แผนรักพันใจ

Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: ตอนที่ 1

ประทุนของรถสปอร์ตสองประตูสีขาวค่อยเปิดออกพร้อมกับกระจกด้านคนขับที่เลื่อนลงด้วยระบบอัตโนมัติ ชายหนุ่มผิวขาวใบหน้ารูปไข่เท้าศอกเข้ากับหน้าต่างรถอย่างไม่กลัวเสื้อเชิ้ตเข้ารูปสีเทาจะเป็นรอยเปื้อน ผมสีดำสนิทตัดสั้นเข้าทรงลู่ไปมาเพียงเล็กน้อยเมื่อปะทะเข้ากับแรงลม เรียวปากคลี่ออกเผยให้เห็นฟันขาวและเขี้ยวเสน่ห์ทั้งสองข้างทำให้ใบหน้าที่ดูอ่อนกว่าวัยสามสิบต้นนั้นยิ่งดูเด็กลงไปอีก

ปกติถ้ามีหญิงสาวนั่งเคียงข้างมาด้วย เจ้าหล่อนคงจะโผเข้าสบบ่าเพื่อสูดกลิ่นน้ำหอมที่ผสมผสานกลิ่นชาดาร์จีริง เครื่องเทศและชะมดเข้าด้วยกันอย่างลงตัวพลางเกาะแขนออดอ้อนธนินเต็มที่ บางรายอาจจะถึงขั้นลูบไล้ใบหน้าเกลี้ยงเกลาของเขาด้วยความเสน่หา แต่ขณะนี้คนที่นั่งเบาะข้างทำเพียงเอามือทั้งสองข้างตะปบผมรองทรงต่ำบนศีรษะที่ตอนนี้ถูกลมตีกระจาย

หนุ่มใหญ่วัยห้าสิบกว่าปีหันไปมองลูกชายที่ยกมือขึ้นลูบผมสั้นบนศีรษะตัวเองอย่างสบายใจอย่างหมั่นไส้ก่อนออกแรงขยับปากต้านแรงลม

"แกจะเปิดประทุนทำไมห๊ะเจ้านิน ผมเผ้าพ่อเปิดเปิงหมดแล้ว"

พูดแล้วคุณบัณฑิตก็ต้องรีบเม้มปากกันลมตีเมื่อลูกชายลงน้ำหนักที่คันเร่งมากขึ้นนำรถทะยานไปบนเส้นทางออกจากกรุงเทพ ธนินเอื้อมไปหยิบแว่นตากันแดดยี่ห้อหรูขึ้นมาสวม กรอบดำเข้มวางพอดีเข้ากับจมูกโด่งเป็นสัน

"แหม...พ่อปกติอยู่ในกรุงเทพเปิดประทุนรับควันรถไม่ได้ ออกมานอกเมืองแบบนี้ก็ขอเปิดรับลมธรรมชาติบ้างจะเป็นไรไป"

"หูหนวกหรือไงเจ้านิน ทำไมจะไม่เป็นอะไร ก็เนี่ย...ผมพ่อเสียทรงเห็นไหม"

"วันหยุดทั้งทีพ่อลากผมมาดูที่ ผมต้องยกเลิกนัดไปตั้งหลายรายเพื่อพ่อนะเนี่ย ขอตามใจตัวเองบ้างไม่ได้เหรอ"

"เออ ๆ ตามใจ"

คุณบัณฑิตตัดบทมือยังวางบนศีรษะกันผมแพ้แรงลมปะทะ เหลือบมองลูกชายอย่างขัดใจหากเพราะมีเรื่องที่ต้องขอความช่วยเหลือจึงยอมนิ่งเสีย



ไม่นานนักรถคันหรูก็จอดสนิทอยู่ริมถนนใกล้กับชายทะเลของจังหวัดท่องเที่ยวไม่ไกลกรุงเทพนัก ธนินก้าวลงจากรถไปยืนดูพื้นที่ที่ผู้ให้กำเนิดหมายใจจะซื้อมาทำห้างสรรพสินค้าหรู เลื่อนแว่นตากันแดดขึ้นไปไว้บนศีรษะเพื่อมองที่ดินซึ่งเป็นทุ่งหญ้ากว้างมองไปเห็นน้ำทะเลสีฟ้าสดใส ดวงตาโตดำสนิทเบิกกว้างกับความกว้างขวางของที่ดินผืนที่มองเห็น

"ที่นี่แหละ..."

