ห้วงวิวาห์รักร้อย
เมื่อ มุกอันดา นางเอกสาวยอดนิยม มาตกหลุมรัก ตรัยคุณ หนุ่มใหญ่ที่มีศักดิ์เป็นอาของเพื่อน แถมยังมีคนวางแผนจ้องดิสเครดิต จนทำให้เธอและเขาได้แต่งงานกัน ความรักต่างวัยจึงเริ่มต้นขึ้น

http://www.facebook.com/pariyathorn?ref=hl
Tags: วิวาห์รักแสนหวาน ระหว่างหนุ่มใหญ่กับสาวน้อย

ตอน: ตอนที่ 2 อุบัติเหตุเมื่อแรกพบ

ตอนที่ 2


มะเขือเทศสีแดงสดถูกหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ใส่ถ้วยวางไว้ข้างๆ แป้งทอดกรอบที่ละลายน้ำไว้แล้ว ก่อนหัวหอมจะถูกหยิบขึ้นมาปอกเปลือก เจ้าของมือเรียวขาวทำงานไปพลางฮัมเพลงโปรดไปพลางอย่างสบายใจ เพราะวันนี้เป็นวันหยุดที่เธอไม่ต้องออกไปถ่ายละครที่ไหน ก่อนจะชะงักหันไปมองเมื่อได้ยินเสียงเพื่อนทักขึ้น

“ชอบร้องเพลงในครัวนี่เอง มิน่าแกถึงจะได้แฟนแก่ คราวนี้ล่ะสมใจแล้วยัยมุกเอ๊ย” สร้อยขิมว่าพลางเดินเข้ามาดูว่าเพื่อนทำอะไร ก่อนจะถอยห่างออกมาเล็กน้อยอย่างกลัวจะแสบตาไปด้วย เมื่อหัวหอมเริ่มถูกหั่น

“แกพูดเรื่องอะไร อย่าบอกนะว่ามีเสี่ยที่ไหนมาขอกินข้าวกับฉันอีก บอกไปเลยว่าคิวเต็มหมดแล้ว” มุกอันดาตอบมือก็ซอยหัวหอมไปอย่างตั้งใจ ปกติแล้วเธอเป็นคนไม่ชอบทำอาหาร แต่จำเป็นต้องฝึกไว้ไม่ให้ดูเก้งก้าง เพราะละครเรื่องใหม่ที่กำลังจะเปิดกล้องนั้นเธอรับบทเป็นเชฟฝึกหัด ที่เชี่ยวชาญในการทำอาหารขั้นเทพ ขณะที่เธอแค่ทอดไข่เจียวยังพลิกไข่ไม่เป็นเลย

“ใช่ซะที่ไหนเล่า ถ้าเป็นตาแก่หัวงูพวกนั้นฉันไม่เอามาบอกแกหรอก อาตรัยต่างหากที่อยากดูตัวกับแก”

ประโยคนั้นทำให้มุกอันดาปล่อยมือจากหัวหอมหันขวับไปมองเพื่อนทันที “อะไรนะแกพูดใหม่อีกทีซิ”

“วันนี้ฉันไปหาคุณย่ามา แม่ของอาตรัยน่ะ แล้วบังเอิ๊ญย่ากับอาลินกำลังปรึกษากันว่าจะหาผู้หญิงมาให้อาตรัยดูตัว จะได้แต่งงานแต่งการซะที แล้วแกรู้ไหมสเปคอาตรัยเป็นไง?” สร้อยขิมถามเพื่อนที่ส่ายหน้าดิก จ้องตากลมเป๋งมาด้วยความอยากรู้ “อาตรัยเขาชอบเด็ก เอ้ย ชอบสาวๆ ส้มทั้งเข่งเลยหล่นใส่หัวแกคนแรก เพราะย่าดูรูปแกแล้วนึกถูกชะตาขึ้นมา แกล่ะจะว่าไง?”

