เล่ห์รักสาวนักพิสูจน์อักษร (ใช้ชื่อนี้ไปก่อนค่ะ)
เล่ห์รัก สาวนักพิสูจน์อักษร

พีระดาสาวน้อยแสนสวยวัยยี่สิบสี่ที่ไม่ได้สวมแว่นตาหนาเตอะ แต่เธอใส่คอนแทคเลนส์แฟชั่นและสวมรองเท้าส้นสูงปรี๊ดแต่งตัวเปรี้ยวจี๊ดมาทำงานเป็นหัวหน้าทีมพิสูจน์อักษรให้กับสำนักพิมพ์นิยายชื่อดังซึ่งเป็นธุรกิจของครอบครัวเพราะเรียนจบมาทางด้านนี้โดยตรง เธอเกิดตกหลุมรักนักเขียนหนุ่มเจ้าของนามปากกาเมาคลี ที่เธอได้รับมอบหมายพิสูจน์อักษรให้เขาอยู่บ่อยครั้งจนหลงคิดไปว่าเขาคงเป็นชายหนุ่มใจดีสุดแสนโรแมนติกเหมือนดั่งนิยายรักอันแสนหวานที่เขาเป็นผู้ประพันธ์ผ่านปลายปากกาเอาล่ะถ้าเธอจะเลือกใครมาเป็นแฟนตัวจริงสักทีขอให้ได้เขาคนนี้เถิดสาธุ…

แต่แล้วความเป็นจริงมันกลับไม่เป็นเช่นนั้นเมื่อภาคินัยเป็นผู้ชายโมโหร้าย เอาแต่ใจ และมือไวเป็นที่หนึ่งเขารู้มาจากเพื่อนซี้ที่ทำงานวาดภาพปกนิยายว่ามีหญิงสาวแอบคลั่งไคล้เขาเอามากๆ ชายหนุ่มจินตนาการไปถึงใบหน้าแสนเฉิ่มและยิ้มหยันประกาศสียงดังว่าแม่สาวนักพิสูจน์อักษรแสนเฉิ่มแบบนั้นเขาไม่มีวันสนใจและเธอคงไม่มีวันได้แอ่มเขาอย่างแน่นอนแม้แต่ขาอ่อนขาวๆ ของเขาเธอก็คงไม่มีวันได้เห็น

แต่คำพูดทั้งหมดนั้นมันบังเอิญไปเข้าสองหูของพีระดา หญิงสาวควันออกหูภาพพระเอกในใจของเขาถูกลดเกรดให้เป็นเพียงตัวร้ายในทันที ให้ตายเถอะชาตินี้เธอสาบานเลยว่าจะต้องพาเขาขึ้นเตียงกับเธอให้ได้จากนั้นก็จะเขี่ยเขาลงจากเตียงน้ำตาของนายภาคินัยจะต้องเช็ดหัวเข่า

ภาคินัยเปลี่ยนคู่นอนไปเรื่อยๆ เขามันเป็นคาสโนว่าตัวร้ายที่ไม่ค่อยจะมีใครรู้นักว่าอีกด้านหนึ่งเขาเป็นนักเขียนชื่อดัง เขาใช้ประสบการณ์ในการร่วมรักกับสาวๆ หลายคนซึ่งพวกหล่อนเต็มใจ แล้วนำประสบการณ์มาบรรยายในบทเลิฟซีนที่เขาเขียนจนนักอ่านบางคนนั้นติดอกติดใจเคลิบเคลิ้มไปกับแต่ละฉากแต่ละตอนและที่สำคัญมันแทบจะไม่เคยซ้ำกันเลย
แต่แล้วเมื่อวันหนึ่งหัวใจของเขามันแทบจะหยุดเต้นเมื่อเพื่อนสนิทชวนไปดูงานแฟชั่นโชว์ซึ่งเขาไม่ค่อยชอบสักเท่าไหร่ เขาพบนางแบบสาวคนสวยดาวดวงใหม่ประดับวงการเธอช่างน่ารักถูกใจเขาจนคิดอยากจะจีบเธอเอามาเป็นคู่ชีวิตจริงๆ ให้ตายถ้าทำได้เขาอยากจะอุ้มเธอลงมาจากแคตวอล์กและไปขึ้นเตียงของเขาเสียเดี๋ยวนี้เลย( ที่สำคัญเธอคงไม่รู้หรอกว่าเขาเคยเห็นเธอครั้งหนึ่งแล้วเมื่อสองปีก่อนที่ขายร้านขายรองเท้าแบรนด์ดังถึงกับเอาเธอมาจินตนาการเป็นนางเอกในนิยายเล่มแรกของเขา)

