เพราะรักเธอ
ทุกสิ่งเกิดเพราะว่ารัก และจบลงเพราะความรัก รักที่ผิด กับ รักที่ถูกก่อให้เกิดเรื่องราวต่างๆได้มากมาย และเมื่อใช่ความรักในการมอง เราก็จะมีคนรักมากมายในโลกใบนี้
Tags: วันเวลา หัวใจ

ตอน: เริ่มละนะ -------->เปิดศาล เอ้ย!!! เปิดตัว

บทนำ

อ๊อด
เสียกริ๊งหน้าบ้านแสนดาวดังขึ้นเป็นสัญญาณว่ามีผู้มาเยือน
“สวัสดีค่ะ”
“มาหาแม่เหรอคะคุณน้า”
เด็กหญิงตัวน้อยวัย5ขวบ พูดด้วยน้ำเสียงฉะฉาน ทักทายผู้มาเยือน
“แล้วแม่หนูอยู่ไหมจ๊ะ”
สาววัยใกล้สามสิบ ถามกลับมา ข้างกายเธอมีเด็กชายรุ่นราวคาวเดียวกับเด็กหญิงยืนอยู่
“คุณแม่อยู่ในบ้าน เดี๋ยวหนูเปิดประตูให้นะคะ”

เด็กน้อยเปิดประตู แล้วเดินนำเข้าไปในบ้าน รัดเราะสวนดอกไม้แสนสวยที่อยู่สองทางเดิน มีทั้งดอกกุหลาบ ดอกเข็มและดอกไม้อีกหลายชนิดสีชมพู เหลือง แดง ขาว ส้ม ม่วง แม้แต่สีฟ้าก็มี มีผีเสื้อบินเต็มไปหมด
บ้านสีขาวสะอาดเมื่ออยู่ท่ามกลางดอกไม้แบบนี้ก็ไม่ต่างอะไรไปจากสวรรค์ ประกอบให้เด็กหญิงผิวขาวตัวเล็กน่ารังคนนี้กลายเป็นนางฟ้าตัวน้อยๆไปเลย
“คุณแม่ขาคุณน้ามาหาค่ะ”
เด็กน้อยพูดกับแม่วัยใกล้สามสิบ แต่หน้าตาของหญิงสาวกับเหมือนเด็กสาวแรกรุ่น
“ออน มีอะไรรึเปล่าถึงมาหาชิตาถึงที่บ้าน”
ชิตาเอยทักเพื่อนที่คบกันมานานกว่าสิบปีทันทีเมื่อเธอหันมาดูรู้ว่าเป็นใคร
“อืม”
แล้วออนก็หันมามองเด็กน้อยทั้งสองคน เป็นทำนองว่าเรื่องนี้สำคัญมากและเป็นความลับ
“นาจิ พาพี่ข้าวปั้นไปเล่นหน้าบ้านก่อนนะ”
ชิตาแม่ของเด็กหญิงหันมาบอกเด็กทั้งสองคน เด็กทั้งสองคนเดินตามกันออกไป

ข้างนอกบ้าน เด็กทั้งสองดูสนิทสนมและผูกพันกันมาก
“นาจิถ้าเราโตขึ้นจะแต่งงานกันนะ”
เด็กชายคุกเข่าลงตรงหน้าเด็กหญิง เด็กหญิงมีท่าทางงงเล็กน้อย แต่ท่าทางหนูน้องจะเข้าใจนะ
“ค่ะ แต่พี่ข้าวปั้นต้องสัญญาว่าจะมีแค่นาจิคนเดียวนะ”
“พี่สัญญา และ สาบานว่าจากนี้และตลอดไปพี่จะรักและมี นาจิอยู่ในหัวใจเพียงคนเดียว”
เด็กหญิงยิ้มพอใจกับสิ่งที่ได้ยิน แต่ดูเหมือนว่ามันยังมีบางอย่างที่เด็กหญิงอยากจะเติมลงไปอีก
“ไม่ใช่แค่หัวใจแต่ต้องรวมถึงร่างกายด้วย”
บางคนอาจคิดว่าคำพูดของเด็กหญิงอาจจะดูเกินวัยไปสักหน่อยแต่ก็มาจากหัวใจที่บริสุทธิ์ และเธอก็ไม่อยากให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยกับแม่ ที่พ่อทิ้งแม่กับเธอไปอยู่กับผู้หญิงคนอื่น
แต่เด็กทั้งสองไม่รู้เลยว่าเรื่องที่ผู้เป็นแม่ของพวกเขาคุยกันวันนี้จะต้องกลายเป็นบทพิสูตรของพวกเขาว่าจะสามารถรักษาคำพูดของตัวเองได้แค่ไหน


