ทัณฑ์สวาทมาเฟีย
โชคชะตากำลังเล่นตลกร้ายกับม่านไหมเมื่อถูก หลี่ไท่หยาง หรือ โจนาธาน ลี เจ้าพ่อมาเฟียหนุ่มสุดหล่อแต่แสนโหด ลากตัวมาชดใช้ความผิดที่ไม่ได้กระทำเพราะความเข้าใจผิด การลงทัณฑ์ที่แสนโหดแต่เร่าร้อนจึงเกิดขึ้น
Tags: ทัณฑ์สวาทมาเฟีย

ตอน: ตอนที่ 1. ต้นเหตุแห่งความแค้น

นิยาย ทัณฑ์สวาทมาเฟีย โดย ผการุ้ง


ตอนที่ 1.ต้นเหตุแห่งความแค้น

... ผมขอโทษนะเจนนี่ ที่ทำให้คุณเข้าใจผิดว่าผมรู้สึกพิเศษกับคุณ สำหรับผมแล้วเราคงเป็นได้แค่เพื่อนที่ดีต่อกัน... นี่คงเป็นข้อความสุดท้าย ที่ผมจะส่งถึงคุณ ขอให้ระหว่างเราจบลง พร้อมกับข้อความนี้ ลาก่อน....
Laimake…

หลี่อี้เจินจดจ้องข้อความนั้นพร้อมน้ำตาที่ไหลรินอาบแก้ม มือน้อยจับเมาท์คลิ๊กดูหน้าไทม์ไลน์ของชายหนุ่ม ผู้ชายที่เธอรู้จักผ่านสังคมออนไลน์ในอินเตอร์เน็ตที่เรียกว่าเฟสบุ๊ค ใบหน้าหล่อเหลาของเขาทำให้เธอขอแอดเป็นเพื่อน เมื่อเข้าไปกดไลค์รูปถ่ายในอัลบั้มส่วนตัวของอีกฝ่าย ก็ได้รับการตอบรับโดยการกดไลค์ข้อความที่เธอโพสน์ไว้ตอบกลับบ้าง ผ่านไปร่วมเดือนเธอถึงกล้าส่งข้อความไปทักทายเขา ชายหนุ่มทักทายกลับ หลังจากนั้นเธอกับเขาก็แชทคุยกันเสมอ จนกลายมาเป็นความผูกพันโดยไม่รู้ตัว หลี่อี้เจินรู้สึกสดชื่นแจ่มใสอารมณ์ดีทุกครั้งที่ได้พูดคุยกับเขา ผู้ชายที่ชื่อ ลายเมฆคนนั้น

ลายเมฆบอกว่าเขาทำงานเป็นพนักงานดูแลระบบคอมพิวเตอร์ให้บริษัทเอกชนแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานคร เมืองหลวงของประเทศไทย หลี่อี้เจินเล่าเรื่องราวของเธอให้เขาฟังว่าเธอป่วยเป็นโปลิโอตั้งแต่เด็ก ทำให้กลายเป็นคนพิการขาลีบ วันๆ ได้แต่อยู่บนรถเข็น ลายเมฆไม่ได้แสดงความรังเกียจเธอเหมือนเพื่อนหลายคนที่เธอเคยคุยด้วย เขาให้กำลังใจเธอผ่านบทเพลงหลากหลาย โดยการนำมาโพสน์ให้เธอที่หน้าเพจแทบทุกวัน ทำให้หัวใจของสาวน้อยอบอุ่นชื่นบาน จนคนในครอบครัวสังเกตเห็น เธอเป็นที่รักของทุกคนในบ้าน โดยเฉพาะพี่ชายใหญ่ แม้ไม่ได้เป็นลูกแม่เดียวกันแต่เขารักเธอมาก

“เจนนี่ น้องต้องระวังให้มาก สังคมในโลกออนไลน์ ล้วนแต่หลอกล้วน ผู้คนในนั้นกับผู้คนในโลกจริงๆ แตกต่างกัน”

คำเตือนของพี่ชายใหญ่ กลายเป็นจริงในวันนี้ ลายเมฆที่แสนดีออกลายให้เห็น เขาหลอกให้เธอรัก หลอกให้เธอเชื่อใจ สุดท้ายหลอกเอาเงินเธอไปหลายแสนเหรียญ เงินที่พี่ชายให้เธอไว้ใช้จ่ายส่วนตัว เธอโอนเงินก้อนนั้นไปให้ลายเมฆเพราะอยากร่วมลงทุนเปิดร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ในเมืองไทย เธออยากทำกิจการสักอย่างให้พี่ชายภูมิใจ ว่าน้องสาวพิการคนนี้ก็มีความสามารถทำกิจการของตัวเองจนประสบความสำเร็จ หลี่อี้เจินโอนเงินไปให้ลายเมฆหลายก้อน ตามที่เขาร้องขอ ชายหนุ่มส่งรูปถ่าย ร้านที่เริ่มเป็นรูปเป็นร่างมาให้เธอดู หลี่อี้เจินปิดเรื่องนี้เป็นความลับ หวังจะให้พี่ชายเซอร์ไพรซ์ในวันที่ร้านของเธอเปิดกิจการ แต่ทุกอย่างกลับกลายเป็นแค่เศษฝัน เมื่อลายเมฆขาดการติดต่อไป โทรศัพท์ของเขาก็ปิดเครื่องไม่ยอมรับสาย เฟสบุ๊คร้างไม่มีการอัพเดตสถานะ จนวันนี้เขาส่งข้อความมาพร้อมกับคำบอกลาที่แสนเจ็บปวด