สร้อยขิมมองหน้าเพื่อนที่นิ่งไป เธอรู้ว่ามุกอันดาคงต้องการเวลาในการตัดสินใจเหมือนกัน แม้จะหลงรักอาของเธอมานานแค่ไหน แต่ตอนนี้มุกอันดากำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น ทั้งละคร โฆษณา และยังถ่ายแบบตามนิตยสาร พุ่งชนจนรับแทบไม่หมด แม้จะไม่มีคิวให้หลายที่ก็ยังพร้อมที่รอ มันจึงไม่ง่ายนักที่จะทิ้งวงการไปแต่งงานในเวลาแบบนี้ อีกอย่างการแต่งงานก็เป็นเรื่องสำคัญในชีวิต ต่อให้เคยประทับใจกันมาแค่ไหน แต่มุกอันดาก็ยังไม่รู้จักอาของเธอดีพอ กำลังจะบอกให้เพื่อนค่อยๆ คิด ก็เห็นอีกฝ่ายน้ำตาไหลออกมาพอดี

“เฮ้ย นี่แกดีใจจนร้องไห้เลยเหรอ?”

“เปล่า ฉันแสบตาน่ะ”

“โธ่ ไอ้บ้า”

มุกอันดาหัวเราะก่อนจะยกมือหยิกแก้มตัวเองแรงๆ ให้รู้ว่าเธอไม่ได้ฝันไป “แล้วฉันจะตอบไปว่ายังไงดีล่ะขิม?” เธอจับมือเพื่อนเขย่าอย่างต้องการความช่วยเหลือเป็นการด่วน

“ตอบมาให้ตรงกับใจแก แล้วนอกนั้นฉันจัดการให้เอง” เธอรู้ว่ามุกอันดามีความทรงจำบางอย่างกับตรัยคุณ แต่ก็ไม่คิดว่าจะพัฒนาไปเป็นความรักที่ลึกซึ้งได้ นอกจากเป็นสิ่งทดแทนความรู้สึกที่มุกอันดาโหยหามาตลอด แต่มันจะมากพอสำหรับการใช้ชีวิตคู่ร่วมกันหรือเปล่านี่สิ

“งั้นไปกันขิม” หญิงสาวว่าพลางเดินไปล้างมือแล้วถอดผ้ากันเปื้อนออกอย่างว่องไว ก่อนจะเดินไปคว้ามือเพื่อนเอาไว้

“ไปไหน?”

“ก็ไปดูชุดน่ะสิ คนไปดูตัวนี่เขาต้องแต่งตัวกันยังไงวะ แล้วนี่แกจะนัดให้ฉันวันไหน หรือถ้าต้องตัดชุดใหม่ จะได้รีบไปร้านพี่อูกันวันนี้เลย” มุกอันดาร่ายยาววิ่งวุ่นอย่างตื่นเต้นถึงสิ่งที่จะต้องทำ และเท่านี้สร้อยขิมก็ได้คำตอบจากเพื่อนรักไปให้คุณย่าแล้ว



บทละครเรื่องใหม่ถูกวางลงข้างๆ อย่างหมดความสนใจ เมื่อมุกอันดารู้ตัวดีว่าใจเธอกำลังพะวงถึงเรื่องอื่นอยู่มากกว่า ถึงตอนนี้เธอก็ยังไม่อยากเชื่อว่ามันจะเป็นความจริง ยิ่งคิดเธอก็ยิ่งตื่นเต้นแม้จะปนกับความไม่แน่ใจอยู่บ้างก็ตาม หญิงสาวถอนใจเบาๆ ก่อนจะหันไปคว้าตุ๊กตาหนูขนปุยหอมกลิ่นองุ่น ซึ่งเป็นตัวโปรดของเธอขึ้นมากอด

เธอมีตุ๊กตาอยู่เกือบร้อยตัวทั้งที่เก็บไว้ที่บ้าน และที่ซื้อใหม่เพิ่มอีกเรื่อยๆ ไว้ในคอนโดแห่งนี้ ความรักตุ๊กตาของเธอเกิดขึ้นจากในวัยเด็ก ที่ย่าไม่ชอบให้เธอเล่นตุ๊กตาแบบเด็กผู้หญิงทั่วๆ ไป ท่านอยากให้เธอเข้มแข็งเหมือนเด็กผู้ชาย แม้ว่าจะเป็นเด็กที่มีปัญหาทางครอบครัว เพราะว่าพ่อแม่แยกทางกันก็ตาม

