รักวุ่นวายนิยายผีบอก
หงส์ทอง นึกถึง หญิงสาวอายุสามสิบพอดิบพอดีในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2012 ที่ผ่านมา เธอเป็นหญิงสาวที่อาจจะดุสวย แต่ก็ไม่สวย ใบหน้ารูปไข่แสนจะธรรมดา อาจจะมีสิวสาวผุดขึ้นบ้างเมื่อนอนดึกหรือเคร่งเครียด ดวงตากลมโตสดใส และเรียวคิ้วโก่งน่าจะเป็นส่วนที่เด่นที่สุดบนใบหน้าของเธอ จมูกเล็กๆไม่ได้โด่งเวอร์นั้นก็รับกับใบหน้าตาแบบบ้านๆของเธอได้ดี ยิ่งริมฝีปากกว้างๆเวลายิ้มแทบเห็นฟันทั้งปากยิ่งทำให้ใบหน้านั้นดูทะเล้นมากกว่าสวยเซ็กซี่เป็นยิ้มบันลือโลกเหมือน จูเลีย โรเบิร์ต และทรงผมที่ฮิตตลอดกาลเช่นบ๊อบสั้นนั้นเธอก็ไว้ทรงนี้มาตั้งแต่สมัย ม.ต้นจนอายุสามสิบไม่เคยคิดเปลี่ยน เพราะมันเป็นทรงที่เธอค้นพบว่ามันเหมาะกับตนเองมากที่สุด
ช้าง ชยพล ชัยชนะ ชายหนุ่มอายุสามสิบห้าปี เจ้าของร้านอินเตอร์เน็ต และเจ้าของรีสอร์ตแสนสวย “บ้านอิงดาว” หนุ่มหล่อปากร้ายใจดีกับทุกคนยกเว้นเธอ ชายหนุ่มมองเธอเป็นเพียงรุ่นน้องปากเสียที่มาใช้บริการร้านอินเตอร์เน็ตของตน และเป็นคู่กัดกันมาตั้งแต่สมัยเรียนร่วมสถาบัน
อิงดาว งามจันทร์ แฟนสาวของ ชยพล นักเขียนนิยายอิสระ นามปากกา อิงดารา ที่ผลงานของเธอกำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในเวลานี้ แต่เธอเสียชีวิตด้วยโรคประจำตัวในวัยอันน้อยนิดเพียงยี่สิบสองปีเท่านั้น และที่สำคัญเธอกำลังไปได้สวยกับการเป็นนักเขียนอิสระ เธอได้สร้างเว็บไซด์นิยายของตนเองเพื่อลงผลงานให้แฟนคลับของเธอได้ติดตามผลงานแต่เมื่อเธอมาเสียชีวิตเสียก่อนทำให้วิญญาณของเธอผูกพันกับแฟนคลับและผลงานนิยายของตน
ทิมมี่ ทินวัฒน์ จักริชจานนท์ หนุ่มหน้าตี๋ เพื่อนชายหัวใจสาว เพื่อนสนิทของหงส์ทอง แม้ร่างกายจะสูงใหญ่ไหล่กว้าง ดูมาดแมนทุกกระเบียดนิ้ว แต่ไม่มีใครรู้ว่าเขานิยมรักเพศเดียวกัน แม้แต่บิดามารดาของเขาเอง ครอบครัวของเขาจะเปิดกิจการร้านซ่อมตกแต่งเครื่องเสียงรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ที่มีชื่อเสียงที่สุดในจังหวัด เขาเป็นเพื่อนรักและเป็นคนเพียงคนเดียวที่คอยอยู่เคียงข้างเธอแม้ในวันที่เธอไม่มีใคร

Tags: ผีน่ารัก น่าหยิก ฮา และหวานแหว

ตอน: บทนำ....

บทนำ...แรกเริ่ม
ประเทศไทยในยามฤดูร้อนนั้นร้อนมากจนความร้อนแทบจะทะลุองศาเดือดเลยทีเดียวยิ่งเป็นช่วงเดือนเมษายนด้วยแล้วนับว่าเป็นช่วงที่ร้อนที่สุดก็ว่าได้ แต่ปัจจุบันไม่ว่าเดือนไหนๆ ของไทยก็ร้อนแดดแผดเผามันเสียทุกเดือน
ร่างเล็กบอบบางปราดเปรียวของหญิงสาวคนหนึ่งกำลังขับรถจักรยานยนต์ Zusuki RC100 คันเล็กๆ สีสดใสที่เป็นการตกแต่งด้วยช่างฝีมือดีซึ่งเป็นเพื่อนรักของเธอ ทิมมี่ หรือ ทินวัฒน์ จักริชจานนท์ แห่งจักริชมอร์เตอร์ ศูนย์ซ่อมและตกแต่งรถยนต์และรถจักรายานยนต์ชื่อดังของอำเภอเล็กๆ แห่งนี้แต่ด้วยฝีมือช่างที่ยอดเยี่ยมและอัธยาศัยอันดีของผู้เป็นเจ้าของทำให้มีรถจากในตัวเมืองหรือจากอำเภอใกล้เคียงมาใช้บริการของศูนย์แห่งนี้ไม่ขาดสาย และชื่อเสียงด้านฝีมือช่างและความมีอัธยาศัยที่ดีของคุณจักริช และคุณธนิสา จักริชจานนท์ ผู้เป็นบิดาและมารดาของเพื่อนรักนั้นก็เป็นที่กล่าวถึงจนแม้แต่คนต่างจังหวัดหลายๆ คนต่างก็เลือกที่จะมาใช้บริการของที่นี่
ปัจจุบันร้านซ่อมที่เมื่อเกือบสิบปีที่แล้วเป็นเพียงร้านเล็กๆ ที่อยู่นอกสายตาผู้ดีมีเงินทั้งหลายมองผ่านและไม่เคยอยู่ในสายตา บัดนี้กลายเป็นร้านใหญ่โตและมีลูกค้ามากมายจนต้องจ้างช่างเครื่องยนต์ที่มีฝีมือดี และจ้างพนักงานในส่วนแผนกต่างๆ เพิ่มขึ้น ทำให้ร้านซ่อมขนาดเล็กขยับขยายกลายเป็นศูนย์ซ่อมและตกแต่งไปโดยปริยายและกลายเป็นสถานที่สร้างรายได้ให้คนในชุมชนอีกด้วย เพราะใครๆ ก็อยากเข้ามาทำงานกับ เฮียจักรและเจ๊สา กันแทบทุกคนเพราะที่นี่ให้ค่าตอบแทนค่อนข้างสูงสำหรับช่างซ่อมที่มีฝีมือและมีสวัสดิการทุกอย่างที่ดีให้กับพนักงานทุกคน
“ว่าไงทิมมี่ จะไปกินหมูกระทะเหรอ”
เสียงเล็กๆ นั้นถามปลายสายเมื่อเธอจอดรถเลียบทางเท้าเพื่อคุยโทรศัพท์หลังจากแรงสั่นสะเทือนสั่นแล้วสั่นอีกจนเธอต้องจอดรถรับโทรศัพท์ยิ่งเมื่อเห็นเบอร์ที่ปรากฏเธอยิ่งต้องรีบรับ

