ห้วงวิวาห์รักร้อย
เมื่อ มุกอันดา นางเอกสาวยอดนิยม มาตกหลุมรัก ตรัยคุณ หนุ่มใหญ่ที่มีศักดิ์เป็นอาของเพื่อน แถมยังมีคนวางแผนจ้องดิสเครดิต จนทำให้เธอและเขาได้แต่งงานกัน ความรักต่างวัยจึงเริ่มต้นขึ้น

http://www.facebook.com/pariyathorn?ref=hl
Tags: วิวาห์รักแสนหวาน ระหว่างหนุ่มใหญ่กับสาวน้อย

ตอน: ตอนที่ 1 ดาราสาวกับหนุ่มใหญ่

ตอนที่ 1

เสียงปรบมือและแสงแฟลชจากกล้องหลายสิบตัวจากนักข่าวทุกสำนัก ระดมใส่หญิงสาวร่างสูงระหงในชุดราตรีสีชมพูราวกับเจ้าหญิง ที่ก้าวลงมาจากเวทีในฐานะดาวรุ่งหญิงคนใหม่ของวงการ ด้วยเสียงโหวตจากแฟนละครที่ส่งคะแนนให้จนชนะคู่แข่งคนอื่นไปแบบขาดลอย

“มุกต้องขอบคุณแฟนๆ ทุกคนผ่านพี่ๆ สื่อมวลชนด้วยนะคะ ที่ส่งคะแนนให้จนมุกได้รับรางวัลในครั้งนี้” มุกอันดาบอกด้วยรอยยิ้มผ่านสื่อมวลชนทุกแขนง ที่ตรงเข้ามาสัมภาษณ์เธอหลังจากงานประกาศผลประจำปี ของนิตยสารบันเทิงชื่อดังฉบับหนึ่งจบลง

“แล้วข่าวรักนอกจอที่ออกมา ตกลงว่าเป็นเรื่องจริงหรือแค่รักโปรโมตละครคะ?” คำถามแรกนั้นหมายถึงกรวีร์พระเอกหนุ่มชื่อดัง ที่กำลังเป็นคู่ขวัญกับนางเอกสาว หลังจากละครเรื่องแรกที่แสดงด้วยกันดังเป็นพลุแตก จนมีหลายคนจับตามองให้คู่นี้รักกันจริงๆ

“ไม่มีอะไรจริงๆ ค่ะ มุกกับพี่วีร์สนิทกันแบบพี่น้อง” ดาราสาวตอบคำถามที่กำลังเป็นที่จับตามองในช่วงนี้อย่างคล่องแคล่ว เพราะโดนถามแบบเดียวกันนี้มาแล้วร่วมเดือน

“แต่ได้ยินมาว่ามุกกับวีร์สนิทกันมากเลย อันนี้จริงหรือเปล่าคะ?”

“คงจะอินมาจากในละครน่ะค่ะ อีกอย่างละครเรื่องนี้ก็เป็นแรกของมุก ก็ได้พี่วีร์กับพี่ๆ ทุกคนในกองช่วยกันสอนมุก ทำให้งานออกมาดีแบบนี้ แต่พี่วีร์เป็นพระเอกคู่กับมุกคนก็เลยจับตามองมากกว่าคนอื่น แต่จริงๆ แล้วมุกสนิทกับทุกคนในกองเท่ากันหมดค่ะ”

“แล้วช่วงนี้เห็นมีหนุ่มๆ มาขายขนมจีบให้ตั้งหลายคน มีคนไหนเข้าตาบ้างหรือยังคะ?”

“ยังไม่มีค่ะ ตอนนี้มุกเรียนจบแล้วก็ขอทำงานให้เต็มที่ก่อนค่ะ”

“งั้นบอกสเปคหนุ่มในฝันหน่อยสิครับ”

หญิงสาวหัวเราะก่อนจะตอบอย่างเขินๆ ว่า “ก็ชอบคนที่เป็นผู้ใหญ่น่ะค่ะ” และใครคนนั้นของเธอก็มีอยู่คนเดียว หนุ่มใหญ่อาของเพื่อนสนิท ที่เธอหลงรักมานานหลายปีโดยที่เขาไม่รู้ตัว

“เอ๊ะ นั่นน้องตานี่คะ” นักข่าวคนหนึ่งเอ่ยขึ้น เมื่อหันไปเห็นดาราสาวคนหนึ่งในชุดราตรีสีแดงเฉิดฉายยืนอยู่ไม่ไกล “จริงหรือเปล่าคะที่มีข่าวว่ามุกกับตาเกาเหลาเพราะแย่งบทนางเอกกัน”

