แผนลวงบ่วงรัก
เดี๋ยวมาอัพ ต้องขอโทษด้วยนะคะนิยายที่นำมาลงไม่ใช่ฉบับรีไรต์เขียนไปลงไปบางครั้งมีส่วนที่แก้ไขแต่ยังไม่ได้อัพแก้ให้
Tags: ยาบ้า ยาไอซ ยาอี โสเภณี นางฟ้า
ตอน: ตอนที่ 8 รวบรัก รวบรัด
ตอนที่ 8 รวบรัก รวบรัด
ตลาดสดยามเช้าแม่บ้านทั้งหลายมักจะมารวมตัวกันที่นี่เพื่อจับจ่ายซื้อวัตถดิบไปประกอบอาหารเช่นเดียวกับยาหยีและแม่ชื้น คุณอันดาเปรยๆว่าอย่างทานมัสมั่น ยาหยีจึงคิดจะทำให้ท่านทาน
“สวัสดีครับป้าชื่นมาซื้ออะไรเหรอครับ” น้ำเสียงของชายวัยยี่สิบกว่าดังมาจากด้านหลังทำให้แม่บ้านสาวใหญ่กับยาหยีหันไปมอง
“อ้าว! คุณภัทรเองเหรอคะลมอะไรหอบมากันคะถึงได้มาเดินตลาดเช้าได้” แต่นางก็พอจะรู้แกวจากเด็กรับใช้ที่บ้านคุณภัทรว่าเขาให้ความสนใจในตัวหนูยาหยี ผู้หญิงที่เจ้านายของเธอผู้กองปันบุรีไม่ค่อยจะปล่อยให้คาดสายตาแต่นางชื้นไม่รู้ว่าเพราะอะไร
สาวใช้บ้านคุณภัทรที่ทำตัวเป็นแม่สื่อมาสอบถามเรื่องของยาหยีกับแม่ชื้นจึงแทรกขึ้น “ลมรักมั้งคะป้า”
“นี่! หล่อนก็พูดไปดูสิคุณภัทราหน้าแดงหมดแล้วลมรักอะไรกัน” นางชื้นแกล้งไม่เข้าใจ
“ไม่ทราบว่าซื้ออะไรกันอยู่เหรอครับ” คนถามมองไปที่ยาหยีอย่างรอคำตอบ
“น้ำพริกแกงมัสมั่นค่ะ”
“แกงมัสมั่นไปอยู่เมืองนอกมาหลายปีผมรู้สึกคิดถึงรสชาติของมันทันทีเลยครับ กลิ่นมันทั้งหอม ทั้งหมด รสชาติอมหวานอมเปรี้ยวเค็มเล็กน้อยกลมกล่อม พูดแล้วก็อยากจะทาน”
“คุณยาหยีทำอาหารอร่อยมาก ถ้าคุณภัทรอยากลองชิมฝีมือของเธอป้าจะตักไปให้ที่บ้าน”
“อย่าเลยครับผมเกรงใจน่ะครับ คุณยาหยีอุตสาห์ตั้งใจทำให้คนที่บ้านนั้นทานผมจะมาแย่งทานอีก” เขาแกล้งบ่ายเบี่ยง
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะแกงเป็นหม้อๆ คงทานกันไม่หมดในมื้อเดียว ทำเสร็จแล้วยาหยีจะให้คนเอาไปให้คุณก็แล้วกัน” ยาหยีพูดไปตามมารยาท
“นับว่าเป็นลาภปากของผมจริงๆเลยนะครับที่ได้มาเจอคนสวย แถมใจดีอย่างคุณยาหยี” เขาอยากจะเติมคำว่ายอดรักต่อท้ายให้เธอด้วย หญิงสาวมีรูปร่างโดนตา หน้าตาถูกใจ เขาจริงๆ ยิ่งรู้ว่าเธอมีฝีมือการทำอาหารนับว่าเป็นยอดหญิงแห่งยุคนี้ไปอยู่เมืองนอกเพื่อเรียนต่อปริญญาโทด้านเศรษฐศาสตร์เสียนานแต่ภัทรก็ไม่คิดจะหาฝรั่งสาวๆมาเป็นลูกสะใภ้เพราะทราบดีว่ามารดาไม่ถูกใจแน่
“แค่เรื่องเล็กๆน้อยเท่านั้นเองค่ะ ถ้าเป็นบ้านฉันที่ต่างจังหวัดแกงหม้อนึงก็ตักแจกกันรอบบ้านแล้ว”
“แต่แกงมัสหมั่นที่บ้านผมรสเผ็ดจัดจ้าน คุณภัทรจะกินได้เหรอครับ” น้ำเสียงนิ่งๆราบเรียบแบบนี้ภัทรคิดว่าตนเองทายไม่ผิดว่าเป็นใครที่ส่งเสียงอยู่ด้านหลังเขา
“ที่แท้ก็คุณปันบุรีนี่เอง ไม่ได้พบกันเสียนาน” ภัทรยกมือไหว้เพราะอายุอ่อนกว่าหลายปี ปันบุรีรับไหว้ที่จริงเขาก็เห็นนายภัทรมาตั้งแต่นายภัทรยังเป็นเด็กและชอบอัธยาศัย แต่ไม่รู้ทำไมเช้าวันนี้เขาเองกับรู้สึกเห็นหน้านายภัทรแล้วพาลหงุดหงิด
