เล่ห์รักเกมหัวใจ
มีน เขาถูกว่าจ้างให้หักอกเธอ "อลินา" ที่คนว่าจ้างบอกว่าเธอเป็นผู้หญิงร้ายกาจ
อลินา ถูกว่าจ้างให้ดักหลังผู้ชายที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเพลย์บอยตัวพ่อ อย่าง"มีน" ที่ไม่ยอมสยบให้หญิงใด
เมื่อ แผนถูกซ้อนเป็นชั้นๆเหมือนขนมที่แสนหวาน กับดักที่พันจนวุ่นวาย

หมายเหตุ เรื่องนี้เขียนสดๆ ดังนั้นอาจจะมีเนื้อหาที่จะมีการเปลี่ยนแปลงภายหลังค่ะ
Tags: เล่ห์รักเกมหัวใจ คีตา ณิชนิตา

ตอน: บทที่ ๑๑ คำขอโทษที่สายไป


บทที่ ๑๑



มีนมองใบหน้าสวยที่ตอนนี้ซีดขาวลงอย่างเห็นได้ชัด เธอเงียบไปในทันทีที่เขาเรียกชื่อเล่นเดิม ดวงตาหม่นลงแสงลงแทบทันที

“พี่รู้นานแล้วเหรอคะ”

“เมื่อสองสัปดาห์ก่อน” มีนสารภาพออกมา ดวงตาคมจ้องเธอไม่วางตาเพื่อจับอาการของหญิงสาวไว้อย่างดี

“แล้วทำไม...ยังยืนยันที่จะขอคบฉันล่ะ เป็นแผนใช่ไหม แผนการที่จะฆ่าฉันให้ตาย...”

“พี่ไม่มีแผนอะไรเลยนะอลิส พี่ไม่ได้คิดร้ายกับเธอ แต่พี่ยืนยันในความบริสุทธิ์ใจที่มีต่อเธอ ตลอดเวลาเจ็ดปี พี่...เสียใจในเรื่องเธอมากที่สุด เสียใจที่ไม่ได้บอกอะไรก่อนไป เสียใจที่หุนหันจนไม่มีสติ และเสียใจที่ทิ้งเธอไว้ที่นั่นคนเดียว”

“เสียใจงั้นเหรอคะ ตรงไหนที่พี่แสดงว่าเสียใจบ้าง กลับเมืองไทยมาเป็นเพลย์บอยอย่างนี้หรือคะที่เรียกว่าเสียใจ”

“พี่ไม่ได้ตั้งใจที่จะเป็นนะอลิส เมื่อก่อนพี่ไม่คิดว่ามันเป็นเรื่องเลวร้าย จนเจอเธอพี่ถึงได้รู้ว่า ไม่สมควรทำมันเลย”

“ฮึ...” อลินาทำเสียงขึ้นจมูก ใบหน้าที่เคยซีดเผือดบัดนี้เป็นสีแดงด้วยความโกรธเกรี้ยว

มีนเอื้อมมือมาจับมือหญิงสาวเอาไว้แม้เธอจะสะบัดหนีแต่เขาก็ยังจับมันไว้แน่น “วันนั้น...พี่เดินทางกลับไทยก็เพราะคุณพ่อพี่เสีย วันนั้นคือวันที่พี่หมดสิ้นทุกอย่าง พี่ไม่รู้ว่าอลิสจะยอมเชื่อพี่หรือเปล่า วันนั้นพี่ตั้งใจจะไปตามนัดแต่มันเกิดเรื่องเสียก่อน พี่ไม่มีสติพอที่จะโทร.บอกเธอด้วยซ้ำ พี่บอกอีริคให้ไปบอกเธอแต่เขาไม่ได้ทำ หลังจากวันนั้นพี่ก็เสียใจมาตลอดแล้วก็คิดว่าปล่อยให้มันผ่านไป เพราะคิดว่าจะไม่ได้เจอเธออีก”

