ทางเดินหัวใจ
เรื่องหนึ่งเรื่องเริ่มมาจากความฝัน อีกหลายเรื่องคืความผูกพันธ์
มีการพัฒนาอย่างเงียบๆ รอเพียงเวลาที่เหมาที่ควรเท่านั้น
แล้วความรกจะดำเนินต่อไป

Tags: ฝัน และ จริง

ตอน: ก้าวที่สอง ------> บังเอิญว่ามันเหมือนกับความฝัน

ตกตอนเย็นหลังเลิกเรียนนรีและมยุรามาช่วยแม่ดวงใจขายอาหาร มยุราจะมาช่วยแม่ดวงใจกับนรีทุกวันเพราะถ้าเธออยู่บ้านก็ไม่ได้ทำอะไร
“น้ำค้างพี่น้ำตกกลับมาแล้ว แต่ทำไมหน้าบอกบุญไม่รับเลย”
มยุรารีบบอกเพื่อนรักหลังจากที่เธอหันไปเห็นนาย แต่เธอก็ต้องแปลกใจที่หน้าของชายหนุ่มก็ดูบึ่งตึงเหมือนไปโกรธใครมา
พี่ชายคนเดียวของนรี อย่างนายที่มีหน้าตาคล้ายกับนรีมากแต่เขาได้ความสูงมาจากพ่อดำรงณ์ และผิวเข้มๆของพ่อดำรงณ์ด้วย แต่ก็ทำให้ชายหนุ่มดูหล่อไม่แพ้ดาราดังๆเลย แถมเขายังจบปริญญาโทตั้งแต่อายุยี่สิบห้า ทำให้มีสาวหลายคนมาติด แต่เขาไม่สนใจเพราะเขากำลังรอสาวน้องคนหนึ่งให้เรียนจบแล้วเขาจะจีบเธอ
“ตัวเป็นอะไรไปอ่ะ”
นรีเอ่ยถามพี่ชายทันทีที่เขาก้าวพ้นรั้วบ้าน
“ก็มีไอ้ดาราที่ตัวชอบนะสิมาถามเขาว่าเขาชื่อน้ำตกแล้วมีน้องชื่อน้ำค้างรึเปล่า และพวกนักศึกษาก็ขำเขาใหญ่เลยบอกว่าใครจะตั้งชื่อลูกว่าน้ำตก กับน้ำค้าง ไม่รู้ว่ามันรู้ได้ไง”
ชายหนุ่มนึกโกรธมาทันทีที่มีคนมาถามถึงเรื่องนี่ แต่น้องสาวคนสวยกับเพื่อนรัก พากันยิ้มแก้มปริ
“จริงเหรอ แล้วทำไมตัวไม่เคยบอกเขาเลยว่าพี่ดิวของเขาเรียนคราดที่ตัวสอน”
“ก็ตัวไม่เคยถามเขานี่”
และเขาเองก็ไม่อยากบอกเพราะกลัวสาวน้อยอีกคนจะรู้ด้วย
“ตัวจริงเขาหล่อมากๆเลยใช่ไหมคะ”
มยุราถามพี่ชายของเพื่อนรักพร้อมกับเขย่าแขนของเขาไปด้วย ทำเอาชายหนุ่มรุ่นพี่ถึงกับใจเต้นไม่เป็นจังหวะแต่เขาไม่ค่อยชอบคำถามของเธอเท่าไร
“ไม่เห็นจะแค่ไหนเลยเหมือนเกย์มากกว่า”
“ตัวขี้โม้ ตัวจริงพี่ดิวอ่ะหล่อมากๆเลยสูงมากด้วย”
น้องสาวเถียงพี่ชายคอเป็นเอ็น
“ผู้ชายคนไหนก็สูงกว่าตัวทั้งนั้นแหละเพราะตัวน่ะมันเตี้ย”
“น้ำตกแม่บอกแล้วใช่ไหมว่าอย่าว่าน้องเตี้ย”
ลูกชายทำหน้าสลดที่โดนแม่ว่ากล่าวเพราะเองก็ผิดที่ว่าน้องแบบนั้นเพราะเท่ากับว่าแม่ดวงใจด้วยเพราะแม่ดวงใจก็ไม่ได้สูงกว่าน้ำค้างเลย
“ขอโทษครับ”
ชายหนุ่มพูดจบแล้วก็เดินเข้าบ้านทิ้งให้แม่ดวงใจมองตามหลังแบบงงๆ เจ้าลูกชายคนนี้กำลังรักเด็กอยู่รึเปล่านะ แม่ดวงใจอ่านได้จากสายตาของลูกชาย
“น้ำค้างนั้นหมายความว่าความฝันเธอเป็นจริง”
นรีเองก็คิดแบบนั้น แต่มันคงเป็นแค่ความบังเอิญ แต่ถ้าคืนนี้เจอเขาอีกคงจะดี พอคิดได้แค่นั้นเธอก็นึกได้ว่าถ้าเธอรีบนอนล่ะจะได้เจอเขานานกว่าเมื่อคืนไหม
“แม่คะวันนี้น้ำค้างไม่ช่วยแม่นะค่ะปวดหัวค่ะ”
“เป็นมากรึเปล่าลูก”
แม่ดวงใจดูเป็นห่วงลูกสาวมาก ทำเอาสาวน้อยรู้สึกผิดขึ้นมาแต่เธอก็ยังอยากนอนไวๆอยู่
“นั้นสิเมื่อกี้ลูกโป่งเห็นยังดีๆอยู่เลย”
“เอ่อ...ไม่เท่าไรค่ะแต่กลัวว่าถ้าปวดมากกว่านี้จะทำการบ้านไม่ไหว”
“เหรอลูกงันรีบไปเถอะ หนูลูกโป่งเองก็กับบ้านไปก่อนนะเดี๋ยวที่เหลือแม่ทำเองจ๊ะ”
สองสาวพยักหน้า มยุรายกมือไหว้แม่ดวงใจ นรีเดินเข้าบ้านวันนี้เธอตั้งใจรีบทำการบ้านและจะอาบน้ำแล้วนอนทันที
แม่ดวงใจมองสองสาวที่เดินไปคนละทางแล้วก้มหน้าเก็บของต่อ ในใจพลางคิดว่าถ้าลูกชายคนโตจะชอบเด็กรุ่นน้องที่ห่างกันถึงสิบปีมันจะดีเหรอแต่ก็ยิ้มแบบเอ็นดูให้กับมยุราที่เดินหันหน้าหันหลังมองขึ้นไปชั้นบน สงสัยว่าสาวน้อยคนนั้นคงจะคิดไม่ต่างจากเจ้าลูกชายเสียแล้ว