“ทำไม ทำไมต้องหลอกกันด้วย เจนนี่ทำอะไรผิด ลายเมฆถึงได้หลอกเจนนี่”

สาวพิการคร่ำครวญด้วยความเจ็บช้ำ ร่างน้อยงองุ้ม ซุกซบใบหน้ากับฝ่ามือ ปล่อยน้ำตาให้รินไหลออกมา ล้างความโง่เง่าของตัวเอง นานกว่าชั่วโมงน้ำตาถึงหยุดไหล ใบหน้ากลมป้อมแดงกล่ำดวงตายาวเรียวหม่นเศร้าบวมตุ่ยแทบมองไม่เห็นลูกนัยน์ตา เจ้าตัวหยิบทิชชู่มาเช็ดน้ำตาออกจากพวงแก้ม มือน้อยยื่นไปแตะแป้นคีบอร์ดก่อนจะพิมพ์ข้อความตอบกลับไป

“ขอบคุณ ที่สอนให้เจนนี่รู้ว่า คนโง่หน้าตาเป็นยังไง เงินที่เจนนี่โอนให้ลายเมฆ ถือเป็นค่าตอบแทน ที่ช่วยทำให้เจนนี่หายโง่ ต่อไปนี้จะไม่มีผู้หญิงน่าโง่ที่ชื่อ เจนนิเฟอร์ ลี อยู่บนโลกใบนี้อีกต่อไป ลาก่อนค่ะ...”

หลี่อี้เจิน หรือเจนนิเฟอร์ ลี กดส่งข้อความนั้นด้วยน้ำตาไหลนอง เธอหยิบขวดยาบนโต๊ะมาเปิด เทมันออกมาทั้งขวดจนเต็มฝ่ามือ หย่อนยาเม็ดแล้วเม็ดเล่าเข้าปาก แล้วกลืนมันลงไปเหมือนขนมหวาน ก่อนจะดื่มน้ำตามเมื่อยาเม็ดสุดท้ายไหลลงคอ มือน้อยเอื้อมไปเปิดลิ้นชักหยิบสิ่งหนึ่งออกมาดู ประกายเงาวับของใบมีดคัตเตอร์ ที่ถูกเลื่อนออกมาจากปลอก สะท้อนแสงแดดที่ส่องผ่านกรอบหน้าต่างเข้ามา เธอจ้องมองปลายคมมีดก่อนจะค่อยๆ กดมันลงที่ข้อมือน้อยช้าๆ ดวงตาเรียวยาวกระตุกไหวเล็กน้อย เมื่อความเจ็บแปลบแล่นวาบเข้ามาในความรู้สึก เลือดสีแดงสดไหลออกมาจากบาดแผล เจ้าตัวมองหยดเลือดที่ไหลย้อยลงมาตามปลายนิ้วด้วยดวงตาเหม่อลอย มือปล่อยมีดคัตเตอร์ให้ร่วงลงบนพื้นห้อง แขนห้อยลงข้างตัวปล่อยให้หยดเลือดไหลนองพื้นจนแดงฉาน พร้อมกับสติที่เริ่มหลุดลอยออกจากร่าง เมื่อยานอนหลับกำนั้นเริ่มออกฤทธิ์

“กรี๊ด !!! เจนนี่ เจนนี่ลูกแม่ ใครก็ได้ช่วยที เจนนี่ฆ่าตัวตาย” เสียงกรี๊ดร้องของหลินหลิน แม่ของหลี่อี้เจินดังก้องขึ้น เมื่อนางเข้ามาหาลูกสาว แล้วพบกับภาพสยดสยอง

คนรับใช้ที่อยู่บริเวรนั้นรีบวิ่งเข้ามา ก่อนจะช่วยกันอุ้มร่างไร้สติของคุณหนูเล็กขึ้นรถเพื่อไปโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุด ขณะที่คนในบ้านรีบโทรไปบอกคุณชายใหญ่ของบ้านให้ทราบเรื่อง แม้รู้ว่าหากผู้เป็นประมุขของบ้านทราบเรื่อง พวกตนไม่แคล้วต้องถูกลงโทษ หรือถูกไล่ออก แต่กฏย่อมเป็นกฏ เรื่องราวทุกอย่างในบ้านต้องเรียนให้เจ้าบ้านรับรู้ทุกเรื่อง

๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐

ร่างเล็กของสาวน้อยที่นอนหลับตาพริ้มหายใจรวยริน ทำให้คนมองเจ็บปวดแทบขาดใจตาย มือหนาเอื้อมไปลูบศีรษะทุยนั้นเบาๆ ก่อนจะเลื่อนมือไปแตะข้อมือที่ถูกผ้าพันแผลพันไว้ ดวงตายาวเรียวทอประกายวาวโรจน์เมื่อมองเห็นหยดเลือดไหลซึมออกมาเปื้อนผ้าสีขาวนั้นจางๆ เลือดของน้องสาวพิการของเขาหลั่งรินออกมา เพราะเธอใช้มีดคัตเตอร์กรีดข้อมือตัวเอง อีกทั้งยังกินยานอนหลับเข้าไปเป็นจำนวนมาก ฤทธิ์ยาทำลายประสาทจนทำให้ไม่อาจฟื้นตัวได้โดยง่าย บวกกับร่างกายที่อ่อนแอเป็นทุนเดิม ทำให้สาวน้อยวัยสิบเก้าคนนี้กลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา นอนนิ่งไม่ต่างจากผักมาร่วมอาทิตย์

ร่างสูงถอนหายใจยาว แล้วเดินออกมาจากห้องคนเจ็บ ชายฉกรรจ์ในชุดดำสี่คนโค้งที่ยืนรออยู่หน้าห้อง โค้งคำนับให้ผู้เป็นนายอย่างนอบน้อม เขาเดินตรงไปยังลิฟต์โดยมีชายทั้งสี่เดินประกบไม่ห่าง แม้จะอยู่ในโรงพยาบาลแต่ใช่ว่าจะปลอดภัย เมื่อเจ้านายของพวกเขา คือ หลี่ไท่หยาง หรือ โจนาธาน ลี ผู้ทรงอิทธิพลคนหนึ่งของฮ่องกงผูกขาดกิจการท่าเรือขนส่งสินค้าเพียงผู้เดียว และเป็นผู้สนับสนุนรายใหญ่ของพรรคการเมืองที่กำลังมีอำนาจในรัฐบาลอยู่ขณะนี้

“อาหลงเตรียมตั๋วเครื่องบินไปกรุงเทพให้ฉันด้วย พรุ่งนี้ฉันจะเดินทาง” คนเป็นนายสั่งเสียงเครียด

“ครับคุณหลี่”

ชิงหลง เลขาส่วนตัวรับคำ เขากดลิฟต์ให้นายอย่างรู้หน้าที่ เมื่อประตูลิฟต์เปิดออก ก็ผายมือเชื้อเชิญผู้เป็นนายให้ก้าวเข้าไปก่อน บอดี้การ์ดทั้งสามคนตามเข้ามาอารักขา เมื่อลิฟต์เคลื่อนลงสู่ล็อบบี้ของโรงพยาบาล สารถีที่รออยู่ก็เคลื่อนรถมาจอดรอที่หน้าประตูทางออก หลี่ไท่หยางเดินตัวตรงไม่สนใจมองใคร ร่างสูงในชุดสูทแบลนด์ดังสง่าผ่าเผย จนผู้หญิงหลายคนมองตามด้วยสายตาหยาดเยิ้ม ชิงหลงส่ายหน้าระอากับสายตาราวกับกระต่ายหมายจันทร์ของผู้หญิงเหล่านั้น หญิงสาวผู้ดีมีตระกูลต่างหมายหมั้นปั้นมือ หวังเป็นนายหญิงของบ้านหลี่ แต่บุรุษผู้มีอิทธิพลล้นเหลือผู้นี้ไม่เคยชายตามองหญิงคนไหนเกินหนึ่งครั้ง หากต้องการเป็นคู่นอนก็ต้องยอมรับว่าไม่มีสิทธิ์เป็นคู่ใจ ถึงกระนั้นก็มีผู้หญิงมากมายยอมพาตัวเข้ามาพัวพันหวังพิชิตใจชายหนุ่มรูปงามมั่งคั่งด้วยทรัพย์สินและทรงอำนาจราวพญาราชสีห์ ชิงหลงได้แต่สมเพชเวทนาเหล่าแมงเม่าสาวที่พากันมาเล่นไฟพิสวาสจนมอดไหม้หลายต่อหลายราย ไม่มีผู้หญิงคนไหนทำให้ผู้เป็นนายของเขายอมมีความสัมพันธ์ได้เกินหนึ่งครั้ง หลี่ไท่หยางไม่ชอบผู้หญิงเจ้ามารยาช่างออดอ้อนเป็นลูกแมว และเกลียดผู้หญิงเจ้าน้ำตาเป็นที่สุด ใครใช้มารยาสาไถหรือน้ำตามาออดอ้อนออเซาะ สิ่งที่ได้รับกลับไปคือโทสะร้ายๆ ของราชสีห์หนุ่มเท่านั้น

“อาหลง สั่งคนของเราให้จัดการพาตัวไอ้ลายเมฆมาให้ได้ ก่อนที่ฉันจะเดินทางไปถึงกรุงเทพ” หลี่ไท่หยางสั่งการ ขณะนั่งอยู่บนลีมูซีนคันใหญ่

