เจ้าสาวสิบแปด
อุบัติเหตุ ได้เกิดขึ้น จากเจ้าสาวยี่สิบสองมาเป้็นเจ้าสาวสิบแปด ชีวิตได้ถูกสิ่งใดลิขิต
Tags: เพื่อรัก

ตอน: อุบัติการณ์

พันทิวาสอดแขนโอบกอดรอบเอวเพรียวแกร่ง ซบหน้า กับแขนคนรักอย่างมีความสุข ปวีณเหลือบแลมองคนรักรู้สึกประทับใจกว่าที่เคย สี่ปีที่คบหากับหญิงสาวมีเรื่องที่ทำให้ชีวิตร่ำรวยราบรื่นของเขามีรสชาติมากขึ้น
แม้บางเรื่องจะเกินเลยไปจนหน้ากลัวมากกว่าหน้าแลกก็ตามพันทิวาพร้อมลุยเสมอ จนลืมนึกถึงฐานะของตัวเอง บางครั้ง ปวีณเปลี่ยนต้องโปรแกรมอย่างกะทันหันเมื่อสภาพเธอ ดูเถอะเธอทำให้เขาตกใจแทบช็อกเมื่อพาแก้มฟกช้ำไปเที่ยวกับเขาในวันหยุด
“แหม่ม หน้าไปโดนอะไรมา ดูสิมุมปากเขียวเชียว”
“ไปตบกับเขามาค่ะ” หญิงสาวบอกเล่าเสียงใสจนปวีณหมั่นเขี้ยว
“ตบกับใครที่ไหนทำไม ไปตบทำไม ทำไมไม่หนี” ครานี้เธอหันมาทำตาเขียวใส่คนรัก เขียวเสียยิ่งกว่าแก้มตัวเองเสียอีก เอ่ยพูดสะบัดไม่พอใจ
“เอ๊ะ วีณนี่ไงนะมีเรื่องกันทำไมแหม่มต้องหนีละ แหม่มโมโหนี่นา มาว่าแหม่มดัดจริต แหม่มเลยตบเปรี้ยงเข้าให้”
“แล้วเขาก็สวนกลับมาด้วยกำปั้น หรือสันมือล่ะ ปากถึงได้ช้ำอย่างนี้” ปวีณเสริมต่อให้ด้วยสีหน้าท่าทางมีแต่รอยตำหนิ แต่พันทิวารับคำ ด้วยความเต็มใจ
“ใช่ค่ะ เห็นดาวลอยยิบๆ”
“ตัวเป็นใครแล้วคนที่แหม่มลดตัวลงไปตบตีด้วยเป็นใคร ไม่มีผู้ดีที่ไหนเขาทำอย่างนี้นะแหม่ม”
“พี่วีณนี่ชอบแบ่งชนชั้นคน ไม่เห็นจะน่ารักเลย”
“แล้วที่แหม่มทำนั่นน่ารักตายเลยสิ” เขาแดกดันเข้าให้ แต่หญิงสาวกับหัวเราะชอบใจ
“แล้วเรื่องเป็นมายังไงล่ะ”
“แหม่มไปซื้อของเมื่อวานนี้กับคนสนิทของแหม่ม ก็ซื้อพร้อม ๆ กับใครก็ไม่รู้เขาแย่งของในมือแหม่ม แหม่มยังไม่ว่า พอแหม่มร้องว้ายเขาหาว่าแหม่มดัดจริต”
“แค่นั้นเองหรือ ถึงกับไปตบเขา แล้วนี่สู้เขาไม่ได้ล่ะสิ”
“อย่าดูถูกน่า คนนั้น ตาปิดด้วยมั้ง ตกลงเสียค่าปรับฐานทะเลาะวิวาท คู่ปรับไม่มีเงินจ่าย แหม่มต้องจ่ายแทนให้อีกเห็นตาปิดแล้วสงสาร” บอกเล่าจบพันทิวาหัวเราะชอบใจกับวีรกรรมที่ไม่น่าสรรสร้างของตนเอง
นึกถึงเรื่องนี้ทำให้ชายหนุ่มอดขำขึ้นมาเสียไม่ได้ พันทิวา จึงถามขึ้นด้วยความสงสัย
“ คิดอะไรอยู่คะพี่วีณ ถึงทำหน้าขำเสียเต็มประดา”
“นึกถึงแหม่ม เรื่องไปตบตีกับเขา”
“แหม่มเลิกใจร้อนแล้วค่ะ เดี๋ยวนี้เป็นหญิงแหม่มแล้ว” หญิงสาวบอกเล่าด้วยน้ำเสียงสูง
ปวีณยีผมสลวยจนยุ่งเหยิงอย่างรักและเอ็นดู