“อ๋อได้ๆๆ นี่เลิกงานแล้วเสร็จแล้วแกไปร้านเน็ตกับฉันรึเปล่าล่ะ โอเคแล้วเจอกันที่ร้านเดิมนะ”

เมื่อตกลงกับเพื่อนรักแล้วหญิงสาวก็ขี่จักรยานยนต์คันโปรดไปยังที่นัดพบทันที หงส์ทองนั้นทำงานเป็นฝ่ายธุรการและดูแลในเรื่องการตลาด ในโรงงานผลิตกล่องกระดาษ “ธีรสา” ซึ่งเป็นโรงงานของน้าสาวเธอเองนั้น โรงงานผลิตกล่องกระดาษแห่งนี้เป็นโรงงานขนาดเล็กและทำกันเฉพาะครอบครัวของน้าสาว แต่โรงงานแห่งนี้ก็มีงานเข้ามาตลอดอย่างไม่เคยขาดมือเลยทีเดียว ด้วยฝีมือการออกแบบรูปแบบกล่องและลวดลายที่งดงามอีกทั้งยังมีรูปแบบทันสมัย แปลกตาและแปลกใหม่ ให้ลูกค้านำไปใช้ใส่หีบห่อบรรจุภัณฑ์ต่างๆ ได้หลากหลายและฝีมือการออกแบบทั้งรูปแบบกล่อง และลวดลายที่งดงามนั้นก็คือ หยดเทียน สาวน้อยวัยยี่สิบลูกสาวของน้าสาวเธอนั่นเอง

หญิงสาวจอดรถไว้ที่ลานจอดรถสำหรับจักรยานยนต์ แล้วก็รีบก้าวเข้าไปในร้านด้วยความหิว และเมื่อไปถึงก็พบเพื่อนรักนั่งหน้าตูมอยู่กับสาวน้อยร่างบางหน้าตาจิ้มลิ้มอยู่ในร้านหมูกระทะชื่อดังของอำเภอ
ทินวัฒน์ นั้นเป็นชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ใบหน้าขาวสะอาดนั้นประดับด้วยดวงตาเรียวเล็กบ่งบอกเชื้อสายของชนชาวจีนแต่ก็ไม่ได้เล็กตี๋ ทว่ามันเรียวยาวและคมเข้มมากกว่า จมูกโด่งสวยรับกับริมฝีปากรูปกระจับสีชมพูอ่อนๆ จนหญิงสาวบางคนยังอายไม่เว้นแม้แต่กับเธอที่แอบอิจฉาเพื่อนรักที่มีริมฝีปากสวยน่าจุมพิตถึงเพียงนี้

“มานานแล้วเหรอแก แหมเร็วจริงๆ เพิ่งวางสายเองนะนี่” หญิงสาวทักเพื่อนรักและยิ้มให้สาวน้อยที่นั่งตรงข้ามเพื่อนรัก

“สวัสดีจ๊ะหนูนา” หนูหนา หรือ สรินนา เกียรติ์ก้องเกรียงไกร บุตรสาวคนสวยเพียงคนเดียวของนักการเมืองท้องถิ่นและนักธุรกิจใหญ่ประจำอำเภอเล็กๆ แห่งนี้และบิดาของเธอ สส.สุวัฒน์ เกียรติ์ก้องเกรียงไกร ก็เป็นผู้ทรงอิทธิพลด้วยที่สุดด้วย

“หวัดดีค่ะพี่หงส์ สบายดีนะคะ” สาวน้อยทักทายอย่างเสียไม่ได้ และค่อนข้างไว้ตัวแต่ก็เก็บอาการไม่มิดเพราะดวงตาเรียวเล็กแบบสาวหมวยเหลือบมองเธอเหยียดๆ ราวกับเธอและหญิงสาวผู้มาใหม่นั้นอยู่คนละชนชั้นกัน

