เพราะรักเธอ
ทุกสิ่งเกิดเพราะว่ารัก และจบลงเพราะความรัก รักที่ผิด กับ รักที่ถูกก่อให้เกิดเรื่องราวต่างๆได้มากมาย และเมื่อใช่ความรักในการมอง เราก็จะมีคนรักมากมายในโลกใบนี้
Tags: วันเวลา หัวใจ

ตอน: ตอนที่14 -->> ชายทะเลบ้านแสงดาว และพวกเรา 12 คน

โห ไปกันตั้ง12คน เราอดไปด้วยเลย ว่าแต่บ้านจะสวยไหมนะ

////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////


ข้าวปั้น Talk
รถมินิบัสจอดนิ่งสนิทอยู่ข้างบ้านพักชายทะเล พวกเราสิบสองคนเดินลงมาจากรถพร้อมสัมภาระ ที่นี่นะเหรอบ้านแสงดาวที่เป็นหนึ่งในการรอคอยของผมสวยการตกแต่งคล้ายกับบ้านแสงดาวหลังที่ถูกไฟเผา
“มากี้เราถือกระเป๋าให้” ซูชิพูดพร้อมเอื้อมมือไปหยิบกระเป๋าของมากี้
“ไม่มากี้จะให้ข้าวปั้นถือให้ ข้าวปั้นถือกระเป๋าให้มากี้หน่อยสิคะ”
“ไม่ได้หรอกเพราะพี่ข้าวปั้นต้องถือกระเป๋าของฉัน พี่ข้าวปั้นคะถือกระเป๋าให้เนวหน่อยสิคะ” เนวทำท่าทางเรียนแบบมากี้
“แก!!!”
“อะไรยัยลูกครึ่ง” มากี้ที่จะตบเนวต้องลดมือลงเมื่อเนวกำหมันขึ้นสู้

“แควพี่ถือกระเป๋าให้นะ”
“ค่ะพี่ภู”
“เอาของฉันไปด้วย” นายเวพส่งกระเป๋าของตัวเองไปด้วย
“ครับพี่”
“ใครเป็นพี่แก”

“มีห้าห้องนอนนะคะ กุญแจห้องขวาสุดชั้นสอง ห้องนี้แดดจะส่องช่วงตอนเย็น นอนได้สามคน” เนวพูดพร้อมยื่นกุญแจ
“ผมขอนะ” ไดโจพูดแล้วคว้ากุญแจไป
“ผมนอนกับคุณดีกว่า” อินไครบอกแล้วเอื้อมมือกอดคอไดโจ
“ฉันนอนกับพวกคุณแล้วกัน” ซูชิพูดแล้วเดินนำไป

“กุญแจห้องชั้นล่าง เข้าประตูเลี้ยวซ้าย มีประตูติดกับทะเล ใหญ่ที่สุดสวยที่สุด”
“ฉันเอาห้องนี้ฉันนอนคนเดียวนะยะ” มากี้หยิบกุญแจแล้วเดินไป

“ไม่มีใครพิสวาดอยากนอนกับเธอหรอกย่ะ” แควตะโกนบอก
“ห้องนั้นนอนได้ห้าคนห้องที่เหลือห้องนอนสองคนหมดเลยค่ะ คงต้องนอนเบียดกันแล้วแหละค่ะ” เนวบอก
“ช่างเขาเถอะ ดอกนั้นห้องไหนล่ะ” พี่ชายของแควถามเนว
“ห้องชั้นล่างค่ะ แดดส่องช่วงเย็น เข้าประตูเลี้ยวขวา”
“พี่เอาห้องนั้นล่ะ”
“ใครจะนอนกับพี่เวพคะ” เนวถาม
“ผมก็ได้ครับ” ไอ้ปุนยกมือบอกยิ้มให้พี่ชายของแคว (ข้าวปั้นพี่เขามีชื่อค่ะ; ผู้แต่ง)

