เล่ห์รักเกมหัวใจ
มีน เขาถูกว่าจ้างให้หักอกเธอ "อลินา" ที่คนว่าจ้างบอกว่าเธอเป็นผู้หญิงร้ายกาจ
อลินา ถูกว่าจ้างให้ดักหลังผู้ชายที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเพลย์บอยตัวพ่อ อย่าง"มีน" ที่ไม่ยอมสยบให้หญิงใด
เมื่อ แผนถูกซ้อนเป็นชั้นๆเหมือนขนมที่แสนหวาน กับดักที่พันจนวุ่นวาย

หมายเหตุ เรื่องนี้เขียนสดๆ ดังนั้นอาจจะมีเนื้อหาที่จะมีการเปลี่ยนแปลงภายหลังค่ะ
Tags: เล่ห์รักเกมหัวใจ คีตา ณิชนิตา

ตอน: บทที่ ๙ พลาดท่า

บทที่ ๙

พลาดท่า

อลินารู้สึกตัวเมื่อได้ยินเสียงนกและแสงที่สาดส่องเข้ามายังหน้าต่างทำให้เธอต้องปรับม่านตาอีกครั้ง อาการมึน หัวเริ่มโจมตีเป็นระลอก

หญิงสาวพาลนึกถึงเหตุการณ์เมื่อค่ำคืนได้เพียงเลือนลาง ก่อนที่เธอจะมาอยู่บนเตียงนอน ก่อนหน้านั้น เธอโดนมีนจูบ แล้วเขาก็บอกว่าจะทำให้เธอลืมไม่ลง? ลืมไม่ลง อลินาถอนหายใจ ก่อนจะขยับตัวพลิกตัวหันไปอีกด้าน ใบหน้าใสละเอียดของใครบางคนทำให้อลินาสะดุ้งดีดตัวลุกขึ้นนั่งแทบทันที สติตอนนี้กระเจิดกระเจิงไปหมดแล้ว หันไปมองร่างที่นอนสบายอยู่ข้างกายอีกครั้ง ผู้ชาย!! คนๆนี้ไม่ใช่ใครอื่น

“นายมีน!!” อลินาใช้เท้าถีบคนตรงหน้ากระเด็นตกเตียงไปทำให้เขาตื่นจากการหลับใหลอย่างช่วยไม่ได้

“นี่มันอะไรกัน มาผลักพี่ทำไมเล่า” มีนบ่นพร้อมกับลุกขึ้นยืน ข้างเตียง หญิงสาวนึกค้านในใจว่าไม่ได้ผลักแต่ถีบเลยต่างหาก!

“นี่มันเกิดอะไรขึ้น” คำถามแรกนั่นทำให้มีนหัวเราะ เริ่มเข้าใจความคิดของอีกฝ่าย

“โตจนป่านนี้แล้วน่าจะรู้นะว่าคืออะไร เธอเองเป็นคนร้องขอ พี่ไม่ได้ลงแรงอะไรเลยซักนิด”

อลินากัดฟันกรอดด้วยความโมโห “ฉันไม่รู้อะไรทั้งนั้น แล้วก็ไปจากห้องฉันได้แล้ว” มีนหัวเราะก่อนจะก้าวขึ้นมานั่งบนเตียง

“แน่ใจเหรอว่าไม่รู้ ความจริงก็คือความจริง มันโกหกกันไม่ได้หรอก ก็ไหนบอกว่าฉันเลว ฉันก็เลวอย่างที่เธอว่าไง ฉันไม่ใช่พระเอกในนิยายที่จะดีจนไม่ทำอะไรเธอ ฉันมันผู้ชายคนหนึ่ง มีคนเสนอฉันก็สนองให้เท่านั้นเอง” มีนยกมือขึ้นลูบใบหน้าหญิงสาวเบา ๆ อลินาปัดมือหน้านั้นออกไป ดวงหน้าที่ซีดเผือดนั้นทำเอามีนกลั้นหัวเราะไม่อยู่

