ปาฏิหาริย์เสกรัก
เมื่อไฮโซสาวสวยสุดแรงเหวี่ยงผู้เกลียดสัตว์ชนิดแทบอยู่ร่วมโลกกันไม่ได้เกิดถึงคราวซวยต้องคำสาปกลายเป็น...เอ่อ water monitor เธอจะแก้ไขคำสาปนี้ได้อย่างไร เอ...หรือว่าจะเป็นอย่างในนิยายที่ต้องหาใครมาจูจุ๊บ?!?
Tags: เปรี้ยว หวาน มัน ฮา โรแมนติก แฟนตาซี โมเดลลิ่งสัตว์ หญิงร้ายชายแรง
ตอน: 'คุณเพื่อนบ้าน' กับ 'ยัยคุณนาย'(2)
บทที่ 1/2
คล้ายมีกระแสอุ่นวาบแล่นถึงกลางใจซึ่งเย็นเยียบฉับพลันด้วยความตระหนก นานเท่าไรแล้วไม่รู้ที่เธอเลิกแทนตัวเองว่า ‘หนูดา’ และนานเท่าไรไม่รู้อีกเช่นกันที่ไม่มีใครเรียกขานเธอด้วยชื่อนี้
เสียงกรีดแหลมอันน่าสะพรึงดังขึ้นอีก ชั่วพริบตาร่างจ้าวเวหาสีน้ำตาลดำแซมขาวก็ร่อนลงมาเกาะรั้วสูงห่างจากเธอไปไม่ถึงสี่เมตร แต่เมื่อมีเสียงผิวปากเร่งเรียกเจ้าเหยี่ยวต่างสีตัวใหญ่ก็โผหายไปจากขอบกำแพงในบัดดล
ทางฝั่งบ้านพฤกษาชัยชาญเองก็ต่อบันไดไว้เช่นกัน ร่างของแสงฉานค่อย ๆ โผล่พ้นปราการอิฐสูงสามเมตรพร้อมกับผู้บุกรุกปากแหลมงุ้มตัวใหญ่ อุ้งเท้าแข็งแรงทรงพลังของเหยี่ยวต่างสีเกาะแน่นอยู่กับท่อนแขนกำยำซึ่งสวมปลอกแขนหนังสีน้ำตาลเก่าคร่ำของคุณเพื่อนบ้าน
...สรุปว่าที่ผิวปากเปี้ยวนี่ก็เรียกเจ้านกน่าเกลียดตัวนี้เองสินะ! คิดได้อย่างนั้นแล้วคนมาดจัดก็ร้อนผ่าวไปทั้งหน้าเพราะความอับอายที่ต่อว่าเขาไปเสียหลายคำทีเดียว แต่ถึงกระนั้นแสงฉานก็ไม่ควรให้เจ้าปีศาจร้ายบินมายุ่มย่ามในอาณาบริเวณบ้านเธออยู่ดีนั่นแหละ ฉะนั้นจึงไม่มีคำขอโทษขอโพยใด ๆ หลุดรอดออกมาจากริมฝีปากสวย
“ไม่เป็นอะไรใช่ไหมครับ” ดวงตาที่ทอดมองข้ามเส้นแบ่งอาณาเขตมาช่างอาทรเช่นเดียวกับเสียงทุ้มที่เอ่ยถาม
“ฉันจะได้ช็อคตายก็เพราะไอ้นกบ้าของคุณนี่แหละ!” เอมี่ข่มความกริ่งเกรงตอบกลับไปอย่างดังขณะที่ไอ้นกบ้าตัวนั้นอ้าปากตีปีกพึ่บ ๆ คล้ายไม่พอใจ
“เขาชื่อโบอิ้งครับ ไม่ใช่ไอ้นกบ้า” เจ้าของแย้งพลางเอี้ยวมองเจ้าตัวใหญ่ที่เกาะอยู่บนแขน
เอมิญาดาบิดปากหมั่นไส้ เธอลุกยืนแล้วก้าวฉับไปขึ้นบันไดของเธอบ้างด้วยไม่ชอบที่ต้องแหงนหน้าคุยกับอีกฝ่าย โชคดีที่บันไดตั้งห่างจากแสงฉานพอสมควรไม่อย่างนั้นแล้วยามที่เจ้าปากแหลมกระพือปีกใส่อีกทีเธอได้หัวใจวายตายแน่
เมื่ออยู่ในความสูงระดับเดียวกัน ดีไซน์เนอร์สาวก็เริ่มร่ายกฎให้เจ้าของโมเดลลิ่งสัตว์ทราบ
“ไม่ว่าเจ้าตัวน่าเกลียดนั่นจะเป็นสัตว์ชนิดไหนหรือว่ามันจะชื่ออะไร กรุณาดูแลมันดี ๆ อย่าปล่อยให้มารุกล้ำอาณาเขตบ้านฉันอีกเด็ดขาด! ไม่อย่างนั้นจะหาว่าฉันใจร้ายไม่ได้นะคะ!”