“เอ่อ ทิม ฉันไปตักอาหารก่อนนะแก หิวจนไส้จะขาดแล้ว วันนี้หนังสือเข้าเยอะมากๆ” ว่าแล้วก็ไม่รอให้เพื่อนรักทักท้วงร่างบางก็เดินดุ่มๆ ไปตักอาหารที่ทางร้านจัดไว้เป็นแบบบุฟเฟต์อย่างค่อนข้างขุ่นเคืองระคนหิว

“โธ่เอ๊ยยัยเด็กบ้า คิดว่าตัวเองสวยนักรึไงวะแต่งตัวยังกะดาวยั่ว โคโยตี้ยังอายมานั่งกินหมูกะทะเนี่ยนะ คิดได้ไงวะ หิวๆๆ โว้ย” หญิงสาวตักกุ้ง และปลาหมึกของโปรดใส่จานไปปากก็บ่นงึมงำๆ ไปด้วยความโมโหหิว

“โอ๊ย ไรวะ” หญิงสาวอุทานออกมาเสียงค่อนข้างดังเมื่อมีใครคนหนึ่งเดินมาชนเธอโครมใหญ่ทำให้จนอาหารในมือลอยกระเด็น อาหารตกพื้นกระจัดกระจาย หงส์ทองหันไปยังต้นเรื่องด้วยดวงตาวาววับเตรียมเอาเรื่องคนชนเธอเต็มที่

“นี่คุณ...” แล้วเสียงใสก็จุกแน่นอยู่ในลำคอจนเจ็บแน่นตีบตันเมื่อเห็นหน้าคู่กรณีชัดแจ๋วในระยะเผาขน

“ไอ้พี่ช้างน้ำ” / “ยัยหงส์ปีกหัก” สองหนุ่มสาวพูดขึ้นพร้อมกัน และก็ต่างจ้องหน้ากันนิ่ง แววตาวับวาวด้วยความเกรี้ยวกรุ่นในอารมณ์โดยเฉพาะหญิงสาวที่ทั้งหิวและโมโห เหมือนวันนี้เป็นวันซวยของเธอเจอยัยเด็กปากร้ายจอมหยิ่งยังไม่พอ ยังจะมาเจอคู่ปรับเก่าที่กินกันไม่ลงอย่าง ชยพล ชัยชนะ คนนี้อีกด้วย

“เอ่อไม่เป็นไรใช่ไหมแก” เสียงเพื่อนรักดังขึ้นและช่วยพยุงร่างเล็กๆ ของเธอที่นั่งพับอยู่บนพื้นพร้อมกับทั้งปลาหมึกทั้งกุ้งกระจัดกระจายเต็มพื้นที่ หญิงสาวลุกตามแรงดึงของเพื่อนรัก และทินวัฒน์เองก็ช่วยพัดเศษฝุ่นให้เธออย่างอ่อนโยนผิดกับรูปร่างสูงใหญ่และผิดกับที่ปฏิบัติต่อสาวน้อยที่มาด้วยมากมาย ทำให้สรินนามองหญิงสาวรุ่นที่ที่ในสายตาเธอนั้น หงส์ทองแสนจะกะโปโลและโลว์คลาสสิ้นดีด้วยความริษยา

“เป็นอะไรมากรึเปล่าคะคุณช้างขา” เสียงที่ดัดจนหวานหยดของเจ้าของร้านสาวประเภทสองที่ปรี่มาเกาะแขนแข็งแรงของชายหนุ่มหล่อล่ำน่าปล้ำน่ากอดอย่างชยพล เจ้าของรีสอร์ตแสนสวย บ้านอิงดาว อย่างเร็วรี่จนน่าแปลกใจเมื่อเห็นร่างที่แสนจะทั้งตันทั้งหนาของเธอ

“พี่แอริณ คะคนที่พี่แอริณควรจะถามว่าเป็นไรไหมคือหงส์นะคะไม่ใช่อีตาช้างน้ำนี่ คนอะไรตัวใหญ่ยังกับช้างแถมยังซุ่มซ่ามเดินชนคนอื่นทีกระเด็นไปสิบเมตร” หงส์ทองพูดขึ้นอย่างฉุนเฉียวกับเจ้าของร้านคนสวยที่แม้ตัวจะเป็นสาวประเภทสองร่างใหญ่ไหล่หนาแบบหน้าตารูปร่างไม่ให้แต่ใจรักและเธอก็พยายามทำสวยมาตลอดนามว่า “พี่แอริณคนสวย” ที่กำลังทำหน้าสวยสุดฤทธิ์

“ว้าย...น้องหงส์จ๋าไปพูดแบบนี้กับคุณช้างสุดหล่อได้ไงล่ะจ๊ะน่าตีจริงๆ เลยเด็กคนนี้ ไปๆๆ เลยไปนั่งโต๊ะตัวเองเลยเดี๋ยวตรงนี้พี่แอริณคนสวยให้เด็กๆ มาจัดการ”

“แต่พี่แอริณคะ” หญิงสาวทำท่าจะค้านและไม่จบโดยมีสายตาคมเข้มของชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ที่แม้ว่าพี่แอริณคนสวยของเธอจะเป็นสาวที่ค่อนข้างจะสูงมากอยู่ยังสูงแค่ระดับปลายจมูกคมของชายหนุ่มนามว่า “พี่ช้างน้ำ” ซึ่งเธอใช้เรียกชยพลมาตั้งแต่สมัยเรียนร่วมสถาบัน