“ไม่จริงหรอกค่ะ พี่ตากับมุกสนิทกันตั้งแต่เล่นละครด้วยกันแล้วค่ะ”

“งั้นขอสัมภาษณ์คู่นะคะ” นักข่าวคนเดิมรีบบอกพลางดึงสมิตามาสัมภาษณ์ด้วย สองสาวยืนกอดเอวโพสท่าให้ถ่ายรูปอย่างสนิทสนม โดยต่างฝ่ายต่างพยายามยิ้มอย่างชื่นบานไม่ให้ใครอื่นจับได้ว่า ในความรักใคร่แบบพี่น้องร่วมวงการที่แสดงออกมานั้น แท้จริงแล้วเป็นเพียงการเสแสร้ง



ตะวันจวนจะลับขอบฟ้าแล้ว เมื่อชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นจากงานที่ทำอยู่ เขามองนาฬิกาแล้วหยิบการ์ดในลิ้นชักขึ้นมาดูอย่างลังเลใจ การ์ดแต่งงานของผู้หญิงที่เขารัก ก่อนจะเก็บมันใส่ลงซอง ด้วยหัวใจที่เขารู้ดีว่ามันยังกลัดหนอง แม้ว่าเหตุการณ์ที่สร้างรอยแผลครั้งนั้นจะผ่านมานานร่วมเดือนแล้วก็ตาม

‘ถ้าคุณอรเคยเห็นอะไรแล้วคิดถึงเขา ต่อนี้ไปก็คิดถึงผมแทน อย่างเวลานี้เรากำลังนั่งอยู่ที่ชิงช้าในสวนสาธารณะด้วยกัน ต่อไปถ้าคุณอรเห็นชิงช้า ต้นไม้ ท้องฟ้า ปุยเมฆ หรือแม้แต่ลมที่พัดผ่านมาก็ให้คิดถึงผม คิดถึงช่วงเวลาที่เราได้อยู่ด้วยกัน และแน่นอนครับผมก็เองจะทำแบบเดียวกันนี้ด้วย’

เขาเคยบอกประโยคนี้กับเธอตอนที่รู้ว่าเธอแอบรักใครคนหนึ่งอยู่ และหวังว่าเธอจะหันกลับมามองเขาบ้าง แต่สุดท้ายเขากลับต้องเป็นคนพาเธอไปปรับความเข้าใจกับคนรักของเธอด้วยตัวเอง ต้องคืนเธอให้กับคนรักของเธอไป และตอนนี้ไม่ว่าจะเห็นชิงช้า ต้นไม้ ท้องฟ้า หรือแม้แต่ปุยเมฆ ใจของเธอก็คงไม่เหลือที่ว่างไว้คิดถึงเขาอีกแล้ว

ตรัยคุณเดินไปที่หน้าต่างมองออกไปยังท้องฟ้าเบื้องนอก ก่อนจะถอนใจยาว เพราะทุกครั้งที่เห็นทุกอย่างรอบกาย เขาก็ยังคิดถึงเธอ



ก้องภพมองตามเมื่อเห็นเจ้าสาวของตนทำท่าคล้ายกับมองหาใครสักคนอยู่ “เพื่อนยังมาไม่ครบเหรอ?”

“เปล่า รอคุณตรัยน่ะ ฝากการ์ดไปกับน้ำหวานแล้ว ไม่รู้ว่าจะมารึเปล่า?” ตั้งแต่วันที่เธอปรับความเข้าใจกับก้องภพแล้ว เธอก็ไม่ได้พบตรัยคุณอีกเลย เขาไม่ได้มาส่งหลานสาวที่โรงเรียนอีก จนเธอนึกหวั่นว่าเขาจะโกรธจนไม่ยอมเป็นเพื่อนกับเธออีกแล้ว

คำตอบและท่าทางกังวลใจของคนรักทำให้ก้องภพควันออกหูทันที เขาหันไปฝากทางนี้กับบิดาที่มายืนช่วยรับแขกอยู่หน้างาน ก่อนจะกึ่งจูงกึ่งรั้งหญิงสาวเข้าไปในห้องด้านหลังซึ่งปลอดคน

“มีอะไรเหรอ อยู่ดีๆ พาเข้ามาในนี้ทำไม?” อรกานต์ถามเจ้าบ่าวของเธออย่างงงๆ

“มองตาฉัน” ก้องภพสั่งพลางจับตัวหญิงสาวให้หันมาเผชิญหน้าแล้วจ้องตาเธอไม่กะพริบ

“ฝุ่นเข้าตาเหรอ?”

