พระอาทิตย์ขึ้นในคืนหนาว # จุฬามณี (ลิขสิทธิ์ สนพ.มายดรีม)
เรื่องย่อ พระอาทิตย์ขึ้นในคืนหนาว

เป็นเรื่องราว ของ มาลี สาวน้อยวัย 20 ปี ลูกกำพร้าพ่อซึ่งเสียชีวิตเพราะโรคมะเร็ง มาลี กับแม่และน้องชาย มารุต อาศัอยู่กับญาติห่าง ๆ ข้างพ่อ ซึ่งทำรีสอร์ตและการท่องเที่ยงท้องถิ่นอยู่ที่อุ้มผาง..

วันหนึ่ง กลยุทธและคณะไปเที่ยวล่องแก่งน้ำตกทีลอซู แล้ว เขาชอบมาลีจึงสานความสัมพันธ์ ส่วนมาลีนั้น เจอลูกทัวร์จีบจนชาชิน แต่กลยุทธก็ทำให้มาลีหวั่นใจอยู่ไม่น้อย..

หลังจากคณะของกลยุทธกลับไป..ทางป้า ก็บีบบังคับให้มาลีไปเรียนต่อกรุงเทพฯ พักอยู่กับนันทาลูกสาว เพราะว่าต้องการให้อนันต์ลูกชายของตัวเองแต่งงานกับคนที่รวยกว่า..

มาลีมาอยู่กรุงเทพฯ โดยที่ชัชชัย เพื่อนของนันทา ซึ่งเคยไปหาข้อมูลเขียนหนังสือมารับที่แม่สอด(ชัชชัยอ้างว่ามาธุระแถวนั้นพอดี)..มาลีกับชัชชัยนั้นเป็นไม้เบื่อไม้เมากันมา เพราะตอนที่ชัชชัยมาอยู่อุ้มผางเพื่อหาข้อมูลเขียนสารคดี ตามคำแนะนำของ นันทา (ชัชชัยเป็นเพื่อนกับนันทา) มาลีแกล้งชัชชัยเพราะว่าไม่ชอบผู้ชายไว้ผมยาวกับปากไม่ค่อยดี..

ที่บ้านทาวเฮ้าส์ของนันทานั้นอยู่หมู่บ้านเดียวกับกลยุทธที่มีน้องสาวชื่อกุลกัญญา และช่วงที่ยังไม่ได้เข้าเรียน ต่อที่รามคำแหงมาลีก็ได้คำแนะนำจากศรีวรรณเพื่อนข้างบ้านของนันทาให้ให้ไปทำงานฆ่าเวลาเป็นแม่บ้านบนตึกสูงกลางเมือง มาลีที่อยู่กับนันทาแบบคนใช้ (นันทากดไว้เพราะมาลีมาด้วยทุนของแม่) ที่คิดเบื่อบ้านจึงไปทำงานตามคำแนะนำของศรีวรรณ

และบนตึกสูงนั้น มาลีก็ได้รู้ว่าเธอทำงานในตำแหน่งแม่บ้านซึ่งมีกลยุทธทำงานที่นั่นด้วย และมาลีก็ได้รู้จักสังคมรอบ ๆ ตัวของกลยุทธมากขึ้น มาลีรู้ว่ากลยุทธเป็นที่หมายปรองของรมมณีย์ลูกสาวของเจ้าของประธาน
บริษัทฯ

กลยุทธนั้นอึดอัดกับความรักที่รมณีย์มีให้ เพราะเขาทนกับปากของเพื่อนร่วมงานไม่ได้ เขาสานความสัมพันธ์กับมาลีมากขึ้น จนกระทั่งรมณีย์ที่เป็นเพื่อนกับชัชชัย ต้องดึงชัชชัยมาช่วยทำให้มาลีกับกลยุทธเข้าใจผิดกัน...

ชัชชัยนั้นชอบมาลีเป็นอย่างมาก เขาพยายามเอาอกเอาใจมาลีสารพัด แต่มาลีคิดว่า ชัชชัยนั้นเป็นคู่รักของนันทา ทำให้มาลีไม่เปิดใจให้ชัยชัย..

และมาลีจะเลือกใครระหว่างกลยุทธกับชัชชัย..

Tags: รักสามเส้า เราสามคน

ตอน: บทส่งท้าย

ตอนจบ




“บันเทิงเริงรมย์ 5- 4 -3 -2- 1...”

“สวัสดีค่ะ ดิฉันมาลี เพิ่มทรัพย์ค่ะ ตอนนี้ดิฉันอยู่ที่หน้ามหาวิทยาลัยรามคำแหง วันนี้มีพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่นักศึกษาที่จบหลักสูตร เรามาดูกันดีกว่าว่ามีใครที่เราพอรู้จักบ้าง ตามมาเลยค่ะ”

แล้วมาลีที่ทำหน้าที่พิธีกรภาคสนามซึ่งอยู่ในชุดครุยขลิบสีส้ม ก็ทำทีเป็นเดินขยับจากจุดแรกไปหาผู้ชายคนหนึ่ง ที่มีเหล่าผู้หญิงยืนรายล้อมรอมอบช่อดอกไม้และขอลายเซ็น มาลีไปสะกิดที่หัวไหล่ เขาหันมาหาพร้อมกับรอยยิ้มที่คนทั้งประเทศคุ้นเคย และรอคอยฟังข่าวคราว ตอนนี้ไม่ว่าขยับทำอะไร เขาก็จะเป็นข่าวในหนังสือดาราเกือบทุกเล่ม