“ไม่ต้องพูด ทิมพาเพื่อนเธอไปนั่งโต๊ะไป วันนี้เจ้ให้กินฟรีทั้งสองคน ส่วนยัยคุณหนูตูดหมูนั่นเจ้คิดเพิ่มสองเท่า” พี่แอริณพูดกับหญิงสาวและเพื่อนรักอย่างใจดีเพราะคุ้นเคยกันมานาน พลางบุ้ยใบ้และแอบก้มมากระซิบกับเธอทั้งๆ ที่ยังไม่ปล่อยมือจากลำแขนแกร่งของชายหนุ่มที่ยืนหน้าบอกบุญไม่รับกรรมก็ไม่รับอยู่ข้างๆ

“จริงเหรอเจ้ งั้นหงส์ไปตักกุ้งกับหมึกใหม่ละกัน ไปทิมเราไปกันเถอะอยู่ตรงนี้นานๆ เดี๋ยวกินอะไรไม่ลง” หญิงสาวลากเสียงอย่างดีใจพร้อมกับเปิดยิ้มกว้างจนตาหยีพลางจับจูงเพื่อนรักไปยังบาร์ที่จัดเตรียมอาหารไว้สำหรับบริการลูกค้าที่ตอนนี้เริ่มหนาตาขึ้นมากเพราะบรรยากาศยามค่ำในวันนี้อากาศไม่ร้อนลมก็พัดเย็นสบายเพราะร้านของแอริณนั้นปลูกสร้างติดริมน้ำ ดังนั้นจึงมีลมเย็นๆ พัดเอาไอระเหยจากน้ำและละอองน้ำพุที่ทางร้านทำขึ้นกลางบึงบัวหลวงที่สรรค์สร้างด้วยความคิดของพี่แอริณคนสวย ทั้งบรรยากาศที่ดี ร้านสวยสะอาดน่าเข้ามานั่งรับประทานหมูกะทะที่รสชาดอร่อยล้ำด้วยน้ำจิ้มรสเด็ด อีกทั้งใครที่พาลูกหลานมาด้วยก็พลอยให้เด็กๆ ได้ดูบึงบัว และมีสนามเด็กเล่นเล็กๆ ที่ปลอดภัยอีกด้วย นับว่าพี่แอริณเข้าใจหาของมาหลอกเด็กเพื่อให้พ่อแม่ได้รับประทานอย่างมีความสุข เด็กๆ ได้สนุกและอิ่มท้องอีกด้วย

“ยัยตะกละเห็นแก่กิน สงสัยพยาธิเยอะกินเหมือนยัดนุ่นหุ่นยังกับไม้เสียบตูดไก่” เสียงห้าวๆ ดังตามหลังหญิงสาวที่กำลังเดินไปทำให้เท้าบางชะงักกึก และพี่แอริณก็เห็นว่าคู่ปรับคู่กัดที่เขาล่ำลือกันว่ากัดกันมันหยดกำลังจะเปิดศึกจึงทั้งดึงทั้งรั้งร่างสูงใหญ่ของหนุ่มหล่อในใจเธอไปยังโต๊ะที่ชายหนุ่มนั่งอยู่ก่อน และที่โต๊ะนั้นก็มีสาวน้อยน่ารักหน้าตาจิ้มลิ้มนั่งส่งยิ้มแป้นมาให้เธอจนตาหยี

“ว้าว พี่แอริณ วันนี้มาบริการลูกค้าถึงที่โต๊ะเลยเหรอคะ” อิงดาว งามจันทร์ สาวน้อยวัยยี่สิบสองปีส่งยิ้มทักทายและถามสาวสวยอย่างคนอารมณ์ดี สาวน้อยใบหน้าเรียวสวยดวงตากลมโตสุกใส รับกับจมูกโด่งเชิดงดงามโดยไม่ต้องพึ่งมีดหมอ และริมฝีปากบางสวยที่ค่อนข้างซีดเซียวไปบ้างเพราะโรคประจำตัวที่รุมเร้าทำให้เธอถูกเก็บให้อยู่แต่ในบ้านและถูกประคบประหงม จากบิดามารดาซึ่งเป็นอาจารย์สอนในมหาวิทยาลัยมีชื่อแห่งหนึ่ง และเธอเองก็มีฐานะเป็นคู่หมั้นของ ชยพลด้วยแต่ข่าวการหมั้นหมายของเธอจะมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้

“ค่าาา แหม คนดังอย่างคุณช้างมาเยี่ยมร้านอันต่ำต้อยของพี่แอรินคนสวย (เป็นคำที่เธอมักพ่วงท้ายชื่อของตัวเองเสมอเพื่อความมั่นใจ) ทั้งทีก็ต้องบริการเป็นพิเศษหน่อยสิคะคุณหนูดาว” แอริณตอบแล้วยิ้มให้สาวน้อยน่ารักพร้อมกับนั่งลงข้างชายหนุ่มพลางเรียกพนักงานในร้านมาและสั่งให้พนักงานตักอาหารมาให้ทั้งสองด้วยความเต็มใจเป็นที่สุด

