หนาวไฟพิศวาส
การพูดเล่นโดยไม่คิดถึงใจคนฟัง นำมาซึ่งความปวดร้าวสุดชีวิตให้กับชายสองคน คนที่ต้องสูญเสียคนรักไปตลอดการ ภูชิสะต้องการดับไฟแค้นของตัวเองด้วยการสั่งสอนให้มีนาได้รู้รสของความเจ็บปวด เขาต้องการเห็นหญิงคนนี้ตายตกตามไปกับน้องชายของเขา หากว่า มีนากลับต้องการทวงแค้นนั้นคืน หากว่า เธอกลับได้รับรู้ว่าทำไมภูชิสะจึงทำอย่างนั้นแม้เปลวไฟยังให้ความร้อนไม่ได้นอกจากยิ่งใกล้ ยิ่งหนาวนัก
Tags: แค้น แสน แค้น

ตอน: ตอนสุดท้ายแล้วค่ะ

ระหว่างทางที่จะไปคลินิกของสุภาพ ผ่านห้างสรรพสินค้าใหญ่เป็นอันดับหนึ่งของจังหวัด และในจังหวัดใกล้เคียง อาเสี่ยงยังมีหุ้นส่วนที่ทำห้างลดความใหญ่ลงมา ซึ่งนับได้ว่าสุภาพเป็นคนที่ประสบความสำเร็จทางด้านธุรกิจห้างสรรพสินค้าเป็นอันมากทีเดียว
ยุทธนารับสายโทรศัพท์ เมื่อโชว์เบอร์จึงเห็นว่าเป็นของกำธร เขารับสาย
“ครับพี่หมอ ว่าไงครับ ผมกำลังพาเมย์ไปหาครับ”
“มาที่โรงพยาบาลเลยนะ คนไข้แข่งกันท้องเยอะมาก ออกไปคลินิกไม่ได้เลยวันนี้ แต่รอหน่อยมาเข้าคิวก็แล้วกัน อย่าไปเอาเปรียบสังคม”
“ครับพี่ ผมจะไปบอกเจ้าหน้าที่ว่าเป็นคนไข้พี่หมอ”
“อืมม์ ขึ้นมาที่ห้องประกันสังคมได้เลย คงนานหน่อย ลงจากที่นี่มีเวรต่ออีก”
“ทำไมไม่ลาออกมาทำงานของตัวเองเลยล่ะครับ”
“เป็นหมอไปคิดรวยอย่างเดียวก็เสียหมาน่ะสิ แค่นี้นะต้อม”
“ครับ”ชายหนุ่มปิดสาย หันไปบอกคนรักว่า “คุณหมอให้เลยไปโรงพยาบาลไปตรวจที่นั่นแต่ออกมารับที่คลินิกวันหลัง ท่าทางคนไข้เยอะจริงครับ เขาว่าแข่งกันท้องเยอะ”ท้ายประโยคหยอกเมทินี ซึ่งได้รางวัลเป็นการทุบหนึ่งบึ้กที่ต้นขา
จากนั้นเมทินีรู้สึกห่วงน้องสาวที่จะต้องมาทนนั่งรอจึงได้แนะไปว่า
“มายจะลงไปที่ห้าง ก็ได้นะน้อง ท่าทางคิวยาว อย่าไปนั่งหลังแข็งที่นั่นเลย”
“มายไปหาพี่ภูที่ห้างก็ได้ค่ะพี่เมย์”
“ได้ช่องพอดี”พี่สาวประชดว่า “ต้อมรีบหาที่จอดหน่อยเดี๋ยวคุณน้องจะกระโดดลงไปหาสามีเสียก่อน”
“จ้างให้ก็ไม่โดด คืนนี้มีนัด”มีนามีหน้าทะเล้นใส่พี่สาว ซึ่งค้อนใส่
“เดี๋ยวเถอะได้ไหลออกมาก่อนกำหนดบ้างหรอไม่เว้นไม่วางเสียบ้าง”
ครานี้พี่เขยหันไปถามมีนาทันทีก่อนที่จะเลี้ยวรถเข้าไปจอดในห้าง
“เรื่องนี้ยังทำได้ใช่มั้ยคุณมาย”
มีนาหัวเราะขณะที่พี่สาวทุบตีสามีไม่ยั้งพลางดุเสียงอึง
“เรื่องนี้ล่ะชอบนักนะ อย่าหวังเลยว่าจะหยอดได้ถี่เหมือนก่อน”
หญิงสาวท้องแก่ หัวเราะคิกคัก สะพายกระเป๋าลงจากรถ เดินเข้าไปในห้างด้วยหัวใจที่เบิกบานยิ่งนัก ส่วนคนเป็นพี่สาว มองตามหลังน้องสาวไปพร้อมกับพึมพำ
“ไปหลงรักอะไรเจ้าคนนั้นนักก็ไม่รู้ ดูสิ โกรธจิ๊ดเดียวหายแล้ว”