ชายหนุ่มดีใจจนเนื้อเต้นเมื่อจู่ๆหญิงสาวที่แอบหมายปองก็พาตัวมาสนิทกับเขาจนภาคินัยเห็นสวรรค์รอยู่รำไรข้างหน้า แต่แล้วเขาก็ต้องเจ็บปวดและเสียหน้าอย่างแรง เมื่อพีระดาบอกว่าเธอสนใจเพื่อนเขาต่างหากนั่นคื่อเวหา เพื่อนที่สนิทที่สุดของภาคินัย
ส่วนเขานั่นเหรอมันก็เป็นแค่สะพานให้เธอเดินข้ามไปเท่านั้น และแล้วเธอก็ไปคบกับเพื่อนของเขาอย่างเปิดเผยทำให้ภาคินัยรู้สึกเจ็บแปลบไปถึงขั้วหัวใจ แต่ว่าทำไมเธอถึงแอบส่งสายตามายั่วยวนเขาอยู่บ่อยๆเวลาเพื่อนเขาเผลอ มันยังไงกันแน่หรือแม่นางแบบสาวผู้เร่าร้อนคนนี้คิดจะจับปลาสองมือ ได้สิในเมื่อหล่อนอยากจะทำตัวเป็นแม่ปลาไหลเขาก็จะเป็นใบข่อย เขาจะจัดการรีดเมือกให้หล่อนหมดโอกาสลื่นไหลไปหาใครต่อใครได้อีก เพราะหล่อนต้องเป็นของเขาคนเดียวเท่านั้น

+++++++++++++++++++++++++++++


Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: ตอนที่ 33 ครึ่งหลัง (อวสาน)

เพิ่งจะเขียนจบหยกๆไม่ถึงสิบนาทีเลยค่ะเลยลองเอามาให้อ่านกันเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกทีเขียนยาวทะลุไป
240 หน้า A4 แล้ว โอ้ถ้าเป็นหนังสือมันจะหนาแค่ไหนนะเนี่ย


+++++++++++++++++++++++++++
“อะไรนะ ที่คุณขอผมแต่งงานเพราะ พีระดาบอกคุณว่าผมเป็นโรคกล้ามเนื้อหัวใจอ่อนแอ และคุณก็เชื่อ”

ชาวีไม่มั่นใจว่าควรจะพยักหน้าหรือส่ายหน้า“อย่าบอกนะว่าคุณไม่ได้ป่วย ก็พี่หมอวัลลภเขา...”

สุชาวีจำได้ดีเย็นวันนั้นวันที่เธอโกรธนายหัวที่เขาเอารถคู่ใจของเธอไปให้พวกพ่อค้าเศษเหล็กชำแหละซากของมันและเอารถเก๋งยี่ห้อดังมาให้เธอใช้แทน ขณะที่เธอกำลังเสียใจรู้สึกอาลัยอาวรณ์มันอยู่นั้นพีระดาก็แวะมาหาที่บ้านพร้อมกับยื่นสมุดโน๊ตเก่าๆให้เล่มหนึ่ง พีระดาบอกว่านายหัวเมฆารักเธอมากถ้าขืนยังพ่อแง่แม่งอนกันอยู่แบบนี้สักวันอาจจะเสียใจ


