ทางเดินหัวใจ
เรื่องหนึ่งเรื่องเริ่มมาจากความฝัน อีกหลายเรื่องคืความผูกพันธ์
มีการพัฒนาอย่างเงียบๆ รอเพียงเวลาที่เหมาที่ควรเท่านั้น
แล้วความรกจะดำเนินต่อไป

Tags: ฝัน และ จริง

ตอน: บทแรก ->พรแห่งดงดาว

สวัสดีนักอ่านที่น่ารักนะค่ะ

_____________________________________________________________________________________________

ที่มุมหนึ่งแทบชานเมืองของกรุงเทพมหานครเมืองหลวงของประที่ไทยที่ทุกคนมองว่าสิวิไลนักหนา

แต่ไม่น่าเชื่อว่าจะมีที่แห่งนี้อยู่ บ้านแต่ละหลังดูแล้วไม่น่าจะอยู่ในกรุงเทพฯ . ในสมัยนี้ได้

อากาศยามค่ำคืนของเดือน ธันวาคมแบบนี้มันก็หนาวไม่ต่างจากภาคเหนือสักเท่าไหร่ บ้านเล็กๆหลังหนึ่งซึ่งใช้ส่วนหน้าบ้านเป็นร้านขายข้าวแกงที่คนแถวนี้ต้องมากินกันแทบทุกคน

มีสาวน้องผมยาวแก้วใสอมชมพู อายุ 17 อย่าง ‘นรี’ หรือ ‘น้ำค้าง’ นั่งมองดาวที่อยู่บนท้องฟ้า จากหน้าต่างบานเล็กห้องของเธอ ท้องฟ้าแถบนี้มองเห็นดาวได้อย่างชัดเจน พลันสายตาของนรีก็เห็นดาวตก นรีกุมมือขึ้นอธิฐาน

“ขอให้น้ำค้างได้เจอกับพี่ดิวทีเถอะ แค่ในฝันก็ยังดี” แล้วนรีก็ยิ้มแบบขำๆ “จะเป็นไปได้ไง”

“ได้สิ”

เสียงหนึ่งเล็กๆใสๆตอบกลับมา

นรีหันซ้ายหันขวาหาต้นเสียง แต่กลับไม่เห็นใครเธอเลยคิดว่าหูเธอคงแว่วไป
นรีเลิกคิดแล้วเดินไปที่เตียงเล็กๆสีชมพู เธอเอามือมาแตะที่ปากแล้วไปแตะรูปนักร้องหนุ่มและนักแสดงชื่อดังมีนามว่า ‘แดนไทย’ หรือ ‘ดิว’ ที่อยู่บนหัวเตียง

“หลับฝันดีนะคะ”

นรีพูดกับรูปแล้วล้มตัวนอน ห่มผ้าห่มลายคริตตี้ที่เธอชอบไม่น้อยไปกว่า ‘แดนไทย’ในเวลาไม่นานนรีก็หลับสนิท

เธอลืมตาขึ้นมาอีกครั้งเมื่อได้รับลมเย็นๆ และ เสียงนกร้อง สวนสีเขียวนี่แสนคุ้นตา ใช่แล้ว เธอคิดในใจที่นี้คือ สวนสาธารณะที่เธอชอบมาหลังเลิกเรียน แต่ครั้งนี้เธอกลับรู้สึกแปลกไป

“ทำไมไม่มีใครเลย คนอื่นหายไปไหนกันหมด”
เธอเดินไปเรื่อยๆจนถึงสระน้ำเล็กๆที่เธอมานั่งเล่นที่เก้าอี้ตรงนั้นประจำ ‘นั้นไงมีคนนั่งอยู่ที่นั้น’

“ผู้ชายคนนั้นเหมือนพี่ดิวจัง”
หลังจากความคิดของเธอไม่ถึงเสี้ยววินาที ผู้ชายคนนั้นก็หันมา

“พี่ดิว”

ชายหนุ่มตรงหน้ายิ้มให้เธอ รอยยิ้มของเขาทำให้เธอนิ่งไปเหมือนโลกหยุดเคลื่อนไหวในหัวคิดอะไรไม่ออก อะไรกันนะที่ทำให้เธอมาอยู่ที่นี่ในเวลานี้ ในเวลาที่ไม่มีใครนอกจากเธอและชายคนที่เธออยากเจอมากที่สุด

