พระอาทิตย์ขึ้นในคืนหนาว # จุฬามณี (ลิขสิทธิ์ สนพ.มายดรีม)
เรื่องย่อ พระอาทิตย์ขึ้นในคืนหนาว

เป็นเรื่องราว ของ มาลี สาวน้อยวัย 20 ปี ลูกกำพร้าพ่อซึ่งเสียชีวิตเพราะโรคมะเร็ง มาลี กับแม่และน้องชาย มารุต อาศัอยู่กับญาติห่าง ๆ ข้างพ่อ ซึ่งทำรีสอร์ตและการท่องเที่ยงท้องถิ่นอยู่ที่อุ้มผาง..

วันหนึ่ง กลยุทธและคณะไปเที่ยวล่องแก่งน้ำตกทีลอซู แล้ว เขาชอบมาลีจึงสานความสัมพันธ์ ส่วนมาลีนั้น เจอลูกทัวร์จีบจนชาชิน แต่กลยุทธก็ทำให้มาลีหวั่นใจอยู่ไม่น้อย..

หลังจากคณะของกลยุทธกลับไป..ทางป้า ก็บีบบังคับให้มาลีไปเรียนต่อกรุงเทพฯ พักอยู่กับนันทาลูกสาว เพราะว่าต้องการให้อนันต์ลูกชายของตัวเองแต่งงานกับคนที่รวยกว่า..

มาลีมาอยู่กรุงเทพฯ โดยที่ชัชชัย เพื่อนของนันทา ซึ่งเคยไปหาข้อมูลเขียนหนังสือมารับที่แม่สอด(ชัชชัยอ้างว่ามาธุระแถวนั้นพอดี)..มาลีกับชัชชัยนั้นเป็นไม้เบื่อไม้เมากันมา เพราะตอนที่ชัชชัยมาอยู่อุ้มผางเพื่อหาข้อมูลเขียนสารคดี ตามคำแนะนำของ นันทา (ชัชชัยเป็นเพื่อนกับนันทา) มาลีแกล้งชัชชัยเพราะว่าไม่ชอบผู้ชายไว้ผมยาวกับปากไม่ค่อยดี..

ที่บ้านทาวเฮ้าส์ของนันทานั้นอยู่หมู่บ้านเดียวกับกลยุทธที่มีน้องสาวชื่อกุลกัญญา และช่วงที่ยังไม่ได้เข้าเรียน ต่อที่รามคำแหงมาลีก็ได้คำแนะนำจากศรีวรรณเพื่อนข้างบ้านของนันทาให้ให้ไปทำงานฆ่าเวลาเป็นแม่บ้านบนตึกสูงกลางเมือง มาลีที่อยู่กับนันทาแบบคนใช้ (นันทากดไว้เพราะมาลีมาด้วยทุนของแม่) ที่คิดเบื่อบ้านจึงไปทำงานตามคำแนะนำของศรีวรรณ

และบนตึกสูงนั้น มาลีก็ได้รู้ว่าเธอทำงานในตำแหน่งแม่บ้านซึ่งมีกลยุทธทำงานที่นั่นด้วย และมาลีก็ได้รู้จักสังคมรอบ ๆ ตัวของกลยุทธมากขึ้น มาลีรู้ว่ากลยุทธเป็นที่หมายปรองของรมมณีย์ลูกสาวของเจ้าของประธาน
บริษัทฯ

กลยุทธนั้นอึดอัดกับความรักที่รมณีย์มีให้ เพราะเขาทนกับปากของเพื่อนร่วมงานไม่ได้ เขาสานความสัมพันธ์กับมาลีมากขึ้น จนกระทั่งรมณีย์ที่เป็นเพื่อนกับชัชชัย ต้องดึงชัชชัยมาช่วยทำให้มาลีกับกลยุทธเข้าใจผิดกัน...

ชัชชัยนั้นชอบมาลีเป็นอย่างมาก เขาพยายามเอาอกเอาใจมาลีสารพัด แต่มาลีคิดว่า ชัชชัยนั้นเป็นคู่รักของนันทา ทำให้มาลีไม่เปิดใจให้ชัยชัย..

และมาลีจะเลือกใครระหว่างกลยุทธกับชัชชัย..

Tags: รักสามเส้า เราสามคน

ตอน: 43,2 ตอนจบ

แสงจากตัวหิ่งห้อยที่เปล่งความสว่างระยิบระยับอยู่บนต้นลำพูริมคลองอัมพวา ทำให้มาลีตื่นตาตื่นใจเป็นอย่างมาก หญิงสาวไม่คิดว่าปลายสายน้ำแม่กลองที่มีต้นกำเนิดจากป่าในอำเภออุ้มผางจะยังประโยชน์ในด้านการท่องเที่ยวได้ไม่แพ้กับที่ต้นน้ำ
วันนี้ทั้งวันขณะท่องเที่ยว มาลีรู้สึกว่าผู้คนทั้งจากต้นและปลายน้ำมีอัธยาศัยยิ้มแย้มต้อนรับผู้คนที่มาเยือนไม่ต่างกัน สายน้ำแม่กลองตลอดสายทำให้ผู้คนมีลักษณะนิสัยเหมือนกันอย่างนี้หรือเปล่าหนอ

