เพราะรักเธอ
ทุกสิ่งเกิดเพราะว่ารัก และจบลงเพราะความรัก รักที่ผิด กับ รักที่ถูกก่อให้เกิดเรื่องราวต่างๆได้มากมาย และเมื่อใช่ความรักในการมอง เราก็จะมีคนรักมากมายในโลกใบนี้
Tags: วันเวลา หัวใจ

ตอน: ที่สอง ---___>>>>เจอกันอีกครั้ง

ไม่รู้ว่าจะมีคนอ่าน อะป่าว มาถึงบทที่สองแล้ว
V
V
V

“เนวอรุณสวัสดิ์”
เสียงพี่เวพทักทายฉันทันทีที่เขาเห็นฉันลงมาจากบันได แต่ไม่รู้ว่าเขาเห็นฉันแค่คนเดียวหรือแกล้งทำเป็นไม่เห็นคนที่เดินลงมาพร้อมฉัน
“แควใจเย็นนะอย่าทะเลาะกันแต่เช้าเลย”
ฉันรีบห้ามแควไม่ให้วีนใส่พี่เวพ ที่กำลังเตรียมอาหารอยู่ ไม่รู้ว่าทำไมวันนี้พี่เวพตื่นเช้าจัง

“เธอก็ดูเขาสิ เขากำลังหาเรื่องฉัน”
ท่าทางเธอจะยังโกรธเรื่องเมื่อคืนไม่หาย ส่วนพี่เวพเองก็ยังคงทำท่าทางกวนประสาทอยู่เหมือนเดิม
“ใครหาเรื่องเธอ ยัยอันตระพราน”
พี่เวพหันทำหน้ากวดสุดขีดใส่ยัยแคว แล้วหันหน้ากลับไปเตรียมอาหารต่อ

แควทำท่าทางอึกอักพูดไม่ออก เพราะที่จริงแล้วพี่เวพไม่ได้พูดหาเรื่องแควจริงๆ
“ไม่คุยกับพี่แล้ว” งอนกันอีกแล้ว “เนวฉันไปเรียนก่อนนะ”
“ไม่ทานข้าวก่อนเหรอ แคว”
แควเดินไปไม่แม้จะหันมาฟังฉันเลย ส่วนพี่เวพก็มองตาละห้อย ฉันจะทำยังไงดีนะเธอกับพี่เวพจะได้หันมาพูดกันดีๆ

“ไปซะแล้ว”
“อย่าไปสนใจแควเลย เนวมาทานข้าวต้มปลาฝีมือพี่ดีกว่า”
เสียงของพี่เวพกระตุกความคิดของฉันให้มาสนใจกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า ข้าวต้มปลานี่มันของโปรดยัยแควนี่ อ๊ะหรือว่า

“พี่เวพทำมาง้อแควเหรอคะ”
“-///- ง้ออะไรกันทานเถอะเดียวไปโรงเรียนสาย”
พี่เวพตักข้าวต้มใส่ถ้วยให้ฉัน ชั่งเป็นพี่ชายที่แสนดีจริงๆ แควเธอน่าจะอ่อนให้พี่เวพสักหน่อยก็คงจะดี
“ที่จริงพี่เวพไม่น่าไปยั่วแควเลยนะ เอ๊ะ!”

พอฉันรับถ้วยข้าวต้มมาสิ่งที่ปนอยู่ในถ้วยก็ทำให้ฉันตกใจ เลือดมาอยู่ในถ้วยข้าวต้มฉันได้ยังไง
“อะไรเหรอเนว”
ฉันเงยหน้ามองคนถาม
เออ...ฉันพอจะรู้แล้วว่าเลือดมาจากไหน

มีเลือดไหลออกมาจากจมูกของพี่เวพ แต่เหมือนว่าเขาจะไม่รู้ตัวเลยยังคงตักข้าวต้มใส่ชามของตัวเอง
“พี่เวพคะคือเลือดกำดาวพี่ไหล”
พี่เวพรีบเอากระดาษเช็ดเลือดทันที่ ท่าทางพี่เวพดูตกใจมาก มันต้องมีอะไรสักอย่างที่ฉันยังไม่รู้
ทำไมพี่เวพถึงดูตกใจมากจังนะแค่เลือดกำดาวไหลเท่านั้นเอง

“เป็นอะไรมากรึเปล่าคะ”
“ไม่เป็นไรหลอก มาพี่ตักให้ใหม่”
พี่เวพหลบตาฉัน ลางไม่ดีเลยรู้สึกใจหายแปลกๆ อ๊ะทำไมหน้าพี่เวพซีดจังเหมือนคนที่ไม่สบายเลย
พี่เวพนั่งทานข้าวต้มต่อและไม่ยอมพูดอะไรกับฉันอีก ท่าทางที่อ่อนเพลียเหมือนคนที่พักผ่อนไม่พอทำให้หน้าที่ขาวใส่ของพี่เวพหมองคล้ำลงอย่างถนัดตา