“หมดเรื่องที่ไหน ไปชกผู้ชายที่ชนท้ายรถแหม่มไม่ใช่หรือ” ครานี้หญิงสาวระเบิดเสียงหัวเราะชอบใจ นึกถึงวันเก่า ๆ ที่แสนร้ายของตน
หนุ่มคู่กรณีเห็นการแต่งกายที่ค่อนข้างเปิดเผยของพันทิวาสาวมั่น ก็เข้าใจว่าเป็นอีหนูเสี่ย พูดจาลวนลามไม่เกรงใจ
“เอางี้ ค่าเสียหายเรื่องเล็กเอาเป็นว่าคุณไปทานอาหารกับผมสักมื้อ”
“นั่นน่ะฉันมีปัญญาหาใส่ปากตัวเองได้” เขามองเธอด้วยกิริยาดูถูกฐานะที่เขาเข้าใจผิด
“หาอย่างอื่นด้วยหรือเปล่านอกจากอาหาร ผมมีให้นะอาจจะมากกว่าเจ้าของรถที่ให้คุณก็ได้”
“โธ่ไอ้กระจอก” พันทิวาระเบิดอารมณ์เข้าใส่ทันที
“รถที่แกขับมานี่ผ่อนหมดหรือยัง เงินเดือนพอยาไส้หรือเปล่า”
“หน็อยอีหมอนวด” เจ้าคนชอบดูถูกลูกเพศแม่ตัวเอง ยังหลุดปากไม่หมด กำปั้นขาว ๆ ของพันทิวาชกเปรี้ยงเข้าใส่ปากครึ่งจมูกครึ่งของเจ้าคู่กรณี
พันทิวาจ้องมองคนรัก พร้อมถามด้วยความแปลกใจ
“แปลกจัง วันนี้พี่วีณคิดแต่อดีตของแหม่มมาทั้งนั้นเลย”
“ทบทวนไว้เล่าให้ลูกฟังไง”
“ แหม แหม”
ปวีณยิ้มมุมปากหยอกเย้าคนรักอย่างมีความสุข
“ไม่แน่นา เคยได้ยินมั้ยครั้งเดียวก็ท้องได้”
“เซี้ยว” เธอทุบแขนเขา หน้าแดงระเรื่อด้วยเลือดฝาด เก้อเขินขึ้นมาเล็กน้อย
พันทิวาสะกิดปวีณให้จอดรถข้างทางด้านฝั่งตรงข้ามถนน เพราะมีร้านขายขนมไทยลือชื่อเปิดอยู่ แม้ร้านใหญ่มากแต่ลูกค้าแน่นร้าน
เพื่อเธอจะลงไปซื้อขนมฝากมารดาเพราะท่านชอบขนมเจ้านี้มากหลังจากพันทิวาเคยซื้อไปฝาก ทุกครั้งที่ผ่านมากับปวีณ ท่านจะรู้ว่าถ้าได้ขนมเจ้านี้กลับบ้าน ก็หมายความว่ามาบ้านปวีณ
“พี่จะไปกลับรถนะ”
“ไม่ต้องค่ะ ที่กลับรถอยู่ตั้งไกลเสียเวลาแหม่มไปซื้อแป๊บเดียว”
“พี่ไปซื้อให้ แหม่มอยู่เฝ้ารถแล้วกัน”
แทนคำตอบหญิงสาวจุ๊บเคราเขียวของเขาคราหนึ่ง ก่อนจะเปิดประตูรถปวีณชิงเปิดให้ แล้วค้างแขนพาดอยู่อย่างนั้น
พันทิวาแกล้งใช้ปลายนิ้วหยิบจับแขนของเขาแสร้งทำท่าราวกับหยิบของน่ารังเกียจ ปวีณหมั่นเขี้ยวไล่จูบหญิงสาวเป็นพัลวัน
“พอแล้ว”
“แต่งงานแล้วจะไม่ให้ห่างเลยคอยดูสิ”
“ถ้ามีโอกาสแต่งแหม่มก็จะนั่งอยู่แต่บนตักพี่วีณเลยล่ะ”
พูดจบหญิงสาวลงจากรถจากไปอย่างร่าเริง ทิ้งให้ปวีณมองตามร่างของเธอไป ใจหายประหลาดนัก รู้สึกสังหรณ์ลึก ๆ ในใจ
“แหม่ม” หญิงสาวข้ามถนนเรียบร้อยปวีณบอกตัวเองเบา ๆ
“คิดบ้าอะไรก็ไม่รู้เรา” เขาก้าวลงจากรถเพื่อตามเธอไป