วันนี้มาลีตื่นตาตั้งแต่ดอนหอยหลอด ด้วยเป็นช่วงใกล้ถึงวันเพ็ญน้ำจึงลดในช่วงกลางวัน ชัชชัยซื้อทัวร์ท้องถิ่นไปดูวิธีจับหอยหลอด เธอกรี๊ดกร๊าดสนุกสนาน เมื่อปูนขาวทำให้สัตว์หน้าตาประหลาดทะลึ่งพรวดพราดขึ้นมา ชัชชัยถ่ายรูปเธอแทบจะทุกอิริยาบถ โดยอ้างว่า เก็บไว้ในความทรงจำไม่พอ

มาลีเองก็สารภาพกับเขาไปว่า เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ได้เห็นทะเล เขาบอกกับเธอว่า อยากพาไปทะเลที่สวยกว่านี้ แต่อยากพาไปตอนฮันนีมูนมากกว่า เมื่อเขารุกเร้ามาแบบนี้เธอจึงหยิกตอบให้

เมื่อขึ้นจากดอนหอยหลอดแล้วก็ถึงโปรแกรมนั่งเรือดูปากแม่น้ำแม่กลอง มาลียิ้มขำปนความเศร้า เมื่อชัชชัยคลอ ‘เพลงมนต์รักแม่กลอง’ ที่ใกล้ๆ ใบหูของเธอ

‘...เจื้อยแจ้วแว่วเสียงสำเนียงขับร้อง ดังเพลงลาสาวแม่กลอง ล่องลอยพลิ้วหวานซ่าน
มา กล่อมสาวงามบ้านอัมพวา มนต์รักแม่กลองแว่วมา เหมือนสายธาราแม่กลองรำพัน พี่ต้องจากลา ขวัญตานิ่มน้อง ไม่ลืมลาสาวแม่กลอง ต้องครวญหวนมาสักวัน กลิ่นเนื้อนาง ไม่จางสัมพันธ์ เราสองล่องเรือด้วยกัน ร้องเพลงชมจันทร์ลุ่มน้ำแม่กลอง...”

เมื่อขึ้นมาจากเรือเขาก็พาขึ้นสักการะศาลกรมหลวงชุมพร ในตอนนั้นมาลีนึกถึงศาลเจ้าพ่อพระวอ

วันนี้คำอธิษฐานขอพรเป็นจริงเพราะท่านเมตตา หรือว่าเป็นเพราะการดำรงชีวิตอย่างมีสติของตน แต่ถึงอย่างไรมาลีก็ไม่อยากประมาท วันนี้แค่เป็นการเริ่มต้นเท่านั้น ระหว่างกลางกับคำว่าคู่รักอาจจะไปด้วยกันไม่รอดก็ได้

จนกระทั่งลงมาจากศาลกรมหลวงฯ กลยุทธโทรเข้ามาหา และในนาทีนั้นมาลีก็เริ่มชัดเจนกับความรู้สึกของตนเอง การเอ่ยออกไปอย่างนั้นแล้วถูกปลายสายตัดสัญญาณทิ้ง เพื่อแสดงความเข้าใจผสมน้อยใจของเขา ทำให้หล่อนต้องคิด แต่มาลีไม่คิดโทรกลับไป ด้วยรู้ว่าคนที่ผิดหวังต้องรักษาแผลของตัวเอง แม้คิดอย่างนั้นได้ แต่ใช่ว่าความขุ่นมัวจากการทำร้ายเขาทางอ้อมนั้นจะหายไป

ดีแต่ว่าระหว่างวันที่ชัชชัยพาตระเวนไหว้พระตามวัดต่างๆ จนถึงเดินเล่นชมเรือนทรงไทยในอุทยาน ร.๒ เขาได้สรรหาคำพูดตลกชวนให้หัวเราะอยู่เรื่อยไป แม้ตอนไปดูบ้านพักแบบโฮมสเตย์ที่ริมคลองผีหลอกด้วยกัน เมื่อเห็นว่ามีห้องส่วนตัวเพียงห้องเดียวมาลีคิดปฏิเสธ แต่เขาก็เอ่ยออกมาว่า

“เพื่อความปลอดภัยของคุณผมจะเสียสละนอนในห้อง แล้วคุณก็นอนข้างนอกกับหลานของป้า”

มาลีมองเด็กตัวเล็กเพียงสามขวบแล้วขำออกมา นั่นเป็นการเสียสละหรือว่าเอาเปรียบกัน

เมื่อตัดสินใจอยู่ที่นั่น เขาก็บอกว่า ‘ผมจะนอนข้างนอกแล้วกันคุณก็นอนในห้อง แต่อย่ามาตามผมไปด้วยก็แล้วกัน’

“ทำไมต้องตาม” มาลียังคิดว่าเขาคิดไม่ซื่อ

“ก็คลองผีหลอกไง คลองผียังหลอกแล้วบ้านทรงไทยเก่าๆ อย่างนี้ผีจะไม่มีรึ”