ข้าวต้มปลานี่ก็อร่อยดีแต่ไม่เท่ากับจานนั้นเมื่อสิบสามปีที่แล้วที่พี่ข้าวปั้นทำให้ฉันทานในวันที่น้าออนมาหาคุณแม่
“ทานเสร็จรึยังเดี๋ยวพี่จะไปทำงานแล้ว จะเลยไปส่งนะ”
ฉันเงยหน้ามองพี่เวพที่ตอนนี้ทานข้าวต้มเสร็จแล้วและกำลังเก็บจานอยู่ แต่ท่าทางยังไม่ดีเลย
“จะไหวเหรอคะท่าทางไม่ดีเอาซะเลยนะ”
“ไหวสิ พี่ไม่ได้เป็นอะไรซะหน่อย”

“พี่เวพไม่ต้องเก็บหลอกค่ะ เดี๋ยวไปสายให้ป้าเหมยมาเก็บให้ก็ได้ค่ะ”
ระยะหลังมานี้ดูพี่เวพไม่ค่อยสดใส ที่จริงฉันไม่ได้สังเกตหรอกแต่ แควเป็คนบอกว่าพี่เวพดูท่าทางเหมือนไม่สบายอยู่ตลอดเวลา



“เหม่ออะไรเนว”
แคว สะกิดฉันที่ไม่ยอมทานอาหารที่มีอยู่เต็มจาน ทั้งที่เป็นของโปรดที่เมื่อสั่งมาทีไรจะต้องทานหมดแบบพริบตาเดียว
ทำไมหนาเรื่องของพี่เวพถึงกับทำฉันกินอะไรไม่ลง ทั้งที่เวลาพักกลางวันเป็นเวลาที่ฉันชอบมากที่สุด เพราะฉันจะได้กิน กิน กิน และก็กิน
“ไม่มีอะไรหลอก เมื่อเช้าฉันทานข้าวต้มปลามาเยอะไปหน่อย”
“พี่เวพทำเหรอ”
“อืม เขาทำมาง้อเธอ สงสัยเขาคงอยากจะขอโทษที่พูดแรงๆใสเธอ”
สายตาแควดูอ่อนลงมากสงสัยจะหายโกรธแล้วละ นับว่าเป็นสัญญาณที่ดีที่พี่น้องจะกลับมาคืนดีกัน

“เออ... เนวอีกเดือนหนึ่งเราจะจบแล้วนะ ฉันได้ข่าวว่าที่ไทยมหาวิทยาลัยส่วนใหญ่เขาเปิดรับสมัครอบสุดท้ายแล้วล่ะ”
เปลี่ยนเรื่องซะอย่างนั้น แต่ถ้าเปลี่ยนมาเรื่องนี้เธอคงรู้ว่าฉันจะเปลี่ยนเรื่องตามเธอแน่ๆ ไม่รู้ว่าเราจะสนิทกันมากเกินไปหรือเปล่า

“แล้วเราจะทำยังไงดีละ ฉันยังไม่รู้ว่าเราจะไปต่อที่ไหนเลย ถ้าเราไปต่อคนละที่กับพี่ข้าวปั้นก็ไม่มีประโยชน์นะสิ”
“ไม่ต้องห่วงฉันจะไปสืบเอง”
“ขอบใจเธอมากนะ^-^”
ฉันเชื่อว่าแควสามารถสืบได้อยู่แล้วล่ะ เอ…จะได้เวลาเข้าเรียนแล้วนี่หนาตอนนี้มีอะไรที่สำคัญกว่าพี่ข้าวปั้นแล้ว เพราะตอนนี้ฉันยังไม่อิ่มเลย ไม่ได้แล้ว อ้ำๆๆๆๆ

“ค่อยๆกินก็ได้เดี๋ยวก็ติดคอหรอก”
ท่าทางแควจะตกใจกับการกินข้าวแบบลืมเคี้ยวของฉัน ที่มืออีกข้างกำลังถือแก้วน้ำเตรียมส่งให้ฉันทุกเมื่อ
“ไม่ได้หรอกแคว เดี๋ยวอีกสิบนาทีจะถึงคาบเรียนแล้ว ถ้าเข้าช้ามีหวังโดนอาจารย์จือต๋งเอาตาย”
“อ่ะ จริงด้วยสิ อ้ำๆๆๆๆๆ”
ตอนนี้ยัยแควก็กินแบบลืมกลืนไม่แพ้ฉันเลย สบายใจจริงๆที่จะได้เจอพี่ข้าวปั้นในอีกไม่ถึงเดือน ไม่ได้แล้วต้องรีบกิน อ้ำๆๆๆๆ เอ...เหมือนฉันจะคิดอะไรค้างไว้รึเปล่านะ ช่างเถอะ