สุชาวีจำได้เธอถามพีระดาว่าสมุดอะไร แต่พีระดาบอกว่าอยากให้เธออ่านมันเองสุชาวีเปิดดูและพบว่ามันเป็นสมุดจดบันทึกอะไรสักอย่างเธอเริ่มอ่านมันไปทีละบรรทัดและพบว่ามันเป็นสมุดที่นายหัวเมฆาระบายความรู้สึกที่มีต่อเธอลงไปตั้งแต่เริ่มคบกันในนั้น ทำให้สุชาวีได้รู้ว่านายหัวเมฆารักและแคร์ความรู้สึกเธอมากแค่ไหน เรื่องราวที่เขาบันทึกเธออ่านไปก็ขำไปจนลืมโกรธเรื่องรถไปเสียสนิท แต่บันทึกรักบางวันสุชาวีก็อ่านทั้งน้ำตาเช่น

วันที่ 07 กันยายน 2554



สุชาวีวันนี้ตื่นเช้ามาผมก็วางแผนแล้วว่ามันเป็นวันหยุดของคุณ คืนนี้เราจะไปดินเนอร์กันที่ร้านประจำของผม ผมให้ยัยแก้มโทรไปจองร้านและเตรียมช่อดอกไม้เอาไว้ให้คุณด้วย คิดว่าคุณคงชอบมันแน่ๆผมจำได้คุณชอบลิลลีสีขาว และไฮเดรนเยียสีม่วง คืนนี้หวังว่ามันจะทำให้คุณเซอร์ไพรซ ก็ผมมันหวานไม่ค่อยเป็นวันๆเอาแต่คลุกกับคนงานในไร่กลัวคุณจะเบื่อคนตัวดำๆ แต่หน้าตาดีอย่างผมไปเสียก่อนวันนี้จะขอหวานกับคุณเสียหน่อย เฮ้อ!กล้าเขียนแต่ไม่กล้าพูด หน้าตาผมมันไม่ค่อยเหมาะกับคำหวานๆ หากผมพูดออกมากลัวคุณจะอาเจียนเสียก่อน


17.09 น. ทุกอย่างเป็นอันจบเมื่อคุณบอกผมว่าคุณติดธุระไม่ว่างออกมาทานข้าวกับผม คุณจะรู้บ้างไหมว่าผู้ชายตัวใหญ่ผิวคล้ำอย่างผมก็น้อยใจคนรักเป็นเหมือนกันนะ สุดท้ายดอกไม้ก็เลยเสร็จยัยแก้มไป ส่วนอาหารที่สั่งไว้ผมให้คนขับรถเอาไปเอามาแจกให้คนงานกินกัน



เรื่องนี้ทำให้สุชาวีเข้าใจที่มาของดอกลิลลีช่อโตสีขาวที่เลขาแก้มถือมาโชว์ ในคืนนั้นและบอกว่านายหัวให้เธอ แต่อะไรก็ไม่เท่ากับบันทึกหน้าท้ายๆที่นายหัวเมฆาเขียนเอาไว้ว่า



วันที่ 20 ตุลาคม 2554


วันนี้ผมไปรอสุชาวีที่โรงพยาบาลแต่เธอกลับไปก่อนผมประมาณสิบห้านาที ผมตั้งใจว่าจะแอบไปเซอร์ไพรซ แต่ทำงานในไร่ยุ่งจนลืมเวลาเมื่อดูนาฬิกาอีกทีก็รีบขับถพยายามให้ถึงเร็วที่สุดแต่ก็ช้าไป ช่วงนี้เป็นช่วงเก็บเกี่ยวงานในไร่ยุ่งมากผมรู้สึกเหน็ดเหนื่อยมากจริงๆ ข้าวปลาแทบจะไม่ได้กินบางครั้ง ใจสั่น หวิวไปหมด ถ้าคุณอยู่กับผมทุกวันที่บ้านหลังนี้ก็ดีสินะวันไหนผมรู้สึกใจสั่นคุณอาจจะช่วยผมได้บ้าง