เมื่อไปเดินตลาดน้ำอัมพวาในยามเย็น แล้วมาลงเรือเหมาลำตามลำพังท่ามกลางแสงจันทร์แบบนี้ เขาจึงดึงมือซ้ายของมาลีที่วางไว้ข้างกายขึ้นมา แรกทีเดียวมาลีขัดขืน แม้ว่าคนขับเรือจะเข้าใจว่ายุคนี้เป็นยุคไหน การแสดงออกระหว่างกันของหนุ่มสาวไทยนั้น ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่มาลีก็ยังคล้อยตามไม่ไหว แล้ววัตถุเย็นๆ ก็ถูกสอดเข้ามายังนิ้วนางข้างซ้าย

“แหวนวงเดิมที่ขืนใจหมั้นคุณวันนั้น อยากให้ใส่ไว้แม้เต็มใจหรือไม่เต็มใจ ก็อยากให้รู้ว่าผมจริงใจเสมอ”

แล้วมาลีก็ปล่อยให้เขากุมมืออยู่อย่างนั้นด้วยรู้สึกถึงความอบอุ่น มือขวาเพียงข้างเดียวนั้นเหมือนมีผ้าห่มผืนใหญ่คลุมกายทั้งผืนทีเดียว

“จะเอนซบลงที่บ่าผมก็ได้นะ ผมอนุญาต”

เจอสำนวนชวนกวนประสาทของผู้ชายมีจุกเข้าไป มาลีถึงกับถลึงตาเข้าใส่ “คลองนี้ผีหลอกแล้วคุณอย่าหลอกผมอีกเลย”

“กวนตลอดทั้งวัน” มาลีว่าให้

“คืนนี้ก็อยากกวนทั้งคืน”

“คุณชัช” มาลีดึงมือกลับมา

“ผมมีอะไรจะบอกอีกอยากฟังไหม”

“เบื่อจะฟัง”

“แต่ฟังแล้วมันจะทำให้คุณสบายใจมากทีเดียวนะ ฟังเถอะนะอยากให้ฟังไว้ นะ นะ”
เมื่อมาลีพยักหน้า เขาจึงก้มลงหาเศษหาเลยที่ริมใบหูของมาลีว่า

“เมื่อกี้รมณีย์โทรมา เขาบอกว่า เดือนหน้าจะแต่งงานกับคุณกลยุทธ”

“ฮ้า” มาลีตกใจจนอุทานออกมา

“รู้กันแค่สองคนนะ แต่จริงๆ รมณีย์เขาอยากบอกให้ผมรู้คนเดียว แต่ผมคิดว่า เราก็เหมือนคนคนเดียวกันก็เลยต้องบอกให้คุณรู้ไว้”

มาลีพ่นลมออกจากปากทำนองว่าเบื่อจะฟัง

“รมณีย์ท้อง ไม่รู้ว่าแอบจ้ำจี้กันไปตั้งแต่เมื่อไหร่ ไอ้เราเห็นติ๋มๆ แบบนั้นนึกว่าไม่มีน้ำยา”

เมื่อได้ฟังมาลีรู้สึกเดือดดาลขึ้นมา ถ้าอย่างนั้นที่ผ่านมาไม่กี่วันนั่น ระหว่างเขากับเธอมันหมายความว่าอย่างไร และเหมือนชัชชัยจะรับรู้ความรู้สึกแย่ๆ ของมาลีที่มีต่อกลยุทธ

“โกรธเขาซิที่คิดมาหลอกคุณ”

มาลีไม่ตอบ

“ให้อภัยเขาเถอะ เขาคงสับสนนะ อีกอย่าง เขาก็คงไม่คิดว่ารมณีย์จะปล่อยให้ท้อง”

“ผู้หญิงผิดซิ” มาลีถามคืน

“แต่ผู้หญิงก็แก้ไขได้ ยาคุมแบบฉุกเฉินก็มี ก็คงอยากท้อง”

เมื่อพูดจบคนขับเรือจึงได้เห็นว่าที่หวานๆ ในต้นคลอง กลายเป็นวางมวยกันที่ปลายคลองเสียแล้ว


ด้วยหวาดระแวงเรื่องผีจะมาหลอก ทำให้มาลีนอนหลับๆ ตื่นๆ จนกระทั่งได้ยินเสียงไก่ขัน มาลีเหลือบตาดูนาฬิกาเห็นว่าเป็นเวลาตีห้ากว่า มาลีจึงลุกขึ้นพับผ้าห่มด้วยได้ยินเสียงป้าเจ้าของบ้านทำอะไรอยู่ในครัว เมื่อออกมาจากห้องน้ำมาลีจึงเข้าไปซักถาม ได้ความว่าเตรียมอาหารสำหรับใส่บาตร และทำเลี้ยงเธอกับชัชชัยที่นอนในมุ้งบนเรือนชั้นสองของตัวบ้าน

มาลีนึกอยากขึ้นไปปลุกให้เขามานั่งดูพระอาทิตย์ขึ้นด้วยกัน แต่ยังไม่ทันจะขยับตัว เขาก็มายืนเกาะประตูครัวพร้อมด้วยใบหน้าขาววอก แถมมีกล้องคล้องคอรอท่าพร้อม

“ใส่บาตรไหม ป้าจะเตรียมไว้ให้”

