หนาวไฟพิศวาส
การพูดเล่นโดยไม่คิดถึงใจคนฟัง นำมาซึ่งความปวดร้าวสุดชีวิตให้กับชายสองคน คนที่ต้องสูญเสียคนรักไปตลอดการ ภูชิสะต้องการดับไฟแค้นของตัวเองด้วยการสั่งสอนให้มีนาได้รู้รสของความเจ็บปวด เขาต้องการเห็นหญิงคนนี้ตายตกตามไปกับน้องชายของเขา หากว่า มีนากลับต้องการทวงแค้นนั้นคืน หากว่า เธอกลับได้รับรู้ว่าทำไมภูชิสะจึงทำอย่างนั้นแม้เปลวไฟยังให้ความร้อนไม่ได้นอกจากยิ่งใกล้ ยิ่งหนาวนัก
Tags: แค้น แสน แค้น

ตอน: ตั้งแง่แสนงอน

ทางด้านมีนา เมื่อปรียามาวางระเบิดอารมณ์ไว้ให้กับหญิงสาวได้กำแล้ว คนมีครรภ์จึงได้ระเบิดออกจริงตามที่อีกฝ่ายต้องการ ผู้ช่วยแม่บ้านต้องขึ้นมาช่วยมีนาขนของใช้ออกจากห้องของภูชิสะ กลับไปอยู่ห้องแรกของตนเอง นุ่มถามด้วยความกังวลว่า
“แล้วนายจะไม่โกรธหรือคะคุณมาย”
“ถ้าพูดมากนัก นุ่มก็เข้าไปนอนแทนไป”มีนาสวนกลับท่าทางหงุดหงิด ไม่พอใจ และพาลไปทุกเรื่อง
เธอโกรธ โกรธมากและ หวงทั้งตัว หวงทั้งลูกในท้อง ไม่อยากให้ภูชิสะเข้ามาต่อแขนต่อขาให้อีกแล้ว นับแต่นี้จนถึงวันคลอด เธอจะไม่ขอพูดกับชายคนนั้นอีกเลย หญิงสาวตั้งปณิธาน ซึ่งจะแรงกล้าเพียงใดนั้น คนในบ้านล้วนรออย่างกังวลไม่ใช่น้อยเลย

ตอนที่ 18 ตั้งแง่และงอน
กว่าจะขนของเสร็จเรียบร้อย มีนาเหงื่ออกจนชุ่มโชก ซึ่งเธอไม่ยอมนั่งรอให้สองสาวจัดทำ แต่เป็นคนลงมือนำเอง ดังนั้นกว่าจะเรียบร้อย เธอจึงเหนื่อยทีเดียว
“อาบน้ำก่อนดีมั้ยคะคุณมาย คนท้องอาบน้ำบ่อยๆอารมณ์จะผ่อนคลายหายหงุดหงิดค่ะ”
มีนาเห็นดีด้วย ส่วนแสนคำออกความคิดว่าจะลงไปยกอาหารกลางวันขึ้นมาให้หญิงสาว แต่อีกฝ่ายแสดงความดื้ออกมาว่าจะลงไปในครัวเอง เมื่อมีนาลงไปแล้ว แสนคำจึงเปรยกับรุ่นพี่ว่า
“ไม่เคยเห็นนายหญิงดื้ออย่างนี้เลยนะ”
“นี่ล่ะดื้อของแท้ดั้งเดิม บทดื้อแล้วไม่ต้องห่วง ดื้อสุดๆเลย”
“นายหนอนาย ไม่น่าหาเหามาใส่หัว ทีนี้ล่ะคันคะเยอแน่”
แสนคำเอ่ยออกมาอย่างเพิ่งนึกเห็นใจนายของตนเอง ต่อเมื่อเห็นความเอาจริงของหญิงสาว ที่เธอเห็นว่ายอมอีกฝ่ายมาตลอดนับแต่มาอยู่ที่นี่
รถของยุทธนาเข้ามาจอดยังโรงเก็บรถ แสนคำมารับหน้า พลางราบงานเสร็จสรรพว่า มีนาจะทานอาหารกลางวันที่ข้างล่าง ยุทธนาเลยบอกว่า ให้ขึ้นไปส่งยังเรือนบน จากนั้นนุ่มจึงช่วยแสนคำลำเลียงอาหารออกมา ระหว่างที่จัดวงอยู่นั้น นุ่มบอกเล่าให้เมทินีฟังเรื่องมีนาย้ายห้อง เมทินีจึงหัวเราะเบาๆ นั่งรอน้องสาวที่กำลังอาบน้ำ และสนทนากับสามีไปพลาง
“งานเข้าไม่น้อยแล้วลองย้ายห้องอย่างนี้”
“พี่ใหญ่บอกว่าคุณมายไม่ยอมฟังพี่ใหญ่เลยครับ”
“สมน้ำหน้าแล้ว โดนดีซะมั่ง”
“คุณเมย์ละก็ อย่าใจร้ายกับพี่ผมนักเลย เขาเคยอดข้าวเสียทีไหน เห็นตัวโตไม่ใช่ล้มไม่เป็นนะครับ”

