Melodies of fantasy
บนโลกใบนี้ มีเหตุการณ์ต่างๆ เกิดขึ้นมากมายในแต่ละวัน ยิ่งในอินเตอร์เน็ตด้วยแล้ว มีข้อมูลนับล้านๆ ข้อมูล ครอบคลุมไปหมดทุกเรื่อง แม้แต่สิ่งลี้ลับอย่าง แวมไพร์, พ่อมดแม่มด, เวทมนต์คาถา หรือแม้แต่ ผี!
Tags: ผจญภัย แฟนตาซี โรแมนติก

ตอน: ตอนที่ 4 งานเต้นรำ (ตอนจบ)


วันงานเต้นรำ ...ช่วงเช้า

ช่วงสองวันที่อยู่ในเดลี่ฯ นอกจากการไปเอาน้ำยาปีศาจที่ศาสตราจารย์เคเทิลเบิร์นแล้ว ซิกนัสหมดเวลาไปกับการเที่ยว โดยมีเจ้าชายริคแฟลมเป็นไกด์นำทาง หลังจากเกิดเรื่องขึ้นในวันนั้น เขาไม่ได้เจอแวมไพร์ชิฟตี้อีกเลย ส่วนเจ้าหญิงก็เก็บความรู้สึกได้ดี เธอกับอาร์คาสช่วยบัตเตอร์เตรียมงานเต้นรำ แต่ใบหน้าดูซีดเซียว และอาการเหนื่อยหน่ายเศร้าซึมของจูเลียน่า ทำให้บัตเตอร์สงสัย เขารอโอกาสถามใครสักคน

วันนี้เป็นวันงานเต้นรำ เจ้าชายริคแฟลมยุ่งมาก ไรอันจึงเดินเตร่ไปมาภายในเดลี่ฯ นักเรียนทุกคนตื่นเต้นกับงานครั้งนี้มาก ชุดที่ใส่ในงานคืนนี้เจ้าชายสั่งคนเตรียมไว้ให้ซิกนัสแล้ว แต่คู่เต้นรำเนี่ยซิปัญหาใหญ่ เขายังหาไม่ได้เลย นัยน์ตาสีฟ้าเหลือบไปเห็นประธานบัตเตอร์กำลังเดินเข้ามา

“ไม่จำเป็นต้องหลบหน้า บัตเตอร์ควรได้รู้เสียที” เด็กหนุ่มคิดในใจ เมื่อประธานมาถึงก็ถามทันที

“มันเกิดอะไรขึ้น? นายคงรู้นะว่าฉันพูดเรื่องอะไร” น้ำเสียงของบัตเตอร์ดูวางอำนาจพอสมควร อาจเป็นเพราะเขาติดจะสั่งคนอื่นจนชินแล้วก็ได้

ไรอันเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนั้นให้ฟัง อันที่จริง ซิกนัสคิดว่า ตัวเองจะได้เห็นสีหน้าดีใจของบัตเตอร์เสียอีก แต่ผิดคาด ประธานดูอึ้งไป

“แรง แรง” บัตเตอร์พูดได้แค่นั้น

“ผมคิดว่าคุณจะดีใจเสียอีก ถ้าแวมไพร์ชิฟตี้ไม่กลับมา คุณก็จะสมหวังกับเจ้าหญิง”

“นายคิดว่ามันจะเป็นอย่างนั้นจริง ๆ เหรอ” บัตเตอร์ถามเสียงเรียบ

“ไม่จริงหรอก มันไม่ครบสูตร” ซิกนัสตอบชัดเจน

“สูตร ?”

“หนึ่งคือตัวประธาน สองคือความใกล้ชิด สามคือผู้หญิงที่รัก แต่ขาดข้อสำคัญ คือ ขาดโอกาส” เด็กหนุ่มอธิบาย

บัตเตอร์หัวเราะเยาะคำพูดของซิกนัส

“ฉันซิที่ทุกคนยอมรับ ฉันซิที่เหมาะสมทุกอย่าง ฉันยังมีโอกาสอยู่แน่นอน มากกว่าเจ้าแวมไพร์นั่นด้วยซ้ำ”

“ไม่มีเลย” เด็กหนุ่มยืนยัน

“อะไรนะ?”

