แรงแค้นแรงริษยา
เป็นเรื่องราวของ "ราณี" หญิงสาวที่เดิบโตขึ้นมาโดยมีแม่คอยเลี้ยงดูอย่างตามใจมาตั้งแต่เล็กแค่คนเดียว เพราะพ่อของเธอได้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถชนต่อหน้าต่อตาเธอเมื่อเธอยังเด็ก เธอจำได้แค่หน้าคนที่ชนพ่อเธอเท่านั้น เพราะเด็กก็เลยทำให้เธอโกรธแค้นผู้ชายคนนั้นจนฝังใจ
ราณี เติบโตจนเป็นสาวอายุ 20 หน้าตาสะสวยจนผู้หญิงหลายๆคนอิจฉา เธอถูก แรมใจ แม่ของเธอซึ่งมีอาชีพขายขนมหวานเป็นหลักเลี้ยงมาอย่างตามใจเพราะแรมใจมัวแต่ทำมาค้าขายก็เลยไม่ค่อยได้สนใจลูกสาวของตัวเองเท่าไหร่ จึงทำให้ ราณี กลายเป็นหญิงสาวที่ทะเยอทะยานอยู่ในโลกแห่งความฝัน เธอมักจะคิดว่าสิ่งที่เธอทำถูกเสมอ
ราณี เรียนจบแค่ ม.6 ก็ไม่ยอมไปเรียนต่อ ราณีสนใจแต่เรื่องแต่งตัว กับผู้ชายจนทำให้ แรมใจ หนักใจเป็นอย่างมากแต่ก็ไม่อยากว่าลูกสาวมากเพราะมีกันอยู่แค่สองคนไม่อยากให้ลูกสาวคนเดียวของเธอต้องเป็นคนเก็บกด
ราณี คบกับ อนุ ลูกชายคนเดียวของคุณนายเอี่ยมจิต และ เสี่ยบุญหนัก ซึ่งเป็นเจ้าของตลาดสดที่แม่ของเธอเช่าขายของอยู่ แต่คุณนายเอี่ยมจิตกับเสี่ยบุญหนัก ไม่ชอบ ราณี เพราะเห็นเป็นแค่ลูกแม่ค้าขนมหวาน ทั้งสองจึงได้สู่ขอ อรทิพย์ลูกสาวของเถ้าแก่ร้านทองให้อนุ จึงทำให้ ราณี คับแค้นใจมาก ราณีเข้าไปอาระวาดงานหมั้นของ อนุ จึงถูกคนของ คุณนายเอียมจิตทำร้าย และโดนขู่ว่าถ้า ราณียังมายุ่งกับลูกชายของตนอีกเธอจะส่งคนไปทำร้ายแม่ของเธอ ทั้งยังจะไม่ให้แม่ของเธอมีที่ทำมาหากินอีกด้วย
พอ ราณีรู้ว่าอนุ ไม่ได้รักตนเอง เธอก็ขอแม่เธอเข้ามาอยู่ในกรุงเทพกับ ศจี สาวสวยวัยกลางคนซึ่งเป็นน้าแท้ๆของเธอ แรมใจจึงให้ลูกสาวไปเพราะไม่อยากให้ ราณี คิดมาก ศจีพาราณีมาทำงานในบาร์แห่งหนึ่ง โดยให้ ราณี เป็นสาวเสริฟ แต่เพราะราณี เป็นคนสวยจึงมีหนุ่มๆมาติดมากมาย หนึ่งในนั้นก็คือ วัลลภ นักธุรกิจร้อยล้านซึ่งเขาได้มาเที่ยวกับเพื่อนๆในช่วงวันหยุด
วัลลภ มีภรรยา ชื่อ อริณซึ่งเป็นลูกสาวของนายพลองอาจ และคุณหญิง รัศมี วัลลภและอริณ มีลูกด้วยกันแล้วหนึ่งคนเป็นผู้หญิงชื่อน้อง ต้นอ้อ วัลลภรักภรรยาและลูกสาวของเขามาก ถึงเขาจะเป็นคนเจ้าชู้แต่เขาก็ไม่เคยจริงจังกับใคร เพราะ อริณแสนดีเกินไปจนเขาไม่กล้าทำร้ายจิตใจเธอ และ อริณก็เป็นผู้หญิงคนเดียวที่เขาเลือกแล้วที่จะให้เป็นแม่ของลูก
วัลลภ ได้แอบคบกับ ราณี เขาคิดกับราณีแค่เล่นๆ แต่ ราณีกลับคิดจริงจังกับวัลลภ เพราะถูกศจียุยงส่งเสริมให้จับวัลลภให้ได้ ราณีได้ใช้มารยาหลอกล่อให้วัลลภสงสารและเห็นใจตัวเองจนทำให้วัลลภไม่กล้าเลิกกับเธอ ยิ่งราณีได้รู้จักกับวัลลภ ก็ยิ่งทำให้เธอรักเขามากขึ้นจนอยากได้วัลลภมาเป็นของตนเองแค่คนเดียว ราณีทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะให้ วัลลภกับอริณแยกทางกัน เธอได้ทำความรู้จักกับอริณแฟนของวัลลภโดยบอกว่าเธอเป็นเพื่อนของวัลลภเมื่อตอนที่ยังเรียนมหาลัย อริณก็เชื่อ ยิ่ง ราณีรู้จักกับอริณทำให้เธอได้เจอผู้ชายที่ขับรถชนพ่อของเธอจนเสียชีวิต ยิ่งทำให้แค้นจนอยากทำให้อริณได้รับความสูญเสีย เพราะความแค้นและความหลงผิดของตนเองจึงทำให้ราณีก่อเรื่องวุ่นวายและร้ายแรงขึ้นเรื่อยๆ
เรื่องราวของแรงแค้นและแรงริษยาของ ราณี จะจบลงยังงัยติดตามเนื่้อเรื่องกันต่อไปนะค่ะ


