ในสวนศิลป์
พี่ต้นกล้า นาวาตรีจิรวัติ สุกปลั่งนั้น ไม่ใช่ปัญหาของกฤษณะอีกต่อไปแล้ว วันนี้เป็นวันวิวาห์ของเขากับพี่แพรวพรรณที่เพาะบ่มความรักดูใจกันตามที่แม่ของพี่แพรวพรรณต้องการมาถึงเกือบสองปี..
ปัญหาของกฤษณะก็คือพี่ต้นกล้วย เดชาพงษ์ ซึ่งจนบัดนี้ก็ดูไม่มีวี่แววว่าจะชอบพอกับผู้หญิงคนไหน แต่เธอก็มั่นใจว่าด้วยญาณหยั่งรู้ของที่ได้จับมือและได้ทำนายพี่ชายของเธอไปแล้วนั้น เขาจะต้องได้เจอกับเนื้อคู่ของเขาและลงเอยด้วยการแต่งงานกันอย่างแน่นอน..แต่ว่าเธอไม่รู้ว่ามันจะใช้เวลานานแค่ไหน
เพราะคนเฉย ๆ อย่างพี่ต้นกล้วย เมขลาคิดไม่ออกจริง ๆ ว่า ถึงคราวจะต้องจีบผู้หญิงจะทำอย่างไร..แต่เธอก็มั่นใจว่า พระพรหมท่านก็คงมีวิถีของท่าน..คงมีวิธีการที่ทำให้คนสองคนได้พบกันมีเรื่องทำด้วยกันและผูกพันจนกระทั่งรักกันในที่สุด..เหมือนคู่ของเธอกับกฤษณะ ที่เริ่มต้นจากการเดินชนกันที่สถานีรถไฟและสุดท้ายมันก็กลายเป็นเรื่องจุดไต้ตำตอ..

Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: ตอนพิเศษ 1.2 งานแต่งวิษณุจักรกับอนงค์นาง

แม้ว่าวิษณุจักรจะไม่ยอมบอกว่า ทำไมแม่ของเขาถึงได้ใจอ่อนอย่างดาย แต่ด้วยความเฉลียวฉลาดทำให้อนงค์นางประติดประต่อเรื่องราวได้ไม่ยากนัก แม่ของเธอได้เล่าว่ามีผู้หญิงโทรมาถามถึงที่ดินที่รกร้างว่างเปล่าและคิดจะซื้อไปทำหมู่บ้านจัดสรรตัดแต่ว่าพ่อเธอยังไม่คิดขายแต่ว่าก็คุยกันเรื่องอื่น ๆ กันเยอะทีเดียว

แรกทีเดียวอนงค์นางก็ไม่ได้เอะใจว่าเบอร์ของผู้หญิงคนนั้นเป็นเบอร์แม่ของวิษณุจักร กระทั่ง วิษณุจักรพาเธอไปทานข้าวเย็นที่บ้าน แม่ของวิษณุจักรมีทีท่าเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด เอาอกเอาใจเธอมากขึ้น กลับมาจากกินข้าว อนงค์นางจึงได้ขอเบอร์จากแม่

...และวันถัดมาพอไปวาดรูปที่บ้านของเขา ขณะที่วิษณุจักรเข้าห้องน้ำเผลอวางโทรศัพท์ไว้บนโต๊ะอาหาร เธอจึงเลื่อนหาเบอร์ของนางวรนุช อนงค์นางจึงได้รู้ว่า แท้จริงแล้วการที่แม่ของเขาโอนอ่อนผ่อนตามนั้นมีเรื่องของทรัพย์สินที่เรียกว่าที่ดินของเธออยู่เบื้องหลังด้วย

และเมื่อวันหนึ่งเมื่อวิษณุจักรทำหวาน ๆ กับเธอ เธอจึงได้ถามเขาว่า ที่อยากแต่งงานกับเธอนั้นเพราะอะไร?....และวิษณุจักรก็ตอบให้ได้ชื่นใจว่า “เขาอยากอยู่กับเธอทุกวัน อยากให้เธอมาเป็นแม่ของลูกเขา ไม่ได้สนใจเรื่องฐานะ เพราะเขามีมากพออยู่แล้ว”

และอนงค์นางยังเซ้าซี้ถามต่อไปว่า เขารู้เหตุผลของแม่เขาหรือไม่ ว่าทำไม ถึงได้ใจอ่อนง่าย ๆ..วิษณุจักรสั่นหน้า...อนงค์นางจึงต้องเฉลยให้รู้ว่า เบื้องลึกเบื้องหลังนั้นคืออะไร?..

“แต่พี่ก็ยังยืนยันนะนาง ว่าพี่ไม่ได้สนใจเรื่องทรัพย์สินของนางเลยสักนิด พี่รักนาง ในแบบที่เป็นนาง นางเป็นคนฉลาด ฉลาดแบบนี้ไงพี่ถึงอยากได้มาเป็นแม่พันธุ์”

และเมื่อพิสูจน์ใจเขา โดยการขอดูเบอร์โทรศัพท์ในเครื่อง และเธอต้องสามารถเช็คเบอร์ในเครื่องของเขาได้ทุกเมื่อ ตามแบบที่ผู้ชายมักจะบอกว่าเป็นการกระทำที่งี่เง่าสิ้นดี แล้วเขาตกลงให้เธอทำได้ อนงค์นางจึงตกลงคบกับเขาในฐานะแฟน
กระทั่งคบกันไปสักพัก จรินนาสรุปกับเธอว่าบางทีการที่เขาตัดสินใจคบหากับเธอกับเธอง่าย ๆ อาจจะเป็นเพราะเป็นเนื้อคู่กัน.. อนงค์นางจึงยอมหมั้นและเตรียมตัวจัดงานทั้งพิธีแบบไทยและจีนให้ถูกต้องตามประเพณี...