“ใส่ครับป้า เท่าไหร่คิดเพิ่มได้เลยนะครับ”

“รวมอยู่ในค่าห้องแล้วพ่อคุณ”

“เยอะๆ นะครับป้า มาลีตักข้าวไปเยอะๆ เวลาตายจะได้มีกินเยอะๆ”
มาลีหันไปทำตาขวางเข้าใส่คนปากเสีย


เมื่อชัชชัยประคองถาดทองเหลืองใส่ขันลงหินที่มีควันฉุย พร้อมกับถ้วยตราไก่ปลาทูต้มมะดันและแกงฉู่ฉี่ปลาไปยังท่าน้ำ มาลีก็รับกำดอกเข็มจากต้นข้างบ้านพร้อมธูปเทียนเดินตามไป เมื่อนั่งอยู่ที่ท่าน้ำ ชัชชัยยกกล้องขึ้นมากดชัตเตอร์ “ทำบุญร่วมชาติตักบาตรร่วมขัน”

“ใครอยากตักด้วย” มาลีถามยิ้มๆ แกล้งทำให้เขาไขว้เขวบ้าง เขาจ้องหน้า มาลีรีบเบือนสายตาไปยังทางกอจากที่ขึ้นอยู่ริมคลอง แล้วก็มองหาต้นลำพูที่ทำให้หิ่งห้อยจากน้ำขึ้นมากะพริบวิบวับยามค่ำคืน

แล้วในคลองจักษุของมาลีพระภิกษุรูปหนึ่งก็พายเรือลำเล็กแล่นมาบนผิวน้ำ ชัชชัยเล็งกล้องแล้วกดชัตเตอร์ จนกระทั่งพระท่านเบนหัวเรือมาเทียบตลิ่ง

“นิมนต์เจ้าค่ะ”

มาลียกมือพนมก่อนจะหันมาหาคนใจบุญอีกคน ชัชชัยยกกล้องขึ้นเล็งแสดงให้มาลีรู้ว่าเขาอยากเก็บรูป มาลีหยิบขันข้าวขึ้นมา นึกอธิษฐานอยู่ในใจ ก่อนจะตักข้าวสวยร้อนลงบาตรทีละทัพพี ตักไปได้สองทัพพี ชัชชัยก็ขยับมาคว้าที่ข้อมือของหญิงสาว มาลีมองนิ่งอยู่ที่บาตรพระ

เมื่อข้าวหมดขัน ชัชชัยก็ประคองถ้วยกับข้าวส่งให้ พระท่านรับไปเทใส่ปิ่นโตเปล่าแล้วส่งคืน มาลีส่งถ้วยฉู่ฉี่ปลาตามไป ชัชชัยรับไว้ มาลีใช้ปลายนิ้วแตะที่หลังมือชายหนุ่มเป็นทำนองว่าขอประเคนพระด้วยคน

“อายุง ทัตวา พะลัง วัณณัง สุขัญจะ ปะฏิภาณะโท บุคคลผู้ให้อายุ พละ วรรณะ สุขะ แลปฏิภาณ ทีฆายุ ยะสะวา โหติ ยัตถะ ยัตถูปะปัชชะตีติ บังเกิดในที่ใด ย่อมเป็นผู้มีอายุยืน มียศในที่นั้นๆ”

พระท่านเบนหัวเรือออกไปแล้ว ชัชชัยยังคงจ้องหน้าของมาลีอยู่

“มองอะไร”

มาลีซ้อนถ้วยสองใบ แล้วเกลี่ยเม็ดข้าวที่เหลือลงน้ำหวังให้เป็นอาหารปลา

“มาลีรักผมบ้างไหม”

“ถามอะไรตอนนี้ฮู้” มาลีก็ลุกขึ้นยืน แล้วเดินกลับเข้าบ้านไป



เมื่อรับประทานอาหารเช้าซึ่งเป็นชนิดเดียวกับที่ใส่บาตรพระแล้ว ชัชชัยก็พามาลีมุ่งตรงสู่จังหวัดราชบุรีตามแผนที่เส้นทางเดินของลำน้ำแม่กลอง ระหว่างทางเขาก็เล่าสิ่งละอันพันละน้อยที่ตนเองได้ประสบมา ขณะที่ทำงานเขียนมาลีรับฟังด้วยความสนใจ บางทีก็ยังถามเขาถึงแรงบันดาลใจของเขา กับงานสะท้อนมุมวัฒนธรรมการท่องเที่ยวแบบไม่หรูหรานั้น

“มันขึ้นอยู่กับมุมกล้องและการเล่าเรื่อง ถ้าเราเล่าดี สถานที่ตรงนั้นอาจจะทำให้มีคนอื่นอยากตามไปดูบ้างก็ได้ สวนผักธรรมดา แต่มันไม่ธรรมดา สายน้ำที่ไหลไปเรื่อยๆ ถ้าเรานั่งมองให้ดี มันก็ไม่ได้ต่างกับน้ำตกใหญ่ๆ ความสุขอยู่ที่ใจ ใจเป็นสุขรู้จักพอเพียง อยู่ตรงไหนก็สุข”