ตามบทสกู๊ปพิเศษนี้ มาลีจะต้องทำเป็นไม่คุ้นเคยกับวิจักษ์ในเบื้องต้น ทำเหมือนแปลกใจระคนดีใจกับวันสำคัญของเขา

“อ้าวใครเนี่ย สวัสดีค่ะ คุณจักษ์นั่นเอง ดีใจด้วยนะคะ”

วิจักษ์ที่อยู่ในชุดครุยขลิบสีแดงยกมือพนมให้กล้องอย่างรู้มุม แล้วรับไมค์ตัวเล็กจากมาลีมาถือไว้ เขายิ้มทั้งปากและดวงตา ใบหน้านี้สื่อทุกวงการให้สมญานามว่า

‘ใสซื่อ’

“สวัสดีครับ สวัสดีพี่น้องที่อยู่ทางบ้าน ดีใจกับคุณมาลีเช่นกันครับ”

“ขอบคุณค่ะ ดีใจด้วยกันเน้อ ค่ะ ถามเลยแล้วกัน ได้ข่าวว่า มหาวิทยาลัยรามคำแหง จบยากมาก เรียนกี่ปีค่ะ”

“3 ปีครึ่งครับ”

“โอ้ว เก่งมากๆ เลย เก่งเหมือนกันเลย เราก็แค่สามปีครึ่งเหมือนกัน มีเคล็ดลับอะไรบ้างคะ”

ตามจุดมุ่งหมายของโปรดิวเซอร์นั้น สกู๊ปนี้จะต้องซูมไปที่วิจักษ์มากกว่ามาลีและดาราคนอื่น เพราะวิจักษ์เป็นคนโด่งดังที่สุด

“ถ้าว่างก็อ่านหนังสือให้มากที่สุด แล้วก็เข้าห้องสอบ เน้นว่าต้องเข้าห้องสอบครับ”

“ค่ะเน้นว่าต้องอ่านหนังสือและเข้าห้องสอบนะคะน้องๆ ขอบคุณมากค่ะ คุยกับแฟนคลับต่อไปก่อนนะคะ”

แล้วหลังจากนั้นก็เป็นภาพรวมของวิจักษ์กับเหล่าแฟนคลับ และพ่อแม่กับน้องๆ ที่เดินทางมาจากต่างจังหวัด ต่อมาก็เป็นภาพของผู้ประกาศข่าวนามว่ามาลีกับแม่ น้องชาย และเครือญาติพร้อมกับคำอธิบายว่าทั้งสองคนเป็นคนจากอำเภออุ้มผาง ที่มาเรียนต่อและได้ดิบได้ดีกัน แล้วภาพก่อนจบก็ตัดมาหามาลีอีกรอบหนึ่ง

“ค่ะ ยังไม่หมดค่ะ ยังมีอีกคนนะคะ นี่เลย”

มาลีตีบ่าของนิวัฒน์ที่อยู่ในชุดครุยขลิบสีแดงของคณะรัฐศาสตร์เหมือนกันกับวิจักษ์

“ค่ะ วันนี้พี่นิวของเราก็รับปริญญากับเขาด้วย”

นิวัฒน์ยกมือไหว้ผู้ชมด้วยทีท่าเด๋อด๋า เหมือนที่ประชาชนคุ้นเคยกับตัวประกอบที่มีหน้าตาชวนให้อมยิ้มทุกครั้งที่ได้เห็น

“เรียนทั้งหมดกี่ปีค่ะ ถามได้ไหม” น้ำเสียงของมาลีสนุกสนานตามบทโทรทัศน์ที่ได้รับมา

“ถามได้ครับ ไม่อายหรอก” พูดจบนิวัฒน์ก็ชูฝ่ามือที่ลดนิ้วโป้งลงทั้งสองข้างขึ้นมาให้กล้อง

“สี่ปีหรือคะ มากกว่ามาลีครึ่งปีใช่ไหมเอ่ย”

“2 คูณ 4 เป็น 8”

“แป่ว” มาลีทำเสียงสนุก แล้วก็ต่อที่ว่า “แล้วมีเคล็ดลับอย่างไร
คะถึงได้เรียนถึงแปดปี”

“ความรู้ไม่ได้หนีไปไหน เอ๊ย...หัวไม่ค่อยดีครับ ความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จอยู่ที่นั่น”

แล้วภาพก็ตัดมาหาวิจักษ์กับนิวัฒน์ที่ยืนอยู่คู่กัน

“ได้ข่าวว่าทั้งคู่จะทำธุรกิจร่วมกัน บอกได้ไหมเอ่ย จะทำอะไร”

“บอดี้เชฟ เอ๊ยไม่ใช่ครับ แค่สถานที่ออกกำลังกายเล็กๆ เท่านั้นครับ เป็นสปอร์ตคลับ กำลังดูๆ อยู่ครับ” วิจักษ์เป็นคนตอบ

