The Royal Wedding : รักนี้ที่วังหลวง
เมื่อเจ้าชายหนุ่มรูปงามแห่งศตวรรษที่ 21 ผู้ที่สตรีทั่วราชอาณาจักรต่่างเฝ้าฝันจะได้ควงคู่ กลับถูกสี่สาวพี่น้องตระกูลหนึ่งไม่เห็นว่าสำคัญ พระองค์จะทำอย่างไร เมื่อปัญหายิ่งหนักขึ้นด้วยสมเด็จพระราชินีมีพระดำรัสต้องการได้สะใภ้หลวงเป็น 1 ใน 4 สาวนั้น

เรื่องราวของซินเดอเรลล่ายุคใหม่เริ่มต้นขึ้น ไม่แปลกและไม่แตกต่าง แต่ก็เป็นสิ่งที่ใครๆอยากสัมผัสเสมอมา
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: บทนำ



The Royal Wedding 1



“สมเด็จแม่” เจ้าชายหนุ่มพระวรกายสูงใหญ่ พระพักตร์ขรึม แต่หล่อเหลาราวกับเทพบุตร ท่วงท่าทุกย่างพระบาท แม้แต่ทรงยืนนิ่งยังคงไว้ซึ่งความสง่าผ่าเผยหาผู้ใดเปรียบ

พระองค์ตรัสด้วยพระสุรเสียงทุ้มกังวาล ทำเอาสมเด็จแม่ หรือ สมเด็จพระราชินีแห่ง ภัทรประเทศ ต้องเงยพระพักตร์ขึ้นจากการทรงพระอักษร

“ชาย วันนี้มาช้าจริง” แม้พระองค์จะรับสั่งอย่างสั้น แต่น้ำเสียงไม่บ่งบอกว่าทรงขุ่นเคืองแต่อย่างใด

เจ้าชายหนุ่มทรงโค้งให้พระชนนีด้วยความเคารพ ก่อนจะประทับลงบนพระราชอาสน์หน้าโต๊ะทรงพระอักษร

“หม่อมฉันต้อนม้าตัวใหม่เข้ารั้วอยู่พะย่ะค่ะ ราฟาเอลตัวนี้ ทั้งดื้อ ทั้งพยศ” เจ้าชายรับสั่งอย่างกริ้ว

พระราชินีสรวลเบาๆ เนื่องด้วยหลวงสีหนาถคนดูแลม้าในวัง ได้แอบทูลพระราชินีแล้วว่าม้าตัวใหม่ที่หามาถวายให้เจ้าชายนั้น ไม่ได้ทรงขี่ง่ายๆเหมือนตัวก่อน ด้วยเพราะต้องการจะลองปราบเจ้าชายผู้ทระนงตนและแสนซนพระองค์นี้ว่าพระองค์ไม่ได้มีพระปรีชาด้านทรงม้าที่สุดอย่างที่ชอบตรัส

เจ้าฟ้าชายอิศเรศร์ ภูวดล อภิราชสกุล เป็นพระราชโอรสองค์เล็กของสมเด็จพระราชาภูวดล จักรราช อภิราชสกุล และ สมเด็จพระราชินี สิรินญา ทิพอาภา อภิราชสกุล นอกจากนั้นเจ้าชายทรงมีพระเชษฐภคินีซึ่งแก่พระชันษากว่าสามปี พระนามว่า เจ้าฟ้าหญิงอรรัมภา สิรินญา อภิราชสกุล

เจ้าฟ้าหญิงองค์นี้ทรงมีนิสัยต่างจากพระอนุชาโดยสิ้นเชิง เนื่องด้วยเจ้าฟ้าชายอิศเรศร์นั้นทรงเป็นคนแปลก นั่นคือแม้จะดูขรึม แต่จริงๆโปรดความสนุกสนาน ชอบเที่ยวเตร่ ทระนงตนว่าตัวเองทรงมีพระปรีชาในทุกด้าน และทรงเป็น เพลย์บอย ตามที่สื่อมวลชนตั้งฉายาให้ แต่กระนั้นพระองค์ก็ยังทรงวางตัวอยู่ในขอบเขตและทรงเป็นสุภาพบุรุษมากที่สุดคนหนึ่งที่ราชสำนักพึงภูมิใจ

