บุหงาซ่อนกลิ่น (ช่องสามซื้อลิขสิทธิ์แล้ว)
ด้วยความรู้สึกผิด เขาจึงติดตามชดใช้
จนกลับกลาย...มาเป็นความรัก

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

สิมิลัน มายาวี เจ้าของฉายาสาวฮอตทะเลร้อนไม่เข้าใจเล้ย! ว่าทำไมในละครถึงชอบให้พระเอกข่มขืนนางเอก แล้วตอนท้ายนางเอกก็ดันไปหลงรักผู้ชายเฮงซวยจำพวกนั้นเสียด้วย

เพราะวันที่ฝันร้ายเกิดขึ้นกับเธอ หญิงสาวเกลียดปัณณ์ รัชนาถ จนแทบไม่อยากเห็นหน้า ถ้าฆ่าเขาให้ตายคามือได้โดยไม่ติดคุก เธอก็คงทำไปแล้วแน่ๆ

แต่แล้วเมื่อข่าวหลุดลอดออกไป แทนที่ผู้คนจะเห็นใจว่าเธอถูกกระทำ กลับหาว่าเธอจงใจยั่วซูเปอร์สตาร์หมายเลขหนึ่งของวงการ ทั้งยังวางแผนแบล็คเมล์กะจับเขาให้อยู่มือเสียอีก

โอ๊ย! โลกนี้มันเป็นอะไรกันไปหมดแล้วนี่!

ครั้นจะลุกขึ้นมาทวงศักดิ์ศรี ใครล่ะจะเชื่อ ในเมื่อเธอเป็นแค่ตัวอิจฉาคนหนึ่งเท่านั้น ไม่ใช่นางเอกที่จะเรียกร้องความเห็นใจจากใครได้เลย

* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

“ค่าตัวแพงไม่เบานะ” เสียงห้าวที่ดังมาจากด้านหลังหยุดย่างก้าวของเธอได้ชะงัดนัก

หญิงสาวตัวชาวาบ หันขวับมาตวัดมองเจ้าของเสียงทันควัน ปัณณ์ในเครื่องแต่งกายชุดใหม่เดินลงบันไดโค้งมายืนอยู่ตรงหน้า

“ถึงฉันจะถ่ายแบบชุดว่ายน้ำมันก็ไม่ได้หมายความว่าฉันขายตัว”

“แต่งตัวยิ่งกว่าผู้หญิงกลางเมือง ยังจะปฏิเสธอีก เธอนี่โชคดีเหลือเกินนะ ยายเด็กปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม คืนเดียวเรียกได้ตั้งยี่สิบล้าน!”

ดวงตาสิมิลันวาวจ้าราวแม่เสือ กระนั้นกลับมีหยาดน้ำวาวๆ คลอเต็มหน่วย หญิงสาวกัดริมฝีปากแน่น รวบรวมทุกกำลังใจที่เหลืออยู่น้อยนิด ย้ำกับตัวเองว่าให้เข้มแข็งเข้าไว้ หากจะตายก็ขอไปตายที่อื่น อย่าให้ผู้ชายคนนี้เห็นความอ่อนแอของเธอเด็ดขาด อย่าให้เขาหัวเราะเยาะ เย้ยหยันเธอได้อีก

หญิงสาวเชิดหน้า แต้มยิ้มเหยียด “ก็คงไม่โชคดีเหมือนไอ้เฒ่าตัณหากลับอย่างคุณหรอก แก่ขนาดนี้แล้วยังอุตส่าห์ได้เคี้ยวหญ้าอ่อนอย่างฉันน่ะ”
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: ตอนที่ ๑

“ยายนั่นใครน่ะพี่ดา แต่งตัวโป๊สะบัด น่าฟันชะมัด”

ปัณณ์ รัชนาถ เอนไปกระซิบกับผู้จัดการส่วนตัว เมื่อเห็นหญิงสาวรูปร่างสูงโปร่งเพรียวระหงผู้หนึ่งกำลังยืนคุยกับผู้กำกับอยู่ข้างโต๊ะทำพิธีบวงสรวง ก่อนการเปิดกล้องถ่ายละครเรื่องใหม่

‘โป๊สะบัด’ ที่เขาว่าประกอบไปด้วยเชิ้ตสีขาวบางเฉียบจนเห็นเสื้อสายเดี่ยวแนบเนื้อพิมพ์ลายดอกดวงสดใสด้านใน แม้ไม่เห็นโนมเนื้อชัดๆ แต่แค่เงารางๆ เพียงแค่นั้นกลับก่อจินตนาการแก่คนมองมากกว่าเปิดเนื้อหนังเต็มตาเสียอีก กระโปรงสอบแคบพอดีตัวเป๊ะสีดำสนิทที่ยาวครึ่งแข้งผ่าสูงถึงต้นขาอวดเรียวขาขาวผ่องอย่างจงใจหยุดสายตาแทบทุกคนให้หันกลับมามองซ้ำได้ชะงัดนัก

