ชะตารัก พิศวาสหัวใจเถื่อน (ร้าย เถื่อน ดุ) NC+
พิมพ์นารากอดเข่าตัวสั่น เธอร้องไห้จนเเทบหมดเเรง 'ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ เธอยังจะช่วย'ผู้ชาย'คนนี้อยู่รึเปล่า' ถ้ารู้ว่าเขาจะย่ำยีหัวใจและร่างกายเธอเเบบนี้ ก็จะไม่ขอพบเจอเขาเลยดีกว่า

อัลลัยล์ ทำไมเธอจะต้องทำท่ารังเกียจเขาขนาดนั้นด้วย ทุกสิ่งที่เกิดจากเธอ ไม่ว่าจะเป็นการกระทำ เสียงพูด ล้วนเเต่ทำให้เขาสนใจในตัวเธอ คอยดูเถอะ ถ้าหากเขาทำให้เธอยอมสยบนอนครวญครางใต้ร่างได้ เธอยังจะทำท่ารังเกียจเขาอีกไหม!
Tags: ทะเลทราย ร้าย เถื่อน NC

ตอน: บทที่สิบเจ็ด ผู้ชายตาสีน้ำทะเล 100%

ต่อจากตอนที่แล้ว


“สวัสดีครับอัลลัย์เพื่อนรัก”

เสียงทุ้มที่กล่าวเนิบนาบทำให้ผู้ถูกเรียกหายง่วงเป็นปลิดทิ้ง เขากัดฟันข่มแรงโทสะที่พลุ่งพล่านในอกก่อนจะเอ่ยทักทายอีกฝ่ายด้วยน้ำเสียงราบเรียบไม่แพ้กัน

“นึกว่าตายไปแล้วซะอีก”

ชายหนุ่มดวงตาสีเขียวน้ำทะเลหัวเราะชอบใจก่อนจะชี้นิ้วโป้งไปด้านหลัง

“ผู้ติดตามของคุณนี่ทำงานดีจังเลยนะครับ”เขาเอ่ย

“เหมือนหมาเลย เฝ้าบ้านได้ทั้งวัน”

ยะตีมเดินเข้ามาพร้อมกับกระซิบบางอย่างกับพนักงานบริการ ผู้ถูกกระซิบมีสีหน้าเลิกลั่กเหงื่อแตกก่อนจะโค้งให้ทุกคนแล้วรีบเดินออกไป ตามด้วยร่างหนาของผู้ติดตามหนุ่มที่ถอยกลับไปคุมเชิงอยู่ที่เดิม

“มีอะไรก็ว่ามา”

ลอรองซ์ส่ายหน้าเบาๆพร้อมกับเปิดผ้าคลุมดูของที่อยู่บนรถเข็น

“ผมแค่อยากมาเจรจาเรื่องธุรกิจ”ชายหนุ่มยิ้มกว้างเช่นทุกครั้งพร้อมกับโบกพัดในมือเรียกลมอย่างใจเย็น

“ข้าไม่มีอะไรจะคุย”

“อันที่จริงเรื่องนี้มันสำคัญนะครับ เราเข้าไปคุยข้างในกันไม่ดีกว่าเหรอ”

พลั่ก!

มือหนาที่ทำท่าจะผลักประตูเข้าไปถูกปัดออกอย่างไม่ไยดี ชายหนุ่มถอนหายใจเบาๆก่อนจะสบดวงตาที่จ้องเขม็งจากอีกฝ่ายเช่นกัน

“ไร้มารยาท”เสียงทุ้มของผู้เป็นเจ้าของพื้นที่กล่าว

“อันนี้ผมเป็นนานๆครั้งนะครับ”ชายหนุ่มยักไหล่ไม่รู้ร้อน

อัลลัยล์กัดฟันจนหน้าปรากฏรอยนูน แม้ในใจเขาอยากจะเงื้อหมัดตะบันหน้าคู่แข่งทางธุรกิจมากขนาดไหนแต่เมื่อบวกลบผลที่ได้ออกมาแล้วมีแต่เขาที่เป็นผ่ายขาดทุน ตรงนี้คือพื้นที่สาธารณะ มีกล้องวงจรปิดติดอยู่ทุกชั้น หากลงไม้ลงมือกับอีกฝ่ายไปมีแต่จะเป็นข่าวแย่ๆที่ส่งผลกระทบต่อการค้า โดยเฉพาะกับอีกฝ่ายที่เขาอยากจะลงมือก็ไม่ใช่คนธรรมดาที่จะใช้เงินปิดข่าวทำให้เรื่องมันจบๆไป

แต่สาบานเถอะ…ถ้ามีโอกาสอยู่ในที่ลับตาเขาจะขอเรียกเลือดจากปากของชายหนุ่มตรงหน้า!

