เล่ห์รักเกมหัวใจ
มีน เขาถูกว่าจ้างให้หักอกเธอ "อลินา" ที่คนว่าจ้างบอกว่าเธอเป็นผู้หญิงร้ายกาจ
อลินา ถูกว่าจ้างให้ดักหลังผู้ชายที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเพลย์บอยตัวพ่อ อย่าง"มีน" ที่ไม่ยอมสยบให้หญิงใด
เมื่อ แผนถูกซ้อนเป็นชั้นๆเหมือนขนมที่แสนหวาน กับดักที่พันจนวุ่นวาย

หมายเหตุ เรื่องนี้เขียนสดๆ ดังนั้นอาจจะมีเนื้อหาที่จะมีการเปลี่ยนแปลงภายหลังค่ะ
Tags: เล่ห์รักเกมหัวใจ คีตา ณิชนิตา

ตอน: บทที่ ๗ คู่ซ้อมรัก

บทที่ ๗

คู่ซ้อมรัก

สนต์ที่เพิ่งเดินเข้ามาในสำนักงานเห็นชารีนนั่งจัดการเอกสารตรงหน้าสีหน้าดูเคร่งเครียดจึงทำทีเดินเข้าไปใกล้วางแก้วกาแฟเย็นไว้ตรงหน้า หญิงสาวไม่ได้สนใจ เธอยังคงดูวุ่นวายกับสิ่งรอบตัวนั้นตลอดเวลา จนสนต์เป็นฝ่ายสะกิดให้เธอหยุด

“ดื่มอะไรเย็นๆ หน่อยสิ คิ้วจะได้เลิกขมวดสักที” เขาเลื่อนแก้วกาแฟเย็นนั้นให้ไปตรงหน้า แต่ชารีนกลับทำหน้ามุ่ย

“หายไปไหนมาน่ะสนต์ ฉันโทร.หาก็ปิดเครื่อง” น้ำเสียงเหมือนน้อยใจอยู่ในที

“ไปเดินเล่นหาแรงบันดาลใจนิดหน่อย มีเรื่องอะไรเหรอ”

“ก็ว่าจะเริ่มเปิดตัวเว็บไซต์น่ะสิ ดูวุ่นๆ ยังหาห้องที่จะใช้เปิดตัวไม่ได้เลย”

“ห้องจะใช้แค่แถลงข่าวอย่างเดียวใช่ไหมหรือต้องทำอะไรอีก” ชายหนุ่มสอบถามรายละเอียดเพื่อช่วยเหลือ คลี่คลายปัญหาให้

“ก็ใช้จัดเลี้ยงเล็ก ๆ ด้วยน่ะ” ชารีนอธิบายเพิ่มเติม

“ไม่ลองร้านของมีนมันล่ะ จะได้ช่วยเพื่อนด้วย” สนต์เสนอ พร้อมกับยกนิตยสารผู้หญิงขึ้นมาอ่าน

ชารีนหน้าตื่น ดวงตาเบิกกว้างด้วยความพอใจ “นั่นสินะ ขอบใจจริง ๆ นะสนต์ ฉันลืมเรดคลับไปได้ยังไง”

“นี่ถ้าไม่มีฉันเธอจะทำยังไงชารีน” สายตาชายหนุ่มอ่อนแสงลง น้ำเสียงเหมือนกับตัดพ้อมากกว่าจะคิดเรื่องอื่น

“อื้อหือ ทวงบุญคุณเชียว เชอะถึงไม่มีนายฉันก็หาได้เองแหละ”

สนต์ยิ้มตอบหญิงสาวก็จริงแต่หัวใจนั้นเจ็บหนึบ เขารู้ดีว่าตัวเองเป็นเหมือนตัวช่วยของชารีนมาตลอด ไม่ว่าเธออยู่ที่ไหน ตรงนั้นจะมีเขาด้วยเสมอ สนิทสนมจนกลายเป็นความรู้สึกอื่นไม่ได้อีกแล้วนอกจาก เพื่อน ทั้งๆ ที่เขาไม่ได้คิดอย่างนั้น ความผูกพันที่เขาไม่อาจทำลายลงไปด้วยคำว่ารัก เป็นอย่างนี้ตลอดไปจนกว่า เขาจะทนไม่ได้

มีนเดินเข้ามาในสำนักงานกองบรรณาธิการนิตยสารผู้หญิง เขากวาดสายตามองโต๊ะที่มีโพสอิทสีเหลืองแปะติดไว้หน้าจอคอมพิวเตอร์ก่อนจะดึงมันออกมาอ่าน