“ขอโทษด้วยนะที่โบอิ้งทำให้คุณนายกลัว”
“ไม่ได้กลัวค่ะ แต่ว่าเกลียดมาก...แล้วก็ขยะแขยงที่สุด” หญิงสาวทำปากแข็ง
“โธ่ คุณนายลองดูดี ๆ สิครับ โบอิ้งท่าทางเหมือนจะดุร้ายแต่จริง ๆ แล้วเขาก็มีมุมน่ารักนะ” ชายหนุ่มพยายามลดเลี้ยวหว่านล้อม
เอมิญาดากลั้นใจปรายตามองตามคำชวนเดี๋ยวเขาจะจับไต๋ได้ว่าเธอกลัวมันจนสติแทบเตลิด แต่ยิ่งมองก็ให้นึกคุ้น ๆ เจ้านกใหญ่ตัวนี้ชอบกล งานฉลองวันคล้ายวันเกิดของเธอเมื่อปีก่อนล่มไม่เป็นท่าเพราะนกตัวใหญ่บินมาก่อกวน ทำกระดาษอะไรสักอย่างร่วงใส่เตาบาร์บีคิวจนไฟลุกพรึบ แถมมันยังอันธพาลเหลือร้ายเข้าจิกทึ้งผ้าพันคอขนกระต่ายของคุณหญิงป้าเธออย่างเอาเป็นเอาตาย เหตุการณ์หนนั้นพานให้คุณหญิงป้าหงุดหงิดอารมณ์เสียนานแรมเดือนเลยทีเดียว เอมิญาดาอนุมานเอาจากรูปพรรณสัณฐานว่าเจ้านี่มันน่าจะเป็นนกตัวเดียวกันกับที่บินเข้ามาก่อเหตุวุ่นวายในครั้งนั้นเป็นแน่
“ไอ้ตัวนี้ใช่ไหมที่บุกบ้านฉันเมื่อปีที่แล้วน่ะ” เจ้าของงานวันเกิดถามเสียงต่ำตาวาว
แสงฉานยิ้มเกร็ง หัวเราะเก้อ “แหม ครั้งนั้นมันเอ็กซิเดนท์นิดหน่อย”
หญิงสาวเกลียดคำว่า ‘เอ็กซิเดนท์’ ของคุณเพื่อนบ้านเป็นที่สุด แสงฉานรู้ดีตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอหน้ากันแล้วว่าเธอเกลียดสัตว์ทุกชนิด แต่คล้ายการได้แกล้งเธอเป็นเรื่องสนุกนัก เขามักจะสรรหาสัตว์หน้าตาแปลก ๆ ทั้งตัวเล็กตัวใหญ่มาให้เธอดู ทั้งกระต่ายขนฟูตาแดงจอมตะกละที่แทะนิ้วเธอจนเลือดซึม แมวสีสวาดที่ขนของมันทำให้เธอจามและน้ำมูกไหลแถมยังตะกายชุดลูกไม้ตัวเก่งของเธอเสียยับเยินอีกด้วย และทุกครั้งแสงฉานก็จะตีหน้าเศร้าแล้วสรุปง่าย ๆ ว่าเป็นอุบัติเหตุ ทำไมนะเขาถึงไม่ยอมรับความจริงเสียที่ว่าไอ้สัตว์พวกนี้น่ะมันอันตรายและไว้ใจไม่ได้ ตัวอย่างก็มีให้เห็นคาตา ตัวเธอนี่ยังไงล่ะถูกพวกมันทำร้ายระรานจนอยู่ไม่เป็นสุข
“ย้ำชัด ๆ อีกทีนะคะ ถ้าขืนมีสัตว์ตัวไหนเพ่นพ่านมาสร้างความเดือดร้อนวุ่นวายในบ้านนี้อีกล่ะก็ ฉันไม่รับรองสวัสดิภาพของมันจริง ๆ ด้วย”
“ถ้าเจ้าพวกนี้ไปไม่ได้ แล้วคนล่ะครับ...ข้ามไปได้มั้ย” เจ้าของสัตว์ถามด้วยน้ำเสียงนุ่ม ดวงตาแวววาววิบวับ
“ถ้าไม่กลัวโดนตีน่วมก็มาสิคะ” เอมี่ยิ้มเย็น ขู่ว่าเอาจริงแน่