“ชีวิตคนเราเอาแน่ไม่ได้หรอกครับคุณเมย์ ไม่ว่าหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ ความตายมันเกิดขึ้นได้ตลอด ทางที่ดีเราควรจะมีความสุข อย่าหาเรื่องทะเลาะกันเป็นดีที่สุดครับ จะได้ไม่มีใครมาเสียใจภายหลัง”
“นั่นสินะต้อม เมย์ก็ได้คิดเหมือนกันตอนรู้ว่าท้อง เมย์คิดว่าชีวิตคนเราเหมือนถูกลิขิตกันมาแล้วว่าต้องเป็นไปอย่างไร ดูอย่างเราสิ ถ้าคืนนั้นเมย์ไม่คิดประชดชีวิต เมย์ก็ไม่เจอกับต้อม หรือถ้าเมย์โชคร้ายถูกลิขิตมาให้เจอคนบ้าที่ไหนไม่รู้ ชีวิตเมย์คงดิ่งเหว”
“คิดอย่างนี้ต้องรักสามีให้มากไว้ครับคุณเมย์” ชายหนุ่มเลี้ยวเข้าหาตัวทันที เมทินีอิงแอบต้นแขนคนรัก พลางบอก
“เมย์รักคุณค่ะต้อม”
“ที่รัก” ชายหนุ่มเต็มตื้นในอก เลื่อนมือลงมากุมมือของอีกฝ่ายบางเบา แต่เต็มไปด้วยความรักที่สุดของหัวใจ

บนพื้นผิวโลก ซึ่งเต็มไปด้วยความไม่ราบเรียบใบนี้ ไม่มีอะไรที่เป็นความบังเอิญ เพราะทุกสิ่งทุกอย่างได้ถูกกำหนดไว้แล้ว จากสิ่งใดนั้นเล่า ที่ทำให้ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป และ ‘ความบังเอิญไม่มีในโลก’
ในห้างสรรพสินค้า
ชายร่างใหญ่เดินออกจากห้องของสุภาพหลังทานอาหารด้วยกันแล้ว อาเสี่ยมีงานยุ่งที่ต้องจัดการ ซึ่งห้องทำงานส่วนตัวของเสียสุภาพอยู่ชั้นสอง กั้นไว้เป็นส่วนตัว มียามเฝ้าดูแลความปลอดภัยเป็นอย่างดี
ภูชิสะเดินมาดูการแต่งร้านที่อาเสี่ยอวดนักหนาว่าดีมาก ชั้นสองเป็นผลิตภัณฑ์ผ้าจากร้านสินค้าต่างๆที่เข้ามาจองพื้นที่ห้างของเสี่ยสุภาพเต็มพื้นที่ เสื้อผ้าหรูหรา ล้วนเป็นของใช้ราคาแพง ซึ่งมีคนเดินซื้อหากันอย่างเนืองแน่น ซึ่งทางห้างและร้านค้าขยันทำโปรโมชั่นโดยที่เบื้องหลังแล้ว การค้าสินค้าเกรดเยี่ยมยังคงแพงเช่นเดิม ส่วนสินค้าที่พอนำมาลดได้ก็นำมาจัดรายการ ดังนั้นทางห้างและร้านค้าจึงไม่เสียกำไรอันเป็นกลยุทธ์ทางตลาดที่ดีอย่างหนึ่งทีเดียว
ขึ้นไปชั้นสาม จะเป็นของใช้ฟุ่มเฟือยเช่นเครื่องไฟฟ้า และเครื่องประดับหลากหลายชนิด ทั้งของนำเข้า หรือนำออกไปแล้วกลับเข้ามา ให้ดูมีราคามากกว่าทำเมืองไทยขายในไทย เรียกว่าตีแบรนด์นอก ทั้งที่ผลิตในไทย ซึ่งมีฝีมือยอดเยี่ยมอย่างที่ต่างชาติยอมรับมากกว่าผลิตจากจีนแดง หรือไต้หวัน และคุณภาพสมราคาซึ่งถูกแล้วจะหาดีได้สักแค่ไหน
“คุณใหญ่มาหาคุณภาพหรือคะ” ปรียาทักทาย คนร่างสูง วันนี้เธอสวมแว่นตาดำ เพื่อปิดบังรอยช้ำของการร้องไห้อย่างหนักเมื่อคืนนี้
ภูชิสะวางสีหน้าเรียบ พยักหน้ารับ ปรียาทำเหมือนไม่รู้ว่าชายหนุ่มต้องการห่าง เธอจึงเดินเข้ามาเกาะแขน พลางบอกว่า
“มาดูบูทใหม่ของปีก่อนค่ะ ปีจะขยายสาขาร้านเพชรทองมาไว้ที่นี่ มาช่วยเพื่อนคนนี้ดูหน่อยนะคะว่าแต่งร้านให้สมกับพื้นที่ค่อนข้างแพงยังไงดี” เธอกล่าวทีเล่นทีจริง เพื่อเรียกความสนิทสนมกลับคืนมา