“ไหนว่ามาจ่ายกับข้าวไม่เห็นจะได้อะไรเลย ผมหิวจนไส้แทบจะขาดแล้วนะคุณ”
“ดิฉันจะรีบซื้อของและรีบกลับไปทำอาหารให้ผู้กองค่ะ”
“ก็ดีเพราะตอนนี้ผมหิวจนแทบจะกินคนได้อยู่แล้ว”ปันบุรีกระซิบข้างหูหญิงสาว เขาเอื้อมมือมารับตะกร้าจ่ายตลาดของยาหยี
“ได้สิคะดิฉันจะทำให้อร่อยสุดฝีมือ เพราะมื้อนี้จะเป็นมื้อสุดท้ายของคุณ”
“นี่คุณผมอายุแค่สามสิบต้นๆจะรีบแช่งให้ตายไปไหน”
“ฉันไม่ได้แช่งค่ะ แค่จะบอกว่าจะเป็นมื้อสุดท้ายที่ฉันจะทำอาหารให้คุณทาน เพราะวันนี้คงเป็นวันสุดท้ายที่ฉันจะอาศัยบ้านของคุณในเมื่อเรื่องทุกอย่างก็จบลงแล้ว อ้อ…แต่ฉันยังไม่ลืมนะเงินห้าหมื่นน่ะ”
“งก จริงๆผู้หญิงอะไร”
ภัทรมองปันบุรีและผู้หญิงที่เขาให้ความสนใจต่อล้อต่อเถียงกันเบาๆอยู่สองคนท่าทางพ่อแง่แม่งอนแต่มองอีกทีก็เหมือนกะหนุงกะหนิงกัน ทำให้เขาชักเริ่มไม่แน่ใจว่าตนเองกำลังวอนหาเรื่องเจ็บตัวเพราะริอาจไปจีบแฟนตำรวจเข้าหรือไม่เพราะวันนี้พี่ปันพี่ชายที่เขานับถือคนหนึ่งเหมือนจะมองเขาตาขวางๆอย่างไรชอบกลสงสัยเขาคงจะต้องให้สาวใช้ไปสืบให้แน่ใจเสียก่อนว่าทั้งสองคนมีสถานภาพใดต่อกัน
“คุณภัทรถ้าอย่างนั้นผมคงต้องขอตัวพายาหยีกลับบ้านก่อนนะครับ”
“เชิญครับพี่ปัน คุณยาหยี” ภัทรยังอดที่จะมองตามยาหยีไม่ได้
ปันบุรีเดินนำสองสาวต่างวัยไปที่รถดูเหมือนเขาจะไม่ได้สนใจอาหารคาวหวาน หรือผักผลไม้ในตลาดสดเลยสักนิดใจเขาจดจ่ออยู่กับการพายาหยีขึ้นรถกลับบ้านเพื่อไม่ให้เธอต้องตกเป็นอาหารตาให้นายภัทร หรือพ่อค้าในตลาดได้มองกัน เพราะเขาเห็นผู้ชายบางคนมองยาหยีจนตาค้าง จนเขาอยากจะเดินกลับไปถามไอ้หมอนั่นว่าจะมองผู้หญิงของเขาอีกนานไหมถึงการมองจะไม่ได้ทำให้เธอนั้นเสียหายแต่เขาแค่ไม่พอใจที่มีคนมามองผู้หญิงที่เขาตั้งใจจะเอามาเป็นของเขาให้ได้เพียงแต่เขายังไม่เคยเผยความในใจให้เธอรู้
“เดินเร็วจังค่ะผู้กองฉันกับป้าชื่นเดินตามแทบจะไม่ทัน และเราก็ยังไม่ได้ของสดด้วย”
“เช้านี้ผมจะดื่มแค่กาแฟที่คุณชงให้เท่านั้น ส่วนมัสหมั่นเอาไว้ค่อยให้แม่ชื่นทำตอนเย็นก็ได้นี่”
“อ้าว! แล้วกันไหนว่าหิวจนตาลาย” ยาหยีหันไปมองหน้าแม่ชื่นและไหวไหล่งงกับอาการคนที่เดินนำอยู่ข้างหน้า
“บ่นเก่งจริงยังไม่แก่สักหน่อยก็ผมเหนื่อยจนหายหิวแล้วก็เท่านั้น ถ้าคุณเดินไม่ไหวผมอุ้มไปก็ได้นะ”เขาตอบเธอเบาๆแถมยังสบตาส่งสายตาเจ้าเล่ห์มาให้ยาหยีอีก
“คนบ้า พูดอะไรออกมาน่าเกลียดฉันคงไม่ใจกล้าขนาดจะให้ผู้ชายมาอุ้มกลางตลาดด้วยเหตุผลแค่เมื่อยขาหรือเดินตามไม่ทัน”
“ถ้าอย่างนั้นต้องขอโทษทีที่ๆเข้าใจผิด ก็ผมเห็นคุณเดินช้าๆ ทำท่าเหมือนว่าอยากจะโดนอุ้ม” ยาหยีเก็บเสียงกรีดร้องแต่กรี๊ดอยู่ในใจ
