สะดุดเล่ห์ เสน่ห์รัก
สะดุดเล่ห์ เสน่ห์รัก


**เรื่องนี้เป็นเรื่องของภัทรา และเขตแดน พ่อและแม่ของภิตะวัน จากเจ้าสาวแสนแสบค่ะ
และก็เป็นเพื่อนสนิทของ อมาวตี จาก สะดุดรัก ลวงใจค่ะ (ตีพิมพ์ไปแล้วกับดอกหญ้า 2000ค่ะ)


** เรื่องนี้เคยลงที่เด็กดีจนจบเรื่องแล้วนะคะ อันนี้เป็นฉบับรีไรท์ค่ะ**


รัตน์ๆ เอามาลงอีกครั้ง ระหว่างรอหนังสือออก ซึ่งตอนนี้เงียบหายไปเลย
หลังจากบอกว่าจะปิดต้นฉบับ T-T (หลอกให้เค้าดีใจตลอดเลย กระซิกๆ T^T)
เจ้าสาวแสนแสบที่ลงไว้ก็กระดึ๊บๆ มากด้วย ก็เลยรู้สึกผิดเล็กน้อย หุหุ


เอาเป็นว่าไว้อ่านกันเล่นๆ ละกัน


จะลงจนกว่าหนังสือจะออก ถ้าหนังสือออกช้า ก็ลงจนจบเลยค่ะ
แต่ขออนุญาตลบเมื่อลงครบทุก 5 ตอนนะคะ



อยากรู้ว่าตะวันได้เชื้อ(บ้า)มาจากใคร ต้องลองอ่านดูค่า ^^





สะดุดเล่ห์ เสน่ห์รัก



คำโปรย



เมื่อสาวแสบ แสนซน เจ้าแผนการ หวังทวงคืนรักแรกเมื่อครั้งวัยเยาว์


ทว่าปฏิบัติการครั้งนี้ดูจะมีอุปสรรคไม่น้อย เมื่อต้องฝ่าด่านน้องชายจอมเจ้าชู้และสุดแสนจะเจ้าเล่ห์ ซึ่งพยายามอย่างยิ่งที่จะขัดขวางเธอในทุกวิถีทาง


มาลุ้นกันว่า...สาวป่วนอย่าง “ภัทรา” จะสามารถเอาชนะใจชายในฝันได้สำเร็จ หรือจะหลงเสน่ห์ชายหนุ่มจอมเจ้าเล่ห์ก่อนกัน



...จะรอให้คนบนฟ้าเป็นผู้กำหนด หรือเราจะลิขิตทางเดินรักด้วยตัวเอง!...






ตัวละคร



ภัทรา (ภัทร)

สาวสวยร่างเล็ก ทว่าอวบอัด ชอบกลั่นแกล้งชาวบ้านไม่เว้นแต่ละวัน....

สิ่งที่ถนัดที่สุด คือ การทำเรื่องเล็ก ให้เป็นเรื่องใหญ่





เขตแดน (แดน)

ทายาทห้างสรรพสินค้ารายใหญ่ของเมืองไทย หล่อเหลา เจ้าเสน่ห์ เจ้าชู้ ขี้เล่น และสุดแสนจะเจ้าเล่ห์..





สุดเขต (เขต)

พ่อหม้ายลูกติด พี่ชายคนเดียวของเขตแดน ผู้กุมบังเหียนห้างสรรพสินค้าชื่อดัง เจ้าของนัยน์ตาเศร้า ด้วยภาพความทรงจำในอดีตยังฝังแน่นอยู่ในใจ ไม่อาจลบเลือน






ภัคจิรา (ภัค)

ญาติสาวผู้พี่ของภัทรา สไตลิสสาวบ้างาน

ชีวิตของเธอมีเพียงสิ่งเดียว...คือ "งาน" เท่านั้น!






ภูผา (ภู)

ชายหนุ่มผู้พกความแค้นมาเต็มพิกัด หวังกอบกู้กิจการของครอบครัวที่ล้มละลาย พร้อมกับทำลายศัตรูคู่อริให้สิ้น ทว่าคำพิพากษาของเขา กลับหวนทำร้ายตัวเขาเองโดยไม่รู้ตัว...

เพราะคำว่า "รัก" เพียงคำเดียว





Tags: สะดุดเล่ห์ เสน่ห์รัก

ตอน: บทที่ 1 : ฉันนี่แหละภัทรา!