ในวัยหนุ่มคมสันพ่อของเธอทำงานอยู่ต่างจังหวัด และได้แอบแต่งงานกับม่านไหมนางนพมาศประจำจังหวัดโดยไม่ให้ทางบ้านรู้ เมื่อได้ย้ายกลับมากรุงเทพฯ ก็ถูกจับให้แต่งงานกับแม่ของเธอ แต่ไม่ยอมจดทะเบียนสมรสด้วย อยู่กันจนแม่เริ่มตั้งท้อง ม่านไหมก็พาลูกสาวตามขึ้นมาหาถึงกรุงเทพฯ ความลับที่พ่อปิดทุกคนไว้จึงถูกเปิดเผย พ่อขอย้ายออกไปอยู่กับม่านไหม ผู้หญิงที่พ่อหลงรักหัวปักหัวปำ และพลอยรัตนาลูกสาวตัวน้อยที่อยู่ในวัยกำลังน่ารักน่าชัง

รัมภาแม่ของเธอเป็นคนเข้มแข็ง เมื่อรู้ว่าพลาดไปแล้วก็ยอมรับความจริงได้ และยอมปล่อยให้พ่อไปอยู่กับม่านไหมโดยไม่รั้งไว้แม้แต่คำเดียว คุณย่าเองก็พูดอะไรไม่ออก เนื่องจากพ่อแอบไปแต่งงานจดทะเบียนก่อน แถมยังมีลูกสาวด้วยกัน จึงจำต้องปล่อยเลยตามเลย บ้านที่พ่อย้ายไปอยู่กับม่านไหมนั้นอยู่ในหมู่บ้านเดียวกับเธอ เพราะถึงอย่างไรพ่อก็ยังห่วงคุณย่า จึงไม่อยากย้ายออกไปอยู่ไกลๆ ทุกต้นเดือนพ่อจะเอาเงินค่าเลี้ยงดูมาให้แม่แล้วก็กลับไป แม้พ่อจะรักเธอแต่ก็แทบจะนับครั้งได้ที่พ่อจะอยู่เล่นกับเธอ เพราะเกรงว่าถ้าม่านไหมรู้เข้าจะน้อยอกน้อยใจ หอบลูกหนีไปต่างจังหวัดให้ต้องไปตามง้ออีก

ม่านไหมเป็นผู้หญิงที่ร้ายกาจที่สุดในชีวิตของเธอ เพราะนอกจากจะไม่ยอมต่างคนต่างอยู่แล้ว ยังชอบเดินมาเยาะเย้ยแม่ของเธอว่าเป็นเมียน้อย หากก็ไม่ลืมที่จะพาลูกสาวตัวเองมาประจบคุณย่าเพราะหวังมรดก แม้ย่าจะไม่ยอมรับม่านไหมเป็นลูกสะใภ้ แต่ก็ตัดพลอยรัตนาที่เป็นหลานสาวอีกคนไม่ลง เธอและพี่สาวต่างแม่จึงได้มีโอกาสเล่นด้วยกันมาแต่เด็ก กระทั่งม่านไหมให้พ่อส่งลูกสาวคนโตไปเรียนต่อต่างประเทศ

แม้พ่อจะแสดงออกถึงความห่วงใยเธอไม่ได้มากนัก แต่แม่ก็ไม่เคยสอนให้เธอเกลียดท่าน กลับบอกว่าพ่อมีเหตุผลที่ต้องทำอย่างนั้น และพ่อก็รักเธอไม่น้อยไปกว่าที่รักลูกสาวอีกคนเลย จนกระทั่งวันหนึ่งที่พ่อมาหาแม่ทั้งที่ไม่ใช่วันต้นเดือน และยังเป็นวันที่คุณย่าไม่อยู่อีกด้วย

‘ฉันกับไหมต้องไปออกงานด้วยกันวันนี้ เลยอยากจะมาขอชุดทับทิมของแม่ไปให้ไหมเขายืมใส่หน่อย’ คมสันบอกภรรยาอีกคนหนึ่งด้วยสีหน้าอึดอัดแทบไม่ยอมสบตา

‘เอ๊ะ แต่ทับทิมชุดนั้นแม่ยกให้ภาเป็นของรับไหว้ตอนแต่งงานนะคะ’ รัมภาแทบไม่เชื่อหูว่าเขาจะกล้ามาขอกับเธอ และเท่าที่รู้มีเครื่องประดับหลายชุดที่เขาซื้อให้ม่านไหม แต่ไม่เคยแบ่งปันสักชุดมาให้เธอ