Tags: ราณี

ตอน: เริ่มต้นเรื่องราววุ่นๆ

ราณี เป็นหญิงสาวที่มีหน้าตาสะสวย เป็นที่ต้องตาต้องใจของหนุ่มๆ ที่พบเห็นและเป็นที่น่าอิจฉาสำหรับสาวๆอีกหลายคน ราณีเติบโตมาจากการเลี้ยงดูของนาง แรมใจ ผู้เป็นแม่แท้ๆซึ่งมีอาชีพเป็น แม่ค้าขายขนมหวาน ส่วนพ่อของเธอได้เสียชีวิตเนื่องจากอุบัติเหตุรถชนตั้งแต่ตอนที่เธอยังเด็กแต่เธอก็ยังจำหน้าคนที่ขับรถชนพ่อของเธอได้ไม่ลืม
ราณี ถูกแรมใจ เลี้ยงดูอย่างตามใจมาตลอด ราณีอยากได้อะไร แรมใจก็ให้เพราะเธอไม่มีเวลาให้ลูกเนื่องจากต้องทำมาค้าขาย จนราณี กลายเป็นเด็กที่เอาแต่ใจตัวเอง ไม่ค่อยฟังใคร และชอบคิดว่าสิ่งที่ตัวเองทำนั้นถูกเสมอ
ราณี คบหากับ อนุ ลูกชายคนเดียวของ คุณนายเอี่ยมจิต และเสี่ยบุญหนัก เจ้าของตลาดสดที่แม่ของ ราณี เช่าขายขนมหวานอยู่ คุณนายเอี่ยมจิตและเสี่ยบุญหนัก ไม่ค่อยชอบ ราณีเพราะเห็นว่าเธอเป็นแค่ลูกสาวแม่ค้าขายขนมหวานทั้งสองจึงพยายามหาหญิงสาวหลายๆคนที่เป็นลูกคนมีอันจะกินเหมือนกันมาให้อนุ ได้รู้จัก แต่หญิงสาวคนไหนก็ไม่ถูกตาต้องใจเท่าราณีแฟนสาวของตน จนเมื่อเขาได้เจอกับ อรทิพย์ ซึ่งเป็นลูกสาวคนเดียวของเถ้าแก่ชัยเจ้าของร้านทอง อรทิพย์เป็นหญิงสาวรุ่นราวคราวเดียวกับราณี เธอหน้าตาสะสวยถึงจะไม่เท่าราณีแต่เธอก็มีทุกอย่างครบทั้งเรื่องหน้าตาที่น่ารักแบบคนจีน และทรัพย์สมบัติ อนุได้เจอกับอรทิพย์ก็เกิดความรู้สึกหลงรักทันทีแต่ก็ยังเสียดายราณีอยู่

"เป็นงัยล่ะ ตานุวันนี้ได้เจอหนูอรแล้วเป็นงัยบ้างลูก" คุณนายเอี่ยมจิตถามลูกชาย

"น่ารักครับแม่..ทำไมแม่พึ่งมาแนะนำให้ผมรู้จักเอาตอนนี้ล่ะครับ..ก่อนหน้านั้นทำไมไม่พามา"
อนุพูดทีเล่นทีจริงกับแม่ของตน จนทำให้คุณนายเอี่ยมจิตรู้สึกหมั่นใส้ลูกชาย

"อย่าบอกนะว่าคนนี้แกก็จะปฏิเสธไปอีกคน..ถ้าอย่างนั้นฉันจะได้บอกเถ้าแก่ชัยว่าลูกชายฉันไม่ชอบลูกสาวเค้า..เค้าจะได้ไปให้ลูกชายบ้านอื่นมาดูตัวลูกสาวเค้า" คุณนายเอี่ยมจิตพูดกระเซ้าลูกชายตัวเอง

อนุได้ยินอย่างนั้นก็รีบมาโอบเอวแม่ของตน
"โถ่คุณแม่ครับผมจะกล้าปฏิเสธได้ยังงัยล่ะ น้องอรเค้าน่ารักซะขนาดนั้นแถมยังมีพ่อเป็นถึงเถ้าแก่ร้านทองตั้งหลายสาขาแล้วแบบนี้ เรือล่มในหนองทองจะไปไหนซะล่ะครับคุณแม่"

"คิดได้อย่างนี้ก็ดีแล้ว..อ่อ แล้วเรื่อง นางราณีแกจะทำยังงัยฉันเห็นแกหลงมันหัวปักหัวปำจนไม่ยอมมองสาวคนไหนเลยแล้วแกจะเลิกกับมันได้เหรอ"

"จะยากอะไรล่ะครับแม่..ที่ผมคบกับณีทุกวันนี้ก็แค่ใช้ควงอวดเพื่อนๆ ให้พวกมันอิจฉาก็เท่านั้น..ผมไม่มีวันเอาผู้หญิงใจง่ายอย่าง ราณี มาเป็นแม่ของลูกหรอกครับ" อนุพูดถึงราณีแต่ใจเขากลับคิดหาแต่อรทิพย์แค่คนเดียว

"ถ้าเป็นอย่างที่แกพูดก็ดี มะรืนนี้ฉันจะได้พาแกไปขอหมั้นหนูอรทิพย์ไว้เลย"

"เร็วขนาดนั้นเลยเหรอครับแม่!" อนุทำเสียงตกใจที่เห็นว่าแม่ใจร้อนเกิน

"เร็วตรงไหนหรือว่าแกอยากให้หนูอรเค้าไปชอบคนอื่นก่อนล่ะและอีกอยากวันมะรึนนี้ก็เป็นวันฤกษ์งามยามดี..ถ้าไม่หมั้นไว้ซะตั้งแต่วันนี้..ก็ยาวไปอีกหลายเดือนกว่าจะได้หมั้นป่านนั้นหนูอรเค้าอาจไปชอบผู้ชายคนอื่นแล้วก็ได้" คุณนายเอี่ยมจิตพูดแหย่ลูกชาย ยิ่งทำให้อนุอยากหมั้นกับอรทิพย์เร็วขึ้้น
"คุณแม่ว่ายังงัยผมก็ว่าตามนั้นล่ะครับ" อนุพูดจบก็หอมแม่ตัวเองฟอดใหญ่

ทางด้าน ราณีเธอนั่งดูละครซีรี่ย์เกาหลีอยู่บ้านรอให้อนุโทรหาแต่เค้าก็ไม่โทรหาสักที เธอจึงโทรไปหาแต่อนุก็ไม่รับสายเพราะมัวแต่คุยเรื่องงานหมั้นกับคุณนายเอี่ยมจิตและเสี่ยบุญหนักอยู่
"ทำไมไม่ยอมรับสายซะทีนะพี่นุ" ราณีบ่นอุบ จนทำให้แรมใจรู้สึกรำคาญกับท่าทีของลูกสาวตัวเอง