ดวงตายาวเรียวใต้คิ้วดกหนาที่ตวัดปลายพาดเฉียงขึ้นเล็กน้อยเปล่งประกายวาวจ้า ขณะจ้องมองรูปของชายหนุ่มคนหนึ่งบนหน้าไทม์ไลน์ของเฟสบุ๊ค ผู้ชายคนนี้เป็นสาเหตุทำให้น้องสาวที่น่าสงสารของเขาฆ่าตัวตาย ข้อความทุกข้อความที่มันส่งมาหลอกลวงเจนนี่ ถูกคนเป็นพี่ชายอ่านซ้ำแล้วซ้ำเล่า ความแค้นทวีขึ้นทุกครั้งที่อ่านมัน หลี่ไท่หยางนึกโทษตัวเอง ที่ปล่อยให้น้องสาวหมกมุ่นอยู่ในโลกออนไลน์ จนถูกหลอกลวงให้ช้ำใจ สูญเสียทั้งเงินและเกือบสูญเสียลมหายใจไป

“ไอ้ลายเมฆแกต้องชดใช้... ฉันขอสาบานว่า ต้องทำให้แกตกนรกทั้งเป็นให้ได้!”

หลี่ไท่หยางคำรามรอดไรฟัน นึกถึงวิธีการทรมานคนสารเลวคนนั้นให้ตายอย่างช้าๆ เขาจะทำให้มันเจ็บยิ่งกว่าน้องสาวเขาเคยเจ็บ ไอ้ลายเมฆจะต้องทรมานจนร้องขอความตาย

๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐

กรุงเทพมหานคร เวลา 20.00 น.

ในห้องเช่าเล็กๆ ของแฟลตย่านดินแดง ชายหญิงคู่หนึ่งกำลังหิ้วกระเป๋าเสื้อผ้า วิ่งกระหืดกระหอบออกมาจากห้อง ทั้งสองลงมาตามบันไดหนีไฟด้านหลังแฟลต เมื่อมองเห็นรถกระบะสีดำจอดอยู่ด้านหน้าประตูทางเข้า ร่างของชายร่างใหญ่หน้าเหี้ยมสองคนยืนเกาะประตูรถอยู่ พวกมันเป็นลูกสมุนของเฮียอู๋เจ้าของโต๊ะบอลรายใหญ่ มันกำลังมาตามเก็บเงินจากลูกหนี้ที่ติดหนี้พนันบอล ซึ่งลูกหนี้คนนั้นคือชายหนุ่มพี่ชายของหญิงสาวหน้าหวาน ที่กำลังจูงแขนน้องสาวหอบเสื้อผ้าหนีออกาทางบันไดหนีไฟนั่นเอง

“เฮียเมฆ พวกมันจะรู้มั้ยว่าเราแอบหนีมาทางนี้” เสียงปนหอบของผู้เป็นน้อง เอ่ยถามพี่ชายที่อายุเท่ากันและมีใบหน้าคล้ายคลึงกันอย่างหวาดหวั่น

“แกอย่าปอดไปเลยน่าไอ้ไหม ลูกน้องเฮียอู๋ แต่ละคนสมองเท่าเม็ดถั่ว มันดีแต่ใช้กำลังแต่ไม่เคยใช้สมองหรอก”

คนเป็นพี่ย่นจมูกเอ่ยเหยียดหยามคนทวงหนี้ออกมา ขณะลากแขนน้องสาวฝาแฝดวิ่งตรงไปยังประตูทางออกด้านหลังซึ่งปลอดคน ลายเมฆหันซ้ายหันขวา ก่อนจะล้วงกุญแจรถมอเตอร์ไวค์ฟีโน่สีส้มของตัวเองออกมาเสียบ ก่อนจะเหวี่ยงกระเป๋าวางไว้ตรงที่วางเท้าด้านหน้า แล้วก้าวขึ้นคร่อมสตาร์ทเครื่องยนต์

“ไอ้ไหมแกจะยืนรอให้มันมาจับแกไปขายซ่องหรือไง” เขาเรียกน้องสาวที่ยืนทำหน้าบื้อให้ขึ้นรถ

ม่านไหมรีบกระโดดขึ้นซ้อนท้ายทันที กระเป้ถูกยกขึ้นสะพายไหล่ เสื้อผ้าไม่กี่ชุดกับเครื่องสำอางของผู้หญิง ถูกยัดใส่กระเป๋าใบเล็กตามคำสั่งของพี่ชาย ครั้งนี้เป็นครั้งที่เท่าไหร่ก็สุดจะนับ เมื่อต้องย้ายหนีคนทวงหนี้ ไอ้พี่ชายฝาแฝดตัวดีขยันสร้างเรื่อง หวังรวยทางลัดด้วยการเล่นพนันบอล แต่สุดท้ายก็ติดหนี้หัวโต ทั้งต้นทั้งดอกเบ่งบานจนไม่มีปัญญาหามาจ่าย เธอในฐานะน้องสาวต้องมาร่วมรับกรรมนี้โดยไม่เต็มใจ เงินที่ได้มาจากการทำงานอันเหนื่อยยาก ต้องถูกพี่ชายหยิบยืมไปใช้หนี้

“วันหนึ่งเราจะรวย พี่จะสร้างบ้านสีขาวหลังเล็กๆ ให้แกอยู่ จะปลูกดอกกุหลาบรอบๆ บ้านอย่างที่แกชอบ”