1
“เนว เธอเล่าเรื่องรักแรกของเธอให้ฉันฟังจะคบพันครั้งแล้วนะ ถึงแกจะไม่เบื่อแต่ฉันเริ่มเบื่อแล้วนะ”

แคว เริ่มบนว่าเบื่อกับเรื่องความรักครั้งแรกของฉัน เธอเป็นผู้หญิงที่เพอร์เฟรกคนหนึ่งทำให้มีหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่มารุมจีบ
แควเป็นลูกของประทานบริษัทห้างสรรพสินค้า และเป็นลูกเลี้ยงของคุณแม่ของฉัน คุณแม่ได้แต่งงานกับคุณลุง จ้าว หลังจากย้ายมาอยู่ที่นี่สองปี ภรรยาของคุณลุงจ้าวได้เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง

ท่านมีลูกสาวและลูกชายอย่างละคน ลูกชายของลุงจ้าวแก่กว่าฉันสักสองปีนั้นคือพี่เวพ พี่เวพเป็นดาราดาวรุ้งของที่นี่ ด้วยหน้าที่มองผ่านๆดูหวานเหมือนผู้หญิง แต่ถ้าให้มองนานๆก็จะรู้ว่าพี่เวพจะออกเข้มเสียมากกว่า ส่วนสูง ร้อยแปดสิบปลายๆ ผิวขาว แอบมีกล้ามแขนและท้องทำให้เวลาไม่นานพี่เวพก็ดังพรุแตก
ลูกสาวก็คือแควนั้นเอง พวกเราโชคดีที่เข้ากันได้ง่าย เนื่องจากคนที่แนะนำให้คุณแม่กับลุงจ้าวรู้จักกันก็คือพวกเราเอง

ถ้าพี่ข้าวปั้นรู้ว่าฉันยอมให้คุณแม่สุดรักสุดหวงของฉันแต่งงานเขาคงจะขำแน่ แต่เหตุที่ฉันยอมให้คุณแม่แต่งงานเพราะฉันสงสารท่านที่ต้องต่อสู้โดยลำพัง และอีกอย่างลุงจ้าวก็เป็นคนดี แถมยังเป็นพ่อของเพื่อนรัก ฉันก็เชื่อว่าลุงจ้าวไม่มีทางทำให้แม่เสียใจ

“แล้วเธอจะถามฉันทำไมละว่าเมื่อไรฉันจะยอมมีแฟน”
การบ้านวิชาวิทยาศาสตร์การเป็นชั่วโมงสนทนาเรื่องรักไปแล้ว คงเป็นเพราะรุ่นพี่จงขอร้องมาแน่ๆ ฉันรู้ว่าเขาดีแต่เขาไม่ใช่คนที่ฉันรักนี่หนา
“เนว แต่เรื่องรักแรกของเธอนะมันผ่านมา 13 ปีแล้วนะ พี่ข้าวปั้นของแกตอนนี้จะอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้ จะหน้าตาเปลี่ยนไปไหม ป่านนี้จะมีลูกรึยัง แล้วแกก็เปลี่ยนชื่อเปลี่ยนนามสกุล แถมแกกับฉันอยู่ไทเปอีก แต่เขาอยู่เมืองไทยนะ”

คำพูดของแควก็มีเหตุผลนะ ตอนนี้พี่ข้าวปั้นจะเป็นยังไงจะเปลี่ยนแปลไปสักแค่ไหนก็ไม่รู้ ไม่ต้องดูตัวอย่างที่ไหนขนาดฉันเองยังเปลี่ยนทั้งที่อยู่ ชื่อ นามสกุล
นับตั้งแต่ที่ฉันกันคุณแม่ย้ายมาอยู่ที่นี้ก็ไม่เคยติดต่อกลับไปที่ประเทศไทยอีกเลย นับเวลาแล้วก็เกือบจะ13ปี
มันต้องมีทางที่เราจะต้องได้เจอกันสิ มันต้องมีทาง ทำไมคิดไม่ออกนะ เรียนมาจะจบมัธยมอยู่แล้ว เดี๋ยวนะจบมัธยม
“คิดออกแล้ว^[]^”
“เธอคิดอะไรออกอีก?-_-”