รถหลากหลายยี่ห้อ วิ่งกันขวักไขว่บนท้องถนน ซึ่งมีเกาะกลางถนนกั้นกลาง ชายหนุ่มเปลี่ยนใจเป็นกลับเข้าไปขับรถเพื่อหาที่เลี้ยวกลับไปรับพันทิวาที่ฝั่งตรงข้าม
ภายในร้านขนมหวานเลื่องชื่อ ทุกโต๊ะในร้านถูกจองแน่น ไม่มีที่ว่าง พันทิวาสั่งของแล้วยืนรอ เช่นเดียวกับเด็กสาวฝาแฝด เมื่อหญิงสาวสวยน่ารักทั้งสามยืนอยู่ด้วยกันจึงดูเป็นจุดเด่น ที่ใคร ๆ ต้องมองอย่างชื่นชม
หญิงหนึ่งสุดสวยและเซ็กซี่ กับอีกสองหญิงที่น่ารักเหมือนกันราวกับคน ๆเดียว และความน่ารักของแฝดคู่นั้นทำให้พันทิวานึกชอบ
เมื่อสบตากันต่างส่งยิ้มให้ หากแต่เมื่อหญิงสาวสายเลือดคนรวย สานสบตาของเทียนสว่างแฝดน้อง พันทิวาเจ็บแปลบดังถูกเข็มแทงไปทั้งใจ
เช่นเดียวกับเทียนสว่างเย็นยะเยือกไปทั้งร่าง เด็กสาวเกิดความกลัวขึ้นมาอย่างจับจิต กระทั่งต้องกอดแขนแฝดพี่ ธูปหอมหันมาถาม
“เป็นอะไรเทียน”
“เทียนกลัวจังเลย”
“กลัวอะไร ไปเหอะได้ของแล้ว”
พันทิวาได้ขนมแล้วเช่นกัน ทั้งสามจึงเดินข้ามถนนกลับ ธูปหอมนับเงินทอน เธอนับอีกจึงรู้ว่าแม่ค้าทอนเงินผิดแฝดพี่จึงดึงมือออกจากมือเทียนสว่างที่เกาะกุมอยู่ จากนั้นจึงสั่ง
“เทียนข้ามถนนไปก่อนนะ ธูปจะไปเอาเงินคืนเขาทอนขาด”
เทียนสว่างรับคำ ขณะที่พันทิวาเหลียวซ้ายแลขวาไม่เห็นรถปวีณจอดอยู่ที่เดิม เธอมองหา ในสายตาของเธอมองพบแต่ความว่างเปล่าของท้องถนน ทั้งที่ความจริงนั้น รถยังวิ่งกันขวักไขว่ไปมา เทียนสว่างสาวฝีเท้าวิ่งเร็ว สายตาของเธอไม่ผิดแผกแตกต่างจากพันทิวาสักเทียน เพราะเธอได้เห็นความว่างเปล่าเช่นกัน สายตาของคนเคราะห์ร้าย!!!
และขณะนั้น เสียงเครื่องยนต์ดังกระหึ่มลั่นถนนพร้อมกับรถสีดำพุ่งทะยานมาด้วยความเร็วสูงสุด คนขับรถตาเหลือกค้างเมื่อเห็นหญิงสาวสองร่างอยู่กลางถนน เขาไม่สามารถจะจัดการบังคับรถให้หลบได้ เบรกซึ่งเคยทำหน้าที่อย่างซื่อสัตย์ กลับค้างราวกับว่ามีมือประหลาดจับยึดไว้แน่น พวงมาลัยแข็งทื่อไม่อาจหักเลี้ยวราวกับถูกล็อก ดังนั้นรถสีดำทั้งคันจึงพลุ่งตรงแน่วไปยังสองสาวต่างวัยอย่างรวดเร็ว
“กรี๊ดดด”
เทียนสว่างกรีดเสียงร้องสุดชีวิตตน ในขณะที่พันทิวาผวาพรวดหลบรถยมทูติคันนั้น อนิจจา สองสาวไม่อาจหลบรถเจ้ากรรมคันนั้นได้พ้น ด้วยเพราะวาระของทั้งสองได้ถูกกำหนดมาแล้วว่าต้องมีอันเป็นไป
โครม ปัง ปัง
เอี๊ยดดดดดดดดดดด เสียงเบรกห้ามล้อตามมา