เขาตามไปดูลานกว้างขนาดหกเมตร มีการตกแต่งร้านโดยช่างสามคน เป็นการวางเคาน์เตอร์กระจก และการทำประตูปิดเปิดเพื่อป้องกันสินค้ามากราคา
ปรียาถามตลอดเวลาบางครั้งยิ้มให้แก่กัน
ฝ่ายมีนาเดินมาในห้างและตั้งใจขึ้นไปชั้นสอง แต่เธออยากเข้าห้องน้ำก่อน ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาของหญิงครรภ์แก่มักจะใช้ห้องน้ำบ่อย เมื่อเข้าไปในห้องน้ำ แม่บ้านบอกอีกฝ่ายว่า ห้องน้ำชั้นสองเวลานี้ไม่สะดวกเพราะกระดาษหมด ให้ขึ้นมาใช้ชั้นสาว แนะนำว่าขึ้นบนบันไดจะใกล้ห้องน้ำกว่าใช้บันไดเลื่อน มีนาจึงได้ทำตามคำแนะนำนั้น ซึ่งหลังจากใช้ห้องน้ำชั้นสาว เป็นห้องเล็กมีเพียงสามห้อง และปลอดคนใช้
หลังจากออกมาแล้วเธอเปลี่ยนใจไม่ลงไปหาสุภาพแต่เดินดูเครื่องประดับ และคิดจะโทรเรียกภูชิสะให้มาหา หากว่า สายตาของเธอไปเห็นสองหนุ่มสาว ซึ่งเธอเพิ่งทำความเข้าใจกับชายหนุ่มร่างใหญ่ผู้เป็นสามีได้ แต่ภาพที่เห็นคือคำอธิบายว่าเขาไม่มีอะไรกันอย่างนั้นหรือ
ดูความสุขของพวกเขาด้วยหัวใจที่เงียบเหงาและเริ่มชินชา เธอรู้ทุกอย่างไม่ใช่ว่าไม่รู้ เขาแกล้งทำดีเพราะกลัวเธอทรยศหักหลัง
ผู้ชายทำอะไรกันบ้างนอกจากเป็นต้นเหตุให้ผู้หญิงหัวปั่น เขาจะได้รับผลอะไรในบั้นหลายกันหรือเปล่าหนอ!!
ปรียาเหลือบแลมาเห็นมีนาอย่างไม่ตั้งใจ หญิงสาวหยักยิ้มเยาะเย้ย ซบหน้ากับต้นแขนชายหนุ่ม ภูชิสะจับต้นแขนตัวเองเพื่อป้องกันการใกล้เกิน และทำให้สายตาของภูชิสะเหลือบแลมาเห็นมีนาพอดี หญิงสาวกำลังหันกายเดินหนีไปอย่างรวดเร็ว ภูชิสะปลดมือของปรียาออกอย่างแรง หมุนกายตามภรรยาพลางตระโกนเรียก
“มายเดี๋ยว อย่าเข้าใจผิดอย่างนั้น เดี๋ยวมาย”
เขาวิ่งตาม มีนายิ่งสาวเท้าเร็ววิ่งหนีไปทางบันได ที่เธอขึ้นมาใช้ห้องน้ำ หญิงสาวป้ายน้ำตาซึ่งร่วงรินลงมาดั่งเธอวิ่ง หนีเสียงทีเรียกตามหลังมา ราวกับว่านั่นเป็นเสียงของนักลวงโลกที่ตามมาหลอกลวงเธอได้ทุกเวลา
“มาย”
ยิ่งวิ่งมีนายิ่งขาดความระมัดระวัง เธอสะดุดเท้าตัวเอง แล้วจากนั้นร่างของเธอพลันเสียหลัก ทั้งที่มือเกาะราวบันได แต่กลับลื่น ร่างอวบอ้วนด้วยมีครรภ์ขูดลงไปตามขั้นบันได
“อันตราย มาย”ชายร่างใหญ่ร้องเสียงหลง ถลันไปหาร่างที่เขาวิ่งตามมา ได้เห็นภาพที่เขาตกใจอย่างยิ่ง ร่างหญิงที่เขารักหยุดนิ่งที่พื้นกระเบื้อง ภูชิสะวิ่งตามลงไปไม่นับขั้น ชุดคลุมท้องแม้เป็นสีน้ำเงินทึบ แต่ยังเห็นได้ชัดถึงเลือดซึมแดงฉาน เขาช้อนร่างเธอขึ้นสู่วงแขนรวดเร็ว ภูชิสะแหงนเงยเรียกหาผู้ที่อยู่ในอ้อมแขนคุ้มคลั่ง