มีนาออกมาแต่งกายใหม่ เธอเลือกใส่ชุดคลุมท้องสีทึบ แทนสีหวานที่เคยชอบ เพราะพาลไปถึงคนซื้อมาให้ เมื่อหญิงสาวออกมาภายนอกจึงได้เห็นพี่สาว และพี่เขยตามพฤตินัยนั่งรอทานอาหารกลางวันที่โต๊ะชานเรือน บังแดดและฝน หญิงสาวเกรงใจคนทั้งสองจึงไม่งอแงที่จะดึงดันลงไปทานข้าวที่ครัวข้างล้าง จากนั้นจึงมานั่งร่วมวงด้วย
“พี่เมย์สวัสดีค่ะสวัสดีค่ะคุณต้อม”หญิงสาวยกมือไหว้ทั้งสองคน ยุทธนารีบรับไหว้พลางบ่น
“แล้วพี่ใหญ่จะมีฐานะอะไรกับผมล่ะทีนี้”
“ฐานะพี่ของคุณต้อมไง แต่ไม่ได้มีอะไรกับมายแล้วนี่”หญิงสาวบอกอย่างตั้งแง่ ทำให้พี่สาวยั่วว่า
“ไงมาย เมื่อกี้ ได้ข่าวจากนุ่มว่าย้ายของกันเลยหรือ ย้ายกลับบ้านเราดีมั้ย” เมทินียั่วน้อง แต่คนข้างกายใจหายวาบ รีบสะกิดเมียเตือนไปว่า
“ไปพูดอะไรอย่างนั้นคุณเมย์”
เมทินีหัวเราะกับการหวั่นวิตกไม่เลิกของคนรัก และได้ยินมีนาปฏิเสธว่า
“มาย ไม่อยากเสียคำพูดกับคนมากเล่ห์ร้อยเหลี่ยม มายยังกลับไม่ได้หรอกค่ะ”
“ตามใจ ยังไงถ้าทนไม่ไหวก็ไปบ้านพี่นะ บ้านพี่ ซึ่งเคยเป็นของต้อมมาก่อน”
ครานี้น้องสาวหัวเราะเสียงใสอารมณ์ดีขึ้นมาทันทีทีเดียว
“มาทานข้าวกันก่อน ใครทำข้าวมันให้ล่ะ นุ่มล่ะสิ นุ่มเขาทำข้าวมัน ส้มตำมะขามปลาย่างอร่อยมากเชียว”
คนจารนัยน้ำลายสอ ยุทธนารีบเอาใจด้วยการตักอาหารใส่จานให้ภรรยาและน้องเมีย ซึ่งเขาคงจะยุ่งยากใจในการนับญาติในวันข้างหน้ามากทีเดียว
มีนาตักข้าวมัน ซึ่งหุงได้สวยมาก กลิ่นหอมของน้ำกะทิและใบเตยส่งกลิ่นยั่วน้ำลายมากทีเดียว ส่วนส้มตำมะละกอหน้าตาแปลกกว่าปกติที่เห็นกันทั่วไป คือส้มตำสูตรนี้ใช้มะขามสดแทนมะนาวและมะขามเปียก เมื่อใส่เคล้ากับปลาย่าง รสชาติออกมาดีมากเมื่อทานร่วมกันกับข้าวมัน ซึ่งหุงด้วยข้าวหอมมะลิ กับหัวกระทิทำให้เกิดความมันและหวานในตัว อาหารชนิดนี้เป็นสูตรโบราณ ที่แม่ครัวต้องพิถีพิถันทำด้วยใจรัก เพราะยุ่งยากไม่น้อยในการที่จะต้องหุงข้าวมันให้เป็นหากใจร้อนข้าวอาจดิบหรือไหม้ ต้องหมั่นดู หลังจากข้าวสุกแล้วต้องคนให้ทั่วหม้อก่อนดงข้าวด้วยไฟอ่อน การหุงข้าวมันต้องใช้เตาถ่าน จึงจะได้ดังใจ
ระหว่างทานอาหาร เมทินีเอ่ยว่า
“เมื่อตอนสายๆมีผู้หญิงไปอ้างตัวว่าเป็นอะไรกับเจ้านั่น มาอ้างกับพี่ด้วยนะ”
“เขาจะเป็นคู่พ่อคู่แม่ของแท้ค่ะพี่เมย์”มีนาตอบกลับอย่างขุ่นใจ “มาหามายแล้วก็บอกว่าจะท้องด้วย”