พันทิวากระเด็นกลิ้งไปฟาดกับเกาะกลางถนน เทียนสว่างนั้นถูกชนอย่างจังกระเด็นไปฟาดขอบถนนอีกฝั่งหนึ่งทุกคนตื่นตาถึงกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด ธูปหอมปล่อยถุงขนมในมือร่วงเธอพื้นใบหน้าเผือดขาวซีดใจแทบขาดรอน เธอมอง
ร่างของแฝดน้องนอนจมกองเลือดแน่นิ่ง เธอเริ่มรู้สึกตัวว่าไม่ได้ตาฝาด ไม่ได้ฝันค้าง และนี่คือเรื่องจริง
“เทียนนนนนนนนนนนน” ธูปหอม หวีดร้องเสียงสูง
ปวีณใจหายครามครันต่ออุบัติเหตุที่เห็นต่อหน้าต่อตา เขาหักพวงมาลัยจอดข้างทางทันที ผู้ที่นอนแน่นิ่งอยู่บนเกาะกลางถนนนั้นคือ พันทิวา
“แหม่ม มมม” ชายหนุ่มตะโกนเรียกหญิงสาวผู้เป็นดวงใจสุดเสียง
เขาวิ่งเต็มฝีเท้าโผเข้าไปหาร่างหญิงคนรัก รีบทรุดกายลงประคองร่างของอีกฝ่ายเข้ามาไว้ในวงแขนอย่างรวดเร็วฝ่ามือชายหนุ่มแตะที่ศีรษะด้านข้างของหญิงสาว เลือดแดงฉานรินไหลเปื้อนมือชายหนุ่มอย่างน่ากลัว กลิ่นคาวเลือดส่งกลิ่นคละคลุ้ง ขาขวาเลือดทะลักไหลเป็นทางยาวไม่หยุด เกิดจากบาดแผลฉกรรจ์
“ที่รัก อย่าตาย อย่าตายนะแหม่ม แหม่ม โอ้ แหม่ม...”ชายหนุ่มร้องไห้โฮ เขย่าร่างในวงแขนเรียกหาอย่างคนไม่ได้สติ
เทียนสว่างรู้สึกร่างเบาโหวง ทั้งที่เด็กสาวมองร่างแหลก กองเป็นซากหลุดออกมาจากล้อมรถซึ่งบดขยี้ร่างของเธอราวกับว่าเป็นกระสอบอัดเศษเนื้อเท้านั้น เธอมีสภาพแหลก เหลวขนาดนั้น แต่ทำไมไม่รู้สึกเจ็บเลยสักเทียน อีกทั้งเท้าของเธอยังลอยเหนือพื้น รู้สึกเหน็บหนาวราวกับไม่มีตัวตนอยู่ พันทิวาเหลียวซ้ายแลขวาลอยอยู่กับพื้นก่อนที่ร่างของเธอจะลอยลิ่วพุ่งชนร่างเทียนสว่าง ทำให้อีกฝ่ายกระเด็นไกลกว่าจะทันตั้งตัว
สีหน้าแววตาของพันทิวาตื่นตระนก อีกทั้งยังคล้ายกับกำลังคันหาสิ่งสำคัญ ท่าทีของเธอคล้ายคนไม่รู้สึกตัว ส่วน เทียนสว่างถูกชนล้มกระแทกกับสิ่งอุ่นนิ่ม
เด็กสาวรู้สึกปวดศีรษะอย่างรุนแรง ทั้งที่ เมื่อครู่ยังรู้สึกเบาสบายไม่มีความเจ็บปวดใด ๆ เกิดขึ้นเลย
“โอย” เทียนสว่างร้องครางเสียงแผ่วโหย
“คนนี้ยังไม่ตาย เร็วช่วยกัน” หนึ่งในไทยมุงชี้บอกแก่ปวีณ เมื่อเห็นร่างของพันทิวาขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวได้
“รีบพาคนรักคุณส่งโรงพยาบาลเถอะ อย่าไปรอเคลม เคลิมเลยประกัน เดี๋ยวคนรักคุณจะแย่เสียก่อน”
เขาไม่ต้องการเงิน เพราะสิ่งนั้นเขามีมากพอแล้ว แต่หญิงคนนี้ ไม่มีใครมาแทนที่ได้อีกแล้ว