“มาย” ภูชิสะกอดร่างแน่นิ่งนั้นแนบแน่นใจแทบขาดรอน แล้วชายหนุ่มได้คิดอย่างรวดเร็วว่าต้องพาอีกฝ่ายไปโรงพยาบาลโดยเร็ว ดังนั้นเข้าช้อนร่างซึ่งหายใจเนือยขึ้นสู่วงแขน
ปรียาวิ่งตามมาเห็นความเคราะห์ร้ายของหญิงซึ่งเป็นศัตรูหมายเลขหนึ่ง เลือดที่ไหลนองพื้นทำให้ปรียาอดคิดไปทางร้ายเสียไม่ได้ว่า หากอีกฝ่ายตายไปเสียได้ เธอจะไม่มีคู่แข่ง
ตาย ตายไปเสียได้ก็ดี
ชายหนุ่มวิ่งอุ้มร่างของมีนาผ่านคนหลายคน ซึ่งพากันดูด้วยความตกใจ พนักงานหลายคนรู้จักคนทั้งคู่ได้ดี ดังนั้นจึงรายงายไปที่สุภาพ สุภาพได้รับรู้แต่เพียงว่า มีนาตกเลือด ชายหนุ่มรีบตามออกมาดูเพื่อนรักทันที
ชายหนุ่มอุ้มมีนาเข้าไปในรถคันใหญ่ของเขา จากนั้นรีบวิ่งเข้าประจำที่คนขับ เขาจับศีรษะมีนาขึ้นหนุนตัก ปรียาเปิดประตูขึ้นทางข้างหลัง มิได้ช่วยอะไรสักอย่าง ปล่อยให้ชายหนุ่มตาลีตาลานจัดการเท่าที่นึกขึ้นได้ว่าต้องทำอย่างไร
ร่างใหญ่สตาร์ตเครื่องยนต์ออกไปจากห้าง กว่าอาเสี่ยจะมา ภูชิสะก็พามีนาไปแล้ว โดยที่มีปรียาตามไปด้วย เสี่ยสุภาพทิ้งงานด่วนทั้งหมดตามเพื่อนรักไปโรงพยาบาลทันที
ไม่มีอะไรยิ่งใหญ่ไปกว่าเรื่องความเป้นความตายของคนอีกแล้ว
ส่วนภูชิสะกดหมายเลขสายด่วนถึงหมอเพื่อนรัก กรอกเสียทันทีที่อีกฝ่ายรับสาย
“กำ แย่แล้ว แย่แล้ว”
“เป็นอะไร ใครตายวะใหญ่” ความที่เล่นจนเคยตัวทำให้หมอกำธรอุทานไปในสิ่งที่ไม่น่าฟัง และทำให้คนปลายสายฉุนเฉียวยิ่งนัก
“พ่อมึงสิตายไอ้กำ”
กำธรพึงได้คิด เขายิ้มแหย หันมามองคู่สามีภรรยา ซึ่งได้คิวเข้าพบหมอพอดี เมทินีมองหน้ายุทธนา ชายหนุ่มเอ่ยถามหมอกำธร เพราะได้ยินเรียกชื่อพี่ชายของเขาออกมา
“ คนชื่อใหญ่ ใช่พี่ผมหรือเปล่าครับ ใครเป็นอะไรหรือครับ””
หมอกำธรลุกพรวด ไม่ได้ตกใจต่อคำถามของยุทธนา แต่ตกต่อคำบอกเล่าของภูชิสะ เขาทวนคำออกมาให้สองหนุ่มสาวซึ่งกำลังจ้องมองมาที่หมอ ‘กำ’เป็นตาเดียว
“คุณมายตกบันได เป็นยังไงบ้างการหายใจของเธอเป็นยังไง ยังหายใจสม่ำเสมอใช่มั้ย”
“มาย มายตกบันไดหรือคะคุณหมอ” เมทินีถามเสียงหลง นั่งไม่ติด เช่นเดียวกับหมอกำธร ซึ่งเดินจ้ำอ้าวไม่วางโทรศัพท์แต่สั่งพยาบาลหน้าห้องทับไปว่า
“ผมมีเคสผ่าตัดด่วน ใช้เวลานานมาก แจ้งคนไข้ให้มาพบผมพรุ่งนี้ทั้งหมด นอกเวลางานก็ได้”สั่งแล้วเขากรอกเสียงใส่โทรศัพท์ไปว่า “มึงขับรถระวังหน่อยไอ้ใหญ่ อย่าเหาะมาเด็ดขาด โรงพยาบาลอยู่ใกล้แค่สิบนาทีถึง เออฉันจะเตรียมห้องไว้เลย”
“ไม่ต้องให้ใครมาซักถาม ไม่ต้องให้ใครมาขวางทาง ทันทีที่ถึงแกมารับมายเข้าห้องเลยนะ”
“เออ”
“แกอย่าช้านะหมอ มายเลือดออกมากเลย ไอ้เหี้ยเอ๊ย”
“มึงด่ากูทำไม กูก็เร่งแทบตายแล้วเนี่ย เร่งจนลืมลงลิฟต์ แม่...ง กูอยู่ชั้นสาม เสือกมาด่ากูอีก”