“วันนี้ประชุมด่วนตอนบ่ายนะ ปล.พี่ติดต่อเราไม่ได้ตั้งแต่เช้าแล้วเป็นอะไรหรือเปล่า” ชายหนุ่มควานหาโทรศัพท์มือถือในกระเป๋าเป้ออกมาดูแทบจะทันที หน้าจอมืดสนิทนั่นหมายความว่าเขาลืมชาร์ทแบตเตอรี่ไว้ตั้งแต่เย็นวาน นี่เขาคงบ้าไปแล้ว มัวแต่คิดเรื่องของอลินาจนลืมเรื่องอื่นๆ เสียสนิทไปเลย เขารีบจัดการเสียบปลั๊กแท่นชาร์ตที่ต่อสายพ่วงกับโทรศัพท์ทันที สักครู่จึงเปิดเครื่องอีกครั้งแล้วโทรศัพท์หาเจ้านายทันที

“นี่มีนหายหัวไปไหนห๊ะ ติดต่อไม่ได้เลย”

“ขอโทษครับพี่แจน ผมลืมดูว่าโทรศัพท์มันแบตหมด”

“อย่าลืมนะตอนบ่ายน่ะ พอดีพรุ่งนี้พี่มีนัดสำคัญเลยจะเลื่อนประชุมเข้ามาสักหน่อย แล้วพี่โอจะเข้าร่วมประชุมด้วยนะเตรียมตัวให้พร้อมล่ะ” จรรยากล่าวถึงเจ้าของทุนผู้ก่อตั้งนิตยสาร

“ครับผม เดี๋ยวเตรียมพร้อมแน่นอน” มีนตอบรับก่อนที่จะวางสายหันไปจัดการงานตรงหน้าเสียให้เรียบร้อย เขาไม่ได้ตื่นกลัวกับการที่ผู้บริหารจะลงมาร่วมประชุมด้วยนักหรอก ในเมื่อได้ทำงานอย่างเต็มที่แล้วจะเกรงกลัวอะไร สิ่งที่ต้องกลัวก็คือ ไม่ได้ทำงาน เท่านั้นเอง

เมื่อถึงเวลาประชุม โอฬาร หนึ่งในบรรณาธิการบริหารเดินเข้ามาในห้องประชุมตามเวลา ผู้บริหารหนุ่มเป็นพี่ชายของจรรยา ทั้งคู่ดูเป็นพี่น้องที่รักกันมากแต่ในเรื่องงานโอฬารกินขาดเรื่องของความเข้มงวด มองถึงรายได้เป็นหลักมากกว่าน้องสาว

“ปกหน้าคิดว่าจะสัมภาษณ์ไฮโซที่กำลังฮอตตอนนี้ คุณรตี พี่โอคิดว่าไงคะ” จรรยาเกริ่นหลังจากที่ประชุมสรุปงานในเดือนก่อนเรียบร้อยแล้ว เริ่มที่จะเปิดเรื่องใหม่

“ก็ดีนะ พี่รู้จักเขาตอนงานการกุศลเมื่อต้นปีที่ผ่านมา เขาดูเป็นคนที่น่าสนใจมาก อีกอย่าง ลูกสาวเขาเพิ่งกลับมาด้วย กำลังเป็นที่สนใจทีเดียว” โอฬารเห็นด้วยทันที แต่คนที่หน้าเริ่มเคร่งเห็นจะเป็นช่างภาพหนุ่ม เขาไม่คิดว่าสิ่งที่เขาตั้งใจมันกำลังเดินทางมาถึง โดยที่เขาไม่ทันตั้งตัว

“งั้นให้ทีมติดต่อสัมภาษณ์เลย ว่าไงมีนโอเคไหม” จรรยาเอ่ยถามชายหนุ่มที่นั่งเงียบมานาน

“ผมไม่มีปัญหาอยู่แล้ว ยินดีมากด้วยซ้ำ” ทั้งน้ำเสียงและสายตาดูเปลี่ยนไปในทันที คงถึงเวลาแล้วที่เขาจะจัดการชำระสิ่งที่ค้างคาใจมานาน