สะดุดเล่ห์ เสน่ห์รัก


**เรื่องนี้เป็นเรื่องของภัทรา และเขตแดน พ่อและแม่ของภิตะวัน จากเจ้าสาวแสนแสบค่ะ
และก็เป็นเพื่อนสนิทของ อมาวตี จาก สะดุดรัก ลวงใจค่ะ (ตีพิมพ์ไปแล้วกับดอกหญ้า 2000ค่ะ)


** เรื่องนี้เคยลงที่เด็กดีจนจบเรื่องแล้วนะคะ อันนี้เป็นฉบับรีไรท์ค่ะ**


รัตน์ๆ เอามาลงอีกครั้ง ระหว่างรอหนังสือออก ซึ่งตอนนี้เงียบหายไปเลย
หลังจากบอกว่าจะปิดต้นฉบับ T-T (หลอกให้เค้าดีใจตลอดเลย กระซิกๆ T^T)
เจ้าสาวแสนแสบที่ลงไว้ก็กระดึ๊บๆ มากด้วย ก็เลยรู้สึกผิดเล็กน้อย หุหุ


เอาเป็นว่าไว้อ่านกันเล่นๆ ละกัน


จะลงจนกว่าหนังสือจะออก ถ้าหนังสือออกช้า ก็ลงจนจบเลยค่ะ
แต่ขออนุญาตลบเมื่อลงครบทุก 5 ตอนนะคะ



อยากรู้ว่าตะวันได้เชื้อ(บ้า)มาจากใคร ต้องลองอ่านดูค่า ^^





สะดุดเล่ห์ เสน่ห์รัก



คำโปรย



เมื่อสาวแสบ แสนซน เจ้าแผนการ หวังทวงคืนรักแรกเมื่อครั้งวัยเยาว์


ทว่าปฏิบัติการครั้งนี้ดูจะมีอุปสรรคไม่น้อย เมื่อต้องฝ่าด่านน้องชายจอมเจ้าชู้และสุดแสนจะเจ้าเล่ห์ ซึ่งพยายามอย่างยิ่งที่จะขัดขวางเธอในทุกวิถีทาง


มาลุ้นกันว่า...สาวป่วนอย่าง “ภัทรา” จะสามารถเอาชนะใจชายในฝันได้สำเร็จ หรือจะหลงเสน่ห์ชายหนุ่มจอมเจ้าเล่ห์ก่อนกัน



...จะรอให้คนบนฟ้าเป็นผู้กำหนด หรือเราจะลิขิตทางเดินรักด้วยตัวเอง!...






ตัวละคร



ภัทรา (ภัทร)

สาวสวยร่างเล็ก ทว่าอวบอัด ชอบกลั่นแกล้งชาวบ้านไม่เว้นแต่ละวัน....

สิ่งที่ถนัดที่สุด คือ การทำเรื่องเล็ก ให้เป็นเรื่องใหญ่





เขตแดน (แดน)

ทายาทห้างสรรพสินค้ารายใหญ่ของเมืองไทย หล่อเหลา เจ้าเสน่ห์ เจ้าชู้ ขี้เล่น และสุดแสนจะเจ้าเล่ห์..





สุดเขต (เขต)

พ่อหม้ายลูกติด พี่ชายคนเดียวของเขตแดน ผู้กุมบังเหียนห้างสรรพสินค้าชื่อดัง เจ้าของนัยน์ตาเศร้า ด้วยภาพความทรงจำในอดีตยังฝังแน่นอยู่ในใจ ไม่อาจลบเลือน






ภัคจิรา (ภัค)

ญาติสาวผู้พี่ของภัทรา สไตลิสสาวบ้างาน

ชีวิตของเธอมีเพียงสิ่งเดียว...คือ "งาน" เท่านั้น!






ภูผา (ภู)

ชายหนุ่มผู้พกความแค้นมาเต็มพิกัด หวังกอบกู้กิจการของครอบครัวที่ล้มละลาย พร้อมกับทำลายศัตรูคู่อริให้สิ้น ทว่าคำพิพากษาของเขา กลับหวนทำร้ายตัวเขาเองโดยไม่รู้ตัว...

เพราะคำว่า "รัก" เพียงคำเดียว





บทที่ 1: ฉันนี่แหละภัทรา!