"จะโทรหาเขาทำไมนักหนาเดี๋ยวเขาก็โทรหาแกเองแหละ ทำอย่างกับเป็นเมียเขาเดี๋ยวเขาก็รำคาญเอาหรอก..มาๆถ้าว่างมากก็มาช่วยฉันทำขนมหวานนี่" แรมใจบอกลูกสาวพลางมือก็วุ่นอยู่แต่กับการทำขนม

"นี่แม่เค้าเป็นแฟนฉัน ฉันก็ต้องห่วงเค้าเป็นธรรมดา..ปกติเค้าจะโทรมาหาฉันเวลานี้ทุกวันแต่วันนี้ทำไมไม่ยอมโทรมา"
ราณีบ่นแล้วก็เดินเข้าห้องนอนตัวเองไป

แรมใจ มองตามลูกสาวอย่างเหนื่อยใจ
"นางลูกคนนี้นี่ วันๆเอาแต่ตามผู้ชาย ดูทีวี เล่นโทรศัพท์ มันไม่คิดจะช่วยแม่ทำมาหากินบ้างเลย" แรมใจบ่นอย่างท้อใจ
แรมใจออกไปขายของที่ตลาด ก็มีจุ๊บแจงแม่ค้าขายผักร้านข้างๆเข้ามาถามถึงเรื่อง อนุกับราณี
"น้าแรม ฉันถามไรหน่อยดิ"

"แกมีไรนางจุ๊บแจงถ้าเป็นเรื่องนินทาชาวบ้าน ไม่ต้องมาถามข้า..ข้าไม่รู้เว้ย.."แรมใจพูดตัดบทอย่างรำคาญเพราะรู้นิสัยจุ๊บแจงเรื่องสอดรู้สอดเห็นเรื่องของชาวบ้านดี

"เปล่านะน้าแรม แต่เรื่องที่ฉันจะถามเนี๊ยะมันเกี่ยวกับน้าแรมโดยตรงเลยนะ" จุ๊บแจงบอกแรมใจอย่างหยั่งเชิง

"เรื่องอะไร ทำมันมันถึงเกี่ยวกับข้าว่ะ" แรมใจถามอย่างสงสัย

"ก็จะเรื่องอะไรล่ะนางแรม เรื่องของลูกสาวตัวดีของแกงัย" ยายไฝ แม่ค้าขายข้าวแกงพูดเสริม

"ทำไม นางณีมันไปก่อเรื่องอะไรอีก..ทำไมฉันไม่เห็นรู้เรื่องอะไรเลยป้า" แรมใจถามยายไฝ

"มันไม่ได้ไปก่อเรื่องอะไรที่ไหนหรอกน้า แต่ฉันแค่จะถามน้าว่าลูกสาวน้ามันเลิกกับลูกชายคุณนายเอี่ยมจิตแล้วเหรอ" จุ๊บแจงถามอย่างอยากรู้

"ฉันจะไปรู้มันเหรอ วันๆเอาแต่ขายของอยู่แบบนี้จะไปรู้เรื่องอะไรของมัน แต่ก็เห็นมันโทรหากันอยู่นี่..ถ้ามันเลิกกันนางณี มันก็ต้องบอกให้ฉันรู้บ้างแหละน่า..เฮ้ยแต่ถ้ามันเลิกกันได้ก็ดีข้าจะได้สบายใจ..ไม่อยากให้อินางคุณนายเอี่ยมมันมาว่าฉันสอนลูกให้จับลูกชายมันอีก.."

"อ้าวฉันก็นึกว่าเลิกกันแล้วซะอีก ก็เห็นวันนี้นางบางคนใช้คุณนายมันมาพูดว่าคุณนายพาลูกชายไปดูตัวลูกสาวของเถ้าแก่ชัยโน่นแหนะ..แล้วมันยังบอกอีกนะน้าว่า วันมะรืนนี้เค้าจะหมั้นกันแล้วด้วย"

"ฉันก็เห็นนางคุณนายมันพาลูกมันไปดูตัวผู้หญิงมาหลายราย นางบางมันก็บอกว่าลูกชายคุณนายจะแต่งหลายรอบแล้วไม่เห็นเป็นอย่างที่มันพูดเลยสุดท้ายข้าก็เห็นไอ่ลูกชายคุณนายมันก็ยังคบอยู่กับลูกนางแรมเหมือนเดิม" ป้าไฝพูดใส่จุ๊บแจง

"นางจุ๊บ! แกจะขายมั๊ยเนี๊ยะของ ลูกค้ารอเต็มร้านแล้ว" แม่ค้าหมูร้านข้างๆตะโกนบอกจุ๊บแจง

"ขายจ้าขาย" จุ๊บแจงรีบวิ่งกลับไปขายของทันที

แรมใจกลับมาถึงบ้านกะว่าจะถามลูกสาวเรื่องที่จุ๊บแจงพูดให้ฟังแต่พอกลับมาถึง ราณีก็เข้านอนแล้ว แรมใจจึงไม่อยากกวนลูกเธอจึงกะไว้ว่าค่อยถามพรุ่งนี้

รุ่งเช้า ราณีแต่งตัวสวยเตรียมตัวออกจากบ้านแต่เช้า แรมใจ เดินออกจากครัวมาเห็นลูกสาวจะออกไปข้างนอกก็สงสัย
"นี่แกจะออกไปไหนแต่เช้านางณี"

"ฉันก็ออกไปสูดอากาศบริสุทธิ์ข้างนอกตอนเช้าๆ บ้างน่ะแม่" ราณีบอกแรมใจ แล้วรีบออกจากบ้านไปเพราะไม่อยากได้ยินแรมใจบ่น
ราณี ออกมารออนุที่หน้าปากซอยตามที่ อนุโทรบอก เพราะอนุไม่กล้ามารับ ราณีที่บ้านเพราะรู้ว่าแม่ของราณี ไม่ค่อยชอบขี้หน้าตัวเอง สักพักก็มีรถเก๋งสีดำขับเข้ามาหาราณี เมื่อเธอเห็นก็ยิ้มอย่างดีใจ

"รอนานมั๊ยจ๊ะณี" อนุถามราณีสายตาออดอ้อน

"ไม่นานหรอกจ๊ะ" ราณีพูดแล้วก็เปิดประตูเข้าไปนั่งในรถข้างๆ อนุ พอรถออกตัวราณีก็เริ่มตั้งคำถามกับอนุทันที