“ฉันกำลังสะกดจิตเธอต่างหาก ไม่ให้ไปคิดถึงใครที่ไหนทั้งนั้นนอกจากฉันคนเดียว”

เสียงนั้นจริงจังจนอรกานต์นิ่งงันไป ก่อนจะหัวเราะออกมาเต็มเสียงอย่างกลั้นไม่อยู่ “บ้าเหรอ เล่นอะไรเป็นเด็กๆ ไปได้”

“ไม่รู้ล่ะ ก็เธอเล่นเอาแต่คิดถึงคนอื่นนี่ ใครจะไปทนได้ล่ะ” เขาทำหน้างอให้รู้ว่าน้อยใจแล้วนะ

อรกานต์อยากหัวเราะต่อแต่ก็กลัวเจ้าบ่าวของเธอจะงอนหนักกว่าเดิม ก็เขาน่ะขี้หึงอันดับหนึ่ง เห็นหนุ่มที่ไหนมาคุยกับเธอเป็นไม่ได้ ต้องรีบเข้ามายืนเป็นก้างโอบไหล่เธอบอกความเป็นเจ้าของทันที

“ก็คิดถึงแบบเพื่อน ไม่ได้คิดเป็นอื่นสักหน่อย” เธออธิบายหากเขายังไม่วายทำหน้าบึ้ง สองแขนจึงยกขึ้นกอดชายหนุ่มซุกตัวเข้ากับอกเขาอย่างประจบ “เอาล่ะๆ ไม่คิดถึงก็ได้พอใจรึยัง?”

“ยัง ต้องบอกก่อนว่าจะรักฉันคนเดียว แล้วก็ห้ามเห็นคุณไตดีกว่าฉันด้วย”

“ก็เคยบอกไปแล้วตั้งหลายครั้ง”

“บอกแล้วก็บอกอีกได้นี่ ก้องจ๋าฉันรักเธอที่สุด รักเธอคนเดียวไหนพูดซิ”

“ไม่เอาล่ะแค่ฟังยังเลี่ยนเลย” ใครจะไปพูดได้เธอก็เขินเป็นนะ

“ถ้าไม่พูดเข้าหอกันในนี้แหละ” เขาขู่พลางทำท่าเหมือนหมาป่าจะเขมือบลูกแกะ

“บ้าเหรอ ฉันพูดก็ได้” อรกานต์หลบตาคนที่จ้องเป๋งมาอย่างรอฟังเต็มที่ แล้วกระแอมในลำคอก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า “ฉันรักเธอ รักเธอคนเดียว พอใจรึยัง?”

“ยัง ต้องทำสัญญากันก่อน”

อรกานต์เบิกตากว้างเมื่อโดนแนบริมฝีปาก ก่อนจะหลับตาลงปล่อยให้ลิ้นของคนเอาแต่ใจทำสัญญาเสียให้พอ ตั้งแต่เปลี่ยนสถานะจากเพื่อนมาเป็นคนรัก เขาก็ขยันแสดงออกถึงความรักอย่างเปิดเผย ทว่าเขาก็ยังรักษาสัญญาที่จะไม่มีอะไรเกินเลยจนกว่าจะถึงวันแต่งงาน หญิงสาวลืมตาขึ้นอีกครั้งเมื่อริมฝีปากของเธอเป็นอิสระ แก้มสองข้างแดงปลั่งเมื่อเห็นดวงตาหวานเชื่อมที่มองมา ก่อนจะหัวเราะเมื่อเห็นสีแดงเลอะที่ปากของเขา

“ปากเลอะหมดแล้วเห็นไหม?” เธอว่าพลางใช้ปลายนิ้วแตะที่ริมฝีปากของเขาเบาๆ

“อย่างนี้ก็ต้องทาใหม่แล้วสิ” ก้องภพว่าก่อนจะหยิบลิปสติกแท่งหนึ่งออกมาจากกระเป๋ากางเกง “ฉันเอาติดมาให้น่ะแป้งก็มีนะ เห็นพวกผู้หญิงเขาต้องคอยเติมเครื่องสำอางกันอยู่เรื่อย มาเดี๋ยวฉันทาให้นะ”

“รู้ดีจริง เคยไปแต่งให้ใครต่อใครมาทั่วเลยสิ”

“เธอเป็นคนแรกและจะเป็นคนสุดท้าย เอ้า อยู่เฉยๆ นะแป๊บเดียวก็สวยแล้ว”