ภายในห้องนอนน้อยน่ารัก ผนังทุกด้านกรุวอลเปเปอร์สีชมพู ลายดอกไม้อ่อนหวาน ตกแต่งด้วยคิ้วและบัวสีขาว เฟอร์นิเจอร์ที่ใช้งานทุกตัวล้วนเป็นงานสั่งทำ เพื่อให้ได้ขนาดตามสัดส่วนกับทั้งความชอบส่วนตัวของหนูน้อยเจ้าของห้อง ที่ดูจะนิยมชมชอบความหวานแหววมากเป็นพิเศา และนั่นก็ทำให้ห้องนอนแห่งนี้ไม่ต่างไปจากห้องของเจ้าหญิงในนิทานเลยทีเดียว


“น้องภัทรตื่นรึยังลูก?”


เมื่อไม่มีเสียงตอบรับ เจ้าของใบหน้าสวยหวาน ผิวขาวผุดผาด เจ้าของส่วนสูงเล็กกะทัดรัด จึงเดินไปยังเตียงนอนของบุตรสาวที่เรียงรายไปด้วยตุ๊กตาน้อยน่ารักมากมาย และเมื่อเห็นใครบางคนนอนคลุมโปงอยู่ใต้ผ้าห่มหนา เธอจึงยิ้มมุมปากด้วยความเอ็นดู ก่อนจะก้าวยาวๆ ไปยังเตียงดังกล่าว


“น้องภัทรตื่นได้แล้วลูก อาบน้ำอาบท่า เตรียมทานอาหารเช้าได้แล้วจ้ะ” ปลายนิ้วเรียวสะกิดที่ผ้าห่มเบาๆ หวังให้คนด้านล่างตื่นขึ้น ทว่าน่าแปลก...ไม่มีปฏิกิริยาตอบรับใดๆ กลับมา


“ขี้เซาจริงๆ เลยลูกคนนี้” หญิงสาวคนดังกล่าวจำต้องเลิกผ้าห่มผืนหนาขึ้น เพื่อปลุกร่างน้อยด้านล่างด้วยตัวเอง


“น้องภัทร ตื่น...” ทว่าเมื่อเปิดออกดู สิ่งที่อยู่ใต้ผ้าห่มผืนใหญ่ หาใช่ร่างบางของลูกน้อย หากแต่เป็นหมอนข้างใบโตกับหมอนตุ๊กตาหมี ที่ช่วยกันโกหกคำโตว่าเป็นร่างน้อยของบุตรสาว


“น้องภัทรหายไปไหนนะ!”


ภัสรามองไปทั่วห้อง แต่ก็ไม่เห็นแม้เงาของลูก หากแต่หน้าต่างบานโตที่เปิดอ้าอยู่ทำให้เจ้าตัวฉุกคิดอะไรบางอย่างขึ้นมา


แน่นอนว่าทุกอย่างเป็นไปอย่างที่คิด เพราะหลักฐานต่างๆ ยังคงหลงเหลือให้เห็นคาตา...ผ้าปูที่นอนผืนยาวสองผืนถูกใครบางคนนำมาผูกต่อกันเพื่อเชื่อมหน้าต่างห้องนอนเข้ากับต้นไม้ต้นใหญ่ที่แผ่กิ่งก้านสาขามาใกล้ๆ กับห้องนอนแห่งนี้


ภัสรามองตรงหน้าอย่างหนักอก “ลูกใครเนี่ย! ทำไมถึงซนอย่างนี้”


เป็นคำถามที่ไม่ต้องการคำตอบ เพราะคนถามย่อมรู้ดีแก่ใจ ว่าลูกน้อยได้รับพรสวรรค์ส่วนนี้มาจากใคร ถ้าไม่ใช่มรดกทางพันธุกรรมของเธอเอง


“แล้วนี่หายไปไหนแล้วล่ะ” ว่าพลางมองไปยังทุ่งหญ้าเขียวขจีนอกหน้าต่าง ไม่รู้ว่าป่านนี้ลูกสาวของเธอไปเล่นซุกซนอยู่ที่ไหน



“แม่จ๋า เห็นเนคไทของพ่อบ้างมั้ย!” เสียงตะโกนของสามีทำให้ภัสราจำต้องละจากภาพเบื้องหน้า ก่อนจะถอนหายใจอย่างหนักอกอีกครั้ง...น้องภัทร นะน้องภัทร…


ศรัทธาก้าวยาวๆ มายังภรรยา อันที่จริงเขาไม่ได้อยากได้หรอกไอ้เนคไทเส้นที่ว่า แต่มีบางอย่างที่เขาต้องการจากเธอมากกว่า…


ร่างสูงใหญ่โอบเอวภรรยาอย่างรักใคร่ ก่อนจะหอมเข้าที่แก้มนวลเนียนอย่างเอาอกเอาใจ ถ้ามีใครถามว่ารู้สึกยังไงที่ “เมียหาเงินเก่ง” เขานี่แหละจะตอบไปแบบไม่ลังเลเลย...