วันนี้ผมบังเอิญได้พบหมอวัลลภ สามีของเพื่อนคุณ เขาทักทายผมและแนะนำให้ผมตรวจสุขภาพบ้างเขาบอกว่าผมหน้าตาดูอ่อนเพลีย ผมบอกหมอวัลลภว่าผมแข็งแรงดีเคยอุ้มผู้หญิงสาวๆเข้าเอวได้ครั้งละสองคน หมอวัลลภหัวเราะและยืนยันว่าให้ผมตรวจร่างกายดูเสียหน่อยจะดีกว่า ผมก็เลยยอมตรวจเพราะกลัวหมอวัลลภจะเสียน้ำใจ เราคุยกันอยู่นานสองนานสรุปหมอวัลลภวินิจฉัยโรคว่าผมเป็นโรคหัวใจ อ่อนแรง เฮ้อ! ผมควรจะบอกเรื่องนี้กับคุณดีไหมสุชาวี

วันที่ 28 ตุลาคม


ผมไปส่งคุณที่โรงพยาบาลพอคุณขึ้นหวอตไปแล้วผมบังเอิญได้พบหมอวัลลภอีกครั้ง เขารีบเข้ามาทักผม เดี๋ยวนี้เจอหน้าผมทำมาตบไหล่ ผมยังจำได้ครั้งแรกที่เจอกันที่หน้าร้านอาหารหมอนี่ห่อไหล่ก้มหน้ามองแต่พื้นดิน


หมอวัลลภถามผมว่ายาชั้นดีแค่ไหนก็คงรักษาอาการของผมไม่หาย ทางที่ดีที่สุดก็คือขอคุณแต่งงานซะ แล้วชีวิตที่เหลืออยู่ของผมซึ่งไม่รู้ว่าจะอยู่ได้ถึงวันไหนอาจจะมีความสุขได้บ้าง


เมื่อนายหัวเมฆาฟังที่สุชาวีเล่าจบเขาบอกไม่ถูกว่าเขารู้สึกอย่างไร จะเสียใจหรือจะดีใจดีล่ะที่คนรักมาขอแต่งงานเพราะเข้าใจว่าเขาป่วยหนักอยากดูแลเขาไปจนลมหายใจสุดท้าย


“ที่รักคุณเองก็เป็นพยาบาล อาการของผมมันเหมือนคนเป็นโรคหัวใจระยะสุดท้ายตรงไหน” เขายังสงสัยก็เขาออกจะแข็งแรงขนาดนี้


“ก็ฉันเห็นคุณแอบกินยาทุกวัน พอฉันถามคุณก็บอกว่าไม่มีอะไรมันเป็นแค่วิตตามิน”
นายหัวเมฆานึกถึงวิตตามินบำรุงกำลังที่สั่งมาจากเมืองนอกเขาเริ่มกินมันมาหลายเดือนเพราะเพื่อนแนะนำให้กินบอกว่ากินแล้วฟิตแน่ๆ “ให้ตายไอ้นั่นมันวิตามินบำรุง...เอ่อ..” เขาหยุดพูดต่อ

“ยาอะไรเหรอคะ”


“ยาอะไรก็ช่างมันเถอะ แต่ผมรับรองได้สุชาวีมันไม่ใช่ยารักษาโรคหัวใจอ่อนแรงอย่างแน่นอน เพราะผมไม่ได้เป็นโรคหัวใจจริงๆ ถ้าเป็นก็คือโรคหัวใจเป็นสีชมพู” นายหัวเมฆาพูดสีหน้าเรียบเฉย

ตอนนี้สุชาวีรู้สึกหัวใจหวิวๆ นี่มันอะไรกันเธอเข้าใจผิดไปมหันต์ ทำไม หรือใครกันเจ้าเล่ห์แกล้งให้เธอตีความผิด


“แต่ในบันทึกนั้น ฉันเห็นคุณเขียนเอาไว้ทุกวันว่าหัวใจคุณสั่นบ้างล่ะ ใจหวิวบ้างล่ะ รู้สึกหัวใจอ่อนแรง”

นายหัวเมฆาอมยิ้ม “มันเป็นอาการของคนมีความรักน่ะ แล้วทำไมคุณไม่ถามผมตามตรงล่ะ”