เมื่อถึงราชบุรี เขาก็พามาลีไปสักการะหลวงพ่อแก่นจันทร์ ที่วัดช่องลม หลังจากนั้นก็พาไปสักการะพระบรมธาตุที่วัดมหาธาตุ ออกจากวัดแล้วเขาก็ให้มาลีดูแผนที่ ว่าจะไปกาญจนบุรีถ้าจะใกล้ที่สุดต้องใช้เส้นทางไหน

มาลีพลิกดูแผนที่แล้วชี้บอกกับเขา ยังจำได้เสมอถึงวิธีดูแผนที่ที่เขาแนะนำ ยังจำได้เสมอว่าเขาทำให้เธอรู้จักวิธีขึ้นรถชนิดต่างๆ เขาทำอะไรให้เธอเยอะแยะมากมาย แล้วเธอเล่าเคยทำอะไรคืนให้กับเขาบ้างหนอ ความรัก จำเป็นที่จะแสดงออกได้แต่ฝ่ายชายอย่างนั้นหรือ

มาลีหลับไปจนกระทั่งถึงเมืองกาญจนบุรี เขาจอดรถที่เขื่อนแม่กลองในอำเภอท่าม่วง มาลีมองสายน้ำแล้วคิดถึงแม่และน้องชาย อีกสักกี่เดือน เธอควรจะได้กลับไปเยี่ยมเยียน

“คิดถึงแม่อีกซิ”

“ขอบคุณนะคะที่ทำให้ความฝันของฉันเป็นจริง”

“เรื่องขี้ปะติ๋ว อยากไปไหนสามารถพาไปได้มากกว่านี้อีก”

“เกลียดจริงเลย กับอะไรที่มันดูง่ายไปเสียหมด”

“ก็เล่นตัวเข้าไปซิ นั่นแหละคือสิ่งที่ท้าทายผมที่สุด”

“ถ้าฉันใจง่ายก็คงชิ่งหนีไปแล้วใช่ไหม”

“อือ” เขายอมรับ มาลียิงฟันให้ แล้วเดินมาขึ้นรถด้วยแดดร้อน

“แต่ถ้าใจง่ายแล้วท้องอย่างรมณีย์ก็ไม่ไปไหนหรอก”

“อีตาบ้า แทะโลมอยู่ได้ หมายความว่าไงเนี่ย”

“จริงๆ อยากพาไปเรียนต่อด้วยเลยนะ สองปีคงเหงาแย่เลย”

“คนที่โน่นเยอะแยะจะเหงาอะไร”

“คนรกกับคนรักมันความหมายเดียวกันไหม”

“เบื่อสำนวนนักเขียนจริงๆ”

พูดจบมาลีก็แกล้งหลับตา มาตื่นอีกทีที่สะพานข้ามแม่น้ำแคว และเหมือนเดิมที่เขาจะพาเดินเล่นบนสะพานถ่ายรูป แล้วก็พูดสองแง่สองง่ามเหมือนต้องการขออะไรสักอย่าง

จนกระทั่งหลังมื้อเที่ยง เขาก็ขับรถมุ่งหน้าสู่อำเภอศรีสวัสดิ์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของเขื่อนศรีนครินทร์ ซึ่งสร้างกั้นลำน้ำแม่กลองที่มีต้นกำเนิดจากป่าใหญ่ของอำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก


เมื่อยืนอยู่บนสันเขื่อน มาลียิ้มเบิกบาน เขาเองก็ถ่ายรูปไม่ได้หยุดหย่อน

“คืนนี้ผมมีเซอร์ไพรส์นะ”

“อะไร”

“ก็มันเป็นเรื่องของตอนกลางคืน ตอนกลางวันก็ตอนกลางวัน”

“ไม่รวนได้ไหม”

“ไม่ได้ เพราะไม่มีคู่แข่งแล้ว สบายใจอย่างไรก็ไม่รู้”

“ฉันว่าฉันหารถกลับกรุงเทพฯ ดีกว่าไหม”

“เหอะน่า บอกว่าผมไว้ใจได้ก็ไว้ใจได้ซิ แต่มาลีเถอะ ไว้ใจตัวเองหรือเปล่า”

ที่พักของ ‘รังสิตา-โชคชัย รีสอร์ต’ ทำให้มาลีถึงกับเปล่งอุทานออกมา ด้วยมันเหมือนภาพวาดของเรือนไทยประยุกต์ที่ถูกหยิบยกมาแต่งแต้มอยู่ริมทะเลสาบ ท้องน้ำสีน้ำเงินไล่เฉดสีจากที่ตื้นไปหาที่ลึกจนสุดตาถึงทิวเขาไกลที่รายล้อม สายน้ำน้อยใหญ่จากหลายสาขาเมื่อมีสิ่งกักกั้นไว้ มันก็กลายเป็นท้องน้ำขนาดใหญ่

มาลีนึกถึงการหาเงินการเก็บออมและจัดสรรให้เกิดประโยชน์ ชีวิตของเธอคงต้องเป็นอย่างเช่นสายน้ำแม่กลอง หาเล็กผสมน้อยให้กลายเป็นยิ่งใหญ่

ชัชชัยเดินกลับมาจากเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ พร้อมเด็กยกกระเป๋า เขาเปิดประตูท้ายรถ แล้วมาลีก็ไปช่วยเขาชี้กระเป๋าใบที่ต้องการเอาลง เมื่อได้กระเป๋าแล้วเด็กหนุ่มก็ใช้มือทั้งสองข้างยกขึ้นมาพร้อมกับรอยยิ้ม เห็นเด็กหนุ่มหน้าตาดีคนนี้แล้วมาลีนึกถึงวิจักษ์ จะมีคนสักกี่คนที่จะโชคดีได้เท่านั้น

ช้างเผือกจากป่าใหญ่กำลังจะกลายเป็นดารา

แล้วแสงแฟลชก็เข้าตา เมื่อเขายกกล้องแล้วกดชัตเตอร์เก็บภาพของหญิงสาว

“จะถ่ายอะไรหนักหนาเนี่ย”

มาลีว่าให้ แล้วเดินตามเจ้าหน้าที่รีสอร์ตยกกระเป๋าของตนและของชัชชัยไปยังเรือนพักแบบแพที่ทอดตัวอยู่ริมน้ำ เมื่อเด็กหนุ่มไขกุญแจแล้ววางกระเป๋าไว้ ชัชชัยก็ยื่นเงินทิปส่งให้

มาลีมองหน้าด้วยเห็นว่า เป็นเขาเปิดห้องพักเพียงห้องเดียว

“หมายความว่าไง” มาลีทำเสียงขุ่น

“นอนด้วยกัน”

“ไม่เอานะ อย่ามาตุกติกนะ” มาลีเริ่มใจคอไม่ดี

“แม่คุณ ชะโงกหน้าเข้าไปก่อนสิ ในนั้นมีสองห้องนอนในเรือนหลังเดียว ชะโงกหน้าไป”

มาลีรีบทำตาม แล้วก็แยกเขี้ยวออกมา

“ถึงอย่างไรฉันก็ยังไม่ไว้ใจคุณอยู่ดีแหละ”

“ไม่ไว้ใจก็ดีแล้ว ผมมันไว้ใจไม่ได้ด้วย”

ว่าแล้วชัชชัยก็คว้ากระเป๋าของมาลีไปเปิดประตูห้องนอนอีกห้อง แล้วโยนกระเป๋าลงไปบนเตียง ก่อนมาคว้าของกระเป๋าของตัวเองเข้าไปอีกห้องด้วยใบหน้าไม่ยอมเหยียดชื่นเหมือนเคย มาลียักไหล่

‘เชอะ ทำเป็นงอนให้ง้อ พอง้อแล้วก็จะขอเลยเถิด รู้ทันหรอกย่ะ’


ขณะจะเคลิ้มหลับ มาลีก็ได้ยินเสียงคนตีน้ำอยู่ที่หน้าห้องพัก มาลีลุกพรวดพราดขึ้นมาแล้วหยิบนาฬิกามาดู เป็นเวลาเกือบหกโมงเย็น มาลีเดินออกจากห้องพักไปยังไประเบียงหน้าเรือน เป็นชัชชัยที่เห็นถอดเสื้อนุ่งกางเกงขาสั้น ว่ายน้ำวนไปมาดูแข็งแรงชำนาญเหมือนนักกีฬาทีมชาติ

มาลีนึกถึงกล้องของเขา แต่เธอก็ไม่เคยคิดหยิบมากดเล่น อาจจะเป็นด้วยเกรงใจ อาจจะด้วยระวังตัวด้วยกลัวความใกล้ชิด แล้วเธอก็ไม่เคยมีภาพของเขาสักภาพเก็บไว้แม้แต่ภาพจากนิตยสาร มาลีนึกถึงความเห็นแก่ตัวของตนเอง ก็เพิ่งเริ่มรู้ใจตนเองนี่ มาลีแก้ตัวไปอย่างนั้น เขายังว่ายวนไปเวียนมา จนกระทั่งมาลีรู้สึกว่าเขาเหนื่อยหอบ กลัวเขาเป็นตะคริวเหมือนครั้งที่เล่นน้ำตกทีลอซู

“ขึ้นได้แล้ว”

มาลีตะโกนออกไปด้วยความเป็นห่วง เขาว่ายออกไปไกลกว่าเดิม มาลีตะโกนตามอีกครั้ง แล้วเขาก็ว่ายกลับมา แต่เมื่อจวนจะถึงขอบของระเบียง ก็ดูเหมือนว่าเขาจะหมดแรง

‘มาลี เฮ้ย มาลี’

เขาเรียกเธอเหมือนต้องการความช่วยเหลือ มาลีถลึงตามอง เห็นเพียงมือที่ชูขอความช่วยเหลือ มาลีตัดสินใจกระโดดลงไปอย่างไม่คิดลังเล เมื่อดึงผมยาวพร้อมกับใช้แขนล็อกหน้าอกเขาได้แล้ว มาลีก็ออกแรงลากเขาให้ลอยตัวเหนือน้ำ เขาแน่นิ่งไป มาลีเริ่มทุรนทุราย

“คุณชัช คุณชัช”