“โอเค ก็ได้ๆ ก่อนที่เธอจะร้องไห้ขี้มูกโป่งไปฟ้องไอ้พัช เมื่อคืนพี่เช็ดหน้าให้แล้วมันก็เผลอหลับไปเลย ไม่ได้ทำอะไร” คำอธิบายนั้นทำให้หญิงสาวสีหน้าดีขึ้นมาหน่อยแต่ก็ยังพูดอะไรไม่ออกอยู่ดี ดวงตาสวยยังคงจ้องมีนแทบไม่กระพริบตา

“ทำหน้าอย่างนั้นนี่ไม่เชื่อเหรอ...งั้นลองดูไหมล่ะ”

อลินารู้สึกเหมือนน้ำตาพาลจะไหลเสียให้ได้ เกลียดผู้ชายคนนี้จนแน่นในอกไปหมด แต่เธอจะไม่มีวันปล่อยให้เขาได้เห็นน้ำตาแม้ซักหยดเดียวจากเธอ

“คิดว่าแกล้งฉันแล้วสนุกก็เชิญเถอะ คนเลวยังไงมันก็เลว ไม่มีทางโผล่ขึ้นมาเหนือตมได้หรอก”

มีนหุบยิ้มทำหน้านิ่งเฉยอีกครั้ง “อลินา...มองพี่ใหม่ไม่ได้เหรอ มองพี่ในตัวตนคนใหม่อีกครั้งหนึ่ง ให้โอกาสพี่ได้ไหม”

หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองด้วยความรู้สึกอาฆาตแค้นในใจ เขาคือคนที่ทำให้เธอต้องนั่งโดดเดี่ยวในสวนคนเดียว เขาคือคนที่ทำให้ชีวิตเธอเปลี่ยนแปลงไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ

“ทำไมฉันต้องมองคุณใหม่ด้วย”

“แค่ปล่อยอดีตไปสักครั้งเถอะอลินา ให้ปัจจุบันตัดสิน เธอจะมองพี่คนนี้อย่างไร โปรดให้โอกาสพี่อีกครั้งเถอะนะ”

“ฉันอยากรู้แค่เหตุผลที่คุณอยากได้โอกาสนั้นมากกว่า”

สีหน้าของอลินาเกือบทำให้มีนหลุดปากพูดในสิ่งที่อยากพูดมาตลอดเวลา ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเขายอมรับว่าผิดเอง แต่ทุกครั้งที่เจอหน้า บางอย่างที่ควรดีมันกลับไม่ดี บางเรื่องที่ควรพูดกลับพูดไม่ออก กลายเป็นว่ามันตรงกันข้ามกันไปหมด

“พี่...” มีนกลืนคำพูดบางคำไว้ก่อนจะเอ่ยขึ้นมาอีก “ทำไมเหรอ พี่ออกจะหล่อนะ ใครๆ ก็ชอบพี่ เธอไม่อยากเป็นสาวผู้พิชิตพี่มั่งเหรอ” เขาแสร้งพูดติดตลกแม้จะรู้ว่าอีกฝ่ายคงหัวเราะไม่ออกเป็นแน่ แต่ก็ยังคงทำ

“ฮึ...ฉันไม่ใช่นักเดินทางที่จะไปพิชิตเทือกเขา ทำไมต้องทำแบบนั้นด้วยเปลืองตัวเปลืองเวลา”

“งั้นก็ตามใจ พี่ไม่บังคับเราอยู่แล้ว แต่เรื่องที่พี่นอนนี่เมื่อคืนนี่ มันอาจจะหลุดไปเมื่อไหร่ก็ไม่รู้นะ พี่รอคำตอบจากเราเสมอนะ อลิส...อลินา” มีนพูดทิ้งท้าย ยิ้มอย่างเป็นต่อก่อนจะเดินออกไปจากห้อง