“ไม่ต้องทำหน้าแบบนั้นหรอกครับ ผมจะไม่แปลกใจเลยถ้าตื่นขึ้นมาแล้วมีรูโบ๋ที่กลางหัว”ชายหนุ่มหัวเราะร่าราวกับว่าตนพูดเรื่องขบขัน

ผู้เป็นเจ้าของห้องกอดอกพิงขอบประตูมองอีกฝ่ายอย่างเหนือกว่า

“ข้าไม่ใช่พวกลอบกัด จะทำอะไรก็เล่นซึ่งๆหน้าดีกว่า”

“น่าแปลกนะครับ สำหรับผมแล้วจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการ”เสียงทุ้มดูจริงจังขึ้นมาพร้อมกับดวงตาที่แข็งกร้าวขึ้น

“คุณเองก็เคยทำแบบนั้นไม่ใช่เหรอไง”

ชายหนุ่มแสยะยิ้มพร้อมกับใช้พัดไม้ปิดครึ่งใบหน้า เมื่อผ่านไปซักพักมือหนาจึงเริ่มโบกพัดไล่ความร้อนต่อ เขางึมงำเพลงในลำคอราวกับมาพูดคุยสังสรรค์กันด้วยเรื่องปกติ ดวงตาสีน้ำทะเลเหลือบไปมองคนของตนที่ยืนคุมเชิงอยู่ไม่ไกลออกไปนัก ทางเข้าออกลิฟและบันไดหนีไฟต่างหมีชายชุดดำยืนประจำในแต่ละจุด เขาลอบถอนหายใจเบาๆเมื่อรู้สึกถึงความตึงเครียดในสถานการณ์

แอนดริวเอ้ย! จะตามมาให้ยุ่งยากทำไม

เหมือนว่าคำก่นด่าในใจของชายหนุ่มจะไม่ได้อยู่แค่ในใจเสียแล้วเมื่อร่างหนาในชุดสูทสีดำเดินเข้ามาพร้อมกับเอกสารปึกใหญ่ในมือ เขาส่งให้ผู้เป็นเจ้านายก่อนจะถอยออกมาอยู่ข้างๆผู้ติดตามของอีกฝ่ายที่ยืนนิ่งสงบไม่บอกอารมณ์มาตั้งแต่ก่อนหน้านี้

ทั้งสองมองหน้ากันเล็กน้อยก่อนจะเริ่มกลับไปคุมเชิงให้เจ้านายของตนอีกครั้ง

หากเกิดอะไรขึ้นมาทางฝั่งเขาซึ่งมีจำนวนคนมากกว่าก็ไม่มีอะไรน่าห่วง แม้จะเคยได้ยินมาว่าผู้ติดตามฝาแฝดของชายเบื้องหน้านั้นมีฝีมือเก่งกาจขนาดไหน แต่ถ้าเทียบกับจำนวนคนที่ต่างกันขนาดนี้แล้วหากชนะได้ก็ดูจะเป็นเรื่องเกินจริงไปซักหน่อย

โดยเฉพาะกับชายหนุ่มที่ยืนหน้าบึ้งตึงอยู่ตรงนั้น บางทีเขาอาจจะไม่ได้มีผู้ติดตามอยู่คนเดียวก็ได้ถึงได้ดูไม่สนใจโลกขนาดนั้น