รู้สึกเซ็งมากๆ!... เพราะภรรยาของเขานั้นเรียกว่า...หาเงินเก่งชนิดหาตัวจับยากเลยทีเดียว ไม่รู้ว่าแอบไปต่อโท ต่อเอกด้านนี้มาหรือยังไง พอเอาเงินไปซ่อนที่ไหน คุณเธอเป็นรู้ทุกที


หาเงินเก่งอย่างนี้...คนแย่ก็คือเขาเต็มๆ ...เฮ้อ! อุตส่าห์ซ่อนไว้กะจะไปซื้อไม้กอล์ฟอันใหม่ซะหน่อย อดเลยเรา...


“คุณศรัทธาดูลูกคุณสิ ไม่รู้หนีไปไหน...สงสัยคงกลัวจะโดนชำระความเรื่องเมื่อวาน วันนี้เลยแอบปีนต้นไม้หนีไปทางหน้าต่าง”


“ก็ลูกคุณนั่นแหละ นิสัยน่ะยังกะถอดพิมพ์มาจากคุณเป๊ะเลยแบบนี้ จะโทษใครได้ล่ะ” ชายหนุ่มผู้เป็นสามีกล่าวพลางส่ายหน้าเล็กน้อย กับการไม่ยอมรับความจริงของภรรยา


“ว่าแต่ว่าเมื่อวานไปก่อเรื่องอะไรอีกล่ะ”


“ต่อยเด็กผู้ชายที่เป็นเพื่อนในห้อง”


“หา! รุนแรงขนาดนั้นเลยเชียว” คนเป็นพ่อขมวดคิ้วถาม


“เห็นว่าเด็กคนนั้นมาล้อว่าเธอแก้มยุ้ย เจ้าตัวก็เลยโมโห...ดูสิ! พฤติกรรมทำอะไรแบบไม่คิดหน้าคิดหลังแบบนี้ มันนิสัยคุณชัดๆ” ภัสรากล่าวโทษอีกฝ่าย


ทำเอาผู้เป็นสามีแอบถอนหายใจเล็กๆ ...เฮ้อ! พอกัน...แม่ลูกคู่นี้...เห็นทีต้องกำราบเสียหน่อย...ชายหนุ่มตั้งปณิธานไว้ ไม่รู้ว่าเป็นครั้งที่เท่าไหร่เข้าไปแล้ว หากแต่ก็ไม่เคยกระทำอย่างที่ว่าสำเร็จเลยสักที


“ไว้ตอนเย็นๆ กลับมาคงต้องเรียกมาเตือนเสียหน่อย ว่าแต่ว่า...แม่จ๋า..เอ่อ...ซองที่พ่อวางสอดไว้ใต้เบาะน่ะ เห็นบ้างรึเปล่า...” ศรัทธากล่าวถามภรรยาเสียงอ่อย


***********************************************


เด็กผู้หญิงผิวขาวผุดผาด แก้มยุ้ย ดวงตากลมโตสดใส ริมฝีปากแดงอมชมพู ล้อมกรอบด้วยผมดำสนิทหยิกฟูฟ่อง น่ารักน่าเอ็นดูยิ่งนัก ร่างน้อยอยู่ในชุดนอนกระโปรงลายลูกไม้สีขาว บ่งบอกให้ทราบว่าเจ้าตัวยังไม่ได้อาบน้ำเลยในเช้าวันนี้


“เจ้ามิลค์อยู่ไหน ออกมาเดี๋ยวนี้นะ!” เด็กหญิงภัทราส่งเสียงเรียกหา “เจ้ามิลค์” แมวเปอร์เซียขนขาวยาวสะอาดตัวโปรด ซึ่งคุณศรัทธาซื้อมาให้ในวันคล้ายวันเกิดของเธอเมื่อไม่กี่เดือนก่อนหน้านี้


...แมวที่เป็นทั้งเพื่อนเล่นและเครื่องระบายอารมณ์ไปด้วยในตัว!