เมื่อประตูปิดลงน้ำตาของหญิงสาวก็ไหลออกมาทันที ไม่มีทางที่เธอจะญาติดีกับผู้ชายคนนี้อีกแล้ว ทุกครั้งที่เธอเห็นเขา เหมือนกับได้เห็นพ่อที่เคยทิ้งแม่ไป เขาทิ้งให้เธอนั่งรอที่สวนสาธารณะทั้งวัน โดนคนที่โรงเรียนล้อ ทั้งๆที่เรื่องมันควรจะเป็นความลับระหว่างเขาและเธอเพียงสองคน

ได้...ถ้าเขาเห็นว่าอลินาที่สวยในตอนนี้เหมาะสมกับเขา นึกอยากจีบงั้นเหรอ ก็ดีเธอจะได้ทั้งเงินที่ชารีนจ้างและความสะใจกับแค้นที่คั่งค้าง ต่อไปนี้เขาก็จะเป็นฝ่ายโดนทำร้ายบ้าง ความเจ็บที่เธอได้รับ เขาจะได้รับมันคืนไปอีกหลายร้อยเท่า



มีนกลับมาถึงห้องตัวเองได้ก็ทรุดตัวนอนราบกับที่นอน ตามองเพดานพลางนึกถึงเรื่องเมื่อคืน หลังจากที่เขาเผลอทำร้ายอลินาอีกครั้งด้วยจูบที่ร้อนแรงแต่เธอหลับไปในอ้อมแขนของเขา ด้วยฤทธิ์แอลกอฮอลล์ เขาจึงอุ้มเธอไปนอนบนเตียงก่อนจะหาผ้ามาเช็ดหน้าเช็ดตาให้ด้วยความรู้สึกผิด ระหว่างที่เช็ด เขาได้เห็นรอยแผลเป็นด้านหลังใบหูของหญิงสาว ถ้าหากเธอลุกขึ้นมาศัลยกรรมเหตุผลเกิดจากที่เขาทิ้งไปจริงๆ มันเป็นเรื่องเจ็บปวดที่สุด

มือเรียวที่ละจากผ้าขนหนูผืนเล็กเอื้อมมาปัดปอยผมที่หน้าผากเบาๆ สายตาที่อ่อนโยนของชายหนุ่มทอดไปยังดวงหน้านวล “พี่ขอโทษ” เขากล่าวด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา

มีนในวัยรุ่นเป็นหนุ่มเอเชียหน้าตาดี เขาค่อนข้างฮอตในกลุ่ม ทุกวันเขาจะเดินมาโรงเรียนพร้อมกับอลิส เด็กสาวชาวไทยที่เขามองว่าเป็นเพื่อนรุ่นน้อง ด้วยการเจอะเจอกันมาตั้งแต่เด็ก ความผูกพันนั้นมีระยะห่างเพราะอลิสมักแยกตัวออกไปเสมอ เธอมักบอกว่าเป็นห่วงแม่ที่อยู่บ้านคนเดียว ช่วงที่เรียนไฮสคูลอลิสหน้าตาเหมือนเด็กคงแก่เรียนแต่เพราะเธอมักเดินตามเขาจึงกลายเป็นจุดสนใจ หลายคนมองว่าเธอเป็นเด็กรับใช้มากกว่าจะเป็นเพื่อนวัยเด็กของเขา

มีนไม่กล้าตอบใครๆ ว่าเธอสำคัญและพิเศษสำหรับเขาแค่ไหน เขาซึ่งอยู่ในวัยรุ่น คบเพื่อนฝูงที่ถือตัวว่าเป็นหนุ่มฮ็อตของโรงเรียน ฐานะดี หน้าตาดี เป็นที่ใฝ่ฝันของสาวๆ ทว่าวันที่อลิสรวบรวมความกล้าขอนัดเดทกับเขาเอง แต่เขากลับไม่แน่ใจ นั่งคิดอยู่เกือบสองชั่วโมงก่อนจะยอมรับว่าอยากสานต่อความสัมพันธ์กับอลิสจึงเริ่มเตรียมตัวที่จะไปตามนัดพร้อมกับดอกกุหลาบสีแดงดอกหนึ่ง แต่วันนั้เอง...คือวันที่เขาต้องกลับเมืองไทยมาเผาศพพ่อ