ชายหนุ่มคนนี้มีชื่อว่า ‘ดิว แดนไทย’ เขาเป็นนักร้องวัยรุ่นและนักแสดงที่ทุกคนให้การยอมรับในฝีมือและหน้าตา แดนไทย เป็นคนผิวขาวผิวไม่ต่างไปจากผู้หญิง หน้าตาหล่อเหล่าจมูกโด่งกำลังดีซึ่งรับกับตาหวาน ทรงผมสั้นเซ็ดตั้งๆ ปากที่สีชมพูน่าจูบในสายตาของสาวๆทั้งหลาย ส่วนสูง 189 เซนติเมตร มีกล้ามแบบคนที่ออกกำลังกายเป็นประจำ

แดนไทยมองหญิงสาวตรงหน้า ‘น่ารักจัง’ นี่คือความคิดแรกของแดนไทย นรีคือคนแรกที่แดนไทยเจอหลังจากที่เดินหลงอยู่ในสวนนี้มาสักพัก
เขาตัดสินใจเดินไปหานรีที่ยืนนิ่งเหมือนหุ่น เขาเอื้อมมือไปจับนรี เมื่อมายืนใกล้ๆสาวน้อยยังสูงไม่ถึงบ่า

ของเขาเลย‘คนหรือหุ่นกันนะ ดูสิผมยาวดำคลับเหมือนตัวการ์ตูนญี่ปุ่น แก้มใสอมชมพู ดวงตาที่แสนอ่อนหวาน เธอเหมือนตุ๊กตาแก้วเลย’

“คนหรือหุ่นกันนะ”

นรีสะดุ้งเหมือนถูกปลุกจากความคิด

“คน”

“คนค่ะ”

“ฮา ฮา ฮา”

นรีหน้าเสีย งงว่าชายหนุ่มตรงหน้าหัวเราะด้วยเรื่องอะไร หรือว่าเธอทำอะไรผิด หน้าเธอมีอะไรติดอยู่รึเปล่า เธออยากขยับตัวแต่เส้นประสาททุกส่วนกับไม่ทำอย่างใจคิด

แดนไทยหยุดหัวเราะทำหน้าสำนึกผิดที่เสียมารยาทต่อสาวน้อย แต่สาวน้อยของเรานี่สิหัวใจจะระเบิดอยู่แล้ว ‘น่ารักๆๆๆ’

“ขอโทษนะ”

“มะ...มะไม่เป็นไรค่ะ”

นรีตอบกลับตะกุกตะกักพยายามยิ้มให้น่ารักที่สุดเท่าที่เธอจะทำได้ แดนไทยคิดในใจ
ว่าแค่ทำหน้านิ่งก็น่ารักจะตายอยู่แล้วยังจะยิ้มอีก ‘เดี๋ยวผมก็อดใจไม่ไหวหรอก’

“น้องอยู่แถวนี้เหรอ”

“ค่ะน้ำค้างอยู่แถวนี้”

แดนไทยยิ้มให้กับสาวน้อยที่เรียกชื่อเล่นตัวเองที่เป็นความหมายในภาษาไทยของ
เขาด้วย

“ชื่อน้ำค้างเหรอพี่ชื่อดิวนะ ดิวที่แปลว่าน้ำค้าง”

เขาพูดพร้อมทำหน้ากรุ่มกริ่ม ในที่ไม่มีคนอื่นอยู่แบบนี้เขาจะทำอะไรก็ได้ใช่ไหม?

“น้ำค้างรู้ค่ะ น้ำค้างชอบพี่ดิวมากเลยค่ะ ร้องเพลงพี่ดิวได้ทุกเพลงดูละครทุกเรื่อง ซื้อ
นิตยสารที่มีรูปพี่ดิวลงทุกเล่ม ซื้อซีดีคอนเสิร์ตที่พี่ดิวขึ้นหมดเลยค่ะ แต่ยังไม่เคยได้ดู
พี่ดิวเล่นคอนเสิร์ตค่ะ ไม่มีเงินมากขนาดนั้น แล้วก็ยังไม่เคยเจอตัวจริงเพราะไม่มีเวลาต้องช่วยแม่ขายกับข้าวแล้วก็ต้องเรียนด้วย”
ชายหนุ่มยิ้มให้กับคำตอบยืดยาวที่เขาไม่ได้ถามของสาวน้อยและรู้สึกว่าเด็กคนนี้จริงใจเหลือเกิน