“ฉันด่ารถที่ขับตัดหน้า ไม่ได้ด่าแก เร็ว ฉันถึงหน้าโรงพยาบาลแล้ว”
ชายหนุ่มสองคนใช้สรรพนามแทนตัวด้วยความสับสน แต่ทั้งคู่ก็เข้าใจกันเป็นอย่างดี
ยุทธนาพาเมทินีลงลิฟต์จึงลงมาถึงก่อนกำธร หมอหนุ่มวิ่งลงบันไดไม่นับขั้น จากนั้นมาหอบตัวโยนสั่งเจ้าหน้าที่ให้เตรียมห้องฉุกเฉิน ซึ่งเป็นห้องเล็ก แบ่งไปในส่วนห้อง ห้องฉุกเฉินอีกที
หมอกำธรสั่ง และสั่งทีมช่วยเหลือคนไข้เคสพิเศษ เมื่อรถปาเจดรของภูชิสะมาจอดหน้าโรงพยาบาล ชายหนุ่มกระโจนลงจากรถลงมาก่อนใคร บุรุษพยาบาลเปิดประตูนำคนไข้ออกมา ร่างที่โชกเลือดทำให้เมทินีปิดปากร้องด้วยความตกใจสุดขีด
“มายน้องพี่ ทำไมล่ะมาย”
ร่างของมีนาโดนอุ้มมาวางลงบนเตียง ภูชิสะทำท่าจะตามมา แต่โดนยามให้ขับรถไปเก็บเสียก่อน เพราะขวางทางจราจร ชายหนุ่มจึงต้องทำหน้าที่อย่างเร่งร้อน ส่วนปรียาลงจากรถมายืนรอหนุ่มร่างใหญ่ เมทินีมองอีกฝ่ายเหมือนตัวประหลาด และเข้าใจคลาดเคลื่อนไปเกินจริง ดังนั้นหญิงร่างเล็กจึงตรงรี่ไปหาปรียา ตวาดเสียงดัง
“พวกแกทำอะไรมาย ต้องเป้นพวกแกแน่ที่ทำให้มายเคราะห์ร้ายอย่างนี้”
“ฉันไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น ฉันกับคุณใหญ่ก็อยู่ด้วยกันตามปกติ น้องเธอเองต่างหากที่ทำร้ายพวกเรา”
“แก นังสารเลว”เมทินีกระโจนเข้าใส่ปรียา แต่ยุทธนารีบคว้าร่างของเธอไว้ได้ทันท่วงที พลางย้ำเตือน
“คุณเมย์ อย่าครับ ไปดุคุณมายดีกว่า อย่าไปฟังอะไรที่ไร้สาระเลย อย่าไปเชื่อ”
“ไม่ให้เชื่อใครหรือต้อม เห็นหลักฐานอย่างนี้แล้ว พวกมันนัดกัน”เธอตะโกนกล่าวโทษเสียงลั่น เวลานั้น ภูชิสะเดินเข้ามาถึง หญิงสาวดิ้นหลุดจากการจับของคนรัก เธอกระโจนเข้าไปตบหน้าชายร่างสูงใหญ่ไม่นับได้
“ไอ้บ้า แกทำร้ายน้องฉันอย่างนี้ได้ยังไง ไอ้คนบ้า พวกแกรวมหัวกันทำร้ายน้องฉัน พวกแกเตรียมลงนรกได้แล้วไอ้คนบ้า”
ชายร่างใหญ่ไม่ตอบโต้เอาคืนอย่างเคย เขาเองต้องการที่จะให้ใครสักคนกล่าวโทษถึงความผิดของเขาที่ทำให้มีนาต้องเข้าใจผิดอย่างร้ายแรง ด้วยความเต็มตื้น ส่วนหมอกำธร ออกมาจากห้องฉุกเฉิน ด้วยชุดเตรียมพร้อมในการดำเนินการผ่าตัด
เขาได้เห็นเพื่อนยอมโดนตบตีโดยไม่ตอบโต้ ได้เห็นปรียายืนเกาะแขนไม่ปล่อย อะไรบางอย่างทำให้หมอกำธรเปิดปากออกไปว่า
“นาย ต้องเลือกแล้วภูชิสะ นายจะเลือกลูกหรือแม่”
“อ่ะ..อะไรนะกำ”เสียงของคนร่างใหญ่แหบโหย เมทินีเป็นฝ่ายเลือกแทนชายหนุ่มทันที
“เอาน้องฉันมา เอาเลือดชั่วนั้นไปเอาน้องฉันคืนมา ฉันไม่ให้ไอ้บ้าคนนี้เลือกเด็ดขาด มันต้องการให้น้องฉันตายแน่ แต่ฉันขอเลือกเอาเลือดชั่วของมันออกไปจากท้องน้องของฉัน ฉันเอาชีวิตน้องฉันคืน”
