กับดักใจ...ซาตานยอดรัก
เขา...ที่ตกหลุมรักเพื่อนน้องสาวที่ห่างจากเขา 15 ปี จะทำยังไงหากไม่วางกับดักให้เธอติดบ่วงเขา
เธอ...ที่ไม่เคยรักใคร เธอไม่เคยรู้ว่าเขากำลังต้อนเธอเข้ากรงใจ
Tags: พี่ใหญ่

ตอน: ตอนที่ 29

ตอนที่ 29

“สาม!!! เฮ้ย!!” หลังจากี่คว้าเอวบางไว้ทัน แต่ว่าร่างบางเสียหลักไปแล้ว เขาต้องใช้แขนอีกข้างค้ำผนังเอาไว้อย่างรวดเร็ว และเขาคงคว้าผิดจังหวะไปหน่อย เขาเกิดอาการเจ็บแปลบขึ้นมาทันที แต่เขาก็ไม่ปล่อยให้ร่างบางร่วงหล่นลงไป เขมวันต์ที่มัวแต่ตกใจกับอุบัติเหตุนี้ เธอได้แต่อึ้งอยู่ในอ้อมแขนแกร่งอย่างไม่รู้จะช่วยตัวเองยังไงดี

“คะ..คุณจิ!! ปล่อยสามเถอะค่ะ...แล้วก็ขอบคุณนะคะ..” เธอบอกเขาหลังจากที่เขาช่วยให้เธอทรงตัวได้แล้ว แต่ยังไม่ยอมปล่อยมือหนาจากเอวบางของเธอ สภาพแนบชิดระหว่างเขาและเธอตอนนี้ไม่ทำเอาเธอหายใจสะดุดหน้าแดงขึ้นมาอย่างประดักประเดิก

“เอ่อ..ขอบคุณนะคะคุณจิเป็นอะไรรึเปล่าคะ?” เธอมองหน้าอีกฝ่ายอย่างเป็นกังวลหลังจากที่เห็นเขากุมที่ข้อมือแกร่งของเขา และคิดว่าน่าจะเกี่ยวกับเธอแน่นอน

“พี่ไม่เป็นไรหรอก...สามไม่ต้องห่วงหรอกนะว่าแต่สามเถอะเป็นอะไรรึเปล่า?” ชายหนุ่มส่ายหน้าไปมา แต่เขาห่วงเธอมากกว่า เกรงว่าเธอจะได้รับบาดเจ็บอะไรรึเปล่า

“ปละ...เปล่าค่ะ..แต่ท่าทางพี่..เอ่อ..คุณจิจะเจ็บมากนะคะ...” เธอจ้องที่ข้อมือของเขาที่ชายหนุ่มกุมเอาไว้ไม่คลาดเสียตา
“ไม่มีอะไรหรอก...แต่น่าจะซ้นน่ะ...สามไม่ต้องห่วงหรอก...แต่ว่าพี่มีเรื่องจะคุยกับสามน่ะ...ตามพี่มาซิ” ชายหนุ่มบอกเขาตัดสินใจแล้วว่ายยังไงก็ต้องคุยกับเธอเสียก่อน ไหนจะคำเรียกที่เรียกเขาที่ทิ้งระยะห่างนี่อีกละ...

“มะ..มีอะไรเหรอคะ?” หญิงสาวได้แต่เลิกคิ้วขึ้นสูงเพราะไม่รู้ว่าเขาจะมีอะไรคุยกับเธอ เพราะเธอกับเขาไม่ได้สนิทกันมากขนาดนั้น แต่เธอก็ไม่สามรถแย้งอะไรได้ เพราะเขาลากเธอให้เดินไปที่ลิฟต์ด้วยกัน แต่สิ่งที่ทำให้เธอแทบจะแทรกแผ่นดินหนี นั่นคือสายตาของทุกคนที่มองมาที่เธอและเขาอย่างมีคำถาม ก็ท่านประธานของบริษัทกำลังลากเด็กฝึกงานไปด้วยกันจะไม่เป็นที่สนใจได้ไงละ...ฮือๆ...ชีวิตเธอจะเป็นไงต่อไปละเนี่ย