ส่วนเจ้าฟ้าหญิงอรรัมภานั้น แม้ว่าจะทรงมีพระพักตร์งดงามถอดแบบพระอนุชา แต่ทว่าทรงเป็นคนดุ จริงจัง และโปรดการเล่าเรียนหนังสือมากกว่าเรื่องใดใดทั้งมวล ไม่โปรดงานเลี้ยงของทางราชสำนัก แต่กลับโปรดการท่องเที่ยวผจญภัยตามต่างจังหวัด ยิ่งไปกว่านั้นเจ้าฟ้าหญิงองค์นี้ทรงมีพระปรีชาด้านการเรือนทุกอย่าง แต่กลับไม่มีพระปรีชาด้านดนตรีเท่าพระอนุชา

แต่สิ่งหนึ่งที่ทั้งสองพระองค์ทรงมีความเหมือนกัน นั่นก็คือ โปรดกีฬาทุกชนิด ที่สำคัญ เจ้าฟ้าหญิงอรรัมภาทรงมีพระปรีชาเทียบเท่าหรือเก่งกว่าบุรุษเสียด้วยซ้ำ จนทำให้พระอนุชาทรงล้อพระเชษฐภคินีบ่อยๆว่า พี่หญิงน่าจะเกิดเป็นผู้ชาย เพราะไม่โปรดการทาเล็บ แต่กลับโปรดการโหม่งลูกบอลเข้าประตู

“ทำไมสมเด็จแม่ถึงสรวลล่ะพะย่ะค่ะ หรือนี่เป็นแผนการของหลวงสีหนาถ” เจ้าฟ้าชายทอดพระเนตรสมเด็จแม่ด้วยความไม่พอพระทัย

สมเด็จพระราชินีซึ่งทรงเปี่ยมไปด้วยความรักและเอ็นดูในตัวพระราชโอรสองค์นี้นักก็แย้มพระสรวล

“เขาอยากรู้ว่าชายเก่งจริงไหมต่างหาก”

เจ้าชายทำพระพักตร์บึ้ง ทรงนึกตำหนิหลวงสีหนาถที่เป็นโค้ชสอนขี่ม้าให้พระองค์ตั้งแต่วัยเยาว์จนกระทั่งเจริญชันษาเป็นหนุ่ม ถึงแม้หลวงสีหนาถจะเก่งกาจด้านการขี่ม้านัก แต่กลับเป็นไม้เบื่อไม้เมากับพระองค์มาตลอด เนื่องด้วยเจ้าชายชอบทระนงตนว่าเก่งแล้ว และไม่ยอมรับการฝึกหนักของหลวงสีหนาถ ส่วนหลวงสีหนาถแม้จะเริ่มแก่ลงทุกวัน และได้สอนวิชาขี่ม้าให้เจ้าฟ้าชายองค์นี้จนหมดความรู้ ก็ยังคงมีหน้าที่หาม้าพยศตัวใหม่ๆ มาให้เจ้าชายประลองฝีมือเรื่อยๆ

“ทรงทราบหรือไม่ว่าแม่เรียกชายมาทำไม” พระราชินีรับสั่งถามเรียบๆ พระองค์ทรงเป็นคนตรัสน้อย แต่ตรงประเด็น ไม่เคยยืดเยื้อเลย

พระพักตร์บึ้งตึงของเจ้าชายคลายลง แต่ดวงพระเนตรแวววาวกลับแข็งกร้าวมากขึ้น

“ผู้หญิงคนนั้นเป็นแค่เพื่อนของชายเท่านั้นสมเด็จแม่”

พระพักตร์ของพระราชินีนั้นเรียบเฉย ไม่แสดงพระอาการหรือความรู้สึกใดใด

“ฉลาดนี่พ่อชาย แต่ไม่ฉลาดเลยที่ไปคลุกคลีกับใครๆอย่างนั้น”