“ตำรวจปากตลาด” เธอว่าเขา
“ใครว่าปากตลาด ปากหวานผมก็ทำได้ไม่เชื่อถ้าให้ชิม”เขามองหน้าเธอและส่งยิ้มเจ้าเล่ห์ เล่นแจกขนมจีบกลางตลาดแม่ชื่นเองถึงกับร้องอ้ออยู่ในใจ แม่บ้านสูงวัยเริ่มมองออกว่าเจ้านายของเธอมีอะไรแปลกไปในระยะหลังยิ่งเมื่อเห็นสายตาบางครั้งที่มองคุณภัทรแม่ชื่นเองก็บอกตัวเองว่าเกือบจะทำให้ตนเองตกงานเสียแล้วคุณปันบุรีคงจะไม่ได้คิดกับคุณยาหยีคนสวยแค่ให้ความคุ้มครองเธอในฐานะเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือในฐานะที่คุณยาหยีคือลูกสาวของเพื่อนแม่ แต่ที่ไม่ปล่อยให้ห่างตัวเพราะคุณปันคงคิดจะหาคุณนายให้กับคนในบ้านสิมิลัน อันดาอย่างแน่นอนผู้ผ่านน้ำร้อนมาก่อนเริ่มมั่นใจ
++++++++++++++++++++++++++++++
“อะไรกันหนูยาหยีจู่ๆจะมาทิ้งป้าไปแบบนี้ป้าก็ใจหายแย่ล่ะสิอยู่ร่วมบ้านกันมาตั้งหลายเดือน ไม่ได้นะป้าไม่ให้ไปงานที่โรงพยาบาลก็ไม่ได้ทำแล้วจะไปอยู่ที่ไหนมาอยู่ด้วยกันเสียที่นี่ บริษัทป้าก็มีอยากทำงานจริงๆป้าจะให้หนูทำจนพอใจ”
“อย่าพูดแบบนี้สิคะคุณป้าหนูยิ่งเกรงใจ คุณป้าและคุณลุงดีกับหนูมามาก แต่จะให้หนูรบกวนคุณป้าต่อไปได้อย่างไรคะในเมื่องานของผู้กองเขาก็เสร็จสิ้นแล้ว”
“งานจบแต่คนยังไม่จบนี่จ้ะหนู”
ยาหยีมีสีหน้าฉงน “หมายความว่าอย่างไรคะคุณป้า”
ลูกชายยังไม่ไปถึงไหนคนเป็นแม่จะออกตัวแรงแซงหน้าคงไม่เหมาะ “ไม่มีอะไรหรอกหนูป้าก็พูดไปเรื่อยตามประสาคนแก่ ถ้าหนูจะไปให้ได้ป้าก็คงไม่บังคับแต่ป้าจะขอร้องให้หนูอยู่ดูแลบ้านให้ป้าสักสองสัปดาห์จะได้ไหม”
“มีอะไรเหรอคะคุณป้า”
“ก็ลุงกับป้าจะต้องไปดูงานที่ต่างประเทศ ต้องทิ้งบ้านไปนานๆป้าก็เป็นห่วงยิ่งพักนี่ตาปันสุขภาพไม่ค่อยดีเพราะกำลังป่วยป้าก็ยิ่งห่วงไม่อยากจะไปทำงานเลยหนูช่วยดูแลบ้านและลูกชายของป้าต่อไปสักสองสัปดาห์จะได้ไหม ”
“ผู้กองเขาป่วยเป็นอะไรเหรอคะคุณป้า” ยาหยีมีสีหน้าเครียดขึ้นเธอเห็นเขาก็ปกติดีนี่เขาป่วยหรอกหรือ ความห่วงใยแล่นเขากุมหัวใจของหญิงสาว
“ตาปันน่ะกำลังป่วยแต่ไม่ยอมบอกใคร”
“ผู้กองเป็นอะไรหรือคะคุณป้า ร้ายแรงมากเหรอคะ” น้ำเสียงแสดงความสนใจ สีหน้าอยากรู้คุณอันดาลอบยิ้มคงช่วยลูกชายได้เท่านี้ที่เหลือคงต้องปล่อยให้ผู้กองผู้ฉ่ำฉองในการปราบโจรมาปราบหัวใจหญิงสาวให้อยู่หมัดเอาเอง
คุณอันดาถอนหายใจไม่ตอบคำถาม ทำให้ยาหยียิ่งอยากรู้ที่ผ่านมาเธอไม่เห็นเขาจะแสดงอาการป่วยออกมาให้เห็นสักนิด
“คุณป้าคะผู้กองอาการย่ำแย่หรือคะเขาป่วยเป็นอะไรกันแน่ทำไมคุณป้าถึงเงียบ”
คุณอันดาเงียบเพราะไม่รู้จะพูดอย่างไรว่าลูกชายกำลังป่วยด้วยโรคหัวใจขาดรัก และช่วงนี้เหมือนภูมิต้านทานโรคจะยิ่งอ่อนแอ