และแล้วชั่วโมงอันแสนโหดก็ผ่านไป พร้อมกับรายงานที่ฉันนั่งทำมากกว่าเดือนก็ส่งไปเรียบร้อยแล้ว

นี่เป็นการเรียนการสอนชั่วโมงสุดท้ายแล้ว เท่าที่ฉันสังเกตทุกคนจะตั้งใจเรียนกันมากเป็นพิเศษ นั้นรวมฉันด้วย ฉันคงจะคิดถึงห้องเรียนนี่มากเรียนมาต้องนาน

เพื่อนทุกคนในห้องกอดกันต่างคนก็บอกว่าตั้งใจอ่านหนังสือนะ เธอก็ด้วยนะ เธอก็เหมือนกัน

ว้าวพรุ่งนี้ก็เป็นวันหยุดแล้วสินะ โรงเรียนของฉันจัดให้มีวันหยุดก่อนสอบถึงสามสัปดาห์เพื่อให้เด็กๆอ่านหนังสือกัน

ดีเลยฉันจะได้มีเวลาติดต่อที่เรียน ที่อยู่ที่ประเทศไทยได้ โชคดีที่คุณลุงจ้าวพาคุณแม่ไปสวีดกันต้องเดือนหนึ่ง กว่าจะกลับมาฉันคงจะไปนอนตีพุงที่ประเทศไทยแล้ว

พี่ข้าวปั้นขารอนาจิอีกนิดนะ คุณแม่ขาหนูไม่ได้ทิ้งคุณแม่นะคะแต่หนูแค่อยากรักษาสัญญาเท่านั้นเอง

“เนวพวกเราจะกลับกันแล้วนะ ตั้งใจอ่านหนังสือนะ แล้วถ้าเธอกลับอย่าลืมปลุกเพื่อนเธอด้วยล่ะ”
จริงด้วยสิฉันไม่อ่านหนังสือก็คงสอบไม่ผ่านแน่ๆ เพราะถ้าสอบต่ำกว่าบีก็จะเรียนไม่จบ และคงจะเข้าคณะแพทย์ไม่ได้ด้วย
ว่าแต่ใครจะมากล้านอนหลับในชั่วโมงนี้
เออ...

“แคว เธอกล้านอนหลับได้ไงเนี่ย”
สองข้างทางที่แสนคุ้ยเคย ฉันคงมีโอกาสเดินทางนี้อีกไม่กี่ครั้งแล้วสิ ตลาดตอนเย็นแบบนี้คนเยอะจัง ที่ประเทศไทยจะมีตลาดแบบนี้ไหมนะโดยเฉพาะกรุงเทพคงจะหาตลาดยากแน่
“ตุ้ยปู้ฉี่/ตุ้ยปู้ฉี่(ขอโทษ)”
ฉันเดินชนเข้ากับผู้ชายคนหนึ่งทำเอาของเราหล่นทั้งคู่ เหมือนเคยเห็นหน้าที่ไหนมาก่อนนะ แต่เขาก็ช่วยเก็บของๆฉันก่อน

“เป็นอะไรรึเปล่าครับ”
เขาพูดภาษาไทยใช่รึเปล่า ดีใจจังที่เจอคนไทยที่นี่
“คนไทยเหรอคะ”
“อ้าวคุณก็คนไทยเหรอครับ ดีใจจังที่เจอคนไทยที่นี่ ยินดีที่ได้รู้จักครับ”
เขายืนมือมาให้ด้วย คิดจะเเตะอั้งเปล่าเนี่ย แต่ก็ยืนมือไปจับหน่อยก็ได้
“เช่นกันค่ะ^_^”

“ไปเหอะ”
แควรีบดึงแขนฉันให้ออกมาจากตรงนั้น ฉันยังไม่ทันได้ขอบคุณเขาเลย ผู้ชายคนนั้นมองตามพวกเราด้วย สุภาพบุรุตแบบนี้ถ้าฉันไม่มีคนที่รักแล้วคงไม่ปล่อยให้หลุดมือแน่
ฉันได้แต่ยิ้มลาเขาและเราคงไม่ได้เจอกันอีก เขาเป็นใครกันนะไม่เหมือนคนที่นี่เลยเหมือนลูกครึ่งญี่ปุ่นนะ ฉันกับพี่ข้าวปั้นเองก็ลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่นนี่หนา


