เจ้าสาวสิบแปด
อุบัติเหตุ ได้เกิดขึ้น จากเจ้าสาวยี่สิบสองมาเป้็นเจ้าสาวสิบแปด ชีวิตได้ถูกสิ่งใดลิขิต
Tags: เพื่อรัก
ตอน: ใครลิขิต
คฤหาสน์โอ่อ่าสไตล์หรูตั้งอยู่บนเนื้อที่หลายไร่ รายล้อมไปด้วยแมกไม้เขียวขจี ตกแต่งอย่างเป็นระเบียบสวยงาม มีสระน้ำกว้างหรูหรา เจ้าของคฤหาสน์หลังนี้เป็นชายหนุ่มรูปงาม ผิวขาว ไรเคราเขียวครึ้มทำให้ดูคมคาย เป็นเจ้าของธุรกิจการก่อสร้างระดับประเทศ ที่ชื่อว่า ปวีณ
ชายหนุ่มผู้มีฐานะมั่งคั่งร่ำรวยในอันดับต้น ๆ ของประเทศ ความที่มีคุณสมบัติเพียบพร้อมแห่งยุค ชายผู้สง่างามตกอยู่ในสภาพเจ้าชายหนุ่มผู้เป็นที่ปรารถนาของหญิงสาวใหญ่น้อยในสังคมระดับสูงเดียวกัน
แม้ฐานะของปวีณ จะสามารถตักตวงความสำราญจากหญิงสาวที่มาเสนอตัวให้มากหลายร้อยชีวิต แต่เขากลับเป็นชายที่แปลกที่สุด เพราะเมื่อเขาได้รู้จักหญิงสาว ธิดาสาวเพียงคนเดียวของ ครอบครัวมั่งคั่งอีกครอบครัวหนึ่ง คือตระกูลเรืองเวชกิจ เธอผู้มีนาม พันทิวา ธิดาสาวคนเดียวของเจ้าสัวพรชัย และคุณปริศนา เจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ราคาสูง
เขาบอกตัวเองว่าหลงรักเธออย่างถอนตัวไม่ขึ้น ด้วยรอยยิ้มหวานใส และไม่รู้จักว่าเขาคือใคร และในภายหลังหญิงสาวแสนน่ารักคนนั้นจะรู้ว่าปวีณจะอยู่ในฐานะที่เจ้าพ่อ หรือนักการเมือง เดินเข้าออกบ้านเขาเพื่อตักตวงผลประโยชน์ พันทิวาไม่ได้เห็นปวีณคนนี้เป็นเทวดาสักเทียน เธอยังคงเป็นหญิงสาวที่รักชายหนุ่ม และเอาแต่ใจตัวเองอย่างร้ายกาจคงเส้นคงวาเสมอ
แหม่มคือชื่อเล่นของพันทิวาที่ชายหนุ่มผูกพันหัวใจไว้กับเธออย่างสาบานได้ว่า ไม่มีวันเปลี่ยนแปลงอย่างแน่นอน
ชีวิตของสองหนุ่มสาวโรยด้วยกลีบเงินกลีบทองมากค่า หรูหราตามรสนิยม สิ่งที่พวกเขารอคอยคือ การแต่งงานที่ดังระดับหนึ่งของบ้านนี้และบ้านเมืองของเขาเอง
ห้องรโหฐานของปวีณตกแต่งอย่างคนรสนิยมสูง ร่างงามกลมกลึงของหญิงสาวแสนสวย ยืนอยู่กึ่งกลางห้องนอน ดวงตาคู่งามทอดมองเย้ายวนไปที่ชายผู้นั่งอยู่บนเก้าอี้นุ่มมุมห้อง เขาจ้องมองอากัปกิริยาของหญิงสาวราวกับต้องมนต์ขลัง แทบลืมหายใจ