‘ก็นั่นแหละรู้แล้ว ฉันแค่จะขอยืมไปวันเดียวพรุ่งนี้จะรีบเอามาคืนให้ ทำยังไงได้ชุดใหม่ของไหมเขาสีแดง เขาก็เลยอยากใส่ทับทิมจะได้เข้าชุดกัน’

‘แล้วทำไมคุณสันไม่ซื้อให้เขาใหม่ล่ะคะ ยังไงคุณสันก็ต้องซื้อเครื่องเพชรให้เขาทุกเดือนอยู่แล้วนี่คะ’ รัมภาพยายามเชิดหน้าไม่ให้น้ำตาไหลออกมาด้วยความน้อยใจ

‘อย่ามามัวประชดประชันกันอยู่เลย ยังไงชุดทับทิมนั่นก็เป็นของแม่ฉัน และไหมเขาก็เป็นลูกสะใภ้คนหนึ่ง ใจคอเธอคิดจะรวบสมบัติของแม่ไว้คนเดียวเลยหรือไง’

‘คุณสัน...’ รัมภามองหน้าสามีปากสั่นระริกด้วยความโกรธ แต่ก็ยังช้ากว่าคมสันที่รีบเอ่ยต่อด้วยน้ำเสียงรำคาญ

‘ถ้าที่ฉันพูดมันไม่จริง เธอก็รีบไปเอาของลงมาได้แล้ว ฉันต้องรีบไปอย่ามัวทำให้ฉันต้องเสียเวลาอยู่’

เมื่ออีกฝ่ายว่าอย่างนี้รัมภาจึงไม่มีทางเลือก ต้องขึ้นไปเอากล่องกำมะหยี่ใส่ชุดทับทิมล้อมเพชรทั้งชุดมาให้เขายืม มุกอันดามองพ่อที่ไม่แม้แต่จะก้มลงมองเธอ มัวแต่มองขึ้นไปข้างบนสลับกับมองนาฬิกาอย่างใจร้อน จนกระทั่งได้ของเขาก็รีบเผ่นออกไปขึ้นรถ ซึ่งม่านไหมในชุดราตรีสีแดงนั่งรออยู่แล้วขับออกไปด้วยกัน

‘อย่าไปมองลูก เข้าบ้านดีกว่า’ รัมภาบอกลูกสาววัยห้าขวบที่วิ่งไปเกาะประตูรั้วมองตามรถของพ่อไป

มุกอันดาจำได้ว่าเป็นครั้งแรกที่เธอเห็นแม่ร้องไห้ และหลังจากนั้นก็กลายเป็นเรื่องทะเลาะกันใหญ่โต เมื่อชุดทับทิมที่พ่อเอามาคืนไม่ใช่ชุดเดิม แต่เป็นของปลอมที่ทำเลียนแบบขึ้นมา ย่าโกรธมากตามไปทวงคืนกับม่านไหมถึงบ้าน แต่ม่านไหมยืนยันว่าเป็นชุดเดียวที่แม่ของเธอให้ไป และถ้ามันจะปลอมก็คงเพราะปลอมมาตั้งแต่แม่ของเธอเอามาให้แล้ว ย่าไม่ได้เชื่อคำกล่าวหานั้น ครั้นจะแจ้งความลูกชายก็ออกรับแทนเมีย จึงได้แต่ปล่อยเลยตามเลย

ความเป็นคนเข้มแข็งทำให้แม่ตัดใจไม่พูดถึงเรื่องนี้อีก คุณย่าเองก็พยายามชดเชยให้ด้วยเครื่องเพชรทุกชุดที่มี มอบเป็นสิทธิ์ขาดให้แม่คนเดียว โดยที่พ่อไม่มีสิทธิ์จะมาหยิบยืมไปให้ใครอีก แต่เพราะแม่สุขภาพไม่ดีมาตั้งแต่เด็กเจ็บออดๆ แอดๆ อยู่เรื่อยมา ก่อนจะเสียชีวิตลงด้วยโรคประจำตัว ทิ้งให้เธออยู่กับย่าที่กลายเป็นทั้งพ่อและแม่ให้เธอในเวลาเดียวกัน

วันเวลาที่ผ่านไปทำให้เธอลืมเรื่องสร้อยทับทิมชุดนั้นไปสนิท ถ้าม่านไหมไม่จงใจใส่มันมาในงานศพของคุณย่า พร้อมกับทนายเพื่อยื่นขอเป็นผู้จัดการมรดก เธอจึงตั้งใจไว้ว่าจะต้องทวงชุดทับทิมชุดนั้นคืนจากม่านไหมให้ได้ และสมบัติแม้แต่สตางค์แดงเดียวของย่า เธอก็ไม่มีวันยกให้ม่านไหม และเธอเชื่อว่าในพินัยกรรมย่าก็ต้องไม่ยกอะไรให้ม่านไหมเหมือนกัน