อลินานั่งมองโค๊ดโปรแกรมบนหน้าจอโน๊ตบุ๊คหลังจากที่ทำการทดลองอยู่หลายครั้งเธอก็คิดว่าโปรแกรมนี้มันมีข้อบกพร่องบางอย่าง การจับคู่ทำได้ก็จริงแต่ทั้งหมดทั้งมวลก็ย่อมขึ้นอยู่กับความรู้สึกของสองฝ่ายด้วย อลินาคิดว่าจะทดลองกับสมาชิกที่ออนไลน์ขณะนี้ซักคน แต่คงเพราะยังไม่มีการเปิดตัวที่ชัดเจนทำให้สมาชิกของเว็บไซต์ lover.com ตอนนี้ไม่มีใครเลย พอดีมีเสียงติ๊กอยู่ ๆ ตัวไอคอนสีเขียวก็เด้งขึ้นมา แสดงตัวว่าออนไลน์มาใหม่ ชื่อในโลกอินเทอร์เน็ตคือ evil อลินารีบเข้าไปทักเขาในทันที

“สวัสดีค่ะ คือตอนนี้ทางเลิฟเวอร์ กำลังทดสอบระบบ รบกวนช่วยร่วมทดสอบด้วยค่ะ” ไม่นานอีกฝ่ายก็ตอบกลับมันที

“ได้ แต่ผมจะได้อะไรตอบแทนละ”

อลินาเลิกคิ้วสูง กวนประสาท!! “ขอเวลานิดเดียว ทำไม่ได้เชียวเหรอ” เธอลองขอร้องอีกครั้ง เพียงไม่นานเขาก็ตอบกลับมา

“อืม ก็ได้แค่หนึ่งนาทีนะ” เขาเขียนกลับมาอย่างนี้ อลินาถอนหายใจหันไปคลิ๊กปุ่มต่าง ๆแล้วลองส่งไอคอนรูปกล่องของขวัญไปให้เขาดู

“เห็นไหมค่ะว่าส่งอะไรไปให้”

“ครับ ขอบคุณ แต่ผมไม่ค่อยชอบของขวัญ ผมชอบสายตาหวาน ๆ มากกว่า” เขาตอบกลับมาอลินาทำหน้าเซ็งนึกหมั่นไส้คนๆ นี้ขึ้นมาในทันที

“ขอย้ำอีกครั้ง นี่คือการทดสอบระบบคะ” อลินาเขียนกลับไป

“คุณหมดเวลาแล้ว ผมจะไปเสียที ง่วงนอน แล้วค่อยคุยกันอีกนะครับคุณแอดมิน” พอขึ้นประโยคนั้น evil ก็หายตัวไปแสดงตัวตนเป็นสีเทาทันที

อลินาก็ถอนหายใจยาว เธอต้องรีบเร่งงานให้ทันการเปิดตัวของเว็บไซต์หาคู่ ชารีนเร่งงานเข้ามาแล้วเพื่อให้ทันงานเปิดตัวของเว็บไซต์ในอีกไม่กี่สัปดาห์ แถมคนที่รับงานนี้มาแต่แรกอย่างโยธินก็หายตัวไปแบบไม่มีร่องรอย อลินาได้แต่ส่ายหน้า หาเรื่องใส่ตัวโดยแท้ หญิงสาวบ่นให้กับตัวเองในใจ



มีนนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานตัวเองพลางเลือกภาพที่จะใช้เสนอบรรณาธิการสาว เมื่อคืนเขาทดสอบลองเข้าไปใช้เว็บไซต์ที่เป็นพรีเซ็นเตอร์ให้เพื่อนรัก ด้วยเหตุที่ปลายเดือนนี้จะต้องเปิดตัวแบบเต็มรูปแบบด้วยจึงลองเข้าไปใช้ดูพอเจอโปรแกรมเมอร์ทดสอบระบบด้วยเขาก็เลยแกล้งเล่น ๆ เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ได้ ชายหนุ่มกลับหัวเราะออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่

“เป็นอะไรวะอยู่ดี ๆ ก็หัวเราะ” ภพธรว่าเมื่อเห็นเพื่อนทำท่าทางประหลาด

“เปล่า นึกเรื่องขำ ๆ ได้น่ะ แล้วนี่เราต้องเตรียมอะไรที่จะไปสัมภาษณ์แม่หม้ายพราวเสน่ห์นั่นล่ะ” มีนเปลี่ยนเรื่องเงยหน้าขึ้นจ้องเพื่อนร่วมงาน

“พูดซะคุณรตีหมดภาพพจน์เลย ติดต่อแล้วแต่เขาบอกว่าไม่ชอบออกสื่อ ขอให้ไปถ่ายลูกสาวแทน จริง ๆ ฉันว่าเขาตั้งใจจะโชว์ลูกสาวมากกว่า” ภพธรออกความเห็น

“คงอย่างนั้นแหละ อย่างผู้หญิงคนนี้จะมีอะไรโชว์ได้นอกจากเรื่องนี้”