เมทินีกรีดร้อง พยาบาลนำใบยินยอมการให้การรักษามาให้ภูชิสะเซ็น แต่เมทินีไม่ยอม
“มันไม่มีอำนาจตามกฎหมาย ฉันจะเซ็นเอง ฉันเลือกน้องสาวฉัน”
แต่พยาบาลให้ภูชิสะในฐานะสามีตามที่แจ้งจากการฝากครรภ์และเป็นพ่อเด็ก เซ็นชื่อยินยอม เมทินีคุ้มคลั่งเกินปัญญาที่ใครจะจับได้ เจ้าหน้าที่พยาบาลต้องกรูกันเข้ามาจับ
“ฉันจะฆ่ามันต้อมปล่อย ๆ ฉัน ปล่อย” หมอฉีดยาระงับประสาทและความเจ็บปวดซึ่งออกฤทธิ์เร็ว เมทินีหมดฤทธิ์หลับลง
ร่างใหญ่ก้มหน้านิ่งใคร่ครวญและทบทวน ความปวดร้าวครอบงำทุกอณูเนื้อของร่างกาย เขาต้องสูญเสียลูก เพื่อแลกชีวิตภรรยา
“มาย อย่าเป็นอะไรนะ พี่รักเธอ พี่รักเธอ พี่จะอยู่ได้ยังไงถ้ามายต้องเป็นอะไรไป”
ยุทธนาแตะแขนพี่ชายเป็นการปลอบโยน เขาเดินไปมาระหว่างห้องฉุกเฉิน และห้องพักพิเศษ ซึ่งเมทินีโดนยาจนหลับสนิท
เหตุการณ์วันนี้เลวร้ายใคร ๆ ปักใจเชื่อ ภูชิสะทำร้ายมีนาจนตกเลือด ซึ่งชายร่างใหญ่ไม่ปริปากพูดอะไรออกมาจนแม้คำเดียวไม่มีคำแก้ตัว
ปรียาทำท่าจะนั่งลงข้างหายชายหนุ่ม แต่อีกฝ่ายเอ่ยออกมาอย่างเย็นชาว่า
“เราอย่าใกล้กันอีกเลยปี คุณกับผมไม่มีเรื่องอะไรที่ต้องใกล้กันอีกแล้วไม่ว่าจะโดยฐานะเพื่อนก็ตามที”
“ปีทำอะไรผิดหรือคะคุณใหญ่ คุณก็เห็นว่าปีไม่ได้ทำอะไรสักนิด”
“ผมไม่โทษใครนอกจากตัวเอง แต่ผมเลือกมายแล้ว และไม่ต้องการให้มายเข้าใจผิดอีกแล้ว ผมจะไม่ใกล้คุณ และไม่ยอมให้คุณเข้ามาใกล้ผมอีกแล้ว”
“คนใจร้ายทำไมใจร้ายอย่างนี้ ทั้งที่คุณก็เห็นว่าปีไม่ผิด”
ภูชิสะไม่กล่าวอะไรออกมาอีก นอกจากเดินหนีหญิงสาวไปยืนเกาะประตูกระจก ทอดตามองผ่านช่อบานปิดเปิดเพื่อให้เห็นภาพข้างใน ซึ่งไม่มีทางเห็นได้เลย
ปรียากัดริมฝีปากแน่น หมุนกายเดินจากชายร่างใหญ่ไป เธอสวนทางกับสุภาพ ซึ่งทำท่าจะทัก แต่หญิงสาวไม่ได้สนใจต่อสิ่งรอบข้าง เธอปาดเช็ดน้ำตาด้วยหลังมือ
เสี่ยสุภาพเดินไปหาเพื่อนจนเจอ เขาตบไหล่อีกฝ่ายเป็นเชิงปลอบใจ ความอุทธัจอัดแน่นในอกทำให้เขาสะอื้นไห้จนร่างใหญ่สั่นสะท้าน
“ไม่เป็นอะไรหรอก ต้องปลอดภัยทั้งแม่ทั้งลูกเชื่อฉัน”
“ขอบใจมากเพื่อน ฉันแย่จริงๆ ไม่ควรทำเรื่องให้เป็นเรื่องเลย”
“เอาน่า ถ้าคนเรารู้และระวังได้ทุกเรื่อง ความทุกข์มันคงไม่มีบนโลกนี้หรอก”
ภูชิสะรับฟังคำปลอบอย่างเงียบงัน ความทุกข์เกิดขึ้นกับคนแต่ละคนได้ทุกขณะจิต เพราะความทุกข์นั้นเป็นของคู่กับความสุขอย่างไม่อาจแยกกันได้ ดั่งพุทธวจนะที่ว่า
แม้แต่เราผู้เป็นเอกบุรุษของโลก เรายังไม่อาจแยกทุกข์หรือสุขออกจากกันได้ เว้นเสียแต่อย่ายินดียินร้ายต่อทุกข์หรือสุข ใจเราจึงสงบลงได้

เวลาแห่งการรอคอยซึ่งเต็มไปด้วยความหวัง ย่อมดูเนิ่นนาจนกว่าเวลาช่วงปกติ ทั้งที่เวลานั้นไม่เคยโกงใคร เพียงแต่ความคิด และอารมณ์ของคนเท่านั้นที่โกงตัวเอง