คำสัญญาลมๆ แล้งๆ ของพี่ชายฝาแฝด ทำให้คนเป็นน้องมีแรงทำงาน แต่ความฝันก็พังทลายไม่เหลือซาก เมื่อพี่ชายหลงไปติดบอล จนเอาเงินเก็บไปเล่นพนันบอลจนหมด ไม่พอยังไปติดหนี้มาอีกก้อนโต เจ้าหนี้หน้าเลือดมาจตามทวงหนี้ถึงห้องเช่า เมื่อไม่ได้เงินพวกมัก็เอาอย่างอื่นไปแทน ทีวีตู้เย็น เครื่องซักผ้า ถูกขนไปเป็นดอกเบี้ย สุดท้ายไอ้เฮียอู๋ มันคิดจะเอาน้องสาวของลูกหนี้ไปขัดดอก คนเป็นพี่เริ่มสำนึกผิดหาทางปกป้องน้องสาวโดยไปกู้หนี้นอกระบบมาจ่าย แต่ก็ทำได้แค่จ่ายดอกเบี้ย ต้นยังอยู่ครบ จากที่มีเจ้าหนี้รายเดียวก็เพิ่มมาเป็นสองราย สุดท้ายไม่มีปัญญาจ่าย เลยต้องพากันหนีหัวซุกหัวซุน

“เมื่อไหร่เราจะหมดกรรมหมดเวรซะทีนะเฮีย ฉันไม่อยากหนีอีกแล้วนะ” ม่านไหมตะเบ็งเสียงใส่หูพี่ชาย เมื่อเขาขี่รถพาเธอมาจอดพักที่ข้างแม่น้ำเจ้าพระยา

“แกจะให้ฉันเอาเงินที่ไหนไปใช้หนี้มัน เงินตั้งสองล้านนะเว้ย ไม่ใช่สองบาท” ลายเมฆสะบัดเสียงใส่น้องสาวอย่างหงุดหงิด

เขาติดหนี้เฮียอู๋แค่สองแสน แต่ดอกมันทบต้นขึ้นมาเป็นสองล้านในเวลาไม่ถึงปี ต่อให้เทวดาก็ไม่มีปัญญาหามาจ่ายหรอก เชาหยิบบัตรเอทีเอ็มในกระเป๋าออกมาดู บัตรใบนี้มีเงินอยู่ในธนาคารไม่น้อย แต่เขาไม่อยากใช้มัน เงินที่เขาได้มาจากเด็กผู้หญิงที่ชื่อ เจนนี่ ลายเมฆรู้จักเธอผ่านเฟสบุ๊ค เขาใช้เวลาว่างในช่วงทำงานเล่นเฟสบุ๊คเหมือนที่หลายๆ คนในที่ทำงานแอบทำ เฟสบุ๊คที่เขาเล่นเป็นของม่านไหมน้องสาวฝาแฝด ม่านไหมไม่มีเวลาดูแลลูกหมูที่เลี้ยงไว้จึงให้เขาช่วยดูแลแทน งานของเธอเป็นงานที่หาเวลาส่วนตัวยาก เมื่อต้องรับจ้างเป็นพยาบาลพิเศษดูแลผู้ป่วย หากปล่อยให้คนป่วยคลาดสายตาอาจทำให้บกพร่องต่อหน้าที่ได้ แต่เจ้าตัวยังติดเกมส์สารพัดในเฟสบุ๊ค จนเดือดร้อนพี่ชายที่แสนดีอย่างเขาต้องไปดูแลให้

จากเข้าไปดูแลกลายเป็นยึดครองเฟสบุ๊คของน้องสาวไปในที่สุด ลายเมฆเปลี่ยนโปรไฟล์เป็นรูปตัวเอง ขยันโพสน์รูปอัพเดตสถานะ จนมีสาวๆ มาขอแอดเป็นเพื่อนมากมาย วันหนึ่งเขาก็ได้รู้จักกับเจนนี่ สาวพิการผู้น่าสงสาร ลายเมฆเป็นเพื่อนคุยกับสาวน้อยจนผูกพันกัน เขาเล่าเรื่องของตัวเองให้เธอฟัง เล่าความฝันที่อยากจะเปิดร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ รวมกับร้านกาแฟเล็กๆเป็นของตัวเอง เจนนี่ก็มีความฝันอยากมีกิจการเป็นของตัวเอง ด้วยสภาพร่างกายของเธอทำให้ไม่อาจทำตามความฝันได้ นั่นเป็นจุดเริ่มต้น ให้คนสองคนอยากมีฝันร่วมกัน เจนนี่มีทุนลายเมฆมีไอเดีย สาวน้อยเสนอเป็นผู้ออกทุนทั้งหมดให้ เธอโอนเงินเข้าบัญชีให้เขาจัดการดำเนินการก่อสร้างร้าน แต่ทุกอย่างต้องมาสะดุดลงเมื่อลายเมฆอยากหาเงินสักก้อนร่วมลงทุนกับเจนนี่ เขาไม่อยากเอาเปรียบเธอโดยการเป็นผู้รับผลประโยชน์โดยไม่ได้ร่วมลงทุน จากคำชวนของเพื่อนร่วมงานทำให้เขาหลงเข้าไปติดกับโต๊ะพนันบอลจนติดหนี้หัวโต ต้องหนีหัวซุกหัวซุนเหมือนสุนัขจนตรอก แล้วเขาจะมีหน้าเอาเงินของเจนนี่ไปใช้หนี้พนันได้ลงคออย่างไร ลายเมฆมองบัตรเอทีเอ็มอย่างตัดใจ ก่อนจะเก็บมันยัดลงกระเป๋าเหมือนเดิม