“รับหุ้นเพิ่มไหมคะ” มาลีทำเป็นกระแซะเข้าไป

“รับครับรับ อยากได้หุ้นของคุณชัชชัยมากที่สุดเลย” ประโยคนี้นิวัฒน์เป็นคนตอบ

“แป่วววววว... ลาท่านผู้ชมก่อนดีกว่าค่ะ สวัสดีครับ สวัสดีค่ะ”

แล้วภาพที่หน้าจอก็เป็นภาพรวมรูปรับปริญญาดาราหนุ่มสองคนกับพิธีกรสาวของสถานีโทรทัศน์ กับผองเพื่อนดาราที่มาร่วมแสดงความยินดี พร้อมกับเพลง อย่ายอมแพ้ ของอ้อม สุนิสา สุขบุญสังข์

‘ขอ อย่า ยอม แพ้ อย่าอ่อนแอ แม้จะร้องไห้ จงลุกขึ้น สู้ไป จุดหมาย ไม่ไกล เกินจริง...’


เมื่อรายการ ‘บันเทิงเริงรมย์’ จบลง หน้าจอโทรทัศน์ก็เปลี่ยนเป็นโฆษณา มาลีสวมกอดผู้เป็นแม่ซึ่งพยายามเช็ดน้ำตาให้กับลูกสาว ทั้งที่น้ำตาของตนก็คลอหน่วยตา

“หนูทำสำเร็จแล้ว”

ค่ำคืนเลี้ยงฉลองปริญญาตรีนี้ วิจักษ์เป็นเจ้าภาพจัดที่บ้านหลังเล็ก ซึ่งได้มาจากเงินน้ำพักน้ำแรงของเขา แขกเหรื่อที่เชิญมามีพ่อแม่และเครือญาติจากอุ้มผาง ทั้งของมาลี ตนเองและนิวัฒน์ เสียงหัวเราะชื่นใจดังตั้งแต่เมื่อวานจนถึงค่ำคืนนี้

แล้วเวลาก็เลื่อนมาจนถึงหนึ่งทุ่ม นันทาเปิดประตูรถลงมาพร้อมกับสวมกอดพ่อกับแม่ แล้วก็หอมแก้มเหมือนฝรั่งเมืองนอก มาลียกมือไหว้ตามมารยาท นันทาส่งกล่องของขวัญให้ มาลีขอบคุณ แล้ว นันทาก็เดินไปหาวิจักษ์ที่กำลังย่างบาร์บีคิว

“ดีใจด้วยนะจักษ์”

“ครับ”

นันทาส่งกล่องยูโร่เค้กที่ผูกโบมาให้วิจักษ์ด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม วิจักษ์รับมาถือไว้แล้วหัวเราะด้วยสีหน้าเกลื่อนกล่น

“ไม่รู้จะหาอะไรให้ ตอนนี้จักษ์มีพร้อมหมดแล้ว” สายตาของนันทายังระเรี่ยอยู่ที่ใบหน้าเคยคุ้น

“ขอบคุณนะครับที่ยังไม่ลืม” วิจักษ์ก้มลงมองกล่องแล้วนึกถึงความหลัง

“ไม่เคยลืมนะจักษ์ ยังรอนะ”

พูดไปพลางสะกดน้ำตาไม่ให้ไหลอาบแก้ม สี่ปีแล้วซินะที่เขากับเธอแทบไม่ได้ออกไปไหนมาไหนด้วยกัน มีบ้างที่โทรศัพท์หากัน ให้กำลังใจกันในช่วงแรกๆ ต่อมาเมื่อวิจักษ์ดังเป็นพลุแตก นันทาก็แทบไม่กล้าต่อสายหาเขา กลัวว่าจะสร้างความรำคาญทั้งที่เขารับสายครั้งใดเขาก็จะบอกว่า ‘คิดถึงเช่นกัน’

สองปีสุดท้าย เธอนั่งมองความสำเร็จของเขาในจอชนิดไม่กล้าต่อสายหาเขาอีกเลย แต่เขาก็ยังมีน้ำใจโทรมาหา ส่งของขวัญมาให้ทุกเทศกาล และยามที่เขาไปต่างบ้านต่างเมือง เธอก็มักจะได้รับของฝากอยู่เสมอ เธอต้องการมากกว่านั้น แต่เขาก็วางเธอไว้เพียงเพื่อนหญิงคนพิเศษกว่าคนอื่นเท่านั้น

แม้ไม่ได้ครอบครอง แต่เธอก็ดีใจว่ายังได้รู้จักกับความรัก

รักคือการให้ รักคือการเสียสละ ยิ่งรักกับดารายอดนิยมก็ต้องเสียสละให้มากยิ่งขึ้น

นันทาผละออกไปเล่นกับหลานชายหญิงลูกของอนันต์กับรุ่งทิพย์ วิจักษ์ก้มหน้าปิ้งบาร์บีคิวต่อนิวัฒน์ซึ่งวิจักษ์ให้พี่ต้นช่วยเหลือ หลังจากที่ตนเองโด่งดังแล้วเดินเข้ามาหา

“ตรีทศมา จอดรถตรงโน้น”

“ทำไมพี่เขาไม่เข้ามา” สายตาของวิจักษ์มีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง

“ไม่รู้มัน ไม่อยากเจอคนอุ้มผางมั้ง”