คนกลางอย่างยุทธนาได้รับฟังแล้วถึงกับอึ้งไปต่อการกระทำของปรียา ซึ่งมายุทั้งที่บ้านและไปยุต่อที่โรงงาน การกระทำเช่นนี้ราวกับว่าหญิงสาวกำลังใช้กลยุทธ์ ให้แตกแยก โดยที่พี่ชายไม่รู้ ถ้าสองพี่น้องไม่พูด
เช่นนั้นอาการป่วยเมื่อคืนนี้คงจะเป็นข้ออ้างที่ทำให้มีนาระแวง และได้ผลชะงัด เพราะชายหนุ่มเห็นความโกรธอย่างมุ่งมั่นว่าไม่มีทางดีด้วยง่ายจากอีกฝ่าย ยุทธนาเริ่มเห็นใจพี่ชาย เพราะความมีน้ำใจที่เขามีต่อเพื่อนเก่าอย่างปรียากลายเป็นน้ำกรดกลับมารดใจตัวเองเสียแล้ว
“ผมว่า คุณปีเธอคงอยากจะเอาชนะครับ เธอถึง...”ยุทธนากล่าวไม่ทันจบ มีนาสวนออกมาทันทีด้วยท่าทางรั้นทีเดียว
“ให้ชนะไปเถอะค่ะ มายเหนื่อยเหลือเกิน เมื่อคืนก็หายกันไปทั้งคืน ไปสร้างสายเลือดตามที่ปรียาบอกนั่นล่ะ มายไม่อยากร้องไห้อีกแล้ว สงสารลูก”กล่าวพลางคนที่ท่าแข็ง แต่กับใจอ่อน น้ำตารื้นขังขอบออกมาอีก
“นี่เจ้าคนนั้นไปหาผู้หญิงนั่นตอนกลางคืนด้วยหรือ”
“ค่ะไปเมื่อคืนนี้ กลับมาเช้า”
เมทินีตวัดสายตาฉับไปทางยุทธนา ด้วยสายตาแทบจะเป็นใบมีดปาดคอชายหนุ่ม ซึ่งเขารีบบอกแทนพี่ชายว่า
“พี่ใหญ่เล่าให้ฟังว่าคุณปีเธอป่วย โทรมาตามให้พาไปโรงพยาบาล และพี่ผมก็บอกว่าไม่มีอะไรนอกเหนือจากนั้นครับ”
เมทินีเชื่ออย่างสนิทใจต่อคำบอกเล่าของชายคนรัก แต่มีนาไม่เชื่อ และยิ่งไม่อยากเชื่อด้วยปรียาเข้ามากระพือไฟเข้าใส่ให้เธอรู้สึกร้อนจนทนไม่ได้
หญิงผู้พี่กุมมือน้องสาวพลางปลอบว่า
“พี่ว่าเจ้านั่นคงจะหลงกล ยัยคนนั้นเหมือนกันนะมาย เพราะ ผู้หญิงคนนั้นแอบมาใส่ไฟให้มายฟังที่บ้าน แล้วก็ไปพูดให้พี่เดือดที่โรงงาน แต่ว่าใช้วิธีแอบทำ ไม่ให้เจ้าคนนั้นรู้ ถ้าเป้นอย่างที่ผู้หญิงคนนั้นพูด พวกเขาไม่จำเป็นต้องแอบเราก็ได้นี่ ในเมื่อมายก็รับรองแข็งขันเสียขนาดนี้ว่าจะให้ลูกในท้องกับเขา”
มีนานิ่งอึ้ง เงียบงันไปในทันที
“ผู้หญิงที่ตีกันเพราะผู้ชาย เกิดมาจากความหวงและคิดอยากชนะ พี่ว่า ผู้หญิงคนนั้นไม่เคยชนะเจ้าคนนั้นเลย เธอถึงทำด้วยมารยาสารพัดอย่างนี้”
หญิงท้องแก่อดคิดไปถึงวันที่ปรียาจากไปจากที่นี่ เธอยังเอ่ยฝากไว้ว่า ภูชิสะกำลังหลอกลวง จริงเท็จอย่างไร เธอจะเอาข้อไหนมาพิสูจน์กันเล่า ตราบใดที่การเชื่อมโยงของคนทั้งสองยังมีให้เห็น และเธอยังมีสายเลือดอยู่ในท้อง
หรือต้องรอจนกว่าลูกเธอคลอดออกมาจึงจะได้เห็นธาตุแท้ของคน
“ต้องมีเหตุผลนะน้อง” เมทินีเตือนน้องสาว ซึ่งพยักหน้ารับ เธอดื้อ แต่เป็นคนรับผิดชอบต่อการกระทำเสมอ
“เขาบอกอะไรมายหรือเปล่า”
“เอ”น้องสาวตะกุกตะกัก สีหน้าสลดลงไป ก่อนจะยอมรับ “พี่ภูอยากบอกอะไรสักอย่าง แต่มายโกรธ ไม่อยากฟังค่ะ”