ฝ่ายนรีก็หน้าแดงคิดว่าเธอคงจะพูดมากไปแล้ว

“ชอบพี่มากขนาดนั้นเลยเหรอ”

“ค่ะชอบมาก ชอบที่สุดโดยเฉพาะท่าทางที่ทะเล็นในละครผมเจ้าชู้”

“เหรอ”ชายหนุ่มพูดพลางเดินไปนั่งที่เก้าอี้ตัวเดิม “พี่ก็ชอบเรื่องนั้นนะตัวจริงของพี่เลยล่ะ”

น้ำค้างรีบเดินไปนั่งลงข้างๆ นี่เธอได้ใกล้ชิดคนดังได้ถึงขนาดนี้เลยเหรอ

“จริงเหรอคะ แต่ที่น้ำค้างดูรายการที่พี่ดิวไปออกพี่ดิวดูนิ่งๆ”

“มันเป็นการสร้างภาพน่ะ เจ้ไก่เขาสั่ง”

“เจ้ไก่ที่เป็นผู้จัดการส่วนตัวเหรอคะ”

“ใช่ๆๆ แฟนก็ห้ามมี เพื่อนผู้หญิงก็ห้ามคบ จีบสาวๆก็ไม่ได้ พูดเล่นพูดล้อก็ไม่ได้ เที่ยวก็ไม่ได้ เขาให้พี่ทำงานสิบสี่ชั่วโมงทุกวัน วันไหนมีเรียนก็เรียนก่อนเรียนเสร็จก็ต้องทำงาน”

“โหดจัง”

“ใช่ไหม พี่เบื่อมากๆเลยแต่พี่ชอบร้องเพลงแล้วก็แสดงละครก็เลยต้องยอม”
แดนไทยรู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูกที่ได้พูดเรื่องอัดอันออกไป แล้วคำพูดของทั้งสองก็ขาดหายไป จนนรีทนไม่ไหมเลยต้องคิดหาคำถามมากมายที่อยู่ในใจออกมา
“พี่ดิวอยู่ที่ไหนคะ”

“คอนโดแถวสาธร รู้แล้วอย่าไปบอกใครนะเดี๋ยวแฟนคลับรู้พี่จะอยู่ไม่สุข”
ชายหนุ่มอึ้งไปกับคำถามแต่ไม่รู้อะไรทำให้ปากเขาขยับตอบ

“น้ำค้างสัญญาค่ะ”

“น้ำค้างอายุเท่าไรแล้ว”

“สิบเจ็ดค่ะ อยู่มอหกแล้ว”

“เหรอ แล้วจะต่อที่ไหนล่ะ ต่อที่BMST (มหาวิทยาลัยบางกอก เมืองหลวง ซิดตี ไทยแลนด์) สิ พี่เรียนที่นั้น”

และเป็นอีกครั้งที่ดิวเผลอบอกความลับกับสาวน้อย

“ค่ะ น้ำค้างจะเข้าที่นั้น…แต่...ที่นั้นแพงมากเลยนะคะ”นรีหน้าเศร้าคอตก แล้วสักพักเธอก็ยิ้มออกมาเหมือนคิดอะไรได้ “แต่น้ำค้างมีทางออก”

“เหรอยังไงล่ะ”

ได้ยินแบบนั้นแดนไทยเองก็ยิ้มออกไปด้วย

“น้ำค้างมีพี่ชายสอนที่นั้น”

“ชื่อนายรึเปล่า”

แล้วก็นึกได้ว่ามีอาจารย์คนหนึ่งที่ดูไม่ค่อยชอบเขาเท่าไหร่หน้าคล้ายนรีมาก

“ใช่ๆพี่ดิวรู้ได้ไงคะ พี่น้ำตกสอนที่นั้นได้สองปีแล้วค่ะ”

“ฮาๆๆ ชื่อน้ำตกเหรอ ขำดี”

“ไม่ค่อยมีคนรู้หรอกค่ะพี่น้ำตกบอกว่าชื่อแปลกบอกคนอื่นเขาขำทุกคน พี่น้ำตกเลย
บอกว่าเขาชื่อนาย”