นิ้วมือเรียวขาวลูบไล้ลำคอระหง ละเรื่อยลงมาที่กระดุมเสื้อตัวสวย ปลดออกทีละเม็ด อย่างช้า ๆ ยั่วยวน ทรวงอกอิ่มงามเบียดล้นในเสื้อยกทรงผ้าลูกไม้บางๆ
เมื่อตะขอเกี่ยวเล็ก ๆ ด้านหน้าถูกปลดให้เป็นอิสระ ความงดงามระริกไหวยวนยั่วอารมณ์ จนสุดร่างสูงทนได้ รีบผุดลุกเดินเข้าหาร่างงามดังถูกแรงมหาศาลของแม่เหล็กดึงดูดกระนั้น
“แหม่ม” น้ำเสียงห้าวทุ้มสั่นพร่าแทบจำเสียงตัวไม่ได้
วงแขนแกร่งรวบร่างหญิงสาวในอ้อมอก จมูกโด่งคลอเคลียใบหน้างามสะดุดตาของเธอ น้ำเสียงสั่นพลิ้วยามกระซิบใกล้
“ให้พี่จริงหรือแหม่ม” สัมผัสแผ่วหวานของริมฝีปากคู่สวย ส่งให้อารมณ์ชายหนุ่มกระเจิงไกลเกินหยุดยั้งไว้ได้
มือใหญ่นุ่มอย่างคนไม่เคยทำงานหนักเล้าโลมไต่ตามเรือนร่างผู้เป็นที่รักอารมณ์ทุกชิ้นถูกปลดเปลื้องเหวี่ยงทิ้งไม่สนใจใยดี
ปวีณเบียดร่างเพรียวแกร่งและแข็งแรงของเขา แนบเข้ากับร่างเปลือยงดงามสอดขาแยกขาคู่เรียวแยกออกจากกัน วงแขนกลมกลึงโอบรอบแผ่นหลังกว้างยึดไว้พยุงตัวที่ซวนทรุดด้วยด้วยความรัญจวนใจ วงแขนแข็งแรงช้อนร่างของเธอนำพาสู่เตียงหนานุ่ม ทันทีที่ร่างงามบนเตียง ร่างใหญ่ตามประกบจนเตียงไหวยวบตามน้ำหนักที่ทิ้งลง พันทิวาพริ้มตาหลับเคลิบเคลิ้มสัมผัสที่อ่อนโยนกลับกระตุ้นให้รุ่มร้อนไปทั้งเรือนกาย นี่หรือความสุขที่ชายหญิงใฝ่ฝันในกันและกัน
มือเรียวกอบกุมสองตูมตั้งงดงาม บีบคลึงอย่างนุ่มนวล และแรงมากขึ้น จมูกโด่งงามซอนซอนสูดกลิ่นหอมจาก พวงแก้มระเรื่อยไปที่ติ่งหูนุ่ม แทรกเรียวลิ้นสู่ภายในช่องแคบของหู พันทิวาขนลุกซู่ ความรู้สึกเสียดทานราวกับว่าถูกโลมไล้ไปทั้งกายในคราวเดียว
ชายหนุ่มสอดมือแทรกไปที่ก้อนผมยาว ช้อนท้ายทอยอีกฝ่ายขึ้นจูบรับรอยจุมพิตแผ่วหวาน หญิงสาวจูบตอบดูดดุนลิ้นชายหนุ่มเต็มที่ เสียงครางในลำคอด้วยความพอใจอย่างยิ่งยวด มือเรียวนุ่มของปวีณค่อยลูบไล้ ลงที่เรียวขาของหญิงสาวก่อนวกเข้าส่วนกลางกลีบดอกไม้แสนสวย และคุมคามขึ้นมาส่วนบนอีกครั้ง พันทิวาซ่านเสียวมิอาจทน เธอกำผ้าปูที่นอนสีขาวสะอาดขยุ้มกำเต็มมือหญิงสาวสู้รบกับธรรมชาติของตัวเองไม่ไหวอีกแล้ว ชายหนุ่มเจนจัดในเพลงรักมากนัก เขาวนเวียนปาดลิ้นลงบนสองปทุมกลมกลึง จนผลิขยายป้านวงชมพูเบ่งบาน ก่อนดูดสลับซ้ายขวา ขณะที่ปลายนิ้วรุกรานเกสรแรกแย้ม สีชมพูจัดสวยสด