“โหดจังคุณนาย...” ชายหนุ่มบ่นอุบแต่ตายังส่องประกายชวนวาบหวาม “ตัวเองก็เถอะระวังให้ดี อย่าหลงมาฟากนี้แล้วกันนะจ๊ะ จะไม่ให้กลับแล้วพี่ก็ไม่รับรองความปลอดภัยด้วย”
“คนบ้า!” จนปัญญาโต้ตอบ หญิงสาวได้แต่ว่าค่อนพร้อมค้อนขวับเท่านั้น
ทว่าอีกฝ่ายกลับหัวเราะชอบใจ จ้องเธอด้วยสายตากรุ้มกริ่มนัก จนเอมี่อยากบอกพวกที่มักมาตามตื๊อขอซื้อสูตรยาเสริมสมรรถภาพทางเพศในบันทึกของปู่อัสดงเหลือเกินว่าให้เอาตัวแสงฉานไปแทนเถอะ ตากแดดให้แห้งแล้วป่นเป็นผง เท่านี้ก็คงได้ตัวยาเข้มข้นเพียงพอแจกจ่ายให้ผู้ชายทั้งประเทศได้คึกคักฟิตปั๋งกันแล้วล่ะ
“คนบ้าเนี่ยทำอะไร...อะไร...แล้วไม่ผิดซะด้วยสิ” แสงฉานยังยั่วเย้าไม่เลิก จนกระทั่งมีเสียงเรียกติดจะดุดังมาจากแนวพุ่มไม้ทางด้านหลัง
“ฮาม! ไปทำอะไรอยู่ตรงนั้น!”
+++++++
ขอบคุณคนอ่านที่กดไลค์ด้วยนะคะ คิดว่าจะไม่มีคนชอบซะแล้ว
ฝีมือยังอ่อนด้อยอยู่จะพยายามฝึกฝนและพัฒนาต่อไปค่ะ
สัญญาว่าตอนต่อ ๆ ไปจะเพิ่มความยาวขึ้นด้วยค่ะ :)
ลีรชา
คล้ายมีกระแสอุ่นวาบแล่นถึงกลางใจซึ่งเย็นเยียบฉับพลันด้วยความตระหนก นานเท่าไรแล้วไม่รู้ที่เธอเลิกแทนตัวเองว่า ‘หนูดา’ และนานเท่าไรไม่รู้อีกเช่นกันที่ไม่มีใครเรียกขานเธอด้วยชื่อนี้
เสียงกรีดแหลมอันน่าสะพรึงดังขึ้นอีก ชั่วพริบตาร่างจ้าวเวหาสีน้ำตาลดำแซมขาวก็ร่อนลงมาเกาะรั้วสูงห่างจากเธอไปไม่ถึงสี่เมตร แต่เมื่อมีเสียงผิวปากเร่งเรียกเจ้าเหยี่ยวต่างสีตัวใหญ่ก็โผหายไปจากขอบกำแพงในบัดดล
ทางฝั่งบ้านพฤกษาชัยชาญเองก็ต่อบันไดไว้เช่นกัน ร่างของแสงฉานค่อย ๆ โผล่พ้นปราการอิฐสูงสามเมตรพร้อมกับผู้บุกรุกปากแหลมงุ้มตัวใหญ่ อุ้งเท้าแข็งแรงทรงพลังของเหยี่ยวต่างสีเกาะแน่นอยู่กับท่อนแขนกำยำซึ่งสวมปลอกแขนหนังสีน้ำตาลเก่าคร่ำของคุณเพื่อนบ้าน
...สรุปว่าที่ผิวปากเปี้ยวนี่ก็เรียกเจ้านกน่าเกลียดตัวนี้เองสินะ! คิดได้อย่างนั้นแล้วคนมาดจัดก็ร้อนผ่าวไปทั้งหน้าเพราะความอับอายที่ต่อว่าเขาไปเสียหลายคำทีเดียว แต่ถึงกระนั้นแสงฉานก็ไม่ควรให้เจ้าปีศาจร้ายบินมายุ่มย่ามในอาณาบริเวณบ้านเธออยู่ดีนั่นแหละ ฉะนั้นจึงไม่มีคำขอโทษขอโพยใด ๆ หลุดรอดออกมาจากริมฝีปากสวย
“ไม่เป็นอะไรใช่ไหมครับ” ดวงตาที่ทอดมองข้ามเส้นแบ่งอาณาเขตมาช่างอาทรเช่นเดียวกับเสียงทุ้มที่เอ่ยถาม