“โอกาสนั้นคือ ช่องว่างในหัวใจ ประธานน่าจะรู้ว่า หัวใจขององค์หญิงเต็มอัดแน่นไปด้วยความรักที่มีต่อคุณชิฟตี้ เธอมีเขาเพียงคนเดียว เท่ากับมีทุกอย่าง แวมไพร์ชิฟตี้คือความสุขที่ไม่รู้จักจบสิ้น ถ้าหัวใจของผู้หญิง
คนใดเต็มเปี่ยมไปด้วยรัก แล้วโอกาสจะมีที่ไหน”

พ่อมดบัตเตอร์รู้สึกแปลบปลาบขึ้นมาในจิตใจ มันเป็นความเจ็บปวดซึ่งไม่มีทางระบายออกมา ใบหน้าเศร้าสลดลง จะโกรธเคืองก็ไม่ถนัด เพราะมันเป็นความจริง

ไรอันเหลือบมองหน้าเศร้าของประธานนิดหนึ่ง ก่อนพูดต่อว่า

“ทุกอย่างเป็นเรื่องของผู้หญิง ถ้าผู้หญิงคนใจหัวใจยังพร่องอยู่ ยังมีความใฝ่ฝัน ประธานก็ยังมีโอกาส”
ความเงียบเกิดขึ้นชั่วขณะ แล้วประธานบัตเตอร์ก็เดินจากไปอย่างคนอกหัก

“น่าสงสารประธานบัตเตอร์” เสียงผู้หญิงดังมาจากข้างหลังซิกนัส

สาวน้อยผมสีทอง ตาสีมรกต และมีปานดำครึ่งหน้า มือถือหนังสือเล่มใหญ่ เดินออกมาจากหลังต้นไม้ที่ไรอันยืนอยู่

“คุณพูดตรงเกินไป” เธอตำหนิเขา

“เออ ผมคิดว่า ประธานควรยอมรับความจริง” ซิกนัสพูดตะกุกตะกัก พลางมองปานดำบนใบหน้าสาวน้อย มันเด่นชัดมากแถมยังมีขนขึ้นเต็มไปหมด

“หน้าตาฉันน่าเกลียดมากใช่ไหมล่ะ” สาวหน้าตาอัปลักษณ์พูดเสียงขึ้นจมูก

“ไม่ ไม่ครับ ถ้าคุณอยู่บนโลกมนุษย์ แล้วทำศัลยกรรม คุณจะต้องเป็นคนสวยมากๆ”

“แก้ตัว” สาวน้อยแหว สะบัดหน้าเดินหนีไป

“เดี๋ยว คุณจะไปไหนครับ” ซิกนัสรีบก้าวเท้าตาม

“ที่ไหนล่ะ ที่คนไปครั้งเดียวแล้วไม่กลับคืนมาอีก ฉันจะไปที่นั่นแหละ”

“ป่าช้าใช่ไหม แล้วไปทำอะไรที่นั่นครับ” เด็กหนุ่มอมยิ้ม

“ไปเก็บพุทราเย็น พุทราร้อน” น้ำเสียงไพเราะตอบกลับมา ใบหน้าอัปลักษณ์ชำเลืองมองซิกนัส เธออยากรู้ว่าเขาจะตอบว่าอย่างไร เด็กหนุ่มก็รู้ทันกัน รีบอาสาทันที

“ผมจะเก็บให้ครับ”

สาวอัปลักษณ์พาซิกนัสขึ้นขี่ม้ามังกรมาที่ต้นพุทราใกล้ๆ กับป่าช้า ต้นพุทราต้นใหญ่กว่าบนโลกมนุษย์สองเท่า เด็กหนุ่มปีนขึ้นต้นพุทรา แล้วให้สาวน้อยรออยู่ข้างล่าง

“อยากได้พุทราร้อนหรือเย็นก่อนครับ” ซิกนัสตะโกนลงมา

“พุทรามีเย็นหรือร้อนด้วยเหรอคะ” เธอแกล้งถามเสียงใส ในเรื่องที่เธอเพิ่งบอกแก่เขา เด็กหนุ่มสำราญใจตอบกลับไป

“มีจริง ๆ ครับ อยากรับประทานอันไหนก่อน”

“ลองพุทราร้อน ๆ ก่อนซิคะ”