“แล้วก็ขนย้ายอะไรต่ออะไรกลับห้อง เหมือนตอนที่คิดจะหนีมาล้างแค้นก็มาอย่างนั้นเลยนะ” เมทินีตีกระทบน้องสาว เพื่อให้รู้จักจำต่อการกระทำบุ่มบ่ามเสียบ้าง
“ค่ะพี่เมย์ แต่ว่ามาย ขออยู่อย่างนี้ไปก่อน”
ยุทธนารีบเอ่ยแทรกออกมาว่า
“ไม่โทรหาพี่ใหญ่สักหน่อยหรือครับ ก่อนหน้าที่ผมจะมา พี่ใหญ่บ่นหิวข้าวมากเลยครับ สงสัยทานไม่ลง”
“เรื่องนั้นเอาไว้ก่อนก็ได้นะมาย ให้สำนึกซะบ้าง” เมทินีกลับแนะน้องสาวไปอีกอย่าง จากนั้นจึงถามแสนคำว่ามีมะยมหรือผลไม้เปรี้ยวอะไรบ้าง แสนคำบอกมีมะกอกฝรั่ง กำลังออกผล
“แสนไปเก็บให้ก็ได้ค่ะคุณเมย์ไม่ค่อยเปรี้ยวเท่าไหร่”
“เอามาโดยไวเลยนะ อยากกินจังเลย” เธอพูดไปสูดปากไปเพื่อไม่ให้น้ำลายไหลออกมา มีนายิ้ม แต่นุ่มปากไวเอ่ยว่า
“ท้องบ้างล่ะสิคุณเมย์”
“คงอย่างนั้นมั้ง นี่ว่ามาเยี่ยมมายแล้วจะชวนเขาไปหาหมอด้วยเลย” เธอหันไปทางน้องสาว เอ่ยชวน “มายไปเป็นเพื่อนพี่หน่อยนะ เอ่อพี่จะไปหาหมอกำธร
“ได้สิคะพี่เมย์ ดีใจจังเลยนะคะที่พี่เมย์จะมีลูก ให้น่ารักเหมือนคุณต้อมนะคะอย่าขี้บ่นเหมือนพี่เมย์”
นุ่มรีบว่าคนท้อง
“คุณมายขา คนกำลังท้องห้ามว่าใครนะคะเดี๋ยวเข้าตัวเอง”
“อ้าวเหรอ งั้นไม่ว่าไม่ว่าแล้วค่ะ มีเมย์น่ารักมากมาก ไม่ขี้บ่นสักนิด”หญิงสาวกลับลำ อารมณ์สดชื่นขึ้นมามาก ซึ่งเกิดจากความเข้าใจภูชิสะมากขึ้น
เสียงโทรศัพท์เรียกเข้าดังมาที่มีนา หญิงสาวหยิบมากดรับ เสียงอ่อนดังมาว่า
“หายโกรธหรือยังคนดี”
“พี่ภูหรือคะ”เธอย้อนถามเสียงหวาน ก่อนจะแสร้งทำดุ “แล้วออกไปทำไมล่ะเมื่อคืนนี้ ไปหาคู่ขาเก่าด้วยนี่”
“โธ่ที่รัก เขาไม่สบาย แล้วปีก็ไม่มีเพื่อนที่ไหนพ่อแม่ก็ไม่มี พี่จะไม่ไปดูเขาได้ยังไง จะให้เจ้าภาพหรือนายกำไปก็ใช่ที่”
“อ๋อพี่ภูจึงเป็นหมอเสียเอง แล้วฉีดให้เขาไปกี่ครั้งกันล่ะ” หญิงมี่ครรภ์ประชดเสียงเขียว
ครานี้ภูชิสะหัวเราะมาตามสายกับคำว่าครั้งแทนคำว่าเข็ม
“ไม่ฉีดให้สักเข็มหรือครั้งเลย เก็บไว้ให้มายมาตลอดเลยนะตั้งแต่มีมาย”
มีนาผุดลบุกออกจากวงทานข้าว เพื่อไปสนทนากับสามีผ่านทางโทรศัพท์เพราะเธอรู้ว่าประโยคต่อไปนั้นบุคคลที่สามไม่ควรได้ยินเมื่ออกมาห่างพอควรแล้ว ปลายสายท้วงมาว่า
“ทำไมเงียบล่ะ ไม่เชื่อใจพี่หรือไง”
“เกือบไม่เชื่อแล้วล่ะค่ะ แต่ก็อยากเชื่อขึ้นมาอีกว่าพี่ภูอาจจะรักมายขึ้นมาบ้าง”
“รักแทบแย่แล้วทูนหัว รู้มั้ยว่าเมื่อเช้าถ้าจับปล้ำได้พี่จะปล้ำให้สาใจทีเดียว แต่ว่า กลัวเมียช้ำ ต้องรีบออกจากบ้าน ทั้งที่หิวข้าวแทบแย่ หิวเมียก็มากไม่น้อย สองหิวเลยนะ”