สายตาของแควสื่อให้เห็นอย่างแน่ชัดเลยว่าเริ่มไม่ไว้ใจความคิดฉัน และนั้นมันเป็นความคิดถูกต้อง
“เราจะไปเรียนต่อกันที่เมืองไทย”
“อะไรคือเรา”
เธอคงรู้สึกถึงลางร้ายแล้วละสิ เพราะหน้าตาเธอเริ่มเหยเก เธอมักจะรู้ใจฉันเสมอ อาจจะเราเป็นเพื่อนกันมานาน
“เธอกับฉัน รวมกันเป็นเรานะสิ”
ฮา ๆ ๆ ความคิดของเนวดีล้ำลึกที่สุด แต่ไม่ทันที่แควจะตอบตกลงหรือปฏิเสธฉันเลยก็มีเสียงทักทายจากหน้าห้องเสียก่อน

“สองสาวคุยอะไรกัน”
เสียงพี่เวพทักพวกเราดังมาจากหน้าห้อง ไม่รู้ว่าพี่เวพจะได้ยินสิ่งที่เราพูดกันรึเปล่า เขายิ้มทักทายพวกเรา ด้วยรอยยิ้มที่สาวๆต้องหลงไหล
“หนีห่าวค่ะพี่เวพ”
ฉันส่งยิ้มหวานกลับไปให้คุณพี่ชายสุดหล่อ แต่คนข้างๆฉันกลับทำท่าจะแยกเคี้ยวใส่พี่ชายตัวเองที่ยังยิ้มไม่หุบซะอย่างนั้น

“พี่ถ่ายละครเสร็จแล้วเหรอ”
แควเอ่ยถามพี่เวพด้วยน้ำเสียงชวนตี ฉันเริ่มรู้สึกถึงกลิ่นอายของสงครามซะแล้วสิ มันจะต้องไม่เป็นอย่างที่ฉันคิด
“พี่ไม่ได้ถ่ายละคร พี่ถ่ายโฆษณาเลยเสร็จเร็ว”
น้ำเสียงพี่เวพออกแนวเบื่อหน่าย และหน้าตากวนประสาท ทำเอายัยแควถึงกับของขึ้น

พี่น้องคู่นี้ชอบทะเลาะกันจริงๆ แต่เมื่อก่อนที่พี่เวพจะเข้าวงการ แควจะติดพี่เวพมากไม่เคยทะเลาะกัน แควคงจะโกรธที่พี่เวพไม่ฟังเธอว่าไม่อยากให้เข้าวงการ เธอคงจะกลัวว่าจะมีคนแยกพี่ชายคนเดียวของเธอไปและมันก็เป็นไปตามที่เธอคิด
เพราะหลังจากเข้าวงการแล้วพี่เวพไม่เคยมีเวลาให้เธอเลย แควเลยคอยตามไปเฝ้าพี่เวพตามกองถ่ายและคอยกันพวกแฟนคลับไม่ให้เข้าใกล้พี่เวพ จนโดนพวกแฟนคลับด่า

มีอยู่ครั้งหนึ่งแควมีเรื่องทะเลาะกับแฟนคลับ แต่พี่เวพเข้าข้างแฟนคลับโดยไม่ถามว่าใครผิดทำให้แควเสียใจและเสียหน้ามาก หลังจากนั้นมาแควก็ไม่เคยตามพี่เวพและไม่ยอมพูดดีด้วยอีก
แค่นั้นยังไม่พอเพราะหลังจากนั้นแควก็เริ่มที่จะมีแฟน มีกิ๊ก และเปลี่ยนผู้ชายที่เดินควงแทบทุกวัน ทำให้พี่เวพที่ทั้งรัก ทั้งหวงเธอโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ และไปจัดการคนที่มายุ้งกับแควและเตือนเธอว่าอย่าไปคบผู้ชายพวกนั้น เธอไม่ฟังและยังบอกพี่เวพว่าอย่ามายุ้งเรื่องของแคว พี่เวพเลยโกรธ และประกาศว่า ‘ถ้ามีเรื่องเสื่อมเสียละก็เธอเจอดีแน่!’