เด็กน้อยทั้งรักและหวังดีกับเจ้าแมวน้อยนักหนา แม้ว่าบางครั้งจะแสดงความรักไปในทางที่ผิดอันเนื่องจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของเจ้าตัวก็ตามที

สองสัปดาห์ก่อนหนูน้อยอยากอาบน้ำให้เจ้ามิลค์ ด้วยเพราะสอบถามกับพี่ปุยฝ้าย ซึ่งเป็นพี่เลี้ยงของเธอทำให้ทราบว่า ที่เจ้ามิลค์ชอบเลียขนของตัวเองเพราะต้องการทำความสะอาดร่างกาย ด้วยเพราะแมวเป็นสัตว์ที่รักความสะอาดเป็นที่สุด แต่หนูน้อยไม่เห็นด้วยเพราะคิดว่าถ้าเอาลิ้นไปเลียขนที่ไปนั่ง หรือนอนในที่สกปรกมา จะทำให้เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายได้ง่ายๆ


เด็กสาวผู้หวังดีจึงไปสรรหาและนำตะกร้อมาครอบปากเจ้ามิลค์ พร้อมกับนำเจ้ามิลค์ไปอาบน้ำ ฟอกสบู่ ซึ่งก็ทำได้ยากและทุลักทุเลเต็มที หากแต่หนูน้อยก็หาได้ละความพยายาม ด้วยความรักที่มีให้ต่อแมวน้อยตัวโปรดมากมาย


สุดท้ายเมื่อเห็นเจ้าเหมียวไม่ยอมแต่โดยดี จึงต้องใช้กำลัง ไม่นานเจ้าแมวเปอร์เซียตัวดังกล่าวก็ถูกขึงพืด แขนขา ถูกจับมัดไปคนละทิศคนละทาง ด้วยผู้เป็นเจ้าของที่หวังดี อยากอาบน้ำให้เจ้าแมวน้อยเสียเต็มประดานั่นเอง


ดูท่าเจ้ามิลค์จะดีใจจนอยากร้องไห้กับความหวังดีอย่างสุดซึ้งของผู้เป็นนาย ทว่าจะกล่าวปฏิเสธอย่างไรได้ ในเมื่อตัวมันก็เป็นแค่แมว ไหนจะตะกร้อขนาดเล็กที่ครอบปากอยู่อีกเล่า เจ้าเหมียวจึงทำได้แค่เพียงทำตาปริบๆ สุดแล้วแต่นายน้อยผู้หวังดีจะนำพา


หนูน้อยจึงเริ่มปฏิบัติการทำความสะอาดเจ้าแมวน้อยขนปุย น่าเสียดายสบู่เหลวที่ใช้อาบน้ำให้นั้น หาใช่สบู่สำหรับทำอาบน้ำแมวหรือคนแต่อย่างใด หากแต่กลับไปสลับกับขวดน้ำยาทำความสะอาดรถของผู้เป็นพ่อโดยไม่มีใครล่วงรู้ เป็นผลให้เจ้าเหมียวน้อยขนปุย ถูกลอกคราบกลายเป็นแมวน้อยขี้เรื้อนซะอย่างนั้น ด้วยเพราะขนยาวๆ ของมันค่อยๆ หลุดร่วงทีละเส้นสองเส้น ทิ้งไว้แต่เพียงดวงตาเศร้าสร้อยและเหงาหงอยของเจ้าแมวเปอร์เซียร์เพื่อนยาก และดูท่าว่าสองสัปดาห์ที่ผ่านไป เจ้ามิลค์จะยังไม่หายโกรธนายสาวของมัน วันนี้เมื่อได้โอกาสมันจึงรีบเผ่นหนีอ้อมกอดที่รัดแน่นแบบรู้เท่าไม่ถึงการณ์ของผู้เป็นนายทันที


หากแต่จะหลบหนีไปไหนได้พ้น เพราะสุดท้ายดวงตาคู่โตก็สังเกตเห็นขนหางยาวๆ ของเจ้าแมวตัวโปรดที่ลอดรั้วกำแพง หายไปยังพื้นที่ของบ้านข้างๆ ซึ่งเป็นบ้านพักตากอากาศของครอบครัวชาวกรุงครอบครัวหนึ่ง ซึ่งตอนนี้มีเพียงป้าแช่ม กับลุงช่วง คอยเช็ดถู ดูแล และทำความสะอาดเท่านั้น ทั้งนี้เธอเองก็เคยคุ้นกับทั้งสองคนเป็นอย่างดี ด้วยเพราะมักปีนรั้วไปวิ่งเล่นบ้านข้างๆ เป็นประจำ กับทั้งเวลาที่ต้องการหาที่หลบซ่อน เธอมักเลือกบ้านสีขาวหลังใหญ่เป็นหลุมหลบภัยเสมอๆ