วิจักษ์ละมือจากที่คีบกำลังจะเดินออกไป พอดีกับที่ตรีทศก็หอบช่อดอกไม้มาสามช่อพร้อมกับของขวัญกล่องใหญ่อีกสามกล่อง คนแถวนั้นช่วยกันถือตามตรีทศที่ละของได้แล้วยกมือไหว้กราด พร้อมกับส่งภาษาถิ่นทักทายอย่างไม่ถือตัว
มาลี วิจักษ์ นิวัฒน์รีบเดินออกมาหาด้วยรู้ว่าแขกคนนี้พิเศษกว่าใครๆ

“ดีใจด้วยนะ ดีใจด้วยกับทุกๆ คน เอ้าของขวัญเล็กๆ น้อยๆ จากคนตัวเล็กๆ อย่างพี่”

ว่าแล้วเขาก็ส่งดอกไม้ให้มาลี พร้อมกล่องของขวัญสีชมพู

“แต่งงานก็ชวนพี่บ้างนะ ว่าที่เจ้าบ่าวมาหรือเปล่า”

ตรีทศรู้ความเคลื่อนไหวของน้องทั้งสามคนมาตลอด ไม่ทางวิจักษ์ก็ทางนิวัฒน์ หรือนานๆ ทีมาลีมีปัญหาทางการเรียนก็จะโทรมาปรึกษาเขา และก็มีบ้าง ที่เขาพาน้องๆ ออกไปหาอะไรทานแล้วส่งภาษาถิ่นเพื่อไม่ให้ลืมอุ้มผาง

“ยังไม่กลับมาเลย”

“เรียนอะไรนานจัง” ตรีทศทำหน้าสงสัย

“พ่อเขาขอร้องให้ทำดอกเตอร์อีกสองปี แลกกับว่าที่เจ้าสาวคนนี้” มาลียิ้มกว้างเปิดเผย

วิจักษ์เห็นหน้ามาลีแล้วยิ้มชื่น แม้วันนี้มาลีก็ยังงดงามอยู่ในใจเขาเสมอ แต่งามเพื่อให้เขามีกำลัง ไม่ใช่งามเพื่อให้เขาอบอุ่นใจเหมือนผู้ชายตรงหน้า

“มันก็เลยต้องเบนเข็มมาเรียนสื่อสารมวลชน เพื่อที่จะได้เป็นดาวกับเขาบ้าง”

“รู้ได้ไง” มาลีหันมาถามนิวัฒน์ด้วยน้ำเสียงร่าเริง

“เดาเอา”

“แล้วตอนที่พี่ต้นจะช่วยปั้นให้เป็นดาราอีกคนทำไมไม่เอา” ตรีทศตั้งคำถามกับมาลี
เพราะวิจักษ์ทำให้ตรีทศพลอยสนิทกับผู้จัดการนามพี่ต้นไปด้วย แต่พี่ต้นก็เตือนวิจักษ์ตลอดว่าอย่าให้มีภาพของตรีทศกับเขาหลุดออกมาเด็ดขาด ครั้งที่ภาพการประกวดในอดีตปลิวว่อนในอินเทอร์เน็ต สื่อพยายามล้วงแคะแกะควักอดีตของวิจักษ์ แต่คำว่าสจ๊วตหนุ่มก็ไม่หลุดเข้าไปในสื่อ ด้วยตรีทศเองก็พยายามทำทุกอย่างให้วิจักษ์ถึงฝั่งฝันที่อยู่บนฟ้า

การหาคอนโดให้อยู่ การดาวน์และผ่อนรถเก๋งให้ในเบื้องต้น นั่นคือการช่วยเหลืออย่างคนที่คิดถึงประโยชน์ของวิจักษ์ในวันข้างหน้า แม้วิจักษ์เต็มใจให้ครอบครอง แต่ตรีทศขอเลือกเพียงแค่ว่า มีใครคนหนึ่งรักเขาในแบบที่เขาเป็น

“ไม่ชอบสวมบทบาทเป็นใครก็ไม่รู้ อยากเป็นตัวของตัวเองมากกว่า แล้วก็สมใจแล้ว ขอบคุณพี่อีกทีนะคะ”

ว่าแล้วมาลีก็ยกมือพนมขอบคุณกับความคิดที่ตรีทศจะช่วยเหลือในการเป็นคนเจรจากับพี่ต้นให้ในอดีต ตรีทศยิ้มแล้วหันมามองนิวัฒน์ที่มีใบหน้าเปื้อนยิ้มแต่ดวงตาหม่นเศร้า

“เอ้านี่ของไอ้วัฒน์ เอ๊ย ลืมตัวอีกแล้ว ไอ้นิวของแก” ตรีทศมอบกล่องของขวัญสีขาวพร้อมช่อดอกไม้ให้

“อะไรวะ”

“ชุดสำหรับเข้าวัดปฏิบัติธรรม ซื้อมาจากอินเดียเลยนะ”

มาลีหัวเราะคิกๆ ด้วยช่วงหลังๆ นิวัฒน์เลิกเจ้าชู้แล้วมุ่งหน้าเข้าหาวัด มาลีถามความในใจจึงได้รู้ว่า เขาต้องการอุทิศบุญให้กุลกัญญา และอีกส่วนหนึ่งคือด้วยความที่อยากเป็นดารามากๆ จึงไปอธิษฐานขอพรจากพระประธานจากวัดสำคัญในกรุงเทพฯ ทั้ง ๙ วัด ถ้าได้เป็นดาราสมใจจะรักษาศีลปฏิบัติธรรม