ประวีย์เก็บกวาดร้านเมื่อมาเริ่มงานเช้าวันนี้ เด็กหนุ่มแปลกใจที่ไม่เห็นอลินาเป็นคนแรกอย่างที่เคยเห็นในทุกเช้า ประวีย์คิดว่าคงเป็นเพราะงานเลี้ยงเมื่อคืนเธอดื่มหนักมากขนาดนั้นคงจะยังไม่ตื่น พอดีกับเสียงฝีเท้าก้าวเดินลงบันไดทำให้ประวีย์เงยหน้าขึ้นจากงานเห็นมีนเดินลงมาแถมยังผิวปากอารมณ์ดีผิดปกติจากทุกวัน ทั้งๆที่เมื่อคืนยังทำหน้าเหมือนจะกินคนได้

“สวัสดีครับพี่มีน” ประวีย์ยกมือไหว้พร้อมทักทาย มีนเดินเข้ามาตบบ่าพนักงานประจำแล้วยิ้มหวานให้

“ขอกาแฟให้พี่หน่อยสิ” ประวีย์อมยิ้มแล้วรีบกุลีกุจอไปทำให้ทันที

พัชระเดินลงมาเป็นคนที่สอง สายตาคมเห็นไปมองเพื่อนรักที่นั่งอยู่หน้าบาร์ พลางคิดในใจถึงเรื่องเมื่อคืนที่ผ่านมา ไม่น่าเชื่อว่าเรื่องราวมันวุ่นวายจนเขาเหนื่อยใจ แถมกว่าจะเก็บข้าวของในร้านเสร็จก็เกือบล่วงเลยถึงวันใหม่ ยิ่งพอหัวถึงหมอนก็แทบไม่ได้ยินเสียงอะไรอีกเลยจนรุ่งเช้า

“ตื่นเร็วกว่าฉันอีกหรือ แทบไม่น่าเชื่อ” พัชว่าพลางเดินเข้าไปด้านหลังบาร์เครื่องดื่ม ชงกาแฟดำสำหรับตัวเอง

“ก็ พอดีมี คนมาปลุกน่ะ” มีนพูดยิ้มทั้งตาและปากเมื่อนึกถึงเรื่องเมื่อเช้ารวมไปถึงเรื่องเมื่อคืนอีกด้วย

“ใคร”

มีนหลบตาเพื่อนหันไปมองประวีย์ที่เดินมาเสิร์ฟกาแฟให้

“อ๋อ เสียงโทรศัพท์คนโทร.ผิดน่ะ” ว่ากลบเกลื่อนโดยไม่ยอมมองหน้าเพื่อน มือยกถ้วยกาแฟขึ้นจิบพลางคิดกังวลบางอย่างในหัว

“แล้วทำไมต้องยิ้มแบบนั้นด้วยวะ เรื่องเมื่อคืน ฉันขอโทษแทนน้องฉันด้วยนะ” พัชระรู้ดีกว่าสิ่งอลินาพูดเมื่อคืนไปกระทุ้งแผลของมีนเข้าอย่างจัง

“ไม่เป็นไร” มีนตอบน้ำเสียงเรียบ “ฉันต่างหากที่อยากขอโทษแก”

พัชระขมวดคิ้วสงสัยในสิ่งที่มีนกล่าวออกมา ทว่าเสียงวิ่งลงบันไดทำให้ทุกคนหันไปสนใจแทนการพูดคุยกัน

อลินาวิ่งมาจากชั้นสองเมื่อเห็นว่าชั้นล่างมีใครอยู่บ้างก็เบือนหน้าไปอีกทางหันไปมองประวีย์ก่อนจะหันกลับมาเผชิญหน้ากับความจริง