“ฉันจะได้ช็อคตายก็เพราะไอ้นกบ้าของคุณนี่แหละ!” เอมี่ข่มความกริ่งเกรงตอบกลับไปอย่างดังขณะที่ไอ้นกบ้าตัวนั้นอ้าปากตีปีกพึ่บ ๆ คล้ายไม่พอใจ
“เขาชื่อโบอิ้งครับ ไม่ใช่ไอ้นกบ้า” เจ้าของแย้งพลางเอี้ยวมองเจ้าตัวใหญ่ที่เกาะอยู่บนแขน
เอมิญาดาบิดปากหมั่นไส้ เธอลุกยืนแล้วก้าวฉับไปขึ้นบันไดของเธอบ้างด้วยไม่ชอบที่ต้องแหงนหน้าคุยกับอีกฝ่าย โชคดีที่บันไดตั้งห่างจากแสงฉานพอสมควรไม่อย่างนั้นแล้วยามที่เจ้าปากแหลมกระพือปีกใส่อีกทีเธอได้หัวใจวายตายแน่
เมื่ออยู่ในความสูงระดับเดียวกัน ดีไซน์เนอร์สาวก็เริ่มร่ายกฎให้เจ้าของโมเดลลิ่งสัตว์ทราบ
“ไม่ว่าเจ้าตัวน่าเกลียดนั่นจะเป็นสัตว์ชนิดไหนหรือว่ามันจะชื่ออะไร กรุณาดูแลมันดี ๆ อย่าปล่อยให้มารุกล้ำอาณาเขตบ้านฉันอีกเด็ดขาด! ไม่อย่างนั้นจะหาว่าฉันใจร้ายไม่ได้นะคะ!”
“ขอโทษด้วยนะที่โบอิ้งทำให้คุณนายกลัว”
“ไม่ได้กลัวค่ะ แต่ว่าเกลียดมาก...แล้วก็ขยะแขยงที่สุด” หญิงสาวทำปากแข็ง
“โธ่ คุณนายลองดูดี ๆ สิครับ โบอิ้งท่าทางเหมือนจะดุร้ายแต่จริง ๆ แล้วเขาก็มีมุมน่ารักนะ” ชายหนุ่มพยายามลดเลี้ยวหว่านล้อม
เอมิญาดากลั้นใจปรายตามองตามคำชวนเดี๋ยวเขาจะจับไต๋ได้ว่าเธอกลัวมันจนสติแทบเตลิด แต่ยิ่งมองก็ให้นึกคุ้น ๆ เจ้านกใหญ่ตัวนี้ชอบกล งานฉลองวันคล้ายวันเกิดของเธอเมื่อปีก่อนล่มไม่เป็นท่าเพราะนกตัวใหญ่บินมาก่อกวน ทำกระดาษอะไรสักอย่างร่วงใส่เตาบาร์บีคิวจนไฟลุกพรึบ แถมมันยังอันธพาลเหลือร้ายเข้าจิกทึ้งผ้าพันคอขนกระต่ายของคุณหญิงป้าเธออย่างเอาเป็นเอาตาย เหตุการณ์หนนั้นพานให้คุณหญิงป้าหงุดหงิดอารมณ์เสียนานแรมเดือนเลยทีเดียว เอมิญาดาอนุมานเอาจากรูปพรรณสัณฐานว่าเจ้านี่มันน่าจะเป็นนกตัวเดียวกันกับที่บินเข้ามาก่อเหตุวุ่นวายในครั้งนั้นเป็นแน่
“ไอ้ตัวนี้ใช่ไหมที่บุกบ้านฉันเมื่อปีที่แล้วน่ะ” เจ้าของงานวันเกิดถามเสียงต่ำตาวาว
แสงฉานยิ้มเกร็ง หัวเราะเก้อ “แหม ครั้งนั้นมันเอ็กซิเดนท์นิดหน่อย”