ชายร่างสูงไม่รีรอที่จะพาร่างคนรักส่งโรงพยาบาลเอกชนที่ใกล้ที่สุด เขาพร่ำบอกคนรักหลังจากพาเธอขึ้นไปนอนบนเบอะหลัง คาดเซฟตี้เบลล์อย่างระมัดระวังเต็มที่
“แหม่ม อย่าเป็นอะไรนะแหม่ม” เขาเข้านั่งประจำที่คนขับพาร่างคนรักไปโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ไม่แม้แต่จะรอตำรวจมาเสียก่อน
“โฮย ทำไมไม่เอาอีหนูคนนั้นไปด้วยวะ” อีกคนพูด แต่เพื่อนร่วมมุงส่ายหน้าอย่างหมดหวัง เมื่อเห็นสภาพของเทียนสว่างในอ้อมกอดของพี่สาวตน ร่างโชกเลือดแขนขาแทบพับได้ทุกส่วน มองสภาพดูซีดเซียว และเดากันได้ว่า เด็กสาวสิ้นลมหายใจไปแล้ว
ผู้ชายวัยกลางคนจับบ่าธูปหอมปลอบโยนไปตามเรื่อง
“อีหนู วางลงเสียเถอะลูก เขาไปดีแล้ว”
“ไม่ ไม่ น้องยังไม่ตาย เทียนยังหายใจอยู่ยังไม่ตาย”
ธูปหอมก้มหน้าคร่ำครวญอยู่กับร่างไร้วิญญาณของน้องสาวตนไม่ยอมผละจาก กระทั่งเธอสิ้นสติซบไปกับร่างไร้วิญญาณของน้องสาว พลเมืองดีต้องรีบช่วยกันพาร่างธูปหอมออกมาปฐมพยาบาล
ครู่ต่อมา เสียงไซเรนของรถฉุกเฉินได้มาถึงพื้นที่ จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้มาที่เกิดเหตุ พร้อมหมอชันสูตร ก่อนเคลื่อนย้ายร่างของเทียนสว่างจากไป ส่วนคนขับรถเจ้ากรรมคันนั้นได้แต่ยินร้องไห้ด้วยความเสียใจ เพราะเขาไม่อยากให้เกิดเรื่องร้ายเช่นนี้สักเทียน เขามีลูก มีเมียที่ต้องเลี้ยงดู และเขาไม่ได้เป็นอย่างที่โดนประณามว่าเป็นตีนผี ขับรถประมาท หรือเมาสุรา มีแต่เขาเท่านั้นที่รู้ตัวว่า มีบางสิ่งเขาแทรกแซงการบังคับรถของเขาจนเกิดโศกนาฏกรรมครั้งนี้
ใครไม่เจอกับตัวจะไม่มีวันรู้ได้เลยว่า สวรรค์ นรก และผู้นำวิญญาณ ไม่เคยห่างไปจากคนแม้สักก้าวเดียว!!!



นางแก้ว
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 8 ก.ย. 2555, 18:02:06 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 8 ก.ย. 2555, 18:02:06 น.

จำนวนการเข้าชม : 2103





<< ใครลิขิต   ใครสูญเสีย >>
ปิศาจสัญจร 8 ก.ย. 2555, 20:58:17 น.
จะเป็นยังไงต่อน้อ


minafiba 8 ก.ย. 2555, 21:04:23 น.
ค้างๆๆ อยากอ่านต่อไวๆ


Zephyr 9 ก.ย. 2555, 00:10:08 น.
เทียนไปสิงร่างแหม่มป่าวนะ


bow 9 ก.ย. 2555, 02:29:11 น.
สลับร่าง..?


mhengjhy 9 ก.ย. 2555, 19:58:46 น.
โอ๊ะ


นางแก้ว 9 ก.ย. 2555, 20:38:10 น.
เอ๊ะ เขาโอ๊ะ อะไร ว้าวใช้คำว่าสิงไม่ใช่นะ น่าจะเป็นการแทนที่ค่ะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account