ถึงยังไงแล้วนอกจากเรื่องของความสำคัญในแง่ของการทำธุรกิจที่แต่ละฝ่ายจะมุ่งหวังถึงการทำธุรกิจให้ได้เม็ดเงินสูงสุด ความปลอดภัยของผู้เป็นเจ้านายเองก็ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน ดังนั้นจึงไม่ควรวางใจว่าอีกฝ่ายจะมีคนอยู่เพียงหยิบมือนี่จริงหรือ นอกจากชายหนุ่มผู้ติดตามที่อยู่ตรงนี้บางทีอีกฝ่ายอาจจะใช้กลเม็ดพรางตาซ่อนคนเอาไว้ตามจุดต่างๆอีกก็เป็นได้

“หนักเหมือนกันนะครับ”

ชายหนุ่มยกแฟ้มในมือให้ทักทายอีกฝ่ายก่อนจะพับพัดในมือใส่ในกระเป๋ากางเกงของตน

“อันที่จริงก็ไม่ได้หนักแฟ้มหรอก หนักไอ้นี่มากกว่า”รอยยิ้มแสยะปรากฏที่ริมฝีปากหนา

“!!”

“บางทีคุณอาจจะเห็นไม่ชัดก็ได้ มันพับอยู่นี่ครับ”

ลอรองซ์คลี่หนังสือพิมพ์ประจำวันออกก่อนจะยื่นไปตรงหน้าอีกฝ่าย ริมฝีปากของเขายังมีรอยยิ้มประดับอยู่เช่นทุกครั้ง

“ผมยังไม่เคยเดทกับเธอเลยนะครับ แต่คุณมาเอาเธอไปจากผมซะแล้ว น่าแสดงความยินดีด้วย”เขาถอนหายใจราวกับเสียดายเต็มประดา

ชายหนุ่มรู้สึกลมหายใจติดขัดในช่องท้อง เมื่อเห็นของในมือของชายหนุ่มนามลอรองซ์

มันเป็นหนังสือพิมพ์ที่มีพาดหัวข่าวขนาดใหญ่แสดงความยินดีเกี่ยวกับเรื่องของเขาและวิคตอเรีย ถึงจะรู้ว่าข่าวคงจะแพร่ไปเร็วแต่ก็ไม่นึกถึงว่าจะเร็วขนาดนี้ เป็นเพราะชื่อเสียงของหญิงสาวที่เขาเคยคิดว่าเธอก็แค่ ‘ดัง’ แต่อันที่จริงแล้วไม่ใช่

เธอ ‘ดังมาก’ ต่างหาก!

“ข่าวรายงายว่าพวกคุณหวานกันจริงเชียวนะครับ”เขาหนุ่มกล่าวพร้อมกับหันกลับไปยังผู้ติดตามของคู่แข่งทางการค้า

“ยะตีมเองก็น่าจะแสดงความยินดีด้วยนะครับ อันที่จริงทุกคนน่าจะแสดงความยินดี รวมไปถึง…เพื่อนสาวของคุณด้วย!”

“นาราไปไหนซะละ!”

พลั่ก!

ไม่ทันที่จะได้เอ่ยอะไรไปมากกว่านั้น มือหนาของอัลลัยล์ก็กระชากไปที่คอเสื้อของชายหนุ่มตรงหน้าทันที ดวงตาสีดำถมึงตึงกราดเกรี้ยวจ้องหน้าคนในมือก่อนจะเลยออกไปยังบุคคลที่สามที่ย้ายที่เข้ามาใกล้

วัตถุสีดำเลื่อมจ่อเข้าที่ศีรษะของเขา แม้จะรวดเร็วแต่ก็ไม่ใช่ว่าจะมองไม่ทัน แค่เพียงเขาขยับผู้ติดตามของชายหนุ่มในมือก็เข้ามาทันทีโดยไม่ต้องคิด

ไม่คิดด้วยซ้ำว่า…

“อย่าเครียดกันเลยครับ”ลอรองซ์หัวเราะร่า

“หุบปาก!”