หนุ่มใหญ่ยังไม่ทันได้พูดอะไรต่อ เครื่องมือสื่อสารของลูกชายก็ดังขึ้นเสียก่อน ธนินล้วงกระเป๋าดึงโทรศัพท์ออกมากดรับพลางยกมือคล้ายจะบอกผู้เป็นพ่อให้หยุดการสนทนาชั่วขณะ

เลี่ยงไปคุยโทรศัพท์พักใหญ่ชายหนุ่มก็เดินกลับมาหาผู้ให้กำเนิดไม่ทันที่คุณบัณฑิตจะอ้าปากถามอะไร เสียงเรียกเข้าก็ดังขึ้นอีกรอบและเมื่อลูกชายเดินกลับมาอีกครั้ง ฝ่ายพ่อเลยตัดปัญหาด้วยการยื่นมือไปขออุปกรณ์สื่อสารจากลูกชาย

"อะไรพ่อ"

"ขอยึดไว้ชั่วคราว ไม่งั้นไม่ได้คุยกันสักที"

ธนินอิดออดแต่เมื่อคุณบัณฑิตทำท่าเอาจริงก็จำใจยื่นให้อย่างเสียไม่ได้ คนเป็นพ่อกดปิดเสียงโทรศัพท์ก่อนหันไปมองที่ดินเปล่ากว้างใหญ่นั้นพลางถาม

"แกคิดว่าไง...ที่ดินผืนนี้"

"ดูจากทำเลแล้วก็ขนาดพื้นที่ ที่ดินนี่มันต้องแพงสะบัดเลยนะพ่อ"

"เรื่องแพงไม่ใช่ปัญหา" คุณบัณฑิตซึ่งก้าวลงจากรถตามหลังลูกชายมาเอ่ยขณะที่ยังจัดทรงผมให้เข้าที่ "ปัญหาคือการเข้าถึงเจ้าของที่ต่างหาก"

"เจ้าของที่เขาอยู่ต่างประเทศเหรอพ่อ"

ผู้ให้กำเนิดส่ายหน้า "อยู่เมืองนนท์ มีสวนผลไม้ปลูกสารพัด"

"แล้วเข้าถึงยากยังไงอ่ะ"

"อย่าถามมากนักเลย เอาเป็นว่าพ่อทำการบ้านมาบ้างแล้ว พอจะหาทางเข้าถึงเจ้าของที่ได้ แต่ต้องอาศัยแกช่วยหน่อย"

"ทำไมไม่เป็นพี่นัท พี่นัทน่าจะเจรจาได้ดีกว่าผม"

"ไอ้นัทมันมีเมียแล้ว เดี๋ยวเมียมันได้มาถอนหงอกพ่อเอาน่ะสิ"

"เกี่ยวอะไรกับมีเมียไม่มีด้วยล่ะพ่อ"

คุณบัณฑิตส่ายหน้าเล็กน้อยกับความช่างซักของลูกชายคนเล็กก่อนจะเดินกลับไปที่รถเปิดกระเป๋าเอกสารหยิบซองกระดาษสีน้ำตาลมายื่นให้ธนิน ชายหนุ่มรับมาเปิดแล้วดึงเอาปึกกระดาษที่อยู่ในซองออกมา ภาพถ่ายหลายอิริยาบถของหญิงสาวคนหนึ่งปรากฏแก่สายตาแค่เพียงผ่าน ผู้หญิงในรูปถ่ายเหล่านี้เดินสวนกันที่ไหนธนินคงไม่สนใจจะหันไปมองเมื่อเงยหน้าขึ้นเขาจึงได้แต่ถามบิดาอย่างสงสัย

"ถามคำเดียวเลยนะพ่อ ยัยป้าเฉิ่มคนนี้เกี่ยวไรด้วยอ่ะ"

แม้จะไม่ค่อยมีหัวธุรกิจเหมือนพ่อกับพี่ชายแต่ธนินก็ไม่ได้บื้อเสียทีเดียวเมื่อคุณบัณฑิตเพียงแต่ยิ้มตอบ เขาก็พอจะเข้าใจว่า 'ยัยป้าเฉิ่ม' ในรูปนั้นเกี่ยวข้องอะไรกับที่ดินผืนนี้และเขาจะต้องทำอะไร ธนัทแต่งงานมีครอบครัวแล้วแต่เขายังไม่มี...แล้วพ่อจะให้เขาทำอะไรได้อีกนอกจาก...