“คุณจิคะปล่อยมือสามก่อนเถอะค่ะ..” ไม่รู้เพราะอะไรสายตาที่เขามองมาที่เธอทำเอาเธอสั่นสะท้านไปหมด...ไม่รู้เขารู้สึกยังไงกับเธอหรอกนะอาจจะแค่น้องสาวของเพื่อน แต่กับเธอแล้วมันแปลกๆ ยังไงก็ไม่รู้ซิ..แต่การที่เขาจับมือถือแขนเธออย่างนี้มันยิ่งทำให้เธอเธอเต้นแรงจนแทบจะทะลุออกมาอยู่แล้ว ขอร้อง...อย่าได้ยินเสียงใจที่กำลังเต้นแรงนี้เลยนะ...

“ปล่อยสามก็เดินหนีพี่น่ะ..พี่ว่าเรามีเรื่องต้องคุยกันนะ...” ชายหนุ่มไม่ยอมทำตามที่เธอร้องขอ...เรื่องอะไรเขาจะปล่อยให้เรื่องนี้ผ่านเลยไปเล่า กว่าเขาจะมีโอกาสพูดกับเธอแบบสองต่อสองอย่างนี้มีที่ไหน...เจอกันทีไรก็มีครอบครัวเธออยู่ด้วยหรือว่าเพื่อนของเธอนั่นละ..แต่ตอนนี้เขาขอจัดการเรื่องของใจตัวเองก่อนแล้วกัน
“ตะ...แต่สามว่า....ไม่น่าจะมีนะคะ..แล้วก็สามไม่หนีหรอกค่ะ...นะคะปล่อยมือสามก่อน..คนอื่นเขามองกันหมดแล้ว” เธอมองไปรอบๆ ตัวที่มีสายตาของทุกคนมองมาอย่างใคร่รู้

“ตามมาเถอะน่า...อย่าดิ้นมากพี่เจ็บมือ” ชายหนุ่มเอ็ดเธอเบาๆ เพราะตอนนี้ข้อมือเขาเริ่มเจ็บขึ้นมาอีกแล้วเพราะเธอพยายามบิดข้อมือของเธออยู่ตอนนี้

ฮื่อ....ช่างไม่รู้เลยว่าคนเขารู้สึกยังไงอุตส่าห์มาเลือกฝึกงานที่บริษัทอื่นที่ไม่ใช่ของพี่ชายแต่กลายเป็นว่าบริษัทนี้เป็นของเขาเสียนี่ เธอจะรอดจนจบรึเปล่าเนี่ย
จิรกิตติ์ลากหญิงสาวที่เขาหมายใจให้เดินไปด้วยกันโดยไม่สนใจสายตาของใครเลยที่มองมาที่พวกเขาทั้งคู่อย่างสนใจใคร่รู้เหลือเกิน แหม...เจ้านายหนุ่มหล่อกับนักศึกษาฝึกงานน่ะมันน่าสนใจน้อยเมื่อไหร่ละ

“โอ้ย....คุณจิ...ปล่อยมือสามก่อนนะ...คนอื่นเขามองกันใหญ่แล้ว..” เธอมองตามสายตาที่มองมาที่พวกเธออย่างกระหายรู้ได้ดีว่ามันคงไม่พ้นเธอต้องเป็นหัวข้อสนทนาอย่างไม่ต้องสงสัยเลย แม้ว่าจะบอกเขาเท่าไหร่อีกฝ่ายก็ไม่ยอมทำตามที่เธอร้องขอเลย จนกระทั่งมาถึงหน้าห้องทำงานใหญ่ของเขาและเปิดประตูเข้าไป
โดยไม่สนใจใครเลย เขาให้เขมทวันต์เข้าไปก่อนแล้วกันมาสั่งกรวลัยเสียงเรียบ