“คิดว่ามันเป็นเรื่องง่ายขนาดนั้นเลยเหรอคะ รู้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้นหลังจากที่พี่ทำอย่างนั้น ข่าวกระพือไปทั่วโรงเรียนบอกว่าเด็กอย่างอลิสไม่เจียมตัว ริอาจนัดหนุ่มดาวโรงเรียน แต่ใครๆ ก็สมน้ำหน้าที่เธอนั่งแกร่วรอที่สวนนั้นทั้งวันโดยที่ไม่มีแม้แต่เงาของพี่ อลิสที่ไม่สวย ไม่มีใครชื่นชมคนนั้น ตายไปตั้งแต่วันนั้นแล้วล่ะค่ะ ปล่อยมือเสียที” เธอพยายามที่จะบิดให้ข้อมือนั้นหลุดออกจากการเกาะกุมของอีกฝ่าย

“แค่เรื่องเดียวเท่านั้นอลิสที่พี่อยากให้เธอฟัง พี่รักเธอมาตลอดนะ เรื่องเดียวที่พี่ไม่กล้าบอกเธอ คือ พี่รักเธอ รักมานานแล้ว ไม่ว่าเธอจะเป็นยายอลิส หน้าเยิน ถักเปีย แว่นหนาเตอะก็ตาม พี่รักเธอ...” น้ำเสียงที่ทอดอ่อนไปด้วยแรงอารมณ์นั้นทำให้อลินาอ่อนลงเช่นกัน เธอมองชายหนุ่มตรงหน้าผ่านม่านน้ำตาที่ก่อตัวก่อนจะไหลลงอาบแก้มทั้งสอง

มีนค่อยๆ ปล่อยมือออกเพื่อที่จะเอื้อมขึ้นไปเช็ดน้ำตาให้ แล้วดึงร่างบางนั้นเขามากอดไว้แนบอก ลูบไหล่บางนั้นอย่าปลอบประโลม น้ำตาของเธอเปรียบเสมือนสิ่งที่บอกให้เขารู้ว่า เธอเจ็บปวดแค่ไหนกับเรื่องที่ผ่านมา

“พี่ขอโทษนะอลิส พี่ขอโทษ...” เขายังคงกล่าวเช่นนั้น ไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรให้เธอยกโทษให้อีกครั้ง ไม่รู้ว่าเขาสมควรยื้อยุดเรื่องนี้ไว้อีกหรือไม่ แต่ตอนนี้เขาทำตามหัวใจและความรู้สึกของตัวเองไม่ว่าทางข้างหน้าสุดท้ายแล้วมันจะจบอย่างไรแต่เขาก็ยินดีที่จะทำมันต่อไป



อากาศเย็นๆ จากเครื่องปรับอากาศทำให้ชายหนุ่มรู้สึกผ่อนคลายรวมถึงกลิ่นหอมจากสมุนไพรที่เขาเสาะหามาช่วยสร้างบรรยากาศส่วนตัวนั้นได้ดีขึ้น พัชระเป็นคนที่มีโลกส่วนตัวสูง เขาค่อนข้างเครียดกับงานในร้านมากพอสมควร แต่ก็ยังพอรับมือได้ สิ่งที่รับมือไม่ได้นั่นคือ สิ่งที่มีนบอกเขาเมื่อเย็นวาน มันทำให้เขาแทบจะทำแก้วกาแฟหล่นร่วงจากมือ

“แล้วเรื่องที่แกจะบอกฉัน เรื่องอะไรหรือมีน” เขาถามกลับเมื่อเล่าเรื่องของอลินาจบ มีนทำหน้าเครียดขึ้นมาในทันที

“ฉันมีเรื่องจะสารภาพกับแก ก่อนอื่นฉันต้องขอโทษแกก่อน”

“ขอโทษ?”

“ใช่ ฉันเมื่ออดีตเคยเจอกับอลินามาก่อน”

พัชระได้ยินชัดเจนแต่เขาเลือกที่จะไม่พูดอะไรต่อ นั่งฟังสิ่งที่มีนจะเล่าต่อไปด้วยหัวใจเริ่มระทึก

“บ้านฉันอยู่ห่างจากบ้านของอลิส เอ่อ...อลินา เพียงบล๊อกเดียว เราไปโรงพร้อมกันทุกวัน...ฉันไม่เคยรู้เลยว่ารู้สึกยังไง จนวันหนึ่ง อลิสเขาขอเดทฉันถึงได้รู้ว่าฉันเองก็ชอบยายหางเปีย แว่นหนาคนนั้น...ไม่คิดว่าฉันจะทำผิดพลาดครั้งใหญ่ฉันพลาดนัดสำคัญนั้นก็เพราะต้องกลับเมืองไทยอย่างเร่งด่วน อย่างที่นายรู้พ่อฉันเสีย หลังจากวันนั้นเราก็ไม่ได้เจอกันอีกเลย มาเจอเขาอีกครั้งที่นี่”