"นี่พ่ออย่าบอกนะว่า"

หนุ่มใหญ่แค่พยักหน้าเล็กน้อยแทนคำตอบ รู้ดีว่าอาจต้องงัดไม้ตายออกมาใช้กับธนินเมื่อเห็นท่าว่าลูกชายคนเล็กจะปฏิเสธภารกิจ คู่ควงของลูกชายที่คุณบัณฑิตเคยพบมาบ้างนั้นส่วนใหญ่เปรี้ยวจี๊ดเข็ดฟันเป็นสาวสวยโฉบเฉี่ยว ผู้หญิงใส่แว่นตากรอบดำขรึม ทำผมมวย แต่งกายด้วยเสื้อผ้ามิดชิด ทั้งเชิ้ตแขนยาวปิดคอ กระโปรงยาวถึงตาตุ่มในรูปต้องไม่ใช่สเปคของลูกชายแน่

ก็ขนาดคุณบัณฑิตยังคิดว่าแม่สาวในรูปถ่ายนั้นแต่งตัวได้เชยสะบัด...ลูกชายวัยสามสิบต้นอย่างธนินจะนึกเสน่หาขึ้นมาก็คงจะแปลกเกินไปล่ะ

"ไปกัน"

"ไปไหนอีกละพ่อ"

"ขับรถกลับกรุงเทพ"

"อ้าว...มาแค่นี้อ่ะ ให้ผมเคลียร์ตัวเองทั้งวันเลยเหรอ นี่ผมอุตส่าห์ยกเลิกนัดกินข้าวกลางวันนะเนี่ย"

"อย่างเร็วก็เย็น ๆ ยังไงแกก็ต้องอยู่กับพ่อไปกว่าจะถึงมื้อกลางวัน ที่ยอมนั่งรถให้แกขับยังกะเหาะมาก็เพราะมั่นใจว่าแกจะพาพ่อกลับไปทันกินมื้อกลางวันนี่แหละ"

"กินข้าวที่บ้านต้องรีบขนาดนั้นเชียว แม่สั่งไว้เหรอพ่อ" ธนินมองคุณบัณฑิตอย่างไม่ค่อยเชื่อนัก "ชมรมบุรุษผู้เทิดทูน เชื่อฟังภรรยาหรือเรียกสั้น ๆ ว่าชมรมกลัวเมีย น่ามอบรางวัลบุคคลดีเด่นให้พ่อจริง ๆ"

"ไอ้นี่"

คุณบัณฑิตชักจะทนไม่ได้ทำท่าเหมือนอยากจะขยับแข้งขยับขาเต็มแก ลูกชายรีบกระโดดถอยหลังให้พ้นรัศมีแม้รู้ดีว่าคนเป็นพ่อเพียงแค่หยอกคืนเท่านั้น

"ไม่ได้จะรีบกลับบ้านเว้ย"

"แล้วไปไหนอ่ะ"

"เออน่า...เดี๋ยวบอกทางให้เอง"

สองพ่อลูกก้าวขึ้นประจำที่บนรถสปอร์ตอีกครั้ง ธนินติดเครื่องยนต์แล้วเร่งเครื่องนำพาหนะคู่ใจทะยานกลับสู่เส้นทางเข้ากรุงเทพ



คุณบัณฑิตกะน้ำหนักเท้าของธนินไม่ผิดพลาดเมื่อเดินทางไปถึงที่หมาย หนุ่มใหญ่ยกข้อมือขึ้นมองเวลาแล้วเป่าปาก

"เร็วกว่าที่คิดไว้เกือบครึ่งชั่วโมง พ่อว่าถ้ามันยังช้าไม่ทันใจแก คราวหน้าไม่ต้องออกรถแล้ว ซื้อเฮลิคอปเตอร์ไปเลย"

"ไม่เอาอ่ะพ่อ หาที่จอดยาก รถสปอร์ตสองประตูนี่แหละเจ๋งแล้ว"