“ผมไม่รับแขกนะ...และห้ามใครเข้ามาเด็ดขาด...” ชายหนุ่มสั่งเสียงเรียบ เพราะเขาต้องการคุยกับอีกฝ่ายให้รู้เรื่องทันทีที่เข้าห้องเรียบร้อยแล้วเขากดล็อคประตูห้องทันที แม้ว่าเขาจะสั่งเลขาฯ แล้วแต่เขาก็ไม่อยากจะพลาดหากว่ามีใครกล้าเปิดประตูเข้ามาในห้องเขาละก็คงไม่น่าพอใจนักหรอกหากว่าเขากับอีกฝ่ายยังคุยกันไม่รู้เรื่องละก็...

“ค่ะ....” กรวลัยรับคำสีหน้างงๆ เพราะเธอยังตั้งตัวไม่ทันกับท่าทางร้อนราวกับพายุของเจ้านาย ยิ่งท่าทางที่ลากอีกฝ่ายมาด้วยอย่างนี้ด้วยแล้ว
“เอ่อ...คุณ...คุณจิคะ..”เขมวันต์เรียกอีกฝ่ายเสียงขลาดยืนละล้าละลังอย่างไม่รู้จะทำไงดี ตอนนี้สถานการณ์ของเธอถือว่าไม่น่าไว้ใจสุดๆ เพราะตอนนี้เธอติดอยู่กับเขาในห้องเพียงลำพังและประตูห้องก็ล็อคด้วยระบบคอมฯ ซึ่งเธอไม่รู้ว่าจะเปิดไงน่ะซิ...
“พี่ว่าสามนั่งลงก่อนดีกว่านะ...เรามีเรื่องต้องคุยกันยาวเลย” เขามองหน้าอีกฝ่ายอย่างไม่พอใจกับสรรพนามที่เธอเรียกเขาตอนนี้

“ตะ..แต่ว่า...ฮื่อ...ก็ได้ค่ะ” เธอทำท่าว่าจะแย้งอีกฝ่ายแต่แค่เห็นแววตาเขาที่มองมาที่เธอก็ทำเอาเธอพูดไม่ออกแล้ว ได้แต่เดินไปนั่งที่โซฟาตัวยาวที่อยู่ใกล้ๆ เธอนั่งกุมมือประสานกันแน่นอย่างพยายามระงับใจตัวเองที่กำลังเต้นแรงจนแทบทะลุออกมานอกอกอยู่แล้ว และกลัวว่าเขาจะได้ยินด้วย
จิรกิตติ์เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายเลือกที่นั่งเรียบร้อยแล้วชายหนุ่มก็เดินไปทรุดตัวนั่งลงข้างๆ กายอีกฝ่ายทันที แม้ว่าอีกฝ่ายจะพยายามเลี่ยงออกไปแต่เขาก็จับต้นแขนเธอเอาไว้เพื่อไม่ให้เธอหนีไปได้

“คุณจิ!!!” เขมวันต์ได้แต่เรียกอีกฝ่ายอย่างตกใจที่อยู่ๆ เขาก็เดินเข้าไปมานั่งเบียดกับเธอ แม้ว่าเธอจะขยับหนีแต่เขาก็ล็อคเธอเอาไว้ด้วยมือข้างเดียวทำให้เธอไม่สามารถหนีไปได้