“อาไร้! นี่คุณชายไปอยู่ดาวเนปจูนมาหรือไงยะ ถึงไม่รู้จักสิมิลัน มายาวี นางร้ายร้อยล้านของวงการน่ะ หนังที่ยายแซมคนนี้เล่น ทำรายได้กระฉูดเพราะเจ้าหล่อนใส่ทูพีซเล่นน้ำทะเลฉายบนจอตั้งเกือบนาทียังไงล่ะ แล้วหุ่นยายนี่น่ะ อกเป็นอก เอวเป็นเอว คนดูตีตั๋วดูเฉพาะฉากนี้ซ้ำตั้งไม่รู้เท่าไหร่ ยิ่งซัมเมอร์ที่ผ่านมา ชีถ่ายแฟชั่นชุดว่ายน้ำอีกระลอก หนังสือหมดแผงตั้งแต่วันแรกที่วาง คิดดูก็แล้วกันว่าฮอตขนาดไหน นี่ทุกคนก็กำลังรอดูอยู่นะว่าปีนี้นางจะเลือกถ่ายชุดว่ายน้ำกับหนังสือหัวไหน” ดาลัดเบ้ปากอย่างดูหมิ่น

“เงินมา ผ้าหลุดว่างั้น” ปัณณ์หรี่ตานิดๆ มองไปยังสตรีผู้นั้นด้วยความสนใจ

“ไม่ต้องคิดจะมั่วกับยายนี่เลยนะปัณณ์ เธอน่ะเป็นพระเอกแถวหน้า ส่วนยายนั่นเป็นแค่ตัวอิจฉา มันคนละระดับกัน”

“ผมยังไม่ได้พูดอะไรเลย แค่คิดว่า...เขาสวยดี”

“กว่าจะเนี้ยบได้อย่างนี้ ผ่านมีดหมอมากี่ครั้งแล้วก็ไม่รู้” สาวใหญ่เผลอกระแนะกระแหน

“ท่าทางพี่ดาไม่ชอบเขา” ปัณณ์ตั้งข้อสังเกต

“ไม่ใช่ไม่ชอบหรอก ก็แค่...หมั่นไส้น่ะ พี่น่ะหวังดีอาสาจะช่วยดูคิวให้ เขาบอกว่าไม่ต้อง เขาจัดการเองได้ เชอะ แล้วพี่จะคอยดู๊ว่ามันจะดังไปได้สักแค่ไหน”

“อ้อ...อย่างนี้นี่เอง ผลประโยชน์ขัดกันก็บรรลัย”

“ต๊าย! หยาบคายนะปัณณ์ ใครได้ยินเข้าเขาจะเข้าใจพี่ผิดหมด” ดวงตาคมตวัดค้อนสะบัดสะบิ้งอย่างแสนงอน

ปัณณ์ตบบ่าผู้จัดการส่วนตัวอย่างล้อเลียน “แค่ตัวอิจฉาคนเดียว อย่าเอามาเป็นอารมณ์เลย ผมเห็นพี่กำลังดันแคเรนอยู่ไม่ใช่หรือ ถ้าเขาเกิดอย่างที่หวัง ขี้คร้านพี่จะนับเงินไม่ทัน”

ดาลัดทำตาปะหลับปะเหลือก ถอนหายใจเฮือกใหญ่ “พูดถึงแคเรนแล้วนึกได้ ละครเรื่องนี้เธอเล่นประกบแคเรน พี่ฝากหน่อยสิ”

“ฝาก?”

“ปัณณ์ช่วย...” ดาลัดเหลือบมองรอบตัวให้แน่ใจว่าจะไม่มีใครได้ยินบทสนทนานี้แล้วจึงเอ่ยเบาๆ”สร้างกระแสรักโปรโมตกับแคเรนหน่อยได้ไหม”

ปัณณ์เบ้หน้า “แต่พี่ดาก็รู้ว่าผมไม่ชอบสร้างกระแสหลอกใคร”

“จ้า พี่รู้ว่าซูเปอร์สตาร์แบบเธอไม่ชอบสร้างภาพ ถือว่าพี่ขอได้ไหม คิดเสียว่าช่วยเหลือกันในฐานะพี่น้องร่วมสังกัดยังไงล่ะ”

ปัณณ์ผุดลุกขึ้นยืนแทนการตอบปฏิเสธ เดินหนีไปทันที

“พี่ดาไม่น่าไปอ้อนวอนเขาขนาดนั้นเลย แคเรนน่ะดังเองได้” เสียงหนึ่งดังขึ้นจากเบื้องหลัง

ดาลัดหน้าบูดหันไปทางผู้หญิงตัวเล็กที่นั่งไขว่ห้างพลิกนิตยสารอ่านอยู่บนโซฟาอย่างสบายอารมณ์

“ย่ะ! ดังเองได้ ขนาดแค่แสดงมิวสิควีดีโอ หล่อนยังเล่นเสียแข็งเป็นไม้กระดานแบบนั้น ผู้กำกับโทร.มาด่าฉันวันละหลายรอบ ฉันให้ไปเรียนการแสดงเพิ่ม หล่อนก็เบี้ยวแล้วเบี้ยวอีก วงการเนี้ยมันมาเร็วไปเร็วนะยะ ถ้ามัวแต่อวดดีว่าตัวเก่ง ไม่ยอมพัฒนา หล่อนดังได้ ก็ดับได้นะ ขอบอก กว่าฉันจะดันเธอลงเรื่องนี้คู่กับปัณณ์ได้ รู้หรือเปล่าว่าต้องใช้กำลังภายในมากขนาดไหน ลำพังตัวเธอ ไม่มีใครอยากร่วมงานด้วยหรอก”

“แหม...แค่นี้ก็ต้องว่ากันแรงๆ ด้วย แคเรนน้อยใจแล้วนะ” หญิงสาวกระเง้ากระงอดปิดหนังสือแล้วกระแทกวางไว้ข้างตัว เอ่ยด้วยน้ำเสียงเจือสะอื้นนิดๆ”แคเรนก็ทำดีที่สุดแล้ว”