“เฮ้ย แกนี่พูดเหมือนรู้จักเขาดี เอ๊ะ ลืมไปแกนามสกุลเดียวกันนี่หว่า เครือญาติเหรอ”

หลายคนไม่ได้รู้ตื้นลึกหนาบางระหว่างเขาและรตี ส่วนใหญ่คนที่รู้มักเป็นคนเก่าแก่ ส่วนกลุ่มคนรุ่นใหม่มักจะรู้เพียงแค่ว่านามสกุลนี้เป็นนามสกุลเก่าแก่ ส่วนมากเป็นคนร่ำรวยมีฐานะ “แค่รู้จักเผินๆ ไม่มีอะไรหรอก”

“ว่าแต่เมื่อคืนที่ไปเที่ยวด้วยกันแกกลับตอนไหนวะ ไม่เห็นบอกกันมั่ง”

“ก็ ตอนที่แกไม่เห็นนั่นแหละ”

“โห ไอ้นี่กวนเว้ย เห็นวันก่อนๆ แกยังนั่งหน้ามุ่ยอยู่เลย ทำไมวันนี้ยิ้มได้วะ มีอะไรดี ๆ หรือเปล่า” น้ำเสียงพยายามสอบถามนึกสงสัยในพฤติกรรมแต่มีนส่ายหน้าทันที

“ไม่มีอะไรพิเศษหรอก มันก็แค่เรื่องขำๆ ที่ผ่านมาเท่านั้นเอง แล้วนี่มีประวัติพอคร่าว ๆ ของยายลิษาอะไรนี่ไหม”

“มีสิ ว่าแต่แกจะเอาไปทำไม แค่ถ่ายแบบนี่”

“อยากรู้ ฉันเชื่อว่าแกต้องมีเพราะแกจะเป็นคนสัมภาษณ์เขา”

“แน่นอน” ภพธรกล่าวทั้งหันไปดึงเอกสารบนโต๊ะตัวเองยื่นให้เพื่อนร่วมงาน มีนรับมาก่อนจะเปิดอ่านอย่างช้าๆ ภายในหัวนึกถึงแผนการที่เขาจะทำในอนาคตทันที



ในเช้าวันต่อมาอลินานั่งเช็ดถูกแจกันลายครามที่พัชระซื้อมาเมื่อช่วงบ่าย เธอค่อนข้างแปลกใจที่พี่ชายต่างมารดาของเธอชื่อชอบเรื่องแบบนี้ ตั้งแต่พบพัชระ เธอได้รู้จักผู้ชายที่แตกต่างจากคนอื่น เขาละเอียดลออกับทุกเรื่อง ค่อนข้างเข้าใจความคิดของคนอื่นได้อย่างรวดเร็ว

“พี่พัชซื้อมาอีกละสิ” ประวีย์ว่าพลางนั่งลงข้าง ๆ หญิงสาว อลินาพยักหน้ารับ

“พี่พัชชอบของฟุ่มเฟือยนี่จริง ๆ สมกับที่เป็นผู้ดีเก่า”

อลินาเลิกคิ้วสูง ผู้ดีเก่า แน่นอนก็เพราะทั้งพ่อและแม่ของพี่ชายเธอเป็นต้นตระกูลแท้ ไม่ได้เป็นลูกครึ่งเหมือนเธอ ทำไมเธอถึงได้รู้สึกอิจฉานะ เกลียดชีวิตยังไงก็ไม่รู้ พี่ชายเธอไม่ต้องทำอะไรเสียเลยด้วยซ้ำแต่ก็ได้ทุกอย่างมาง่าย ๆ ส่วนเธอ กว่าจะได้มา ช่างยากลำบากเหลือเกิน

“งั้นเหรอ” อลินาตอบได้แค่นั้น

อลินาแอบน้อยใจว่า ขนาดจะบอกกับใครต่อใครว่าเธอเป็นน้องสาวแท้ๆ ยังยาก เขาคงอายที่จะบอกเช่นนั้น แถมยังต้องอธิบายอีกว่า เธอเป็นลูกเมียน้อยของพ่อ มันน่าขัน เป็นตลกร้ายที่หัวเราะไม่ออก

อลินาเช็ดเสร็จก็เดินเอาไปเก็บที่ห้องของพี่ชายตามที่เขาสั่งไว้ เมื่อเข้าไปในห้องส่วนตัวของพัชระ อลินาได้แต่อ้าปากค้างด้วยความสวย สะอาด แถมมีตู้โชว์ของเก่าซึ่งภายในนั้นมีของเก่ามากมาย ท่าทางของพัชระไม่เหมือนคนสะสมของเก่าเลย เขาดูเป็นคนเจ้าระเบียบก็จริงแต่ดูเหมือนจะเป็นคนสมัยใหม่ไปด้วย