“คืนนี้เราจะนอนที่ไหนล่ะเฮีย ฉันต้องทำงานนะ พรุ่งนี้เช้าต้องไปดูแลคนป่วยรายใหม่” เสียงของม่านไหมทำให้พี่ชายหลุดจากภวังค์ความคิด

ลายเมฆเคาะนิ้วไปมาบนเบาะรถ คิ้วดกหนาได้รูปขมวดชนกัน “ไปขอพักที่บ้านยายโอ่งมังกรเพื่อนแกก่อนดีไหม”

“เขาชื่อโอโม่ ไม่ใช่โอ่งมังกร” ม่านไหมหัวเราะคิก ขำชื่อที่พี่ชายตั้งให้เพื่อนชายใจหญิงของเธอ

โอโม่หรือโอฬารกระเทยร่างยักษ์เพื่อนของม่านไหม เป็นเจ้าของบริษัททำความสะอาด ที่ม่านไหมเคยไปช่วยงานหลายครั้ง เจ้าหล่อนมีบ้านหลังใหญ่และห้องชุดในคอนโดให้คนเช่า สองพี่น้องต้องแบกหน้าไปขอความช่วยเหลือจากโอโม่อยู่หลายครั้ง จนเจ้าตัวค่อนขอดว่า หากจะมาขอให้ช่วยอีกจะยกตัวเองให้เป็นพี่สะใภ้ของม่านไหม ลายเมฆเลยไม่กล้าไปขอความช่วยเหลืออีก
“เฮียจะยอมเป็นผัวนังโอโม่แล้วเหรอ ถึงได้ไปขออาศัยมันอีก” ม่านไหมเอ่ยแซวพี่ชาย
ลายเมฆเบ้ปาก ทำหน้าสะอิดสะเอียน “อย่าพูดสิวะ ฉันจะอ้วก แค่ยอมให้มันนัวเนีย แลกข้าวแลกที่พัก ฉันต้องกลั้นใจแทบตาย ขืนรับเป็นผัวมัน มีหวังกินข้าวไม่ลงว่ะ” ขนแขนลุกชัน เมื่อนึกถึงสภาพน่าอนาถนั้น

“ทำเป็นรังเกียจตุ๊ด ระวังเหอะ สวรรค์จะแกล้งให้เฮียกลายเป็นตุ๊ดสักวัน”

“ถ้าฉันจะเป็นตุ๊ด ก็เป็นตุ๊ดคุณภาพเว้ย” ลายเมฆประชดน้องสาวช่างแหย่ รู้ว่าเขาเกลียดตุ๊ดเกลียดกระเทย ยังมีหน้ามาล้อเลียนอีก

ม่านไหมหัวเราะคิกคักอารมณ์ดีขึ้น “ฉันว่าเราหาที่นอนก่อนดีไหม เมื่อกี้ฉันเห็นโรงแรมม่านรูดแถวนี้ที่หนึ่ง ราคาไม่แพง ไปเปิดห้องนอนสักคืนแก้ขัดไปก่อน”

ยามอับจนสองพี่น้องก็อาศัยโรงแรมม่านรูดเป็นที่พักชั่วคราว แม้ในสายตาผู้คนสถานที่แห่งนั้นเป็นที่อโคจรสำหรับคนดีๆ แต่ม่านไหมกลับไม่คิดเช่นนั้น เธอกลับมองว่าเป็นที่พักราคาถูก แอร์เย็นเตียงนุ่ม บางห้องมีเตียงน้ำให้นอนเล่น แม้จะหนวกหูกับเสียงเซอร์ราวรอบทิศทางบ้าง แต่ก็แค่ใช้ที่ปิดหูปิดเอาก็ไม่ได้ยินแล้ว ปลอดภัยและนอนสบาย แถมราคาก็ไม่แพงจนจ่ายไม่ไหว ที่สำคัญสุด พวกเจ้าหนี้คงไม่คิดว่าเธอกับพี่ชายจะพากันหลบภัยมาอยู่ที่นี่แน่

“นี่ถ้ามีผู้ชายพาแกเข้าม่านรูด ฉันว่ามันคงไม่ชำนาญพื้นที่เท่าแกหรอก” ลายเมฆหัวเราะขำน้องสาว

ม่านไหมมองโรงแรมม่านรูดไม่ต่างจากบ้านพัก น้องสาวของเขาไร้ความเขินอายเมื่อต้องเข้าไปในที่แห่งนั้น หากจะมีใครมองน้องเขาเป็นผู้หญิงไม่ดี ชายหนุ่มไม่โทษใครนอกจากโทษตัวเอง ที่ทำให้น้องต้องมาตกระกำลำบากไปด้วย