ส่วนพ่อของเธอเพิ่งจะเสียก่อนหน้าย่าไปสองปี แม้จะไม่ค่อยได้รับการดูแลเอาใจใส่จากพ่อมากนัก แต่แม่ก็บอกเสมอว่าพ่อเองก็รักเธอ เพียงแต่พ่อแสดงออกต่อหน้าคนอื่นไม่ได้เท่านั้น ตลอดเวลาที่โตขึ้นมาพ่อไม่เคยสนใจเธอมากไปกว่าเอาเงินค่าเลี้ยงดูมาให้ เธอจึงเป็นลูกสาวที่ไม่เคยอยู่ในสายตาของพ่อ และคิดว่าถ้าตัวเองเป็นดาราอย่างน้อยพ่อก็ยังได้เห็นเธอทางทีวี แต่กว่าที่โฆษณาชิ้นแรกของเธอจะได้ออกอากาศ พ่อก็ต้องไปนอนโรงพยาบาลแล้วเพราะมะเร็งลำไส้ และม่านไหมก็ไม่ยอมแม้แต่จะให้เธอได้เข้าไปดูใจพ่อ

หญิงสาวเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าหยิบผ้าห่มสีฟ้าผืนหนึ่งออกมา แล้วคลี่มันออกให้ความอบอุ่นแก่ตนเอง เธอได้ผ้าผืนนี้มาในวันหนึ่งที่ซ้อนมอเตอร์ไซค์รับจ้างออกไปหน้าปากซอย ตอนนั้นเธอเพิ่งเป็นนักศึกษาปีหนึ่งและใส่กระโปรงอัดพลีตยาวไปเรียน ความที่ถือของหลายอย่างทำให้เธอลืมรวบกระโปรงเอาไว้ มันจึงเข้าไปพันติดอยู่ในล้อรถมอเตอร์ไซค์

กว่าจะรู้ตัวเธอก็กลิ้งตกจากรถแล้ว แถมกระโปรงแบบเอวยางยังถูกดึงจนหลุดติดไปกับล้อรถ ท่ามกลางความชุลมุนนั้นมีคนมายืนดูกันมากมาย หลายคนร้องอย่างตกใจแต่ก็ไม่มีใครเข้ามาช่วย ตอนนั้นเธออายแทบมุดดินหนี และคิดถึงพ่อมากกว่าใครทั้งหมด เธอยังจำได้ว่าเมื่อพี่สาวต่างแม่ขี่จักรยานแล้วล้ม พ่อยังวิ่งเข้ามาช่วยประคับประคอง แต่เธอไม่เคยได้รับความรักแบบนั้น เพราะคนที่ก้าวเข้ามาช่วยไม่ใช่พ่อของเธอ

‘ไม่เป็นไรนะครับ ใช้ผ้านี่พันไว้ก่อน’ เจ้าของเสียงทุ้มนั้นคือคนที่ขับรถตามหลังมอเตอร์ไซค์ที่เธอนั่งมา เขาเป็นชายหนุ่มในชุดสูทสีเข้ม หน้าตาคมสัน ผิวขาวจัด ท่าทางใจดีและดูเป็นผู้ใหญ่ เป็นลักษณะของผู้ชายในแบบที่เธอชอบทุกอย่าง แต่มันคงจะดีกว่านี้นับล้านเท่า ถ้าเธอไม่ต้องพบเขาในสภาพน่าอายแบบนี้

ชายหนุ่มเข้ามาช่วยเธอก่อนใครๆ ด้วยการส่งผ้าให้พันท่อนล่างที่เหลือแต่ชั้นในเอาไว้ และจะพาเธอไปโรงพยาบาลเพราะเห็นแผลที่แขน แต่เป็นเธอเองที่ปฏิเสธ เขาจึงอาสาขับรถไปส่งที่บ้าน สภาพของเธอในเวลานั้นทำให้ย่าตกใจมาก และรีบพาเธอเข้าบ้าน เธอเองก็มัวแต่อายมากถึงมากที่สุด ได้แต่ก้มหน้าไม่กล้าพูดอะไรนอกจากขอบคุณเขา พร้อมกับเก็บเป็นความประทับใจไว้เรื่อยมา โดยที่ไม่รู้แม้แต่ชื่อของเขา