มือของเขาสั่นด้วยความรู้สึกบางอย่างเกินที่จะห้ามไหว มันเป็นโชคชะตาหรือพรหมลิขิตกันแน่ที่ทำให้เกิดเรื่องนี้ขึ้น “แล้วแกอยากพูดอะไร ในเมื่อมันเป็นอดีตไปแล้ว”

“ฉันจะขอกลับมาหาอลิสอีกครั้ง ฉันขอรักอลิสอีกครั้งได้ไหม”

“นั่นไม่ใช่คำถามที่นายจะมาถามฉันนะมีน นายควรถามหัวใจตัวเอง ถามอลินามากกว่า แต่ฉันอยากให้แกคิดอีกนิดหนึ่งนะ แกทำร้ายเขาขนาดนั้น แกคิดว่าอลินาจะยกโทษให้งั้นเหรอ เชื่อว่าเป็นเรื่องสุดวิสัยแต่หลังจากวันนั้นมันกี่ปีมาแล้ว ความพยายามที่จะแก้ไขมันไม่มีเลย คำขอโทษที่ช้าเกินไปมันก็ไม่ต่างจากการเสียเวลาเปล่าหรอกนะมีน” มีนเงียบไปอีกครั้ง

นั่นทำให้พัชระถอนใจออกมาเฮือกใหญ่ ทอดสายตาออกไปยังนอกระเบียงห้อง กลิ่นหอมของสมุนไพรเหล่านั้นช่วยได้เพียงแค่ทำให้เขาใจเย็นขึ้นแต่ไม่ได้ช่วยให้สถานการณ์มันดีขึ้น เขาคงห้ามความรู้สึกของคนทั้งคู่ไม่ได้ สิ่งเดียวที่เขาทำได้คือ ประคับประคองให้มันไม่เกิดเรื่องอะไรร้ายแรง และไม่ยอมให้มีนทำอะไรเกินเลยกับน้องสาวเขา อย่างน้อยมีนก็น่าจะเกรงใจเขาบ้าง

ได้ยินเสียงถอนใจของตัวเองอีกครั้ง หมดเรื่องนี้เขาจะต้องถอนหายใจอีกกี่ครั้งกันเชียว



เสียงกรุ๊งกริ๊งของประตูที่มีกระดิ่งเล็กๆ คล้องไว้ให้ได้ยินเสียงนั้นทำให้คนที่อยู่ด้านในห้องเหลือบมอง ลิษายิ้มรับเพื่อนสาวที่เพิ่งเดินเข้ามาในร้าน แพรไหมเพื่อนสมัยเรียนมัธยมที่เธอสนิทมากที่สุด ลิษาสั่งอาหารก่อนที่เริ่มการสนทนาด้วยความที่ไม่ได้เจอกันนานทำให้เรื่องราวในการพูดคุยเป็นเรื่องจิปาถะ

“ได้ยินข่าวว่าเธอได้ลงหน้าปกนิตยสารผู้หญิงด้วยเหรอ เริดนะ”

“พอดีคุณแม่รู้จักกับเจ้าของนิตยสารหัวนี้น่ะ”

“อ๋อ เหรอ ว่างๆ ก็ให้สัมภาษณ์ฉันบ้างสิ” แพรไหมเย้า เธอทำงานเป็นนักข่าวสายบันเทิงมาตั้งแต่เรียนจบมหาวิทยาลัย “เออ จริงสิเธอได้มีนเป็นคนถ่ายรูปให้ใช่ไหม”

“เธอรู้จักเขาด้วยเหรอ” ลิษาถามกลับด้วยความแปลกใจที่เพียงแค่ช่างภาพนิตยสารทำไมเพื่อนสาวของเธอถึงได้รู้จักมักจี่ได้