แต่ที่จริงแล้วพี่เวพก็พูดเกินไป ที่จริงแล้วแควก็ไม่ได้ทำเรื่องเสียหายเพราะเธอไม่ได้ไปไหนตามลำพังกันคนพวกนั้น ยังมีเพื่อนๆอีกเกิบสิบคนไปด้วย แต่ว่าตอนนี้ฉันควรจะต้องห้ามทัพดีกว่า ก่อนที่เรื่องจะยาว
“แล้วพี่เวพทานอะไรมารึยังคะ เดี๋ยวเนวจะทำให้ทาน”
“=_=” สายตาอาคาดจากแควถูกส่งมาทางฉัน ประมาณว่าไปห่วงมันทำไม
“แต่ว่าที่จริงเนวเองก็หิวเหมือนกันนะT^T”
“พี่เอาอะไรก็ได้หิวจะแย่ รอมาทานฝีมือเนวเลยนะ ^_^”
พี่เวพยิ้มตาหวานให้ฉัน ถ้าสาวๆสาวกของเขาเห็นเข้าคงจะใจละลาย แต่สำหรับฉันในสถานการณ์นี้ช่างน่ากลัวจริงๆ



พวกเราสามคนกำลัง นั่งทานข้าวที่ห้องอาหารเล็ก บ้านหลังนี้มีห้องอาหารถึงสามห้องเอาไว้ใช้ตามโอกาสต่างๆ
ห้องใหญ่เอาไว้ใช้ในโอกาสเลี้ยงอาหารผู้ถือหุ้นซึ่งจะมีเดือนละครั้งห้องนี้จะใหญ่โตโอโถงมากตกแต่งแบบเป็นทางการ มีโต๊ะทานข้าวยาวนั่งรับประทานอาหารได้ถึง 50 คนแต่ฉันไม่เคยเข้าไปใช้ห้องนี้

ห้องกลางใช้ในโอกาสที่มีแขกมาบ้าน ห้องนี้ตกแต่แบบคลาสสิก แขกที่มามักจะบอกว่าห้องนี้สวยทำให้เพิ่มรสชาติอาหารให้อร่อย
ส่วนห้องเล็กนี้ใช้ในโอกาสที่ครอบครัวเราทานอาหารแบบส่วนตัว ใจจริงฉันชอบห้องนี้ที่สุดเพราะมันทำให้ฉันทานอาหารได้ คล่องไม่มีคนนอกมาคอยจ้อง
“เนว ปาป๊ากับแม่ไปไหนเหรอ”
พี่เวพเอ่ยถามขื้นหลังจากที่พวกเรานั้งเงียบกันมาสักพัก
พี่เวพ จงใจจะถามฉันคนเดียว ทำแบบนี้ต้องมีเรื่องแน่ๆ สู่ให้นั่งเงียบๆยังจะดีกว่าไหมคะพี่เวพ

“เนว เหม่ออะไร พี่ถามก็ไม่ตอบ”
พี่เวพเห็นฉันเงียบเลยถามซ้ำอีกครั้ง แต่แควดันพูดตัดหน้าเสียก่อน
“บางทีเนวแค่ไม่อยากจะพูดกับคนไม่มีเหตุผลก็ได้มั่ง”
แควเริ่มหาเรื่อง ได้ไปหนึ่งแต้ม โธ่เธออย่าต่อความยาวสาวความยืดเลย ไม่ถามคนกลางอย่างฉันหน่อยเหรอว่าอยากห้ามทับไหม
พี่เวพเหมือนจะไม่ยอมให้ยัยแควได้แต้มฝ่ายเดียวแน่นนอน แต่งานนี้ไม่รู้ว่าจะชนะคะแนนหรือชนะน็อก
“คนที่พี่ไม่ได้ถามก็เงียบไป”
พี่เวพแสดงท่าทางยียวน ไม่ลด รา วา ศอก กันเลย ได้สองแต้ม โธ่รักๆกันไว้เถอะนะ ฉันรีบชิงพูดก่อนดีกว่าที่เขาสองคนจะมีเรื่องกัน อยากน้อยก็ยืดเวลาสงครามแล้วกัน

“เออ... คุณลุงจ้าว กับคุณแม่ไปงานเลี้ยงสมาคมนักลงทุนนานาชาติที่ออสเตรเลียคะ”
“ทำไมพี่ไม่รู้ล่ะ”
พี่เวพทำหน้าสงสัย ไม่แปลกหลอกที่เขาจะไม่รู้ทำงานแถบไม่มีเวลาพักผ่อนด้วยซ้ำ
“คงจะรู้ล่ะ ทำงานวันละ26ชั่วโมงแบบนั้น”
แควพูดประชดพี่เวพ สถานการณ์เริ่มเข้าขั้นแล้วล่ะ อึดอัดจังเลยถ้าห่วงเขาทำไมไม่พูดดีๆละ
“แคว หนึ่งวันมีแค่24ชั่วโมง และที่พี่ทำงานนะจะได้ไม่ต้องใช่เงินปาป๊า =_=” พี่เวพหลี่ตามองไปยังแคว “ไม่ได้ทำตัวเหมือนเธอ”