"เมื่อวานพี่นุไปไหนมา ณีโทรหาก็ไม่รับสาย" ราณีพูดอย่างงอนๆ

"อ่อ เมื่อวานพี่ออกไปทำธุระกับคุณแม่มาจ๊ะ ลืมเอามือถือไปด้วยกว่าจะกลับมาก็ดึกพอมาถึงพี่เหนื่อยก็เลยเข้านอนเลย แต่พอพี่ตื่นเช้ามาพี่เห็นว่าณีโทรมาหาตั้งหลายสายพี่ก็รีบโทรกลับเลยนะ" อนุรีบพูดให้ราณีเชื่อใจ และมันก็ได้ผลเพราะราณี เชื่อทุกคำพูดที่อนุโกหกเธอ
อนุพาราณีมาแวะที่บ้านเพื่อนของเขาก่อน โดยให้ราณีรออยู่ในรถแล้วตัวเองก็เข้าไปหาเพื่อน

"พรุ่งนี้แกอย่าลืมไปนะเว้ย..แกจะได้เห็นหน้าว่าที่คู่หมั้นของลูกฉันว่าสวยแค่ไหน" อนุพูดอวดเพื่อน

"แล้วน้องณีของแกล่ะว่ะ รู้เรื่องที่แกจะหมั้นหรือเปล่า" เพื่อนอนุถามอนุอย่างสงสัย อนุส่ายหน้า

"ยังเลยว่ะ..ฉันยังรู้สึกเสียดายณีอยู่เลย"

"ทำไมแกไม่บอกน้องเค้าไปว่ะ ถึงแกไม่บอกเค้าวันนี้สักวันน้องเค้าก็ต้องรู้ ดีไม่ดีถ้าว่าที่เมียแกเค้ารู้ว่าแกยังไม่เลิกกับแฟนเก่าแกอาจชวดไปเลยทั้งสองคนนะเว้ย" อนุฟังเพื่อนพูดก็คิดหนัก

"จริงด้วยว่ะ แต่ฉันก็ยังสงสารณีนี่หว่า คบกันมาตั้งนานฉันก็ยังไม่อยากตัดความสัมพันธ์ด้วยเดี๋ยวฉันขอเวลาอีกสักพักก่อนว่ะว่าจะเอางัย" อนุบอกอย่างคิดหนัก

"อย่ามัวคิดนานนะเว้ย..เดี๋ยวแกจะไม่เหลือใครสักคน..ฉันว่าแกรีบไปเหอะน้องเค้ารอนานแล้วไว้เจอกันพรุ่งนี้" เพื่อนอนุบอกเมื่อเห็นราณีเปิดประตูรถชะเง้อดูอนุ

"โอเค อย่าลืมนะเว้ย" แล้วเค้าก็รีบวิ่งกลับมาที่รถ

"คุยอะไรกันนักหนาค่ะ ณีหิวแล้วนะ" ราณีงอนอนุ

"ณีจ๊ะ พี่คุยธุระสำคัญกับเพื่อนนะ โอ๋ๆ พี่รู้ว่าณีหิว เดี๋ยวพี่พาไปหาอะไรอร่อยๆกินนะ" อนุพูดเอาใจ ราณี

"ก็ได้ค่ะ ต่อไปพี่นุอย่าให้ณีรอนานอย่างนี้อีกนะไม่อย่างนั้นณีจะไม่ยอมคุยกับพี่อีกจริงๆด้วย" ราณีพูดขู่อนุแบบงอนๆ

"จ้า พี่จะไม่ทำอีกแล้วจ้า" อนุรับคำราณีส่งๆ
เมื่อทานข้าวเสร็จ อนุก็พาราณีเข้าโรงแรมเหมือนทุกครั้งที่เขาทำ

"ณีไม่อยากทำแบบนี้แล้วนะค่ะ ไหนพี่นุบอกว่าจะมาขอณีกับแม่ไม่เห็นพี่นุมาขอสักที ณีกลัวว่าพี่จะเบื่อณีไปซะก่อน" ราณีพูดพลางซบอกอนุโดยที่ทั้งสองมีแค่ผ้าห่มคลุมตัวโดยปราศจากเสื้อผ้า

"โถ่ ณีจ๋าณีก็รู้ว่าพ่อกับแม่พี่เค้าคิดยังงัยกับณี ขอเวลาพี่กล่อมพวกท่านอีกสักพักก่อนนะ แล้วพี่จะรีบไปขอณีกับแม่ณีให้เร็วที่สุดเลยจ๊ะ" อนุพูดปลอบราณีพลางหน้าก็ซุกไซร้หอแก้มราณี จนราณีเคลิ้มเชื่อคำของเขา

ที่ตลาดสด แรมใจกำลังง่วนขายขนมให้ลูกค้าอยู่ คุณนายเอียมจิตได้เดินมาหาพร้อมกับอรทิพย์ แรมใจมัวแต่ขายของก็เลยไม่ได้สนใจคุณนายเอี่ยมจิต
"ขายดีมั๊ยล่ะแรมใจ..น่าสงสารนะหาเงินงกๆ เพื่อให้ลูกสาวตัวดีใช้" เอี่ยมจิตพูดประชดแรมใจ

"ก็พอขายได้ค่ะ คุณนายจะซื้อเหรอค่ะถ้าซื้อก็เลือกเอาเลยค่ะ" แรมใจพูดโดยแกล้งทำเป็นไม่สนใจที่คุณนายพูดประชดตัวเอง

"ไม่ล่ะ..ฉันก็แค่จะมาฝากหล่อนให้ไปบอกนางลูกสาวตัวดีของหล่อนว่า ให้เลิกยุ่งกับลูกชายของฉันได้แล้ว เพราะตานุกำลังจะหมั้นกับหนูอร" คุณนายเอี่ยมจิตพูดเสียงดังเพื่อให้คนทั้งตลาดได้ยินพลางจับมืออรทิพย์มากุมไว้

"แหมคุณแม่ล่ะก็" อรทิพย์ทำเป็นเขิน ทั้งสองมองหน้ายิ้มให้กันอย่างสะใจ

"ค่ะฉันจะบอกนางณีให้..คุณนายสบายใจได้เลยนะว่าต่อไปนี้นางณีจะไม่ไปยุ่งกับลูกชายคุณนายแน่นอน"