“โรคหัวใจน่ะหนูป้าไม่อยากพูดอะไรมากกว่านี้ หนูอยากรู้อะไรลองถามเจ้าตัวเขาเองดีกว่า” พลางถอนใจราวกับหนักอกหนักใจ ก็นางอายุมากแล้วจึงไม่อยากจะโกหกแต่การพูดแค่สั้นคงไม่ผิดมากหรอกมั้ง
“นี่ผู้กองเป็นโรคหัวใจเหรอคะ ยังอายุไม่มากทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้”ยาหยีรู้สึกห่วงเขาขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
คุณอันดาไม่กล้าบอกว่าลูกชายเป็นโรคหัวใจอ่อนแอ มีแต่สาวน้อยตรงหน้าที่จะรักษาโรคนี้ได้
“เป็นอันว่าหนูยาหยีจะช่วยดูแลพี่เขา และบ้านของป้าแทนป้าสักระยะจะได้ไหม”
ยาหยีพยักหน้า ให้นางขอมากกว่านี้เธอก็เต็มใจที่จะทำอยู่แล้วเพราะคนในบ้านนี้ดีกับเธอมากและเธอก็รู้สึกห่วงผู้กองไม่อยากทิ้งเขาไปเช่นกัน ทำไมนะเขาไม่เคยบอกเธอ ใช่สิเขาจะบอกทำไมเธอไม่ใช่คนสำคัญของเขาสักนิด
++++++++++++++++++++++++++++++
“อะไรนะครับคุณแม่” ปันบุรีมองภาพกระเป๋าเดินทางใบโตหลายใบที่คนขับรถยกมากองเอาไว้เตรียมจะยกขึ้นรถ
“พ่อกับแม่จะไปฮันนีมูนกันรอบสอง จะเที่ยวให้รอบโลกทำงานหนักมามากแล้วอยู่ทางนี้พ่อกับแม่ทั้งเปิดทางทั้งวางแผนไว้ให้ถ้าลูกยังพิชิตใจหนูยาหยีไม่ได้อีกคงรู้นะว่าชาตินี้ลูกของแม่คงจะได้เป็นผู้ชายขึ้นคานอย่างแน่นอน”
“นี่ถ้าพ่อหล่อเหมือนลูกนะรับรองว่าหนูยาหยีตกล่องปล่องชิ้นกับพ่อไปนานแล้ว” คนพูดน้อยอย่างคุณสิมิลันเอ่ยขึ้นก่อนจะโอบเอวของภรรยาที่ยังมีเคล้าความงามหลงเหลืออยู่ไปขึ้นรถคันงามทิ้งลูกชายคนเดียวให้ปฏิบัติการล่าหัวใจเพียงลำพัง
“คุณว่ากลับมาฉันจะได้ลูกสะใภ้ไหมคะ” คุณอันดาสบตาสามี
“เสือมันชอบซ่อนเล็บนะคุณ เห็นซื่อๆเรื่องความรักแบบนี้เพราะที่ผ่านมาน่ะตาปันไม่ได้สนใจใครจริงจัง แต่กับหนูยาหยีเชื่อผมเถอะเราไปเที่ยวรอบโลกกันกลับมาคราวนี้คุณอาจจะได้ข่าวดีว่ากำลังจะมีหลานก็ได้” คุณอันดาตีแขนสามีเบาๆ
“คุณนี่พูดอะไรน่าเกลียดจริงๆ ฉันไม่ชอบนะคะให้ลูกชายไปรังแกผู้หญิงแบบนั้น”
“ใครว่ารังแกเขาเรียกว่ารวบรักและรวบรัดต่างหาก ถ้ามัวแต่ช้าๆกว่าจะจีบกันติดมีหวังคุณอาจจะได้เป็นย่าตอนอายุแปดสิบ”
“คุณคิดว่าถ้าลูกเราเดินตามเกมปกติมันจะช้าขนาดนั้นเลยเหรอคะ”
“ก็ตาปันมันมีแต่ผู้หญิงวิ่งเข้ามาหา ผมไม่เคยเห็นมันจะจีบผู้หญิงคนไหนก่อน มือใหม่หัดจีบก็แบบนี้แหละผมถึงต้องสอนปฏิบัติการรวบรักและรวบรัด มัดมือชก”
คุณอันดามองหน้าสามีด้วยแววตาอึ้ง หน้าแดง และพูดไม่ออก
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ตลาดสดยามเช้าแม่บ้านทั้งหลายมักจะมารวมตัวกันที่นี่เพื่อจับจ่ายซื้อวัตถดิบไปประกอบอาหารเช่นเดียวกับยาหยีและแม่ชื้น คุณอันดาเปรยๆว่าอย่างทานมัสมั่น ยาหยีจึงคิดจะทำให้ท่านทาน
“สวัสดีครับป้าชื่นมาซื้ออะไรเหรอครับ” น้ำเสียงของชายวัยยี่สิบกว่าดังมาจากด้านหลังทำให้แม่บ้านสาวใหญ่กับยาหยีหันไปมอง