“แหม...ทีตอนเข้าฉากร้องไห้ หล่อนไม่ยักจะบีบน้ำตาได้อย่างนี้นะ” ดาลัดสะบัดค้อน “อย่างน้อยเธอก็น่าจะทำตัวน่ารักๆ ประจบปัณณ์เขาหน่อย เผื่อเขาจะใจอ่อนยอมควงด้วยสักสองสามหน แค่นี้แหละ รับรองเธอดังระเบิดแน่ๆ”

“ทำไมแคเรนต้องง้อเขาล่ะคะ”

“เพราะเขาเป็นพระเอกซูเปอร์สตาร์ของวงการ ส่วนเธอเป็นแค่นางเอกหน้าใหม่ที่ยังไม่มีคนรู้จักยังไงล่ะ”

แคเรนถอนใจ “ตกลงค่ะ ถ้าเจอกันที่กองละครอาทิตย์หน้า แคเรนจะปรี่เข้าไปกราบเขาที่อกเลย พอใจไหมคะ”

“ไม่พอย่ะ” ผู้จัดการบิดริมฝีปากอย่างหมั่นไส้ “หล่อนควรกราบเท้าเขาเลย เพราะถ้าเขายอมช่วย ปัณณ์จะเป็นผู้ให้กำเนิดเธอในวงการบันเทิงเลยก็ว่าได้”







ปัณณ์เบ้หน้าเมื่อหลบพ้นจากการคาดคั้นกดดันของผู้จัดการส่วนตัวมาได้ เขาเดินทอดน่องไปยังหน้าโต๊ะวางเครื่องเซ่นสรวงทำพิธี เหล่านักแสดงสมทบและบรรดาตัวประกอบแหวกทางให้เขาเป็นแนว หลายคนที่อายุน้อยกว่ารีบทักทายทำความเคารพเป็นฝักถั่ว

แม้จะเป็นพระเอกไฮโซเนื้อหอมที่โด่งดังที่สุดแห่งยุค แต่ปัณณ์รู้วิธีที่จะอยู่ในวงการให้ได้นานๆ และอยู่...อย่างคนดังที่ได้รับการยอมรับเสียด้วย เขาปรี่เข้าไปสวัสดีและทักทายนักแสดงอาวุโสแสดงความนอบน้อมอย่างเห็นได้ชัด เด็กยกไฟ ช่างแต่งหน้า ช่างผมล้วนแล้วแต่ได้รับการทักทายอย่างเป็นกันเอง...บางทีอาจจะดูถือตัวน้อยกว่ายามที่เขาปฏิบัติต่อนักแสดงหน้าใหม่บางคนเสียด้วยซ้ำ

ปัณณ์รู้ดี...คนเบื้องหลังเหล่านี้ช่วยให้เขาหล่อที่สุดในฉาก ดูดีที่สุดบนหน้าจอ และเหนืออื่นใดทั้งหมดทุกคนพร้อมจะยกโทษให้หากเขาทำอะไรผิดพลาดนิดๆ หน่อยๆ

ชายหนุ่มเตร็ดเตร่ไปมารอเวลาเริ่มพิธีบวงสรวง อากาศร้อนไปบ้าง แต่ช่างไฟก็ใจดีหาพัดลมมาให้เขาเป็นพิเศษช่วยให้ไม่น่าหงุดหงิดจนเกินไปนัก บรรยากาศทุกอย่างในกองดูเหมือนจะดีไปหมด...

มีเรื่องเดียวที่ค้างคาใจซูเปอร์สตาร์หนุ่มเหมือนหนามเล็กๆ ที่ตำอยู่ในอก นั่นก็คือความจริงที่ว่า ยายตัวอิจฉาร้อยล้านสุดเซ็กซี่คนนั้น นอกจากจะไม่มาทำการคารวะเขาในฐานะพระเอกหมายเลขหนึ่งแล้ว แม่คนนั้นยังไม่มีท่าทีว่าจะรับรู้ถึงการมีตัวตนของเขาในกองละครนี้เลยก็ว่าได้

นั่นล่ะ ที่ทำให้คนซึ่งเคยต้องเด่นและเป็นที่จับตามองที่สุดในทุกหนแห่งที่เขาปรากฏตัว...ไม่พอใจ!






“ยินดีด้วยนะคะคุณปริม เครื่องเพชรคอลเลกชันใหม่ของแอบโซลูตเจมส์ดังเป็นพลุแตก ประสบความสำเร็จอีกแล้ว สมแล้วจริงๆ ที่เป็นหญิงเก่ง หญิงแกร่งแห่งวงการอัญมณีเมืองไทย”

เสียงชื่นชมดังมาจากทุกสารทิศ ปริมยิ้มรับและมองไปรอบๆ ห้องจัดเลี้ยงซึ่งประดับประดาด้วยแสงไฟอร่ามจากโคมระย้าเบื้องบนด้วยความพอใจ กล้วยไม้และกุหลาบที่ตกแต่งรอบบริเวณส่งกลิ่นฟุ้งขจาย ทำให้เธอยิ่งสดชื่นและผ่อนคลาย

ปราชญ์ผู้เป็นน้องชายช่วยต้อนรับแขกผู้ใหญ่อยู่อีกด้านหนึ่งอย่างแข็งขัน ด้วยหน้าที่การงานในฐานะเลขานุการของรัฐมนตรีชื่อดัง ช่วยส่งเสริมให้เขาทำหน้าที่ได้อย่างไร้ที่ติ ทว่าภาพของความชื่นชมต่อความสำเร็จที่มีต่อเธอและบริษัทก็กลับกร่อยลงเมื่อน้องชายคนเล็กปรากฏกายขึ้น