โดยประเพณีทางไทยนั้นจัดขึ้นที่ห้องจัดเลี้ยงในโรงแรมแห่งหนึ่ง พิธีเริ่มต้นในตอนเช้าตรู่...นิมนต์พระสงฆ์จำนวนเก้ารูปมาเจริญพุทธมนต์และรับถวายภัตตราหารจากคู่บ่าวสาวเสร็จแล้วมีพิธีรดน้ำสังข์...

และก่อนที่จะมีการจัดเลี้ยงในภาคเที่ยง ก็จะมีขบวนแห่ขันหมากตามด้วยผูกข้อมือมอบของรับไหว้จากเจ้าบ่าวเจ้าสาว

และหลังพิธีการจัดเลี้ยง ในภาคบ่ายเจ้าบ่าวเจ้าสาวก็จะไปยกน้ำชาที่บ้านของวิษณุจักรตามประเพณีของฝ่ายเจ้าบ่าวและส่งตัวเข้าห้องหอเป็นอันเสร็จสิ้นพิธีกรรม...

ในช่วงที่รอเจ้าบ่าวและครอบครัวยกขันหมาเข้ามาในภายในห้องจัดพิธีกรรมของโรงแรม อนงค์นางที่อยู่ในชุดไทยประยุกต์คือนุ่งผ้าถุงสีงาช้างจับจีบหน้านางปล่อยชายคาดเข็มขัดทองห่มสไบเฉียงอัดกลีบสีทองลายฉลุทับเสื้อเกาะอกสีเดียวกับผ้านุ่งก็ยิ้มหน้าชื่นมื่นเมื่อจรินนาเปิดประตูเข้าไปหา

“ขอโทษที่พี่มาช้า...”

“นางเข้าใจค่ะ แล้วอาจารย์กล้วยล่ะ”

“ไปอยู่กับขบวนขันหมากแล้ว...วันนี้นางสวยมากเลยนะ” เดินรอบตัวเจ้าสาวที่สูงไล่เลี่ยกับตนแล้วจรินนาก็ทึ่งกับทรงผมแสกกลางยกกระบังหน้าเพียงเล็กน้อยแล้วรวบส่วนด้านข้างไปขมวดมุ่นติดดอกกุหลาบไว้ด้านหลัง...ทำให้ใบหน้าของอนงค์นางนั้นเหมือนหญิงไทยสมัยโบราณ เหมือนภาพวาดนางในวรรณคดีที่เธอเคยเห็นผ่านตามาบ้าง...

“ต้องขอบคุณอาจารย์กล้วย ขอบคุณโรงแรมหิมวันต์ที่ทำให้นางได้เจอกับพี่จักร และที่สำคัญต้องขอบคุณพี่จินมาก ๆ ที่ไม่สนใจพี่จักร...”

“เขาไม่ใช่เนื้อคู่ของพี่นี่นา”

“แล้วพี่จินละ จะแต่งเมื่อไหร่”

“น่าจะปีนี้แหละ...สุกงอมเต็มทีแล้ว...” ก่อนหน้านั้นเมื่อโทรคุยกันหรืออยู่ด้วยกันตามลำพังสองสาวก็นำเรื่องกระจุ๋มกระจิ๋มของคนรักที่ปฏิบัติต่อตนเองมาเล่าสู่กันฟัง ดังนั้นจรินนาจึงรู้ว่าวิษณุจักรนั้นหวานแค่ไหนและอนงค์นางก็รู้ว่าคนนิ่ง ๆ อย่างอาจารย์ของเธอนั้นยามมีความรักก็หวานใช่เล่นเหมือนกัน

“อาจารย์กล้วยเป็นคนดีมากนะคะ”

“นางบอกพี่ร้อยรอบแล้วนะ”

“ย้ำอีกครั้งเพื่อให้พี่จินมั่นใจค่ะ...เลือกคนไม่ผิดแน่ ๆ” สำหรับอภินนท์นั้น ตอนหลังนาทีสืบรู้มาว่าธุรกิจของครอบครัวเขามีปัญหา อภินนท์ถึงได้หวนกลับมาหาจรินนา...ดีแต่ว่าจรินนาไม่เล่นด้วยเรื่องมันก็เลยจบไปอย่างที่ทุกคนไม่ต้องเอาใจช่วยเดชาพงษ์มากนัก

“บางครั้งพี่ก็รู้สึกว่าเขาดีเกิ้น...ดีจนพี่รู้สึกละอาย” เรื่องพ่อของเธอนั้น เวลาอยู่ด้วยกันเขาจะถามถึงตลอด หรือถ้าวันใดไม่ได้มาหาเขาก็จะถามถึง และให้กำลังใจให้เธอสู้กับความยากลำบากในช่วงนี้ เพราะการแสดงความกตัญญูกตเวทีต่อบุพการีในช่วงที่ท่านยังมีชีวิตอยู่นั้นเขาถือว่าเป็นมงคลของชีวิต...และเขาเองก็ปฏิบัติให้เธอเห็นว่า แม้จะงานรัดตัวแค่ไหน ในทุก ๆ สัปดาห์เขาจะต้องขับรถกลับบ้านไปเยี่ยมพ่อเยี่ยมแม่ของเขา และทุกครั้งเขาก็ซื้อขนมนมเนยกับข้าวไปฝากเสียเต็มไม้เต็มมือ