“พี่แอริณก็พูดเกินไปครับ ผมก็แค่อดีตนายทหารกระจอกๆ เท่านั้นแหละครับ” ชยพล อดีตผู้กองหนุ่มแห่งกองทัพไทยเอ่ยยิ้มๆ รับคำนั้น เขาเคยรับราชการทหารอยู่ชั่วระยะเวลาหนึ่ง แต่ด้วยทางครอบครัวของเขามีกิจการที่ต้องการการดูแล และสืบทอด อีกทั้งน้องชายของเขาก็ออกเรือนไปพร้อมกับช่วยงานของภรรยาทำให้บิดามารของเขาไม่มีใครช่วยงานจึงทั้งขอร้องทั้งอ้อนวอนเขาให้ออกจากราชการมาช่วยงานที่โรงงานแปรรูปผลไม้ส่งออก สวนผลไม้นับพันไร่ และรีสอร์ต แสนสวย “บ้านอิงอาว” และหลังจากที่บิดาเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจอย่างกะทันหันเมื่อเจ็ดปีก่อนทำให้เขายินดีที่ออกจากราชการมาควบคุมดูแลงานทั้งหมดของครอบครัว
นอกจากดูแลควบคุมโรงงานแปรรูปผลไม้ส่งออกที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดแล้ว ชยพลยังคงต้องดูแลสวนผลไม้เกือบพันไร่ของตนเองกับพนักงานอีกเกือบพันคน และยังต้องดูแลรีสอร์ตแสนสวยที่เป็นความฝันของมารดาด้วย เพราะมารดาของเขาคือคุณ ชญาดานั้นชื่นชอบธรรมชาติ ป่าเขาและสายน้ำเป็นที่สุด

และที่ผืนนั้นที่ปลูกสร้างรีสอร์ตชื่อดังที่สุดในอำเภอเล็กๆ แห่งนี้และอาจจดังที่สุดในจังหวัดหรือในประเทศด้วยนั้นก็เป็นที่รู้จักและมีนักท่องเที่ยวมาพักกันไม่ขาดสาย และยังได้รับการติต่อขอใช้สถานที่ของรีสอร์ตเป็นฉากในภาพยนตร์และละครโทรทัศน์แล้วหลายเรื่องอีกด้วย

รีสอร์ตแสนสวยที่แวดล้อมด้วยป่าไพรที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์เขียวขจี และสายน้ำสายเล็กๆ ที่หล่อเลี้ยงชีวิตของผู้คนในแถบนี้ ก็เป็นที่ที่นางได้สร้างรีสอร์ตของตนขึ้นมาโดยใช้ชื่อ บ้านอิงดาว เพราะนางหมายมั่นปั้นมือที่จะให้บุตรชายคนโตของนางที่ยังคงลอยไปลอยมาได้ลงเอยกับสาวน้อยลูกสาวของเพื่อนรักที่นางเลือกให้อีกทั้งสุขภาพที่อ่อนแอของอิงดาวก็ต้องการผู้ดูและและอากาศที่บริสุทธิ์ และนางเองก็เอ็นดูสาวน้อยไม่ต่างจากบุตรของตนอยู่แล้ว
ดังนั้น ชายหนุ่มที่มีรูปร่างสูงใหญ่เกินมาตรฐานชายไทยด้วยส่วนสูง 187 เซนติเมตร ผิวสีแทนเข้มคร้ามกำลังสวย ใบหน้าหล่อเหลาคมคายยิ่งกว่าพระเอกหนังไทยประกอบด้วยใบหน้าเหลี่ยมคมสันได้รูป ดวงตาคมเรียววับวาวดุจเหยี่ยวเวหา จมูกโด่งเป็นสันสวยงดงามแม้จะมีร่องรอยว่าหักเล็กน้อยจากการที่เขาโดนด้ามปืนกระแทกเพราะเกิดการปะทะกลุ่มคนร้ายที่ลักลอบขนยาเสพติดผ่านตะเข็บชายแดนไทยด้านภาคตะวันออกในครั้งที่ยังรับราชการทหารอยู่ แต่มันไม่ได้ทำให้ใบหน้าหล่อเหลานั้นน่าเกลียดเลยสักนิดกลับดูน่าหลงใหลเสียมากกว่า ริมฝีปากหยักสีสวยอย่างผู้มีสุขภาพดี เพราะชายหนุ่มไม่ดื่มเหล้าและไม่สูบบุหรี่


ทุกอย่างที่เสกสร้างเป็น คุณช้าง แห่งรีสอร์ตบ้านอิงดาว ดูสมบูรณ์แบบเพียบพร้อมและน่าปรารถนาทั้งรูปสมบัติและทรัพย์สมบัติ และสาวๆ ทั่วทั้งอำเภอก็อยากจะเป็นผู้โชคดีได้เคียงข้างชายหนุ่ม แม้จะรู้ข่าวลือแว่วๆ มาบ้างว่าเขามีคู่หมายหรือคนรักแล้วก็ตาม แต่ด้วยความที่อิงดาวนั้นสุขภาพไม่อำนวยและเธอยังต้องอยู่ใกล้หมอทำให้เธอไม่ค่อยได้มาปากฎตัวให้ใครได้รับรู้ว่าเธอเป็นใคร สาวๆ แถบนี้นี้จึงยังมีความหวัง และบางคนก็แอบหวังว่าให้คู่หมายของคุณช้าง หายไปจากโลกนี้โดยเร็วก็มี

“ทานได้เต็มที่เลยนะคะหนูดาว มื้อนี้พี่แอริณคนสวยให้กินฟรีค่า หุหุหุ”

“แหมจะดีเหรอคะพี่แอริณ เดี๋ยวไม่มีเงินจ้างลูกน้องนะคะ”

“โอ้ยยย แค่คุณหนูดาวกับคนช้างสุดหล่อแค่สองคนพี่แอริณคนสวยเลี้ยงได้ค่า คงไม่กินเยอะเท่าไหรมั้งคะ แหมจะว่าไปให้หนูดาวกับคุณช้างกินเนี่ยยังกินไม่เยอะเท่ากับยัยหงส์ฟ้ามหาปะลัย กับยัยทิมมี่เพื่อนรักกินอีกนะเนี่ย อุ๊บส์ ไม่เอาไม่พูด หุหุหุ” แอริณเม้าท์เพลินจนลืมตัวแต่ก็แก้ตัวด้วยการลุกขึ้นรินน้ำให้ชายหนุ่มและสาวน้อยอย่างเนียนๆ ก่อนจะขอตัวไปดูลูกค้ารายอื่นๆ