"ดี รับปากแล้วก็ทำให้ได้ด้วยนะ" คุณนายเอียมจิตพูดจบก็พาอรทิพย์เดินซื้อของในตลาด ทำให้คนในตลาดพากันซุบซิบนินทาราณีกันไปทั่ว

อนุมาส่งราณีหน้าปากซอย

"พี่กลับก่อนนะ เออณีพรุ่งนี้พี่จะไปทำธุระกับคุณแม่พี่คงไม่ได้มาหานะ" อนุบอกราณี

"ไม่เป็นไรจ๊ะ แต่พี่นุอย่าลืมโทรมาหาณีบ้างนะ" ราณีพูดจบก็หอมแก้วอนุแล้วเปิดประตูลงจากรถ เธอโบกมือบ๊าย..บาย จนรถชายหนุ่มขับเคลื่อนหายไปกับความมืด

แรมใจรู้สึกไม่สบายใจแต่ก็อดทนขายของจนหมด พอกลับมาถึงบ้าน ราณีก็กลับมาถึงพอดี

"แกออกไปตั้งแต่เช้าแล้วกลับมาเอาป่านนี้เนี๊ยะนะ..แกไปไหนมานางณี" แรมใจเริ่มบ่นลูกสาว

"หนูก็ออกไปกับแฟนหนูสิแม่ นี่แม่เป็นไรเนี๊ยะทุกทีไม่เห็นแม่จะถามอะไรหนูเลย" ราณีพูดจบเตรียมจะเดินหนีเข้าห้อง แต่แรมใจคว้ามือของลูกสาวเอาไว้ก่อน

"นี่แกจะรีบไปไหน ฉันมีเรื่องจะคุยกับแก"

"ไว้พรุ่งนี้ก่อนได้มั๊ยแม่ วันนี้ฉันเหนื่อยแล้ว" ราณีพูดพลางดึงมือแรมใจออก

"ไม่ได้วันนี้แกจะต้องคุยกับฉันเรื่องของแฟนแกให้รู้เรื่องก่อน"

"ถ้าเป็นเรื่องให้เขามาขอหนูแต่งงานน่ะ รอไปก่อนก็แล้วกันแม่ พี่นุเค้าบอกว่าขอเวลาอีกสักหน่อยเดี๋ยวเขาก็มาขอหนูกับแม่แล้วแม่ไม่ต้องห่วงหรอกน่า แม่เตรียมคิดแค่ค่าสินสอดก็พอ" ราณีพูดพลางบีบมือแม่เพื่อให้แรมใจสบายใจ

"นี่แกคิดว่ามันจะมาขอแกแต่งงานจริงๆน่ะเหรอ นางณี"

"ก็จริงสิแม่ วันนี้ฉันก็คุยกับพี่นุแล้ว แม่สบายใจได้เลย" ราณีพูดไปยิ้มไปอย่างมีความสุข

"ตื่นได้แล้วนางณี สิ่งที่แกฝันมันไม่มีทางเป็นจริงได้หรอก แฟนแกมันหลอกแก แกรู้มั๊ย เพราะพรุ่งนี้มันก็จะไปขอหมั้นลูกสาวเถ้าแก่ร้านทองแล้ว..แกมันโง่เชื่อคำเค้าหมด" แรมใจตวาดเตือนสติลูกสาว

"แม่เอาอะไรมาพูด อย่าบอกนะว่าสาวใช้คุณนายมันเอามาป่าวประกาศให้คนทั้งตลาดฟังอีก แม่ก็เห็นมันบอกแม่แบบนี้กี่ครั้งหนูก็ไม่เห็นพี่นุเค้าจะไปมีใครเลยนอกจากหนู" ราณีพูดหลงตัวเอง

"ไม่ใช่นางบางหลอกที่มาบอกฉัน แต่อินางคุณนายมันมาบอกฉันที่ร้านพร้อมลูกสะใภ้ของเค้าด้วย..ตอนนี้คนทั้งตลาดเค้ารู้กันทั่วแล้วว่าพรุ่งนี้ แฟนแกจะไปขอหมั้นกับลูกสาวเถ้าแก่ชัยน่ะ" แรมใจนั่งลงบนโซฟาอย่างเหนื่อยใจ

"นางณีเอ้ย แกเชื่อแม่นะฉันเป็นแม่แกฉันจะโกหกแกทำไม" แรมใจมองหน้าลูกสาวซึ่งยืนหันหลังมองไปนอกหน้าต่างอยู่
แรมใจเห็นราณีไม่สนใจกับคำพูดตัวเอง จึงเดินเอาของไปเก็บอย่างน้อยใจ ที่ราณีไม่เชื่อคำพูดของตน

แต่สิ่งที่แรมใจพููดทำให้ราณีคิดหนักและเริ่มคล้อยตามสิ่งที่แม่บอก เธอจึงนึกขึ้นได้ว่าพรุ่งนี้อนุ บอกว่าจะไปทำธุระกับแม่ แล้วก็นึกถึงคำพูดของแม่เธอที่บอกว่าพรุ่งนี้อนุจะไปขอหมั้นลูกสาวเถ้าแก่ชัย ราณีจึงรีบกดโทรศัพท์หาอนุทันทีเพื่อจะถามความจริง แต่อนุกลับไม่รับสาย เพราะไปเที่ยวต่อกับเพื่อนๆ ทำให้ราณีรู้สึกกระวนกระวายเป็นอย่างมาก ราณีนอนไม่หลับทั้งคืนเธอรอโทรศัพท์เผื่อว่าอนุจะโทรกลับมาจนเผลอหลับไป
เช้าวันรุ่งขึ้นราณีสะดุ้งตื่นแต่เช้ามองโทรศัพท์ก็ไม่เห็นอนุโทรเข้ามาสักสาย เธอจึงรีบอาบน้ำแต่งตัวเพื่อที่จะไปดูอนุให้แน่ใจว่าเขาไม่ได้ทำอย่างที่แม่เธอบอก แรมใจนั่งปั้นขนมบัวลอยอยู่เห็นลูกสาวแต่งตัวเตรียมออกจากบ้านแต่เช้าก็แปลกใจ