“ทำไมจะไม่รู้ล่ะ เขาฮ็อตจะตายไป ผู้ชายคนนี้ทรงเสน่ห์ เธอไม่รู้สึกบ้างเหรอ ฉันเจอวันก่อนที่ให้งานเปิดตัวเว็บไซต์หาคู่ของคุณชารีนน่ะ หน้ายังใส ตาคม ผู้ชายคนนี้สุดยอดแล้วล่ะ”

“คงจะฮ็อตจริงไม่อย่างนั้น เจ้าแม่ข่าวบันเทิงอย่างเธอคงไม่กรี๊ดกร๊าดขนาดนี้หรอก”

“ไม่แค่หล่อ ยังเป็นเชื้อสายผู้ดีเก่านะแก ได้ยินว่าแม่เป็นลูกคุณหญิงอะไรสักอย่างฉันจำไม่ได้แล้ว แต่ต้นตระกูลดีมาก แต่ว่าคำร่ำลือว่าเขาเป็นเพลย์บอยนะ คบสาวไม่พ้นสามเดือนเหมือนทดลองงานเชียวเธอ”

“จริงเหรอ” น้ำเสียงประหนึ่งไม่ได้เชื่อในคำพูดของเพื่อนทำให้ แพรไหมเริ่มแปลกใจกับสีหน้าของเพื่อน

“นี่ทำไมเธอยิ้มแบบนั้นล่ะ อย่าบอกนะว่า เธอรู้จักเขาแล้ว หรือ นี่แอบกิ๊กกันแล้วใช่ไหม”

“เปล่าเสียหน่อย ก็แค่แลกเบอร์กัน เขายังไม่ได้โทร.หาฉันด้วยซ้ำ”

“งั้นเหรอ ถ้าเธอทำให้เขากลับตัวมารักเธอคนเดียว เป็นคนสุดท้ายได้นะ ฉันจะยกนิ้วให้เลย”

“เธอจะเอาอะไรมาพนันกับฉันล่ะ ฉันเชื่อว่าเขาหนีไม่พ้นมือฉันหรอก”

“นี่เธอมั่นใจอย่างนี้ได้ยังไงแม่คุณ นี่มีนนะ ฉันไม่เชื่อหรอก”

“เชื่อเถอะ ฉันจะทำให้เธอเห็นเอง” ลิษากล่าวอย่างมั่นอกมันใจในตัวเอง ไม่เคยมีครั้งไหนที่เธอจะยอมแพ้อะไรง่ายๆ แค่ผู้ชายคนเดียว ทำให้ชอบไม่ใช่เรื่องยากหรอก

มีน...เพลย์บอยอย่างนั้นหรือ เธอนี่แหละจะสยบให้เขาอยู่ใต้อาณัติของเธอให้ได้



สายตาคมของชายหนุ่มยังกวาดมองงานบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ตรงหน้าโดยไม่ยอมลุกไปไหนแม้ว่าเวลาจะล่วงเลยช่วงพักไปนานแล้วก็ตาม ชารีนเหลือบมองเขาเป็นระยะ อาการงอนสะบัดของสนต์เป็นมาตั้งแต่เมื่อวานแล้ว จนวันใหม่เขาก็ยังไม่ยอมสบตาเธอเช่นเคย เธอตัดสินใจลุกขึ้นเดินเข้าไปหาเขาพร้อมกับถุงขนมที่ซื้อเข้ามาด้วย

“ไม่หิวเหรอไม่ออกไปกินข้าว” กล่าวหยั่งเชิงไปเช่นนั้นเองเผื่อว่าเขาหายโกรธจะยอมปริปากพูดกับเธอบ้าง

“ไม่หิวน่ะ” เขายอมพูดออกมาแต่ไม่ยอมสบตา

“ยังงอนอีกเหรอ ฉันมาง้อแล้วนะ”

สนต์ถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะเงยหน้าสบตาชารีนเป็นครั้งแรกในรอบวัน “ชา...ฉันขอร้องได้ไหม เลิกยุ่งเรื่องของมีนสักที ความรักมันบังคับหรือจัดการด้วยเล่ห์กลอะไรไม่ได้หรอก ถ้าจะรักนะ ไม่ต้องทำอะไรเลยด้วยซ้ำ มันก็ยังรัก”