“คืนนี้จัดให้ค่ะ แกล้มอะไรดีคะ”
“แกล้มเมียก่อน แล้วค่อยแก้มกุ้ง หอย ปู ปลา หรือปู ปลา กุ้งไม่ต้องก็ได้เอาแต่”
“อิ๊ว...”มีนาทำเสียงใสตอบกลับไป ซึ่งหากมีนาได้เห็นภาพจะได้พบชายหนุ่มทำป้องปากกลัวใครได้ยินคำสนทนาทั้งที่อยู่ในห้องทำงานของสุภาพตามลำพัง โดยที่อาเสี่ยผู้เป็นเพื่อน เข้าห้องน้ำ และเสียงลอดของเสี่ยสุภาพดังลอดเข้ามาให้ได้ยินว่า
“เย็นนี้เอายำหอยแครงเป็นกับแกล้มดีกว่าว่ะใหญ่ เปรี้ยวปากอยากกินหอย”
“เออ ตามใจ”
“แล้วเมื่อกี้ทำไมต้องทำท่าเหมือนขโมยโทรศัพท์คนอื่นคุย เอ๊ะ หรือแกเซ็กโฟนกับเมีย”
“ไอ้หอยหลอด ฉันแค่คุยกันเท่านั้น” เสียภูชิสะดังลอดเข้าสาย “เดี๋ยวเย็นนี้ไม่ต้องสังสรรค์”
“หาโอกาสฟันเมใยแต่วันว่างั้น”
“ไอ้บ้ากาม”
“แกด่าตัวเองหรือไง” สุภาพย้อน ภูชิสะรู้ว่าเสียงดังเหมือนฟ้าร้องของเพื่อนคงจะลอดไปให้มีนาได้ยิน เขาจึงบอกลาอีกฝ่าย
“เย็นนี้เจอกันนะมาย มีไอ้ภาพไปให้รกตาเราด้วย ยำหอยสารพักอย่างไว้ให้มันด้วยนะมาย มันจะได้เลิกด่าคนอื่น เอาหอยปิดปากมันซะเลย” กล่าวจบเขาปิดทิ้ง
มีนาหัวเราะชอบใจ เดินกลับมาที่พี่สาว ซึ่งกำลังนั่งมองสองผู้ช่วยแม่บ้านช่วยกันปอกมะกอกลูกใหญ่ เม็ดในมีเสี้ยนยาวๆ เนื้อเหลืองกรอบน่ารับประทาน มีนาอดที่จะแย่งพี่สาวชิมไปด้วยไม่ได้
ยุทธนาเห็นสองสาวทานของเปรี้ยวอย่างน่าอร่อยเขาจึงลองลิ้มดูบ้าง และกลายเป็นว่า ชายหนุ่มทานไปมากกว่าสองสาวอีก
“คุณต้อมแพ้แทนเมียหรือคะ” นุ่มล้ออีกฝ่าย ซึ่งเรื่องหารแพ้ หรือไม่แพ้ท้องแทนเมียหรือแทนใคร
“สู่รู้ทุกเรื่องเชียวนะนุ่ม” เมทินีต่อว่าแม่บ้านของตน นุ่มจึงอ้างขึ้นมาว่า
“นุ่มเคยเห็นคนข้างบ้านเขามีลูกดกมาก ผู้ชายเขาจะอาเจียนและกินแต่ของเปรี้ยวหวานแทนคนเป็นเมียค่ะ ยิ่งปีโน้น นุ่มเพิ่งโตเป็นสาว เห็นน้าผู้ชายคนที่ว่าลุกดกนี่ละ เมียแกท้องลูกคนที่สาม แกปีนยอดหมากไปเก็บหมากกิน หมากก็แพง แม่แกเลยด่าว่ามาแย่งหมากแกกิน แพ้ท้องแทนอะไรไม่ว่าดันมาแพ้อยากกินหมาก นุ่มเลยเป้นครูพักลักจำได้รู้เรื่องดีๆมามากค่ะคุณเมย์”
แม่บ้านคนโสดอธิบายยาวยืด ซึ่งทำให้ยุทธนาเริ่มสงสัยตัวเองเช่นกัน เพราะเขาไม่เคยบอกใครให้ต้องเป็นห่วง เพราะว่าเขารู้สึกเวียนหัวทุกเช้ามาเป็นเวลาเจ็ดวันเข้านี่แล้ว
แล้วอาการแพ้ท้องแทนกันนี่จะรักษายังไงกันเล่าหว่า!! ชายหนุ่มคนดีเก็บเอามาคิดโดยไม่กล้าบอกใครให้อับอายขายหน้า