สุชาวีนึกถึงคำพูดของพีระดา กับหมอวัลลภที่ให้ความหมายคล้ายคลึงกันมาก
“การที่คนๆหนึ่งป่วยด้วยโรคอะไรหรือสาเหตุอะไรก็ตาม ยารักษาที่ดีที่สุดก็คือความรัก ความเอาใจใส่จากคนที่เขารัก เชื่อไหมคนที่เป็นมะเร็งระยะสุดท้ายยังสามารถยืดเวลามีชีวิตออกไปได้เป็นสิบปี”


“หมอวัลลภเขาพูดว่าผมเป็นโรคกล้ามเนื้อหัวใจอ่อนแรงระยะสุดท้ายเหรอ”

สุชาวีส่ายหน้า “เปล่าค่ะ แต่ฉันไปถามเรื่องอาการของคุณกับหมอวัลลภ เขาเอาแต่ส่ายหน้าตีหน้าเครียดไม่พูดเกี่ยวกับโรคของคุณเลย เพียงแต่บอกว่าชีวิตที่เหลือของคุณฉันเท่านั้นที่ช่วยให้มีความสุขได้”


“ถ้าอย่างนั้นผมรู้แล้วว่าใครที่บอกคุณว่าผมป่วยระยะสุดท้ายด้วยโรคหัวใจ” เขานึกถึงใบหน้าสวยของพีระดาและนึกขอบคุณที่ช่วยให้งานนี้ง่ายขึ้น “พีระดาใช่ไหม”


สุชาวีสั่นศีรษะ “เธอไม่ได้พูดค่ะว่าคุณป่วยเป็นอะไรแต่ทำให้ฉันคิดเท่านั้น แต่แนะนำให้ฉันไปสอบถามอาการของคุณจากคุณหมอวัลลภเองจะดีกว่า”


+++++++++++++++++++++


พีระดายิ้มเจ้าเล่ห์และค่อยๆคายความลับที่ภาคินัยต้องการให้เธอเฉลย “ตกลงคุณจะเล่าให้ผมฟังได้หรือยังจอมเจ้าเล่ห์”



“คุณลืมไปแล้วหรือคะว่าหมอวัลลภแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจ แพทย์ประจำโรงพยาบาลที่อำเภอนี้เป็นน้องชายพี่วาโย ก็คือญาติผู้พี่ของฉันเองยังไงล่ะคะซึ่งแต่งงานไปไม่นานนี้กับเจ้าสาวพยาบาลที่เป็นเพื่อนของสุชาวี ฉันรู้เรื่องนี้ตอนพี่หมอแต่งงาน และคุณสุชาวีไปเป็นเพื่อนเจ้าสาวด้วย แต่วันนั้นเธอคงไม่เห็นเราในงานเพราะเครื่องบินดีเลย์เรามาร่วมงานช้าแต่ฉันเห็นเธอและจำได้ว่าเป็นคนรักของนายหัวเมฆา”


“คุณก็เลยไปล็อบบี้หมอวัลลภให้ช่วยกันโกหกสุชาวีล่ะสิ ทำแบบนี้คุณหมอก็ผิดจรรณญาบรรณแพทย์น่ะสิคุณ โดนยึดใบอนุญาตได้เลยนะ”


พีระดายิ้มหวาน “ไม่มีทางพีระดาซะอย่าง อันที่จริงพี่หมอก็จะไม่ยอมร่วมมือเพราะพี่หมอก็อ้างเรื่องจรรณญาบรรณจะให้เขาหลอกลวงคนไข้ได้อย่างไร ฉันก็เลยขอร้องพี่หมอว่าขอให้พี่หมอช่วยไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้นเลยตอนที่คุณสุชาวีมาถามอาการของนายหัวถ้าเธอถามหนักมากๆก็ให้เดินหนีซะ เท่ากับว่าพี่หมอไม่ได้โกหก ไม่ได้พูดสักคำด้วยว่านายหัวป่วย”


“คุณนี่มันเจ้าเล่ห์จริงๆนะพีระดา”เขาบีบจมูกน้อยๆของเธออย่างเอ็นดู และรวบร่างบางเข้ามากอด