“อ้าว! คุณภัทรเองเหรอคะลมอะไรหอบมากันคะถึงได้มาเดินตลาดเช้าได้” แต่นางก็พอจะรู้แกวจากเด็กรับใช้ที่บ้านคุณภัทรว่าเขาให้ความสนใจในตัวหนูยาหยี ผู้หญิงที่เจ้านายของเธอผู้กองปันบุรีไม่ค่อยจะปล่อยให้คาดสายตาแต่นางชื้นไม่รู้ว่าเพราะอะไร
สาวใช้บ้านคุณภัทรที่ทำตัวเป็นแม่สื่อมาสอบถามเรื่องของยาหยีกับแม่ชื้นจึงแทรกขึ้น “ลมรักมั้งคะป้า”
“นี่! หล่อนก็พูดไปดูสิคุณภัทราหน้าแดงหมดแล้วลมรักอะไรกัน” นางชื้นแกล้งไม่เข้าใจ
“ไม่ทราบว่าซื้ออะไรกันอยู่เหรอครับ” คนถามมองไปที่ยาหยีอย่างรอคำตอบ
“น้ำพริกแกงมัสมั่นค่ะ”
“แกงมัสมั่นไปอยู่เมืองนอกมาหลายปีผมรู้สึกคิดถึงรสชาติของมันทันทีเลยครับ กลิ่นมันทั้งหอม ทั้งหมด รสชาติอมหวานอมเปรี้ยวเค็มเล็กน้อยกลมกล่อม พูดแล้วก็อยากจะทาน”
“คุณยาหยีทำอาหารอร่อยมาก ถ้าคุณภัทรอยากลองชิมฝีมือของเธอป้าจะตักไปให้ที่บ้าน”
“อย่าเลยครับผมเกรงใจน่ะครับ คุณยาหยีอุตสาห์ตั้งใจทำให้คนที่บ้านนั้นทานผมจะมาแย่งทานอีก” เขาแกล้งบ่ายเบี่ยง
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะแกงเป็นหม้อๆ คงทานกันไม่หมดในมื้อเดียว ทำเสร็จแล้วยาหยีจะให้คนเอาไปให้คุณก็แล้วกัน” ยาหยีพูดไปตามมารยาท
“นับว่าเป็นลาภปากของผมจริงๆเลยนะครับที่ได้มาเจอคนสวย แถมใจดีอย่างคุณยาหยี” เขาอยากจะเติมคำว่ายอดรักต่อท้ายให้เธอด้วย หญิงสาวมีรูปร่างโดนตา หน้าตาถูกใจ เขาจริงๆ ยิ่งรู้ว่าเธอมีฝีมือการทำอาหารนับว่าเป็นยอดหญิงแห่งยุคนี้ไปอยู่เมืองนอกเพื่อเรียนต่อปริญญาโทด้านเศรษฐศาสตร์เสียนานแต่ภัทรก็ไม่คิดจะหาฝรั่งสาวๆมาเป็นลูกสะใภ้เพราะทราบดีว่ามารดาไม่ถูกใจแน่
“แค่เรื่องเล็กๆน้อยเท่านั้นเองค่ะ ถ้าเป็นบ้านฉันที่ต่างจังหวัดแกงหม้อนึงก็ตักแจกกันรอบบ้านแล้ว”
“แต่แกงมัสหมั่นที่บ้านผมรสเผ็ดจัดจ้าน คุณภัทรจะกินได้เหรอครับ” น้ำเสียงนิ่งๆราบเรียบแบบนี้ภัทรคิดว่าตนเองทายไม่ผิดว่าเป็นใครที่ส่งเสียงอยู่ด้านหลังเขา
“ที่แท้ก็คุณปันบุรีนี่เอง ไม่ได้พบกันเสียนาน” ภัทรยกมือไหว้เพราะอายุอ่อนกว่าหลายปี ปันบุรีรับไหว้ที่จริงเขาก็เห็นนายภัทรมาตั้งแต่นายภัทรยังเป็นเด็กและชอบอัธยาศัย แต่ไม่รู้ทำไมเช้าวันนี้เขาเองกับรู้สึกเห็นหน้านายภัทรแล้วพาลหงุดหงิด
“ไหนว่ามาจ่ายกับข้าวไม่เห็นจะได้อะไรเลย ผมหิวจนไส้แทบจะขาดแล้วนะคุณ”
“ดิฉันจะรีบซื้อของและรีบกลับไปทำอาหารให้ผู้กองค่ะ”
“ก็ดีเพราะตอนนี้ผมหิวจนแทบจะกินคนได้อยู่แล้ว”ปันบุรีกระซิบข้างหูหญิงสาว เขาเอื้อมมือมารับตะกร้าจ่ายตลาดของยาหยี
“ได้สิคะดิฉันจะทำให้อร่อยสุดฝีมือ เพราะมื้อนี้จะเป็นมื้อสุดท้ายของคุณ”
“นี่คุณผมอายุแค่สามสิบต้นๆจะรีบแช่งให้ตายไปไหน”