นางแก้ว
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 16 ส.ค. 2555, 13:54:42 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 16 ส.ค. 2555, 13:54:42 น.

จำนวนการเข้าชม : 2866





<< สื่อสาร   ตอนสุดท้ายแล้วค่ะ >>
นางแก้ว 16 ส.ค. 2555, 13:59:16 น.
เปลี่ยนชื่อพี่เมย์ค่ะ


tutas 16 ส.ค. 2555, 14:53:14 น.
ถึงว่าค่ะ งงๆ ตอนอ่านชื่อพี่เมย์


Zephyr 16 ส.ค. 2555, 16:48:03 น.
อ่านะ จะแก้ทำไมล่ะต้อม แพ้แทนเมียนี่เค้าว่ากันว่ารักมากเลยไม่อยากให้ลำบากนี่นา จะได้เอาไว้คุยอวดลูกไง
พี่ใหญ่ก็ดูจะเคลียร์ง่ายไปมั้ยนะ


mhengjhy 16 ส.ค. 2555, 18:01:09 น.
ดีจัง กลัวจะเข้าใจผิดเป็นเรื่องใหญ่โต


นุช 16 ส.ค. 2555, 18:57:47 น.
พี่ภูทำอะไรไม่คิด น่าจะโดนมากกว่านี้สักหน่อย


เด็กหญิงม่อน 16 ส.ค. 2555, 19:14:01 น.
คุณใหญ่ง้อสำเร็จแล้ว เย้ๆ


nutcha 16 ส.ค. 2555, 22:09:02 น.
น้านซิตอนอ่านก็งงอยู่ว่าเมทินีมาจากไหน


คิมหันตุ์ 16 ส.ค. 2555, 22:14:34 น.
คุณต้อมน่ารักอีกแล้ว...แพ้ท้องแทนเมีย
ปล. ไอ่เราก็ว่า ทำไมชื่อคุณเมย์เปลี่ยนไป อิอิ


แพม 17 ส.ค. 2555, 22:01:55 น.
อืม...ต้องมีสติ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account