“แล้วแบบนี้คุณไม่กลัวว่าสองคนนั้นจะโกรธเราเหรอ”

พีระดายิ้มหวานส่งให้สามีและส่ายหน้า “ไม่หรอกค่ะก็เขารักกันมากฉันเชื่อ เหมือนอย่างที่เราสองคนรักกันยังไงล่ะคะ” ใบหน้าสวยช้อนตามองคนหน้าคมผิวขาวหุ่นกำยำตรงหน้า ฉันแค่ไม่อยากให้เขาเสียเวลาดีๆที่จะได้อยู่ร่วมกันเท่านั้นเอง ฉันหวังดีกับเพื่อนของฉันจริงๆนะคะ”


++++++++++++++


ในห้องหอเมื่อนายหัวหมดคำถาม สุชาวีก็ได้คำตอบทั้งหมดไปแล้วทั้งสองคนมองหน้ากัน สุชาวีไม่รู้ว่าตัวเองจะพูดอะไรดี


“ผมขออีกคำถามนะที่รัก แล้ววันนั้นที่ผมไปตามรถมาคืนคุณ คุณหายไปไหนทำไมถึงเก็บเสื้อผ้าไปด้วย แต่พอผมตื่นมาอีกทีหลังเกิดเรื่องก็พบว่าคุณมานั่งอยู่ข้างเตียงผม”


สุชายิ้มเขินๆไม่ยอมตอบ “ไม่ตอบไม่ได้เหรอคะ”


“ไม่ได้หรอกในเมื่ออีกไม่กี่นาทีนี้เราจะกลายเป็นคนๆเดียวกันแล้ว มีอะไรเราก็ควรเปิดใจพูดกันไม่โกหก ไม่หลอกลวง ไม่ปิดบัง มันจะเป็นเช่นนี้ตลอดไป”


“ฉันเอ่อ...ไปปิดหนี้บัตรเครดิตน่ะคะ”


“อะไรนะ”สีหน้านายหัวประหลาดใจมาก


“หนี้บัตรเครดิต! อย่างนั้นเหรอ”


“หลังจากอ่านบันทึกรักของนายหัว” สุชายิ้มหวานส่งสายตาเจ้าเล่ห์ นายหัวก็ยิ้มเขินเขาอายมากเรื่องยบันทึกรักฉบับลับนี้ “และรู้ว่าคุณรักฉันมากแค่ไหนคุณอยากจะแต่งงานกับฉันจริงๆ ฉันไม่อยากจะเป็นเจ้าสาวที่มาแต่ตัวพร้อมหนี้สินก็เลยรีบไปปิดบัตรเครดิตให้หมดหนี้ จากนั้นสุชาวีก็เล่าถึงสาเหตุแห่งการเป็นหนี้ที่ถูกคนรักเก่าขโมยบัตรของเธอไปกดเล่นพนันบอลและเธอต้องรับภาระใช้หนี้นี้แทนมานาน จนเธอได้ค่าตัวจากการเดินแบบจำนวนสองแสนสุชาวีเลยคิดจะไปจัดการให้เสร็จสิ้นซึ่งเธอไม่ได้ไปกรุงเทพ แต่ไปในตัวเมืองเท่านั้นที่หอบกระเป๋าไปด้วยเพราะคิดว่าจะขอค้างกับเพื่อนที่พักอยู่ที่อพาร์ทเม้นต์ในเมืองก็เท่านั้น”


“ที่จริงคุณไม่ต้องลงทุนทำถึงขนาดนั้นก็ได้สองล้านผมก็ใช้แทนคุณได้แค่คุณบอกผมคำเดียว”เขากุมมือเธอ


“เรื่องเงินไม่ใช่เรื่องสำคัญเลยสำหรับผม ผมเห็นคุณสำคัญกว่าเงินและสมบัติทั้งหมดที่ผมมี”สายตามั่นคงจริงใจจ้องลึกไปที่ดวงตาคู่สวย