สองพี่น้องพากันขึ้นรถ เตรียมเคลื่อนที่อีกครั้ง แต่ทันใดนั้นเอง ก็มีรถเก๋งสีดำคันหนึ่งแล่นมาจอดข้างๆ ชายฉกรรจ์สี่คนเปิดประตูออกมา พร้อมอาวุธปืน ลายเมฆไม่ปล่อยให้ตัวเองตกตะลึงนาน เขารีบคว้าแขนน้องสาวให้ซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ รีบสตาร์ทรถเร่งเครื่องบึ่งหนีออกมาทันที จากที่จะหลบภัยในโรงแรมม่านรูด ลายเมฆเปลี่ยนเป้าหมายขี่รถมุ่งตรงมายังบ้านของโอโม่ รถคันนั้นยังตามติดเงา ลายเมฆอาศัยความคล่องตัวของรถคันเล็กขี่ซิกแซก หลบเข้าซอยต่างๆ จนหลุดรอดจากการติดตาม เขาจอดรถที่หน้าบ้านของโอโม่

“คืนนี้แกนอนที่บ้านยายโอ่งมังกรนะ”

“แล้วเฮียล่ะ” ม่านไหมก้าวลงจนรถ มองหน้าพี่ชายอย่างห่วงใย ลายเมฆยิ้มให้น้องสาว ตบบ่าเล็กๆ นั้นแรงๆ

“ฉันจะไปหาที่นอนบ้านเพื่อน ไม่ต้องเป็นห่วงน่า พรุ่งนี้ฉันจะมารับแกไปส่งที่ทำงาน” ลายเมฆบอกให้น้องสาวคลายใจ ก่อนจะบิดคันเร่งขี่รถออกไป

ม่านไหมมองตามท้ายรถของพี่ชายด้วยสายตาห่วงใย แล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะหันไปกดกริ่งเรียกเจ้าของบ้านให้มาเปิดประตูรับ ร่างอวบพีของโอฬารเดินท่อมๆ ออกมาเปิดประตูให้

“ทำไมไม่โทรมาก่อนยะ นังไหม แล้วเฮียเมฆมาด้วยหรือเปล่า” โอโม่ชะโงกหน้ามองไปรอบๆ กาย หวังเจอหน้าพ่อเทพบุตรสุดหล่อ แต่ต้องผิดหวังเมื่อเพื่อนสาวส่ายหน้าดุกดิก

“เฮียแค่มาส่งเฉยๆ อุ๊ยตายแล้ว ฉันลืมเอากระเป๋าลงจากรถเฮีย” ม่านไหมอุทานลั่น เมื่อนึกได้ว่าเธอคล้องกระเป๋าเป้ไว้ที่แเฮนด์รถมอเตอร์ไซค์ของพี่ชาย “คืนนี้ ฉันขอยืมชุดนอนแกก่อนได้ไหม นังโอโม่”

“เออ... จะยื่มอะไรก็ยืม รีบเข้ามาไวไว ละครกำลังสนุก คืนนี้มีฉากที่พี่ณเดชของฉันจะถอดเสื้อโชว์กล้ามด้วย”

หนุ่มใจสาวลากแขนเพื่อนตัวน้อยให้เข้ามา แล้วปิดประตูรั้วอย่างว่องไว ก่อนจะเดินบิดสะโพกอะร้าอร่ามของตัวเองเดินนำเข้าไปในบ้าน

๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐

ลายเมฆขี่รถมอเตอร์ไซค์ออกมาจากซอยบ้านของโอโม่ เส้นทางนั้นค่อนข้างเปลี่ยวและมืดพอควร ชายหนุ่มมองเห็นรถเก๋งสีดำ กำลังเลี้ยวเข้าซอยมา จำได้ว่าเป็นรถคันเดียวกับที่ตามเขากับน้องสาวอยู่ จึงเร่งเครื่องขี่รถหนีไปอีกซอยด้วยความเร็วสูง เหมือนรถคันนั้นจะเห็นเขา จึงแล่นตามหลังมา ลายเมฆบิดคันเร่งสุดความเร็ว นำรถแล่นลัดเลาะตามทางเล็กออกมาจนเห็นถนนใหญ่ รถมอเตอร์แล่นออกจากซอยมืดตรงออกไปตามทางทันที

เอี๊ยด !!! โครม !!!

รถกระบะคันหนึ่ง ขับตรงมาตามถนนไมทันเห็นรถที่แล่นออกมาจากซอย จึงชนเสยเข้ากลางลำ รถเล็กเสียหลักแฉลบพุ่งเข้าพงหญ้าข้างทาง ร่างของคนขี่กระเด็นกลิ้งเหือนลูกขนุน ก่อนจะนอนแผ่สิ้นสติอยู่บนพื้น เลือดไหลนอง เจ้าของรถปิคอัพ รีบดับเครื่องเปิดประตูลงมาดูคนเจ็บ

“โอ๊ย... ทำไงดี เราขับรถชนคน ไม่รู้ตายหรือเปล่า” ญาดาค่อยก้มลงนั่งข้างๆ คนที่นองนิ่งอยู่บนพื้น เอื้อมมือมาแตะไหล่หนา ก่อนจะเขย่าเบาๆ “ นี่คุณ เป็นอะไรหรือเปล่า”