ถึงจะไม่เชื่อใจช่างแต่งหน้ามือสมัครเล่นนัก หากอรกานต์ก็ยอมให้เขาแต้มสีลิปสติกให้แต่โดยดี

“เอาล่ะตบแป้งอีกหน่อยก็เรียบร้อย”

“แต่งให้ฉันแล้วอย่าลืมเช็ดปากตัวเองด้วยล่ะ” อรกานต์ว่าพลางจะคว้าตลับแป้งมาเปิดดูกระจกเสียหน่อย แต่ชายหนุ่มกลับยื่นผ้าเช็ดหน้าส่งให้เธอ พร้อมกับยื่นหน้าเข้ามาจนใกล้

“ขี้อ้อนเป็นลูกหมาเลยนะเธอนี่” ถึงปากจะบ่นหากก็ยอมทำให้เขาแต่โดยดี

“ไม่อ้อนเมียแล้วจะให้ไปอ้อนใคร” ก้องภพว่าพลางคว้าเอวบางรั้งตัวเจ้าสาวเข้ามาใกล้ ทว่ายังไม่ทันได้ปิดท้ายที่แก้มนวลอย่างที่ต้องการ เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น จนชายหนุ่มทำหน้าเมื่อย ดวงตาคมมองเจ้าสาวที่หัวเราะคิกอย่างฝากเอาไว้ก่อน แล้วจึงยอมให้เธอฉุดมือเขาออกไปข้างนอกด้วยกันแต่โดยดี



ตรัยคุณหยุดที่หน้าลิฟต์ครู่หนึ่ง ก่อนจะเดินตรงไปยังห้องจัดงานวิวาห์ เขาหยุดเซ็นชื่อที่โต๊ะซึ่งประดับด้วยโค้งดอกไม้หลากสี แล้วรับของชำร่วยเป็นกล่องดนตรีรูปเปียโนสีขาว เพราะเจ้าบ่าวเป็นเจ้าของโรงเรียนสอนดนตรี ส่วนเจ้าสาวเป็นครูสอนเปียโนให้กับหลานสาวของเขา และเขาก็เพิ่งอกหักจากเจ้าสาวมาหมาดๆ ก่อนที่ทั้งเธอและเจ้าบ่าวจะกลายเป็นเพื่อนของเขา

“ยินดีด้วยนะครับ” ตรัยคุณบอกคู่บ่าวสาวด้วยรอยยิ้ม ทั้งที่เจ็บแปลบอยู่ในอก

“ขอบคุณมากนะครับคุณตรัย ที่อุตส่าห์มาร่วมงาน” ก้องภพบอกด้วยใจจริง แม้ว่าอีกฝ่ายจะเคยเป็นคู่แข่งที่มาตามจีบเจ้าสาวของเขาก็ตาม หากเขาก็นับถือในความมีน้ำใจของตรัยคุณ

“ต้องมาสิครับ เพื่อนแต่งงานทั้งทีผมจะไม่มาได้ยังไง ยินดีด้วยนะครับคุณอร” ตรัยคุณบอกเจ้าบ่าว ก่อนจะหันไปยิ้มให้เจ้าสาว วันนี้เธอสวยจริงๆ เขาได้รู้จักอรกานต์ครั้งแรกที่โรงเรียน ตอนที่เธอช่วยหลานสาวของเขาให้รอดพ้นจากการถูกรถชน อรกานต์เป็นผู้หญิงคนแรกที่ทำให้เขายอมกลับเข้าออฟฟิศสาย เพราะต้องการอยู่คุยกับเธอ เป็นรักแรกที่เขาทุ่มเทให้จนหมดหัวใจแม้จะรู้ว่าเธอรักก้องภพอยู่ก็ตาม ก่อนจะต้องเป็นฝ่ายยินดีกับเธอ เมื่อเธอกับคนที่รักเข้าใจกันได้

“ขอบคุณมากค่ะ” อรกานต์ตอบก่อนจะพาชายหนุ่มไปนั่งที่โต๊ะ แล้วจึงขอตัวไปต้อนรับแขกผู้ใหญ่พร้อมกับเจ้าบ่าวของเธอ

ตรัยคุณมองตามหญิงสาวไป แม้บรรยากาศรอบตัวจะอบอวลไปด้วยความสุขสดชื่น แต่เขากลับเหงาลึกอยู่ในใจ ชายหนุ่มปรบมือเมื่อบ่าวสาวร่วมกันตัดเค้กแต่งงาน แม้แผลหัวใจที่ซ่อนไว้จะยังไม่หายดี หากเขาก็ยินดีที่เห็นเธอมีความสุข แม้จะเป็นได้แค่เพียงในฐานะเพื่อนก็ตาม