หนุ่มลูกครึ่งเก็บผลพุทราแก่ โยนลงไปบนดินที่มีฝุ่นดินเยอะ ๆ พร้อมกับเชิญชวน

“พุทราร้อน ๆ คร้าบบบบบบ”

สาวน้อยอัปลักษณ์ยิ้มกว้าง เดินไปหยิบผลพุทราที่เปื้อนฝุ่นจนต้องปัดเป่าเอาฝุ่นออกจากพุทรา มีอาการเหมือนกินของร้อน ๆ ที่ต้องเป่าก่อนรับประทาน

“พุทราเย็น ๆ คร้าบบบบบบบ”

ซิกนัสโยนผลพุทราลงบนผืนผ้าที่สาวน้อยใช้ไม้กายสิทธิ์เสกให้ลอยขึ้นมารองรับ ทั้งคู่นั่งกินพุทราที่เก็บมา คุยกันถูกคอพลางหัวเราะกันไป ภายใต้แสงแดดอ่อนยามเช้า และสายลมที่เย็นสบายใต้ต้นพุทรานั้น
ตกเย็น ทั้งคู่จึงขี่มังกรบินกลับมาที่เดลี่ฯ

“คุณซิกนัสสสสสสส” กระจอกข่าวสาวคนเดิมรีบร้อนมาหาซิกนัส เธอรายงานทันที

“คุณซิฟตี้เข้าพบเจ้าชายริคแฟลมแล้วค่ะ เมื่อกี้นี้เอง ฮะซุคิดว่า คุณคงอยากรู้”

“ขอบคุณมาก คุณฮะซุ” ซิกนัสหันไปถามสาวน้อยข้างกาย

“คืนนี้ไปงานเต้นรำกับผมได้ไหมครับ”

สาวน้อยเงยหน้ามองซิกนัสด้วยความแปลกใจ ใบหน้าเธอแดงเรื่อกับบางสิ่งที่มองเห็นในนัยน์ตาสีน้ำทะเลของเขา พลางพยักหน้ารับคำชวน

“คงแปลกนะครับ ถ้าผมยังไม่รู้ชื่อคู่เต้นรำของตัวเอง” ซิกนัสยิ้มกว้าง เห็นเหล็กดัดฟันสีฟ้า
สาวน้อยกวักมือให้เขาก้มตัวลงมา แล้วกระซิบแผ่วเบาข้างหูของไรอัน

ปราสาทนักเรียนเอลฟ์

เจ้าชายริคแฟลมยืนรอชิฟตี้อยู่กลางห้องโถงใหญ่ โดยมีเจ้าหญิงจูเลียน่า อาร์คาส ซิกนัส และเหล่านักเรียนเอลฟ์ ยืนรายล้อมรอบห้องโถง แวมไพร์ชิฟตี้เดินเข้ามาโค้งคำนับ เจ้าชายพยักหน้ารับ

“นายมาทำไม” เจ้าชายเอ่ยถาม

“กระหม่อมเป็นหนึ่งในองครักษ์” แวมไพร์รูปหล่อกล่าวเสียงหนักแน่น พลางยืดตัวตรงด้วยศักดิ์ศรีของเลือดแวมไพร์

“ครั้งหนึ่งนายเคยจากไปแล้ว นายมีเหตุผลอะไรที่กลับมา”

“พวกนักเรียนปีศาจไม่พอใจที่ไคยัมแพ้การประลอง พวกมันอาจก่อความวุ่นวายในงานเลี้ยงเต้นรำ กระหม่อมจึงคิดว่า ควรมารายงานให้ฝ่าบาททรงทราบ และฝ่าบาทอาจต้องการตัวกระหม่อม กระหม่อมถึงมาที่นี่”

“มีข่าวเช่นนั้นจริงๆ แต่ฉันไม่สัญญาว่าจะยกน้องสาวให้นายเพื่อแลกกับความภักดีนี้” เจ้าชายกล่าวเสียงเย็นชา

“กระหม่อมไม่ได้หวังพะยะค่ะ” แวมไพร์ซิฟตี้ตวัดสายตาไปทางเจ้าหญิงแวบเดียว สีหน้าเรียบเฉย