เธอเคยไปบ้านเขาหลายครั้งเหมือนกัน และทุกครั้งเธอจะรู้สึกว่าเธอได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น เป็นกันเองไม่เสแสร้ง ไม่มีเรื่องกดดันเหมือนอยู่ในสังคมทางฝั่งพ่อของเธอ และเมื่อครั้งวันขึ้นปีใหม่ วันนั้นพี่ชายพี่สะใภ้ของเขากลับมาเยี่ยมบ้านพร้อมกับน้องสาวและว่าที่น้องเขยของเขา และในวันนั้นเป็นวันที่เธอตัดสินใจอย่างแน่วแน่ว่า เธอจะต้องเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว ‘สุกปลั่ง’ อย่างแน่นอน


เพื่อรวบรัดพิธีกรรมไม่ให้กินระยะเวลาไปจนถึงกลางคืน งานเลี้ยงฉลองมงคลสมรสจึงได้จัดต่อเนื่องหลังจากพิธียกขั้นหมากผูกข้อมือในเวลาห้าโมงเช้า...และงานนี้ก็เหมือนงานส่วนใหญ่ในยุคปัจจุบันที่บนเวทีนั้นทางเวดดิ้งสตูดิโอจะต้องมีวีดีโอฉายภาพในอดีตของเจ้าบ่าวและเจ้าสาว มีภาพช่วงที่ทั้งสองคบหาดูใจกัน เคยไปเที่ยวหรือทำกิจกรรมร่วมกัน กระทั่งเป็นภาพสวยงามที่ทางเวดดิ้งจัดทำให้...

ซึ่งบางคนอาจจะเบื่อหน่ายกับภาพบนเวทีเหล่านี้ แต่บางคนที่มานั่งเป็นสักขีพยานอยู่ในงานนั้นก็ยิ้มปลื้มกับภาพในอดีตของคนสองคนที่กว่าจะมาพบกัน เรียนรู้ในนิสัยใจคอของกันและกันจนกระทั่งตกลงปลงใจที่อยู่ด้วยกันไปจนแก่เฒ่า
นอกจากนั้นบางคนก็ยังนึกฝันถึงงานแต่งของตัวเองว่าจะต้องเป็นเช่นไร โดยเฉพาะคู่ของสราวุฒิกับหนิงที่นั่งโต๊ะเดียวกับคู่ของสุนันทาและขจรเกียรติ...

หนิงนั้นไม่ได้คิดฝันว่าจะมีงานใหญ่โตเช่นนี้ เพราะรู้ดีว่าพื้นฐานของตัวเองมีแค่ไหน และสราวุฒิเองก็มีแค่ไหน เรื่องที่หนิงขอไว้กับสราวุฒินั่นก็คือ ขอให้เขารักและซื่อสัตย์กับเธอ ให้ขยันทำมาหากินช่วยกันสร้างฐานะถีบตัวให้มีสภาพคล่องกว่าที่เป็นอยู่ ไม่ลุ่มหลงไปกับอบายมุขที่มีอยู่รอบ ๆ ตัว และสราวุฒิก็ให้สัญญากับหนิงไว้ว่า เขาจะเป็นผู้ชายคนที่หนิงต้องการตลอดไป...

“นางเป็นผู้หญิงที่โชคดีมาก” สุนันทาเอ่ยกับหนิงเบา ๆ

“ผู้หญิงที่มีผู้ชายรัก โชคดีทุกคนแหละพี่...เราสองคนก็โชคดีนะคะ”

“แล้วหนิงจะแต่งกับวุฒิเมื่อไหร่” ตอนนี้สราวุฒิไปทำงานเป็นครูสอนศิลปะในโรงเรียนเอกชนที่วิษณุจักรฝากไว้ให้ หลังโรงเรียนเลิกช่วงวันหยุดเขาก็ทำงานวาดภาพปกส่งสำนักพิมพ์ดวงใจ กับวาดรูปไปฝากขายในร้านที่หน้าโรงเรียนซึ่งผลงานของสราวุฒินั้นก็ขายดีขายได้อย่างต่อเนื่อง...และในอนาคตจรินนาเองก็เปรย ๆ ไว้ว่าอาจจะทำห้องขายสินค้าซึ่งเป็นผลงานของลูกศิษย์อาจารย์เดชาพงษ์ในโรงแรมให้ด้วย

ส่วนหนิงกำลังจะจบชั้น ปวส. หญิงสาวตั้งใจว่าจะออกไปทำงานและเรียนต่อเอาปริญญาในช่วงวันเสาร์อาทิตย์

“ถ้าได้แต่งก็คงเรียนจบแล้วหละค่ะ หนิงยังเด็กค่ะ ยังไม่รีบ แล้วพี่วุฒิเขาก็ยังต้องเก็บเงิน...น่าจะอีกห้าปีเนอะ” หนิงหันไปถามสราวุฒิ เขายิ้มบาง ๆ ก่อนจะพยักหน้าให้

“ตอนนี้มหาแทบไม่ต้องคิดอะไรแล้วมั้ง หนิงคิดให้หมด” ขจรเกียรติแย้งขึ้นมา

“แหมพี่...จริง ๆ พี่วุฒิเขาก็คิดแบบหนิงนี่แหละ เพียงแต่เขาพูดช้าไปเท่านั้นเอง...ใช่หรือเปล่าคะพี่วุฒิ...”