“เสร็จแล้วก็รีบออกไป ยืนมองอะไรอยู่ได้” พัชระบอกเมื่อเห็นอลินายังยืนอยู่ที่เดิม อาการเหมือนคนตื่นเต้นกับสิ่งที่ได้เห็นนั้น

“ทำไมถึงได้สะสมของไว้มากมายขนาดนี้ละคะ”

“มันเป็นของแม่พี่ รีบไปทำงานดีกว่าใกล้จะเปิดร้านแล้ว” พัชพูดแค่นั้นก่อนจะไล่น้องสาวลงไปทำงาน อลินาทำตามไม่ได้สอบถามอะไรต่อแม้จะรู้สึกสงสัยอยู่บ้าง

เมื่อลงมาถึงชั้นล่างร้านเปิดเรียบร้อยแล้วโดยประวีย์ทำหน้าที่นั้น ทว่าแขกคนแรกที่เดินเข้ามาในร้าน ทำให้อลินาตกใจ บุรพล ก้าวอาดๆ เข้ามาสีหน้าเคร่ง หญิงสาวประเมินสถานการณ์อย่างรวดเร็ว คาดว่าบุรพลคงไม่ได้มาดีนักหรอก

ชายหนุ่มหันมาสบตาเธอแม้ว่านั่งลงที่เก้าอี้ชุดด้านหน้าร้าน ประวีย์เข้าไปหาพร้อมกับรอรับรายการ ทว่าบุรพลกลับเอ่ยขึ้นมาว่า “ฉันจะสั่งกับอลินา” คำตอบนั้นทำให้ประวีย์หันมามองหน้าอลินาทันที เด็กหนุ่มเดินกลับเข้ามาหาหญิงสาวพร้อมกับทำสายตาแสดงออกถึงความกังวลใจ

“เขาอยากสั่งกับแกวะอลินา เฮ้ย รู้จักกันหรือเปล่า”

อลินาพยักหน้ารับก่อนจะเดินไปที่โต๊ะที่บุรพลนั่งอยู่ “นายมาทำอะไร ถ้าไม่กินก็ไปที่อื่น อย่ามากวนแถวนี้”

ชายหนุ่มยิ้มเหยียด จ้องมองอลินาเต็มตา “อ้อ นี่ฉันเป็นอันธพาลขนาดนั้นเลยเหรอ”

“หน้านายมันบอกว่าไม่ได้มาดี”

“เธอรู้แม้กระทั่งสีหน้าฉันมันบอกอะไรได้อย่างนั้นหรือไง รู้จักฉันดีขนาดนี้ยังบอกว่าไม่ใช่แฟนกัน บอกว่าไม่เคยคิดอะไรอย่างนั้น”

“ทุกอย่างนายคิดไปเองนะเบียร์ แล้วฉันก็ไม่เคยตกลงอะไรกับนายเลย”

บุรพลทุบโต๊ะเสียงดังก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ทุกคนในร้านหันไปมองเหตุการณ์แทบจะทันที ประวีย์รีบวิ่งเข้ามายืนตรงกลางคั่นระหว่างเพื่อนร่วมงานและชายหนุ่ม

“คุณครับ ถ้าไม่ทานข้าวหรือจะสั่งอะไรก็ขอร้องละครับ อย่ามีเรื่องเลย”

“ฉันไม่ได้มาหาเรื่อง”

“งั้นก็เลิกงี่เง้าซะไอ้หนู” เสียงนั้นเป็นเสียงของมีนซึ่งยืนอยู่ไม่ไกลนัก เขาเดินเข้ามาดึงแขนอลินาไปไว้ด้านหลัง บุรพลมองทั้งคู่แล้วเงยหน้าขึ้นหัวเราะประหนึ่งเยาะเย้ยมากกว่าจะพอใจกับเรื่องตรงหน้า

“คนที่งี่เง้าน่ะ นายต่างหาก แน่จริงชกกับฉันซักยกสิ ใครชนะได้อลินาไป”

อลินาสะบัดแขนออกจากมือของมีนแล้วเดินตรงมาหาคนก่อกวนทันที ก่อนจะเงื้อมือขึ้นตวัดตบใบหน้าคมของชายหนุ่มเสียงดัง