จนกระทั่งวันหนึ่งที่เธอไปทำรายงานที่บ้านของสร้อยขิม วันนั้นมีของว่างเป็นมะม่วงน้ำปลาหวาน แต่มะม่วงกลับหมดเธอจึงอาสาปีนขึ้นไปเก็บบนต้นให้ เพราะบ้านของสร้อยขิมปลูกมะม่วงไว้หลายต้น ความที่เคยอยู่บ้านสวนมาก่อน ทำให้สร้อยขิมวางใจแล้วเดินเข้าไปเอาน้ำปลาหวานจากในครัว ปล่อยให้เธอเก็บมะม่วงอยู่คนเดียวและเหยียบพลาดจนพลัดตกลงมา

ตุ้บ...

‘เจ็บมากไหมครับ?’ เจ้าของเสียงเป็นชายหนุ่มที่เดินเข้ามาส่งมือให้

‘ไม่เป็นไรค่ะ’ เธอก้มหน้าตอบทั้งเจ็บทั้งอายพลางพยายามจะลุกขึ้น แต่กลับปวดแปลบจนลุกไม่ไหว ก่อนจะลอยหวือขึ้นทั้งตัวเพราะถูกอุ้ม

‘ผมช่วยนะ’ เขาบอกแล้วอุ้มเธอไปวางลงตรงม้านั่ง

มุกอันดาเงยหน้าขึ้นมองแล้วก็ตะลึงงัน ‘คุณ...’

‘อ้าว มีอะไรกันเหรอคะอาตรัย?’ สร้อยขิมถามเมื่อเดินออกมาจากข้างในพอดี

‘เพื่อนขิมตกต้นไม้แน่ะ หายามาใส่ให้เพื่อนด้วยนะ เดี๋ยวอาเข้าไปข้างในก่อน’ ชายหนุ่มบอกก่อนจะเดินหายเข้าไปด้านใน

‘ขิมคนเมื่อกี้นี้ใครน่ะ’ เธอรีบถามเพื่อนด้วยหัวใจที่เต้นรัว เป็นเขาจริงๆ คนที่ช่วยเธอไว้ในวันนั้น แต่ดูเหมือนเขาจะจำเธอไม่ได้เลยสักนิด

‘อาฉันเอง พ่อฉันเป็นลูกพี่ลูกน้องกับเขา แล้วแกเป็นไงบ้างเจ็บมากไหม?’

‘ขิม คนนี้แหละที่เคยช่วยฉันไว้’ ในที่สุดเธอก็หาเขาเจอ และก็ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ความประทับใจกลายเป็นความรัก รู้แต่ว่าเธออบอุ่นใจทุกครั้งที่คิดถึงเขา หลังจากนั้นเธอก็ไปที่บ้านสร้อยขิมเป็นประจำ และได้แอบมองเขาอีกหลายครั้ง สร้อยขิมเป็นพี่สาวคนโตและมีน้องเล็กๆ อีกสามคน ซึ่งชายหนุ่มก็เอ็นดูหลานทุกคน ยิ่งเห็นเขาช่วยสอนหลานๆ ขี่จักรยาน พาไปทานข้าวซื้อของเล่นเธอก็ยิ่งประทับใจ

ทว่าเธอก็ได้แต่แอบมองอยู่ห่างๆ เพราะยังอายเรื่องที่ตกจากมอเตอร์ไซค์วันนั้น ไม่อยากให้เขาจำได้ว่าเป็นเธอ ได้แต่เล่าความในใจให้เพื่อนฟังแล้วคอยฟังข่าวคราวของเขาอยู่ห่างๆ และคิดว่าเธอคงไม่มีโอกาสได้เป็นอะไรกับเขามากกว่าเพื่อนของหลาน เพราะเขามีคนรักอยู่แล้วเป็นครูสอนเปียโนที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง

แต่แล้วใครจะคิดว่าอยู่ดีๆ เธอก็จะได้ไปดูตัวกับเขา ชายในฝันที่ทำให้เธอคิดถึงครอบครัวอันอบอุ่น อย่างที่เธอเคยฝันไว้มาตลอด วันมะรืนนี้แล้วสินะ ที่เธอจะได้ทำความรู้จักกับเขาอย่างเป็นทางการเสียที

มุกอันดาล้มตัวลงนอนพลางกระชับผ้าห่มผืนนั้นไว้แนบตัว หลับตาลงอย่างมีความสุข หัวใจเต้นแรงไปด้วยความคาดหวังถึงวันที่รอคอย...