เมื่อนิวัฒน์เปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างนั้น ทุกคนได้แต่งุนงง มาลีเชื่อว่าเหตุผลข้อหลังนั้นเป็นข้ออ้าง ถ้าคนอย่างนิวัฒน์ใช้หัวใจนำทาง เธอก็รู้สึกดีใจแทนกุลกัญญาว่า ความรักที่มอบให้ไปนั้นไม่ได้สูญค่าแต่อย่างใด

“สุดท้ายของจักษ์พิเศษหน่อยนะ”

ตรีทศส่งกล่องขวัญสีม่วงมาให้ พอดีกับที่นันทาเดินออกมาจากบ้านหยุดมองอยู่

“เก่งมากน้องพี่ ดีใจด้วย” ตรีทศพูดแค่นั้นแล้วเหลือบไปเห็นสายตาเจ็บปวดของนันทา

“ดอกไม้ด้วย” มือของทั้งสองคนสัมผัสกันเมื่อรับส่งช่อดอกไม้

“ขอบคุณพี่ตรีทศมากๆ ถ้าไม่ได้พี่ ผมคงไม่มีวันนี้หรอก” วิจักษ์ทำตาแดงๆ

“อือ ขอบคุณตัวเองกันเถอะ คนเราจะดีจะชั่วไม่ได้อยู่ที่คนอื่นทั้งหมดหรอก ถ้าคนอื่นช่วยแต่ไม่รักดี ใครที่ไหนจะช่วยได้”

“พอเลยพ่อพระ กูเบื่อ” นิวัฒน์ขวางขึ้นมา

เมื่อตรีทศเลี่ยงไปหาอะไรทาน วิจักษ์จึงเร่เข้าไปนั่งด้วย

“พรุ่งนี้พี่มีบินไหม”

“ไม่มี”

“ผมไปหานะครับ คิดถึงจะแย่แล้ว หกเดือนแล้วนะที่ผมต้องทนคิดถึงพี่” น้ำเสียงของวิจักษ์ออดอ้อน สายตานั้นเชื่อมอยู่กับดวงตาของตรีทศ

“เห็นมีข่าวกับนักร้องวงอะไรนะ”

ตรีทศวางตัวเป็นผู้ใหญ่เหมือนเคย แต่วิจักษ์เห็นว่านี่คือความน่ารักมากของเขา

“ผมชอบสจ๊วตมากกว่าครับ”

ตรีทศยิ้มๆ แล้วตักอาหารเข้าปาก

“จะสามสิบอยู่แล้ว แต่งงานได้แล้วมั้ง”

“แต่งกับใครครับ ผมไม่เจอใครถูกใจสักคน”

“มีข่าวรายวัน ไม่ถูกใจใครสักคนได้อย่างไร”

“แค่ภาพครับ ใจผมมีแต่พี่คนเดียว”

“แต่งไปเถอะ ถ้าแต่งกับผู้หญิง พี่บอกแล้ว ไม่ว่าอะไรหรอก อย่าอยู่เป็นโสดเลย มันเหงานะ”

สายตาของวิจักษ์จับอยู่ที่ร่างของนันทาที่กำลังเดินเข้ามาหา ตรีทศมองตามไป
นันทารักวิจักษ์ วิจักษ์เองก็ระลึกใน ‘คุณ’ ที่นันทาเคยช่วยเหลือ ดังนั้นความอาทรความห่วงใยจึงมีถึงกันอยู่เนืองๆ วิจักษ์ไม่เคยปิดบังเรื่องนี้กับเขา และมันก็คือเป็นคุณธรรมประจำตนของคนดี

เมื่อได้ฟังบ่อยๆ ความสงสารในตัวฝ่ายหญิงจึงบังเกิดขึ้นในความรู้สึกของตรีทศ เขาเคยเอ่ยปากให้วิจักษ์ลองพิจารณาคบหานันทาฉันหญิงคนรักมาหลายครั้งหลายหน แต่วิจักษ์ก็อ้างว่า

‘ผมก้าวข้ามอารมณ์ตัวเองไม่ได้ ผมอยากมีครอบครัวที่เกิดจากความรัก มากกว่ามีครอบครัวเพราะต้องการลูก’

“จักษ์ ฉันจะกลับแล้วนะ พี่ตรีทศคะ หนูจะกลับแล้วค่ะ จะรับพ่อกับแม่ไปนอนที่บ้าน”

“ครับ สบายดีนะ”

“สบายดีค่ะ”

“แต่งงานเมื่อไหร่อย่าลืมชวนพี่นะ” นันทาเหลือบมาทางวิจักษ์ที่มีสีหน้าปกติ

“แต่งกับใครคะ”

นันทาถามคืน ตรีทศเหลือบไปมองดูหน้าวิจักษ์ที่สงบนิ่ง แล้วเหลือบตามาดูสีหน้าของฝ่ายหญิง ความเฉยชาของวิจักษ์นั้นคงยังความเจ็บปวดให้แก่หญิงสาว ความรักที่ไม่สมหวังเป็นความทุกข์