“ฉันไม่ได้แช่งค่ะ แค่จะบอกว่าจะเป็นมื้อสุดท้ายที่ฉันจะทำอาหารให้คุณทาน เพราะวันนี้คงเป็นวันสุดท้ายที่ฉันจะอาศัยบ้านของคุณในเมื่อเรื่องทุกอย่างก็จบลงแล้ว อ้อ…แต่ฉันยังไม่ลืมนะเงินห้าหมื่นน่ะ”
“งก จริงๆผู้หญิงอะไร”
ภัทรมองปันบุรีและผู้หญิงที่เขาให้ความสนใจต่อล้อต่อเถียงกันเบาๆอยู่สองคนท่าทางพ่อแง่แม่งอนแต่มองอีกทีก็เหมือนกะหนุงกะหนิงกัน ทำให้เขาชักเริ่มไม่แน่ใจว่าตนเองกำลังวอนหาเรื่องเจ็บตัวเพราะริอาจไปจีบแฟนตำรวจเข้าหรือไม่เพราะวันนี้พี่ปันพี่ชายที่เขานับถือคนหนึ่งเหมือนจะมองเขาตาขวางๆอย่างไรชอบกลสงสัยเขาคงจะต้องให้สาวใช้ไปสืบให้แน่ใจเสียก่อนว่าทั้งสองคนมีสถานภาพใดต่อกัน
“คุณภัทรถ้าอย่างนั้นผมคงต้องขอตัวพายาหยีกลับบ้านก่อนนะครับ”
“เชิญครับพี่ปัน คุณยาหยี” ภัทรยังอดที่จะมองตามยาหยีไม่ได้
ปันบุรีเดินนำสองสาวต่างวัยไปที่รถดูเหมือนเขาจะไม่ได้สนใจอาหารคาวหวาน หรือผักผลไม้ในตลาดสดเลยสักนิดใจเขาจดจ่ออยู่กับการพายาหยีขึ้นรถกลับบ้านเพื่อไม่ให้เธอต้องตกเป็นอาหารตาให้นายภัทร หรือพ่อค้าในตลาดได้มองกัน เพราะเขาเห็นผู้ชายบางคนมองยาหยีจนตาค้าง จนเขาอยากจะเดินกลับไปถามไอ้หมอนั่นว่าจะมองผู้หญิงของเขาอีกนานไหมถึงการมองจะไม่ได้ทำให้เธอนั้นเสียหายแต่เขาแค่ไม่พอใจที่มีคนมามองผู้หญิงที่เขาตั้งใจจะเอามาเป็นของเขาให้ได้เพียงแต่เขายังไม่เคยเผยความในใจให้เธอรู้
“เดินเร็วจังค่ะผู้กองฉันกับป้าชื่นเดินตามแทบจะไม่ทัน และเราก็ยังไม่ได้ของสดด้วย”
“เช้านี้ผมจะดื่มแค่กาแฟที่คุณชงให้เท่านั้น ส่วนมัสหมั่นเอาไว้ค่อยให้แม่ชื่นทำตอนเย็นก็ได้นี่”
“อ้าว! แล้วกันไหนว่าหิวจนตาลาย” ยาหยีหันไปมองหน้าแม่ชื่นและไหวไหล่งงกับอาการคนที่เดินนำอยู่ข้างหน้า
“บ่นเก่งจริงยังไม่แก่สักหน่อยก็ผมเหนื่อยจนหายหิวแล้วก็เท่านั้น ถ้าคุณเดินไม่ไหวผมอุ้มไปก็ได้นะ”เขาตอบเธอเบาๆแถมยังสบตาส่งสายตาเจ้าเล่ห์มาให้ยาหยีอีก
“คนบ้า พูดอะไรออกมาน่าเกลียดฉันคงไม่ใจกล้าขนาดจะให้ผู้ชายมาอุ้มกลางตลาดด้วยเหตุผลแค่เมื่อยขาหรือเดินตามไม่ทัน”
“ถ้าอย่างนั้นต้องขอโทษทีที่ๆเข้าใจผิด ก็ผมเห็นคุณเดินช้าๆ ทำท่าเหมือนว่าอยากจะโดนอุ้ม” ยาหยีเก็บเสียงกรีดร้องแต่กรี๊ดอยู่ในใจ
“ตำรวจปากตลาด” เธอว่าเขา
“ใครว่าปากตลาด ปากหวานผมก็ทำได้ไม่เชื่อถ้าให้ชิม”เขามองหน้าเธอและส่งยิ้มเจ้าเล่ห์ เล่นแจกขนมจีบกลางตลาดแม่ชื่นเองถึงกับร้องอ้ออยู่ในใจ แม่บ้านสูงวัยเริ่มมองออกว่าเจ้านายของเธอมีอะไรแปลกไปในระยะหลังยิ่งเมื่อเห็นสายตาบางครั้งที่มองคุณภัทรแม่ชื่นเองก็บอกตัวเองว่าเกือบจะทำให้ตนเองตกงานเสียแล้วคุณปันบุรีคงจะไม่ได้คิดกับคุณยาหยีคนสวยแค่ให้ความคุ้มครองเธอในฐานะเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือในฐานะที่คุณยาหยีคือลูกสาวของเพื่อนแม่ แต่ที่ไม่ปล่อยให้ห่างตัวเพราะคุณปันคงคิดจะหาคุณนายให้กับคนในบ้านสิมิลัน อันดาอย่างแน่นอนผู้ผ่านน้ำร้อนมาก่อนเริ่มมั่นใจ