หญิงสาวคราง แอ่นกายเหยียดหยัดรับการหยอกยั่ว
ความเจ็บปวดรวดร้าวของพันทิวาถูกปลอบโยนด้วยความอ่อนหวานละมุนละไมเสียงกระซิบปลอบด้วยความรักฉุดรั้งอารมณ์ตื่นของหญิงสาวให้ผ่อนคลาย
สะโพกของพันทิวาหยัดแอ่นขึ้นเมื่อมือหนึ่งของสามีลูบเลื่อยไปตามลำขา เขาจูบไล่เรื่อยตามมือลงไปจนมือนั้นไปหยุดลูบไล้บนลาดหน้าท้องเนียน กลิ่นกายเธอที่ฟ้องชัดถึงอารมณ์พิศวาสแรง ทำให้ปวีณสูดหายใจยาวลึกจุ่มนิ้วหนึ่งลงไปในความเปียกฉ่ำของหญิงสาว
เธอเผยอปากครวญครางรัญจวนใจ เปลือกตานั้นหลับพริ้มแทบจะหนีบกล้ามเนื้อกับนิ้วที่ชอกซอนลงไป
“สวยเหลือเกิน แหม่มสวยยิ่งกว่าดอกไม้ใดๆ” เขาพึมพำเสียงแผ่วต่ำ แล้วดึงนิ้วนั้นเข้าใส่ปากตน “หวานจริง”พันทิวาหน้าแดงซ่าน
คราวนี้ปวีณคลึงนิ้วมืออย่างหิวกระหายยิ่งขึ้น เก็บความหวานซ่อนอยู่ภายใต้กลีบเนื้อหลีบชั้นของเธอได้มากกว่าเดิม ตวัดไล้ไปทั่วเงยหน้าขึ้นถามกับเธอว่า
“ชอบมั้ย”
“พี่วีณ อย่างแกล้งแหม่มสิคะ แหม่มจะขาดใจตายอยู่แล้ว”เธอครางตัดพ้อชายหนุ่ม ที่สรรหาวิธีมาให้เธอได้รับรู้ว่าอารมณ์ของหนุ่มสาว ผิดแผกแตกต่างจากที่เธอคิดว่าจะทำอย่างไรต่อกันบ้าง
ปวีณเต็มไปด้วยความต้องการเร่งเร่า หากภาคภูมิใจเยี่ยงชายชาตรีว่า รูปร่างงดงามดุจเทพของพันทิวานั้นเป็นสิ่งที่ชายหนุ่มจะรัก ทะนุถนอม ใฝ่หาความสุขด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเธอปล่อยให้ชายหนุ่มเชยชมตามความพอใจ
ซึ่งชายหนุ่มสำรวจทุกซอกเหลือบชมพูงามหยาดเยิ้ม ยิ่งจับสัมผัส ลูบไล้ ยิ่งปรารถนา นิ้วมือของปวีณ ลูบไล้หัวนมทั้งคู่ที่เป็นสีชมพูเกือบแดงระเรื่อนุ่มนิ่มเหมือนกลีบดอกไม้ ชายหนุ่มลากนิ้วลงไปตามร่องอกจนถึงสะดือ ในขณะที่ปากดูดดึงหัวนมข้างหนึ่งเอาไว้ และไล้เลียเชื่องช้า ปาดวน