“น้ำตก กับ น้ำค้าง พ่อแม่ของน้ำค้างช่างคิดนะน่ารักดี”

เรื่องราวมากมายจากสองหนุ่มสาวถูกเล่าสู่กันและกันอย่างสนุกสนานจนเวลาร่วงเลยไปอย่างรวดเร็ว
v
v
v
“น้ำค้างตื่นเร็วทำไมวันนี้ตื่นสายจังเมื่อคืนนอนดึกเหรอ”
นรีลืมตาขึ้นพบแม่ดวงใจ แม่ของเธอก้มมองเธออยู่

“แม่”

ดวงใจ หญิงวัยห้าสิบ รูปร่างอวบจนเกือบอ้วนผิวขาว หน้าตาใจดี ดวงใจมีลูกสองคน คนแรกคือนาย ลูกชายที่อายุ27 ปี และนรีลูกสาวคนเล็กที่ห่างจากพี่ชายถึงสิบปี

“เมื่อคืนนอนดึกเหรอ”
ผู้เป็นแม่ถามด้วยความเป็นห่วง นรียิ้มรับหน้าเจื่อน นี่ตกลงว่าที่เธอได้เจอแดนไทยนั้นเป็นแค่ความฝัน เธอแอบเสียใจนิดๆแต่ก็คิดว่าแค่ฝันก็ยังดี

“น้ำค้างฝันดีนะค่ะเลยไม่อยากตื่น”

“รีบอาบน้ำแต่งตัวได้แล้วลูก แม่เตรียมข้าวไว้ให้ไปกินที่โรงเรียนแล้วกินที่บ้านไม่ทันแล้วลูก”

“ค่ะแม่”

นรียิ้มรับอีกทีด้วยใบหน้าสดใส แม่รักและเป็นห่วงเธอเสมอจริงๆ

นรีลุกขึ้นจากที่นอนอาบน้ำแต่งตัวไปโรงเรียน ตอนนี้นรีเรียนมอหกแล้วโรงเรียนของเธออยู่ไม่ไกลมากแต่เธอก็มักตื่นเช้าๆเพื่อช่วยแม่ขายอาหารให้กับเด็กๆและพวกผู้ใหญ่ที่ไม่ชอบทำอาหารกินเอง แต่วันนี้เธอกับตื่นสายจนเวลากินข้าวเช้ายังไม่มีเลย


ตลอดทางเดินไปโรงเรียนนรีคิดแต่เรื่องความฝันใจนึกถึงว่ามันจะเกี่ยวกับที่เธออธิฐานรึเปล่า

“เกี่ยวไม่เกี่ยวน้ำค้างไม่รู้แต่ก็ขอบคุณนะคะ ถ้าคืนนี้ฝันอีกก็คงจะดี”

“ได้สิ”
เสียงเล็กๆใสๆแบบเมื่อคืนอีกแล้ว นรีหันมองไปรอบๆไม่เห็นมีใคร

“หูฟาดอีกแล้ว”

กว่านรีจะเดินมาถึงโรงเรียนก็ถึงเวลาเคารพธงชาติพอดีเธอเลยเลิกคิดแล้วรีบวิ่งไปเข้าแถวที่เพื่อนสนิทเธอเว้นไว้ให้

“น้ำค้างทำไมวันนี้มาสายจัง”

‘มยุรา’ หรือ ‘ลูกโป่ง’ เพื่อนที่สนิทที่สุดของนรีถามขึ้นมา มยุราเป็นเพื่อนกับนรีมาตั้งแต่เด็กเพราะที่บ้านของเธอจะทานอาหารของแม่ดวงใจเสมอ เธอเป็นลูกของคนที่มีตังมากที่สุดแถวนี้แต่มยุราก็ไม่ได้หยิ่งอย่างที่คนอื่นๆว่า

แค่เธอไม่ชอบคบคนที่เห็นแก่เงินของเธอแต่สำหรับนรี มยุรามองว่านรีจริงใจกับเธอมากที่สุดไม่เคยพูดเรื่องเงินกับเธอ ไม่เหมือนคนอื่นที่ไม่สนิทแต่คอยจะยืมเงินเธอแล้วก็ไม่คืน