“นันทาก็หาคนแต่งด้วยไม่ได้ พี่ก็หาคนแต่งด้วยไม่ได้ จักษ์ก็หาคนแต่งด้วยไม่ได้ ไอ้นิวอีกคน คงต้องอยู่เป็นเพื่อนกันไปตลอดเสียมั้ง” ตรีทศพูดติดตลก
“ตั้งชมรมคนโสดจากอุ้มผางซะเลยดีไหมคะ”

นันทาปรายตาให้วิจักษ์ หญิงสาวลาตรีทศอีกครั้งแล้วหมุนตัวออกไป


ครู่ต่อมามาลีก็ได้รับโทรศัพท์จากวรรณา ซึ่งแน่นอนว่าจะมีเสียงเด็กร้องติดเข้าสายมาด้วย

“ได้รับของขวัญจากคุณศักดิ์แล้วนะมาลี พี่ดีใจด้วยนะ แต่ก็ไม่เท่ากับที่มาลีได้เลื่อนจากผู้สื่อข่าวเป็นผู้ประกาศข่าวหรอกนะ”

“ค่ะพี่ ฝากขอบคุณคุณอ๋อกับคุณชินด้วยนะคะ อยู่ถึงสิงห์บุรียังส่งของขวัญมาให้”
เมื่อคุยกันได้สักพัก วรรณาก็ขอวางสาย มาลีถอนหายใจออกมา

สองปีที่แล้วกับงานแต่งงานพร้อมกันสองคู่ สมศักดิ์กับวรรณา สุชินกับอรชุมา ครั้งนั้นชัชชัยบินกลับมาพอดี เธอจึงมีชุดราตรีสวมใส่โดยไม่ต้องเสียเงินซื้อเอง
เมื่อมาลีเดินกลับเข้าไปในบ้านของวิจักษ์ กล่องของขวัญสีส้มอีกกล่องที่วางอยู่ ทำให้มาลีต้องหยิบขึ้นมาพลิกไปมา อยากรู้เหมือนกันว่าคุณรมณีย์กับกลยุทธส่งอะไรมาให้ ขณะจะเปิดกล่อง มาลีก็ได้รับโทรศัพท์จากเบอร์ที่เธอคุ้นเคย เบอร์เดิมที่เขาไม่เคยเปลี่ยนแม้จะไม่ได้ใช้เป็นปีๆ

“ผมจอดรถรออยู่ที่หน้าบ้านหลังถัดไปนะ ออกมาเลย”

“ทำไมไม่เข้ามาล่ะ”

“ไม่เอาหรอก เพิ่งกลับมาถึง ไม่อยากเจอใครก่อนมาลี”

“ค่ะ”

มาลีให้มารุตถือของทั้งหมดของตัวเองตามออกมาจากตัวบ้าน
แล้วก็บอกกับแม่ว่าพรุ่งนี้เช้าจะมาหาแต่เช้า แม่และเครือญาติพยักหน้า
เมื่อมารุตเดินกลับบ้านไปแล้ว มาลีก็ก้มจูบที่แก้มของชายหนุ่มที่อยู่ในชุดสูทสีกรมท่า ผมรองทรงสูงเผยให้เห็นดวงหน้าขาวได้รูปชวนมอง

“เฮ้ย อายเขา” ชัชชัยร้องห้ามพร้อมกับหลบเลี่ยงจมูกของหญิงสาว

“คิดถึงจังเลย” มาลียังรุกเร้าด้วยน้ำเสียงสนุก

“หื่นว่ะ” ชัชชัยแกล้งว่า

“ก็ใครล่ะทำให้ติดใจ” มาลีย้อนคืน

“เดี๋ยวนี้กล้านะ”

“อยากแต่งงานแล้วอ่ะ ใครๆ ก็แต่งงานกันหมดแล้ว คุณยุทธลูก 3 คน คุณศักดิ์ 2 คน คุณชินกับคุณอ๋อก็ 2 พี่จ๊ะอีก 1 คน”

นึกถึงคู่สมศักดิ์กับสุชินแล้วมีความสุข นอกจากจะแต่งงานพร้อมกันยังแข่งกันมีลูกอีกด้วย ลูกคนแรก สุชินเสียพนันเพราะเกิดทีหลัง ลูกคนที่สองสมศักดิ์เสียพนัน ส่วนของจริญญานั้นต้องพึ่งพาแพทย์หมดเงินไปหลายบาทถึงจะได้มีลูกชายมาเชยชม

“ไม่ห่วงงานแล้วเหรอ”

“ไม่ต้องออกสนามแล้วค่ะ ได้เลื่อนเป็นผู้ประกาศแล้ว สบายขึ้น”

“แต่ผมยังวุ่นกับธุรกิจอยู่เลยนะ แต่งได้ไง” น้ำเสียงนั้นเป็นเชิงปรึกษา

“จะแต่งหรือไม่แต่ง มาลีขู่”