“หนูดาวกินเถอะ หรือว่าอิ่มแล้ว” ชายหนุ่มเรียกสาวน้อยที่นั่งตรงข้ามกับตนอย่างอ่อนโยน

“ค่ะพอแล้วหนูดาวอิ่มแล้วค่ะพี่ช้าง” สาวน้อยตอบชายหนุ่มที่เธอรักเสมือนพี่ชาย
แต่ดวงตากลมใสเขม้นมองโต๊ะที่มีหญิงสาวกับชายหนุ่มหน้าตาดีนั่งอยู่ด้วยความสนใจ ไม่รู้เป็นเพราะอะไรเหมือนหัวใจเธอกระตุกแปลกๆเพียงแค่เห็นแผ่นหลังบางของหญิงสาวผมบ๊อบสั้นที่กำลังก้มหน้าก้มตากินโดยไม่สนใจใครที่แอริณบุ้ยใบ้พูดให้ฟังเมื่อครู่

“มองอะไร อ๋อ ยัยหงส์ฟ้ามหาประลัย ยัยหงส์ปีหักนั่นน่ะเหรอ คนอะไรพ่อแม่ตั้งชื่อให้เหมือนจะพยายามปกปิดปมด้อยตัวเอง” ชายหนุ่มหันไปมองตามสายตาของคู่หมั้นสาวน้อยพลางเอ่ยออกมาอย่างไม่สบอารมณ์เมื่อเห็นว่าอิงดาวกำลังมองใครอยู่พลางคีบปลาหมึกเข้าปากเคี้ยวอย่างสบายอารมณ์

“แหมพี่ช้างปากร้ายจังค่ะไม่น่าเชื่อว่าสุภาพบุรุษอย่างพี่ช้างจะปากร้ายใช่ย่อย” เธอเอียงคอมองชายหนุ่มยิ้มๆ

“ก็มันจริง พี่ช้างไม่ชอบพูดโกหกหนูดาวก็รู้นี่”

“แต่หนูดาวว่าเธอน่ารักออกค่ะ หนูดาวรู้สึกได้”

“ยังไม่เห็นหน้าเขาเลยรู้ได้ยังไงว่ายัยหงส์ปีหักนั่นน่ารัก น่าลักไปโยนทะเลล่ะไม่ว่า ยัยนั่นน่ะร้ายกาจที่หนึ่งเลยบอกให้” ชายหนุ่มค้านคำพูดสาวน้อยหน้าใสทันทีด้วยท่าทางจริงจังจนเธอต้องยิ้มขัน

“ดูพี่ช้างอคติกับเธอเกินไปนะคะ ก็บอกแล้วไงคะว่าหนูดาวรู้สึกได้ พี่ช้างก็รู้ว่าหนูดาวน่ะมีสัมผัสพิเศษน๊า เอ ว่าแต่ว่าคุณหงส์ปีหักนั่นไปทำอะไรให้พี่ช้างของหนูดาเจ็บฝังใจน๊าพี่ช้างที่สุดแสนจะโรแมนติกและเป็นสุภาพบุรุษทุกกระเบียดนิ้วอย่างพี่ช้างถึงหัวฟัดหัวเหวี่ยงได้” สาวน้อยพูดล้อชายหนุ่มด้วยแววตาเจ้าเล่ห์แสนกลจนชยพลต้องส่ายหัวให้กับความทะเล้นของเธอ

จะมีใครไหมนะที่จะเห็นเธอในมุมนี้อาจจะมีแค่เขาคนเดียวเท่านั้นกระมัง และเขาคนเดียวเท่านั้นที่รู้ว่าสาวน้อยขี้โรคคนนี้มีพรสวรรค์มากมาย แสนจะซนและแสบพอตัว และเธอก็ช่างเป็นน้องสาวที่แสนอาภัพนัก ชายหนุ่มมองใบหน้าที่ยิ้มให้ด้วยความเอ็นดู

“อย่ามามองพี่ช้างด้วยสายตาอย่างนั้นพี่ช้างไม่ใช่พระเอกในนิยายของหนูดาวหรอกจะบอกให้”

“แต่พี่ช้างก็เป็นพระเอกของหนูดามาแล้วหลายเรื่องน๊าาา เรื่องที่พี่ช้างเป็นพระเอกก็ขายดีด้วย นี่เรื่องใหม่หนูดาก็เขียนไปแล้วด้วยลงเว็บให้แฟนคลับอ่านไปแล้วสองตอน แฟนคลับหนูดาคลั่งพี่ช้างกันทุกคน นี่เรียกร้องให้นางเอกเผยโฉมไวๆ แล้วตอนนี้หนูดาวก็เจอนางเอกแล้วด้วย” สาวน้อยคุยจ้อด้วยความภูมิใจในผลงานของตน และมองไปที่โต๊ะที่เธอให้ความสนใจ