เพ็ญนภามองรถของลูกชายที่แล่นออกไปอย่างไม่สบายใจนัก ก่อนจะหันกลับมาเอ่ยกับลูกสะใภ้ที่นั่งเล่นกับหลานสาวอยู่

“ปกติก็ทำงานหนักเลิกดึกดื่นทุกวันอยู่แล้ว นี่วันอาทิตย์แท้ๆ ตรัยยังไปทำงานอีก ไม่รู้จะโหมงานไปถึงไหน นี่แสดงว่ายังทำใจเรื่องครูของน้ำหวานไม่ได้แน่เลย” เธอถอนใจอย่างนึกห่วงลูกชายคนรอง ที่ทำงานหนักช่วยพ่อดูแลบริษัทมาตั้งแต่เรียนจบ เมื่อพ่อเสียชีวิตก็เป็นคนสานงานต่ออย่างเต็มตัว จนตอนนี้อายุปาเข้าไปสามสิบห้าแล้ว ก็ยังไม่ได้แต่งงานแต่งการมีครอบครัวเสียที

“คงไม่มั้งคะคุณแม่ ขนาดเมื่อคืนตรัยยังไปงานแต่งงานครูอรอยู่เลย ลินว่าคงทำใจได้แล้วล่ะค่ะ ไม่อย่างนั้นคงไม่ไปหรอก”

“แม่ว่าที่ไปเพราะเลี่ยงไม่ได้มากกว่า ก็เขาอุตส่าห์เชิญถ้าไม่ไปเดี๋ยวจะเข้าใจว่าทางเรายังโกรธอยู่” เธอยังจำได้ว่าช่วงก่อนหน้านี้ ตรัยคุณเต็มไปด้วยความสุข แม้จะต้องตื่นแต่เช้าขับรถไปหาฝ่ายหญิงถึงบ้านที่ต่างจังหวัด เพื่อจะได้ใส่บาตรและทานมื้อเช้าพร้อมกัน หรือถ้าเช้าไม่ว่างให้เลิกงานแล้วเหนื่อยแค่ไหนก็ยังขับรถไปหา แต่สุดท้ายกลับต้องมาผิดหวัง ได้เป็นแค่เพื่อนของคนที่ตัวเองแอบรัก

“แม่ล่ะกลุ้มใจ เอาดวงตรัยไปให้คุณปราบดู เขาว่าถ้าปีนี้ไม่ได้แต่งดวงตรัยก็ไม่มีคู่แล้ว” เธอหมายถึงเพื่อนรุ่นพี่ที่ดูดวงได้แม่นยำนัก และจะดูให้เฉพาะคนที่สนิทกันเท่านั้น เพราะไม่ได้ทำเป็นอาชีพ

“งั้นเราช่วยกันหาคู่ให้ตรัยสักคนดีไหมคะคุณแม่?” เกวลินเสนอ

“เออนั่นสิ ทำไมแม่คิดไม่ถึงนะ แต่จะทำยังไงล่ะ ไปตามบริษัทหาคู่เหรอ แม่ว่าตรัยคงไม่เอาด้วยหรอก ว่าแต่ลินรู้ไหมว่าตรัยชอบผู้หญิงแบบไหน”

“ก่อนจะมาเจอครูของน้ำหวานก็ไม่เห็นตรัยเคยชอบใครนะคะ ลินเคยเห็นครูของน้ำหวาน ท่าทางจะเด็กกว่าตรัยหลายปีอยู่เหมือนกัน แต่ดูเป็นผู้หญิงเรียบร้อยดี พี่ตรัยน่าจะชอบแบบนี้นะคะ”

“เหรอ แม่ก็ไม่เคยเห็นซะด้วย หรือจะแวะไปดูตัวสักหน่อยดี น้ำหวานมีเรียนเปียโนอีกวันไหนลูก” เพ็ญนภาหันไปถามหลานสาวที่นั่งเล่นเกมอยู่อย่างไม่สนใจใคร

“วันเสาร์หน้าค่ะ คุณพ่อจะไปส่ง” เด็กหญิงตอบโดยไม่ละสายตาจากหน้าจอแท็บเล็ต

“แล้วน้ำหวานรู้ไหมลูกว่าอาตรัยชอบผู้หญิงแบบไหน?” ย่าตะล่อมถามหลานสาว เพราะคราวก่อนที่รู้ว่าตรัยคุณไปชอบอรกานต์ ก็เพราะน้ำหวานนี่เองที่เอามาประกาศไปทั่วบ้าน