“พี่พัช วันนี้ลีนาขอลางานนะคะ มีธุระด่วน ต้องไปหาเฮียสามเรื่องสมัครแข่งรถ” อลินาพูดทั้งบังคับสายตาตัวเองไม่ได้วอกแวกไปมองคนที่เป็นปัญหากับเธอมาตั้งแต่เมื่อคืน พัชระพยักหน้ายอมให้น้องลาโดยคนที่นั่งจิบกาแฟทำหน้ายุ่ง

“ไปนะคะ”

“ทำไมยอมง่ายๆ เล่า ปล่อยให้ลางานง่ายอย่างนี้ได้ยังไง” มีนบ่นแต่อีกฝ่ายไม่ได้ฟัง มองตามหลังน้องสาวด้วยสังเกตเห็นความผิดปกติบางอย่าง พอหันกลับมามองเพื่อนอีกทีก็เห็นใบหน้ายุ่ง ๆ เหมือนคนโดนขัดใจ

“เมื่อกี้แกว่าอะไรนะ”

“เปล่า ไม่มีอะไรแล้ว ฉันไปทำงานนะ” มีนว่าพลางลุกขึ้นเก็บของวิ่งออกไปจากร้านทันที

มีนตั้งใจวิ่งไปหาอลินาแต่ไม่ทันเสียแล้วรถคันสวยแล่นออกไปไกล ช่างภาพหนุ่มคิดว่าเธอตั้งใจหลบหน้าเขา เรื่องเมื่อเช้าอาจจะทำให้เธอกระอักกระอ่วนใจพอสมควร เขาต่างหากที่รู้สึกดีกับสิ่งที่ได้รับเหมือนกับ มีนเมื่ออดีตกลับมาอีกครั้ง มีนที่เป็นวัยรุ่นหนุ่มเพิ่งได้เจอกับรักครั้งแรก!!

มีนนั่งจ้องกล้องตรงหน้าอยู่นานจนภพธรสังเกตเห็นความผิดปกติของเพื่อนร่วมงาน มีนไม่เคยเหม่อลอยระหว่างการทำงาน เขาสนุกสนานกับทุกเรื่องแต่วันนี้กลับนั่งเหม่ออยู่ที่โต๊ะทำงานนานแทบเรียกได้ว่าตั้งแต่มาถึงเลยด้วยซ้ำ

“มีน” เสียงภพธรเรียกทำให้มันตื่นสะดุ้งหันไปมองเพื่อนร่วมงาน

“แกจ้องกล้องนั่นมานานแล้วนะเว้ย มีอะไรหรือเปล่าวะ” ภพธรถามไถ่ด้วยความเป็นห่วง ช่วงหลังๆ ดูมีนเหมือนมี่เรื่องในใจเสมอ มีนส่ายหน้าปฏิเสธ

“ไม่เป็นอะไรหรอก อาจจะนอนไม่พอ เมื่อคืนดื่มหนักไปหน่อย”

“ก็แน่สิวะ อยู่ดีๆก็ท้าประลองกับน้องอลินาเขา แล้วน้องเขาเป็นไงมั่งวะ”

“จะรู้เหรอ ไม่ได้อยู่ด้วยกันเสียหน่อย”

“อ้าว ก็เห็นอยู่บ้านเดียวกันนี่หว่า นี่แกยังโกรธกันไม่เลิกอีกเหรอวะ ทำตัวเป็นเด็กๆไปได้”

“เปล่า ฉันไม่ได้โกรธเสียหน่อย” มีนปฏิเสธแต่แววตาไม่ได้บอกว่าเป็นอย่างที่พูด

“แหมๆ ทำเป็นงอน ตกลงแกชอบน้องเขาใช่ไหมวะ บอกมาเหอะ ทำเป็นตั้งแง่ไปอย่างนั้นเอง โธ่ ที่แท้ก็” ภพธรแหย่เพื่อนบ้างนึกขันที่เห็นเพื่อนทำหน้าตื่นที่โดนแซว สายตาของภพธรเหลือบเห็นความผิดปกติที่หน้าผากของมีน