“ทำไมละสนต์ ฉันก็หวังดีกับเพื่อน อยากให้เพื่อนมีความรักที่แท้จริง จะได้เลิกทำตัวแบบนี้ มันไม่ดีสำหรับเขาเลย”

“ฉันรู้ว่าเธอห่วงเพื่อนแต่ใช้วิธีการอื่นสิ ทำแบบนี้ก็เท่ากับเธอเป็นมีนคนที่สอง รู้ไหมที่มีนทำน่ะเขาทำเพราะมีปมบางอย่างในใจ ไม่ได้สุ่มสี่สุ่มห้าทำหรอกนะ ถ้าเกิดว่าพวกเขารักกันจริงอย่างที่เธอต้องการแล้ววันหนึ่งเกิดความแตก...มีนรู้ว่าลีน่ารับจ้างมาทำร้ายเขา เขาจะรู้สึกยังไง รักที่ไม่บริสุทธิ์ใจมันไปไม่รอดหรอกชา”

ชารีนทำหน้าสลดเธอเข้าใจและเริ่มรู้สึกผิดในสิ่งที่สนต์กล่าวออกมาด้วยเหตุและผล ทำไมเธอจะไม่รู้ว่าผลสุดท้ายจะเป็นเช่นไร แต่ในเมื่อรักกันแล้วก็ต้องให้อภัยกันสิ ความผิดเล็กๆ น้อย ๆ เท่านี้เอง

“งั้นฉันจะบอกให้ลีน่าเลิกทำ”

“ดี...รีบบอกเลยนะ” สนต์ยังกำชับเพิ่มเติม ชารีนถอนใจยอมทำตามเพื่อนชาย คนเดียวที่เธอเชื่อฟังก็คือสนต์ ไม่รู้เพราะอะไรแต่เธอก็ยอมเขา สนต์มีเหตุผลและช่วยเหลือเธอมาโดยตลอด ไม่มีครั้งใดที่เขาจะเลิกยืนอยู่ข้างเธอ เพื่อนที่แสนดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา

หญิงสาวยิ้มอย่างเอาใจก่อนจะรีบยกขวดนมเสียบหลอดยื่นให้ชายหนุ่มระหว่างที่เขากำลังแกะแซนด์วิชออกจานถุง สนต์ปรายตามองท่าทีนั้นก่อนอมยิ้มด้วยความพอใจขึ้นมาครามครัน



อลินาปิดประตูห้องก่อนจะทรุดตัวลงนั่งกับพื้นอย่างหมดแรง เธอวิ่งหนีออกมาหลังจากได้รับอ้อมกอดที่แสนอบอุ่นของมีน ผู้ชายที่ครั้งหนึ่งเธอเคยฝันหา มันเป็นเพียงแค่ฝันเท่านั้น แต่บัดนี้เมื่อมันเป็นจริงเธอกลับรู้สึกเจ็บปวดเหลือเกิน

สายตาอ่อนโยนของชายหนุ่มที่เธอเดินตามทีละก้าวระหว่างไปโรงเรียน เขาหยุดกะทันหันทำให้เธอแทบล้มคะมำไปกับพื้น แต่กลับทำหน้ายิ้มยียวน

“จะเดินตามอย่างนี้ตลอดเหรอ อลิส”

“พี่รู้จักชื่อฉันได้ยังไงคะ”

“จำได้ตอนเพื่อนเธอเรียกน่ะ”

เธอก้มหน้างุดเหมือนว่ากลัวเขาจะเห็นใบหน้าที่บัดนี้มีสิวเกรอะเต็มไปหมด ด้วยฮอร์โมนกำลังเปลี่ยนแปลงเข้าสู่วัยสาว เป็นปัญหาใหญ่ที่เธอยังหาทางแก้ไขไม่ได้

“ก้มหน้าทำไม พื้นมันมีอะไรดีกว่าหน้าพี่งั้นเหรอ ไป...เดินไปพร้อมกันดีกว่า” เขาบอกพร้อมกับดันตัวเธอก้าววขาออกไปพร้อมกัน

ความทรงจำในครั้งแรกที่เขาเริ่มพูดคุยกับเธอ เขาเป็นคนหยิบยื่นไมตรีที่แสนสวยงามให้ และสุดท้ายก็เป็นเขาเองที่ตัดความสัมพันธ์นั้นเสียเอง