"แล้วนั่นแกจะรีบไปไหนแต่เช้าอีก" แรมใจถามราณีแต่ก็ก้มลงทำขนมต่อ

"หนูว่าจะออกไปหาแฟนหนูหน่อยน่ะแม่ โทรหาตั้งแต่เมื่อคืนยังไม่ยอมรับสายเลย" แรมใจยังไม่ทันได้พูดอะไรราณีก็เดินออกจากบ้านไปเสียแล้ว

"เออให้มันได้อย่างนี้สิว่ะ นางลูกคนนี้นี่ ตื่นแต่เช้าเพื่อจะไปหาผู้ชาย แทนที่จะช่วยแม่ทำมาค้าขายกลับไม่ทำ ดูไว้ซะนะพี่ถมดูลูกพี่ไว้นิสัยมันเหมือนพี่ขึ้นทุกวัน" แรมใจมองรูปสามีอย่างงอนๆ

ทางด้านอนุก็ได้เตรียมตัวไปสู่ขออรทิพย์ พอเห็นว่าราณีโทรมาหาอนุก็ตัดสายทิ้งอย่างไม่สนใจใยดีแล้วก็วางโทรศัพท์ทิ้งไว้ในห้อง ยิ่งราณีถูกอนุตัดสายทิ้งเธอก็ยิ่งร้อนใจอยากไปเจออนุไวๆ

"พี่ๆ จอดตรงนี้แหละ" ราณีบอกวินมอไซต์ให้จอดก่อนถึงหน้าบ้านอนุ ราณีจ่ายตังวินเสร็จก็เดินไปด้อมๆมองๆอยู่ตรงรั้วบ้านอนุ บางสาวใช้บ้านอนุเห็นก็เลยเดินเข้ามาหาราณี เพื่อที่จะเยอะเย้ย

"ว่างัยจ๊ะน้องณี..วันนี้ถ่อมาหาผู้ชายเค้าถึงบ้านเลยเหรอ"บางพูดจาเหน็บราณี
แต่ราณีก็ไม่สนใจเอาแต่ชะเง้อหาอนุ ยิ่งทำให้บางรู้สึกหมั่นใส้

"ถ้าจะมามองหาคุณนุล่ะก็ เค้าไม่อยู่หรอกย่ะ.." บางพูดลอยหน้าลอยตา

"แล้วคุณนุของเธอไปไหนล่ะ"

"อ้าวก็คุณน้องณีเป็นแฟนเค้าไม่ใช่เหรอ"

"นี่หยุดต่อปากต่อคำได้แล้วนะ เป็นแค่คนใช้ ลองถ้าฉันได้มาเป็นสะใภ้ที่นี่เมื่อไหร่ฉันจะให้พี่นุไล่แกออกคนแรกเลย" ราณีตะคอกใส่บาง

"อ๋อ เหรอย่ะ ก่อนจะไล่ฉันออกหัดเจียมกะลาหัวตัวเองดีกว่ามั๊ย..นี่ฉันจะบอกอะไรให้แกรู้ไว้นะ ว่าวันนี้คุณนุเค้าไปขอลูกสาวเถ้าแก่ชัยโน่น..โง่แล้วยังไม่รู้ตัวอีก" บางบอกราณีอย่างสะใจ

"ไม่จริง! แกโกหก" ราณีตวาดกลับบางอย่างไม่เชื่อ

"เอ๊า..ถ้าไม่เชื่อก็ตามไปดูที่บ้านเถ้าแก่ชัยสิ เสียเวลาทำการทำงานฉันหมดยัยนี่" บางพูดจบก็หันหลังเดินกลับเข้าบ้านไป

ยิ่งราณีได้ยินคำพูดของบางก็ยิ่งใจเสีย เธอจึงรีบโบกมือเรียกวินมอไซต์ที่ผ่านมาทันที

"พี่ๆไปบ้านเถ้าแก่ชัย ให้ไวเลยนะพี่" ราณีบอกวินมอไซต์อย่างเร่งรีบ

"จอดๆๆ พี่จอดตรงนี้แหละ" ราณีให้วินมอไซต์จอดหน้าบ้านเถ้าแก่ชัย เธอมองเข้าไปในบ้านเถ้าแก่ชัยมีรถหลายคันจอดอยู่หนึ่งในนั้นเป็นรถของคุณนายเอี่ยมจิต ราณีก็ยิ่งรู้สึกใจไม่ดี เธอจึงแอบเข้าไปในบ้านเถ้าแก่ชัย เพราะขณะนี้ทุกคนกำลังร่วมแสดงกความดีใจให้กับ อนุและอรทิพย์ ส่วนคนขับรถ และคนของคุณนายเอี่ยมจิตก็มัวยืนคุยกันจึงไม่ทันได้สังเกตุเห็นว่าราณีได้เข้ามา

ราณีเดินเข้ามาสิ่งที่เธอได้เห็นเธอแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง เมื่อเห็นอนุกำลังสวมแหวนให้อรทิพย์ โดยมีคุณนายเอี่ยมจิตเสี่ยบุญหนักและพ่อแม่ของอรทิพย์นั่งยิ้มกันหน้าบานอย่างมีความสุข ด้วยแรงหึงหวงจนขึ้นหน้าราณีจึงตะโกนเรียกอนุโดยไม่สนใจแขกเหรี่ยที่มาในงานเลย

"นี่มันอะไรกันพี่นุ" ราณีชี้มือไปหาอนุและอรทิพย์ อนุเห็นราณีก็หน้าถอดสีทันทีทุกคนในงานต่างพากันตกใจ

"ไหนเมื่อวานพี่บอกว่าจะรอให้อิคุณนายมันมาขอณีงัย..แล้วนี่มันอะไร..นี่มันอะไร!" ราณีจะเดินเข้าไปหาอนุแต่โดนคนของเถ้าแก่ชัยขวางไว้ก่อน

"พี่คงโดนอิคุณนายมันบังคับใช่มั๊ย ถ้าพี่โดนบังคับก็ไม่ต้องไปยอมพี่" ราณีตะโกนถามอนุ อนุทำท่าทางอึกอักแต่ก็ไม่พูดอะไรเอาแต่หันหน้าหนี

"นีมันมันอะไรกันค่ะพี่นุ" อรทิพย์หันไปถามอนุ "ไหนคุณป้าบอกว่าพี่นุเค้าเลิกกับแฟนเค้าไปนานแล้วนี่ค่ะ" อรทิพย์หันไปถามคุณนายเอี่ยมจิตอีก