ร่างของผู้ชายที่นอนงอเลือดท่วมไม่ไหวติง โชคดีที่เขสวมหมกกันน็อค จึงไม่เห็นเศษสมองไหลกองกับพื้น ดูจากอาการน่าจะบาดเจ็บหนักไม่น้อย ญาดาหยิบโทรศัพท์มากดโทรเรียกตำรวจและรถพยาบาล เธอไม่คิดหนีทั้งที่ทำได้ เพราะถนนช่วงนี้ค่อนข้างปลอดผู้คน แต่ด้วยนิสัยเป็นคนรักความยุติธรรมเหมือนบิดาที่เป็ฯนายตำรวจใหญ่ ทำให้ญาดาไม่อาจกระทำผิดได้ หญิงสาวไม่กล้าแตะร่างของคนเจ็บ เพราะตามที่เรียนมาไม่ให้เคลื่อนย้ายคนเจ็บโดยพละการโดยไม่มีแพทย์หรือพยาบาลช่วยเหลือ หากคนเจ็บกระดูกหักอาจเป็นอันตรายได้ ยิ่งหมดสติเลือดไหลนองแบบนี้ ยิ่งไม่ควรแตะต้อง

“นายอย่าเป็นอะไรเลยนะ ฉันไม่ได้ตั้งใจชนนาย มันเป็นอุบัติเหตุ” เจ้าตัวพร่ำบอกคนไร้สติอยู่ซ้ำๆ

ไม่กี่นาที่ต่อมารถตำรวจกับรถพยาบาลก็มาถึง คนเจ็บถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล คนชนก็ไปให้ปากคำที่โรงพัก กว่าจะเสณ็จสิ้นกระบวนความก็กินเวลาเกือบเช้า ญาดาพาร่างที่อ่อนระโหยมาดูอาการคนเจ็บที่โรงพยาบาล เธอหิ้วกระเป๋าเป้ของเขามาด้วย ส่วนรถมอเตอร์ถูกตำรวจลากไปไว้ที่สถานนีตำรวจ

“อาการคนเจ็บเป็นยังไงบ้างคะคุณหมอ” ญาดาเอ่ยถามนายแพทย์ผู้รักษา

“คนเจ็บ มีอาการสมองบวมเล็กน้อย กับกระดูกแขนหักต้องใส่เฝือก แล้วรอดูอาการตอนฟื้นอีกที”

“เขาจะเป็นอะไรมากไหมคะหมอ” แววตาใสแป๋วของหญิงสาว ทำให้นายแพทย์ยิ้มเอ็นดู

“ไม่ต้องห่วงครับ อาการไม่หนักถึงกับเสียชีวิตหรอกครับ”

ญาดาสีหน้าดีขึ้น เมื่อได้ยินแบบนี้ เธอไม่อยากเป็นฆาตกรขับรถชนคนตายโดยไม่เจตนา ถ้าคนเจ็บฟื้นขึ้นมาแล้วเรียกร้องค่าชดเชยเท่าไหร่ เธอยินดีจ่ายโดยไม่อิดออดสักคำขอเพียงให้เขาฟื้นเท่านั้นเป็นพอ

“กลับไปพักผ่อนก่อนนะครับ แล้วค่อยมาเยี่ยมช่วงบ่ายๆก็ได้” คุณหมอแนะนำ เมื่อเห็นหน้าซีดๆ กับท่าทางอิดโรยของหญิงสาว

“ค่ะ ฝากหมอช่วยดูแลเขาด้วยนะคะ ถ้าเขาฟื้นเมื่อไหร่ ช่วยโทรไปบอกดิฉันด้วยนะคะ”

ญาดาเดินออกมาจากโรงพยาบาล แล้วขับรถกับไปคอนโดที่เธอมักใช้เป็นที่พักยามเข้ามาทำธุระในเมืองหลวง หญิงสาวตั้งใจจะกลับมาเยี่ยมคนเจ็บอีกครั้งในช่วงเย็น เธอคิดว่าเขาน่าจะฟื้นในช่วงนั้น จะได้จัดการค่ารักษากับค่าเสียหายให้เรียบร้อย ก่อนจะกลับไปบ้านสวนเพื่อทำงานต่ออย่างไร้ความกังวล

๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐๐

ทดลองเขียนแนวนี้ดูค่ะ ว่าจะพอไหวไหม

ขอบคุณที่แวะมาอ่านค่ะ

รวิญาดา/ ผการุ้ง








รวิญาดา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 11 ก.ย. 2555, 16:00:45 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 11 ก.ย. 2555, 16:00:45 น.

จำนวนการเข้าชม : 6242





   ตอนที่ 2. พรหมลิขิตบันดาลชักพา >>
ปิศาจสัญจร 11 ก.ย. 2555, 19:14:34 น.
น่าสนใจค่า รอตอนต่อไปนะคะ


หมูอ้วน 12 ก.ย. 2555, 13:03:44 น.
ชอบค่ะชอบ ปูเสื่อรอตอนต่อไปค่ะ


nunoi 12 ก.ย. 2555, 17:35:58 น.
ชอบค่ะ รอตอนต่อไปนะคะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account