“แต่ง แต่ยังไม่แต่ง” เขาเล่นลิ้นพร้อมเสียงหัวเราะ



เมื่อรถสปอร์ตของชัชชัยจอดลงทิ่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา มาลีก็ลงจากรถมายืนเคียงข้างกับเขา มือขวาของเธอประสานกับมือซ้ายของเขาเหมือนเคย สี่ปีที่ขยายออกไปกับเงื่อนไขของคุณพ่อที่ว่าให้หมั้นกันได้ แต่ขอให้เขาเรียนให้จบปริญญาเอก เขายอมรับเงื่อนไขนั้นด้วยอารมณ์สุขปนเศร้า แต่เขาบินกลับไปกลับมาระหว่างเมืองไทยกับอังกฤษเป็นว่าเล่น ก็รู้ใจว่า ยิ่งไกลก็ยิ่งคิดถึง ยิ่งห่างก็ยิ่งอยากเห็นหน้า ยิ่งรู้ว่ามาลีเบนเข็มมาเรียนทางด้านสื่อสารมวลชนและฝันจะเป็นนักข่าวเขาก็ยิ่งห่วง และระหว่างทาง เขาก็กลัวว่าจะมีใครมาตัดหน้าไปก่อน

แต่ทั้งป้าเจ้าของหอ รวมถึงสายสืบที่เขาแอบวางไว้ก็รายงานไปว่า มาลีเป็นเด็กดี มีแต่จะแอบหางานทำเล็กๆ น้อยๆ ชนิดหาได้สนใจหนุ่มคนไหน ด้วยเหตุนี้เขาจึงไม่คิดเหลียวแลหญิงอื่นเหมือนกัน

จนกระทั่งเขาจะกลับมาทำงาน จึงต้องวิ่งเต้นให้ผู้สื่อข่าวสาวคนนี้เลื่อนขั้นเป็นผู้ประกาศโดยเร็ว นึกถึงตรงนี้แล้วเขาขำกับการทะเลาะกัน ด้วยเขาไม่พอใจที่มาลีเปลี่ยนสายการเรียนจากศึกษาศาสตร์ ที่มีจุดหมายคือครูที่อุ้มผาง เขาแกล้งเย้าว่าเปลี่ยนใจแม้แต่ผังชีวิต อีกหน่อยก็จะคิดเปลี่ยนแฟนไปด้วย มาลีงอนเขาไปหลายวัน แล้วก็พิมพ์อีเมล์ตอบกลับไปว่า

‘ครูบนดอยกับนักธุรกิจคงไปด้วยกันไม่ได้ เพราะรักคุณจึงคิดว่าน่าจะมีสักอาชีพที่ทำให้เดินเคียงกันไปแล้วคนจะไม่มีนินทาตามหลัง แล้วอีกอย่างฉันก็ชอบสาระแนเรื่องของชาวบ้านด้วย น่าจะทำอาชีพนี้ได้ดีกว่าสอนคน ถ้าคุณคิดว่าฉันคิดผิด ฉันคิดว่าฉันจะเปลี่ยนแฟน ปล. พร้อมกับไม่คืนเงินทุนให้คุณด้วย’

“คิดอะไรอยู่หรือคะคุณชาย”

“คิดว่าเราจะจัดงานแต่งที่ไหนกันดี”

บินกลับมาอยู่เมืองไทยเป็นการถาวรในครั้งนี้ เขาจะแต่งงาน เขาอยากทำงาน แล้วได้เจอคุณแม่บ้านทั้งเช้าเย็น จนถึงอยู่ด้วยกันตลอดคืน ไม่เอาอีกแล้วกับอารมณ์เปลี่ยวเหงา เมื่อต้องอยู่ห่างไกลกัน

“ย้าฮู้” มาลีอุทานเสียงดังพร้อมกับหัวเราะลั่น

“ต๊อง ขึ้นทุกวันนะคุณ”

“ก็ติดมาจากคุณแหละ แหมเป็นผู้ดีอังกฤษเข้าหน่อยทำนิ่ง ตัด
ผมทรงนี้น่ารักจังเลย”

ว่าแล้วมาลีก็ใช้มือจับหน้าเขาให้มาใช้ดวงตามาเชื่อมกัน

“ก็รักอยู่แล้วนี่” ชัชชัยเองก็ตาเยิ้ม จนมดแถวนั้นเริ่มได้กลิ่นน้ำตาล

“แล้วจะรักตลอดไปด้วย” มาลีพูดมาตรงๆ

“จะรักเธอไปทุกวัน ตลอดไป” มาลีร้องเป็นเพลงเบาๆ แล้วเขาก็อุ้มร่างแบบบางมาวางลงบนหน้าถังรถ พร้อมกับระดมจูบไปที่พวงแก้มแล้วละมาที่ริมฝีปาก มาลีรีบร้องวี้ดว้ายพร้อมกับปัดป้องพัลวัน

“ฉันไม่อยากมีคลิปฉาวให้เจ๊แมร์เอาไปเม้าท์ พอๆ ไม่เล่นแล้ว”

“นึกว่าแน่”

“แต่งก่อนซิ ค่อยว่ากัน”

“ภายในเจ็ดวันนี้แหละ ไม่เชิญใครมากมายหรอก แม่ก็ไม่ต้องให้กลับบ้านนะ อยู่เตรียมงานกันไปเลย”

กลับมาจากอังกฤษครั้งใด เขาจะเป็นคนพามาลีกลับไปเยี่ยมแม่กับน้องชายที่อุ้มผาง จนปีที่สองเขาจึงตัดสินใจให้แม่ของมาลีลาออกจากรีสอร์ต แล้วมาปลูกผักเลี้ยงไก่อยู่ที่บ้าน คนแถวนั้นต่างพากันแซวว่า