“นั่งนี่ละ..พี่ไม่อยากตะโกนคุยกันกับเราอีกแล้วนะ....” เขาเอ่ยเสียงเรียบ ตอนนี้เขาไม่สนใจอะไรอีกแล้ว น้องเพื่อนก็น้องเพื่อนเถอะเขาไม่อยากมาคิดเสียใจทีหลังหากว่าเขาปล่อยเธอให้หลุดมือไป และเธอก็ยังอยู่ในช่วงวัยรุ่นต้องเจอใครอีกเยอะ และเขาไม่ใช่คนแสนดีที่จะยอมปล่อยเธอให้ไปเจอใครๆ อีกหากว่าเธอต้องการ แต่เขาอยากจะเก็บเธอเอาไว้ข้างกายตลอดไป แต่ถ้าเธอยังทำท่าหลบเลี่ยงและอยากหนีเขาตลอดเวลาเขากับเธอก็คงไปไม่ถึงไหนแน่

“แต่ว่า..ไม่เห็นต้องนั่งเบียดอย่างนี้นี่คะ?” เธอยังไม่เห็นด้วยกับเขาอยู่ดีว่าการจะคุยกันเนี่ยมันต้องเบียดขนาดนี้เลยเหรอ

“นั่งอย่างนี้แหละดีแล้ว...”

“เฮ้อ...เอาเถอะค่ะ..ยังไงคุณก็คงไม่ยอมเปลี่ยนใจอยู่แล้ว ว่าแต่มีอะไรจะคุยเหรอคะ?” เธอพยักหน้ายอมรับอย่างปลงๆ ว่ายังไงเธอก็คงเปลี่ยนใจเขาไม่ได้ มีแต่คุยเรื่องที่เขาอยากจะคุยให้เสร็จๆ ไปแล้วเธอจะได้กลับไปทำงานเสียที
“ก่อนอื่นนะเลยนะพี่ไม่ชอบเลยพี่สามเรียกพี่ว่าคุณอย่างนี้น่ะ...พี่เป็นเพื่อนพี่ชายเรานะ...ทำไมถึงเรียกพี่อย่างนั้นละ...” เขาถามสิ่งที่ข้องใจทันที เขาจ้องตาอีกฝ่ายนิ่ง จนอีกฝ่ายที่ต้องเสหลบอย่างขัดเขิน
‘คนบ้าอะไรไม่รู้หล่อเป็นบ้าเลย..แล้วใครมันจะไปกล้าเรียกอย่างนั้นเล่า’ เขมวันต์ได้แต่ร้องเอะอะอยู่คนเดียว เธอเองก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเหมือนกันที่เธอไม่สามารถเรียกเขาว่าพี่อย่างที่เรียกเพื่อนคนอื่นๆ ของพี่ชาย รู้ว่าเธอว่าเธอไม่สนิทใจเลย และขัดเขินทำอะไรไม่ถูกทุกครั้งที่เจอหน้าเขา แม้ว่าเขาจะไม่ทำอะไรเลยแค่มองเธอเท่านั้น
“อะ...เอ่อ...สะ...สามไม่รู้เหมือนกันค่ะ...แต่เรียกยังไงก็ไม่น่าจะมีผลอะไรอยู่แล้วนี่คะ?” เธอพยายามหาทางเลี่ยงไปจนได้

“ทำไมจะไม่มีผล...พี่ไม่ชอบเวลาที่สามเรียกพี่คุณอย่างนั้นคุณอย่างนี้มันเหมือนกันเราไม่รู้จักกันน่ะ..และพี่ไม่พอใจ” เขามีสีหน้าไม่พอใจอย่างมากเมื่อคิดว่าเธอรังเกียจถึงขนาดว่าไม่อยากสนิทสนมกับเขา

“เอ่อ...สาม...สามไม่รู้จะพูดอะไรดี...” เธอเองก็ไม่รู้จะบอกเขาอย่างไรดีกว่าเธอรู้สึกอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องนี้

“เอาเถอะ...ต่อไปนี้เรียกพี่ว่าพี่จินะ...ไหนเรียกซิ...” ชายหนุ่มไม่เซ้าซี้เอาคำตอบจากเธอ แต่เขาจะไม่ยอมให้เธอเรียกเขาอย่างนั้นอีกแล้ว