“อาตรัยชอบเด็กค่ะ” เด็กหญิงตอบรัวเร็วอย่างมั่นใจ เพราะครูอรของเธอก็เป็นคนรักเด็ก หากยังไม่ทันได้ขยายความเกมที่เล่นอยู่ก็ดับวูบ จนต้องวิ่งรี่ไปให้พ่อชาร์จแบตเตอรี่ให้เล่นต่อ ทิ้งให้แม่และย่ามองหน้ากันกับคำตอบครึ่งๆ กลางๆ ที่ทิ้งไว้

“ได้ยินหรือเปล่าลิน ครูคนนั้นก็ยังเด็กอยู่ใช่ไหม?” เพ็ญนภารีบเขยิบเข้าไปถามลูกสะใภ้จนใกล้

“แหม ก็ธรรมดาไม่ใช่เหรอคะ ผู้ชายก็ต้องชอบเด็กสาวๆ สวยๆ ทั้งนั้นแหละค่ะคุณแม่”

“แปลว่าแม่ต้องไปหาเด็กสาวๆ มาให้ลูกชายดูตัวสิใช่ไหม แล้วจะไปหาที่ไหน?” เพ็ญนภาว่าพลางทำท่าคิดหนัก เรื่องสะใภ้นั้นเธอไม่เคยมีปัญหา ขอให้เป็นคนดีจะเด็กกว่าหรือแก่กว่าก็ได้ทั้งนั้น ก่อนจะหันไปมองหน้าบ้านเมื่อได้ยินเสียงรถแล่นเข้ามา

“สวัสดีค่ะคุณย่า สวัสดีค่ะอาลิน” ผู้ที่ก้าวเข้ามาใหม่เป็นหญิงสาวรูปร่างผอมสูง สวมแว่นตากรอบสีม่วงสดใส ผมสีน้ำตาลหยักเป็นลอนถูกเกล้าขึ้นอย่างง่ายๆ ชุดเสื้อยืดกางเกงยีนส์ดูเข้ากับนิสัยง่ายๆ ของเจ้าตัว

“อ้าวขิม นั่งสิลูก นึกยังไงวันนี้ถึงมาหาย่าได้” เพ็ญนภาทักหลานสาวซึ่งเป็นหลานทางพี่ชายของเธอ

“ขิมไปทำธุระที่อยุธยามาค่ะ เลยซื้อโรตีสายไหมมาฝาก” สร้อยขิมบอกพลางส่งถุงขนมให้

“ขอบใจจ้ะ เออ แล้วตอนนี้ขิมทำงานอะไรอยู่นะอาจำไม่ได้แล้ว”

“ขิมเป็นผู้จัดการส่วนตัวให้เพื่อนค่ะ กะว่าจะรอเก็บประสบการณ์บวกเก็บเงินให้ได้ก่อน แล้วค่อยเปิดบริษัทออแกไนซ์ของตัวเอง แล้ววันนี้อาตรัยไม่อยู่เหรอคะ ขิมว่าจะมาขอบคุณเรื่องรีสอร์ตหน่อย” ก่อนหน้านี้เธอเคยมาคุยเรื่องขอใช้รีสอร์ตเป็นสถานที่ถ่ายทำละคร และอาของเธอก็เป็นเจ้าของรีสอร์ตแห่งนี้

“อาเขาเพิ่งจะออกไปทำงานก่อนขิมเข้ามานี่เอง ที่รีสอร์ตมีคนมาขอถ่ายละครบ่อยๆ อยู่แล้วไม่มีปัญหาหรอก แล้วเพื่อนขิมคนที่ว่านี่หนูมุกใช่ไหม เดี๋ยวนี้สวยขึ้นตั้งเยอะ ย่าเปิดทีวีเห็นในโฆษณาตั้งไม่รู้กี่ตัว” เพ็ญนภาถามถึงอย่างเอ็นดูเพราะเคยเจอเด็กสาวคนที่ว่ามาแล้ว ทั้งยังนึกถูกชะตาตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นหน้า

“ใช่ค่ะ อ้อ ขิมเพิ่งซื้อนิตยสารที่ยัยมุกไปขึ้นปกมาพอดี เล่มนี้เป็นแบบชุดเจ้าสาวค่ะ” ว่าพลางหยิบนิตยสารจากกระเป๋าสะพายใบใหญ่ให้ย่าดู