มาลีใช้พละกำลังที่มีอยู่ลากเขาขึ้นมาที่ตลิ่งจนได้ ด้วยเรือแพอยู่ห่างจากแพอีกหลัง มาลีจึงไม่เห็นใครๆ ที่พอจะช่วยเหลือกัน เขายังนอนแน่นิ่ง มาลีนึกถึงวิธีการปฐมพยาบาลคนตกน้ำ เริ่มจากอะไร กดที่ท้อง มาลีเลื่อนตัวลงไปใช้ฝ่ามือทั้งสองข้างประสานกันแล้วกดลงไป ไม่มีกิริยาตอบรับ

“คุณชัช คุณชัช” มาลีละล่ำละลักอยู่อย่างนั้น

“คุณต้องไม่เป็นอะไรนะ ทำอย่างไรดี คุณชัช”

แล้วมาลีก็นึกถึงการเป่าปาก ไม่มีทางอื่นแล้วมันต้องทดลอง มาลีเคลื่อนกายไปยังศีรษะได้รูปของเขา ผมยาวที่มียางวงมัดนั้นเสียรูป ตาที่มีแพขนตาหนาหลับพริ้ม มาลีค้อมกายลง ปากบางได้รูปของเขาถูกบีบ มาลีหลับตาประกบริมฝีปากลงไปแล้วปล่อยลมจากช่องท้องเต็มที่

ทุกอย่างเงียบราวอยู่กลางป่าช้า มาลีใจเต้นไม่เป็นจังหวะ ใช้ปลายนิ้วกดลงที่ลิ้นปี่ ยังเห็นว่ามีลมหายใจ

“คุณชัช คุณเป็นอะไรไม่ได้นะ คุณชัช” เมื่อเห็นว่าเขายังนอนนิ่งอยู่อย่างนั้น แล้วน้ำตาของมาลีก็ทะลักออกมา

“คุณชัช”

มาลีเขย่าตัวเขาแล้วน้อมปากไปประกบกับปากเขาอีกรอบ แต่คราวนี้ลิ้นมีปฏิกิริยาและยังไม่ทันที่มาลีจะได้สติ ริมฝีปากได้รูปของเขาขยับบดขยี้ มาลีรู้ตัวว่าเสียท่า ดีแต่ว่าเธอนั่งอยู่จึงได้แข็งใจดึงตัวขึ้นแล้วใช้กำปั้นทุบแรงๆ ไปที่หน้าอกเขาหนึ่งที

“โอ๊ยยยยย” เขาร้องแล้วทะลึ่งพรวดลุกขึ้นนั่ง หอบหายใจแรงๆ

“ไอ้บ้า แกล้งกันใช่ไหม”

“แกล้งอะไร” ชัชชัยทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้

“แล้วร้องไห้ทำไม” เขาถามด้วยสีหน้าฉงน มาลีรู้สึกแปลกๆ เขาแกล้งหรือว่าเขาไม่รู้เรื่อง

“คุณจมน้ำเมื่อกี้แล้วฉันช่วยปฐมพยาบาล”

“แล้วทุบผมทำไม”

“อ้าว”

มาลีทำหน้าฉงน ก็เธอไม่เคยปฏิบัติ ที่ผ่านมานั้นมีแต่ทฤษฎี ไม่เคยมีลูกทัวร์คนไหนจมน้ำไปจริงๆ เมื่อคราวมีนักท่องเที่ยวคะนองกระโดดน้ำตกทีลอซูเล่นก็ถึงแก่ชีวิตก่อนจะหาร่างพบ ก็เลยไม่ทันต้องช่วยเหลือ

“ไม่ตายก็ดีแล้ว” มาลีลุกขึ้นทำท่าจะกลับเข้าห้องแต่ชัชชัยก็ร้องเรียกไว้

“ร้องไห้ทำไม”

“กลัวคุณตายนะซิ”

“มาลี”

“อะไรอีก” มาลีทำเสียงให้รู้ว่ารำคาญนะ

“บอกรักผมสักคำซิ”

“เป็นอะไรเนี่ย มันไม่เกี่ยวกันเลยนะ”

มาลีชักน้ำเสียงให้สูงขึ้น เขานั่งหน้าง้ำ แล้วมาลีก็ตัดสินใจลงมานั่งข้างๆ พร้อมกับใช้มือขวาประกบกับมือซ้ายของเขาไว้ ความอบอุ่นแล่นไปทั่วสรรพางค์กายของหญิงสาวทีเดียว

“พระอาทิตย์กำลังจะตกดินแล้ว”

เขาเพ่งออกไปยังทิวเขาเบื้องหน้า พระอาทิตย์ดวงกลมโตยอแสงลง สีแดงฉาบแต้มเป็นประกายอยู่ริมขอบฟ้า

“พรุ่งนี้มันก็มา มาเพื่อให้ความสว่าง มาเพื่อให้ความเหน็บหนาวหายไป คุณเหมือนพระอาทิตย์สำหรับฉันนะ มาเพื่อให้ความอบอุ่น แต่อย่าให้ถึงกับร้อนรุ่มแล้วกัน”

“พระอาทิตย์ขึ้นในคืนหนาว”