ชายหนุ่มตอบคำแต่สายตามองไปทางหญิงสาวคนหนึ่งซึ่งเพิ่งก้าวลงจากประตูด้านข้างคนขับรถญี่ปุ่นรุ่นท็อปคันหนึ่ง ทั้งเสื้อเกาะอกโชว์เนินเนื้อขาวและกระโปรงสั้นอวดเรียวขาทำให้ธนินทรีบกดปุ่มลดกระจกลงกำลังจะเอ่ยทักแต่ต้องชะงักเมื่อเห็นว่า ประตูฝั่งคนขับเปิดออกก่อนจะมีหนุ่มใหญ่ดูอ่อนวัยกว่าพ่อเขาไม่กี่ปีก้าวลงมา สาวเกาะอกกระโปรงสั้นรีบเดินไปเกี่ยวแขนหนุ่มใหญ่อย่างออดอ้อน

"โธ่...เด็กเสี่ย ดูอายุไม่เท่าไหร่ไม่น่าเลย"

คุณบัณฑิตได้แต่ส่ายหน้ากับลูกชายคนเล็กที่อายุน้อยกว่าพี่ชายไม่กี่ปีแต่นิสัยใจคอดูเหมือนจะห่างกันเป็นสิบปี ลูกชายคนโตนั้นดูเป็นผู้ใหญ่เกินอายุมาแต่ไหนแต่ไร ช่วยดูแลกิจการทำงานให้กับธุรกิจของครอบครัวเต็มกำลังแต่งงานสร้างครอบครัวและเป็นที่ภาคภูมิใจของพ่อตาแม่ยาย ส่วนอีกคนยังคงรักชีวิตหนุ่มโสด ทำตัวเหมือนเป็นเด็กรุ่นลอยไปลอยมา จะดีก็ตรงที่ยังรับผิดชอบงานที่ได้รับมอบหมายได้ไม่ขาดตกบกพร่องเท่านั้น แต่ถึงขั้นจะให้คิด วางแผนงานหรือตัดสินใจในเรื่องใหญ่อย่างเฉียบขาดได้อย่างธนัทผู้เป็นพี่ก็ไม่ไหว

"ว่าแต่มาทำอะไรกันที่นี่อ่ะพ่อ"

"ที่นี่แหละ เป้าหมายของเราอยู่ที่นี่"

ธนินขมวดคิ้วมองป้ายไม้ขนาดใหญ่กลางพุ่มไม้ดอกบอกชื่อสวนอาหารบรรยากาศบ้านสวน มองผ่านพุ่มไม้เตี้ยเข้าไปเห็นหมู่เรือนไม้ปลูกสร้างบนสระน้ำขนาดใหญ่ มีสะพานไม้เชื่อมระหว่างเรือนแต่ละหลัง ไม้ดอกไม้ยืนต้นที่ปลูกล้อมรอบ หมู่บัวหลากสีและน้ำพุในสระช่วยทำให้ดูร่มรื่นสบายตา แต่ธนินไม่สนใจความงดงามที่ตาเห็นมากไปกว่าภารกิจที่ต้องทำ จึงเพียงแต่มองผ่านก่อนหันไปถามผู้ให้กำเนิด

"ยัยป้าเฉิ่มนั่น...ชื่อจันทร์เหรอพ่อ เชยสะบัดทั้งหน้าตา ทั้งบุคลิกทั้งชื่อเลย" ชายหนุ่มทำหน้าแหยง "จะให้ผมไปตีสนิทกับยัยป้าจันทร์อะไรนี่จริง ๆ เหรอ"

"ไอ้บ้า...บ้านสวนคุณจันทร์ นี่เป็นชื่อยายของหนูจาเขา เขาแบ่งส่วนสวนที่ติดถนนนี่มาทำเป็นร้านอาหาร เปิดมาได้หลายปีละ ลูกค้าแน่นเพราะหนูจาเขาทำอาหารอร่อย เรียนด้านนี้มาโดยตรง เห็นเรียบ ๆ อย่างนั้น ก็เถอะหนูจาน่ะทำงานที่โรงเรียนสอนทำอาหารไปด้วยดูแลร้านอาหารด้วย คล่องไม่เบาหรอกน่ะ"