ข้าวปั้น Talk
ทำไมคุณแม่ถึงให้ผมมาไทเปด้วยนะ ให้มาหาอะไรก็ไม่บอก ไม่เห็นจะมีอะไรน่าเที่ยวเลยยิ่งมาคนเดียวอีกเมืองอื่นก็มีไม่ให้ไป ให้มาอยู่แต่ที่นี่ต้องเดือนหนึ่งจะกินจะอยู่ก็ลำบาก เหงาวุ้ย ตลาดคนเยอะใช่เล่นนะ เดินเบียดเสียดกันไปมา น่าอึดอังจริงๆ
“ตุ้ยปู้ฉี่/ตุ้ยปู้ฉี่(ขอโทษ)”
ผมเดินชนกันผู้หญิงคนหนึ่งทำให้ของของผมและเธอหล่นเกลื่อน ผมเก็บของๆเธอก่อนดีกว่า เธอคงเป็นแม่บ้านแก่ๆเพราะของที่หล่นมีแต่พวกกับข้าวคงจะซื้อไปให้สามี ให้ลูกกิน

พอผมเงยหน้ามามองเธอก็ถึงกับตกตะลึง น่ารักแนวสาวญี่ปุ่นเลย สาวญี่ปุ่นที่ผมชอบ แต่ทำไมสาวญี่ปุ่นมาอยู่ที่นี่นะ
“เป็นอะไรรึเปล่าครับ”
ผมนี่ท่าจะบ้าแล้วพูดภาษาไทยไปเธอจะรู้เรื่องไหม
“คนไทยเหรอคะ”
“อ้าวคุณก็คนไทยเหรอครับ ดีใจจังที่เจอคนไทยที่นี่ ยินดีที่ได้รู้จักครับ”
ผมยื่นมือไปให้เธอ เธอก็ยื่นมือมาจับผมมือนิ่มจัง ฮึๆๆ
“เช่นกันคะ^_^”

“ไปเหอะ”
อ้าวเธอโดนเพื่อนเธอลากไปแล้วผมมองตามเธอไป เธอหันมามองผมด้วยยิ้มน่ารักจัง น่ารักเหมือนคนที่จากผมไปเมื่อนานแสนนานแล้ว
ตื้ด~~~
“ครับแม่”
‘เจอสิ่งที่แม่ให้ไปหารึยัง’
นั้นสิลืมไปเลยว่าแม่ให้มาหาอะไรสักอย่างที่นี่แต่ก็ไม่บอกว่าให้มาหาอะไรแล้วใครจะไปรู้แถมยังบอกซ้ำแล้วซ้ำเล่า ‘ถ้าพบก็จะรู้เอง’
“แล้วแม่ให้ผมมาหาอะไรล่ะครับ”
‘ไม่เจอสินะ หาต่อไปนะลูก ตืดๆๆ’

“เดี๋ยวสิครับคุณแม่ วางไปซะแล้ว”
โทรมายังไม่รู้อะไรเลยครับ แต่ถึงผมยังไม่เจอในสิ่งที่คุณแม่บอกว่า ‘ถ้าพบก็จะรู้เอง’ แต่ตอนนี้ผมเจอสาวสวยคนที่ผมสนใจแล้ว ชักมีกำลังใจอยู่ที่นี่ต่อแล้วสิ

ถ้าเจอเธอคราวหน้าผมจะต้องจีบเธอให้ได้ แต่ตอนนี้ผมไปหาสาวๆก่อนดีกว่า สาวไทเปจะสาวเหมือนเธอคนนั้นหมดรึเปล่านะ คงไม่หรอกเพราะเธอเป็นคนไทยนี่หวา



/////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
ตอนสองแล้วนะ ใครที่มาอ่านช่วยแสดงตัวให้รุ้กันหน่อยนะ จะรับทุกคำติชมด้วยความยินดีค่ะ



เพียงใจกล้า
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 11 ธ.ค. 2555, 18:46:30 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 11 ธ.ค. 2555, 18:52:21 น.

จำนวนการเข้าชม : 989





<< เริ่มละนะ -------->เปิดศาล เอ้ย!!! เปิดตัว   3 ----> เป้าหมายเมืองไทยบ้านเกิด >>
เพียงใจกล้า 11 ธ.ค. 2555, 18:56:49 น.


ดารานิล 12 ธ.ค. 2555, 11:00:56 น.
ใส่ชื่อตอนตอนที่เราอัพนิยายด้วยสิคะ จะได้ลิงค์มาหน้านี้เลย เพราะถ้าเข้าไปดูในหน้ารวมนิยายแล้ว มันจะไม่มีชื่อตอนขึ้น เลยทำให้ไม่รู้ว่าถึงตอนไหนแล้ว :)


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account