“เจ้เมื่อไรจะเสร็จสักทีผมง่วงนอน”
“อะไรกันดิวปกติฉันบอกให้เธอนอนเธอบอกจะไปเที่ยวตอนนี่แค่ทุ่มเดียวเองจะมาบอกว่าง่วงนอน”
การดาส่งสายตาหมันไส้ไปให้ดาราหนุ่ม
“เจ้ผมจะนอนตอนไหนมันเรื่องของผม”
“อย่างนั้นเธอก็นอนได้เลยเพราะอีกสองชั่วโมงเขาถึงถ่ายใหม่พอดีกล้องเขาเสียต้องรอกล้องใหม่”
การดาพูดจบก็เดินออกไปจากห้องแต่งตัวทิ้งชายหนุ่มให้มองตามหลังตาละห้อย
“ก็ได้วะนอนตรงนี้ล่ะ”
ชายหนุ่มเดินมานอนที่โซฟาหลับตาลง วันทั้งวันเขาคิดถึงแต่สาวน้อยคนนั้นยิ่งตอนบ่ายที่เขาถามอาจารย์ในห้องถึงแม้จะไม่ได้คำตอบแต่ท่าทางโกรธๆของอาจารย์หนุ่มก็แสดงถึงคำตอบ ทำไมมันบังเอิญแบบนี้นะ คิดได้ไม่นานเขาก็สู่ห้วงนิทรา