“นายหัวอยากจะถามอะไรฉันอีกล่ะคะ ฉันยินดีตอบทุกคำถาม” นายหัวเมฆามองนาฬิกา


“ผมหมดคำถามแล้วล่ะจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามที่คุณยอมแต่งงานด้วย แต่ผมเชื่อว่าเราสองคนรักกันจริงไหม” สุชาวีหน้าแดงจัดเมินหน้าไปมองที่หน้าต่างและเห็นว่าด้านนอกฝนเริ่มตกโปรยลงมาแล้ว


“ดึกแล้วมันไม่ใช่เวลาที่เราจะมานั่งมองหน้ากันอยู่แบบนี้ไม่ใช่เหรอ” นายหัวเมฆามองสุชาวีตั้งแต่ใบหน้าสวยเลื่อนต่ำลงไปตามลำคอระหง ทรวดทรงได้สัดส่วนจากนั้นก็รวบร่างบางนอนลงแนบพื้นที่นอนนุ่มและคลุมโปงด้วยผ้าห่มนวมผืนนุ่มสีขาวบรรเทาความหนาวเย็นจากแอร์ภายในห้องหอและอากาศเย็นฉ่ำจากสายฝนที่ส่งผลให้คืนนี้หนาวเหน็บ ต่อจากนั้นนายหัวหนุ่มก็บอกรักสุชาวีด้วยภาษากายเป็นเวลาหลายชั่วโมงจนเธอแทบจะสำลักความหวานที่เขาบรรจงมอบให้ เขามอบความสุขที่ในชีวิตสาวของสุชาวีเพิ่งจะได้ลิ้มรสเป็นครั้งแรกและตักตวงความสุขจากร่างกายของสุชาวี เรียกร้องจนกว่าเขาจะพอใจให้สมกับการรอคอย และตอนนี้นายหัวเมฆาก็บรรลุความสุขนั้นแล้ว สุขใจยามได้ร่วมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับคนที่เขารักเธอด้วยหัวใจไม่ใช่เพียงแค่ร่างกายและมันจะเป็นอย่างนี้ตลอดไป

++++++++++++++++++++++++++++

เมื่อภาคินัยรับรู้เรื่องราวทั้งหมดของกามเทพสาวจอมเจ้าเล่ห์ที่เดี๋ยวนี้เธอผันตัวจากนางแบบมาเป็นแม่บ้านและเจ้าหน้าที่พิสูจน์อักษรส่วนตัวของเขาแล้ว เขาควรจะทำอย่างไรดีนะ เธอไม่ได้โกหกแต่ก็เจตนาทำให้คนเข้าใจผิด


“ผมจะลงโทษคุณยังไงดีนะที่รัก”เขาสบตาเธอ


“ฉันรู้ว่าคุณไม่กล้าทำหรอก”ตั้งแต่แต่งงานกันมาเขาไม่เคยทำให้เธอเสียใจไม่เคยบ่นว่าให้เสียใจ วันนี้เขาคงไม่คิดจะลงไม้ลงมือกับเธอหรอก


“รู้ได้ยังไงว่าผมไม่กล้าทำ” ภาคินัยมีสีหน้าขึงขัง ทำให้พีระดาถึงกับหยุดยิ้มลงในทันที “ถ้าอย่างนั้นคุณจะลงโทษฉันยังไง ก็ฉันทำไปเพราะความหวังดีนี่คะ”


ภาคินัยดึงร่างเปล่าเปลื่อยเข้ามากอดแนบชิด เธอทำให้เขาร้อนลุ่มได้เสมอไม่รู้เบื่อไม่ว่าจะคืนไหนๆแม้ว่าคืนนี้อากาศจะเย็นฉ่ำจากสายฝนแต่ตอนนี้ร่างกายเขาร้อนไปหมดแล้ว มันความร้อนใจที่อยากจะสอนบทรักบทใหม่ให้เธอ



“ยังไงก็ยังหลงเหลือความผิดอยู่บ้าง ถ้าอย่างนั้นคืนนี้ผมจะขอลงทัณฑ์สวาทคุณก็แล้วกันนะที่รัก” เมื่อเขากระซิบที่ข้างหูเธอจบก็ล้มตัวทาบทับร่างบางจากนั้นก็ทำตามที่พูดเขาใช้เวลาลงทัณฑ์กับเรือนร่างของคนรักจนเกือบรุ่งสาง นึกขอบคุณกาแฟชั้นดีของนายหัวเมฆาที่มันทำให้เขากระปรี้กระเปร่าตาสว่างอยู่ได้ทั้งคืน



---- อวสาน ---



















อัปสรา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 7 ก.ย. 2555, 16:16:24 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 7 ก.ย. 2555, 18:01:33 น.