“ห้องกลางชั้นสองค่ะ^^;;”
“พวกเรานอนห้องนี้กันดีกว่านะสาวๆ”
“ไม่ดีค่ะ/ไม่ดีค่ะ” เนวกับแควรีบค้านพี่โมจิ
“ทำไมล่ะห้องนี้ไม่ดีเหรออยู่ตรงกลางอบอุ่นดี”
“คือว่าห้องนอนเนวอยู่อีกห้องหนึ่งน่ะคะ พี่ข้าวปั้น พี่ภู พี่บูมนอนห้องนี้นะคะ” เนวยื่นกุญแจให้ผมแล้วลากแควกับพี่โมจิไป
“แฟนนายแปลกๆนะข้าวปั้น โมรอผมด้วย” พี่บูมหันมาพูดกับผมและวิ่งตามพี่โมจิไป
“ไปเหอะไอ้ปั้น”
ท่าทางเนวแปลกๆอย่าที่พี่บูมบอกจริงๆ ห้องนี้มันมีอะไรกันแน่

เนวดี Talk
“ห้องนางฟ้าของพี่สวยจริงๆ กระซิบอะไรกัน”
“พี่โมจิเนวไปบอกพี่ข้าวปั้น พี่ภู พี่บูม นอนห้องขวาดีกว่า”
“ทำไมล่ะ ห้องนั้นคนเยอะอยู่แล้วเราไปหาอะไรทานกันดีกว่าพี่เห็นจักยานอยู่หลายคันเลยตลาดก็อยู่แถวนี้ด้วยนะ” พี่โมจิพูดจบก็วิ่งไปเคาะประตูห้องข้างๆ
“คงไม่เป็นไรหรอกเนวไปเถอะแควก็อยากเดินตลาดเหมือนกัน”
มันก็คงเป็นแบบนั้นเรื่องมันก็ผ่านมานานแล้วตั้งแต่ที่วันเกิดครบสิบขวบของฉันที่คุณแม่ให้ของขวัญโดยยอมกลับมาประเทศไทยมาเที่ยวที่นี่ ตอนนั้นมากันหลายคนทำให้ห้องนอนฉันให้ผู้เพื่อนคุณลุงจ้าวนอน ส่วนฉัน แคว และพี่เวพ นอนห้องนั้น และ...



ข้าวปั้น Talk
“เลิกเล่นกันเถอะ เย็นแล้วผมหิว”
ผมตะโกนบอกทุกคนที่ตอนนี้เล่นน้ำทะเลกันอยู่ให้เลิกเล่น แต่ที่จริงก็ไม่ทุกคนยกเว้น มากี้ที่ตอนนี้นั่งมองพวกเราอยู่ในห้องเธอ
“ได้ เดี๋ยวเปลี่ยนเสื่อผ้าเสร็จแล้วใครเป็นสุภาพบุรุตช่วยรีบลงมาจุดไปให้ด้วย ถ้ามีหลายคนก็ช่วยยกของด้วยนะ” พี่โมจิออกคำสั่ง
“ครับผม”


ห้องนอนข้าวปั้น ภู บูม
“ใคร!!!”
“ข้าวปั้นมีอะไร”
“ผมรู้สึกว่าเหมือนคนมองเราน่ะครับพี่บูม” ผมพูดพลางชี้ไปที่มุมห้องที่มีรูเล็กอยู่
“คงเป็นพวกเจ้าซูชิมั่ง เราไปช่วยสาวๆหน่อยดีกว่าก่อนที่จะโดนแย่งซีน”
“จริงด้วยเฮีย”


หน้าบ้่นแสงดาวริมทะเล
“อ้าวซูชิแกลงมานานแล้วเหรอวะ” ผมทักซูชิที่กำลังย่างกุ้งอยู่
“นานแล้วพี่ นานจนทำทุกอย่าเสร็จรอพี่มากินได้เลย”
“น้อยหน่อย เพื่อนแกยังไม่ลงมาเหรอ”
“ไอ้สองคนนั้นมันลงมาก่อนผมอีกหลีสาวอยู่มั่ง มานั้นแล้วหน้าบูดมาเลย คุณสองคนเป็นไรว่ะ”
“ผมกับคุณไดโจนะสิไปเจอสาวฝาแฝดนิสัยเสีย เล่นผมซะ”
“ซะ...อะไรวะ”
“เหนื่อย”