เมทินี ตื่นจากการหลับ ก็เอาแต่ร้องไห้ ซบหน้ากับฝ่ามือร้องไห้ไม่หยุด ยุทธนาซึ่งเข้ามาดูแลนานแล้วได้นั่งลงบนเตียง เพื่อปลอบโยนอีกฝ่าย หญิงสาวร้องคร่ำครวญ
“มาย มายตายแล้วใช่มั้ย มันตั้งใจตั้งแต่แรกแล้วนิ่ ไอ้คนใจยักษ์ใจมาร”
“พี่ใหญ่เลือกคุณมายครับคุณเมย์ เอาชีวิตคุณมายไว้”
“ไม่จริงมันอยากให้มายตาย”
“แต่คุณมายก็พ้นขีดอันตรายแล้วครับ เด็กก็รอด หมอกำธรช่วยได้ทัน”
“จริงหรือ จริงหรือต้อม”
“จริงสิครับคุณเมย์”
“อยากไปหามาย อยากไปดูหลาน อยากไปเร็วๆนะต้อม” เธอขยับกายจะลุกขึ้น หากแล้วกลับวิงเวียนศีรษะขึ้นมาอีก จึงต้องล้มตัวลงนอน เอ่ยอย่างหมดฤทธิ์ว่า
“ไปพรุ่งนี้ก็ได้ ยังไงมายก็ไม่เป็นอะไรแล้ว”
“ครับ แต่พี่ชายผมหน้าเห่อไปเพราะมือตบ ถามหน่อยเถอะ เจ็บมือบ้างมั้ยคุณเมย์”
“ถ้าเมย์เตะเป็นเมย์จะเตะแทนตบเชื่อเถอะ”
ยุทธนาฝืนยิ้มหมองๆ เพราะสงสารพี่ชายที่โดนทั้งขึ้นทั้งล่อง ว่าตัวเองผิด ป่านนี้ยังนั่งเฝ้าร่างที่หลับไม่รู้ตัวของมีนา และบางครั้ง ร่างใหญ่ไปดูลูกน้อยในตู้อบ ซึ่งคนเป็นพ่อถึงกับน้ำตาร่วงริน เพราะร่างเล็กๆมีเครื่องช่วยหายใจ และสายยางติดอยู่บนศีรษะบางๆของเขา
แม้ลูกจะอยู่ในสภาพหัวโตตัวเล็กแกร็น แต่ภูชิสะกลับรักสายเลือดของเขาอย่างเหลือเกิน และเขายิ่งห่วงใยภรรยามากขึ้นหลายเท่า ชายร่างใหญ่เวียนดูคนทั้งสองอย่างไม่อาจข่มตาให้หลับลงได้เลย
มีนาลืมมีความฝันอันยาวนาน เธอละเมอหาแต่คนที่ตัวเองห่วงใย พึมพำลอดริมฝีปากออกมาให้คนร่างใหญ๋ ซึ่งแวะเวียนมาเฝ้าดูแลอย่างไม่ยอมห่างด้วยความห่วงใยสุดซึ้ง เขาได้ยินเสียงเพ้อหา
“ลูกจ๋า ลูก ลูกแม่”
มือเรียวใหญ่เกาะกุมมือนุ่มขึ้นมาจูบแผ่วเบา สัมผัสอุ่นซึมผ่านผิวบอบบางของหญิงสาว ทำให้เธอรู้สึกตัว ลืมตาตื่นขึ้นมาทันใด
“มาย”ชายร่างใหญ่ส่งเสียงทักทายอด้วยความยินดี เมื่ออีกฝ่ายได้รู้สึกตัวขึ้นมาแล้ว หากว่าหญิงสาวรีบสะบัดมือให้พ้นการกุมมือของชายร่างใหญ่ทันที เธอตะเกียกตะกายจะลุกขึ้น จากเจ็บแผลที่หน้าท้องจนทำให้ต้องยกมือจับอย่างลืมตัว เสียงบอกเล่าผ่านริมฝีปากหนาว่า
“มายตกบันได แต่ว่า กำธรผ่าคลอดช่วยทั้งมายและลูกเราให้รอด เขาไม่เป็นอะไรมากแล้วแต่ว่า ต้องอยู่ตู้อบ”
หญิงสาวค่อยๆขยับกาย ภูชิสะเข้ามาประคองแต่เธอสะบัดพ้น ขับไล่อีกฝ่ายด้วยความรังเกียจเป็นที่สุด
“ไปให้พ้นนะ อย่ามาถูกตัวมาย”
“มาย”
“อย่ามาแตะต้องทั้งมายและลูกของมาย จะไปไหนก็ไป ไปสร้างรังรัก สร้างลูกอีกเป้นขโยงก็ไปเลย มายไม่สนใจอีกต่อไปแล้ว”
“ทำไมเป็นอย่างนี้ล่ะ มายเข้าใจผิดรู้มั้ย”
“จะเข้าใจอย่างไรก็เรื่องของมาย ไปให้พ้นหน้ามายเดี๋ยวนี้นะ”