“ทุกอย่างในชีวิตผม ผมให้หนิงใจการหมดแหละครับ มีหน้าที่ทำตามอย่างเดียว...”

“แล้วไม่ดีเหรอ....”

“ดีที่สุด...ดีมาก ๆ”

“แล้วพี่สุกับพี่เกียรติละคะ...เมื่อไหร่จะมีข่าวดี” หยอกกันแล้วหนิงก็วกไปหาสุนันทาที่ตอนนี้ใช้สายตามองไปบนเวทีด้วยความสนใจ

“ก็น่าจะหลังอาจารย์ แต่คงจะก่อนเราสองคนหละ...ใช่ไหมสุ” ขจรเกียรติรวบรัด สุนันทาทำหน้าเหรอหราเพราะไม่ได้ยินข้อความก่อนหน้านั้น

“พออาจารย์แต่งแล้วเราก็แต่งกันบ้าง...”

“เอาอย่างนั้นเลยนะ”

“อืม..สุว่าดีไหมละ”

“ขอคิดอีกสักพักแล้วกัน...หมู่นี้ฝันเห็นพ่อน้องกอล์ฟบ่อย ๆ...”

“ฝันแบบไหนคะ ฝันว่ามาลูบหัวหรือเปล่า” หนิงได้ทีกระทุ้ง สุนันทาจึงหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะบอกว่า

“ฟังบนเวทีดีกว่า.....อย่าเพิ่งคุยเรื่องนี้เลย...”

บนเวทีนั้นคู่บ่าวสาวเคียงคู่กันอย่างเหมาะสม อนงค์นางนั้นอยู่ในชุดกระโปรงบานสีงาช้างกระโปรงบานฟูฟ่องตัวเสื้อเป็นผ้าลูกไม้เกาะอกเผยให้เห็นไหลระหงที่คอของเจ้าสาวนั้นปราศจากเครื่องประดับ แต่ว่าบนศีรษะที่ยังเป็นทรงเดียวกับเมื่อเช้านั้นบัดนี้ติดเทียร่าอย่างบางลายดอกกุหลาบด้านหลังเป็นโบว์ผ้าตาข่ายสีเดียวกับกระโปรงทำให้เจ้าสาวดูอ่อนหวานน่ารักเหมาะสมคู่ควรกับเจ้าบ่าวที่อยู่ในชุดสูทกระดุมสองเม็ดแถวเดียวสีเดียวกับชุดเจ้าสาวสวมทับเสื้อเชิ้ตคอปกแหลมเน็คไทสีทอง ใบหน้าของวิษณุจักรนั้นยิ้มชื่นอยู่ตลอดเวลา...และบ่อยครั้งที่เขาเผลอมามองหน้าเจ้าสาวด้วยสายตาหลงใหลยิ่งทำให้สาว ๆ ต่างรู้สึกอิจฉาเจ้าสาวกันเพิ่มขึ้น...

“คำถามสุดท้ายนะคะ...เจ้าสาวประทับใจอะไรในตัวเจ้าบ่าว”...พิธีกรหญิงเพื่อนของวิษณุจักรตั้งคำถาม เจ้าสาวหน้าเริ่มแดงขึ้นมาแล้วพอเหลือบตาไปสบตากับตาเจ้าบ่าว หญิงสาวก็ยิ้มอย่างเขิน ๆ

“ประทับใจ..เออ...” เจ้าสาวอึก ๆ อัก ๆ เพราะตื่นเวที

“ไม่มีอะไรประทับใจ” พิธีกรชายแทรกเข้ามา

“เอ่อ ก็ พี่เขาเป็นผู้ใหญ่ มีความรับผิดชอบ อบอุ่น ประมาณนี้แหละคะ”

“แล้วเจ้าบ่าวละครับประทับใจในตัวเจ้าสาว”

“น้องเขาน่ารักครับ ฉลาด แล้วก็ ทำอาหารเก่งมาก น้องเขาจบคหกรรมมาทำกับข้าวทำขนมได้เยอะแล้วก็อร่อยมากครับ รวม ๆ แล้วก็ชอบทุกอย่างเลยครับ”

“วันนี้ เวลานี้ เจ้าสาวมีอะไรจะขอเจ้าบ่าวต่อหน้าแขกผู้มีเกียรติไหมคะ”

“ซื่อสัตย์ต่อกันคะ..ครอบคลุมทุกอย่างแล้ว”

“ให้ได้ไหมครับ”

“ให้ได้ครับ...จะไม่มองสาวอื่นอีกเลยครับ จะมีนางคนเดียวจนแก่เฒ่าเลยครับ”

“แล้วเจ้าบ่าวละคะ จะขออะไรเจ้าสาวไหม”

“เดี๋ยวไปขอกันคนดีกว่าครับ...”