สะโพกของพันทิวาหยัดแอ่นขึ้นเมื่อมือหนึ่งของสามีลูบเรื่อยไปตามเรียวขา ชายหนุ่มจูบไล่เรื่อยตามมือลงไปจนมือนั้นไปหยุดลูบไล้บนลาดหน้าท้องเนียน กลิ่นกายเธอที่ฟ้องชัดถึงอารมณ์พิศวาส ทำให้ปวีณ สูดหายใจยาว เธอเผยอปากครวญครางรัญจวนใจ หลับตาพริ้ม บีบรัดกล้ามเนื้อภายในเป็นระยะกับนิ้วที่ชอกซอนลงลึกสุดไป
“สวยจังเลยแหม่ม” ชายหนุ่มพึมพำเสียงแผ่วต่ำ แล้วดึงนิ้วนั้นออกจากช่องลึก เข้าใส่ปากตน “หนุ่มรูปงามแนบหน้าเคล้าเคลีย บนแก้มคนรัก ถามเสียงแผ่ว
“ชอบมั้ย ที่รัก”
ปวีณลูบไล้ และจวบจ้วงยิ่งขึ้น ชายหนุ่มเก็บเกี่ยวความหอมหวานซึ่งอยู่ภายใต้กลีบเนื้อเนินอิ่มอูม จากนั้นลิ้นก็ตามตวัดปาดไล้ไปทั่ว
ร่างกายของพันทิวาตอบสนองต่อทั้งสัมผัสและคำพูดของปวีณ
ชายหนุ่มโผวูบลงไปหาดอกไม้แสนงามของเธอ เรียวลิ้นไล้เล่นซุกซน ดกถี่ ระรัวใส่ตุ่มเกสรแห่งความเป็นหญิงชองเธอด้วยความฉ่ำใจ ภายในร่างของเธอสัมผัสกับความเขม็งเกลียวที่กระซับแน่นทุกขณะ สะโพกขยับเคลื่อนไหวเองอย่างคุมไม่อยู่ เธอยกรับการสอดเรียวลิ้นอุ่นชื้นผ่านเข้าไปภายในดอกไม้ซาบซ่านด้วยน้ำหวาน ชายหนุ่มหยัดเหยียดเป็นจังหวะ หญิงสาวคร่ำครวญเว้าวอนยิ่ง น้ำเสียงนั้นกระตุ้นปวีณให้คลั่งไคล้หลงใหล ความคับแน่นภายในกายของเธอซึ่งร้อนรัดรึงมีความปรารถนา สุดท้ายเธอวางใจที่จะให้ฝ่ายชายเป็นผู้นำทาง ลมหายใจผ่าวร้อนสัมผัสร่วมกันกับลิ้นที่ฉลาดล้ำในการเล่นรัก กระทั่งพันทิวาสุดจะทานทนไหว ร่างของเธอสะท้านยะเยือกแรงหยัดเกร็งขึ้นรับ และเผลอร้องครางเสียงดัง ได้พบกับความสุขสมสุดยอดแห่งความรื่นรมย์ และเมื่อร่างกายของเธอยังดิ้นเร่า เรียวขาสะบัดออกกว้างเปิดทางให้ปวีณได้รักสมใจ ชายหนุ่มไม่ยอมพลาดจังหวะที่เขารู้ดีว่า จะส่งพันทิวาให้พบความสุขหลายครั้ง เขาแทรกกายแกร่งเข้ามาในกายของเธอที่ยังบีบรัด แค่ผ่านเข้าไปไม่เท่าไหร่กล้ามเนื้อภายในของเธอรัดรึงชายหนุ่มไว้แน่นดึงชายหนุ่มให้เข้าสู่ห้วงแห่งความลึกล้ำ แต่กระนั้นปวีณพยายามควบคุมตัวไว้ แล้วโน้มตัวลงมาลูบไล้ปลายปทุมคู่สวยพร้อมกันก็กดตัวเองดันล้ำลึกเรียกเสียงครวญคราง