"โถ่หนูอร หนูจะไปเชื่ออะไรกับนางผู้หญิงแบบนี้จ๊ะ ตานุเลิกกับมันไปนานแล้วแต่มันต่างหากที่ยังตื้อตานุไม่เลิก" คุณนายเอี่ยมจิตโกหกหน้าตาย

"แกนั่นแหละอิคุณนายที่โกหก..ฉันจะบอกอะไรแกให้นะนางอรว่าผู้ชายที่แกหมั้นด้วยน่ะเค้าไม่ใช่แค่เป็นแฟนฉันแต่เค้าเป็น ผัวฉัน!..เมื่อวานนี้เรายังนอนด้วยกันอยู่เลย" ราณีป่าวประกาศความสัมพันธ์ตัวเองกับอนุเต็มที่ จนคนในงานต่างพากันซุบซิบนินทา อนุได้ยินอย่างนั้นจึงเกิดโทสะลุกขึ้นเดินไปตบหน้า ราณีจนเธอถึงกับเซ ทุกคนในงานพากันเสียงดังอื้ออึง

"อย่าไปเชื่อนะครับน้องอร พี่กับผู้หญิงคนนี้ไม่ได้มีอะไรกัน" อนุหันไปบอกอรทิพย์ ราณีถึงกับอึ้งเมื่อได้ยินคำพูดของอนุ คุณนายเอี่ยมก็เลยรีบเสริมใส่ไฟให้ราณีเสียๆหายต่อหน้าแขกเหรี่ยในงาน

"เห็นมั๊ยค่ะหนูอรผู้หญิงแบบนี้น่ะเหรอตานุจะรักได้ลงคอ..ช่างหน้าไม่อาย" ประโยคสุดท้ายคุณนายเอี่ยมจิตหันไปมองหน้าราณีอย่างสะใจสุดๆ

ราณีถูกอนุตบเจ็บจนพูดไม่ออกจนน้ำตาไหล ตอนนี้ในหัวของราณีมีแต่ความเสียใจและคับแค้นใจเธอจึงได้แต่มองหน้าอนุอย่างเดียว ทุกคนในงานต่างพากันซุบซิบนินทากันใหญ่ คุณนายเอี่ยมจิตเรียกลูกน้องให้มาเอาราณีออกไปจากงาน ราณีสะบัดมือออกจากคนของคุณนายเอียมจิตแล้วเดินเข้าไปตบหน้าอนุฉาดใหญ่

"ว้ายยย..!!" เสียงคุณนายเอี่ยมและอรทิพย์อุทานออกมาพร้อมกัน

"นี่สำหรับคำโกหกหลอกลวงของไอ่ผู้ชายหน้าตัวเมียอย่างแก" ราณีพูดตะคอกใส่หน้าอนุโดยมีคนของคุณนายเอี่ยมจิตพยายามลากตัวเธอออกไปจากงานจนสำเร็จ คนของคุณนายเอียมจิต พาราณีมาตรงที่จอดรถโดยมีเสี่ยบุญหนักพ่อของอนุออกมารออยู่ก่อนแล้ว เสี่ยบุญหนักสั่งให้คนของตนซ้อมราณีจนระบมไปทั้งตัว จนพอใจแล้วก็ให้คนของตนปล่อยราณี

"พอ พอ! เดี๋ยวมันจะตายซะก่อน"เสี่ยบุญหนักเดินเข้าไปจับคางของราณี
"มึงจำไว้นะอย่ามายุ่งกับลูกชายกูอีก ผู้หญิงอย่างมึงไม่คู่ควรกับลูกกูหรอก" ราณีมองหน้าเสี่ยบุญถมอย่างสะลืมสะลือ เธอถุยน้ำลายใส่หน้าเสี่ยบุญหนัก จนเสี่ยปล่อยมือออกจากคางของเธอทันทีรีบเอาผ้าเช็ดหน้าออกมาเช็ดน้ำลายเธอออก

"อินางนี่นิ!" คนของเสี่่ยกำลังจะเดินเข้ามาตบราณีซ้ำ แต่ถูกเพื่อนของอนุขวางไว้ก่อน

"พอเถอะครับคุณลุง แค่นี้ราณีเค้าก็เจ็บพอแล้วปล่อยเธอไปเถอะครับ" เค้าบอกพลางเข้าไปพยุงราณีไว้ แต่ราณีสะบัดเค้าออก แล้วชี้หน้าด่าทุกคน

"พวกมึงมันก็หน้าตัวเมียเหมือนกันทุกคน" เธอพูดจบก็เดินออกไปทันที ราณีเดินกระเสือกกระสนออกมาเจอแท็คซี่เธอก็โบกให้แท๊กซี่มาส่งที่บ้าน ราณีทั้งแค้นทั้งเสียใจแต่ก็ทำอะไรไม่ได้

ราณีกลับมาถึงบ้านเธอก็เข้าห้องนอนเอาแต่เก็บตัวเงียบร้องให้คร่ำครวญถึงสิ่งที่อนุโกหกตนมาตลอด

จุ๊บแจงวิ่งหน้าตาตื่นมาหาแรมใจที่ร้าน

"นี่แกเจอผีมารึงัยนางจุ๊บ วิ่งหน้าตาตื่นมาเชียว ของก็ไม่ยอมขาย ตังมันเยอะจนต้องหยุดใช้รึงัยแก" แรมใจหยอกจุ๊บแจง

จุ๊บแจงที่วิ่งหอบมาพอหายเหนื่อยก็บอกแรมใจว่า เธอได้ยินพวกวินมอไซต์มันคุยกันว่าราณีโดนคนของคุณนายเอี่ยมจิตซ้อมหน้าตาปูดบวม แรมใจตกใจมากจึงฝากร้านให้จุ๊บแจงขายไปก่อนแล้วก็รีบกลับบ้านไปหาราณีทันที เมื่อกลับมาถึงบ้านแรมใจก็เห็นบ้านปิดเงียบ จึงเดินไปหน้าห้องของราณี

"ณีแกอยู่ในห้องรึเปล่า..เปิดประตูให้แม่หน่อย" ราณีพอได้ยินเสียงแม่เรียกเธอก็เลยรีบปาดน้ำตาทันที