“ฉันไม่ใช่สิ่งของที่นายจะเอาไปช่วงชิงกับใคร อย่าคิดที่จะทำแบบนี้อีกออกไป! ก่อนที่ฉันจะเรียกตำรวจมา ถ้าฉันทำอย่างนั้นก็หมายความว่า เราไม่เหลือแม้แต่ความเป็นเพื่อนกันอีก”

บุรพลยกมือขึ้นกำหมัดแน่นก่อนจะคลี่ออกชี้หน้ามีน สีหน้าเคร่งอย่างสุดจะกลั้นความโกรธไว้ได้

“อย่าให้ฉันเจอแกอีก ไม่งั้นไม่รอดแน่”

“ก็ได้ ตามสบายแล้วแต่นายนะ” มีนยักไหล่ไม่สนใจคำขู่นั่นเลยสักนิด

อลินาหันไปมองชายหนุ่มที่ทำท่าทีเหมือนไม่ได้เกิดเรื่องราวอะไรนั้นด้วยความขัดใจ การกระทำของมีนนั้นยิ่งทำให้บุรพลแค้น เขาสะบัดแขนเดินกระฟัดกระเฟียดออกไปจากร้านทันทีที่เห็นว่าหญิงสาวไม่ได้เข้าข้างและสนใจเขาอีกแล้ว อลินาหันไปหามีนซึ่งยืนอยู่ด้านหลังส่งสายตาเข้มๆ ไปให้ ทว่ามีนกลับยักไหล่

“ไม่พูดน่ะไม่ว่าเป็นไบ้หรอกนะ” เธอต่อว่ายหนุ่มทันที

“อ้าว ก็มันท้าทาย”

“ก็ไม่ต้องไปต่อปากต่อคำสิ”

“นี่ ตกลงเธอเป็นแฟนมันจริง ๆ หรือไงมาว่าฉันเพื่ออะไร ฉันอุตส่าห์ช่วยนะ ไอ้บ้านั่นมันมาหาเรื่องเธอชัดๆ ฉันเองก็ไม่ได้ตั้งใจจะช่วยนักหรอก แค่ไม่อยากให้ข้าวของในร้านเสียหายเท่านั้นเอง ถ้าจะทะเลาะกันก็ช่วยไปทะเลาะกันไกล ๆ หน่อย น่ารำคาญ” มีนเดินหน้าบึ้งเดินออกไปปล่อยให้อลินามองตามด้วยความโมโห

ประวีย์มองท่าทีของคนทั้งคู่แล้วประหลาดใจ หันมาสะกิดหญิงสาวข้างๆ “เธอรู้จักกับแขกคนเมื่อครู่ใช่ไหม แล้วพี่มีนรู้ได้ยังไงว่าเธอกับนายคนนั้นเป็นแฟนกัน”

“ไม่มีอะไรหรอกวีย์ ทำงานกันเถอะ” เธอเอ่ยชวนในเรื่องที่ควรทำมากกว่า ประวีย์ยังคงไม่ยอมแพ้เดินตามมาคุยต่อ

“ไม่ให้สนใจได้ยังไง แปลกนะที่พี่มีนเข้ามาช่วยปกติบางทีแกจะไม่สนใจเลยด้วยซ้ำ ปล่อยให้พี่พัชจัดการ”

“เขาคงกลัวของเสียหายอย่างที่ว่านั่นไง”

“ไม่จริงหรอก...อ๊า~ หรือว่าพี่มีนก็จะกินไก่วัด อย่าหลงคารมพี่มีนเชียวนะ รายนี้ไว้ใจไม่ได้หรอกเรื่องผู้หญิงเปลี่ยนไม่ซ้ำหน้ากันแต่ละวัน” ประวีย์รีบตักเตือนด้วยความหวังดีแทบทันที อลินาได้แต่ถอนใจ เงยหน้ามองเพื่อนร่วมงานด้วยสายตาละเหี่ย

“ฉันไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรมากกว่าเจ้านายกับลูกน้อง พี่มีนของนายหรอก” ประวีย์เลิกคิ้วสูงกับคำว่า พี่มีนของนาย เขาคิดว่านั่นดูเหมือนเป็นการประชดมากกว่า

“เออ ก็ดี ฉันละหวั่น ๆ” ประวีย์ยังคงบ่นแต่คนถูกบ่นเดินหนีออกไปหน้าร้านเสียแล้ว

อลินาไม่สนใจว่าประวีย์จะคิดอย่างไรแต่สิ่งที่เธอเกลียดและไม่อยากเข้าใกล้ที่สุดก็คือ มีน เรื่องอะไรที่เธอต้องทำไปหลงคารมเขาอีกรอบ สิ่งที่เธอต้องทำคือทำให้เขาหลงเธอต่างหาก...แต่จะทำอย่างไรได้ แค่เห็นหน้าเขาเธอก็สั่นด้วยความเกลียดเข้ากระดูก แล้วสิ่งที่เธอรับปากชารีนจะทำได้สำเร็จหรือไม่ เธอยังกังขาตัวเองอยู่ดี