“พี่ดิว”
“น้ำค้าง”
ชายหนุ่มมองไปทางเสียงนั้น สาวน้องเดินมาทางประตูห้องแต่งตัว เขารู้สึกแปลกใจที่เธอมาอยู่ที่นี่
“เธอมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง”
“น้ำค้างเองก็ไม่รู้ค่ะ รู้ตัวน้ำค้างก็มาอยู่สตูริโอเห็นเจ้ไก่ด้วยค่ะเขากำลังเลือกเสื้อผ้าอยู่ เห็นคนเดินวุ้นวายเต็มไปหมดเลยค่ะ มีป้ายไฟด้วยเขียนชื่อพี่ดิว และก็...พี่ใบชา”
สาวน้อยไม่อยากพูดถึง ‘ใบชา’ หรือ “ชารินี”เธอคือสาวคู่ขวัญของแดนไทย ที่เล่นละครเรื่องไหนเรตติ้งทะลุทะลวง แต่นรีไม่อยากดูสักเท่าไหร่ก็เรื่องไหนที่แดนไทยกับชารินีเล่นด้วยกันจะมีฉากเลิฟซีนตลอด และอีกอย่างคือชารินี สวย ขาว อกเป็นอก ก้นเป็นก้น สูง ขายาว นรีคิดว่าเธอเทียบไม่ได้เลย
แดนไทยเห็นสาวน้อยซึมๆตอนพูดถึงชารินีเขารู้สึกว่าเขาต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อเรียกรอยยิ้มของสาวน้อยกลับมา
“ใบชาเน่ามารยาเอาแต่ใจ โดนแดด โดนลมก็ไม่ได้เดี๋ยวผิวเสีย รู้ไหมพี่เบื่อมากๆเลย ยิ่งทุกคนบอกว่ายัยใบชาเน่าเหมาะสมกับพี่ พี่อยากจะอ้วกเลย แต่ก็เพราะเจ้ไก่อีกนั้นแหละพี่ถึงยอม แล้วอีกอย่างพี่ก็ยังไม่มีใครแต่ถ้าตอนนี้พี่มีใครสักคนพี่ก็คงจะกลับมาคิดอีกที”
แดนไทยส่งสายตาไปยังสาวน้อยทำเอาเธอหน้าแดง ยิ้มเขินใจเต้นไม่เป็นจังหวะ คิดวนไปวนมากับความหมายที่แดนไทย พยายามส่งมากับบทสนทนา
“พี่ดิวไม่ได้ชอบพี่ใบชาจริงๆนะคะ”
“ใช่” ชายหนุ่มเว้นวรรคส่งสายตาหวานไปยังสาวน้อย “และพี่ก็คิดว่า...”
ไม่ทันที่ดิวจะพูดจบเขาก็หายวับไป สาวน้อยหันซ้ายหันขวาในห้องว่างเปล่า
“ไปไหนแล้ว”
สาวน้อยตัดสินใจเดินกลับไปทางเก่าเปิดประตูเดินออกไปถึงสตูริโอ เห็นใบชานั่งเตรียมให้พิธีกรสัมภาษณ์ สักพักดิวก็เดินออกมาจากฉากข้างหลัง
“พี่ดิว”
สาวน้อยจะก้าวขาขึ้นไปบนเวทีแต่ก็ก้าวไม่ออก
แดนไทยหันมองมาทางสาวน้อยเพราะเขาได้ยินเสียงเธอแต่ก็มองไม่เห็นใคร
“ดิวมองอะไรไปนั่งได้แล้วเขาจะเริ่มถ่ายกันแล้ว”
การดา สะกิดดิวให้รีบไปนั่งเพราะเขาจะเริ่มถ่ายรายการกันแล้ว เขาไปนั่งข้างๆใบชา
“ดิวไม่ทักใบชาเลยนะคะวันนี้”
หญิงสาวหันมากระซิบข้างหู ชายหนุ่มมองไปทางหญิงสาวนิดนึงแล้วก็หันกลับ เรียกความไม่พอใจให้หญิงสาวเป็นอย่างมากแต่เธอต้องเก็บอาการไว้