ชายหนุ่มค่อยๆ ถอนออกช้าๆ แล้วสอดสลับกลับลงไปใหม่ กล้ามเนื้อบั้นท้ายแขม่วเกร็งกลั้นชะลอเวลา ยิ่งชายหนุ่มกดตัวเองลงลึกเสียดสี กับเกสรที่ไวต่อความสัมผัส เขาทราบว่า ปลายเกสรของสตรีนั้นหากเสียดสีคลึงเคล้าโดยแรงเร็วร่วมกันไป จะทำให้หญิงสาวซึ่งเป็นคู่รักถึงจุดแห่งความรื่นรมย์ยาวนาน
วินาทีสุดท้ายทั้งสองโผผวาเข้ากอดกันแนบแน่นราวเกรงว่าจะต้องพรากจากกันในช่วงสำคัญสุด
ร่างใหญ่พลิกกายลงนอนแนบข้าง กอดร่างเธอไว้ในอ้อมอกรู้สึกรักอย่างสุดแสนเธอเป็นของเขาเป็นของเขาแล้ว ปวีณพร่ำในอกอย่างภูมิใจ พันทิวาซุกหน้านิ่งสะอื้นไห้เบา ๆ สับสนจับอารมณ์ตัวเองไม่ถูก ปวีณประคองดวงหน้าของเธอเพ่งพิศจนเต็มตา ดวงตาคู่สวยเปียกชื้นด้วยหยาดน้ำใส ๆ หากแต่ริมฝีปากอิ่มมีรอยยิ้มเขิน หยิกทึ้งไปตามเส้นขนอ่อนที่ขึ้นกระจายเต็มแผ่นอก
ปวีณจับมือนุ่มจุมพิตเบา ๆ ไล้เรื่อยไปทีล่ะนิ้ว รู้สึกอบอุ่น และตื้นตันใจ น้ำตาเอ่อท้นออกมาอย่างไม่รู้สึกตัว
“ร้องไห้ทำไม รักออกอย่างนี้แล้ว เราเป็นผู้ใหญ่แล้ว ไม่ใช่เด็กอายุน้อยที่ทำอะไรไม่ถูกต้องนะที่รัก”
พันทิวาชุนหัวเข้าซบกับอกเขาอีกครั้งหัวเราะเบา ๆ ในลำคอ
“ตกลงดีใจหรือเสียใจกันแน่” เขาล้อ
“ไปขอแหม่มกับคุณพ่อวันนี้เลยนะ” เธออ้อน ปวีณหัวเราะดัง
“ใจร้อนจัง”
“ก็ได้แล้วนี่นา”
“ อ้าว แหม่มมายั่วพี่เองนะ” เขาว่าไม่จริงจัง
“อยากทำให้รักมากทำไมล่ะ”
“ตกลง ครับตกลง เล่นส่งตัวมาก่อนแล้วนี่ ปวีณเลยเสียท่าแม่เสือสาวเสียแล้ว”
เสียงหัวร่อต่อกระซิกสลับคำพรอดพร่ำคำรักแก่กันอย่างไม่สนใจเวลาที่เคลื่อนผ่านอย่างรวดเร็ว
ที่บ้านไม้ยกพื้นหลังเล็ก อยู่บนเนื้อที่เช่าของวัด อยู่ก้นซอยซึ่งเป็นซอยตัน
เสียงตะหลิวโขกกระทะคล่องแคล่วราวกับแม่ครัวเอกสองพี่น้องฝาแฝดทำกับข้าวกันอย่างขะมักเขม้น
สายสุดายิ้มน้อยกับตัวเองในความน่ารักของลูก นอกจากจะเรียบร้อยแล้วยังเป็นแม่ศรีเรือนตั่งแต่อายุน้อย ๆ เสียด้วย
“ถ้าขาดลูกไปเสียคนคงแย่”