“....พะ...พี่จิ...” หลังจากเรียกเขาเสร็จเธอก็ได้แต่เสหลบสายตาแวววาวที่มองมาอย่างพอใจที่เธอยอมเรียกเขาอย่างที่ต้องการ...แล้วกเขาก็ฉวยตอนที่อีกฝ่ายเผลอหอมแก้มอีกฝ่ายหนักๆ อย่างให้รางวัลสำหรับเขา

“อุ้ย! พี่จิ!” เธอกุมมือที่แก้มข้างที่โดนเขาเอาเปรียบอย่างตกใจเพราะไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะทำอย่างนี้

“ดีมาก...ต่อไปอย่าให้พี่ได้ยินว่าสามเรียกพี่ว่าคุณอีกนะ...เพราะหลังจากนี้พี่จะลงโทษสามถ้าเรียกพี่แบบนั้นอีก” ชายหนุ่มยิ้มอย่างพอใจ “เมื่อกี้รางวัลสำหรับคนเก่ง...แต่ถ้าเรียกผิดพี่จะทำโทษสาม...” เขาตีหน้าจริงจังให้อีกฝ่ายเห็น มือหนาไล้ที่มือนุ่มของเธอเพลินๆ อย่างไม่ยอมปล่อยมือให้อีกฝ่ายหนีเขาไปไหนได้

“เอาเปรียบที่สุด...” เขมวันต์ได้แต่บ่นอุบอิบอย่างทำอะไรไม่ได้ แม้ว่าเธอจะพยายามชักมือของเธอให้หลุดพ้นจากพันธนาการของเขา แต่ก็ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ยอมปล่อย
“หึๆ...” เขาได้แต่หัวเราะออกมาแต่ไม่ยอมเอ่ยอะไรไปมากกว่านั้นเพราะเขาก็ยอมรับว่าเขาเอาเปรียบเธออยู่ตอนนี้ แต่ทำไงได้ละมันเป็นกำลังใจเล็กๆ น้อยๆ สำหรับเขา

“เชอะ...แล้วคะ..เอ่อ..พี่จิมีอะไรจะพูดกับสามรึเปล่าคะ..ถ้าไม่มีแล้ว...สามขอตัว” เธอพยายามหาทางออกจากห้องนี้เสียที เพราะเธอเริ่มรู้สึกไม่ปลอดภัยแล้ว...ใจเธอสั่นยังไงไม่รู้ เขมวันต์ทำท่าจะลุกออกจากโซฟาที่เธอนั่งอยู่ แต่ก็ต้องทิ้งตัวกลับไปที่เดิมเมื่ออีกฝ่ายเขาไม่ยอมให้เธอไปง่ายๆ

“พี่ยังพูดไม่จบนะ...สามจะรีบไปไหนละ...เด็กฝึกงานคงยังไม่มีอะไรให้ทำหรอกมั้ง?” ชายหนุ่มเอ่ยเสียงเรียบ สายตาไม่คลาดจากร่างบาง ที่พยายามดิ้นรนช่วยตัวเองอยู่นี้
“ก็เพราะเป็นเด็กฝึกงานน่ะซิคะ...สามเลยไม่อยากอยู่นานพี่จิมีอะไรก็พูดมาเถอะค่ะ...” หญิงสาวได้แต่ทำสีหน้าลำบากใจเพราะว่าเธอเป็นเด็กฝึกงานมาขอเกรดเขานะ...เกรงว่าหัวหน้าเธอจะไม่พอใจหากว่าเธอหายไปนาน

“ไม่เห็นต้องห่วงเลยพี่เป็นใคร?” เขาบอกอย่างไม่หยี่ระเรื่องแค่นี้เอง

“เฮอะ..พี่จิก็พูดได้นี่คะไม่ได้มาเป็นสามเสียหน่อย...” เธอไม่อยากถูกมองว่าเป็นเด็กเส้นนะ...แค่เธอมีพี่ชายเป็นเจ้าของบริษัทเธอก็แย่แล้ว แต่นี่เขายังมาทำให้เธอโดนเพ่งเล็งอีกเนี่ย