จบตอนที่ 2



ปริยาธร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 21 ต.ค. 2555, 00:32:30 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 21 ต.ค. 2555, 00:32:30 น.

จำนวนการเข้าชม : 4018





<< ตอนที่ 1 ดาราสาวกับหนุ่มใหญ่   ตอนที่ 3 นัดดูตัว (1) >>
ปริยาธร 21 ต.ค. 2555, 01:11:04 น.
ตอบเม้นต์ตอนที่ 1 ค่ะ

คุณเดิมเดิม คุณตรัยเป็นลูกคนรองค่ะ ตอนแรกตั้งใจว่าจะให้เป็นคนโต แต่พอลำดับญาติแล้วจะต้องกลายเป็น คุณลุง ก็เลยเปลี่ยนให้เป็นน้องแทนค่ะ คราวที่แล้วแก้ไม่หมดเลยอ่านแล้วสับสน โทษทีนะคะ

คุณgrazioso ขอบคุณมากเลยค่ะ แนะนำติชมกันได้เต็มที่เลยนะคะ

คุณgoldensun คราวที่แล้วแก้ไม่หมดจริงๆ ค่ะ ขอบคุณที่ช่วยบอกนะคะ ตอนนี้กลับไปแก้แล้วค่ะ อิ อิ ไก่หลุดตั้งแต่ตอนแรกเลย แหะๆ

คุณpimsaowaluck ขอบคุณที่แวะมาอ่านเรื่องนี้ด้วยนะคะ ไม่ได้คุยกันนานเลย คุณพิมสบายดีนะคะ

ขอบคุณนักอ่านเงาทุกท่านด้วยค่ะ


goldensun 21 ต.ค. 2555, 01:50:47 น.
มุกโชคดีที่ย่ารัก พ่อมุกก็นะ ไปรักผู้หญิงร้ายๆอย่างนั้นได้ ไม่ยอมไปไกล เพราะยังหวังสมบัติย่านี่เอง
ตรัยยังไม่รู้ตัวว่าถูกจับคู่ จะมีปฏิกิริยาตอบรับยังไง รอดูค่ะ


grazioso 21 ต.ค. 2555, 16:27:02 น.
โอยยยยย ชีวิตสาวน้อยของเราน่าสงสารจังค่ะ คุณพ่อก็ดูไม่ค่อยเอาใจใส่เธอกับแม่เท่าไหร่เลย หลงไปกับผู้หญิงแบบนั้นอีก เฮ้อออออออ ขอให้พ้นๆ จากคนแบบนั้นไวไวแล้วกันนะคะ สงสารสาวน้อยของเรา อยากให้คุณตรัยได้เข้ามามีโอกาสดูแลสาวน้อยของเราไวไวจังค่ะ :) คงจะรู้สึกอบอุ่นน่าดู :))


pimsaowaluck 21 ต.ค. 2555, 18:48:49 น.
สบายดีค่า ขอบคุณคะ ขอบคุณที่ลงนิยายให้อ่านนะคะเรื่องนี้ท่าทางจะน่ารัก ออกอีบุ๊คอย่าลืมแจ้งข่าวนะคะ เรื่องอื่นๆด้วยค่ะ อยากอุตหนุนบ้าง คนแต่งจะได้มีค่าขนม


ปั้นฝัน 21 ต.ค. 2555, 18:57:04 น.
คุณตรัยมาแล้วๆฮูเล่ๆอย่างนี้ต้องเก็บเงินไว้เตรียมอุดหนุนซะแล้ว


pseudolife 21 ต.ค. 2555, 22:07:04 น.
หนูมุกน่าสงสารจัง
ฮ่าๆ เพิ่งอ่านตอนหนึ่งไปจึงระลึกได้ว่า เคยอ่านนายก้องกับหนูอรนี่นา
ดีใจด้วยแฮะ หนูมุกจะได้เจอคุณตรัย คุณตรัยจะได้หายเศร้าเสียที


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account