"อ๋อ..." ลูกชายลากเสียงยาว "ชื่อจา...ก็ไม่ถือว่าเชย แต่มันจะดีเหรอพ่อทำแบบนี้ ไปหลอกเขามันไม่ดีนา แล้วทำไมถึงไม่ไปคุยกับคุณยายจันทร์อะไรนี่ล่ะ ต้องให้ผมไปตีสนิทหลานสาวเขาทำไม"

"ถ้ามันทำได้ง่ายอย่างนั้นพ่อคงไม่ต้องพึ่งแก คุณจันทร์เขาไม่ค่อยให้ใครพบง่าย ๆ ไม่สนใจธุรกิจ ไม่คิดขายที่ทางที่ไหน เก็บไว้เป็นมรดกให้หลานเขา พ่อสืบมาแล้วตอนนี้ที่ดินแปลงนั้นคุณจันทร์โอนชื่อให้เป็นกรรมสิทธิ์ของหนูจาแล้ว" คุณบัณฑิตบรรยายความ "บ้านนี้ถ้าไม่เปิดเป็นสวนอาหาร พ่อกับแกไม่มีสิทธิเหยียบ"

"ทำไมล่ะพ่อ"

"คุณจันทร์เขาไม่ชอบผู้ชาย ถึงขั้นเกลียดด้วยซ้ำ แล้วคุณจันทร์หวงหลานสาวมาก พวกคนสวน คนงานคุณจันทร์เขาก็ไม่ให้มาคลุกคลีกับครอบครัวด้วยซ้ำ"

"เราก็เลยต้องมาในฐานะลูกค้า"

"ก็ทำนองนั้น"

"ผมว่ามันไม่ดีนะพ่อ เกิดยัยป้าจาอะไรนี่หลงรักผมหัวปักหัวปำขึ้นมาจะทำยังไง"

"พ่อไม่ได้ให้แกไปหลอกให้เขารัก แค่เขาไปรู้จัก สนิทสนมในฐานะเพื่อนก็ได้ อย่างน้อยเวลาคุยเรื่องที่ทางจะได้คุยกันได้ง่ายหน่อย" คนเป็นพ่อถอนใจ "แล้วเสน่ห์ของแกน่ะใช่ว่าจะใช้ได้กับทุกคนนะเจ้านิน ยิ่งกับผู้หญิงบ้านนี้ล่ะท่าทางจะยาก"

"เอาจริงเหรอเนี่ยพ่อ" ธนินประท้วง "ไม่ทำไม่ได้เหรอ ให้ผมไปตีสนิทผู้หญิงสวย ๆ ยังพอว่าแต่ให้มาเจ๊าะแจ๊ะกับคุณป้าแต่งตัวเหมือนครูเชย ๆ ในหนัง ละครสมัยก่อนโน้น ผมไม่ไหวอ่ะพ่อ มันไม่ใช่...พ่อเข้าใจใช่ไหม"

คุณบัณฑิตพยายามจะไม่ใช้ท่าไม้ตาย ข่มใจพยักหน้าแทนคำตอบ

"เอาจริงอ่ะ"

"เออ" คนเป็นพ่อชักจะข่มใจไม่อยู่ เพราะท่าทางธนินจะถามซ้ำอีกหลายครั้งหากไม่โดนยื่นคำขาด "เอาจริงสิ ถือเป็นงานด้วย ไม่อย่างนั้นพ่อคงต้องให้ฝ่ายการเงินพิจารณาโบนัสปลายปี กับเปอร์เซ็นต์เงินปันผลของนายธนิน ทรัพย์มหาศาล เป็นพิเศษ ตัดออกจากที่ควรจะได้สักเจ็ดสิบหรือแปดสิบเปอร์เซ็นต์ดีล่ะ เดี๋ยวขอคำนวณดูก่อนก็แล้วกันนะ"

"โอเค...ก็ได้ ๆ" ลูกชายยอมแพ้ เมื่อเจอมุกตัดเงินโบนัสปลายปี เขาวางแผนจะซื้อรถคันใหม่ แถมเล็งห้องชุดใหม่ในคอนโดมิเนียมหรูใจกลางกรุงเอาไว้แล้ว ขืนเจอตัดโบนัส ตัดปันผลไป เขาอาจจะซื้อรถได้ครึ่งคัน ห้องชุดอาจจะกลายเป็นห้องสตูดิโอเล็กเท่ารูหนูแทน "ว่าแต่...ทำไมพ่อพูดเหมือนรู้จักคนบ้านนี้ดีอย่างนั้นแหละ ไปสืบข้อมูลอะไรพวกนี้มาจากไหนกันแน่เนี่ย"