“น่า...ไม่มีใครกล้าว่าอะไรหรอกน่ะ...” ชายหนุ่มปะเหลาะเธออย่างอาใจใครมันจะไปกล้าพูดอะไรได้ ไม่งั้นเขาก็ไล่ออกแหละ...เพราะยังไงซะอีกไม่นานเธอคนนี้ก็จะมาเป็นนายหญิงของที่นี่แน่นอน
“ช่างเถอะค่ะ...เถียงไปสามก็แพ้พี่จิอยู่ดีว่าแต่เรื่องอะไรเหรอคะที่จะคุยกับสามน่ะค่ะ?” เธอมองหน้าอีกฝ่ายอย่างต้องการรู้เกี่ยวกับเรื่องที่เขายังรั้งเธอไว้ตอนนี้
“เรื่องของเรา...”

“...เรื่องของเรา....อะไรเหรอคะ?” เขมวันต์ออกอาการงงหนัก เมื่อเขาพูดขึ้นมาอย่างนี้เพราะเธอไม่รู้จริงๆ ว่าเรื่องของเรามันคืออะไร ก็เธอไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกันเลยนี่นา

จิรกิตติ์จ้องหน้าอีกฝ่ายอย่างอ่อนโยนเขาไม่เคยเกิดความรู้สึกกับใครรุนแรงอย่างนี้มาก่อนเลย แค่ได้พบหน้าเธอครั้งแรกเขาก็ไม่อาจจะถอนสายตาจากเธอได้เลย สาวน้อยผิวขาว ตาโต ท่าทางอ้อนๆ เป็นลูกแมวน้อยของเธอหากว่าเธอมากับเขาบ้างคงจะรู้สึกดีไม่น้อย ตลอดหลายวันมานี้เขาสำรวจความรู้สึกของตัวเองแล้วว่ารู้สึกกับคนตรงหน้าแบบไหน เขาตอบตัวเองได้เลยว่าเขาคิดกับเธอแบบ...คนรักและอยากจะใช้ชีวิตร่วมกัน แม้วาเขากับเธอจะห่างกันหลายปีและการใช้ชีวิตก็ตามแต่เขาเชื่อว่าเขาและเธอสามารถปรับตัวเข้าหากันได้ หากว่าเธอรู้สึกแบบเดียวกับเขา...หากว่าตอนนี้ยังเขาก็ทำให้เธอรักเขาได้แน่ ดูท่าทางเธอแล้วไม่ได้รังเกียจอะไรเขาเลยมีเพียงแค่อาการเกร็งเท่านั้น

“ใช่ครับเรื่องของเรา....สามไม่รู้สึกเหรอว่าระหว่างเรามันมีอะไรอยู่น่ะ?” ชายหนุ่มเอ่ยเสียงเบา แต่หนักแน่น กุมมือบางของเธอเอาไว้

“ตะ..แต่...คือว่ายังไงดีละสามกับพี่จิไม่ได้สนิทกันหรือว่าเป็นอะไรกันนี่คะคงไม่มีเรื่องของเราหรอกมั้งคะ?” เธอมองเขาอย่างไม่แน่ใจ ว่าเขาหมายถึงอะไรแม้ว่าเธอจะไม่เคยมีคนรักแต่วาเธอก็ไม่ได้ไร้เดียงสาเกินไปว่าสายตาเขาที่เขามองมามันสื่อถึงเธอยังไง แต่เธอแค่ไม่แน่ใจเท่านั้นเอง และไม่อยากทึกทักเอาเองว่าเขาคิดอะไรกับเธอ