“นึกว่าจะหนีน้องภัทรได้งั้นเหรอ!” เสียงเจื้อยแจ้วเอ่ยออกมา ขณะที่เจ้าตัวถลกชายกระโปรงชุดนอนขึ้น เตรียมปีนป่ายรั้วสูงดังกล่าวเพื่อไปตามหาแมวตัวโปรด


แม้กระโปรงยาวที่สวมใส่จะเป็นอุปสรรคอยู่บ้าง หากแต่หาได้กั้นขวางความมุ่งมั่นอันยิ่งใหญ่ของหนูน้อยภัทราได้ เป็นผลให้ร่างน้อยปีนขึ้นมาบนรั้วสูงได้สำเร็จในที่สุด หากแต่ชายกระโปรงกลับไปเกี่ยวกับกับอะไรบางอย่าง ทำให้แทนที่เจ้าตัวจะได้กระโดดลงในท่ามาตรฐาน ม้วนตัวสองตลบ กลับต้องเสียหลักกระเด็นกระดอนตกลงมาไม่เป็นท่า


อ๊าย!!! พลั่ก!!!


เสียงร้องอย่างตกอกตกใจของหนูน้อยเงียบลงทันที ที่รู้ว่าตนนั้นหาได้ตกลงมาแข้งขาหักแต่อย่างใด หากแต่กลับมีอะไรบางอย่างรองรับอยู่ด้านล่าง ก่อนที่ร่างเล็กๆ จะกลิ้งไปบนพื้นหญ้า


ภัทราเงยหน้าขึ้นมา สบตากับดวงตาสีดำสนิทของเด็กหนุ่มวัยรุ่นคนหนึ่ง รูปหน้า ดวงตา จมูก และปากนั้นช่างดูดีไม่มีที่ติ เป็นผลให้เด็กหญิงภัทรารู้สึกเขินอาย กับทั้งรู้สึกผิดเล็กน้อยที่ทำให้คนตรงหน้าเจ็บตัว
ว่าแต่ว่าเขาเป็นใครกันล่ะ ก็บ้านหลังนี้ไม่มีใครอยู่นี่นา...


ดวงตากลมโตสงสัยอยู่ได้ไม่นาน เด็กหนุ่มหน้าตาดี ในชุดเสื้อโปโลสีอ่อนก็ดึงเธอให้ลุกขึ้น


“เป็นอะไรรึเปล่า” เสียงห้าวแตกเนื้อหนุ่มดังแว่วมา หากแต่ดวงตาของผู้พูดกลับแฝงไปด้วยความอ่อนโยนและอบอุ่น ขณะจ้องมองมายังเธอด้วยสายตาเป็นมิตร เป็นเหตุให้เจ้าตัวรู้สึกประหลานดใจยิ่งนัก เพราะถ้าเป็นเธอ หากโดนเช่นนี้มีหวังได้มีเรื่องมีราวชกต่อยกันไปแล้วแน่ๆ ทว่าคนตรงหน้ากลับกระทำตรงข้าม ซึ่งนั่นทำให้สาวน้อยเลือดร้อนอย่างเธออดแหงนหน้าขึ้นมองอีกฝ่ายด้วยแววตาสงสัยไม่ได้ พร้อมกับความรู้สึกดีๆ ที่ค่อยๆ ก่อตัวขึ้นทีละเล็กทีละน้อย


“น้องภัทร...เอ่อ...ขอ...” เสียงแหลมเล็กเอ่ยอย่างติดๆ ขัดๆ ด้วยไม่ชินกับการเอ่ยขอโทษใครก่อน หากแต่คนตรงหน้าคือคนๆ แรกที่ทำให้เธออยากเอ่ยคำนั้นออกมาด้วยความเต็มใจ ด้วยเพราะนอกจากเขาจะไม่เอาโทษเธอที่ล้มลงไปทับเขา แต่กลับแสดงท่าทีเป็นห่วงเป็นใยเธออีกต่างหาก ทำให้ต่อมความรู้สึกผิดที่ไม่ได้ทำงานมานาน พลันกลับมาทำหน้าที่


หากแต่จู่ๆ ก็มีเสียงอะไรบางอย่างดังขึ้น ซึ่งภัทราคงไม่สนใจมากนัก หากเสียงที่ดังแว่วมานั้นไม่ใช่เสียงขู่ฟ่อๆ ของแมวตัวโปรดของเธอ


“เจ้ามิลค์!”


