรักเก่า ถึงแม้เขากับเพชรกล้าจะเลิกรากันไปหลายปีแล้วก็ตาม แต่บุคลิกของหล่อนก็ไม่น่าจะเปลี่ยนไปถึงขนาดนี้เลยนี่นา

"เป็นอะไรรึเปล่าเพชร นี่เรายังไม่หายโกรธพี่ถึงขนาดเปลี่ยนไปได้อย่างนี้เลยหรือ" เมื่อใจคิด ปากก็ถาม ตามแบบฉบับคนเปิดเผย

"เฮ้ย!"

"เอาล่ะๆ พี่จะคอยนับละกัน ว่าเราพูดคำว่าเฮ้ยได้กี่ครั้งแล้ว" นชาญเอ่ยขำๆ เมื่อเห็นดวงตาตื่นตระหนก กับคำอุทานซ้ำๆของน้ำริน

"จะบ้าเหรอ ฉันไม่ได้ชื่อเพชรสักหน่อย คุณน่ะมั่วแล้ว"
"อะไรนะ! นี่เราโกรธพี่ จนความจำเสื่อม ลืมชื่อตัวเองด้วยอีกหรือ" หนุ่มหน้าขาว ยิ่งเปิดปากหัวเราะเป็นการใหญ่ และนั่นก็ทำให้ความโกรธของน้ำรินตีแผ่ขึ้นเป็นริ้วๆเช่นกัน
"ก็บอกว่าไม่ใช่ไงเล่า แล้วนี่คุณมีสิทธิ์อะไรมาหัวเราะเยาะฉันอย่างนี้ไม่ทราบคะ" น้ำรินตะคอกใส่แขกอย่างลืมตัว หน้าตาถมึงทึงประกอบคำพูดทำให้นชาญเริ่มรู้สึกได้ถึงความผิดปกติบางอย่าง เขาขยับถามด้วยความไม่แน่ใจ

"นี่พี่ตั้มไง หรือคุณ..ไม่ใช่เพชรกล้า?"

"ไม่ใช่ แล้วฉันจะกรุณาบอกชื่อจริงเสียงจริงให้คุณทราบละกัน ถ้ายอมแลกกับค่าทำขวัญให้ฉันพันนึงน่ะ" หญิงสาวเอ่ยเสียงจริงจัง แม้มันจะฟังขัดๆกับมุขตลกของหล่อนไปสักหน่อยก็ตามที

และเหมือนเพิ่งนึกได้ว่าตนถูกขโมยกอด ไม่รู้ว่าเพราะหลงเคลิ้มไปกับสัมผัสนั้น หรือ สติสตางของหล่อนไม่อยู่กับเนื้อกับตัวมาก่อนหน้านี้เสียหรืออย่างไร หากแต่ตอนนี้น้ำรินหน้าขึ้นสีเลือด ควันแทบออกหู

"นี่คุณ เมื่อกี้ฉันไม่เอาเรื่องที่คุณกอดฉันก็บุญเท่าไหร่แล้ว ยังมีหน้ามายืนทำเป็นทองไม่รู้ร้อนตรงนี้อีก คุณนี่มัน.." เมื่อไม่รู้จะสรรหาคำใดมาบรรยายสรรพคุณของชายแปลกหน้าให้ครบถ้วน น้ำรินจึงต้องเป็นฝ่ายสงบสติอารมณ์ นับแกะจนครบยี่สิบตัวในใจเสียเอง ค่อยลดมือข้างซ้ายที่กำลังกำหมัดจะเอาเรื่องชายหนุ่มลงมาไว้ข้างลำตัวตามเดิม

"แต่เอาเถอะ ฉันให้คุณเลือก" น้ำรินเอ่ยอย่างเสียไม่ได้ เหลือบมองภาพรวมคร่าวๆของชายหนุ่ม ก็ถือว่าโอเคเลยทีเดียว แต่ถ้าคิดว่าหล่อนจะใจอ่อน ญาติดีกับคนเพี้ยนๆอย่างเขาเพียงเพราะหน้าตาอินเทรนดึงดูดใจล่ะก็...อย่าหวังเสียให้ยาก " คุณจะนั่งรอเพชรตรงนี้ ย้ำนะว่าตรงนี้ จนถึงพรุ่งนี้สิบเอ็ดโมงเช้า หรือคุณจะอันเชิญตัวเองกลับไป ก็เลือกเอาละกัน เพราะวันนี้เพชรไม่ได้อยู่ที่นี่ เข้าใจตามนี้นะคะ!"

"จะเป็นไปได้ยังไง...ที่คุณจะไม่ใช่เพชร " ชายหนุ่มยังไม่เลิกสงสัย ข้อเสนอที่น้ำรินเอ่ยให้ฟังเมื่อครู่แทบไม่ได้เข้าหูเขาเลยสักนิด เพราะมองอย่างไร รูปร่าง..หน้าตาของเพชรกล้าก็เป็นอย่างที่เขาเห็นในตอนนี้ไม่ผิดเพี้ยนแม้แต่ตารางนิ้วเดียว นชาญสรุปกับตัวเองในวินาทีนั้น

"นอกจากคุณจะเป็นฝาแฝดกับเพชร!"



ศิลาริน
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 23 ก.ค. 2555, 17:48:04 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 23 ก.ค. 2555, 17:48:04 น.

จำนวนการเข้าชม : 1761





   บทที่ ๒ ความขัดแย้ง >>
หมีสีชมพู 23 ก.ค. 2555, 19:30:53 น.
คุ้นๆ เหมือนเคยอ่าน


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account