"แม่มีไรเปล่า ทำไมรีบกลับมาขายของหมดแล้วเหรอ" ราณีพยายามทำเสียงให้ปกติที่สุดเพราะไม่อยากให้แรมใจสงสัย

"ณี แกมีอะไรก็ออกมาคุยกับแม่เหอะลูก อย่าเก็บตัวอยู่คนเดียวเลยแม่รู้เรื่องหมดแล้ว" แรมใจตะโกนบอกลูกสาวทั้งน้ำตา พอราณีได้ยินเสียงของแม่เหมือนร้องไห้ ก็ยิ่งทำให้เธอรู้สึกคับแค้นใจจนน้ำตาใหลออกมา ราณีเดินมาเปิดประตูให้แรมใจน้ำตาใหลพรากเธอโผเข้ากอดผู้เป็นแม่

"แม่จ๋าหนูขอโทษที่ไม่ยอมฟังแม่ตั้งแต่แรก..ไอ่พี่นุมันทิ้งหนูไปหมั้นกับผู้หญิงคนอื่นแถมมันยังตบหนูด้วย" ราณีระบายให้ผู้เป็นแม่ฟังอย่างแค้นใจ แรมใจกอดลูกสาวไว้แน่นพยักหน้ารับรู้น้ำตาก็ไหลพรากสงสารลูกสาวจับใจ

"ไม่เป็นไรลูก ไม่ต้องร้องคิดซะว่ามันเป็นกรรมเก่าของเรา..เขาไม่ได้รักเราก็ปล่อยเขาไปเถอะ อย่าไปเสียน้ำตาให้คนแบบนั้นเลยลูก" แรมใจลูบหัวลูกสาวอย่างเอ็นดู ราณีก็ยิ่งร้องไห้แรมใจดันตัวลูกสาวออกมองหน้าลูกสาวที่ฟกช้ำบวมเขียวอย่างรู้สึกสงสารลูก
"เป็นยังงัยบ้างลูก เจ็บมากมั๊ย..ไอ่พวกนั้นมันไม่ใช่คนกับผู้หญิงตัวเล็กๆมันยังทำได้ลง..เดี๋ยวแม่หายามาทาให้นะ" แรมใจพาราณีมานั่งลงตรงโซฟาแล้วก็ไปหยิบเอายามาทาให้ลูกสาว
"ณี อยู่บ้านคนเดียวได้มั๊ยลูก เดี๋ยวแม่จะออกไปขายของต่อแล้วแม่จะรีบกลับมาหานะ" แรมใจลูบแก้มลูกสาว "มีข้าวต้มอยู่ในหม้อเดี๋ยวแม่ไปอุ่นเอามาให้นะลูก" แรมใจกำลังจะลุกไปอุ่นข้าวต้มราณีรีบรั้งแม่ไว้

"ไม่เป็นไรหรอกจ๊ะแม่ เดี๋ยวฉันหิวฉันจะทำเองแม่ไปขายของเถอะไม่ต้องห่วงฉัน" ราณีพูดให้แม่ตัวเองสบายใจ

"แน่ใจนะว่าอยู่คนเดียวได้..เดียวแม่โทรให้นางจุ๊บมันช่วยเก็บร้านให้ก็ได้"

"ไม่ต้องหรอกจ๊ะแม่ฉันบอกว่าฉันอยู่ได้ก็อยู่ได้สิ แม่ไม่ต้องกลัวว่าฉันจะคิดสั้นเพราะไอ่คนเลวๆพรรนั้นหรอก ไม่มีทาง" ณี พูดย้ำเพื่อให้แรมใจสบายใจอย่างแค้นๆ

ทางด้านอนุกับอรทิพย์พองานหมั้นผ่านคุณนายเอี่ยมจิตก็ให้ทั้งสองก็ไปเรียนต่อที่ต่างประเทศเพราะกลัวว่าลูกชายของตนจะยังห่วงราณีอยู่
ส่วนราณี ถึงแม้เธอจะบอกกับแรมใจว่าทำใจได้แล้ว แต่แรมใจก็ยังไม่สบายใจถึงแม้เรื่องทุกอย่างมันจะซาลงแต่แรมใจก็ยังรู้สึกว่า ราณียังตัดใจจากอนุไม่ได้ เพราะอนุเป็นรักแรกของลูกสาวของเธอ บางครั้งแรมใจก็เห็นราณีดูซึมๆ บางครั้งก็เห็นราณีแอบร้องไห้ เธอจึงสงสารลูกสาวตัวเอง แรมใจจึงโทรไปปรึกษากับ ศจีน้องสาวของเธอที่ทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯ ศจีจึงกลับมาบ้านตามคำขอของแรมใจ เมื่อศจีกลับมาพอเธอมาเห็นสภาพของหลานสาวเธอก็รู้สึกสงสาร ราณีอย่างจับใจ จึงเอ่ยปากขอให้ราณีไปอยู่กับตนที่กรุงเทพฯ แต่แรมใจไม่ยอม เพราะตั้งแต่บุญถม สามีของเธอตายเธอกับลูกสาวก็ไม่เคยห่างกันเลย ศจีจึงไปพูดให้ราณีขอแม่ของเธอ ศจีเล่าเรื่องชีวิตในกรุงเทพฯ ที่มีแสงสีมีแต่สิ่งสวยๆ งามๆให้ราณีฟัง จนราณีรู้สึกตื่นเต้นไปด้วย เธอจึงขอแรมใจไปอยู่กับศจี แรกๆแรมใจก็ยังไม่ยอม แต่พอมาคิดดูอีกทีเมื่อเธอเห็นว่า เวลาที่ราณีอยู่กับศจีดูเธอกล้าพูด ดูเธอมีความสุข แรมใจจึงปล่อยให้ลูกไปอยู่กับศจี เผื่อว่าราณีอาจจะลืมเรื่องราวเจ็บปวดที่ผ่านมาได้
วันรุ่งขึ้นศจีจึงพาราณีเข้ากรุงเทพฯ แรมใจก็ไปด้วยเพราะเธออยากไปดูที่อยู่ที่กินของลูกสาวเธอเป็นยังงัย



ใบตองอ่อน
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 9 พ.ย. 2555, 23:06:41 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 14 พ.ย. 2555, 08:17:49 น.

จำนวนการเข้าชม : 1121





   จุดเริ่มการเปลี่ยนแปลง >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account