แควถ้าทางจะของขึ้นเต็มที่แล้วล่ะ เธอลุกขึ้นทุบโต๊ะแล้วเดินไปกระชากคอพี่เวพ พี่เวพเองก็ส่งหน้ากวนๆใส่แคว
“ทำไม เหมือนแควมันจะทำไม”
เรื่องยาวจนได้ ทำไมถึงไม่ไม่พูดกันดีๆนะทั้งที่เป็นพี่น้องที่รักกันมากขนาดนั้น เดี๋ยวถ้าวันไหนไม่ได้อยู่ด้วยกันแล้วจะรู้สึก
ถ้าตอนนี้ฉันได้เจอกับพี่ข้าวปั้นนะ ฉันจะพูดจาดีๆ ทำตัวหวานๆ พี่ข้าวปั้นจะได้รักฉันมากๆ แต่ว่าตอนนี้ฉันขอหลบภัยไปอาบน้ำก่อนดีกว่า



อาบน้ำแล้วสบายตัวจริงๆ วันนี้ฉันต้องทำรายงานชิ้นสุดท้ายของการเรียนมัธยม ถ้าจบแล้วฉันก็จะได้ไปหาพี่ข้าวปั้น อีกเดือนเดียวเท่านั้น
“เนว ฉันตกลง”
อะ...อ้าวแคว เข้ามาในห้องตั้งแต่เมื่อไรเนี่ย ถ้าทางเธอแปลกๆ อยู่ดีๆก็พูดขึ้นมาตกใจหมดเลย
“ตกลงอะไรของเธอ”
“ฉันตกลงจะไปประเทศไทยกับเธอ”
“จริงเหรอ เธอจะไปกับฉันจริงๆนะ”

ฉันดีใจที่แควจะไปประเทศไทยกับฉัน แต่ทำไม่หน้ายัยแควถึงดูเศร้าจัง หน้าแบบนี้ต้องมีอะไรแน่ๆ เธอก้มหน้ากอดเข่าอยู่บนเตียงเหมือนอยากจะร้องไห้เลย ฉันเลยเดินเข้าไปไกลๆเธอ
“เธออยากไปกับฉันจริงๆเหรอ”
“ก็จริงนะสิ”
สายตาเศร้าๆของแควทำให้ฉันรู้สึกไม่สบายใจอย่างบอกไม่ถูก ทั้งดูเศร้าและแอบแค้นอยู่ในอารมณ์เดียวกัน ไม่สิเหมือนท่าทางของคนน้อยใจมากกว่า
“คนบางคนจะได้รู้ว่าฉันนะมีความสำคัญ”
“พี่เวพเขาพูดอะไรไม่ดีกับเธอรึเปล่า?”
“T~T”

แควร้องไห้ออกมาจนได้ พี่เวพต้องพูดอะไรมีใส่แน่ๆเลย พี่เวพเขาคิดอะไรอยู่จะรักน้องก็ไม่ยอมพูดดีๆด้วย
หรือว่าพี่เวพเข้าวงการแล้วเลยไม่อย่าจะมารักษาน้ำใจพี่น้อง
“เนวพี่เวพเขาบอกว่า ฮือๆ” พรืด (เสียงสูดน้ำมูก)
ฉันเดินเข้าไปกอดแควไว้ ที่จริงแล้วฉันว่าพี่เวพเขารักเธอมากนะแต่ไม่รู้ทำไมถึงชอบพูดแรงๆใส่ยัยแควนะ
“ใจเย็นๆนะพี่เวพเขาคงไม่ได้ตั้งใจจะพูดไม่ดีใส่เธอหลอก”
“ไม่จริง เขา ฮือ เขาบอกว่าเบื่อหน้าฉัน T;;T” น้ำมูกไหลเยื้อมเลย
พอทะเลาะกันทีไรแควจะต้องมานั่งร้องไห้แบบนี้ตลอด พี่เวพนะพี่เวพทำอะไรไม่คิดเลยเมื่อก่อนไม่เห็นเป็นแบบนี้เลย

//////////////////////////////////////////////
เรื่องนี้แต่มาสักพักแล้วค่ะ มีอะไรผิดผลาดช่วยชี้แนะข้าน้อยด้วย คารวะ



เพียงใจกล้า
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 11 ธ.ค. 2555, 15:00:33 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 11 ธ.ค. 2555, 15:01:58 น.

จำนวนการเข้าชม : 1152





   ที่สอง ---___>>>>เจอกันอีกครั้ง >>
เพียงใจกล้า 11 ธ.ค. 2555, 15:13:32 น.


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account