เมื่อได้ยินเสียงของเจ้าแมวน้อย เด็กสาวจึงนึกขึ้นได้ ว่าตนนั้นบุกรุกเข้ามายังสถานที่แห่งนี้เพราะสาเหตุใด
ภาพที่เห็นตรงหน้าคือ ภาพแมวน้อยที่แสนน่ารักน่าชังของตนขนพองชี้โด่ชี้เด่ด้วยความกลัว พาลให้ขนขาวๆ ของมันหลุดร่วงก่อนเวลาอันควรมากขึ้น


“เจ้ามิลค์!!!” คนตัวเล็กไม่รอช้า รีบใช้ขาป้อมๆ ของตนก้าวไปหาเจ้าเหมียวตัวโปรดในทันที...


‘หนอยแน่ะ...คิดจะมาทำร้ายเจ้ามิลค์งั้นเหรอ...ข้ามศพน้องภัทรไปก่อนละกัน!’ เด็กน้อยคิดเช่นนั้น โดยลืมไปว่าตนเองนั่นแหละที่ทำให้เจ้าแมวเปอร์เซียตัวดังกล่าวมีสภาพใกล้เคียงแมวขี้เรื้อนเข้าไปทุกทีๆ


ภาพสุนัขขนยาวสีเหลืองทองตัวใหญ่ กำลังจะตะปบแมวน้อยตัวโปรดของตนทำให้ภัทราต้องรีบเอาตัวเข้าขวาง หวังทำหน้าที่ผู้พิทักษ์ และปกป้องเจ้าเหมียวจากอันตรายที่มาแผ้วพาน โดยไม่ดูตัวเองเลยว่า...ตัวเธอนั้นแม้จะมีตัวโตกว่าแมวตัวโปรดมาก หากแต่ถ้าเทียบกับเจ้าสุนัขตัวดังกล่าวก็ยังถือว่าเล็กกว่าเล็กน้อย
แต่สำหรับเธอนั้นขนาดไม่ใช่สิ่งสำคัญ ขอแค่มีจิตใจที่กล้าหาญก็น่าจะเพียงพอแล้ว


ดวงตากลมโตจ้องมองสุนัขนยาวตรงหน้าอย่างเอาเรื่อง ซึ่งเธอก็คิดว่ามันก็คิดไม่ต่างกัน เพราะมันจ้องหน้าเธอนิ่ง ขณะที่ขาทั้งสี่ก็ย่างสามขุมเข้ามาใกล้ โชคดีที่ก่อนที่ร่างน้อยจะถูกเจ้าสุนัขโกลเด้น รีทรีฟเวอร์ตัวใหญ่กระโจนเข้าหา พลันมีท่อนแขนแข็งแรงของใครบางคนฉุดรั้งไว้เสียก่อน พาให้คนทั้งคู่เสียหลักล้มลง


“อ๊อดดี้! นั่งลง!”


น้ำเสียงห้าวที่สั่งการโดยใครบางคนทางด้านหลังทำให้เจ้าสุนัขตัวใหญ่ทำตามอย่างเชื่อฟัง แม้จะอดเสียใจไม่ได้ที่ยังเล่นของเล่นชิ้นใหม่ตรงหน้าไม่หนำใจ...ซึ่งก็ไม่ใช่อะไรที่ไหน หากแต่เป็นเจ้าแมวน้อยรูปร่างแปลกตากับทั้งเด็กหญิงผมฟู หน้าตาน่ารักราวกับตุ๊กตานั่นเอง


“เป็นอะไรรึเปล่า”


เสียงอบอุ่นของชายหนุ่มคนเดิมที่ช่วยเธอไว้ตอนตกกำแพงดังแว่วมาเป็นครั้งที่สอง ทำเอาหัวใจดวงน้อยๆ ของเด็กหญิงวัยเจ็ดขวบเศษเต้นตุ้มๆ ต่อมๆ เพราะแม้เจ้าตัวจะอายุเท่านี้ และยังไม่ถึงวัยที่จะมีความรัก หากแต่เธอก็คิดว่าเธอโตพอที่จะเข้าใจว่าความรักเป็นยังไง ด้วยเพราะดูละครแนวรักๆ ใคร่ๆ กับปุ้ยฝ้ายพี่เลี้ยงก่อนนอนทุกคืน...เป็นผลให้เด็กน้อยวัยเจ็ดขวบคนนี้ออกจะแก่แดดแก่ลมอยู่ซักหน่อย


“เจ้าอ๊อดดี้มันไม่ได้จะทำร้ายแมวหรอกนะ มันคงแค่จะเล่นด้วยน่ะ” เสียงสุภาพกล่าวอธิบาย พร้อมกับช่วยพยุงร่างน้อยให้ลุกตามขึ้นมา