“อุ๊ย! นั่นปัณณ์ รัชนาถ พระเอกช่องแปดนี่” ไม่ต้องใช้การสังเกตก็สามารถเห็นเขาได้โดยง่าย เพราะชายหนุ่มร่างสูงที่สวมเพียงเชิ้ตสีดำปลดกระดุมอวดแผงอกแกร่งกับยีนสีเข้มที่ก้าวผ่านประตูห้องโถงจัดเลี้ยงเข้ามา ตั้งใจให้สะดุดตาผู้คนโดยรอบที่สุดอยู่แล้ว แว่นกันแดดสีดำที่ดารานิยมใช้พรางตัวที่แท้แล้วหากสวมใส่ยามค่ำคืนก็กลับทำให้ไม่มีใครสามารถมองผ่านเขาไปได้แล้วไม่สังเกตเห็นโดยเด็ดขาด

“อ้าว...นายใหญ่มานั่นแล้ว จะไปทักทายเขาหน่อยไหมคะ” ปริมแต้มยิ้มเย้าคู่สนทนา

“ล่าสุดเห็นว่าข้ามไปเล่นหนังใหญ่ใช่ไหมครับ กลายเป็นพระเอกร้อยล้านไปแล้ว สาวๆ คงอยากวิ่งเข้าโชว์รูมของแอบโซลูตเจมส์กันเป็นทิวแถว เผื่อจะฟลุกได้เจอพระเอกขวัญใจบ้าง”

“ค่ะ เขาเป็นขวัญใจของผู้หญิงแบบนี้มานานแล้ว” ปริมยิ้มบางๆ

ทว่าสีหน้าของคู่สนทนากลับด้วยร่องรอยไม่สบายใจ “ชื่อเสียงของปัณณ์ซึ่งถือหุ้นใหญ่ทั้งยังพ่วงตำแหน่งกรรมการบริษัทดีกับแอบโซลูตเจมส์ก็จริง แต่คุณปริมก็รู้ว่าภาพลักษณ์เพลย์บอยแบบนี้ น่าจะส่งผลเสียมากกว่า ยิ่งเขามาร่วมงานในลักษณะนี้มันจะทำให้ผู้ถือหุ้นคนอื่นขัดเคืองใจได้ง่ายๆ คุณเองในฐานะที่เป็นหนังหน้าไฟ ต้องคอยดูแลผลประโยชน์แทนน้องชาย ก็จะพลอยต้องเดือดร้อนใจไปด้วยนะ”

ปริมหน้าเจื่อนมองตามสายตาของพีรพลไปยังเหตุการณ์ที่ปัณณ์กำลังโค้งน้อยๆ ให้สุภาพสตรีสาวสวยผู้หนึ่ง สีหน้าสองหนุ่มสาวที่ยิ้มแย้มให้กันชื่นมื่นจนราวโลกนี้เหลือกันเพียงสองคนเท่านั้นแล้วก็เริ่มคล้อยตาม

ทุกเหตุผลของพีรพลฟังขึ้นทั้งสิ้น แม้ปัณณ์จะไม่ได้บริหารบริษัท ทำหน้าที่แค่เข้ามาลงนามในเอกสารตามตำแหน่ง ‘ประธานกรรมการบริหาร’ ที่พี่น้องสกุลรัชนาถพร้อมใจกันโหวตให้เขาดำรงตำแหน่ง โดยทิ้งงานจริงๆ ให้เธอทำทั้งหมด คนในน่ะรู้ว่าเธอต่างหากคือผู้บริหารตัวจริง ขณะที่ปัณณ์เป็นแค่หุ่นเชิด แต่คนนอกที่ไม่รู้นี่สิ อาจจะมองภาพลักษณ์บริษัทตกต่ำได้

ปริมเขียนข้อความสั้นๆ ไปเตือนซูเปอร์สตาร์หนุ่มหล่อมิให้แสดงออกประเจิดประเจ้อนัก และอีกเพียงครู่ใหญ่ ปัณณ์ รัชนาถ ก็หายไปจากงานเลี้ยงนั้นเสียดื้อๆ

หญิงสาวมัวแต่เบาใจว่าบรรดานักข่าวคงไม่ทันได้กลิ่นความผิดปกติจนอาจกลายเป็นสาเหตุของพาดหัวใหญ่ในวันรุ่งขึ้น จนลืมสังเกตไปว่าสตรีร่างบางในชุดราตรีหรูที่พูดคุยอยู่กับปัณณ์เมื่อครู่ก็หายตัวไปด้วยเช่นกัน






‘พระเอกสุดฮอตเปลี่ยนคู่ควงกลางงานเลี้ยงฉลองความสำเร็จของแอบโซลูตเจมส์!’