ใครๆ ที่สมเด็จพระราชินีรับสั่งถึงก็คือเหล่าสาวๆที่เจ้าชายชอบพาไปเที่ยวด้วยไม่ซ้ำหน้า แม้ตามภาพข่าวจะไม่เคยมีว่าเจ้าชายทำละลาบละล้วงกับสตรีใดใด และเป็นการไปเที่ยวกันเป็นกลุ่มใหญ่ แต่การที่ทรงทำทีสนิทสนมกับผู้หญิงมากหน้า และเที่ยวกลางคืนบ่อย ก็ทำให้ภาพ เพลย์บอย ของเจ้าชาย บดบังความเป็นสุภาพบุรุษเนื้อในไปได้

“สมเด็จแม่ไม่โปรดให้หม่อมฉันมีเพื่อนผู้หญิงหรือพะย่ะค่ะ ทีพี่หญิงยังมีเพื่อนชายได้”

พระราชีนีทอดพระเนตรพระราชโอรสด้วยความไม่พอพระทัย

“ชายคิดว่าเรื่องนี้สมควรเถียงหรือ อรรัมภาวางตัวเหมาะสม และไม่เคยทำประเจิดประเจ้อ ที่สำคัญร้อยเอกอติชาติเป็นลูกขุนนางในวังและเป็นสุภาพบุรุษ”

ร้อยเอกอติชาติที่พระราชินีตรัสถึง กำลังคบหาดูใจอยู่กับเจ้าฟ้าหญิงอรรัมภา แต่ทั้งคู่ยังไม่ได้ตกลงปลงใจคบกันมากกว่าในฐานะเพื่อน อีกทั้งทั้งสองไม่เคยไปไหนกันเพียงลำพังและในยามวิกาล

“เอาล่ะ ปีนี้ชายอายุ 27 แม่กับสมเด็จพ่อคิดว่าจะตั้งลูกเป็นมกุฏราชกุมารในปีหน้า แต่ภาพลักษณ์ของลูกในตอนนี้ยังไม่สมควรเลยแม้แต่น้อย ลูกคิดเห็นอย่างไรล่ะอิศเรศร์”

เจ้าฟ้าชายหนุ่มหล่อ หน้าตึง และทรงวางท่าแข็งข้อมากขึ้น “หม่อมฉันไม่เห็นสมควรพะย่ะค่ะ หม่อมฉันไม่พร้อม ทำไมสมเด็จแม่กับสมเด็จพ่อถึงรีบร้อนนักล่ะพะย่ะค่ะ ขนาดเจ้าชายประเทศข้างๆ ยังทรงถูกแต่งตั้งเป็นมกุฏราชกุมารตอนอายุสามสิบ”

เมื่อลูกแข็ง แม่กลับแข็งยิ่งกว่า การที่สมเด็จทั้งสองอยากแต่งตั้งให้ลูกชายเป็นมกุฏราชกุมารโดยไวนั้น เนื่องด้วยอยากให้พระองค์ตระหนักถึงบทบาทการเป็นกษัตริย์ในวันข้างหน้า และทรงอยากให้พระราชโอรสเลิกคบหาผู้หญิงไร้หัวนอนปลายเท้าและอภิเษกกับหญิงสาวจากตระกูลสูงศักดิ์ที่ทั้งสองพระองค์ทรงเลือกสรรมาให้โดยไว

สำคัญกว่านั้น นี่เป็นเรื่องของความมั่นคงในราชบัลลังก์

หากอภิราชสกุลไม่สามารถมีมกุฏราชกุมารที่ดีพร้อม และทายาทเพศชายได้ในอนาคต ฐานะการปกครองประเทศจะตกแก่ รัฐฐาสกุล ซึ่งเป็นราชสกุลลำดับที่สองได้

“สมเด็จพ่อกับแม่ไม่ได้สั่งสอนชายเหรอว่าเมื่อเจริญขึ้นชายมีหน้าที่อย่างไรต่อบ้านเมือง นำเรื่องที่เถียงแม่กลับไปคิด และปรับปรุงภาพลักษณ์ตัวเองให้ได้ เพื่อเตรียมการเป็นมกุฏราชกุมารในปีหน้า เอาล่ะ…”

สมเด็จพระราชินีรับสั่งด้วยพระสุรเสียงดุขึ้นและดังฟังชัด

“ไปได้”