“ไอ้บ้า เอาปูไปกินไป สาวๆอาหารมาแล้วหอมมากๆ” ซูชิยกอาหารไปให้สาวๆที่รออยู่
“เป็นไงบ้างครับที่รักมาเดี๋ยวพี่แกะกุ้งให้” ผมมานั่งข้างๆเนว
“ขอบคุณค่ะพี่ข้าวปั้น”
“มากี้มาแล้วเหรอหิวแล้วใช่ไหมเราแกะกุ้งเสร็จพอดีเอาไปกินสิ” ซูชิทักมากี้ทันที่ที่เห็นเธอเดินมา
“มากี้ไม่กินของซูชิหรอกมากี้จะกินของข้าวปั้นเอามานี้”

“อะไรของเธอยัยลูกครึ่ง” มากี้แย้งจานจากเนว
“ฉันคนเดียวที่จะกินของที่ข้าวปั้นทำได้”
“อยากกินมากนักใช่ไหมยัยลูกครึ่ง”
“ว้าย!!!”
เนวยกจานอาหารเทใส่มากี้ มากี้ร้องโวยวายเอามือปักเศษอาหาร เนวทำท่าจะเอาน้ำสมเทใส่อีก
“น้ำส้มนี่พี่ข้าวปั้นก็เป็นคนทำ เฮ้ย!!!” ยังไม่ทันที่เนวจะได้เทน้ำส้มซูชิก็มายืดมือเนวไว้
“เราขอนะ”

“ได้ อร่อยไหมเพื่อนรัก” เนวเทน้ำส้มลงบนหัวเจ้าพระเอกคนเก่ง แล้วก็เดินขึ้นห้องไป
“เป็นไงว่ะไอ้น้องชาย ตอนทำฉันว่าฉันลืมล่างมือว่ะ ฮา ฮา ฮา”
“พี่ ผมว่าเนวคงจะโกรธผมแน่” ซูชิทำหน้าเศร้า
“จะไปสนใจยัยนั้นทำไม มากี้ไม่ขอบใจซูชิหรอกนะยุ้งไม่เข้าเรื่อง” ผมว่าแล้วนางมารย่อมเป็นนางมารเสมอ
“มากี้เราหวังดีนะ”
“ได้ นี่มากี้ช่วยล่างให้”

“เฮ้ย!!!” ผมกับภู ที่ยืนอยู่กระโดดหลบน้ำที่มากี้สาดใส่ซูชินั้นมันน้ำเย็นด้วย เดินไปแล้วยัยเด็กคนนี้ใช้ไม่ได้เลย
“พระเอกน้องพี่เจอรอบสองหนาวไหม น้องชาย”
“ผมไปในบ้านแล้วพี่หนาว ขอโทษทุกคนด้วยนะเสียบรรยากาศหมดเลย”
เจ้าน้องชายผมเดินไปแล้ว จ๋อยเลยพี่จะช่วยแกยังไงดีดันไปรักนางมารเข้าให้คงแย่หน่อย


เนวดีTalk
มันน่าเจ็บใจนายซูชิจริงๆ เพื่อนบ้าเข้าข้างยัยลูกครึ่งตลอดเลย ยัยนั้นไม่มีทางชอบนายหรอก อึย!!! ถึงห้องนี้แล้วรีบเดินดีกว่า
“เนว เฮ้ย!!!”
“ซูชินายเองนึกว่าผีทะเลที่ไหนอีก เกิบโดนหมัดฉันแล้วไหมล่ะ ทำไมเปียกได้ขนาดนั้นน้ำส้มแก้วเดียวเอง”
“น้ำส้มที่เธอราดมันแค่เหนียวๆ ส่วนที่เปียกมากี้ ฉันชักท้อแล้ว”
“เพิ่งจะคิดท้อเหรอ ไปอาบน้ำเถอะ ขอโทษนะฉันไม่น่าลงที่นายเลย”
“ไม่เป็นไรฉันมันยุ้งไม่เข้าเรื่องเอง ไปนะ”

“เนว”
“พี่ข้าวปั้น”
“ไปกินอาหารกันเถอะ พี่ตักมากินด้วยกันสองต่อสอง”
“ค่ะ หิวอยู่พอดี มองอะไรคะ”
“เหมือนมีคนมองเราจากในห้องพี่เลย”
“เอ่อ...คนอื่นๆเขาอยู่ข้างล่างนี้คะเราไปกันเถอะค่ะมันหนาวๆร้อนๆยังไงไม่รู้ค่ะ”

กึ๋ย!!! คงไม่มั่ง มันผ่านมานานแล้วนะ ไม่คิดๆ กินดีกว่า กุ้ง หอย ปู ปลา ปลาหมึก น่ากินๆ