จำนวนการเข้าชม : 5227





<< ตอนที่ 33 (ครึ่งแรก)   
tam 7 ก.ย. 2555, 17:01:20 น.
กรี๊ดดด อยากอ่านต่อ อีกนิดสนุกมากๆค่ะ


lovemuay 7 ก.ย. 2555, 17:21:45 น.
สนุกมากเลยค่ะ แอบชอบคู่รองมากกว่าคู่หลักอีก อิอิ


HaDeS 7 ก.ย. 2555, 17:47:35 น.
แฮปปี้เอนดิ้ง....ตาร้อนวาว คริๆ


อัปสรา 7 ก.ย. 2555, 17:56:56 น.
เอาไว้อ่านต่อบทส่งท้ายนะคะ


หนอนฮับ 7 ก.ย. 2555, 21:01:10 น.
จบแว้ววววววววววววววว


goldensun 7 ก.ย. 2555, 21:46:44 น.
จรรยาบรรณ, ร้อนรุ่ม
พีรดาน่ารักจัง ไม่ได้ตัวช่วยชั้นดี ลำพังตาล่ำขี้เก๊กคงปิดประเด็นยาก
รอบทส่งท้ายค่ะ


konhin 7 ก.ย. 2555, 23:19:40 น.
โอ้ หวานจริงๆ นางเอกเจ้าเล่ห์จดหยดสุดท้าย


กาซะลองพลัดถิ่น 8 ก.ย. 2555, 00:34:12 น.
ไม่รู้จะบอกว่ายังไงดี ขำก็ขำ ทั้งนายหัวและคุณพยาบาล พอ ๆ กันเลย คิดกันเป็นตุ๊เป็นต๊ะ 5555 แต่ก็น่ะความรักมันบังตาอะไรก็ทำได้ทั้งนั้น .......


katay 8 ก.ย. 2555, 01:07:01 น.
คิดกันไปเองทั้งคู่ .... (รวมถึงคนอ่านด้วย) ^^


wane 8 ก.ย. 2555, 01:38:21 น.
น่ารักมากๆ ค๊าาาา


อัปสรา 8 ก.ย. 2555, 14:39:05 น.
ขอบคุณทุก like ทุกความคิดเห็นนะคะ


Pampam 9 ก.ย. 2555, 13:29:54 น.
บันทึกของนายหัวตลกมาก ชอบคู่รองมากๆค่ะ


kaero 10 ก.ย. 2555, 16:28:15 น.
เล่มนี้ต้องหนาแน่ๆๆๆๆๆเลยค่ะคุณนก


อัปสรา 10 ก.ย. 2555, 21:31:54 น.
ใช่แล้วค่ะคุณกบ แต่เพิ่งจะส่งต้นฉบับไปค่ะไม่รู้จะผ่านหรือเปล่า


อมลลดาOWOอมรรัตน์ 18 ก.ย. 2555, 23:25:36 น.
หวานซะ ..
ลืมคู่นายอัคนีกับเมยาวีไปเลยค่ะ
แล้วทำไมน้องสาวคนเดียวของนายหัวถึงไม่มางานแต่งของพี่ชายละค่ะ


อัปสรา 5 ต.ค. 2555, 22:55:26 น.
อัคนีกับเมยาวี จะไปอยู่อีกเรื่องหนึ่งค่ะยังไม่ได้ลืมจ้า


คิมหันตุ์ 10 ต.ค. 2555, 00:25:10 น.
น่ารักดีค่า


shotang 21 ก.พ. 2556, 14:28:58 น.
555 น่ารักมากเลยค่าาา ^^


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account