“นั่นหน้าแกไปโดนอะไรมาวะ ช้ำเชียว”

มีนรีบหากระจกมาส่องทันที พลันนึกถึงเหตุการณ์เมื่อเช้าได้ อลินาเล่นถีบเขาลงจากเตียงโดยไม่ตั้งตัวอย่างนั้นคงจะโขกเอากับอะไรสักอย่างเป็นแน่ เขาเองก็ไม่ได้สังเกตในช่วงอาบน้ำแต่งตัว

“อ๋อ ฉันเมาเลยชนประตูห้องตัวเองน่ะ” มีนโกหกคำโตออกมาอย่างช่วยไม่ได้ ภพธรไม่ได้เซ้าซี้ต่อเดินกลับไปทำงานที่โต๊ะของตัวเองปล่อยให้มีนนั่งเลือกภาพต่อไป

มีนแม้จะมือจะทำงานแต่ในหัวยังคงคิดเรื่องอลินา เขายังคาใจว่าหากเธอตั้งใจที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อเขาแล้วละก็...ทำไมทุกครั้งที่เข้าใกล้ เธอกลับเป็นฝ่ายเดินหนี ไม่ได้เข้าหาเขา...มันน่าจะมีอะไรมากกว่านั้น



อลินานั่งมองสนามด้วยดวงตาที่เหม่อลอย สมองของเธอยังคงว้าวุ่น ทำไมมีนถึงได้บอกว่าขอโอกาสจากเธอ เขารอคำตอบอีกต่างหาก มันน่าปวดใจที่ได้เจอกับเธออีกครั้ง เหมือนโชคชะตากลั่นแกล้ง อลินากุมขมับปวดหัวกับเรื่องที่เกิดขึ้น ทั้ง ๆ ที่คิดว่าเป็นแค่ฝัน ทำไมนะ โชคชะตาถึงได้ทำให้เธอเจอเขาอีกครั้ง อยากให้เธอเจ็บใจหรืออยากให้เธแก้แค้นกันแน่...แค้นที่เธอยอมรับปากที่จะทำตามชารีนเสนอ ยอมทั้งที่ใจเธอขยะแขยง แต่เรื่องเมื่อคืนทำให้เธอรู้สึกแปลกใจกับตัวเองอยู่เช่นกัน แทนที่จะรู้สึกเกลียดมากกว่านั้นแต่ทำไม...ในใจถึงสั่นไหว ไม่นะอลิส...เธอห้ามใจอ่อนกับผู้ชายคนนี้อีก ต่อจากนี้ไปคือการแก้แค้นเท่านั้น

“วันนี้เป็นอะไรลีน่า นั่งเหม่ออยู่ข้างสนามไม่ลงไปซ้อมละ” อนุทัตเอ่ยถามพร้อมกับนั่งลงข้างๆ หญิงสาว อลินาฝืนยิ้มให้หัวหน้าทีม

“ไม่ละค่ะ ตอนนี้ลีน่าไม่มีสมาธิเลย”

“แล้วมาทำไมวะ” อนุทัตเหมือนแซวในทีแต่เห็นสีหน้าหม่นๆ ของหญิงสาวแล้วก็ล้อไม่ลง

“แค่อยากปล่อยสมองให้ว่างน่ะเฮียสาม เหนื่อยใจกับอะไรบางอย่าง”

“เพราะไอ้เบียร์หรือเปล่าวะ เฮ้ย...คิดมากขนาดนี้นี่เพราะไม่ชอบมันจริงๆ น่ะเหรอ”