++++++++++++++++++++++++++++++
“อะไรกันหนูยาหยีจู่ๆจะมาทิ้งป้าไปแบบนี้ป้าก็ใจหายแย่ล่ะสิอยู่ร่วมบ้านกันมาตั้งหลายเดือน ไม่ได้นะป้าไม่ให้ไปงานที่โรงพยาบาลก็ไม่ได้ทำแล้วจะไปอยู่ที่ไหนมาอยู่ด้วยกันเสียที่นี่ บริษัทป้าก็มีอยากทำงานจริงๆป้าจะให้หนูทำจนพอใจ”
“อย่าพูดแบบนี้สิคะคุณป้าหนูยิ่งเกรงใจ คุณป้าและคุณลุงดีกับหนูมามาก แต่จะให้หนูรบกวนคุณป้าต่อไปได้อย่างไรคะในเมื่องานของผู้กองเขาก็เสร็จสิ้นแล้ว”
“งานจบแต่คนยังไม่จบนี่จ้ะหนู”
ยาหยีมีสีหน้าฉงน “หมายความว่าอย่างไรคะคุณป้า”
ลูกชายยังไม่ไปถึงไหนคนเป็นแม่จะออกตัวแรงแซงหน้าคงไม่เหมาะ “ไม่มีอะไรหรอกหนูป้าก็พูดไปเรื่อยตามประสาคนแก่ ถ้าหนูจะไปให้ได้ป้าก็คงไม่บังคับแต่ป้าจะขอร้องให้หนูอยู่ดูแลบ้านให้ป้าสักสองสัปดาห์จะได้ไหม”
“มีอะไรเหรอคะคุณป้า”
“ก็ลุงกับป้าจะต้องไปดูงานที่ต่างประเทศ ต้องทิ้งบ้านไปนานๆป้าก็เป็นห่วงยิ่งพักนี่ตาปันสุขภาพไม่ค่อยดีเพราะกำลังป่วยป้าก็ยิ่งห่วงไม่อยากจะไปทำงานเลยหนูช่วยดูแลบ้านและลูกชายของป้าต่อไปสักสองสัปดาห์จะได้ไหม ”
“ผู้กองเขาป่วยเป็นอะไรเหรอคะคุณป้า” ยาหยีมีสีหน้าเครียดขึ้นเธอเห็นเขาก็ปกติดีนี่เขาป่วยหรอกหรือ ความห่วงใยแล่นเขากุมหัวใจของหญิงสาว
“ตาปันน่ะกำลังป่วยแต่ไม่ยอมบอกใคร”
“ผู้กองเป็นอะไรหรือคะคุณป้า ร้ายแรงมากเหรอคะ” น้ำเสียงแสดงความสนใจ สีหน้าอยากรู้คุณอันดาลอบยิ้มคงช่วยลูกชายได้เท่านี้ที่เหลือคงต้องปล่อยให้ผู้กองผู้ฉ่ำฉองในการปราบโจรมาปราบหัวใจหญิงสาวให้อยู่หมัดเอาเอง
คุณอันดาถอนหายใจไม่ตอบคำถาม ทำให้ยาหยียิ่งอยากรู้ที่ผ่านมาเธอไม่เห็นเขาจะแสดงอาการป่วยออกมาให้เห็นสักนิด
“คุณป้าคะผู้กองอาการย่ำแย่หรือคะเขาป่วยเป็นอะไรกันแน่ทำไมคุณป้าถึงเงียบ”
คุณอันดาเงียบเพราะไม่รู้จะพูดอย่างไรว่าลูกชายกำลังป่วยด้วยโรคหัวใจขาดรัก และช่วงนี้เหมือนภูมิต้านทานโรคจะยิ่งอ่อนแอ
“โรคหัวใจน่ะหนูป้าไม่อยากพูดอะไรมากกว่านี้ หนูอยากรู้อะไรลองถามเจ้าตัวเขาเองดีกว่า” พลางถอนใจราวกับหนักอกหนักใจ ก็นางอายุมากแล้วจึงไม่อยากจะโกหกแต่การพูดแค่สั้นคงไม่ผิดมากหรอกมั้ง
“นี่ผู้กองเป็นโรคหัวใจเหรอคะ ยังอายุไม่มากทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้”ยาหยีรู้สึกห่วงเขาขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
คุณอันดาไม่กล้าบอกว่าลูกชายเป็นโรคหัวใจอ่อนแอ มีแต่สาวน้อยตรงหน้าที่จะรักษาโรคนี้ได้
“เป็นอันว่าหนูยาหยีจะช่วยดูแลพี่เขา และบ้านของป้าแทนป้าสักระยะจะได้ไหม”