หญิงสาวเกลียดคำว่า ‘เอ็กซิเดนท์’ ของคุณเพื่อนบ้านเป็นที่สุด แสงฉานรู้ดีตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอหน้ากันแล้วว่าเธอเกลียดสัตว์ทุกชนิด แต่คล้ายการได้แกล้งเธอเป็นเรื่องสนุกนัก เขามักจะสรรหาสัตว์หน้าตาแปลก ๆ ทั้งตัวเล็กตัวใหญ่มาให้เธอดู ทั้งกระต่ายขนฟูตาแดงจอมตะกละที่แทะนิ้วเธอจนเลือดซึม แมวสีสวาดที่ขนของมันทำให้เธอจามและน้ำมูกไหลแถมยังตะกายชุดลูกไม้ตัวเก่งของเธอเสียยับเยินอีกด้วย และทุกครั้งแสงฉานก็จะตีหน้าเศร้าแล้วสรุปง่าย ๆ ว่าเป็นอุบัติเหตุ ทำไมนะเขาถึงไม่ยอมรับความจริงเสียที่ว่าไอ้สัตว์พวกนี้น่ะมันอันตรายและไว้ใจไม่ได้ ตัวอย่างก็มีให้เห็นคาตา ตัวเธอนี่ยังไงล่ะถูกพวกมันทำร้ายระรานจนอยู่ไม่เป็นสุข
“ย้ำชัด ๆ อีกทีนะคะ ถ้าขืนมีสัตว์ตัวไหนเพ่นพ่านมาสร้างความเดือดร้อนวุ่นวายในบ้านนี้อีกล่ะก็ ฉันไม่รับรองสวัสดิภาพของมันจริง ๆ ด้วย”
“ถ้าเจ้าพวกนี้ไปไม่ได้ แล้วคนล่ะครับ...ข้ามไปได้มั้ย” เจ้าของสัตว์ถามด้วยน้ำเสียงนุ่ม ดวงตาแวววาววิบวับ
“ถ้าไม่กลัวโดนตีน่วมก็มาสิคะ” เอมี่ยิ้มเย็น ขู่ว่าเอาจริงแน่
“โหดจังคุณนาย...” ชายหนุ่มบ่นอุบแต่ตายังส่องประกายชวนวาบหวาม “ตัวเองก็เถอะระวังให้ดี อย่าหลงมาฟากนี้แล้วกันนะจ๊ะ จะไม่ให้กลับแล้วพี่ก็ไม่รับรองความปลอดภัยด้วย”
“คนบ้า!” จนปัญญาโต้ตอบ หญิงสาวได้แต่ว่าค่อนพร้อมค้อนขวับเท่านั้น
ทว่าอีกฝ่ายกลับหัวเราะชอบใจ จ้องเธอด้วยสายตากรุ้มกริ่มนัก จนเอมี่อยากบอกพวกที่มักมาตามตื๊อขอซื้อสูตรยาเสริมสมรรถภาพทางเพศในบันทึกของปู่อัสดงเหลือเกินว่าให้เอาตัวแสงฉานไปแทนเถอะ ตากแดดให้แห้งแล้วป่นเป็นผง เท่านี้ก็คงได้ตัวยาเข้มข้นเพียงพอแจกจ่ายให้ผู้ชายทั้งประเทศได้คึกคักฟิตปั๋งกันแล้วล่ะ
“คนบ้าเนี่ยทำอะไร...อะไร...แล้วไม่ผิดซะด้วยสิ” แสงฉานยังยั่วเย้าไม่เลิก จนกระทั่งมีเสียงเรียกติดจะดุดังมาจากแนวพุ่มไม้ทางด้านหลัง
“ฮาม! ไปทำอะไรอยู่ตรงนั้น!”
+++++++
ขอบคุณคนอ่านที่กดไลค์ด้วยนะคะ คิดว่าจะไม่มีคนชอบซะแล้ว
ฝีมือยังอ่อนด้อยอยู่จะพยายามฝึกฝนและพัฒนาต่อไปค่ะ
สัญญาว่าตอนต่อ ๆ ไปจะเพิ่มความยาวขึ้นด้วยค่ะ :)
ลีรชา
ลีรชา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 18 พ.ย. 2555, 18:00:22 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 18 พ.ย. 2555, 18:05:29 น.
จำนวนการเข้าชม : 1024
<< 'คุณเพื่อนบ้าน' กับ 'ยัยคุณนาย'(1) |
Edelweiss 18 พ.ย. 2555, 21:50:51 น.
คุณหนูอารมณ์ร้ายกับผู้ชายช่างแกล้ง
คุณหนูอารมณ์ร้ายกับผู้ชายช่างแกล้ง