ห้องนอน เนว แคว พี่โมจิ
“เนวนอนกันเถอะดับไปด้วยนะ”
“จ้า คุณเพื่อนรัก”
ตอนนี้ฉัน แคว และพี่โมจิ เข้ามาในห้องเตรียมพร้อมจะนอน หลังจากผ่านการฉลองกันจนดึง ดีใจจังที่ได้กลับมาที่นี่แล้วก็ได้ทำตามสัญญา แต่อากาศวันนี้มันหนาวๆจัง นอนดีกว่า

ฮุ ฮุ ฮู้

“หมาหอน เนวบ้านเนวมีหมาด้วยเหรอ”
“คงเป็นหมาแถวนี้ล่ะค่ะนอนกันเถอะค่ะ”
ฉันเดินไปขึ้นที่นอนคลุมโปรง นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อย่ามีอะไรเกิดขึ้นเลย สาธุๆ

ตุบ ตุบ ตุบ

ปึง ปึง ปึง

“เสียงอะไรอ่ะ”
เกิดเสียง โครมครามดังมาจากห้องข้างๆ ตามด้วยเสียงคนวิ่งลงบันได หรือว่า
“รีบไปดูกันเถอะค่ะ” ฉันหันไปมองหน้าทุกคน
“เนวคงจะไม่ใช่” ยัยแควหน้าเสีย

ฉันวิ่งไปเปิดประตูห้องวิ่งลงไปด้านล่างโดยมีอีกสองคนตามลงมา พอถึงก็เจอกับพี่ข้าวปั้น พี่ภูและ พี่บูม เขาสามคนกอดกันกลมอยู่กลางห้องนั่งเล่น
“พวกเขาเป็นอะไร” นายซูชิถามฉันทันทีที่เห็นพี่ชายของตัวเองท่าทางแปลกแปลก ข้างหลังนายซูชิมีไดโจ และนายอินไคร

“ช่วยด้วยๆ กลัวแล้วๆ” พี่ข้าวปั้น พี่ภูและพี่บูม เอาแต่พูดคำนี้
“ข้าวปั้น ข้าวปั้นเป็นอะไร” ยัยลูกครึ่งเดินมาถึงก็ทำท่าตกใจ
“ฮา ฮา ฮา ฉันว่าแล้วโดนแล้วโดนแล้ว ฮา ฮา ฮา” พี่เวพหัวเราะอย่างเอาเป็นเอาตาย ว่าแล้วไงว่าทำไมถึงยอมให้พวกพี่ข้าวปั้นนอนชั้นบน
ฉันส่งสายตาไม่ชอบใจไปให้พี่ชายตัวดี ก่อนจะเดินไปใกล้พี่ข้าวปั้น แต่ก็ต้องหยุดชะงัก
“ซูชินายไปดูพี่ข้าวปั้นหน่อยสิ”
ซูชิทำท่ากล้าๆกลัวๆ ฉันเลยออกแรงดันหลัง ซูชิจับตัวพี่ข้าวปั้น แล้วพี่ข้าวปั้นเขาหันมาเห็นฉันแล้ววิ่งมากอด



“ทำไมไม่บอก”
“ก็เนวเห็นว่าเรื่องมันผ่านไปตั้งนานแล้ว ผู้หญิงคนนั้นเขาเป็นใครก็ไม่มีใครรู้ด้วย”
“เนวนี่รูปใครเหรอสวยมากๆเลย” นายซูชิที่ไม่ทิ้งนิสัยช่างสังเกตเดินไปหยิบกอบรูปอันหนึ่งที่คว่ำอยู่รูปนั้นมีผู้หญิงกับผู้ชายคนหนึ่งถ่ายรูปคู่กัน ผู้หญิงคนนั้น
“นั้นมัน” พี่ข้าวปั้นมองรูปนั้นแล้วช็อกไป เดี๋ยวก่อนผู้ชายคนในรูปหน้าเหมือนพี่ข้าวปั้นมากเลย
“คนข้างๆหน้าเหมือนพี่ข้าวปั้นเลย” นายซูชิพูดสิ่งที่ฉันคิดออกมา ทุกคนเลยหันไปมองรูปนั้น