ภัทราเอาแต่ก้มหน้า ไม่รู้ทำไมเธอถึงไม่กล้าสู้หน้าอีกฝ่าย ทั้งๆ ที่ปกติเธอนั้นกล้าหาญชาญชัยกว่าใครเพื่อน ทว่าทำไมต่อหน้าเด็กหนุ่มคนดังกล่าวเธอถึงกลายเป็นคนขี้ขลาดไปได้นะ เด็กน้อยไม่เข้าใจตัวเอง กระทั่งมือยาวๆ ของใครบางคน นำเจ้ามิลค์ยื่นมาให้เธอเท่านั้นแหละ หน้ากลมๆ ถึงค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมา


“ขอโทษด้วยนะ ที่อ๊อดดี้ทำให้ตกใจ”


ภัทราแหงนหน้าขึ้นมอง ทำให้สบตากับดวงตาสีดำสนิทคู่นั้นอีกครั้ง พาลให้หน้าแดงด้วยความขวยเขิน
“เธอเป็นใคร? แล้วเข้ามาในบ้านหลังนี้ได้ยังไง?”


เสียงห้าวจากใครคนหนึ่งดังขึ้น พร้อมการปรากฏกายของเขา เป็นผลให้เด็กหญิงตื่นจากภวังค์ และรับรู้ถึงการมีตัวตนของใครอีกคนหนึ่ง ซึ่งเป็นคนเดียวกับเจ้าของเสียงห้าวที่สั่งการเจ้าสุนัขเจ้าปัญหานั่นเอง


ภัทราหันไปมองยังต้นเสียงนัยน์ตาขวาง แม้จะแปลกใจที่ชายหนุ่มคนดังกล่าวมีใบหน้าคล้ายคลึงกับคนที่ทำให้หัวใจเธอสั่นไหว ทว่าเมื่อเห็นเจ้าตูบที่คลอเคลียอยู่ข้างๆ เขา อารมณ์โมโหก็พลันแล่นขึ้นมาจุกอก


“นายนั่นแหละเป็นใคร แล้วเข้ามาในนี้ได้ยังไง สุนัขของนายก็เหมือนกัน ถ้ามันดุมากนักก็เอาตะกร้อครอบปากซะสิ!”


ร่างน้อยโวยวาย ไม่ได้ดูตัวเองเลยว่าเป็นแค่เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ ขณะที่อีกฝ่ายนั้นเป็นเด็กหนุ่มวัยรุ่น แม้รูปร่างจะผอมเก้งก้าง หากแต่ส่วนสูงก็ต่างจากเธอลิบลับ กับทั้งเป็นเธอที่บุกรุกมายังบ้านหลังนี้โดยไม่ได้รับอนุญาต
เด็กหญิงก้มมองเจ้ามิลค์ในอ้อมแขน ขนขาวๆ บางส่วนยังฟูด้วยความกลัว ตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขณะที่ขนบางส่วนนั้นร่วงติดมือเธอมา คล้ายกับภาวะโลกร้อนที่เป็นเหตุให้ฤดูใบไม้ร่วงมาถึงก่อนเวลาอันสมควร ว่าแล้วจึงหันไปจ้องมองเจ้าสุนัขขนยาวด้วยความอาฆาต พร้อมกับค่อยๆ เดินเข้าหาอย่างช้าๆ



ภัทราทบทวนชื่อของเจ้าสุนัขตรงหน้าตามที่ได้ยินอีกครั้ง


“อ๊อดดี้” ศัตรูตัวฉกาจของเธอและเจ้ามิลค์ชื่อว่า...อ๊อดดี้! ดวงตากลมโตจ้องเขม็งไปยังเป้าหมาย ก่อนจะกระทำการบางอย่างที่ใครต่อใครนึกไม่ถึง


“ไอ้อ๊อด! อย่าอยู่เลย!!!”


****************






รัตนรัตน์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 22 พ.ค. 2554, 12:22:21 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 22 พ.ค. 2554, 12:22:21 น.

จำนวนการเข้าชม : 3163





   ฉันนี่แหละภัทรา! (ต่อ) >>
panon 22 พ.ค. 2554, 15:29:05 น.
รอหนังสืออยู่เหมือนกันนะเนี่ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย....ถึงจะลงกระดึ๊บๆๆๆๆแต่เราก้ออ่านจนจบอิอิอิอิอิ


ปูสีน้ำเงิน 22 พ.ค. 2554, 20:24:26 น.
นางเอกเราร้ายตั้งแต่ยังเล็กๆ เลยนะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account