“คุณอัลลัลย์ได้โปรดเอามือออกจากเจ้านายผมด้วยครับ”แอนดริวเอ่ยเสียงเครียด เขาขมวดคิ้วจ้องชายหนุ่มที่ขย้ำคอเสื้อของผู้เป็นเจ้านายของตนด้วยแววตาจริงจัง

“ให้มันรู้กันไปว่าใครจะลงนรกก่อนกัน”อัลลัยล์แสยะยิ้มเหนือกว่าพร้อมกับเหยียดมองอีกฝ่าย

แอนดริวสูดหายใจลึกเมื่อรู้สึกถึงความเย็นเฉียบและความชื้นจากลำคอของตน เขาหลุบตามองต่ำก่อนที่ลมหายใจที่เคยมีจะขาดห้วง

ของเหลวที่แดงเข้มไหลลงมาเปื้อนขอบเสื้อสีขาวด้านในเล็กน้อย แต่เขามั่นใจว่ามันจะเพิ่มมากขึ้นเมื่อได้ยินเสียงเอ่ยเตือนที่ข้างหู

“เอาปืนลงซะ”ยะตีมเอ่ยเสียงเรียบพร้อมกับกระชับวงแขนให้แคบลงเพิ่มแรงกดมีดเล่มสั้นไปที่ลำคอหนา

“!!”

“ยังกับอยู่ในหนังมาเฟียครองเมืองเลยครับ”

“พวกแกเอาปืนลงได้แล้ว ไม่งั้นแอนดริวหัวกระเด็นแน่ ไม่ได้ยินที่เขาขู่เหรอไง!”

ลอรองซ์หัวเราะชอบใจกับประโยคแรกของตนก่อนจะหันหน้าไปสั่งชายชุดดำนับสิบรอบตัวที่ยกปืนขึ้นเล็งมายังจุดๆเดียว

“เร็วๆสิ ผมเสียดายแอนดริวนะครับ เขาทำงานดีแถมยังรู้ใจผมเสมอด้วย”

ที่เล็งมานี่เพราะว่าเขาโดนกระชากเสื้อหรือว่าเพราะแอนดริวโดนล็อกคอ…ลอรองซ์คิดในใจก่อนจะหลุดขำออกมาเบาๆ

ชายในชุดดำทั้งหมดนิ่งชะงักไปชั่วครู่ก่อนจะลดปืนลงแล้วถอยกลับไปประจำตำแหน่งเดิมของตนโดยที่ยังคงจ้องไปยังยะตีมไม่วางตา

อัลลัยล์คลายคอเสื้อของชายหนุ่มชาวฝรั่งเศสออกจากมือของตนพร้อมกับพยักหน้าเบาๆสั่งผู้ติดตามให้ถอยไปเช่นกัน

แอนดริวลูบลำคอของตนก่อนจะย้ายร่างกลับไปยังที่เดิม เขามองชายหนุ่มผู้เป็นต้นเหตุแห่งบาดแผลด้วยแววตาไม่สู้ดีนัก

ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมชายหนุ่มเจ้าของบ่อน้ำมันนั่นจะมีผู้ติดตามแค่สองคน…

“บางทีผมอาจจะเข้าไปทักทายนาราที่รักซักหน่อยนะครับ ไม่ได้เจอเธอมาตั้งหลายสิบชั่วโมง”ลอรองซ์กล่าวเสียงใสพร้อมกับจัดคอเสื้อของตนให้เข้าที่

“ผมพูดจริงจังนะครับ ถึงหน้าตาจะดูไม่ค่อยหน้าเชื่อถือก็เถอะ”เขายิ้มตาหยี

“ต้องการอะไร”อัลลัยล์เอ่ยเสียงเข้ม

“เรื่องแบบนี้คุยกันลับๆไม่ได้เหรอครับ ผมมีข้อเสนอที่อยากบอกกับคุณแค่สองคน”ชายหนุ่มก้มลงเก็บแฟ้มที่หล่นกระจายอยู่บนพื้นโดยเลือกรูปถ่ายมาหนึ่งใบที่กระเด็นออกไปไม่ไกลนัก

“น่าสงสารนาราจังเลยนะครับ ผมอยากเลี้ยงดูเธอจังเลย”เขาเอ่ยกับรูปถ่ายของหญิงสาวในชุดเครื่องแบบแปลกตา ชุดที่เรียกกันว่า ‘ชุดนักศึกษา’

“ตอนแรกนึกว่าเธอเป็นของยะตีมซะอีก คงเอามาไม่ได้ง่ายๆ แต่พอรู้ว่าเธอเป็นของใครแล้วผมก็ตระหนักถึงอายุของตัวเองเลย บางทีผมอาจจะอายุสั้นลงก็ได้นะครับ”เสียงทุ้มหัวเราะร่า