และเหมือนมีอะไรดลใจให้คนอีกคนที่ถูกมองอยู่รู้สึกตัวเหมือนกำลังถูกมองค่อยๆ หันกลับมา แต่ก็เหมือนมีอะไรดลใจเช่นกันที่ทำให้สาวน้อยอีกคนปัดมือไปโดนช้อนที่วางอยู่ข้างตัวตกพื้น เธอจึงก้มลงไปเก็บพร้อมกันนั้นหญิงสาวที่กำลังถูกจับจ้องอยู่ก็มองมายังโต๊ะที่มีคู่อริเธอนั่งอยู่แต่ หงส์ทองก็เห็นเพียงชายหนุ่มที่ลุกยืนชะโงกตัวมองสาวน้อยที่ก้มๆ เงยๆ อยู่ใต้โต๊ะ

“เป็นไรหงส์” ทินวัฒน์ถามขึ้นขณะพยายามเบี่ยงหน้าหนีสาวน้อยที่นั่งข้างๆ เขาและพยายามจะป้อนอาหารที่เธอบรรจงใช้ตะเกียบคีบส่งให้ถึงปาก

“เปล่า เอ่อ ทิมฉันอิ่มแล้วว่ะอยากไปร้านเน็ตแล้วอ่ะ วันนี้ฉันจะไปติดตามนิยายตอนต่อไปของอิงดารา แหมแกเอ๊ยตอนนี้นิยายของเขาดังมากๆ เลยนะนี่ฉันซื้อไว้เกือบหมดทุกเล่มแล้วเหลืออีกแค่สองเล่มรอให้เขาตีพิมพ์อยู่”

“แต่ว่าพี่ทิมต้องพาหนูนาไปดูหนังต่อนะคะพี่หงส์” สรินนาที่แสดงออกชัดเจนว่ารักเพื่อน (สาว) ของเธอแสดงท่าทีเป็นปฏิปักษ์ทันทีเมื่อเห็นว่าชายหนุ่มที่เธอหมายปองให้ความสำคัญกับหญิงสาวหน้าตาบ้านๆ อย่างหงส์ทองมากกว่าคุณหนูแสนสวยเช่นเธอ

“เอ่อ คือ ว่า” หงส์ทองอึกอักมองหน้าเพื่อนรักอย่างลำบากใจ

“ฉันไม่ว่าง ฉันจะไปร้านเน็ตกับเพื่อนฉันถ้าเธออยากไปดูหนังก็ไปคนเดียว” ในที่สุดทินวัฒน์ก็เอ่ยตรงๆ แบบตัดเยื่อใยไม่ให้สาวน้อยสานต่อ แต่สาวน้อยกลับไม่สะทกสะท้านกลับยิ่งปลาบปลื้มนึกในใจว่า


ว้าวววว ช่างเหมือนพระเอกปากร้ายที่พูดตัดเยื่อใยนางเอกในนิยายที่เธอชอบอ่านไม่มีผิด เธอจึงได้แต่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่และพยายามสานต่อความสัมพันธ์

“ไม่เป็นไรงั้นหนูนาไปร้านเน็ตกับพี่ทิมกับพี่หงส์ก็ได้”

“ไม่ได้” สองเสียงของเพื่อนรักพูดขึ้นพร้อมกัน จนสาวน้อยรู้สึกฉุนขาด

“ทำไมคะ พี่ทิมอย่าลืมนะว่าคุณลุงกับคุณป้าให้พี่ทิมดูแลหนูนาอย่างดี หนูนาอุตส่าห์ตามใจพี่ทิมมากินหมูกะทะข้างทางกระจอกๆ แบบนี้ก็ดีเท่าไหร่แล้ว ทั้งๆ ที่คนอย่างหนูนานี่ไม่อยากมาเหยียบร้านโกโรโกโสแบบนี้ด้วยซ้ำ” เสียงของ สรินนาไม่ได้เบาเลยสักนิดแล้วเธอก็ลุกขึ้นยืนกอดอกเชิดหน้ากราดมองไปทั้งร้านด้วยสายตาเหยียดหยัน แล้วมีหรือที่เจ้าของร้านสาวสวยอย่างพี่แอริณคนสวยสุดซ่าจะไม่ออกอาการคันยุบยิบๆ

“หรือคะ คุณหนูสรินนาผู้สูงส่ง อิ่มแล้วใช่ไหมคะนี่ถึงได้มีแรงพูดถ้าอย่างนั้นก็เชิญลุกได้นะคะ ดูสิคะลูกค้ารอเข้ามาใช้บริการร้านโกโรโกโสของพี่แอริณคนสวยอยู่เชิญค่ะๆ เอ้าเด็กๆ มาเก็บโต๊ะ ค่าอาหารทั้งหมด ก็หนึ่งพันบาทถ้วนพอดี”
พี่แอริณเดินปรี่มาทันทีที่สาวน้อยผู้เย่อหยิ่งพูดจบพร้อมทั้งบรรดาลูกน้องเข้าเก็บโต๊ะโดยไม่สนใจสาวน้อยที่ยืนหน้าแดงก่ำด้วยอารมณ์พลุ่งพล่านอยู่และยิ่งเดือดพล่านมากขึ้นเมื่อรอบตัวมีแต่ลูกน้องในร้านของแอริณและหนึ่งในนั้นก็เป็นลูกจ้างต่างด้าวชาวกัมพูชา

“ยี้ นี่อย่ามาโดนตัวฉันนะอีพวกต่างด้าว” สาวน้อยโวยวายเมื่อลูกจ้างสาวชาวกัมพูชาคนหนึ่งซึ่งเป็นลูกจ้างที่แอริณจ้างมาอย่างถูกต้องตามกฎหมายและอยู่กับแอริณมานานชนเธออย่างจงใจนิดด้วยรู้กิตติศัพท์ความแรงของคุณหนูสรินนาเป็นอย่างดีพอๆ กับนายสาวของตน