คิดขึ้นมาแล้วใจหาย เรื่องอะไรมีความคิดร้าย ๆ ผุดขึ้นมาได้นะ สายสุดาส่ายศีรษะปฏิเสธความคิดร้ายซึ่งรุกรานตัวเองอย่างไม่ตั้งใจ
“แม่ขา กับข้าวเสร็จแล้วค่ะ แม่จะกินขนมอะไรหรือเปล่าคะ” คนพี่พูด
“เทียนกับธูปจะไปซื้อให้” คนน้องต่อ
“อะไรก็ได้เอามาคนล่ะถุงนะแล้วขี่จักรยานดี ๆ ล่ะ”
สายสุดาส่งเงินให้ลูกสาวพร้อมกำชับให้ระวัง คู่แฝดยิ้มรับ ยิ้มใส ธูปหอมเดินไปยังที่จอดรถยานแสนเก่า เธอขยับจูงออกมา เสียงกึก แฝดพี่จึงก้มมอง ปรากฏว่าโซ่ขาดจากกัน เธอบ่นให้น้องสาวได้ยิน
“โซ่ขาดแล้ว”
“มาขาดตอนที่จะออกจากบ้านเสียด้วย”
“ เดี๋ยวเดินไปกันก็ได้ใกล้แค่นี้เอง”
“ข้ามถนนระวังนะลูก”
“ค่ะ” ทั้งสองรับคำพร้อมกัน
สายสุดามองลูกแฝดด้วยความรักดังดวงใจ ทั้งคู่คือชีวิตที่ทำให้นางมีกำลังใจยืนหยัดอยู่บนโลกแห่งการแบ่งชนชั้นใบนี้ได้อย่างขยันขันแข็งกว่าเมื่อครั้งครอบครัวอยู่พร้อมหน้า พ่อ แม่ ลูก
หลังจากสามีถูกรถชนตายสายสุดาต้องเย็บผ้าโหล่มากขึ้นกว่าเดิมเพื่อเลี้ยงดูลูกแฝดให้ได้เรียนสูง ดั่งใจ แม้จะขัดสนเงินทองอยู่บ้าง แต่ครอบครัวเล็ก ๆนี้ยังอบอุ่นมีความสุขในบ้านไม้ท้ายวัดชานเมือง ไม่ห่างจากคฤหาสน์หลังงามของปวีณสักเท่าใด
สองพี่น้องเดินผ่านมาได้ครึ่งซอย มีทางเลี้ยวลัดไปยังอีกซอยหนึ่ง และซอยนั้นเองเป็นที่ตั้งของบ้านปวีณ บ้านมหาเศรษฐี ที่กลุ่มคนยาก ได้เห็นแล้วต้องอิจฉาชีวิตหรูหราของคนในบ้านนั้นทุกคน
“ธูปอยากอยู่บ้านหลังนั้นบ้างมั้ย” แฝดน้องชี้ คฤหาสน์ร้อยล้าน พลางถามพี่สาว
“อยู่กับแม่ก็มีความสุขอยู่แล้ว เทียนอยากอยู่ที่นั่นหรือ”
เด็กสาวส่ายหน้าปฏิเสธเมื่อแฝดพี่ย้อนถาม
“เทียนไม่อยากอยู่บ้านนั้น แต่เทียนอยากมีบ้านอย่างนั้นสักหลังต่างหาก”
“เทียนละก็ ฝันอะไรกลางแดดแบบนี้ ” พี่สาวต่อว่า “เกิดใหม่สิบรอบยังไม่มีบุญได้สร้างบ้านอย่างนั้นแน่ เชื่อเถอะ”
เทียนสว่างเหลียวกลับไปมองบ้านหลังใหญ่นั้นอีกครั้ง ด้วยความรู้สึกถูกฉุดกระชากจากภายใน อย่างที่ตนเองไม่ทราบว่ามาจากอะไร ที่ไหน และมีเหตุผลอะไรจึงได้เดความแปลกประหลาด
หรือนั่นคือชะตากรรมได้กำหนดไว้แล้ว!!