หลังงานจัดเลี้ยงในภาคกลางวันก็จะเป็นพิธีกรรมประเพณีจีน คือยกน้ำชาแล้วส่งตัวเจ้าบ่าวเจ้าสาวเข้าห้องหอ..สถานที่ยกน้ำชานั้นเป็นที่บ้านของวิษณุจักร คู่บ่าวสาวยังอยู่ในชุดที่ใช้ในงานเลี้ยง..ขั้นตอนเริ่มต้นยกน้ำชานั้นจะเริ่มจากบ่าวสาวช่วยกันประคองถาดน้ำชาที่มีถ้วยชาอยู่สองถ้วยเข้าไปหาพ่อแม่ของเจ้าบ่าว

...เมื่อพ่อกับแม่ของวิษณุจักรรับน้ำชาไปแล้ว ก็ยกดื่ม ให้พรพร้อมกับมองซองแดงใส่เงินสำหรับการตั้งตัวตามธรรมเนียม ถัดจากนั้นก็เป็นญาติที่ใหญ่ที่สลับหมุนเวียนกันเข้ามานั่งแทนที่พ่อแม่ของเจ้าบ่าว... และเมื่อยกน้ำชาเสร็จเรียบร้อยก็เป็นพิธีการส่งตัวเข้าห้องหอที่เป็นห้องเดิมของวิษณุจักร....

พิธีกรรมดำเนินไปอย่างรวบรัดเพราะเป็นเวลาบ่ายคล้อยที่ทุกคนอยากจะกลับบ้าน และเจ้าบ่าวเองก็ตาปรือเหมือนง่วงนอนเพราะว่าระหว่างงานเลี้ยงนั้น เขารับน้ำแก้วน้ำสีอำพันจากเพื่อนไปไม่น้อยเหมือนกัน..

“ฝากน้องด้วยนะพ่อจักรหนักนิดเบาหน่อยก็ให้อภัยกัน...แม่นางก็เหมือนกัน แต่งงานแล้วนะจะเอาแต่ใจตัวเองเหมือนเดิมไม่ได้แล้ว...” ผู้เป็นแม่ของอนงค์นางพูดเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่จะปิดประตูห้อง....

และเมื่ออยู่กันตามลำพังวิษณุจักรที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ตัวเจ้าสาวก็ลมตัวลงนอนโดยที่เท้าของเขานั้นยังห้อยอยู่ข้างเตียง...ฝ่ายอนงค์นางนั้นแม้จะชินกับห้องนอนห้องนี้เพราะระหว่างที่ทำงานช่วงความง่วงความล้าเข้ามาเยือน เธอยังแอบมาเปิดห้องเข้ามานอนเสียก็หลายครั้งแต่ว่าทุกครั้งนั้นหญิงสาวล็อคห้องไว้อย่างดีเพราะกลัวเจ้าของห้องกลับมาแล้วจะฉวยโอกาส

...แต่ว่าเขาก็ไม่เคยล่วงเกินเธอเลย...เขาบอกกับเธอว่า เขารอได้ เขาอดทนได้...
และเมื่อเจ้าบ่าวล้มตัวลงนอนไปแล้ว อนงค์นางก็จะลุกขึ้นเพื่อเปลี่ยนชุดรุมร่ามนั้นออก...แต่พอจะลุกขึ้นเขาก็ดึงแขนไว้ จนอนงค์นางล้มลงไปบนที่นอน...แต่ว่าอนงค์ฯงก็ขืนตัวลุกขึ้นนั่งด้วยใจที่เต้นไม่เป็นส่ำ

“จะรีบลุกไปไหน”

“นางร้อนอยากอาบน้ำ”

“ร้อนอะไรแอร์เย็นฉ่ำ..” เขาตามขึ้นมาโอบรัดร่างที่สั่นเหมือนลูกนกเปียกน้ำฝนไว้ในอ้อมกอด...แม้จะรู้ดีว่าอย่างไรแล้ว เธอก็ไม่สามารถหนีเขาพ้น แต่ว่าอนงค์นางก็ยังอิดออดตามวิสัยผู้หญิง

“ร้อนค่ะ ขอเปลี่ยนผ้าอาบน้ำก่อน” เสียงของอนงค์นางสั่นจนเขาจับได้
“อย่าเพิ่งอาบเลย ตัวนางหอมแบบนี้ ขอให้พี่ได้ชื่นใจก่อนดีกว่า”วิษณุจักรก้มลงจูบตรงซอกคอขาวผ่องที่ทำเอาหัวใจของปั่นปั่นตั้งแต่เช้า ความเสียวซ่านแผ่ไปทั่วกายอนงค์นางจนขนลุกแต่ว่าอนงค์นางก็ยังหาทางบ่ายเบี่ยง “ไม่เอา นางเหนียวตัว”

“ถ้าอย่างนั้นก็อาบด้วยกันเลยดีกว่า” วิษณุจักรไม่รอความเห็นของเจ้าสาวคนสวย เขาลุกยืนแล้วดึงข้อมืออนงค์นางให้ลุกตาม เมื่อยืนเคียงกันแล้วเขาก็เชยคางอนงค์นางให้มองหน้าของเขา...

“เหม็นเหล้า”

“เหม็นเหรอ” ปลายจมูกและริมฝีปากของเขาอ้อยอิ่งอยู่ใกล้ ๆ จมูกได้รูปของอนงค์นาง...