ยาหยีพยักหน้า ให้นางขอมากกว่านี้เธอก็เต็มใจที่จะทำอยู่แล้วเพราะคนในบ้านนี้ดีกับเธอมากและเธอก็รู้สึกห่วงผู้กองไม่อยากทิ้งเขาไปเช่นกัน ทำไมนะเขาไม่เคยบอกเธอ ใช่สิเขาจะบอกทำไมเธอไม่ใช่คนสำคัญของเขาสักนิด
++++++++++++++++++++++++++++++
“อะไรนะครับคุณแม่” ปันบุรีมองภาพกระเป๋าเดินทางใบโตหลายใบที่คนขับรถยกมากองเอาไว้เตรียมจะยกขึ้นรถ
“พ่อกับแม่จะไปฮันนีมูนกันรอบสอง จะเที่ยวให้รอบโลกทำงานหนักมามากแล้วอยู่ทางนี้พ่อกับแม่ทั้งเปิดทางทั้งวางแผนไว้ให้ถ้าลูกยังพิชิตใจหนูยาหยีไม่ได้อีกคงรู้นะว่าชาตินี้ลูกของแม่คงจะได้เป็นผู้ชายขึ้นคานอย่างแน่นอน”
“นี่ถ้าพ่อหล่อเหมือนลูกนะรับรองว่าหนูยาหยีตกล่องปล่องชิ้นกับพ่อไปนานแล้ว” คนพูดน้อยอย่างคุณสิมิลันเอ่ยขึ้นก่อนจะโอบเอวของภรรยาที่ยังมีเคล้าความงามหลงเหลืออยู่ไปขึ้นรถคันงามทิ้งลูกชายคนเดียวให้ปฏิบัติการล่าหัวใจเพียงลำพัง
“คุณว่ากลับมาฉันจะได้ลูกสะใภ้ไหมคะ” คุณอันดาสบตาสามี
“เสือมันชอบซ่อนเล็บนะคุณ เห็นซื่อๆเรื่องความรักแบบนี้เพราะที่ผ่านมาน่ะตาปันไม่ได้สนใจใครจริงจัง แต่กับหนูยาหยีเชื่อผมเถอะเราไปเที่ยวรอบโลกกันกลับมาคราวนี้คุณอาจจะได้ข่าวดีว่ากำลังจะมีหลานก็ได้” คุณอันดาตีแขนสามีเบาๆ
“คุณนี่พูดอะไรน่าเกลียดจริงๆ ฉันไม่ชอบนะคะให้ลูกชายไปรังแกผู้หญิงแบบนั้น”
“ใครว่ารังแกเขาเรียกว่ารวบรักและรวบรัดต่างหาก ถ้ามัวแต่ช้าๆกว่าจะจีบกันติดมีหวังคุณอาจจะได้เป็นย่าตอนอายุแปดสิบ”
“คุณคิดว่าถ้าลูกเราเดินตามเกมปกติมันจะช้าขนาดนั้นเลยเหรอคะ”
“ก็ตาปันมันมีแต่ผู้หญิงวิ่งเข้ามาหา ผมไม่เคยเห็นมันจะจีบผู้หญิงคนไหนก่อน มือใหม่หัดจีบก็แบบนี้แหละผมถึงต้องสอนปฏิบัติการรวบรักและรวบรัด มัดมือชก”
คุณอันดามองหน้าสามีด้วยแววตาอึ้ง หน้าแดง และพูดไม่ออก
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 1 พ.ย. 2555, 01:01:57 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 1 พ.ย. 2555, 01:03:51 น.
จำนวนการเข้าชม : 2685
<< ตอนที่6 แผนลวงบ่วงรัก | ตอนที่ 9 แผนรัก พักร้อน >> |

lovemuay 1 พ.ย. 2555, 05:32:51 น.
พ่อพระเอกเจ๋งอ่ะ +55
พ่อพระเอกเจ๋งอ่ะ +55

อัปสรา 1 พ.ย. 2555, 06:35:55 น.
สวัสดีคจ้าคุณ lovemuay พ่อพระเอกพูดน้อยต่อยหนักค่ะ พระเอกพักหลังเริ่มพูดมากแต่ยังไม่เข้าเป้าสักที เสียดายที่เรื่องนี้จะจบแล้วแบบว่าเป็นเรื่องสั้นน่ะค่ะ
สวัสดีคจ้าคุณ lovemuay พ่อพระเอกพูดน้อยต่อยหนักค่ะ พระเอกพักหลังเริ่มพูดมากแต่ยังไม่เข้าเป้าสักที เสียดายที่เรื่องนี้จะจบแล้วแบบว่าเป็นเรื่องสั้นน่ะค่ะ

mhengjhy 1 พ.ย. 2555, 07:43:19 น.
เด็ดค่ะ คุณพ่อ
เด็ดค่ะ คุณพ่อ

pseudolife 1 พ.ย. 2555, 08:35:01 น.
อ่าวคุณพ่อ สอนอะไรไปค้า
อ่าวคุณพ่อ สอนอะไรไปค้า

คิมหันตุ์ 1 พ.ย. 2555, 12:13:45 น.
คุณพ่อ....สวดยอด!!
คุณพ่อ....สวดยอด!!