หลังจากผ่านความรื่นรมย์อย่างที่พันทิวาเพิ่งรับรู้ หญิงสาวนอนเหม่อมองเพดาน ลูบท้องเป็นลอนพองามของตนเอง นัยน์ตาชวนฝัน หากเธอตั้งครรภ์คงงามหน้าละ
คิดพลางหัวเราะเบาๆ ปวีณโอบบ่าคนรักเข้ามาสู่อ้อมกอด กระซิบถามอ่อนหวาน
“คิดอะไร บอกได้มั้ย”
“ไม่บอกค่ะ แหม่มไปอาบน้ำ แล้วกลับบ้านดีกว่า” เธอตอบ พลางผละออกจากอ้อมแขน ที่เธอไม่อยากจาก แต่ทำเล่นตัวเพื่อให้อีกฝ่ายได้ตามไป
ปวีณ แอบยิ้มก่อนผุดลุกตามไปจัดการคนน่ารักตลอดเวลาสำหรับเขา แต่หญิงสาวปิดประตู กระจกกั้นชายหนุ่มไว้ เขาหัวเราะ ทำหน้าชิดกระจกใส ซึ่งกั้นสิ่งใดไม่ได้ ระหว่างพื้นที่อาบน้ำกับการถ้ำมอง พันทิวายั่วยวนด้วยการชม้ายชายตาส่งมาให้ ชายหนุ่มทำนิ้วกระดิกเรียกอีกฝ่าย เธอหัวเราะดัง ก่อนเปิดน้ำจากฝักบังเพดาน ราดรดร่างตนเอง
ม่านน้ำอาบรินเรืองร่างสูง ได้รูปงดงามของหญิงสาว ทำให้ปวีณตื่นตัว จนต้องระงับใจ หันกายเดินกลับไปยังห้องนอนกว้างส่วนตัว พันทิวาหันกลับไปมองแล้วทำบึ้งตึงเพยงเทียนเดียวเท่านั้น ก่อนเอ่ยเบาๆ
“เพราะอย่างนี้ แหม่มถึงรัก”
ปวีณตามเก็บเสื้อผ้าทั้งของเขาและของคนรักที่เหวี่ยงคนล่ะทิศล่ะทาง พันทิวาอาบน้ำชำระกายในห้องน้ำตามลำพัง
ปวีณดึงผ้ายับย่นให้เรียบร้อยจึงเหลือบเห็นหยดเลือดสามสี่รอยเขาลูบคลำด้วยความรู้สึกภาคภูมิใจ ก็ชายใดเล่าจะไม่ยินดีที่ได้เป็นคนแรกของสาวคนรัก ขณะเดียวกัน ชายเจ้าชู้กลับเห็นสิ่งเล็กๆนั้นเป็นเพียงแค่เครื่องทดสอบความสามารถของตนเองเท่านั้น อิสตรีจึงควรสงวนตัวไว้เพื่อวันพิเศษเพียงวันเดียวของชีวิตมิใช่หรือ!
ในเวลาต่อมารถเบ็นซ์คันหรูแล่นออกจากคฤหาสน์
เมื่อเจ้านายคล้อยหลังจากไป สาวใช้สองคนซุบซิบนินทากันอย่างสนุกปาก โดยไม่ทันรู้ว่าแม่ครัวบ้านหลังใหญ่มาอยู่ข้างหลังอย่างเงียบกริบ
“วันนี้ได้เก็บผ้าปูที่นอนปนคราบแหงเลย”
“หายเงียบเข้าไปตั้งนาน ไม่น่าจะเหลืออะไรแล้ว”
“อาจจะไม่เหลือมานานแล้วก็ได้”
“แล้วทำไมไม่เหมือนในหนังในละครล่ะที่ต้องมีเลือดพรหมจรรย์”
“ของพรรค์นี้ต้องแยกเรื่องน้ำเน่ากับเรื่องน้ำดีให้ออก น้ำดีคือชีวิตจริง”
“แล้วคุณแหม่มเป็นน้ำเน่าหรือน้ำดีล่ะ”
ละม่อมเอ่ยทางด้านหลังสองสาวใช้ อย่างไม่สามารถอดทนฟังต่อไปได้อีก เมื่อสองสาวใช้ลามปามคนรักของผู้เป็นนาย
“ฉันจะฟ้องคุณท่าน” พวกเธอทำหน้าเซียว “พวกแกเอาแต่นินทาว่าร้ายคุณแหม่ม”
“ป้าม่อม อย่านะคะ หนูแค่ประเมินสถานการณ์กันเล่นๆเท่านั้น”
“เรื่องของท่านพวกเอ็งไม่ต้องแส่ ท่านจะแต่งงานกันแล้ว” ละม่อมสั่งสอนต่อ
“พวกเอ็งก็เถอะฉันเห็นนะว่ากลางคืนชอบแอบไปคุยกับยามกับคนสวน”
“แหมป้า ก็เหนียงฉันยังไม่ยานนี่นา”
“นางนี่” ละม่อมทำเสียงแว้ดไม่พอใจที่ถูกย้อนเข้าตัวอย่างจัง สองสาวใช้จึงชวนกันหลบแม่บ้านซึ่งปั้นหน้าเป็นยักษ์ไปเสียแล้ว
“ไปยกอาหารเรือนคุณท่านมาบ้านนี้”
ละม่อมสั่งตามหลังอย่างวางอำนาจ สองสาวใช้จึงต้องรับคำสั่งแต่โดยดี เพราะว่า ละม่อมแม่บ้านคนนี้ พูดสิ่งใด คุณหญิงแม่เชื่อทุกครั้งไป ดังนั้นลูกน้องจึงต้องเกรงใจอย่างจำใจจริงๆ

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 7 ก.ย. 2555, 19:45:47 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 7 ก.ย. 2555, 19:45:47 น.