“เหม็น”

“จริง ๆ นะ”

“ไหนว่าจะอาบน้ำ”

“มาผมช่วยปลดซิปให้” บอกแล้ว เขาก็จับเจ้าสาวหันรูดซิปชุดแต่งงานลงจนสุด แผ่นหลังขาวนวลยั่วให้เขาต้องย่อตัวฝังจมูกลง พลางเลื่อนมือมาปลดตะขอเสื้อชั้นในให้หลุด แล้วจับเหวี่ยงทิ้งไปอย่างง่ายดาย

“อุ๊ย” อนงค์นางรีบยกมือตะปบปิดบังทรวงอกของเธอไว้ แก้มร้อนผ่าวเมื่อเจ้าบ่าวจับให้เธอหันไปหา

“พี่ ไหนว่าจะอาบน้ำ” อนงค์นางก้มหน้างุดไม่กล้าสบตาของเขา

“ก่อนอาบน้ำเขาต้องถอดเสื้อผ้าไม่ใช่เหรอ” คนเป็นเจ้าบ่าวยิ้มกริ่ม ไล่สายตามองเรือนร่างเย้ายวนที่เต็มไปด้วยเลือดเนื้อของวัยสาวด้วยความชื่นชมกับรูปร่างที่สมส่วน

“แต่เขาไปถอดกันในห้อง”

“จะต้องไปทำให้เหมือนคนอื่นเขาทำไมล่ะ”

“พี่จักร นางอายนะ” อนงค์นางบ่นอุบอิบเมื่อเจ้าบ่าวถอดชุดของตนจนออกสายตาของอนงค์นางเบือนหน้าหนีกางเกงในตัวเล็กที่ห่อหุ้มความเป็นชายของเขาไว้...แต่ว่าเขาก็จับคางของอนงค์นางให้หันหน้ามามองร่างเปลือยเปล่าที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามให้เต็มตา

“อายทำไม เรารักกัน แต่งงานกัน ทีนี้ก็เหลือแต่ว่าทำให้เราสองคนเป็นของกันและกันเท่านั้น”วิษณุจักรถือวิสาสะเลื่อนบิกีนีที่เหลือติดตัวของเจ้าสาวลงจนสุด ท่ามกลางเสียงหวีดว้ายประท้วงเบาๆ

“พี่จักร ทำอะไรคะ”

“ทำความรักของเราให้สมบูรณ์น่ะสิ” เจ้าบ่าวหมาดๆอุ้มเจ้าสาวเดินเข้าไปในห้องอาบน้ำที่กว้างขวาง เขาวางอนงค์นางลงบนพื้นใต้ฝักบัวอาบน้ำอันใหญ่ แล้วเปิดให้น้ำราดรดลงมาเป็นฝอยละอองกระทบผิวเนื้อพลางทอดกางเกงในของตนออก

“พี่จักร” อนงค์นางเอ่ยออกมาได้แค่นั้น เมื่อวิษณุจักรก้มลงดื่มด่ำเต้าเต่งตึงราวคนกระหายน้ำ มืออีกข้างก็ไม่ปล่อยให้ว่าง เขาคลึงเคล้นจนยอดทรวงตั้งชูชัน จากนั้นจึงย้ายมาแตะปลายลิ้นดูดดุนจนอนงค์นางต้องแอ่นอกกระตุกรับตามสัญชาติญาณ
วิษณุเลื่อนมือร้อนๆพาดผ่านหน้าท้องแบนราบลงไปสัมผัสกุหลาบดอกงาม เพียงไม่นานเจ้าสาวก็บิดตัวคล้ายถูกทรมานแสนสาหัส

“โอว พี่จักรขา นางจะขาดใจตายอยู่แล้ว”เจ้าสาวครางละเมอกับความรู้สึกแปลกใหม่ที่เจ้าบ่าวเป็นผู้มอบให้

“พอแล้วค่ะ พอแล้ว นางจะทนไม่ไหวแล้ว” อนงค์นางร้องห้ามเมื่อรู้สึกเหมือนจะขาดใจกับการปรนนิบัติของเจ้าบ่าวที่ดูจะไม่ยอมหยุดยั้งจะมอบความสุขให้เธอ
“อีกนิด พี่อยากให้นางได้รู้ว่าความสุขระหว่างหญิงชายมันเป็นแบบไหน” เขากระซิบบอกตรงซอกหู มือก็ทำงานเป็นระวิงเพื่อสร้างความสุขให้กับร่างเปลือยเปล่าภายใต้สายน้ำที่พ่นละอองเป็นฝอยเย็นฉ่ำ

“โอวพี่จักร พี่จักรขา” อนงค์นางหวีดร้องเมื่อเจ้าบ่าวพาเธอมาถึงปลายทางของสายรุ้งที่สดใส เธอผวาเข้ากอดรัดร่างหนาเอาไว้แน่น

“พี่จักรจะทำให้นางขาดใจตายอย่างนั้นเหรอคะ”เจ้าสาวตัดพ้ออย่างเอียงอายอยู่ในอ้อมแขนที่เต็มไปด้วยมัดกล้าม

“นี่เพิ่งบทเรียนแรกเท่านั้นเอง” วิษณุจักรปิดฝักบัว แล้วเอื้อมหยิบผ้าขนหนูสีขาวมาซับน้ำตามผิวขาวนวลอย่างทะนุถนอม เพียงแค่นั้นก็ทำให้อนงค์นางแทบลืมหายใจเมื่อเขาเช็ดลงไปจนทั่วไม่เว้นแม้แต่กุหลาบดอกงามของเธอ