มีนนั่งทำหน้ามุ่ยอยู่ที่ทำงาน เขานึกถึงสีหน้าของอลินาเมื่อเช้าแล้วก็อยากจับมาตีก้นเสียให้เข็ด เด็กอะไรไม่เข้าใจเลยหรือว่าความรักมันอาจจะทำให้เธอลำบากขนาดไหน เขาก็อยากจะช่วยให้มันจบ ๆ ไปแต่นี่กลับมาด่าเขาแทนที่จะด่าเจ้าตัวการนั่น ดื้อรั้นเกินผู้หญิงไปแล้ว

เมื่อก่อนอลินาไม่ใช่คนแบบนี้เธอคือสาวหวานน่ารักสมวัย เขายังจำได้ดีว่าทุกเช้าเธอเดินมาโรงเรียน เขาเดินตามเธอเป็นระยะ ด้วยบ้านห่างกันไม่กี่บล็อก เธอคือสาวใสสวมแว่นตาหนา ผูกเปียสองข้างเสมอ เขายังเคยล้อเธอว่าเป็นยายหางเปีย ทว่าพอโตขึ้นเธอกลับถูกคนอื่นมองว่าเธอเป็นเด็กสาวแสนเชย ไม่เข้าพวก เขาเองที่ผิดที่ไม่ยอมเอ่ยปากปกป้องเธอ

จนวันที่เขาตัดสินใจที่จะเลือกรับปากที่จะไปเที่ยวกับอลินา มันคือวันเดียวกันกับที่เขาได้รับรู้ข่าวร้ายจากเมืองไทย ต้องเดินทางกลับอย่างเร่งด่วนและหลังจากนั้นเขาก็ไม่ได้กลับมาที่นั่นอีกเลย ครั้งสุดท้ายคือไปทำเรื่องกลับมาอยู่เมืองไทย เขาไม่กล้าแม้แต่สู้หน้าเธอ สิ่งที่ทำได้คือ...ตัดใจ

เขาจำน้ำเสียงใสๆ ของเธอได้ จำรอยยิ้มหวานๆ นั้นเป็นเหมือนสิ่งที่ดีที่สุดที่ผ่านเข้ามาในชีวิต แต่เขากลับเป็นคนทิ้งมันไป...คนเลวอย่างเขามันสมควรที่จะได้รับสิ่งดีๆ เหล่านั้นหรือ

“เป็นอะไรวะวันนี้หน้ามุ่ยเชียว” ภพธรหันมาถามเมื่อเห็นมีนทำหน้าเคร่งมาเกือบชั่วโมงแล้วโดยไม่ได้แตะงานตรงหน้าสักนิด ซึ่งไม่ใช่วิสัยของเขา

“เปล่า แค่ มีเรื่องกวนใจนิดหน่อย” ช่างภาพหนุ่มบอกปัด

“ฉันได้ข่าวมาว่ายายฟ้ากำลังดิ้น จะเอาแกคืนให้ได้ เห็นประกาศเต็มที่หน้าเฟสบุ๊ค ทำอย่างกับดาราฮอลลี่วูดประกาศเอาแฟนคืน”

มีนแค่นหัวเราะ “นายก็รู้ฉันไม่สน ที่ฉันต้องการก็แค่เงินเท่านั้นเอง ฉันไม่ได้ผูกพันอะไรกับผู้หญิงคนนี้”

ภพธรมองเพื่อนชายด้วยแววเป็นห่วง “แกนี่เริ่มเลวได้ใจจริง ๆนะ”

มีนรู้ว่ามันเป็นคำประชดมากกว่าจะชื่นชม เขาได้แต่ยิ้มขื่นๆ จะหัวเราะก็หัวเราะไม่ออกได้แต่ยิ้มแหยให้เพื่อนร่วมงาน

“เพลา ๆหน่อยเถอะวะ แกก็ไม่ได้หิวเงินนี่หว่า ทำไมต้องทำด้วยเล่า” ภพธรกล่าวเป็นเชิงตักเตือนเพื่อน มีนส่ายหน้า