“หึๆ ไม่แปลกหรอกถ้าสามจะรู้สึกอย่างนั้น...แต่สามไม่รู้เลยเหรอว่าพี่รู้สึกยังไงน่ะ?” ชายหนุ่มเลิกคิ้วมองหน้าอีกฝ่ายอย่างข้องใจ ว่าเธอไม่รับรู้เลยว่าที่เขาแสดงออกต่อเธอน่ะมันหมายถึงอะไร

“เอ่อ...ไม่รู้ซิคะสามกับพี่จิ...เอ่อ...เราไม่ได้สนิทกันและเพิ่งเจอหน้ากันไม่นานด้วย” แม้ว่าเธอพอจะรู้เรื่องเพื่อนรักของพี่ชายคนโตอยู่บ้างแต่ว่าเธอไม่เคยเจอหน้าเขาแม้แต่ครั้งเดียวจนโตเป็นสาวนี่ละ...และมันก็ทำให้เธอหวั่นไหวอย่างมาก

“สาม..แน่ใจแล้วเหรอว่าระหว่างเราไม่มีอะไรน่ะ?...แต่พี่มั่นใจว่ามีนะ...ดูอย่างตอนนี้ซิสามแทบจะไม่มองหน้าพี่ด้วยซ้ำ..เวลาที่พี่มองตาสามเองก็ต้องหลบทุกครั้งและอาการหน้าแดงของสามนี่ละเขาเรียกอะไรไม่มีอะไรงั้นเหรอ?” จิรกิตติ์บรรยายอาการของหญิงสาวออกมาเป็นฉากๆ

“เอ้อ...แล้วมันยังไงเหรอคะ?” เขมวันต์ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี เธอยอมรับแหละว่าเป็นอย่างทีเขาพูดมาแต่มันเกี่ยวอะไรด้วยละ...

“แล้วสามไม่อยากรู้เหรอว่าความรู้สึกที่เกิดกับสามน่ะมันเรียกว่าอะไร?” ชายหนุ่มเลิกคิ้วมองอย่างหยอกเย้าและยิ้มออกมาอย่างอารมณ์ดี เมื่อเห็นว่าเธอไม่ได้มีทีท่ารังเกียจเขาอย่างที่กังวลมีเพียงอาการเขินอายเท่านั้นที่แสดงออกมาให้เห็น

“ไม่รู้ซิคะแล้วเรื่องของสามมันเกี่ยวอะไรกับพี่จิละคะ?” เธอเอียงคอมองหน้าเขาอย่างน่ารัก เธอเองก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าเขาจะสื่อความหมายอะไรกับเธอกันแน่

“พี่รักสาม” เขาเอ่ยออกมาเพียงสั้นๆ เท่านั้นเล่นเอาสาวน้อยถึงกับมองเขาตาโตอย่างตกใจและคาดไม่ถึงว่าเขาจะเอ่ยออกมาทื่อๆ อย่างนั้น ตอนนี้สมองเธอมันตันไปหมดคิดอะไรไม่ออกหลังจากโดนเล่นงานด้วยคำตรงๆ ของเขาเมื่อครู่นี้



อักษรจัญจ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 26 ต.ค. 2555, 20:18:35 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 26 ต.ค. 2555, 20:18:35 น.

จำนวนการเข้าชม : 2792





<< ตอนที่ 28   
นกขมิ้น 26 ต.ค. 2555, 21:01:15 น.
อัพต่อเถอะค่ะ คิดถึงมากๆๆๆ สนุ๊กสนุก


คิมหันตุ์ 27 ต.ค. 2555, 00:23:36 น.
แหม่..พี่จิ...ไวทันใจมากค่ะ ^^


anOO 27 ต.ค. 2555, 12:01:56 น.
ยัยสามโดนแบบนี้ ตั้งตัวไม่ทันเลยล่ะซิ


หมูอ้วน 27 ต.ค. 2555, 12:57:22 น.
พี่จิ เดินหน้าลุยเต็มที่เลยนะเนี่ย


sirynth 31 ต.ค. 2555, 11:57:08 น.
he's fast, su su ka P' Ji.


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account