ชายร่างใหญ่สะท้านใจเหมือนกับโนผีร้ายสักตัวมาหลอกหลอนโดยไม่ตั้งตัว เขาห่วงใยหญิงสาว หวังว่าเมื่ออีกฝ่ายได้ลืมตาตื่นมาแล้วจะประคองเธอไปหาลูกพร้อมกัน หากว่า วาจาที่ออกจากริมฝีปากคู่นั้นกลับเต็มไปด้วยความชิงชัง ไร้รอยแห่งความรักที่เคยมี
เขาผิดมากเลยหรือที่เรื่องเป็นอย่างนี้ เขาอยากให้เกิดขึ้นเมื่อไหร่กันเล่า แม้ใจคิดว่าไม่ผิด หากคนที่กำลังป่วยทั้งกายและใจคิดเช่นนั้นทำให้ภูชิสะตกที่นั่งจำยอมทุกอย่าง เขาเอ่ยเสียงเบาพลิ้วว่า
“พี่ขอโทษที่ทำให้มายเจ็บ แต่พี่รักมาย ไม่ได้มีใครอย่างที่มายเห็น”
“ไม่ฟัง ไม่ฟังทั้งนั้น” หญิงสาวปิดหูไม่ยอมรับฟังคำพูดของชายร่างใหญ่ ภูชิสะถอนใจยาว ด้วยความหนักใจไม่น้อยเลย
จะโทษผิดที่เธอเขาไม่อาจโทษได้ ในเมื่อเธอเห็นเต็มตาว่าเขายืนอยู่กับปรียา แม้จะในฐานะเพื่อนที่ไม่คิดอะไรเกินเลยแล้วก็ตามที ความรัก ทำให้เกิดการหึงหวง ไร้เหตุผล เขาคงต้องยอมรับ และหาทางงอนง้อแม่ของลูกเขาให้ได้โดยเร็ว ชายร่างใหญ่ให้กำลังใจตัวเอง

ปล.จะเข้าข้างใคร จะสมน้ำหน้า หรือเป้นกำลังใจให้พี่ภูได้ตามใจชอบนะคะ แต่ว่าอุบตอนจบเสียบหน่อยค่ะ ปีหน้าเจอกันนะคะ



นางแก้ว
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 20 ส.ค. 2555, 11:39:01 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 20 ส.ค. 2555, 11:44:07 น.

จำนวนการเข้าชม : 3954





<< ตั้งแง่แสนงอน   
เด็กหญิงม่อน 20 ส.ค. 2555, 13:55:42 น.
พี่ภูไม่เด็ดขาดเอง โทษใครไม่ได้เลย


goldensun 20 ส.ค. 2555, 14:52:54 น.
รู้ทั้งรู้ว่ามายระแวง ก็ยังทำ สมควรโดนแล้ว นายภู ปฎิเสธปีก็ไม่ขาด เหมือนยังหวังได้อยู่
คิดว่า ท้ายสุดก็อยู่ที่ลูก กับภูที่จะแสดงความมั่นคงให้มายเห็นได้แค่ไหน


นุช 20 ส.ค. 2555, 18:17:41 น.
เศ้ราอ่ะ กว่าจะได้อ่านปีหน้าเลยเหรอค่ะ แต่งต่อเลยไม่ดีเหรอค่ะ เดี๋ยวแต่งทีหลังต่อไม่ติดนะค่ะ (ทีจริงอยากอ่านต่อ อิ อิ)


นางแก้ว 20 ส.ค. 2555, 20:29:03 น.
ไม่ลงแล้วค่ะ รีไรท์ส่งแล้วน่าจะตีพิมพ์ปลายปีนี้หรือต้นปีหน้าค่ะ


nutcha 21 ส.ค. 2555, 11:27:37 น.
นายภูไม่เด็ดขาด ส่วนปีก็รู้อยู่แล้วที่ผ่านมานายภูก็ไม่ได้รัก


tutas 21 ส.ค. 2555, 14:23:05 น.
แงๆๆๆ คาใจค่ะ กว่าเล่มจะออก


Zephyr 22 ส.ค. 2555, 12:33:06 น.
ดูๆไปปีไม่ผิดร้อยเต็มแต่ก็มีส่วนนะ
ส่วนพี่ใหญ่ก็ทำตัวเอง ไม่เด็ดขาดเอง อ้ำๆอึ้งๆ
มายก็เข้าใจผิดคิดเอง แต่มันก็เคยมีเหตุ เฮ้อ สรุป ไม่ผิดกันหมด หรือผิดหมด
เอาใจช่วยลูกมายดีกว่า ส่วนยายปีเธอไปตามทางของเธอได้แล้วล่ะนะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account