“หุบปากซะลอรองซ์…”

“ผมชอบผู้หญิงสวยๆ ในเมื่อคุณเอาคู่เดทในอนาคตอย่างวิคตอเรียไปจากผมแล้ว ของเดิมๆที่นอนในห้องนั่นผมขอไม่ได้เหรอ ผมไม่สนหรอกจะใช้ต่อจากใคร แค่ผมอยากได้อย่างอื่นก็ไม่เห็นจำเป็นต้องเก็บมาใส่ใจ!”

“หุบปาก!”

ผู้ถูกเรียกถอยหลังไปหลายก้าวเมื่อเห็นอีกฝ่ายทีท่าทีจะระเบิดมากกว่าทุกครั้ง มือหนาของเขายกขึ้นโบกไปด้านหน้าอย่างไม่ใส่ใจก่อนจะจ้องตากับอีกฝ่าย

“แค่ผู้หญิงคนเดียว ไม่เห็นต้องโมโหเลยครับ”เขายิ้มกว้าง

“อย่ายุ่งกับนารา!”

“เธอเทียบไม่ได้ถึงเสี้ยวของวิคตอเรียด้วยซ้ำ อย่างมากก็แค่คู่นอน!”

สิ้นประโยคใบหน้าขาวก็หันไปตามแรงหมัดลุ่นๆทันที เหล่าผู้ติดตามของผู้ถูกกระทำต่างกรูเข้ามาหมายจะช่วยผู้เป็นเจ้านายแต่ก็ถูกมือขาวๆที่ซับเลือดออกจากปากยกขึ้นห้ามไว้ก่อน

แฟ้มหนาถูกเจ้าตัวเตะกระเด็นออกไปอีกทางก่อนจะเงยหน้าจ้องอีกฝ่ายอย่างไม่ยอมแพ้

“เดือดร้อนอะไรขนาดนั้นอัลลัยล์ ผู้หญิงแบบนั้นเหมาะที่จะอยู่บนเตียงมากกว่าเดินออกงาน…”

ไม่ทันได้เอ่ยจนจบประโยคหมัดหนักๆก็ประเคนเข้ามาอีกหลายทีโดนที่ผู้ถูกต่อยไม่มีโอกาสได้โต้คืนแม้แต่น้อย

ยะตีมเข้าไปดึงร่างของเจ้านายตนออกจากลอรองซ์โดนไม่ต้องคิด เขากัดฟันทนแรงสะบัดจากร่างหนาล็อกแขนแข็งแรงทั้งสองของเจ้านายไว้ไม่ให้วิ่งเข้าใส่อีกครั้ง เสียงก่นด่าคำหยาบสารพัดหลุดออกจากปากชายหนุ่มพร้อมกับคำสั่งให้ปล่อย

ชายชุดดำจำนวนมากที่เตรียมจะกรูเข้าไปหาร่างหนาของชายหนุ่มทั้งสองถูกห้ามไว้ด้วยมือของผู้เป็นเจ้านายตน ลอรองซ์ลุกขึ้นใช้มือปาดเลือดที่เปรอะเปื้อนตามริมฝีปากออกก่อนจะถุยของคาวที่อยู่ในปากทั้งหมดลงพื้น

เขาโอยครวญเล็กน้อยพร้อมกับใช้นิ้วปาดน้ำตาที่อยู่หางตาออกไป

“เจ็บชะมัด!”เสียงทุ้มสบถก่อนจะตามด้วยเสียงอูยย…

“พวกแกไม่ต้องเข้าไปหรอก ผมไปยั่วโมโหอัลลัยล์เอง แล้วก็ถือซะว่าเป็นบทเรียนที่ผมไม่ยอมออกกำลังกายตามตารางของแอนดริว”เขากล่าวพร้อมกับซับเลือดออกจากริมฝีปากไม่หยุด

“ออกไปให้ไกลจากที่นี่!”ชายหนุ่มตะเบงเสียงชี้หน้าเอาเรื่อง

“ไม่นึกว่าจะหวงขนาดนี้นะครับ”ลอรองซ์ยักไหล่ไม่สนใจ

“ดูท่าเธอคงจะมีอะไรที่ทำให้คุณติดใจนะครับ อะไรที่น่าติดใจผมก็อยากลองบ้าง”

“นาราเป็นเมียข้า! เป็นของข้าคนเดียว! ถ้าฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องคราวนี้จากหมัดกระแทกปากคงจะเปลี่ยนเป็นลูกตะกั่วฝังในปากแทน!”