ริคแฟลมไตร่ตรองคำพูดและความมั่นคงในสายตาของชิฟตี้ ก่อนจะเอ่ยออกมาในที่สุด

“นายจะเป็นแวมไพร์ต่อไป และนั่นคือสิ่งที่ควรเป็น ยินดีต้อนรับ ซิฟตี้”

เจ้าชายยื่นมือออกมาและแวมไพร์หนุ่มจับมัน เหล่านักเรียนเอลฟ์เข้ามาห้อมล้อมหนุ่มทั้งสองพร้อมกับส่งเสียงตะโกนร้อง ตบหลังไหล่ซิฟตี้ แสดงความดีใจ ทุกคนยินดีกับการกลับมาของชิฟตี้ ยกเว้นเจ้าหญิงจูเลียน่า ! นัยน์ตาสีมรกตทั้งเย็นชาและชิงชัง เธอเดินออกไปจากห้องโถงทันที แวมไพร์มองตามหลังเธอด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

ซิกนัสไม่เข้าใจท่าทีของเจ้าหญิงจูเลียน่าเลย แต่เขาไม่มีเวลามาครุ่นคิดมากนัก งานเต้นรำกำลังจะเริ่มขึ้นและเขาต้องเตรียมตัว

ระหว่างแต่งตัวอยู่ในห้อง ไรอันได้ยินเสียงประตูห้องเปียโนเปิดออก ด้วยความสงสัยจึงเดินไปดู

“เจ้าหญิงจูเลียน่า !” หนุ่มลูกครึ่งขมวดคิ้ว เมื่อเห็นเจ้าหญิงนั่งนิ่งอยู่ในชุดราตรีสวยงามสีชมพู

“เข้ามาซิ ซิกนัส คุณรู้ไหมเจ้าตัวร้ายปีกสีดำนั่นบังอาจทำอะไร.....เขาทำให้ตัวเองได้รับแต่งตั้งเป็นองครักษ์ส่วนตัวของฉัน ยังกับฉันต้องมีนักนี่” องค์หญิงฉุน

“โดยเจ้าชายริคแฟลม?”

“จะมีใครอีกล่ะ” จูเลียน่าพูดเสียงห้วน

“นั่นน่าจะทำให้ เพื่อเป็นกำลังใจแก่คุณซิฟตี้ กับการกลับมาของเขา”

“อ๋อ ใช่ มากขนาดปฏิเสธฉันต่อหน้าทุกคน ทั้ง ๆ ที่เขาสามารถต่อต้านพี่ชายฉันได้ เขาไม่จำเป็นต้องกลับมา เพื่อแลกกับตำแหน่งบ้าบออะไรนี่เลย”

“ผมรู้ว่า คุณซิฟตี้ทำแบบนั้นทำไม เจ้าชายริคแฟลมดูหมิ่นศักดิ์ศรีแวมไพร์ขนาดนั้น แต่เขาก็กลับมาหาองค์
หญิง เห็นชัดออกว่า เขารักองค์หญิงมากแค่ไหน เป็นไปได้ไหมว่า นั่นอาจเป็นการทดสอบของเจ้าชาย” ซิกนัสหยั่งเชิงถามองค์หญิง

“ก็เป็นได้ และเขาก็ผ่านการทดสอบ ทำให้พี่ชายพอใจ แล้วฉันล่ะ” เจ้าหญิงจูเลียน่ากัดริมฝีปาก พลางเหวียงเท้าลงจากโซฟาเดินจากไป

นั่นเป็นเหตุผลว่า ทำไมองค์หญิงจูเลียน่าถึงงอน เธอชอบความไว้ตัวของแวมไพร์ซิฟตี้ ศักดิ์ศรีของแวมไพร์ ความเป็นตัวของตัวเอง และรักอิสระ มากกว่าแวมไพร์ที่ต้องกลับมาเพื่อรัก แล้วละทิ้งสิ่งเหล่านั้น