“เตรียมนะครับ ห้า สี่ สาม สอง”
โปรดิวเซอร์สั่งกล้องเริ่มดำเดินการถ่ายทำ
“สวัสดีค่ะคุณผู้ชมมาพบรายการดาราคู่ขวัญ คนที่มาเยี่ยมเราวันนี้ไม่ใช่ใครที่ไหนแขกประจำของเรานี่เอง น้องดิว แดนไทย และน้องใบชา ชารินี ค่ะ”

พิธีกรสาวสวย รุ่นพี่ที่แดนไทยให้ความเคารพมากอีกคนหนึ่ง พูดเข้ารายและแนะนำแขกรับเชิญ
“สวัสดีครับพี่นุกนิก สวัสดีครับใบชา”
แดนไทยสวมหน้ากากเป็นชายหนุ่มที่เป็นสุภาพบุรุต ยิ้มแย้มแจ่มใส
“เล่นละครคู่กันอีกแล้ว เรื่องนี้บทเป็นแบบไหนคะ”
พิธีกรสัมภาษณ์ ทั้งคู่ตามสคริปต์ แดนไทยและชารินีก็ดูจะสนิทสนมหยอกล้อกันเหมือนคู่รัก จนนรีภาวนาว่าอยากตื่นนอนซะเดี๋ยวนี้ไม่อยากเห็นภาพบาดตาบาดใจนี้อีกต่อไปแล้ว

ช่วงเวลาที่ทรมารที่สุดของนรีจบลงเมื่อรายการที่แดนไทยมาอัดเสร็จสิ้น แดนไทยและชารินีเดินมาให้บรรดาแฟนคลับถ่ายรูป นรีมองอย่างใจจดใจจ่ออยากเข้าไปถ่ายรูปแดนไทยใจจะขาด
“พี่ดิวกับพี่ใบชาน่ารักที่สุดเลยค่ะ”
แฟนคลับคนหนึ่งเอ่ยชมและคนอื่นๆก็มีท่าที่เห็นด้วย แต่สาวน้อยที่ยืนขาแข็งขยับตัวและพูดไม่ได้เถียงอยู่ในใจว่า ‘ไม่จริง’

แดนไทยแยกตัวออกมาจากแฟนคลับแล้วกึ่งเดินกึ่งวิ่งเข้าห้องแต่ตัว ตอนนั้นเองที่ขาของนรีขยับได้ นรีรีบวิ่งตามแดนไทยไปอย่างร้นรน
“เดินไวจัง”
แดนไทยเหมือนได้ยินเสียงใครเลยหันหลังกลับมามองแต่ไม่พบ เขาหันกลับเดินเข้าห้องแต่งตัวไปรีบจัดแจงเปลี่ยนชุด นรีที่เดินตามเข้าไปเอามือปิดตาแทบไม่ทัน
“คนบ้า”
แดนไทยชะงักการใส่เสื้อเมื่อได้ยินเสียงคนพูด นรีแอบลืมตาดูเห็นกล้ามหน้าท้องแดนไทย เธอรีบหลับตาอีกครั้ง ใจเต้นตึกๆตักๆ พลางคิดในใจ ‘เลือดกำดาวจะพรุ่งแล้ว’ หน้าของเธอแดงยิ่งกว่าลูกตำลึงอีก

แดนไทยเองก็หน้าแดงเมื่อรู้สึกว่ามีคนมอง เขารีบใส่เสื้อแล้ววิ่งออกมาจากห้องแต่งตัว ส่วนการดาที่เพิ่งจัดการธุระเรื่องเงินค่าตัวเสร็จพอดี
เสร็จแล้วเหรอ”
“ครับ เจ้ไปกลับกันเถอะ”
ชายหนุ่มรีบรากผู้จัดการสาวประเภทสองไปที่รถทันที ส่วนการดาก็งงกับท่าทางประหลาดของแดนไทย ‘อะไรของเขา’ แต่คนที่วิ่งตามสุดชีวิตเองก็เริ่มเหนื่อยแล้ว ไม่รู้ว่าชายหนุ่มที่เธอปลื้มจะรีบไปไหน

เมื่อแดนไทยถึงรถตู้ ก็หลบไปหลังรถนอนหลับตาทันที สาวน้องที่วิ่งแซงหน้าการดาก็รีบไปนั่งข้างแดนไทย แต่เธอก็นึกแปลกใจว่าทำไมไม่มีใครเห็นเธอเลย