เพ็ญนภารับมาเปิดดูอย่างสนใจ เด็กสาวที่เป็นนางแบบนั้นดูน่ารักสดใส ดวงตาเป็นประกายเข้ากับรอยยิ้มที่เปิดเผย นึกถึงตอนที่ได้คุยกันก็รู้ว่าเป็นเด็กช่างเอาใจ คุณย่าอย่างนั้นคุณย่าอย่างนี้ยิ่งมองเธอก็ยิ่งนึกรัก

“คุณย่าหนูมุกเพิ่งเสียไปเมื่อปีที่แล้วใช่ไหมลูก ย่าจำได้ว่าตอนไปงานศพแม่เราเขายังมาขอกิ่งทับทิมที่นี่ ได้ยินว่าแม่เลี้ยงไปคุยเรื่องแบ่งสมบัติถึงในงานศพเลยใช่ไหม”

“ใช่ค่ะ ตอนนี้ก็ยังไม่เรียบร้อย เพราะพินัยกรรมจะเปิดได้หลังจากคุณย่าของมุกตายครบหนึ่งปี นี่ก็เหลืออีกแค่ไม่กี่เดือนแล้วค่ะ”

“เห็นเขาว่าสมบัติเป็นพันล้านเลยเหรอ ถึงได้แย่งกันนัก”

“เท่าที่ขิมรู้มาไม่ถึงนะคะอาลิน ข่าวที่ออกมามันเวอร์เกินความจริงน่ะค่ะ เห็นว่ามีแค่บ้านเดี่ยวที่ยัยมุกเคยอยู่กับคุณย่า แล้วก็ที่ดินต่างจังหวัดที่ตอนนี้ให้ชาวบ้านแถวนั้นเช่าทำสวนอยู่ ที่เหลือก็ตึกแถวกับเงินสดในธนาคาร แต่รวมแล้วยังไงก็ไม่ถึงพันล้านแน่นอนค่ะ”

“แต่เรื่องเงินเรื่องทองมันก็พูดยากนะ จะมากจะน้อยทางแม่เลี้ยงเขาก็คงอยากได้ไว้ก่อนนั่นแหละ ทางเขาก็มีลูกสาวไม่ใช่เหรอ?” เกวลินถามต่อ

“มีคนหนึ่งค่ะชื่อพลอยรัตนา แต่ที่คุณม่านไหมแม่เลี้ยงยัยมุกอยากได้เงินเร็วๆ เพราะอยากเอาไปใช้หนี้มากกว่าค่ะ ได้ข่าวว่าบ้านที่อยู่ตอนนี้ก็ติดจำนอง เงินที่พ่อยัยมุกเคยทิ้งไว้ให้คงหมดไปแล้วในวงไพ่นั่นแหละค่ะ ยังสงสัยว่าลูกสาวที่อยู่เมืองนอกจะรู้เรื่องบ้างหรือเปล่า”

“แล้วตอนนี้มุกเป็นยังไงบ้างล่ะ เหลือตัวคนเดียวแล้วลำบากมากไหม?”

“ก็ไม่ลำบากอะไรหรอกค่ะอาลิน เพราะยัยมุกเข้าวงการก่อนจะคุณย่าจะเสีย เลยทำงานมีเงินเก็บไว้ใช้ส่วนตัวอยู่บ้างเหมือนกัน ตอนนี้ก็มาอยู่ที่คอนโดขิมด้วยกันเวลาไปทำงานจะได้สะดวก ส่วนบ้านที่เคยอยู่ก็ให้ป้าสายคนรับใช้เก่าดูแลไปค่ะ แต่ถ้าเรื่องพินัยกรรมเรียบร้อยอาจจะปล่อยให้คนเช่าอีกที เพราะป้าสายแกก็อยากกลับไปอยู่บ้านที่ต่างจังหวัด”

“แล้วหนูมุกนี่มีแฟนหรือยัง?”

“ยังไม่มีหรอกค่ะคุณย่า สเปคยัยมุกมันชอบคนแก่ แต่พอมีอาเสี่ยมาชอบมันก็ไม่เอาอีก แถมตอนนี้กำลังดังเพิ่งจะได้รางวัลมาด้วย งานเพียบ จะเอาเวลาที่ไหนไปคบใครได้ล่ะคะ เวลาแค่จะนอนยังไม่ค่อยมีเลย” สร้อยขิมหัวเราะร่วน อยากจะบอกนักเชียวว่าคนแก่ที่เพื่อนเธอหลงรัก ก็ลูกชายของคุณย่านี่แหละ และเธอก็เป็นคนเดียวที่รู้ความลับข้อนี้