“ว้ายตายแล้ว ขอโทษค่ะ” ลูกจ้างสาวทำทีขอโทษและเอาผ้าเช็ดโต๊ะเช็ดเนื้อตัวของสรินนาอย่างขอโทษขอโพยเมื่อเผลอ (จงใจ) ทำน้ำหกรดแขนเรียวของอีกฝ่าย

“กรี๊ดดดด นังบ้าแกเอาผ้าขี้ริ้วมาเช็ดตัวฉันทำไมเนี่ย ยี้ ไม่ต้องๆๆ ไปห่างๆฉัน แล้วนี่พี่แอริณ ค่าอาหารมันจะแพงเกินไปไหมคะ อะไรหนูนากินแค่นิดเดียวตั้งเป็นพัน” สาวน้อยผลักมือดำๆ ของลูกจ้างต่างด้าวของแอริณให้พ้นตัวก่อนจะเดินมาเผชิญหน้ากับเจ้าของร้านที่ยืนกอดอกมาองผลงานของลูกน้องด้วยความพอใจแบบเนียนๆ

“อุ้ยยย คุณหนูนาคนสวยขาไม่แพงหรอกค๊า เนี่ยร้านอาหารข้างทางนะคะ หากเป็นร้านอาหารในห้างหรือร้านหรูๆ อย่างที่คุณหนูนาเคยเข้าไปรับประทานพันเดียวไม่พอนะคะ ต้องเข้าใจนะคะว่าทุกวันนี้ข้าวของมันแพง อีกอย่างดูสินี่กินเหลือด้วย ดูสิหมึกกับกุ้งเหลือตั้งสองสามชิ้น ต้องเสียค่าปรับด้วยนะคะนี่จริงไหมหงส์ ทิม”

สุดท้ายพี่แอริณก็โบ้ยมาทางเพื่อนรักทั้งสองที่ยืนทำหน้าปูเลี่ยนอยู่โดยไม่ให้ทันตั้งตัว และทั้งสองก็ได้แต่พยักหน้าและยิ้มแหยๆ ให้เจ้าของร้านแต่ก็แอบสะใจลึกๆ คนอย่างสรินนานั้นต้องเจอกับพี่แอริณคนสวยจึงจะสมน้ำสมเนื้อ

“ฉันว่าฉันไปก่อนนะทิม แล้วเจอกัน” ว่าแล้วหงส์ทองก็คว้ากระเป๋าใบเก่งที่มีขนาดใหญ่เกินตัว เดินออกไปก่อนแบบเนียนๆ อย่างรู้เอาตัวรอดเป็นยอดมนุษย์

“หงส์รอฉันด้วย ทิมไปแล้วนะพี่แอริณ ฝากด้วยนะครับ” และทินวัฒน์ก็เดินตามเพื่อนรักไปติดๆและไปทันที่จะได้นั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์คันเล็กๆ ของเธอและหญิงสาวก็รู้ตัวรีบขับออกไปทันที สรินนาที่วิ่งตามออกมาทำได้เพียงแต่ยืนกรีดร้องโวยวายอยู่หน้าร้าน

“อ๊ายยยย ไอ้พี่ทิมบ้า คอยดูนะหนูนาจะฟ้องคุณพ่อ” สาวน้อยกระทืบเท้าเร่าๆ อยู่หน้าร้านอย่างไม่อายใคร พลางกราดตามองคนในร้านที่มองเธอเป็นตาเดียวอย่างเกรี้ยวกราด

“มองทำไมอีพวกชอบแส่เรื่องชาวบ้าน” สรินนากรีดเสียงใส่คนในร้านอย่างไม่เกรงใจใคร เธอมักเป็นเช่นนี้เสมอด้วยว่าเธอนั้นเป็นลูกสาว ส.ส. คนดังและผู้ทรงอิทธิพลของอำเภอนี้

“อุ้ยพ่อแม่พี่น้องขาเชิญก้มหน้าก้มตารับประทานอาหารให้อร่อยนะคะ เชิญๆ ค๊า หุหุหุ เอ่อคุณหนูนาขา งั้นพี่แอริณก็ขอค่าบริการทั้งหมดด้วยนะคะ หนึ่งพันบาทถ้วนค่า” แอริณพูดพลางแบมือตรงหน้าสาวน้อยที่มองเธอตาเขียวขุ่นอย่างไม่เกรงกลัว ใครจะกลัวยัยคุณหนูขี้วีนนี้ก็กลัวไป แต่สำหรับแอริณแล้ว หากไม่แน่จริงก็คงไม่อยู่มาถึงวันนี้

“เอาไปเลย ขี้งกที่สุด” สรินนาควักเงินในกระเป๋าใบหรูยัดใส่มือแอริณก่อนจะกระแทกเท้าเดินจากไป ท่ามกลางอาการถอนหายใจโล่งอกของใครหลายๆคน

“เด็กอะไรร้ายกาจจริงๆ” แอริณบ่นตามหลังสาวน้อย “หมวยขาวีน” ไปพลางส่ายหน้าอย่างระอิดระอาใจ



ณจรร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 26 ส.ค. 2555, 20:28:21 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 27 ส.ค. 2555, 20:25:31 น.

จำนวนการเข้าชม : 1470





<< บทนำ   
จุฬามณีเฟื่องนคร 26 ส.ค. 2555, 22:53:08 น.
จัดบรรทัดด้วยจ้าคุณน้อง


ณจรร 26 ส.ค. 2555, 23:17:42 น.
ค้าาาาา ฮือๆๆ ทำไม่เป็น


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account