น้ำตาร่วงเผาะลงอาบแก้มด้วยความหลังที่ทำให้เธอเจ็บทุกครั้งที่คิดถึง เมื่อก่อนมันอาจเป็นความทรงจำที่สวยหรูและสดใสของเธอ แต่ในวันนี้มันคือ ความเจ็บปวด

“คิดว่าตัวเองสวยขนาดนั้นเลยหรืออลิส หน้าเยินขนาดนี้ยังหวังให้คนอย่างมีนเดทด้วย เชอะฝันกลางวันชัดๆ”

“เธออยากเป็นที่รู้จักโดยอาศัยมีนหรือไง ตอนนี้สมใจแล้วแหละ ไม่มีใครไม่รู้จัก ยายอลิสหน้าเยินที่หลงรักมีนเลย มีแต่คนอยากเห็นหน้าเธอว่าคนแบบไหนที่ไม่เจียม”

ถ้อยคำถากถางดูถูกเหล่านั้นทำให้เธอน้ำตาตกใน รวมถึงการกระทำของเขาด้วย ยิ่งเจ็บปวดเพิ่มขึ้นไปอีก แล้วอย่างนี้เธอจะกลับไปรักเขาได้อย่างไร เธอกลัว...กลัวหัวใจตัวเองมากกว่าสิ่งอื่นใด



ชายหนุ่มยังคงนั่งอยู่ที่เดิม ที่ๆ อลินาเดินจากเขาไปอีกครั้ง เหมือนอย่างที่พัชระว่าไว้จริงๆ คำขอโทษที่มันช้าไป มันก็ไม่ต่างจากการเสียเวลาเปล่า สมองของชายหนุ่มยังคงคิดถึงเรื่องในอดีตของตัวเอง

มีนที่เพิ่งแตกเนื้อหนุ่ม เขากำลังเดินทางไปยังโรงเรียนที่อยู่ใกล้ที่พัก ระหว่างทางเขาได้เห็นเด็กสาวคนหนึ่ง เธอนั่งกอดแมวตัวเล็กๆ ไว้ในอ้อมกอด เธอพูดกับมันเหมือนมันฟังรู้เรื่อง รอยยิ้มแสนหวานนั้นทำให้เขายิ้มตามและเชื่อว่าเจ้าแมวตัวนั้นก็รู้สึกดีเช่นกัน ใครจะเชื่อว่า แมวตัวนั้นเป็นตัวเดียวกันกับที่เขาแอบให้อาหารมันทุกเช้าระหว่างทาง หลังจากนั้นเขาก็แอบมองตามร่างบางนั้นเรื่อยมา ได้รู้ว่าเธอชื่อ อลิส เป็นคนไทยเช่นเดียวกันกับเขา กว่าที่เขาจะกล้าเอ่ยปากชวนเธอเดินไปด้วยกันก็นานจวบจนรู้ว่าทุกวันเธอจะคอยเดินตามเขา เขาแกล้งเดินช้าๆ เพื่อให้เธอเดินตามได้ทัน แกล้งชมนกชมไม้ทั้งๆที่วันนั้นสายมากแล้ว แกล้งทำเป็นไม่สนใจแต่จริงๆ แล้วสายตาเขาคอยมองหาแต่เธอ...

...มันสายเกินไปแล้วจริง ๆ หรือ สายไปแล้วสำหรับคำขอโทษ...



ณิชนิตา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 3 ธ.ค. 2555, 17:44:05 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 3 ธ.ค. 2555, 17:44:05 น.

จำนวนการเข้าชม : 1712





<< บทที่ ๑๐ สิ่งที่ซ่อนอยู่ในความรู้สึก    บทที่ ๑๒ เล่ห์ลวง >>
nutcha 3 ธ.ค. 2555, 20:53:13 น.
น่าสงสารทั้งคู่อีกคนก็เจ็บปวดกับการที่ต้องถูกทิ้ง อีกคนก็เจ็บปวดกับการที่ต้องทิ้งคนที่รักมา เฮ้อ


pseudolife 3 ธ.ค. 2555, 22:16:56 น.
เศร้าจัง


Siang 4 ธ.ค. 2555, 08:24:43 น.
สงสารทั้งคู่เลย


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account