“อา อิทธิพลของแวมไพร์” ซิกนัสอมยิ้ม


งานเลี้ยงฉลองครบรอบหมื่นปี ของโรงเรียนเดลี่ฯ ทุกอย่างจัดได้อย่างสวยงามภายในประสาทใหญ่ นักเรียนเดลี่ฯ ทุกคนออกมาต้อนรับแขกผู้มีเกียรติหลายคนที่มาในงาน เริ่มจากแม่มดริต้า หนึ่งในผู้นำสูงสุดของโลกเวทมนต์ และคนที่ไรอันจำได้แม่นยำคือ แม่มดด๊อบบี้เจ กษัตริย์แห่งเอลฟ์ แวมไพร์ และปีศาจ ต่างมาร่วมงานด้วย

เสียงดนตรีบรรเลงบนเวที คู่เต้นรำต่างทยอยเข้ามา เริ่มจากเจ้าชายริคแฟลมกับเอลฟ์ฮะซุ เจ้าหญิงจูเลียน่ากับเอลฟ์โคแจฟ บัตเตอร์กับอาร์คาส และคนอื่นที่ทยอยเข้ามาจนเต็มห้องโถง งานเริ่มขึ้น ซิกนัสเฝ้ารอคู่ของเขา แต่ไม่มีวี่แววว่าจะมา


ในที่สุด หนุ่มลูกครึ่งก็เดินเข้าไปในงานเพียงลำพัง เอาเครื่องดื่มแล้วไปยืนข้างโซฟาที่ตั้งอยู่ข้างฝาผนัง แวมไพรชิฟตี้ดูจะเป็นอีกคนหนึ่งที่ไร้คู่เต้นรำคืนนี้ ตามมายืนอีกข้างหนึ่งของโซฟา

แวมไพร์หนุ่มคุยกับไรอัน ถึงเรื่องดนตรีที่บรรเลง และคนเล่นดนตรี แต่เขาดูเศร้าสร้อย สายตาไม่ละจากจูเลียน่า ขณะที่เธอเดินไปทั่วห้องโดยไม่มองมาทางชิฟตี้เลย ความเงียบเกิดขึ้นยาวนานเมื่อแวมไพร์หนุ่มมององค์หญิงเล่นหูเล่นตากับเอลฟ์คนหนึ่ง มือเขายึดโซฟาไว้แน่นจนข้อนิ้วขาวซีด เขาสบถเป็นภาษาละตินโบราณที่ซิกนัสฟังไม่เข้าใจ

“เธอต้องการอะไรจากผม เจ้าหญิงจูเลียน่าคนนี้ ผมมอบความรักของผม หัวใจของผม ทั้งหมดที่ผมเป็นแก่เธอ ผมทนคำดูหมิ่นเพื่อแลกกับความปราณีจากพี่ชายของเธอ ผมละทิ้งถิ่น ละทิ้งคนของผมเพื่อเธอ ผมจะทำอะไรได้มากกว่านี้อีก” แวมไพร์หนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงท้อแท้

“คุณให้องค์หญิงมากมาย อาจมากเกินไป แล้วคุณขออะไรจากเธอ” ซิกนัสถาม

“แค่ความรักจากเธอ”

“แต่คุณไม่อยากรู้จักเธอ รู้ว่าเธอคิดและฝันอะไร อะไรทำให้เธอหัวเราะหรือร้องไห้บ้างเหรอ”

“มากยิ่งกว่าอะไร แต่ผมจะเรียนรู้สิ่งเหล่านั้นได้ยังไง ถ้าเธอไม่ยอมให้ผมเข้าใกล้”

“คุณจะทำยังไง ถ้าเธอเป็นแค่ผู้หญิงแวมไพร์และทำกับคุณแบบนี้” เด็กหนุ่มยิ้มกว้าง
แวมไพร์หนุ่มหัวเราะในลำคอ “นั่นง่ายมาก”

“แล้วไงล่ะ? ถึงเธอจะเป็นเจ้าหญิงเอลฟ์ แต่ก็เป็นผู้หญิงคนหนึ่ง” ซิกนัสแนะ
ชิฟตี้มองหน้าเด็กหนุ่มอย่างฉงน แล้วพูดช้าๆ