ปริมอ่านพาดหัวข่าวบนหน้าหนังสือพิมพ์แล้วโยนกระดาษทั้งปึกลงบนโต๊ะโดยไม่ไยดีเนื้อหาข่าวด้านในสักนิด อาการทอดถอนใจถูกซ่อนไว้ทันทีที่ได้ยินเสียงฝีเท้าดังมาจากเบื้องหลัง ใบหน้างามรีบปั้นยิ้มไว้รอรับผู้ที่ก้าวมาสมทบยังห้องอาหาร

“อรุณสวัสดิ์ครับพี่ปริม ตื่นเช้าจัง ไม่เหนื่อยบ้างหรือไงครับนี่ เมื่อคืนกว่างานเลี้ยงจะเลิกก็ตั้งเกือบเที่ยงคืน” ปราชญ์ทักทาย แล้วหันไปพึมพำขอบใจเด็กรับใช้ที่นำกาแฟมาเสิร์ฟทันใจ

“ตื่นเช้าจนเคยเสียแล้วล่ะ เธอก็ตื่นเช้าเหมือนกันนะปราชญ์ วันนี้มีประชุมหรือ”

“ท่านรัฐมนตรีต่างหากมีประชุม แต่ในฐานะเลขาฯประจำตัวท่าน ผมเลยต้องไปสรุปรายละเอียดให้ท่านฟังก่อน”

“คุณวินัยสบายดีหรือ” ปริมถามลอยๆ หยิบแก้วกาแฟขึ้นมาจิบบ้าง

“ฮะ ท่านก็เหมือนเดิมนั่นแหละ อ่วมหน่อยก็ตรงที่พักนี้พวกนักข่าวพยายามโจมตีเรื่องโครงการยาสามัญประจำโรงเรียนเป็นพิเศษ”

“ฝากความระลึกถึงถึงท่าน แล้วก็คุณผกามาศด้วยนะ” ปริมยิ้มบางๆ ทำท่าจะปรามเมื่อเห็นเพื่อนร่วมโต๊ะอาหารหยิบหนังสือพิมพ์ขึ้นกาง แต่ก็ชะงัก...เปลี่ยนเป็นนิ่งดูปฏิกิริยาของเขาแทน

แทนที่ข่าวพาดหัวใหญ่จะเป็นเนื้อหาเกี่ยวเนื่องกับการฉลองความสำเร็จของแอบโซลูตเจมส์ บริษัทผู้ค้าอัญมณีที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ซึ่งปริมลงทุนกับงานเลี้ยงไปเกือบ ๕ ล้านบาท มันกลับถูกจับจองพื้นที่ไปโดยข่าวคาสโนวาแห่งยุคเปลี่ยนคู่ควงอีกครั้ง

ขณะข่าวงานเลี้ยงของบริษัทถูกร่นความสำคัญลงมาเป็นเพียงข่าวรองเท่านั้น

ปราชญ์ส่ายหน้า “ผมว่าคราวหน้าเราอย่าบังคับนายปัณณ์มาร่วมงานของบริษัทเลยดีกว่า ดูสิฮะ งานเลี้ยงที่พี่ปริมลงทุนไปตั้งหลายล้าน แทบจะสูญเปล่าโดยสิ้นเชิง”

“ไม่เป็นไรหรอกน่า ปัณณ์เขายังเด็ก พี่ไม่ถือหรอก แค่เขายอมมาร่วมงานของบริษัทพี่ก็ดีใจแล้ว ไม่อยากให้ใครลืมว่าพวกเธอเป็นเจ้าของแอบโซลูตเจมส์” ปริมเปรยเสียงอ่อน ส่ายหน้านิดๆ ระคนด้วยความเอ็นดูและระอาใจกับผู้ที่ถูกเอ่ยถึง

“เด็กที่ไหนกันฮะ ปีนี้นายปัณณ์อายุสามสิบสามเข้าไปแล้ว เขาควรจะกลับมาทำงานที่บริษัทมากกว่าไปตะลอนๆ ทำเรื่องไร้สาระอยู่ในวงการบันเทิงนั่น ขนาดเอกสารที่ต้องลงนาม พี่ปริมยังอ่านให้เขาทั้งหมด เขามีหน้าที่แค่เซ็นชื่อ แล้วก็รอรับเงินปันผลกำไรประจำปี ผมว่าพี่ปริมตามใจเขามากเกินไปแล้ว” ปราชญ์บ่น

“ไม่มีอะไรมากเกินไปหรือน้อยเกินไปหรอก ถ้าเป็นการทำเพื่อพวกเธอน่ะ” หญิงสาวยิ้มบางๆ

ปราชญ์พับหนังสือพิมพ์วางไว้บนโต๊ะ เขาดื่มกาแฟอีกครั้งแล้วเอื้อมตัวมาจูบแก้มพี่สาว

“ผมต้องไปทำงานแล้ว ถ้านายปัณณ์กลับมา ฝากทักทายเขาด้วยนะฮะ กู๊ดเดย์ครับพี่”

หญิงสาวให้หน้านิดๆ มองตามจนปราชญ์ลงบันไดหน้ามุกลับสายตาไป แล้วลุกขึ้นเดินไปดูโรงรถก็พบว่าช่องจอดของปัณณ์ว่างเปล่า ไม่มีวี่แววว่าน้องชายคนเล็กจะกลับบ้านมาให้เห็นหน้าเลย

เธอเม้มปากชั่งใจ แล้วสะบัดศีรษะขับไล่ความคิดบางอย่างออกจากใจ หยิบกระเป๋ามาคล้องข้อมือเตรียมตัวไปทำงานที่บริษัทบ้าง






“ปัณณ์ พ่อเจ้าประคุณทูนหัว รีบเสด็จมาที่ห้างได้แล้ว คุณมีคิวต้องขึ้นเวทีตอนบ่ายสามนะ พี่น่ะอกจะแตกอยู่แล้ว เจ้าของงานเดินมาถามแทบจะทุกห้านาที กลัวคุณเบี้ยวงานเขาน่ะ”

เสียงผู้จัดการส่วนตัวที่ดังมาจากกระบอกโทรศัพท์ทำให้ร่างสมส่วนตึงแน่นด้วยมัดกล้ามที่นอนแผ่เหยียดยาวอยู่กลางที่นอนต้องดึงโทรศัพท์ออกห่างจากหูทันควัน