“น้ำค้าง”
“พี่ดิวเห็นน้ำค้างแล้ว”
รอยยิ้มของนรีที่หายไปตอนที่แดนไทยอัดรายการกลับมาอีกครั้ง แต่แดนไทยกลับคิดอะไรบางอย่างได้
น้ำค้างอยู่กับพี่ตลอดเลยเหรอ”สาวน้อยหน้าแดงพยักหน้าช้าๆ แดนไทยเองก็หน้าแดง “เห็นตอน...”
“ไม่...ไม่ค่ะ (-///- ) ( -///-)”
ชายหนุ่มและสาวน้อยยิ้มให้กันอย่างเขิน พูดคุยเรื่องราวมากมายของกันและกันให้อีกคนฟังอย่างมีความสุข แต่ไม่รู้ว่าความสุขนั้นจะยาวนานสักแค่ไหน


อีกด้านนายนั่งเจ็บใจตัวเองที่หลุดปากพูดเรื่องนั้นออกไป ป่านนี้มยุราคงเก็บเรื่องนั้นไปฝันหวานแล้ว ไอ้หมอนั้นมันมีดีอะไรก็แค่หล่อ แค่รวย นิสัยใจคอก็ไม่รู้
“คอยดูนะฉันจะวางยาให้มันได้เอฟให้รู้แล้วรู้รอด”
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูห้องจากใครบางคนหยุดความคิดวุ้นวายที่ทำให้เขานอนไม่หลับ เวลาเที่ยงคืนแบบนี้ใครกันนะมาเคาะประตู
“น้ำตกนอนรึยังลูก”
“แม่เหรอครับ”นายเดินไปเปิดประตูห้อง “แม่มีอะไรครับ”
“แม่เห็นไฟยังเปิดอยู่ แม่เข้าไปได้ไหม”
“ได้สิครับ”

แม่ดวงใจเดินเข้าห้องลูกชายมองสำรวจ เธอไม่เคยเข้าห้องนี้มาหลายปีเพราะลูกชายคนเก่งจะเป็นคนทำความสะอาดเอง แม่ดวงใจพยายามมองหาอะไรที่น่าจะเป็นหลักฐานว่าลูกชายที่ครองตัวเป็นโสดคนนี้แอบชอบเด็กสาวที่อายุห่างจากเขาถึงสิบปี
“แม่คิดว่าลูกน่าจะมีรูปแฟนอยู่ในห้องนะ”
“ผมยังไม่มีแฟนครับแม่”

“เหรอ แล้วลูกมีคนที่แอบมองอยู่บ้างรึเปล่า”
“แคระ แคระ”นายถึงกับสำลักน้ำลาย หน้าแดงขึ้นมาทันที “ทำไมแม่ถามแบบนั้นละครับ”
“แสดงว่ามี ใช่คนใกล้ตัวรึเปล่าลูก”แม่ดวงใจมองลูกชายอย่างจับผิด เล่นเอาลูกชายจุกในอก “เด็กไปไหมลูก ต้องรออีกห้าหกปีเลยนะลูก ไหวเหรอ”
“ผมรอมาหลายปีแล้วอีกแค่ห้าหกปีมันไม่นานหรอกครับแม่”
ท่าทางที่จริงจังของลูกชายคือคำตอบทุกๆอย่างที่แม่ดวงใจอยากรู้ เธอยิ้มพอใจลูบหัวลูกชาย แล้วเดินออกจากห้องไป ‘ให้มันได้แบบนี้ให้ตลอดแล้วกันนะพ่อลูกชายแสนดี’



เพียงใจกล้า
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 9 ธ.ค. 2555, 19:15:30 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 4 พ.ค. 2559, 14:56:03 น.

จำนวนการเข้าชม : 744





<< บทแรก ->พรแห่งดงดาว   จังหวะที่สาม ---------->>>>>คืนฝันอันแสนสุข >>
เพียงใจกล้า 10 ธ.ค. 2555, 11:09:17 น.
อยากได้ คอมเม้นจากทุกคนนะคะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account