“ช่ายยย และถ้าเธอยังรังเกียจผม มันก็ไม่มีทางเลวร้ายไปกว่านี้”
ว่าแล้ว แวมไพร์หนุ่มก็เดินเข้าไปในวงเต้นรำโค้งกายต่อหน้าเจ้าหญิง จูเลียน่าพูดบางอย่างแล้วหมุนตัวหนี ชิฟตี้คว้าแขนไว้แล้วดึงเธอจนเสียหลักเซมาปะทะอกเขา ทันใดนั้น ชิฟตี้ก้มตัวลงอุ้มเจ้าหญิงขึ้นมา แล้วเดินตรงไปยังประตูของห้องโถงออกไป เจ้าหญิงดิ้นรนผลักอกเขาแต่เธอไม่กรีดร้องขอความช่วยเหลือ มันเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและเงียบเชียบ มีเพียงไม่กี่คนที่หันไปมอง

ถัดจากนั้นไม่กี่นาที...........หญิงสาวน่ารักคนหนึ่งก็ปรากฏตัวระหว่างประตูห้องโถง เธอมีใบหน้าเนียนใสสีชมพู จมูกโด่ง นัยน์ตากลมโตสีนิล ริมฝีปากสีชมพู และผมสีดำสลวยตัดกับชุดราตรีสีฟ้า รูปร่างสง่างาม พาให้คนในงานหันมามองเธอเป็นตาเดียว

สาวสวยผู้นั้นกวาดตามองไปรอบห้องโถง เมื่อเห็นคนที่ต้องการก็เดินเข้าไปหา ซิกนัสยืนที่เดิมพลางมองสาวผู้มาใหม่ด้วยความสนใจ สาวน้อยเดินเข้ามาใกล้เท่าไร ซิกนัสยิ่งเห็นความสวยน่ารักมากขึ้นเท่านั้น เหลือเชื่อที่เธอมาหยุดตรงหน้าเขา

“รอนานไหมค่ะ” เธอเอ่ยขึ้น

“เออ เออ จำผิดคนแล้วครับ” ซิกนัสปฏิเสธเสียงแผ่ว นึกอิจฉาหนุ่มผู้โชคดีคนนั้น

“ไม่ผิดหรอกค่ะ คุณซิกนัส” เธออมยิ้ม พลางเอามือปิดหน้าที่เคยมีปานดำ
หนุ่มลูกครึ่งถึงกับอ้าปากค้าง ร้องอุทานออกมา

“พีฟส์!!”

“อา...พีฟส์ไม่สวยเหรอค่ะ” สาวน้อยอมยิ้ม แกล้งก้มมองชุดราตรีสีฟ้าของตัวเอง

“ไม่! คุณ สวยมาก จนผมจำไม่ได้” ซิกนัสพูดติดอ่าง และเธอก็ขันในท่าทางเงอะงะของเขา

พีฟส์ สบตาสีฟ้าของซิกนัส พลางพูดเสียงอ่อนหวานว่า

“น่าแปลกใจ ที่คุณรอแม่มดหน้าตาอัปลักษณ์โดยไม่โค้งผู้หญิงคนอื่น”

“เพราะไม่มีใครน่าสนใจ และคนที่น่าสนใจก็เพิ่งจะมา ทำไมล่ะครับ” ซิกนัสถาม เวลานี้หัวใจเขาพองโตอย่างมีความสุข

“เพราะมนุษย์ผู้ชาย เปลี่ยนใจง่ายจนน่าเศร้าใจ เลยต้องลองใจค่ะ” พีฟส์ตอบ

“ไม่ใช่แวมไพร์ชิฟตี้คนเดียวหรอกที่อ่อนไหวกับสาวสวย ผมเองก็ดูจะอ่อนไหวกับแม่มดขี้เล่นคนนี้เหมือนกัน”ผมคิด และแอบยิ้มกว้างออกมา

เราทั้งคู่เต้นรำไปรอบห้อง แม่มดสาวเผยความลับเรื่องปานดำว่า เธอร่ายคาถาในหนังสือผิดเลยเกิดปานดำที่หน้า ดีที่หาคาถาแก้ได้ทัน พีฟส์ไม่รู้หรอกว่า เธอน่ารักเสมอในสายตาของผม

ไม่ไกลจากตรงนั้น ผมเห็นแม่มดด็อบบี้ เจ ยืนยิ้มแป้นอยู่ เธอขยิบตาให้ผมราวกับจะถามว่า “เป็นยังไงล่ะ” ผมอมยิ้มพยักหน้าตอบกลับไป เป็นของขวัญวันคล้ายวันเกิดที่ดีที่สุดสำหรับผมเลยล่ะ ผมมีความสุขมาก (^^)