“อืมม์ น่าสนใจนะลิน อย่างนี้เขาคงไม่รังเกียจคนของเราที่แก่กว่า แม่น่ะชอบหนูมุกนะ” เพ็ญนภาบอกกับลูกสะใภ้ ก่อนจะหันกลับมามองเด็กสาวในนิตยสารต่อ

“นั่นสิคะ สวยน่ารักแบบนี้ตรัยน่าจะชอบนะคะ” เกวลินเองก็พลอยเห็นด้วย

“เรื่องอะไรกันเหรอคะ แล้วอาตรัยมาเกี่ยวอะไรด้วย” สร้อยขิมมองคุณย่าและคุณอาสลับกันอย่างงงๆ

เพ็ญนภาสบตากับลูกสะใภ้ยิ้มๆ ก่อนจะจับมือหลานสาวแล้วบอกอย่างจริงจังว่า “ขิมช่วยย่าหน่อยได้ไหม ย่าอยากให้เพื่อนขิมมาดูตัวกับอาตรัย”

จบตอนที่ 1



ปริยาธร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 18 ต.ค. 2555, 19:45:00 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 21 ธ.ค. 2563, 16:09:27 น.

จำนวนการเข้าชม : 5289





   ตอนที่ 2 อุบัติเหตุเมื่อแรกพบ >>
เดิมเดิม 18 ต.ค. 2555, 20:23:48 น.
แล้วคุณตรัยเป็นลูกชายคนที่เท่าไรคะ


ปริยาธร 18 ต.ค. 2555, 20:29:14 น.
ตอนแรกว่าจะให้เป็นคนโตค่ะ แต่ไม่อยากให้พระเอกเราเป็น ลุง ก็เลยให้เป็นคนรองค่ะ มีพี่น้องสองคน หลานแท้ๆ หนึ่งคนค่ะ


grazioso 18 ต.ค. 2555, 22:01:58 น.
โอออออออ เคยอ่านเรื่องก่อนนี้ค่ะ ชอบมากกกกกกกกกกกกก :)

มาติดตามเรื่องนี้ต่อ
เป็นกำลังใจให้เสมอนะคะ :)


goldensun 18 ต.ค. 2555, 22:43:53 น.
แล้วที่ขิมบอกว่า มุกชอบลูกคนโตของย่า นี่เท่ากับลืมแก้ใช่มั้ยคะ ก็ลูกคนโตแต่งงานกับอาลิน มีลูกคือน้ำหวาน ส่วนตรัยเป็นลูกคนรอง ใช่มั้ยคะ หรือมุกจะแอบชอบคนพี่ที่แต่งงานแล้ว


ปริยาธร 18 ต.ค. 2555, 22:53:19 น.
คุณgrazioso ขอบคุณมากเลยนะคะ

คุณgoldensun อั๊ยย่ะ แก้ไม่หมดจริงๆ ด้วยค่ะ มิน่าคุณเดิมเดิมถึงได้ทักมา ตอนนี้ไปแก้แล้วนะคะ ขอบคุณที่ช่วยบอกค่า


iamhappy 19 ต.ค. 2555, 16:26:03 น.
ตามไปดูตามลิงก์จำได้แล้วค่ะ
มาตามเรื่องนี้ต่อนะคะ


pimsaowaluck 20 ต.ค. 2555, 18:14:57 น.
:)


pseudolife 21 ต.ค. 2555, 22:01:44 น.
อ๊ายยยยยยยยยยยย นึกออกแล้วค่าว่าเคยอ่านครูอรกับนายก้อง
ตอนนั้นไม่ได้เชียร์คุณตรัยกับหนูอรเลยค่ะ เพราะรู้ว่าคุณตรัย
ต้องได้พบนางเอกของตัวเองแน่ๆ ^^


หยองตอด 24 ต.ค. 2555, 00:48:55 น.
พระเอกคุ้นมากๆ พอไปค้นหนังสือนิยายในกรุก็พบก้องภพกับอรกานต์ 5555
ออกมาเป็นหนังสือหลายปีแล้วนี่คะ ตอนนั้นที่อ่านหมั่นใส้ก้องภพเลยแอบเชียร์ตรัยคุณ


ปริยาธร 24 ต.ค. 2555, 11:33:10 น.
คุณหยองตอด ใช่ค่ะ พิมพ์ครั้งแรกออกมานานมากแล้ว ตอนนี้พิมพ์ใหม่แล้วค่ะ เลยเขียนภาคต่อออกมาซะเลย ขอบคุณที่ยังจำกันได้นะคะ


ลิลลี่ 8 มี.ค. 2556, 19:43:25 น.
เพิ่งเข้ามาอ่านครั้งแรก ติดใจซะแล้ว


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account