“เฮ้ย! ใจเย็นฮะพี่ดา ผมได้ยินแล้ว ไม่ต้องตะคอกขนาดนั้นหรอก”

“ได้ยินแล้วก็ดี ลุกเดี๋ยวนี้ รู้หรือเปล่านี่มันเที่ยงแล้ว กว่าเธอจะออกจากบ้าน กว่าจะฝ่ารถติดมาถึงนี่ แล้วยังต้องแต่งหน้าแต่งตัวอีก โอย...พี่รับไม่ได้นะปัณณ์ อย่าทำแบบนี้กับพี่อีกเด็ดขาด”

“ครับผมๆ ไม่ต้องห่วง ผมรับรองว่าอีกสิบนาทีผมจะออกจากบ้านแน่นอน พี่ไม่ต้องห่วง” เขาตัดสายทันควัน แล้วหันไปเขย่าบ่าบอบบางของคนที่นอนอยู่ข้างๆ

“แพท ตื่นได้แล้ว” ดวงหน้าที่เคยตกแต่งด้วยเครื่องสำอางอย่างประณีต บัดนี้ซีดเผือด คราบมาสคาร่าที่เลอะตามขอบตาและอายไลเนอร์สีดำที่เปื้อนเป็นรอยคล้ำเน้นให้สีหน้านั้นแลน่ากลัวมากกว่าน่ามอง

“ปัณณ์ อีกสักรอบก่อนไปสิคะ” คนพูดยันตัวเท้าข้อศอก แล้วเลื่อนริมฝีปากไปตามแผงอกของชายหนุ่มอย่างรุกรานอีกด้วย

ปัณณ์ผลักหญิงสาวออกห่าง “ส่องกระจกดูหน้าตัวเองหน่อยก็ดีนะ จะได้รู้ว่าหน้าคุณตอนนี้มันไม่ได้ชวนพิศวาสเลยสักนิด”

ชายหนุ่มลุกขึ้นทั้งร่างกายเปลือยเปล่าไปหยิบกระเป๋าสตางค์ดึงธนบัตรปึกใหญ่ออกมาโยนให้เพื่อนหญิงบนเตียง แล้วดุ่มๆ เข้าไปในห้องน้ำเงียบๆ ไม่เอ่ยสิ่งใดสักคำ

คนบนที่นอนยักไหล่ ก้าวลงจากเตียงเหลือบตามองหาเสื้อราตรีตัวเมื่อคืนแล้วหยิบมาสวมโดยไม่สนใจว่ามันยับยู่ยี่เพียงใด ภัทรีมารวบผมให้เป็นหางม้าง่ายๆ แล้วมายืนหน้าโต๊ะเครื่องแป้งของชายหนุ่ม ความที่เขาเป็นนักแสดง ทำให้ต้องดูแลตัวเองเป็นพิเศษ ผู้เป็นแขกจึงต้องเบิกตากว้างด้วยความตื่นตาเมื่อเห็นเครื่องประทินผิวมากชนิดละลานตาตรงหน้า เธอหยิบหลายขวดขึ้นพิจารณาและต้องห่อปากด้วยความทึ่ง เมื่อจำได้ว่าครีมที่เห็นอยู่บนโต๊ะนั้น บางขวดราคาหลายหมื่น และแม้แต่ผู้หญิงอย่างเธอก็ยังไม่ใช้ด้วยซ้ำ

หญิงสาวใช้สำลีชุบน้ำยาเช็ดทำความสะอาดใบหน้า เหลือบมองสภาพยับยู่บนที่นอนแล้วแต้มยิ้มนิดๆ เธอชั่งใจนิดเดียวก่อนตัดสินใจทาลิปสติกสีแดงสด บรรจงประทับรอยจูบที่กระจกหน้าโต๊ะไว้ให้เจ้าของห้องเป็นที่ระลึก

ร่างบางระหงสวมรองเท้าส้นสูง แล้วเกี่ยวสายสะพายกระเป๋าย่องออกจากคอนโดมิเนียมหรูย่านลาดพร้าว โดยไม่ชายตาแยแสเงินทั้งปึกที่ถูกทิ้งดายไว้บนเตียงเลย

สำหรับเธอแล้ว...ค่ำคืนที่ผ่านมาช่างแสนวิเศษจนลืมไม่ลงก็ว่าได้ ไม่ใช่การได้ร่วมเตียงกับพระเอกชื่อดังยอดนักรักอันดับหนึ่งของเมืองไทยเท่านั้น แค่การที่เขาชายตามองเห็นเธอ...นั่นก็มากเกินกว่าจะเคยคิดฝันแล้ว

มิน่าเล่า สาวน้อยสาวใหญ่ที่เคยมีวาสนาได้ขึ้นห้องของปัณณ์ รัชนาถ ถึงพร้อมใจกันละเมอเพ้อหาอยากให้เขาชายตาแลเหลียวกลับมาที่ตนอีกสักครั้งก็ยังดี

ไม่เคยมีใครล้ำเส้นอยากได้อยากมีมากไปกว่าที่ได้รับแล้ว เพราะรู้ว่าหากใครทำให้ปัณณ์ไม่พอใจ อาจไม่มีอนาคตในวงการบันเทิงเหลือไว้ให้เดินอีก