“เราไปต่อกันที่เตียงดีกว่านะนาง พี่จะสอนบทเรียนที่สองให้” วิษณุจักรอุ้มเจ้าสาวพาเดินออกมายังเตียงหลังใหญ่กลางห้อง เขาวางร่างเปลือยเปล่าลงบนเตียงแล้วคลานตามขึ้นไป

“เมื่อกี้น่ะแค่น้ำจิ้ม ต่อไปนี้คือกับแกล้ม ส่วนจานหลักจะมาตอนดึกๆ”

“ทำไมมันหลายจานนักล่ะคะ”

“เขาเรียกชุดเมนคอร์สไง จะค่อยๆทยอยเสิร์ฟมาเรื่อยๆ”วิษณุจักรเอ่ยกลั้วหัวเราะ แล้วเลื่อนตัวขึ้นทาบทับร่างขาวนวล มองสบตาเจ้าสาวที่เสหลบลงอย่างเอียงอาย ก็ยิ่งทำให้เขาเกิดความภาคภูมิใจว่าบทเรียนแรกที่เขามอบให้อนงค์นางนั้นได้ผลอย่างดี

“นาง”

“ขา”

“มองตาพี่สิ”

“ไม่เอาอาย”

“ถ้าอย่างนั้นก็หลับตานะ จะได้ไม่เห็นว่าพี่ทำอะไรนางบ้าง”

“แต่ว่า...” อนงค์นางอึกอัก ใจเต้นตึกตักไม่แน่ใจว่าจะหลับตาตามคำแนะนำของเจ้าบ่าวดีหรือไม่ เพราะขนาดแค่บทเรียนแรกยังทำให้เธอทรมานจนยากจะอธิบายความทรมานนี้ให้คนอื่นเข้าใจได้ เธอรู้แต่ว่าหากเขาจะทรมานเธออีก เธอก็ยินดีและพร้อมจะตอบสนองเขาเช่นกัน

“ตัดสินใจไม่ถูกใช่ไหม ถ้าอย่างนั้นพี่ตัดสินใจให้เองนะ” เจ้าบ่าวตัวดีก้มประกบปากลงบนกลีบปากสีชมพูอย่างร้อนแรง ส่งลิ้นร้อนชื้นเข้าไปทักทายยั่วเย้าในโพรงปากที่ดูจะเงอะงะทำอะไรไม่ถูก แต่เพียงชั่วครู่ นักเรียนก็ตอบสนองมาได้อย่างยอดเยี่ยมจนเขาต้องเอ่ยปากชม

“เก่งมากเลยจ้ะ หัวไวอย่างนี้พี่ให้เต็มสิบเลย”

“จริงเหรอคะ” คนถามกล้าที่จะยกมือขึ้นคล้องไว้บนต้นคอของเจ้าบ่าว เมื่อเขายังเป็นฝ่ายคร่อมทับร่างของเธอไว้

“จริงสิ ถ้าอย่างนั้นมาเริ่มบทเรียนต่อไปเลยนะ” วิษณุจักรเลื่อนตัวลงต่ำ เขาแวะดื่มด่ำกับยอดทรวงที่ตั้งชูชัน สลับกันไปมาทั้งสองข้าง มือก็ปรนเปรอเตรียมความพร้อมของเจ้าสาวอยู่ตรงกุหลาบกลีบงาม จนเขามั่นใจว่าจะไม่ถูกต่อต้านจึงเลื่อนตัวกลับขึ้นมา แล้วขยับสะโพกเคลื่อนตัวเข้ารุกรานกลีบกุหลาบอย่างทะนุถนอม กระนั้นร่างขาวนวลก็สะดุ้งกระถดถอยหนีจนเขาต้องจับสะโพกเอาไว้

“ไม่เป็นไรนะนาง ไม่เป็นไร”

“เจ็บค่ะ”

“นิดเดียว แต่เดี๋ยวนางจะลืมความเจ็บตรงนี้เลยทีเดียว พี่รับรอง”เขากระซิบปลอบอยู่ตรงเรียวปากแล้วส่งลิ้นร้อนชื้นเข้าไปปลอบโยน พลางขยับสะโพกช้าๆคลึงเคล้นจนร่างเปลือยเปล่าพลิ้วไหวด้วยความรัญจวน แล้วผวาเข้ากอดรัดจิกเล็บลงบนแผ่นหลังเมื่อเขาเร่งจังหวะลีลารักให้ร้อนแรงขึ้น

“โอว พี่จักร นาง นางทนไม่ไหวแล้ว”

“ทนไม่ไหวก็ปล่อยออกมาให้สุดๆไปเลยที่รัก” วิษณุจักรเค้นเสียงลอดไรฟัน เมื่อรู้สึกถึงแรงบีบรัดจากภายในจนไม่อาจหยุดยั้งได้อีก กระแสธารรักจึงไหลหลั่งพร้อมกายก็เกร็งกระตุกไปพร้อมๆกับคนใต้ร่างที่กอดรัดเขาจนแน่น ก่อนจะผ่อนลมหายใจช้าๆเมื่อเขาประคองให้นอนเคียงแล้วก้มลงจูบหน้าผากที่มีเม็ดเหงื่อผุดพราว แม้จะมีเครื่องปรับอากาศก็ตาม






จุฬามณีเฟื่องนคร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 3 ก.ย. 2555, 21:36:33 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 17 ต.ค. 2555, 08:17:29 น.