จำนวนการเข้าชม : 3013
อุบัติการณ์ >> |

minafiba 7 ก.ย. 2555, 20:04:26 น.
รอตอนต่อไปอย่างใจจดใจจ่อ
รอตอนต่อไปอย่างใจจดใจจ่อ


mhengjhy 7 ก.ย. 2555, 22:55:18 น.
ยกมือรอด้วยคนค่าาา
ยกมือรอด้วยคนค่าาา


saralun 8 ก.ย. 2555, 08:54:06 น.
เรื่องใหม่มาแล้ว ดีใจจัง ^^
เรื่องใหม่มาแล้ว ดีใจจัง ^^

นางแก้ว 8 ก.ย. 2555, 10:44:29 น.
ขอบคุณค่ะ ขอบคุณแม่แดง วันนั้นจ๋าเอาแก้วไปลืมไว้ที่วานตาเฟ่ พอกลับมาถึงบ้านแล้วนึกขึ้นได้ ต้องย้อนกลับไปที่ร้านปรากฏว่าเด็กเอาทิ้ง ต้องขอร้องว่า ควานมาคืนป้าที เขาเอาแกว้มาให้ จ๋ษบอกขอหลอดด้วย เขาบอก โหพี่อย่าเอาเลยมันอยู่ในถัง จ๋าบอก ได้โปรด ขอด้วย เขาเลยช่วยกันล้วงในถัง จากนั้นเอามาให้ด้วยสีหน้างงว่าจะใช้ต้อได้หรือ จ๋าบอก ลองเอาหลอดเคาะดูสิ เห้นเปล่า ไม่มีในเมืองไทยนะ5555
ขอบคุณค่ะ ขอบคุณแม่แดง วันนั้นจ๋าเอาแก้วไปลืมไว้ที่วานตาเฟ่ พอกลับมาถึงบ้านแล้วนึกขึ้นได้ ต้องย้อนกลับไปที่ร้านปรากฏว่าเด็กเอาทิ้ง ต้องขอร้องว่า ควานมาคืนป้าที เขาเอาแกว้มาให้ จ๋ษบอกขอหลอดด้วย เขาบอก โหพี่อย่าเอาเลยมันอยู่ในถัง จ๋าบอก ได้โปรด ขอด้วย เขาเลยช่วยกันล้วงในถัง จากนั้นเอามาให้ด้วยสีหน้างงว่าจะใช้ต้อได้หรือ จ๋าบอก ลองเอาหลอดเคาะดูสิ เห้นเปล่า ไม่มีในเมืองไทยนะ5555


nunoi 8 ก.ย. 2555, 16:00:11 น.
รอตอนต่อไปค่ะ
รอตอนต่อไปค่ะ

Zephyr 8 ก.ย. 2555, 23:50:37 น.
รอตอนต่อไปค่ะ
รอตอนต่อไปค่ะ

kaeka 12 ก.ย. 2555, 13:40:03 น.
ว้าวๆๆๆๆ
ว้าวๆๆๆๆ