เคยมีนักแสดงระดับนางเอกพยายามไล่จับปัณณ์มาแล้ว และผลก็คือจากนักแสดงแถวหน้าที่เคยมีผลงานไม่ขาดสาย ปัณณ์ใช้ทั้งชื่อเสียง อำนาจเงินและทุกสิ่งที่เขามีทั้งในฐานะนักแสดงชื่อดัง และไฮโซหนุ่มเนื้อหอม ทายาทคนเล็กของแอบโซลูตเจมส์ธุรกิจค้าอัญมณีอันดับหนึ่งของประเทศที่แสนร่ำรวย บีบผู้คนในวงการทุกระดับชั้น จนนางเอกคนดังกล่าวตกอับ และต้องหายไปจากวงการบันเทิงในที่สุด

แต่เธอไม่ใช่นักแสดงกระจอกพวกนั้น คนอย่างภัทรีมาไม่เคยต้องกลัวอิทธิพลของใคร และเงินก็ไม่ใช่ปัญหาของเธอเช่นกัน

ในเมื่อเขามีคุณสมบัติ รูปสมบัติ และทรัพย์สมบัติเท่าเทียมกับเธออย่างหาตัวจับยาก เพราะฉะนั้น...เธอไม่มีวันยอมปล่อยให้ผู้ชายคนนี้หลุดมือไปจากชีวิตง่ายๆ แน่นอน





การแสดงแบบเพื่อเปิดตัวโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่จบลงพร้อมกับที่ฝูงกระจอกข่าวเฮโลกันเข้ามาล้อมวงปัณณ์ รัชนาถ เพื่อขอสัมภาษณ์กันเป็นการใหญ่

ภาพที่เขาจูงไฮโซสาวกลับออกจากงานเลี้ยงของบริษัทพี่สาว เป็นประเด็นร้อนฉ่าที่สื่อทุกสำนักต่างก็ต้องการได้รายละเอียดเจาะลึกกันทั้งสิ้น

ชายหนุ่มแต้มยิ้มมุมปากอย่างเก๋ แล้วบอก “ผมอยากให้เกียรติเจ้าของงาน วันนี้ขออธิบายแต่เรื่องโทรศัพท์รุ่นใหม่เท่านั้น เรื่องส่วนตัวขอไม่พูดถึงนะครับ”

นั่นล่ะ...เหตุผลที่เจ้าของงานแย่งตัวเขากันเป็นจ้าละหวั่นแม้ต้องสู้ค่าตัวถึงหกหลักกลางๆ บ้างก็ถึงเจ็ดหลักสำหรับการเดินไปมาบนเวทีแค่ไม่ถึงชั่วโมง นอกจากเขาจะทำงานอย่างมืออาชีพแล้ว ชื่อเสียงของปัณณ์ยังดึงดูดสื่อมวลชนให้มาร่วมงานได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องอ้อนวอนเลยสักนิด

ผู้จัดการส่วนตัวของพระเอกหนุ่มเดินวนเวียนไปมาอยู่หลังเวทีด้วยความกลัดกลุ้มกังวล แม้จะมั่นใจว่าปัณณ์ใจเย็นกับนักข่าว แต่...บางทีเกิดพ่อคุณอารมณ์เสียขึ้นมา ทอร์นาโดก็ยังต้องชิดซ้าย คิดแล้ว...น่ากลัวน้อยอยู่เมื่อไร

ปัณณ์กลับเข้ามาหลังเวทีด้วยสีหน้ายิ้มแย้มทำให้คนที่ลุ้นอยู่โล่งอก ชายหนุ่มส่งโทรศัพท์มือถือราคาแพงให้กับผู้จัดการสาวใหญ่ “ผมยกให้ พี่ดาเอาไปเถอะ”

นอกจากค่าตัวแล้วบริษัทผู้จ้างยังมอบโทรศัพท์ให้เขาเป็นของแถมด้วย และปัณณ์ก็ไม่แยแส เขายกให้คนสนิทง่ายๆ โดยไม่อิดเอื้อนเสียดายเลย

“ปัณณ์ อาทิตย์หน้าเปิดกล้องละครเรื่องใหม่ที่เธอต้องเล่นกับยายแคเรนแล้ว พี่ย้ำอีกครั้งนะ ว่าอยากขอแรงเธอช่วยทำตัวเป็นข่าวรักโปรโมตกับยายนี่ พี่น่ะทั้งผลักทั้งดันจนหมดปัญญาแล้ว”

ปัณณ์ไม่พูดอะไร แต่สีหน้าบอกชัดว่าไม่พอใจ

“ถือซะว่าเมตตาน้องนะปัณณ์ ยังไงเราก็สังกัดเดียวกัน มีพี่เป็นผู้จัดการคนเดียวกัน ตกลงนะ”

“ไม่ตกลงครับ” ชายหนุ่มถอดเชิ้ตโยนพาดไว้ที่ราวแล้วหยิบเสื้อยืดคอโปโลสีเข้มของตนมาสวมดังเดิม เขาพนมมือทำความเคารพผู้จัดการส่วนตัว “วันนี้ไม่มีงานแล้ว งั้นผมกลับก่อนนะพี่”

“เดี๋ยวสิปัณณ์...” ดาลัดวิ่งตามออกมานอกประตู แต่ก็พบเพียงความว่างเปล่า ขณะกำลังจะหมุนตัวกลับไปในห้องแต่งตัว ก็พบสตรีนางหนึ่งยืนยิ้มหวานอยู่ตรงหน้า

“นี่ห้องแต่งตัวปัณณ์หรือเปล่าคะ”