อลินารู้ว่าอนุทัตเข้าใจผิดแต่เรื่องนี้ก็ใช่ว่าเธอจะไม่กังวล “ความรักมันบังคับกันได้หรือคะ”

“มันก็จริงนะ เฮียก็ขอโทษด้วยที่ทำให้ลีน่ายุ่งยากใจแต่เฮียก็เห็นว่าเบียร์มันชอบเธอมานานแล้ว มันไม่เคยข้อแวะกับผู้หญิงคนไหนเลยนอกจากเธอนะลีน่า”

“ลีน่าก็เสียดายที่เบียร์มาช้าไป”

“มาช้า...หมายถึงยังไง ลีน่ามีคนที่ชอบอยู่แล้วงั้นเหรอ”

“เปล่าค่ะ ลีน่ามีคนที่เกลียดอยู่แล้วต่างหาก เกลียดมากจนรักใครไม่ได้ เกลียดจนต้องทำทุกอย่างเพื่อแก้แค้น”

“ลีน่า” น้ำเสียงอ่อนของอนุทัตนั้นเต็มไปด้วยความประหลาดใจ “แค้นไม่ได้ทำให้ชีวิตเธอดีขึ้นนะ เราต้องเดินไปข้างหน้า ที่พี่เคยสอนว่าเราต้องเอาชนะกับความกลัวให้ได้ มันไม่ใช่แบบนี้นะลีน่า”

อลินาเข้าใจในความหมายของอนุทัตดี เพียงแต่ว่าตอนนี้เธอได้รับพลังแห่งความเกลียดมันกำลังแปรเปลี่ยนเป็นพลังแห่งความแค้น เธอมีแค่ทางที่จะก้าวผ่านไปให้ได้ ไม่ใช่การเดินหนีอีกต่อไป

เธอจำวันแรกที่จับพวงมาลัยได้ดี อนุทัตเป็นคนสอนเธอทุกอย่าง เขาบอกว่าโลกนี้มีแต่ความน่ากลัว ทำไมคนอยู่อาศัยอยู่ได้ เพราะเราเลือกที่จะสู้กับมัน ถ้าเธอมัวแต่กลัวกับปัญหาและรอยแผลในอดีตแล้วเมื่อไหร่จะเดินต่อไปได้ ต้องสู้กับความกลัวในใจตัวเองให้ได้ หลังจากที่มือสั่นเทา ความหวาดกลัวจากอุบัติเหตุครั้งนั้นทำให้เธอไม่กล้าขึ้นรถ กลัวการขับรถ อนุทัตช่วยให้เธอก้าวขึ้นมาเป็นนักแข่งรถหญิงภายในสองปี

ตอนนี้เธอรู้ดีว่าความกลัวที่เจอคืออะไร...กลัวความรักที่หลอกลวงของมีน เธอจะสู้กับมัน...



ณิชนิตา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 26 พ.ย. 2555, 08:54:20 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 26 พ.ย. 2555, 08:54:20 น.

จำนวนการเข้าชม : 1774





<< บทที่ ๘ เกลียดมากไหม   บทที่ ๑๐ สิ่งที่ซ่อนอยู่ในความรู้สึก >>
nutcha 26 พ.ย. 2555, 21:10:29 น.
ต่างคนต่างไม่พูดอย่างนี้คงอีกนานล่ะกว่าจะเข้าใจกัน


พันธุ์แตงกวา 26 พ.ย. 2555, 22:30:02 น.
สงสารทั้งพี่มีน ทั้งอลินา ทำไมไม่มาจับเข่านั่งคุยกันดีดี อินจัด


pseudolife 27 พ.ย. 2555, 00:26:24 น.
พี่มีก็มีเหตุผลนี่นา ตั้งหน้าตั้งตาแค้นกันอย่างนี้ไม่ดีเลย เฮ้อ


ณิชนิตา 27 พ.ย. 2555, 09:57:52 น.
คือ...มีนเขาคงรอเวลาอะไรบางอย่างน่ะค่ะ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account