"เอาน่า...อย่าถามให้มากความ แกเข้าไปได้ละ"

"อ้าว! แล้วพ่อไม่เข้าไปด้วยกันเหรอ"

คุณบัณฑิตส่ายหน้าแทนคำตอบ "พ่อจะโทร.ให้คนขับรถของบริษัทมารับ"

"ให้ผมไปนั่งกินข้าวคนเดียวเนี่ยเหรอพ่อ"

"เออสิ"

คุณบัณฑิตเปิดกระเป๋าเอกสารที่พกติดตัวมาตั้งแต่เช้า หยิบซองเอกสารสีน้ำตาลส่งให้ลูกชาย ก่อนอธิบายแผนการที่ได้วางเอาไว้แล้ว จากนั้นก็เปิดประตูก้าวลงจากรถทิ้งภาระอันยิ่งใหญ่ไว้ให้กับลูกชายคนเล็ก

ธนินมองซองเอกสารในมือ แล้วเอื้อมไปหยิบซองที่มีรูปถ่ายของ 'ยัยป้าเฉิ่ม' มาดูอีกครั้ง ตาย...ตายแน่ ๆ รู้ถึงไหนอายเขาถึงนั่น หนุ่มไฮโซ รูปหล่อพ่อรวยอย่างนายธนิน ทรัพย์มหาศาลจะต้องไปไหนมาไหนกับผู้หญิงเฉิ่มเชยคนนี้เนี่ยนะ



'ยัยป้าเฉิ่ม' เขม้นมองธนินอยู่หลายครั้งหลังจากที่มารับรายการอาหารจากเขาแล้ว ดวงตาหลังกรอบแว่นนั้นมีแววฉงนสนเท่ห์ จะว่าไปมันก็แปลกอยู่ไม่น้อยที่จะมีใครเดินทางมานั่งร้านอาหารแบบนี้คนเดียว ทั้งยังสั่งอาหารตั้งห้าอย่าง

แผนการของคุณบัณฑิตนับว่าแยบยลอยู่เพราะดูจะเรียกความสนใจจากเป้าหมายได้โดยที่เขายังไม่ต้องลงมือทำอะไร รอก็แต่เวลาที่จะดำเนินการตามแผนขั้นที่สอง

สวนอาหารคุณจันทร์ดูจะเลื่องชื่อจริงอย่างคำผู้ให้กำเนิดเพราะยิ่งใกล้เที่ยงลูกค้าก็ยิ่งทยอยกันเข้าร้านไม่ขาดสายจนสุดท้ายก็ไม่มีโต๊ะว่างอยู่แม้แต่โต๊ะเดียว ธนินรออยู่ราวยี่สิบนาทีเด็กเสิร์ฟก็นำข้าวเปล่าหนึ่งจานพร้อมกับข้าวอย่างแรกมาวางบนโต๊ะ

หน้าตาของอาหารและกลิ่นที่ยั่วน้ำลายทำให้คนที่ตั้งใจจะกินพอเป็นพิธีตามแผนการกลับตั้งหน้าตั้งตากินเกินกว่าที่ตั้งใจไว้เล็กน้อย กว่าครึ่งชั่วโมงผ่านไป ธนินก็กินข้าวไปสองจาน และอาหารบนโต๊ะทุกอย่างก็ย้ายลงไปอยู่ในท้องชายหนุ่มกว่าครึ่งของปริมาณที่มีอยู่แต่แรก

เฮ้ย...ชายหนุ่มมองความเสียหายบนโต๊ะอาหารแบบไม่เชื่อสายตา เขาออกกำลังกายสม่ำเสมอ ระมัดระวังเรื่องการกินอาหารเกินพอดี แต่วันนี้เหมือนโดนมนต์อะไรสักอย่าง

ชายหนุ่มรีรออยู่จนกระทั่งหญิงสาวเดินกลับไปทางเรือนไม้เล็ก ๆ ด้านหนึ่งสร้างเป็นช่องเคาน์เตอร์ติดกระจกสีชาแบบมองเห็นจากด้านในได้ด้านเดียว เรือนไม้นี้น่าจะคล้ายกับสำนักงาน ดูแลเรื่องการรับออเดอร์และการเงินของร้าน