“ฉันมันเลวมาตั้งแต่เกิด แกก็น่าจะรู้จะให้เลิกมันก็ทำไม่ได้หรอก” ว่าพลางลุกขึ้นเก็บของบนโต๊ะเดินเลี่ยงออกไปยังระเบียงด้านนอกของสำนักงาน นึกอยากสูดอากาศสักพัก

มีน คือชื่อที่พ่อกับแม่ตั้งให้ด้วยความรัก เพราะเกิดในเดือนมีนาคม แต่หลังจากที่แม่จากไป ความสุขก็หายไปด้วย พ่อแต่งงานใหม่กับผู้หญิงคนหนึ่ง เธอสวยสง่าราวกับนางฟ้า ชื่อของเธอคือ รตี แม่เลี้ยงที่ใคร ๆ ก็อิจฉาเขาและพ่อ แต่เบื้องหลังความสวยงามเหล่านั้นคือการหลอกลวง เธอหลอกเอาสมบัติของพ่อไปจนหมด พ่อสูญเสียทุกอย่างก่อนจะเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุ

หลังจากที่กลับมาอยู่เมืองไทย เขาได้เรียนรู้ความรักอีกครั้งกับหญิงสาวคนหนึ่ง เธอได้มอบประสบการณ์ที่แสนประทับใจจนแทบกระอักเลือด เธอคือผู้หญิงแบบเดียวกันกับรตี หลอกให้รักและหลอกเอาเงินก้อนสุดท้ายของเขาไป

มีนจึงเลือกที่จะฝึกฝนตัวเองให้เป็นหนุ่มที่ดูดี ทำทุกวิถีทางที่จะแก้แค้นหญิงสาวเหล่านั้น เขาหวังว่าจะทำให้เธอเจ็บใจเช่นเดียวกับที่เขารู้สึก

เพราะเหตุนี้เองทำให้มีนได้ฉายา เพลย์บอยตัวพ่อ ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้อยากเป็น งานที่รับจ้างมาส่วนใหญ่มาจากเพื่อนที่บอกต่อๆ กันมา เขาเองช่วงแรกไม่ได้เลือกงานด้วยจนตรอกต้องหาเงินให้ได้เร็วๆ เพื่อนหาเลี้ยงตัวเองในช่วงชีวิตที่ยากลำบาก แต่พอหลังจากเรียนจบมหาวิทยาลัย มีงานทำ มีเงินลงทุนทำร้านกับพัชระ เขาก็เริ่มเลือกงาน เลือกลูกค้าส่วนใหญ๋ที่ถูกหลอกโกงเอาเงินไปเพื่อช่วยเหลือให้ได้เงินคืนมา

ทว่าสิ่งที่ค้างคาใจเขาก็คือเรื่องของอลินา หากอลินาเป็นอลิสจริงๆ เขาก็คงเป็นหนึ่งในต้นเหตุของเรื่องราวที่เจ็บปวดของเธอ เขาสมควรชดใช้ทดแทนในสิ่งที่เคยทำร้ายจิตใจเธอ วันนั้นเขาไม่ได้ตั้งใจที่จะหายตัวไป มันเป็นเรื่องของโชคชะตา เมื่อก่อนเขาอาจจะไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้เลย เหมือนคนรุ่นใหม่ที่มักไม่เชื่อสิ่งที่มองไม่เห็น ตอนนี้เขาเริ่มเชื่อทั้งเรื่องโชคชะตาและเวรกรรมเสียแล้ว

ทุกครั้งที่เจอหน้าหญิงสาวเขาแค่อยากขอโทษ...ขอโทษจากใจจริง ในสิ่งที่เขาเสียใจมาตลอด




ณิชนิตา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 19 พ.ย. 2555, 09:09:31 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 19 พ.ย. 2555, 09:09:31 น.

จำนวนการเข้าชม : 1654





<< --ลบ--   บทที่ ๘ เกลียดมากไหม >>
nako 19 พ.ย. 2555, 09:36:34 น.
ว้าว ว้าว รอลุ้นตอนต่อไปจ้า


nutcha 19 พ.ย. 2555, 14:32:03 น.
ลีน่าแค้นฝังหุ่นมีนแล้วคงไม่ยอมอภัยให้ง่าย ๆ แน่เลย


ณิชนิตา 19 พ.ย. 2555, 18:27:49 น.
ก็แค้นหนักเพราะเจอเรื่องต่อๆกันเลยนี่คะ ผิดหวังจากมีนแล้วก็เจออุบัติเหตุ แม่เสีย ทุกอย่างตูมเดียว


พันธุ์แตงกวา 19 พ.ย. 2555, 19:28:02 น.
อ๋อ... ^ ^


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account