“ใช่ เธอเป็นใคร” ในฐานะนักปั้นดารามือทอง ทั้งยังกินตำแหน่งจัดการส่วนตัวของพระเอกที่โด่งดังที่สุดแห่งยุคด้วย ทำให้ดาลัดค่อนข้างวางตัวยิ่งใหญ่ไม่กลัวใครหน้าไหนทั้งสิ้น

“ฉันชื่อภัทรีมา เป็นแฟนปัณณ์ค่ะ เขานัดฉันมาพบที่นี่”

และนั่นเป็นคำจำกัดความที่ดาลัดเกลียดที่สุด สาวใหญ่ชักสีหน้าทันที

“อ้อ...ไฮโซที่ปัณณ์หิ้วกลับคอนโดคนล่าสุดนั่นเอง”

“นี่! อย่ามาพูดจาดูถูกฉันนะ” ภัทรีมาชักสีหน้า

“ฉันพูดแบบดูไม่ผิดต่างหากย่ะ นอนกับเขาแค่คืนเดียว หล่อนเรียกตัวเองว่าเป็นแฟนเขาเลยเหรอ กล้านะยะ ฉันจะบอกอะไรให้นะ ปัณณ์ รัชนาถ ยังโสด ไม่มีแฟน แล้วเธอก็เป็นได้แค่ทางผ่านของเขาด้วย”

“ฉันไม่อยากคุยกับคุณให้เสียเวลา ไปเรียกปัณณ์มาซิ”

“เธอเป็นแฟนปัณณ์ประสาอะไรเนี่ย ถึงไม่รู้ว่า....” ดาลัดกำมือชูนิ้วโป้งขึ้นมาก่อน “ข้อหนึ่ง ฉันเป็นผู้จัดการส่วนตัวของเขา”

คนฟังชะงัก เสียงอ่อยไปเล็กน้อย “เอ้อ...เหรอ”

ทว่าสาวใหญ่ไม่ใส่ใจจะอธิบาย ยังคงเชิดหน้า เพิ่มนิ้วในมือขึ้นประกอบคำพูดขณะเอ่ยต่อ

“ข้อสอง...ปัณณ์กลับไปตั้งนานแล้ว ไม่ยักจะอยู่รอแฟนที่อ้างว่านัดกันไว้เนอะ ข้อสาม...ปัณณ์ไม่เคยเรียกหาใครซ้ำหน้า เพราะฉะนั้น...ฉันว่าเธอกลับไปนอนระลึกถึงความหลังแล้วเก็บไว้เป็นความทรงจำที่ดีดีกว่า เพราะโอกาสแบบนั้นมันคงไม่ย้อนกลับไปหาเธออีกแล้ว อ้อ...ข้อสุดท้ายฉันแนะนำให้นะ ด้วยความหวังดี...ฉันว่าเธอไปหาผู้ชายคนใหม่ง่ายกว่าเยอะ อย่าพยายามจับปัณณ์เลย เหนื่อยเปล่า เพราะเธอไม่ใช่คนแรกที่คิดอยากทำอย่างนี้ แล้วก็คงไม่ใช่คนสุดท้ายด้วยที่จะต้องผิดหวัง”

ภัทรีมาอ้าปากค้างมองตามผู้จัดการส่วนตัวของปัณณ์หมุนกายกลับเข้าไปในห้องแต่งตัว แล้วเมื่อได้สติก็เม้มปากแน่น ดวงตาวาวโรจน์ พึมพำกับตัวเองอย่างหมายมาด

“ให้มันรู้ไปสิ ว่าคนอย่างภัทรีมา อยากได้อะไรแล้วจะไม่ได้น่ะ”



สิริณ
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 1 ส.ค. 2555, 06:42:58 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 1 ส.ค. 2555, 06:46:13 น.

จำนวนการเข้าชม : 2918





   ตอนที่ ๒ >>
สิริณ 1 ส.ค. 2555, 06:49:33 น.
เอาเรื่องใหม่มาลงแล้วค่ะ
ฝากเนื้อฝากตัว ฝากติชม เช่นเคยนะคะ ^^

อ้อ...แจ้งเพื่อทราบค่ะ
บุหงาซ่อนกลิ่น จะใช้นามปากกา เวฬา ตอนตีพิมพ์ค่ะ ^^


minafiba 1 ส.ค. 2555, 07:30:38 น.
สนุกนะคะ รอตอนต่อไปค่า


Siang 1 ส.ค. 2555, 08:27:00 น.
น่าติดตามมากค่ะ


sai 1 ส.ค. 2555, 09:36:01 น.
มาลงชื่อติดตาม ตามติดด้วยคน^___^


imsoul 1 ส.ค. 2555, 10:34:44 น.
น่าสนใจคะ


ปอปู 1 ส.ค. 2555, 11:13:24 น.
สนุกจังอ่านแล้วชอบมาก


violette 2 ส.ค. 2555, 02:19:27 น.
กรี๊ดดดด ชอบพลอตแบบนี้ค่ะ น่าสนุกมาก
ปล.เอื้อมวิมาน(เราติดชื่อเก่าแฮะ) ผูกปมตอนจบดีมากเลยค่ะ ซื้อมาอ่านเรียบร้อยแล้ว สนุกมากเลยชอบตอนคลายปมมากๆค่ะ พระเอกเรามีเหตุผลและสติดีจังเลย


nunoi 2 ส.ค. 2555, 10:58:27 น.
ชอบๆๆ น่าติดตามมากกก


รอให้เป็นเล่ม 4 ส.ค. 2555, 16:14:09 น.
เป็นเล่มเมื่อไหร่ค้าาาา


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account