ชัชชัยเปรยขึ้นมาเบาๆ มาลีนึกถึงภาพวาดในห้องนอนของเขา ที่ได้อ่านพบครั้งที่เขาให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร

“ได้คำนี้มาจากไหน”

“ได้มาจากตอนที่รู้ว่าหัวใจมีมาลีเข้ามา ผมไม่เคยรักใคร พอได้รักมาลีแล้วมันเหมือนมีแสงสว่างให้ชีวิตมีทิศทางมีความหวังมีพลังจนมีวันนี้”

“คุณก็ไม่ได้ต่อสู้อะไรเลย”

“เมื่อก่อนผมขี้เกียจจะตายไป นอนตื่นสายแค่ไหนคุณก็เห็น แต่พอเห็นมาลีลุกขึ้นมาทำนั่นทำนี่ที่รีสอร์ต ผมก็เลยได้คิดว่าน่าจะมีอะไรที่มันดีขึ้นกว่างานที่ทำ ก็ดีขึ้นมาแค่นิดเดียว จนคุณพ่อมาขอร้องให้ไปเรียนต่อเพื่อกลับมาสานธุรกิจของท่านให้เจริญก้าวหน้า ตอนแรกก็คิดว่าไม่อยากทำ แต่เมื่อมาคิดว่าถ้าเรามีเงินเป็นคนบริหารงานเองแล้ว บางทีเราคงมีโอกาสใช้ปัญญาผสมกับน้ำใจช่วยคนขึ้นมาได้ ปีๆ หนึ่งปันกำไรไปบริจาคช่วยคนจนคนยากก็น่าจะดีกว่าทำแบบนี้ ก็เลยต้องไป”

“นึกแล้วก็ใจหายนะคะ อีกแค่ไม่กี่วัน”

“ไปด้วยกันไหม”

“ไม่ค่ะ” มาลียืนยันเจตนาเดิม

“ฉันจะรอคุณอยู่ที่นี่แล้วกันนะ หากเราสองคนเป็นเนื้อคู่กัน สองปีไม่นานหรอกค่ะ ฉันจะรอคุณและจะซื่อสัตย์ต่อความรักที่คุณมอบให้”

“หวานจังเลย หวานอีกนิดได้ไหม”

“ฉันก็รักคุณนะ” มาลีพูดโดยเร็ว ชัชชัยคลี่ยิ้มหัวเราะ แล้วดึงมือของมาลีขึ้นมาจูบ

“วันนี้แปรงฟันหรือเปล่า”

เมื่อได้ยินมาลีจะดึงมือกลับเขาขืนไว้ มาลีจึงหยิกเข้าที่หน้าท้องไปเสียหลายที

“ปากห๊อมหอม”


........ติดตามตอนพิเศษ......อีกเจ็ดวันถัดไป...หรือถ้าตามหาตอนพิเศษได้จากแผงหนังสือเร็ว ๆ นี้...(สถาพร ดายดรีม บอกว่า จะมีหนังสือพร้อมส่ง วันที่ 20 พ.ย.) //ราคา เล่มละ 350 บาทครับ ขอบคุณล่วงหน้าจากทุก ๆ กำลังใจที่จะมีให้นวนิยายเรื่องนี้นะครับ...จุ๊บ ๆ




















จุฬามณีเฟื่องนคร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 19 พ.ย. 2555, 10:19:33 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 19 พ.ย. 2555, 10:19:33 น.

จำนวนการเข้าชม : 2199





<< 43.1“ทำไมคุณไม่ตัดใจจากผมไป”   บทส่งท้าย >>
จุฬามณีเฟื่องนคร 19 พ.ย. 2555, 10:20:31 น.
ติดตามตอนพิเศษได้อีกเจ็ดวันข้างหน้า หรือถ้า มีไลต์เกิน30 ก็อาจจะมาก่อนครับ..จุ๊บ ๆ


mottanoy 19 พ.ย. 2555, 12:54:55 น.
อ่านในมือถิอแต่ล็อกอินไม่ได้ เลยเข้ามาไลค์ไหม่ค่ะ


konhin 19 พ.ย. 2555, 21:53:23 น.
หวานจัง ว่าแต่อนาคตจะได้รักกันจริงๆหรือเป็นเพียงความทรงจำดีๆ


evelover 20 พ.ย. 2555, 07:52:15 น.
ตอนนี้ไม่ใช่พระอาทิตย์ขึ้นในหนาวค่ะ แต่เป็นพระอาทิตย์ขึ้นในคืนหวานแทน ^_^ อยากอ่านตอนพิเศษจังเลยค่ะ อยากรู้ว่าจะหวานกว่าตอนนี้ไหม???


ปอยอะนะ 21 พ.ย. 2555, 14:04:17 น.
ต้องมีเก็บไว้ข้างหมอนแระ หลงรักมาลี


Orathai 21 พ.ย. 2555, 19:09:04 น.
คนรกกับคนรัก..เข้าใจคิดนะ


อ้อย 21 พ.ย. 2555, 20:45:09 น.
กรี๊ดดดด น่ารักมากมายยย


mottanoy 25 พ.ย. 2555, 04:58:26 น.
เจ็ดวันมันนานจัง


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account