“งั้นผมคงต้องรับผิดชอบเมียเกือบๆครึ่งร้อยละมั้งครับถ้านับผู้หญิงบนเตียงเป็นเมียน่ะ!”

“ถ้าคู่นอนกับคู่หมั้นคุณมาเจอกัน ระวังความอิจฉาของผู้หญิงไม่มีหัวนอนปลายเท้าจะทำให้วิคตอเรียโมโหจนถอนหมั้นไปนะครับ!”

เสียงฮืออาดังขึ้นอีกครั้งเมื่อร่างหนาจะวิ่งเข้าหาเป็นรอบที่สอง ยะตีมใช้แรงล็อกแขนทั้งสองของผู้เป็นเจ้านายไว้พร้อมกับส่งสายตาไปยังชายชุดดำฝั่งตรงข้ามที่เตรียมพร้อมจะเข้ามาเช่นกัน

เพล้ง!

เสียงกระเบื้องกระแทกพื้นราวกับสันญาณระฆังสั่งให้ทุกสรรพสิ่งในพื้นที่เงียบกริบ

“ไม่…”

เสียงหวานที่กระซิบเบาหวิวของผู้มาใหม่เรียกให้ทุกสายตาหันไปมองที่เธอ ร่างบางสมส่วนในชุดพื้นเมืองยืนตัวสั่นเทาโดยที่ข้างตัวมีรถเข็นล้มระเนระนาดเต็มพื้น ประตูห้องถูกเปิดทิ้งไว้บ่งบอกที่มาของเธอ แม้จะปิดครึ่งใบหน้าแต่ก็เห็นถึงดวงตาทั้งคู่ที่เบิกโพล่งราวกับตกใจอะไรบางอย่าง เมื่อกวาดตาลงต่ำไปอีกก็ได้พบกับคำตอบ

หนังสือพิมพ์ยับยู่ยี่อยู่ในมือของหญิงสาว มือทั้งสองของเธอกำมันแน่นจนสั่นไปทั้งตัว

เมื่อรับรู้สึกสายตาที่จ้องมองทำให้เธอละสายตาออกจากสิ่งของในมือเพื่อเงยหน้าขึ้นกวาดมองรอบตัว จนสุดท้ายก็หยุดที่ชายหนุ่มในชุดพื้นเมืองที่โดนผู้ติดตามของตนตรึงแขนทั้งสองข้างไว้

“อัลลัยล์…”


----------------------------------------------------

สวัสดีรีดเดอร์ทุกท่านค่ะ (*o*)\\

กี้กลับมาเเล้ววว (>\\\\\\\<)\\

รีดเดอร์ยังจำกันได้มั้ยเอ่ยย ??


คืนนี้ฝันหวานนะคะ

ห่มผ้ากันด้วยน้าา

ปล.รีดเดอร์ทักทายกี้หน่อยนะคะว่ามีใครยังจำกี้ได้บ้าง ซิก ซิก(TTwTT)\\



เสี้ยวเดือนเเรม
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 6 ต.ค. 2555, 22:54:12 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 6 ต.ค. 2555, 22:54:12 น.

จำนวนการเข้าชม : 9899





<< บทที่สิบเจ็ด ผู้ชายตาสีน้ำทะเล 50%   
mhengjhy 7 ต.ค. 2555, 10:08:39 น.
555 รออยู่ตลอดค่าา

หว๋ายยยย รู้ความจริงแล้ววว


wii 7 ต.ค. 2555, 20:38:51 น.
ซวยเเล้วอัลลัย เปลี่ยนชื่อเป็นบันลัยตอนนี้ก็ยังทันนะ เฮ้อเเล้วจะจักการกับเเม่คู่หมั้นจอมวีจอมเหวี่ยงยังไงเนี่ย


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account