เอาไงล่ะทีนี้ มัวแต่จดจ้อง ตอนมีโอกาสก็ดันไม่ขอคุยธุระด้วย จะว่าไปส่วนหนึ่งก็เพราะต้องมนต์รสชาติอาหารจนลืมเรื่องสำคัญที่ตั้งใจมาทำไปเสียสนิท ธนินยกมือเรียกเด็กสาวพนักงานเสิร์ฟที่อยู่ใกล้ตัวที่สุดฝ่ายนั้นคิดว่าเขาจะเรียกคิดเงิน

"เอ่อ...คิดเงินเลยก็ได้น้อง แต่พี่ขอคุยกับ...ผู้จัดการร้านด้วยนะ"

เด็กสาวขมวดคิ้วเหมือนจะนึก จริงสินะ ดูแลกันเองในครอบครัวแบบนี้จะให้ระบุว่าใครเป็นผู้จัดการร้านตัวจริงเสียงจริงพนักงานเองก็คงบอกไม่ถูก

"หลานสาวคุณจันทร์น่ะ"

"คือ..."

อีกฝ่ายลังเล เก้กังเหมือนเขาขอให้ทำเรื่องยุ่งยากเสียเต็มประดา อ่านจากสีหน้าลำบากใจนั้นแล้วธนินต้องต้องรีบอธิบาย

"รสชาติอาหารเยี่ยม แล้วคุณก็บริการได้ดีมาก แต่ผมอยากจะคุยกับหลานสาวคุณจันทร์เรื่องอื่น...บอกว่าผมมีธุระสำคัญจะคุยเรื่องธุรกิจด้วย"

เด็กสาวรับคำ สีหน้าดูจะคลายความยุ่งยากใจลงไปบ้างทว่ายังคงมีแววของความกังวลบางอย่างแฝงอยู่ในดวงตา ร่างปราดเปรียวคล่องแคล่วในชุดพนักงานร้านหันหลังเดินลิ่วไปทางเรือนไม้หลังเล็กที่ 'หนูจา' เดินเข้าไปก่อนหน้านั้นไม่นาน

ธนินรอเวลาเพื่อจะได้พบเป้าหมาย คิดทบทวนแผนที่จะนำมาใช้หว่านล้อมเพื่อให้ได้ใกล้ชิดกับหญิงสาวให้มากขึ้น เพื่อนำไปสู่การเจรจาธุรกิจแบบเพื่อนสนิท

คำว่า 'เพื่อนสนิท' กับชายหนุ่มอย่างธนินมักหมายถึงกลุ่มเพื่อนเพศเดียวกันในวงสังคมชั้นสูง เพราะเมื่อใดที่พัวพันกับเพศตรงข้าม เขามักจะไม่ได้จบแค่คำว่าเพื่อน มันมักจะเลยเถิดไปถึงไหนต่อไหนเสมอ รายนี้คงเป็นข้อยกเว้น ท่าทางเรียบ จืดชืดขนาดนี้ เขาคงไม่คิดเกินเลยไปถึงเรื่องนั้นแน่

ว่าแต่ 'หนูจา' หลานสาวคุณจันทร์คนนี้ทำไมเล่นองค์นักนะ นี่ให้เด็กไปตามตั้งนานแล้วยังไม่โผล่มาอีก นี่ถ้าไม่เพราะเรื่องธุรกิจ ธนินไม่มีทางมานั่งรอผู้หญิงคนนี้แน่

ดื่มน้ำเปล่าหมดไปอีกแก้วเขาก็เริ่มกระวนกระวาย มองซ้ายมองขวาหาพนักงานสาวคนที่ให้ไปตาม เธออ้อมแอ้มตอบเมื่อเขาถามหาหลานสาวคุณจันทร์อีกครั้ง

"สักครู่นะคะ คุณยายบอกให้รอก่อนค่ะ เดี๋ยวจะให้หลานสาวมาพบ"

อ้อ...ต้องผ่านยายนี่เอง มีคนมาติดต่อขอคุยธุระนี่ต้องทำเรื่องขอวีซ่ากันด้วยสินะถึงได้ใช้เวลานานขนาดนี้ หวงหลานสาวขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย

สักครู่ของเด็กสาวเสิร์ฟหมดน้ำเปล่าไปอีกสองแก้ว ลูกค้าโต๊ะอื่นทยอยกันเรียกคิดเงิน กลับออกจากร้าน ธนินยกแก้วน้ำขึ้นดื่มอีกครั้งก่อนที่จะรู้สึกถึงสัมผัสแผ่วเบาที่ไหล่ สัมผัสเบียดชิดที่ต้นแขนตามด้วยเสียงแปร่งปร่า

"รอนานไหมคะ คุณขา"

ธนินสำลักน้ำพรวดเมื่อเห็น 'หลานสาวคุณจันทร์' ที่เขาหวังจะได้พบหย่อนตัวลงนั่งที่เก้าอี้อีกฝากหนึ่งของโต๊ะ




กมลภัทร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 21 ก.ย. 2555, 00:59:31 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 21 ก.ย. 2555, 00:59:31 น.

จำนวนการเข้าชม : 8625





   ตอนที่ 2 >>
กมลภัทร 21 ก.ย. 2555, 01:01:22 น.
ม่ะ...ลองสักตั้ง กำลังพยายามสปีดตัวเองครับ ช่วงแรกนี้ขออนุญาตลงเลข 1 นะครับ เปล่าใบ้หวยเน้อ แต่จะลงทุกวันที่ 1 11 21 ครับ เกรงว่าเร็วเกินจะไม่ทัน ^^


แล่นแต๊ 21 ก.ย. 2555, 01:30:48 น.
น่าติดตามค่ะ จะคอยลุ้นว่าพระเอกจะได้คุยกับนางเอกเมื่อไหร่


กาซะลองพลัดถิ่น 21 ก.ย. 2555, 02:14:07 น.
แล้วถ้าหวยเกิดออกตามเลขนี้ทำไงดีล่ะคะ .........มาีรอติดตามตอนต่อไปคะ


lovemuay 21 ก.ย. 2555, 06:28:58 น.
ทำมาเป็นบอกว่าเชย ถึงเวลาอย่ามาหลงเสน่ห์เค้าก็แล้วกัน


sai 21 ก.ย. 2555, 07:39:37 น.
เอ๊ะๆๆๆ ยังไงๆๆๆๆ


กรยุพา 21 ก.ย. 2555, 09:50:53 น.
มาตามติดค่ะ สู้ๆ ค่ะ


panon 21 ก.ย. 2555, 12:11:39 น.
ว้าวๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆเรื่องใหม่มาแล้ว...........จะมารอคนหลงเสน่ห์ยัยป้าอิอิอิอิ


pattisa 21 ก.ย. 2555, 16:31:31 น.
คุณจาตัวปลอม หรือว่าคุณจาตัวจริงเเต่มีเเผนอะไรเนีย


bluelily 22 ก.ย. 2555, 18:37:24 น.
เค้าว่างอ่านนิยายพี่แล้วนะรีบลงให้จบก่อนที่เค้าจะไม่ว่างอีกนะ ^__^

ออกแนวกดดันพี่อ๋องเล็กน้อย


nasa 22 ก.ย. 2555, 22:08:39 น.
โดนคุณยายรู้ทันล่ะสิ ต้องจัดการให้เสียเซลฟ์


wane 23 ก.ย. 2555, 06:46:46 น.
สนุกมากค๊าาาา ปูเสื่อรอตอนต่อไปค๊าาาา


ใบบัวน่ารัก 23 ก.ย. 2555, 06:51:10 น.
หลอกเอาของคนอื่นไม่ดีนะค้า


Pat 23 ก.ย. 2555, 14:00:11 น.
มีส่งตัวปลอมมาลองเชิงด้วย เอาล่ะสิ


nunoi 23 ก.ย. 2555, 14:45:20 น.
รอๆๆๆ ตอนต่อไปจ้า


น้องอุด้ง 24 ก.ย. 2555, 10:26:25 น.
เรื่องใหม่มาแล้วววววววเย้ๆ รอตอนต่อไปคร่าาา


เพียงพลอย 24 ก.ย. 2555, 23:55:27 น.
โอ๊ะ พี่๋อ๋องเปิดเรื่องใหม่ ... มาติดตามค้าบบบบ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account