ก่อนจะก้มพระพักตร์ทรงพระอักษรตามเดิม

เจ้าฟ้าชายอิศเรศร์ทอดพระเนตรสมเด็จแม่ทั้งด้วยความรู้สึกผิด และไม่พอพระทัย ก่อนจะทรงลุกขึ้นแล้วโค้งคำนับให้พระชนนี จากนั้นจึงทรงพระดำเนินออกจากห้องทรงพระอักษร




ที่บ้านหลวงสีหนาถ ลูกสาวทั้งสี่ของคุณหลวงกำลังทำกิจกรรมต่างๆในห้องนั่งเล่นรวม มีคุณหญิงวิสา นั่งจัดดอกไม้อยู่ที่มุมห้อง คุณหลวงกำลังนั่งอ่านหนังสือพิมพ์ข้างหน้าต่าง

ด้วยรัก หน้าตาเหมือนคุณหญิงกว่าใคร ลูกสาวคนโตผู้แสนอ่อนหวาน เรียบร้อย เก่งงานบ้านและครัวทุกอย่าง กำลังนั่งเล่นเปียโนหลังใหญ่กลางห้องให้ทุกคนได้เพลิดเพลิน ด้วยรักนอกจากจะช่วยคุณแม่ดูแลบ้านแล้ว ยังเป็นครูสอนเปียโนให้เด็กๆอีกด้วย

เปี่ยมสุข ลูกสาวคนรอง หน้าตาเหมือนสีหนาถที่สุด กำลังดูรายการแข่งม้าในทีวี เธอเป็นคนรักสนุก และชอบการแต่งตัว แต่ไม่ได้ทำตัวเปรี้ยวจนคนในบ้านรับไม่ได้ เปี่ยมสุขชอบเล่นกีฬาทุกชนิด แต่เก่งเทนนิสและการขี่ม้าเหมือนหลวงสีหนาถเป็นพิเศษ เธอออกจะซนและไม่อยู่เฉย ตอนนี้เปี่ยมสุขกำลังฝึกขี่ม้าอย่างหนักหน่วงเพื่อเตรียมตัวสมัครเข้าทีมชาติในการแข่งขันขี่ม้าโอลิมปิก

ยาใจ ลูกสาวคนที่สามซึ่งหน้าตาสะสวยที่สุด แต่เงียบขรึมและดุกว่าใครในสี่พี่น้อง เธอเป็นคนสมถะ ประหยัด ไม่แต่งตัว และเอาแต่ศึกษาเล่าเรียน และมักจะสอบได้ที่หนึ่งเสมอ เธอเรียนเก่งมากจนจบปริญญาตรีด้วยเกียรตินิยมอันดับหนึ่งเหรียญทอง ตอนนี้เธอกำลังตั้งหน้าตั้งตาอ่านหนังสือเพื่อสอบเรียนปริญญาโทในต่างประเทศ และในอนาคตอาจจะเป็นปริญญาเอกตามลำดับ ในสาขาเศรษฐศาสตร์

แต่ตอนนี้ยาใจกำลังพักผ่อนด้วยการเล่นหมากรุกกับน้องสาวคนสุดท้อง แสนดี

แสนดี เป็นลูกคนเล็กของหลวงสีหนาถ เธอไม่เหมือนทั้งพ่อและแม่ ไม่สะสวยเท่าพี่ๆทั้งสาม นิสัยของเธอไม่มีอะไรเด่น เพราะเธอรับเอานิสัยและความเก่งของพี่ๆมาทุกคน นั่นคือ เธอทั้งอ่อนหวาน เป็นงานบ้านเหมือนด้วยรัก แต่ไม่ดีและไม่เก่งเท่า

เธอแอบซนและเป็นกีฬาทุกอย่างเหมือนเปี่ยมสุข แต่กลับไม่เก่งสักอย่าง

บางทีแสนดีก็ขรึมและดุ อีกทั้งชอบอ่านหนังสือเหมือนยาใจ เพียงแต่เธอเรียนไม่เก่งเท่า เพราะเธอไม่ได้ชอบอ่านหนังสือเรียน แต่กลับชอบหนังสือประเภทอื่นๆมากกว่า