เวลาดึกตีสาม หลายคนเริ่มแยกย้ายกันกลับบ้าน เหลือเพียงนักเรียนเดลี่ฯ ไม่กี่คน ผมขึ้นไปบนเวทีขอให้นักดนตรีเล่นเพลงหนึ่ง ไม่มีเพลงไหนจะเหมาะ สำหรับค่ำคืนอันแสนอบอุ่นและมีความสุขล้นหัวใจ เท่ากับเพลงนี้เลย

เพลง Nothing gonna change my love for you คำแปลโดย คุณหิมะเดือนหก

“ถ้าหากผมต้องดำเนินชีวิตต่อไปโดยไม่มีคุณเคียงข้าง
กลางวันคงจะผ่านไปโดยไร้ความหมาย
กลางคืนคงจะยาวนานไม่มีที่สิ้นสุด

คุณคือแสงนำทางของชีวิตผม
ถึงแม้นว่าผมอาจจะเคยมีความรักมาก่อน
แต่มันไม่เคยมั่นคงอย่างนี้มาก่อนเลย
ความฝันของเราเพิ่งเริ่มต้น

และเราต่างก็รู้ดีว่า ฝันของเราจะเป็นความจริงสักวัน
รับผมไว้ในอ้อมกอดของคุณ
มอบสัมผัสอันอบอุ่นให้กับผม

ผมอยากอยู่กับคุณไปตลอดกาล
ไม่มีสิ่งใดที่จะเปลี่ยนใจรักของผมไปจากคุณได้
คุณคงรู้ว่าผมรักคุณแค่ไหน

สิ่งหนึ่งที่คุณแน่ใจได้เลยก็คือผมไม่ต้องการอะไรอีกแล้วนอกจากรักของคุณ
ไม่มีสิ่งใดที่จะเปลี่ยนใจรักของผมไปจากคุณได้
คุณคงรู้ว่าผมรักคุณแค่ไหน

ถึงแม้โลกจะเปลี่ยนชีวิตผมไปทั้งชีวิต แต่มันไม่สามารถเปลี่ยนความรักที่
ผมมอบให้คุณได้หรอก

แม้นหนทางข้างหน้าไม่ได้โรยไว้ด้วยกลีบกุหลาบ
แต่ความรักของเราจะนำทางให้กับเรา เหมือนกับดาวเหนือที่ส่องนำทาง
ผมจะอยู่เคียงข้างคุณเสมอในยามที่คุณต้องการ

คุณไม่ต้องทำอะไรเพื่อผมหรอก
ผมรักคุณในแบบที่คุณเป็น
มาร่วมก้าวไปในชีวิตพร้อมกับผมสิ
แล้วผมจะเป็นแสงส่องนำทางชีวิตให้กับคุณเช่นกัน....”

เวลาแห่งความสุขหมดไปอย่างรวดเร็ว คืนนั้นผมนอนหลับในปราสาทเอลฟ์ที่เดลี่ฯ และตื่นขึ้นมาบนห้องนอนในบ้านของตัวเอง ผมคิดว่าตัวเองฝันไป จนกระทั่ง น้องสาวผู้น่ารักของผม ส่งเสียงดังอยู่หน้าห้องนอน

“พี่...แฟนมารออยู่ข้างล่าง”

“ใคร? พี่เลิกไปหมดแล้ว” ผมตะโกนออกไปอย่างเซ็งๆ

“ฮื่อ เมื่อก่อนมีแฟนกี่คนเนี่ย” เสียงมาก่อนตัว ผมสะดุ้งสุดตัว

“พีฟส์!!!”

ใช่แล้วครับ เธอคือแม่มดสาวที่ผมรักที่สุดในชีวิต และทำให้ผมรู้ว่า เรื่องราวทั้งหมดเป็นความจริง
----------------------------------------- จบ --------------------------------------

http://www.youtube.com/watch?v=Tr97MQiqW38



เกร็ดหิมะ
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 27 ต.ค. 2555, 23:03:20 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 28 ต.ค. 2555, 01:04:08 น.

จำนวนการเข้าชม : 1012





<< ตอนที่ 3 ท่วงทำนองแห่งแฟนตาซี   
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account