‘ได้ว่าที่ลูกเขยดีมีโชคยิ่งกว่ารางวัลที่หนึ่ง’

“เอางั้นเลยหรือคุณชาย”

“ผมจะคลั่งอยู่แล้วนะ อย่ายั่วผมซิ”

“ไม่ได้ยั่ว”

“แล้วที่สวยขึ้นทุกๆ วันนี่ละ ไม่ได้ยั่วหรือ”

เขาจับปอยผมของมาลีที่หยิกเป็นลอนระต้นคอ หญิงสาวอยู่ในชุดแซคสีขาวผ้าพลิ้วเปลือยไหล่ ยิ่งทำให้ร่างนั้นดูสว่างขึ้นมา

“ก็เจ้าของมันอยู่ไกล กลัวมันจะเป็นอื่น ก็เลยต้องหายั่วคนอื่นไว้ด้วยไง”

“ปากดีจริงๆ”

“นี่ ฉันแว่วๆ ว่าต่อไป ผู้บริหารเขาจะเปลี่ยนฉันให้เป็นผู้ประ กาศแนวบันเทิงด้วยนะ ต่อไปฉันจะดังยกใหญ่”

“ไม่อนุญาตให้ดังแล้วครับ แต่งแล้วรีบมีลูกเลย”

“งั้นไม่แต่งหรอก”

“เรื่องมากจริงวุ้ย ติดนั่นติดนี่ตลอดเลย รึจะให้เปลี่ยนเจ้าสาว”

“เจอปืนลูกซองเด๊ ยังให้แม่เก็บไว้อยู่นะ” มาลีรีบบอก

ชัชชัยหัวเราะออกมาแบบเต็มกลั้น

“หัวเราะอะไร บ้าเปล่า”

“อยู่ด้วยกันคงได้บ้าสมใจ มาจูบอีกที”

“ได้เลย”

มาลีแกล้งหน้าห่อปากให้ก่อนจะหลบเมื่อเขายื่นหน้ามาหา

“ไม่แน่จริงนี่หว่า”

“ลืมเลย ลืมเลย” พูดจบมาลีก็เดินไปเปิดประตูรถ แล้วก้มไปหยิบกล่องของขวัญที่กลยุทธกับคุณรมณีย์ส่งมาให้

“อะไร” ชัชชัยถามเมื่อเห็นมาลีลูบคลำกล่องนั้นมาส่งให้

“ของขวัญจากแฟนเก่า แฟนใหม่แกะให้หน่อยนะ”

ชัชชัยส่ายหน้าแต่ก็รับมาแล้วฉีกกระดาษห่อรูปหัวใจสีขาวๆ นั้นโดยแกล้งใส่อารมณ์ เมื่อเปิดเข้าไปเขาพบหนังสือเล่มสีดำอมน้ำตาล หน้าปกมีรูปคล้ายดวงไฟดวงใหญ่เปล่งแสงไล่ความมืดโดยรอบ

“พระอาทิตย์ขึ้นในคืนหนาว กุลกัญญา”

“อ้าว มาได้ไง ก็กุล”

ทั้งสองก้มลงดูที่หน้าปกแล้วรีบเปิดไปยังหน้าใน

“มอบให้มาลีเนื่องในวันที่สำเร็จการศึกษา ดีใจด้วยนะ และต้องขอโทษแทนกุลด้วยที่แอบหยิบคาแร็กเตอร์มาลีกับคุณชัชชัยมาใช้ในงานชิ้นนี้ กุลเขียนไม่จบหรอกครับ ผมเขียนต่อเอง อ่านดูละกันว่าชีวิตเราในสายตาของกุลและผมนั้นเป็นอย่างไร กลยุทธ (พี่ชายที่แสนดี)”

จบบริบูรณ์




จุฬามณีเฟื่องนคร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 26 พ.ย. 2555, 07:40:59 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 26 พ.ย. 2555, 07:40:59 น.

จำนวนการเข้าชม : 2277





<< 43,2 ตอนจบ    
จุฬามณีเฟื่องนคร 26 พ.ย. 2555, 07:41:38 น.
ขอบคุณสำหรับทุก ๆ ท่านได้ซื้อ พระอาทิตย์ขึ้นในคืนหนาว ในรูปเล่มหนังสือนะครับ..จุ๊บ ๆ


คิมหันตุ์ 26 พ.ย. 2555, 08:56:04 น.
น่ารักดีค่า


แว่นใส 26 พ.ย. 2555, 12:56:30 น.
ดีจังค่ะ


mottanoy 26 พ.ย. 2555, 13:40:02 น.
จบน่ารักจังค่ะ


Orathai 26 พ.ย. 2555, 21:22:34 น.
ดีใจกับมาลีจัง...ต้องเรียกว่าได้ดังใจ


evelover 27 พ.ย. 2555, 07:19:25 น.
กรี๊ดดดดดด! จบได้สมบูรณ์แบบมาก ^_^


สิรินดา 3 ธ.ค. 2555, 11:34:55 น.
แวะมาชื่นชมจ้า จุ๊บๆๆ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account