และด้วยความที่พ่อแม่ของมยุรามีฐานะดีทำให้มยุราดูสะอาดผิวขาวสวย นับว่าสวยที่สุดในโรงเรียนเลยก็ว่าได้

“เมื่อคืนเราฝันถึงพี่ดิว”
นรีพูดด้วยแววตาฝันๆ ปลื้มเป็นที่สุด

“จริงเหรอ”

มยุราก็ดูจะตื่นเต้นไม่แพ้กันเพราะเธอเองก็ชอบ แดนไทย อยู่มากแต่ก็น้อยกว่า คนๆหนึ่งที่เธอแอบชอบมานานตั้งแต่เด็กๆ

“จริงเดี๋ยวกลางวันจะเล่าให้ฟัง”
มยุราพยักหน้ารับรู้แล้วนรีก็หันหน้ากลับไปทำกิจกรรมตอนเช้าของโรงเรียนต่อ



ทางด้านแดนไทยเขากำลังทำหน้าบึ่งตึงอยู่บนรถตู้หลังจากที่เขาโดน การดา หรือ เจ้ไก่ ผู้จักการส่วนตัวจอมบงการบ่นเรื่องที่เขาตื่นสายโด่งจนงานตอนเช้าที่นัดไว้สาย

การดา ผู้ชายร่างอ่อนแอ่นผิวขาวมีโหนกแบบคนภาคอีสานแต่เธอบอกทุกคนว่าเป็นคนภาคกลางโดยกำเนิด เขามาเป็นผู้จัดการให้แดนไทยได้สี่ปีแล้วตั้งแต่แดนไทยกำลังจะจบ มอ หก เขาไปเจอแดนไทยที่เล่นดนตรีเปิดหมวกกับเพื่อนแถวสยามและหลังจากนั้นชีวิตของแดนไทยก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง

ตลอดทางแดนไทยคิดถึงความฝันและหน้าใสๆของสาวน้อยจนหน้าบึ้งตึงยิ้มออกมาได้ นี่ถ้าอาจารย์นายชื่อเล่นน้ำตกจริงๆล่ะ คิดได้แค่นั้นเขาก็หัวเราะออกมา ใจรอให้ถึงเวลาเรียนภาคบ่ายที่วันนี้เขาจะได้เรียนกับอาจารย์นาย

“ไม่ต้องมาทำยิ้มเลยถ้าสายแบบนี้มันต้องเบียดวิชาภาคบ่ายของเธอแน่ๆ”
พอแดนไทยได้ฟังว่าตอนบ่ายเขาจะไม่ได้เรียนก็ตกใจ

“ไม่ได้ยังไงวันนี้ผมต้องได้เรียนไม่อย่างนั้นผมจะยกเลิกงานนี้”

“ไม่ได้นะยะ ลุงขับไวๆเลยเดี๋ยวสาย”

“ครับ”
การดาที่กลัวแดนไทยจะเบี้ยวงานเลยสั่งให้คนขับรถขับไวๆ



ช่วงพักกลางวันนรีเล่าเรื่องความฝันให้มยุราฟัง รวมถึงเรื่องดาวตกด้วย

“นี่ถ้าพี่น้ำตกสอนพี่ดิวจริงๆก็ดีสิน้ำค้าง”

“นั้นสิแต่น้ำค้างว่าน้ำค้างคงคิดมากไป”

“ตอนเย็นน้ำค้างลองถามพี่น้ำตกดูสิ”

นรีพยักหน้ารับ ยิ้มให้กับเพื่อนรักและความฝันเมื่อคืน เย็นนี้นรีจะต้องถามนายให้รู้เรื่อง แต่ถ้ามันไม่ใช่แบบในความฝันล่ะ แต่ก็ช่างเถอะความจริงมันก็แค่ความฝันอยู่แล้วนี้



เพียงใจกล้า
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 9 ธ.ค. 2555, 16:07:00 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 4 พ.ค. 2559, 14:55:30 น.

จำนวนการเข้าชม : 869





   ก้าวที่สอง ------> บังเอิญว่ามันเหมือนกับความฝัน >>
เพียงใจกล้า 10 ธ.ค. 2555, 11:10:19 น.
ขอคอมเม้นจากเพื่อนๆด้วยนะคะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account