จำนวนการเข้าชม : 3543





<< ตอนพิเศษ 1.1 งานแต่งวิษณุจักรกับอนงค์นาง   
จุฬามณีเฟื่องนคร 3 ก.ย. 2555, 21:38:23 น.
เหลือตอนพิเศษ อีกตอนเท่านั้นครับ ยังไม่ได้เขียนเลย..ขอกำลังเฮือกสุดท้ายแล้วกัน...จะเป็นตอนรวมญาติ...ของสามเรื่อง ได้แก่ พี่ต้นกล้วย พี่ต้นกล้า และเมขลาครับ...งานแต่งของคุณหนูจรินนากับอาจารย์กล้วยจะไม่ถูกรวบเข้าไปเล่าผสมกับงานแต่งของเมขลาครับ..จะได้ไม่เยิ่นเย้อ......ขอบคุณจากทุก ๆ แรงใจครับ..


จุฬามณีเฟื่องนคร 3 ก.ย. 2555, 21:39:22 น.
เม้นท์เยอะ ๆก็อาจจะมาเร็ว...อิอิ


imsoul 3 ก.ย. 2555, 21:50:04 น.
น่ารักกกก


หนอนฮับ 3 ก.ย. 2555, 21:54:13 น.
กรี๊ดดดดดดดดดดดด....พี่จักรจัดเต็ม แล้วพี่กล้วยละค่าาาาา อิอิ


loveleklek 3 ก.ย. 2555, 22:09:02 น.
ว๊่ยยยย เฟื่องเปลี่ยนไป


ใบบัวน่ารัก 3 ก.ย. 2555, 22:20:35 น.
>0< จัดเต็มที่นะ


Orathai 3 ก.ย. 2555, 22:42:47 น.
นั่นสิ..แปลกใจเล็กน้อย


nateetip 3 ก.ย. 2555, 22:55:58 น.
คุณเฟื่องมีเเนวนี้ด้วยอ่ะ อ่านเเล้วเขินเลย เเต่ชอบคู่นี้นะคะ


จุฬามณีเฟื่องนคร 3 ก.ย. 2555, 23:00:44 น.
ไปหาลอกของคนโน้นมานิดคนนี้มาหน่อย...ยำ ๆ ผสม ๆ กัน..อว๊ากกกกกกกก


pseudolife 3 ก.ย. 2555, 23:19:41 น.
สู้ๆ ค่ารอติดตาม


invisible 3 ก.ย. 2555, 23:37:06 น.
พี่จักรจัดเต็มมากค่าา


KipkeLucifer 3 ก.ย. 2555, 23:38:02 น.
ได้ใจอะ


เด็กหญิงม่อน 4 ก.ย. 2555, 00:01:16 น.
พี่จักรรรรรรรรรรรรรรร กำเดาไหล


คิมหันตุ์ 4 ก.ย. 2555, 01:08:54 น.
ฮ่าฮ่า...นานๆ จะมาแนวบนเตียงสักที กร๊ากๆ เขินแทน


innam 4 ก.ย. 2555, 09:02:15 น.
เขิลแทน


tuktuk 4 ก.ย. 2555, 10:39:34 น.
จัดเต็มเลยนะคุณเฟื่อง


nunoi 4 ก.ย. 2555, 12:04:43 น.
โอ้ววว ว้าววว พี่จักรจัดเต็มจริงๆ


yoon 4 ก.ย. 2555, 19:41:58 น.
จะรออ่านเหมือนเดิม


nutcha 4 ก.ย. 2555, 19:48:23 น.
โอ้ววววว พี่จักรร้อนแรงจริง ๆ


ปอยอะนะ 4 ก.ย. 2555, 20:45:31 น.
555 คุณเฟื่องพัฒนาก้าวขึ้นเตียงกับเค้าด้วย


Zephyr 4 ก.ย. 2555, 21:15:02 น.
พี่จักร อัดอั้นมานาน เลย แบบ เอ่อ....


ปริยฉัตร 5 ก.ย. 2555, 08:49:18 น.
สู้ๆ พี่จักรร้อนแรงจริงๆ


anOO 5 ก.ย. 2555, 10:22:25 น.
ตอนของอาจารย์กล้วย จะแพ้พี่ตักรเค้าไหมเนี้ย


jink 12 ก.ย. 2555, 07:43:56 น.
รอตอนพี่กล้วยอยู่นะคะ อิอิ ขอหวานกว่าพี่จักรนะคะ


panon 12 ก.ย. 2555, 10:30:25 น.
อ่านทีเดียวจบเลยยยยยยยยยยยยยสนุกมากกกกกกกกกกกกกกกเลือดกำเดากระฉูด


sunflower 16 ก.ย. 2555, 15:02:40 น.
มาต่อเร็วๆนะ^_^


117 17 ก.ย. 2555, 03:59:12 น.
ชอบบบบบบบบบบบบ


minddeer 21 ก.ย. 2555, 17:27:39 น.


AHA 30 ก.ย. 2555, 11:50:55 น.
รอค่ะ ^^


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account