“ผู้หญิงในรูปเหมือนคนที่ยืนอยู่ตรงหัวบันไดเลย”
“โมจิคุณจะบ้าเหรอผู้หญิงในรูปเป็นคนเดียวกับผีที่ผมเจอจะมาอยู่ตรงบันไดได้ไง” ฉันหันไปมองที่บันไดก็ถึงกับอึ้ง ใช่จริงๆด้วย
“ผีๆๆออกมาแล้ว” พี่ภูชี้ไปที่หัวบันได

“โทจิในที่สุดคุณก็กลับมา” โทจิเหรอชื่อนี้ทำไมคุ้นหูฉันจัง
“โทจินั้นมันชื่อคุณตานี่” พี่โมจิหันไปพูดกับพี่ข้าวปั้น“จริงสิหน้าข้าวปั้นนายจำได้ไหมคุณยายชอบบอกว่าเธอหน้าเหมือนคุณตามาก มากจนคุณยายไม่อยากเห็นหน้าเธอและถ้าพี่คิดไม่ผิด คุณชื่อชบารึเปล่าคะ” ตอนท้ายพี่โมจิหันไปถามผู้หญิงคนนั้น กล้าจังเลย

“ช่าย” ชบาชื่อคุณยายไม่ใช่เหรอ โทจิ ก็คือชื่อคนรักคุณยายน่ะสิ
“คุณยาย คุณยายเหรอคะ”
“เธอเป็นลูกของ...”
“ค่ะ ทำไมคุณยายถึงยังไม่แก่”
“ฉันกลัวว่าถ้าฉันแก่โทจิจะจำฉันไม่ได้ โทจิคุณมาหาฉันแล้ว”

“ใช่ผมมาหาคุณแล้วผมตามหาคุณมานานเหลือเกิน”
เสียงนั้นไม่ใช่เสียงของพี่ข้าวปั้นแต่เป็นเสียงที่คล้ายกันแล้วก็มาจากทางประตู และที่ประตูก็ปรากฏผู้ชายที่รูปร่างหน้าตาไม่ต่างจากพี่ข้าวปั้นเลย เว้นก็แต่แววตาที่ดูอ่อนโยนน่าอบอุ่นมาก ฉันได้ยินพี่โมจิ พี่ข้าวปั้น ซูชิ เรียกคนนั้นว่า ‘คุณตา’

ฉันมองไปทางคุณยายท่านมีน้ำตาล่วงลงมาร่างที่โปรงแสงนั้นลอยไปทางประตูพร้อมกับรอยยิ้มที่เปี่ยมสุข ร่างโปร่งแสงทั้งสองร่างลอยเข้าหากันและเข้ามากอดกันบรรยากาศรอบข้างมันอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก น้ำตาฉันไหลออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่

แสงสีขาวสว่างวาบมาแวบหนึ่งแล้วเมื่อทุกอย่างปกติร่างของคุณยายกับคุณตาก็หายไป ฉันมองรอบห้องรับแขกทุกคนอยู่ในอาการไม่ต่างกัน
“ท่านสองคนคงจะหมดพันธนาการแล้ว” พี่โมจิพูดออกมาทั้งที่น้ำตายังไหลไม่หยุด

ทำไมฉันถึงนึกไม่ออกตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอตอนเด็กๆนะ อ้าว ง่วงจังไปนอนดีกว่ามั่งพรุ่งนี้ได้ตื่นเช้าๆไปทำบุญให้คุณยายกับคุณตาโทจิ

/////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
โห โชคนะที่ฉันไม่ได้ไปด้วย ไม่งั้นก็เจอผีเหมือนพวกยัยเนวแน่น
ความรักนี่ แม้ตายไปแล้วยังคงรักษาคำหมั้นกันอยู่เลย



เพียงใจกล้า
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 12 ธ.ค. 2555, 22:26:01 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 12 ธ.ค. 2555, 22:26:01 น.

จำนวนการเข้าชม : 939





<< ตอน13 ---->> พี่เวพ VS พี่ข้าวปั้น + ว่าที่พี่เขย VS ว่าที่น้องเขย   ตอนที่13---->>เมื่่อเราไปกันไม่รอด และ อ้อมกอดของพี่ชาย >>
เพียงใจกล้า 12 ธ.ค. 2555, 22:26:49 น.


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account