แสนดีเพิ่งเรียนจบปริญญาตรีและกำลังสมัครงานเป็นบรรณารักษ์ที่หอสมุดฝรั่งใกล้ๆบ้าน

หลวงสีหนาถเอ็นดูแสนดีเป็นพิเศษ เพราะคุณหลวงรู้ดีว่า ภายใต้เปลือกนอกที่เธอไม่ได้สดสวยเท่าพี่ๆ และไม่ได้มีอะไรโดดเด่น แต่จริงๆแล้วแสนดี เป็นคนเปิดเผย จริงใจ มีน้ำใจ และมีอารมณ์ขันตามธรรมชาติกว่าลูกๆคนไหน

กิจกรรมภายในห้องนั่งเล่นดำเนินไปเรื่อยๆ ด้วยการที่ด้วยรักเริ่มบรรเลงเพลงที่ห้า เปี่ยมสุขเปลี่ยนช่องไปดูรายการแข่งเทนนิส และยาใจรุกคาดแสนดีเป็นครั้งที่สอง

บรรยากาศทั้งภายนอกบ้านและภายในห้องนั่งเล่นดำเนินไปด้วยความสงบและรื่นรม จนทำให้หลวงสีหนาถไม่อยากประกาศข่าวใดใด ทำลายบรรยากาศนี้ แต่แล้วคุณหลวงก็ตัดสินใจ พูดออกมา

“วันอาทิตย์หน้ามีใครไม่ว่างบ้าง”

ด้วยรักหยุดบรรเลงเปียโน ขณะที่สามสาวที่เหลือเงยหน้าจากกิจกรรมของตัวเองหันไปมองผู้เป็นพ่อ

“หนูต้องไปสถานทูตก่อนเที่ยงค่ะ” ยาใจบอก

คุณหลวงมองหน้าลูกสาวที่เหลือ ซึ่งทุกคนส่ายหน้าบอกว่าว่าง

“มีอะไรเหรอคะคุณพ่อ หรือจะพาพวกเราไปหัวหิน” เปี่ยมสุขถามขึ้น

ด้วยรักยิ้มแย้มอย่างดีใจ “จริงเหรอคะคุณพ่อ”

ส่วนแสนดี ไม่ได้พูดอะไร เธอรอคุณพ่ออธิบายให้จบ

หลวงสีหนาถยิ้มพลางโบกมือปฏิเสธ

“เป็นสถานที่ที่น่าสนใจกว่านั้น…สมเด็จพระราชินีพระราชทานพระราชวโรกาสให้เราไปร่วมดื่มน้ำชายามบ่าย”

สิ้นเสียงคุณหลวง คุณหญิงวิสา ลดมือจากการจัดดอกไม้สังเกตปฏิกิริยาของลูกๆ

ทุกคนรู้สึกแปลกใจ และโอดครวญ เพราะไม่อยากต้องทำตัวเรียบร้อยตามกฏระเบียบ เนื่องจากพวกเธอเคยได้เข้าไปในวังสมัยเด็กๆ และถูกพวกนางกำนัลผู้ใหญ่ดุ เนื่องจากไปชวนให้เจ้าหญิงอรรัมภาเล่นซน

“เพื่ออะไรเหรอคะคุณพ่อ” ในที่สุดแสนดีก็ถามขึ้น

หลวงสีหนาถยังคงยิ้มเย็น “พระราชินีทรงอยากพบครอบครัวของเราเท่านั้นเอง บ่ายโมงอาทิตย์หน้าทำตัวให้ว่างล่ะ คุณหญิงหาชุดสวยๆให้ลูกด้วยนะ”

คุณหลวงหันไปบอกภรรยา ก่อนะจะลุกออกจากห้องนั่งเล่นไปดูแลสวนหลังบ้าน





ลายเส้น
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 9 พ.ค. 2554, 21:00:19 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 9 พ.ค. 2554, 21:00:19 น.

จำนวนการเข้าชม : 1880





   คนที่แตกต่าง >>
หนอนฮับ 9 พ.ค. 2554, 21:11:33 น.
อืม..มาติดตามคะ


kaze 11 ก.ค. 2555, 04:27:45 น.
น่าติดตามมากกก :)


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account