เล่ห์รักเกมหัวใจ
มีน เขาถูกว่าจ้างให้หักอกเธอ "อลินา" ที่คนว่าจ้างบอกว่าเธอเป็นผู้หญิงร้ายกาจ
อลินา ถูกว่าจ้างให้ดักหลังผู้ชายที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเพลย์บอยตัวพ่อ อย่าง"มีน" ที่ไม่ยอมสยบให้หญิงใด
เมื่อ แผนถูกซ้อนเป็นชั้นๆเหมือนขนมที่แสนหวาน กับดักที่พันจนวุ่นวาย

หมายเหตุ เรื่องนี้เขียนสดๆ ดังนั้นอาจจะมีเนื้อหาที่จะมีการเปลี่ยนแปลงภายหลังค่ะ
Tags: เล่ห์รักเกมหัวใจ คีตา ณิชนิตา

ตอน: บทที่ ๒๐ แผนแตก

บทที่ ๒๐

แผนแตก

ชายหนุ่มนั่งอยู่เก้าอี้สีฟ้าหน้าห้องฉุกเฉิน มือประสานกันแน่นเหมือนกำลังภาวนา ขอไม่ให้หญิงสาวเป็นอะไรเลย เขาไม่ได้เห็นสภาพของอลินาแต่อนุทัตเข้ามาขวางไว้ก่อนที่เขาจะวิ่งไปไกลว่านั้น ทั้งคู่มาดักรอที่โรงพยาบาลเมื่อเห็นว่าเจ้าหน้าที่จะส่งเธอมารักษาและตรวจดูอาการให้แน่ใจ

“ไม่ต้องห่วงนะ ลีน่าสวมชุดป้องกันอยู่ไม่เป็นอะไรมากหรอก เรื่องอุบัติเหตุนี่เป็นเรื่องปกติกับการแข่งรถเลยนะ” รู้ว่าตัวเองปลอบใจใครไม่เก่งก็คราวนี้เอง อนุทัตมองเห็นแววตาเศร้าและหวาดกลัวของชายหนุ่มตรงหน้ามันช่างดูน่าสงสารมากจนเขาเองก็เริ่มใจสั่น

มือหนาเอื้อมไปตบบ่าของมีนเบาๆ เพียงไม่นานบุรุษพยาบาลก็เข็นรถซึ่งมีอลินานั่งมาด้วย เธอมีเพียงรอยแผลฟกช้ำเพียงเล็กน้อย แต่สิ่งที่สะดุดตาของชายหนุ่มทั้งคู่คือแขนด้านขวาที่ถูกพันด้วยผ้าสีขาวยาวไปถึงข้อศอก

“เป็นยังไงบ้าง”

“หมอบอกไม่มีอะไรน่าห่วงเดี๋ยวรอฟังผลอีกรอบ”

มีนถอนหายใจยาวเหมือนโล่งอกเมื่อได้ยินอย่างนั้น เขาแทบหยุดหายใจด้วยซ้ำเมื่อเห็นภาพเหตุการณ์

“งั้นคงต้องพัก ไปสักระยะละลีน่า พี่กลับไปที่สนามก่อนนะ นี่ทิ้งมาเลย”

“ขอบคุณค่ะเฮียสาม”

อนุทัตยิ้มบางก่อนจะเดินออกไป มีนทรุดตัวลงนั่งข้าง ๆ เอื้อมมือไปกุมมือหญิงสาวเอาไว้ก่อนจะนำมาแนบที่แก้มอย่างแผ่วเบา

“อลิสเกือบทำให้พี่ตกใจตายแล้วนะ”

“ขอโทษค่ะ แต่ดูเหมือนเบรกรถมีปัญหา แล้วเพื่อไม่ให้มันพุ่งชนฉันเลยต้องชะลอความเร็วด้วยการไม่เหยียบคันเร่ง ไม่อยากทำให้รถข้างหลังเสียเวลาด้วยเลยเข้าข้างทางไว้ก่อนแต่ความเร็วมันยังคงมีอยู่เลยทำให้ป้ายโฆษณาเขาพังเป็นแถบเลย” เธอเล่าเรื่อง เมื่อเห็นแววตาเศร้าๆ ของชายหนุ่มกลับทำให้รู้สึกสะท้อนใจอย่างบอกไม่ถูก มันแสดงความจริงใจโดยไม่ต้องพูดด้วยซ้ำ

“ขอบคุณนะ...ขอบคุณจริงๆ ที่มีชีวิตอยู่” เขากล่าวทั้งกุมมือนั้นแน่น อลินารับรู้ถึงหยดน้ำอุ่นๆ ที่มันสัมผัสกับท่อนแขนของตัวเอง มือบางเอื้อมมาลูบผมดกดำนั้นแผ่วเบา หัวใจดวงน้อยที่หวั่นไหวด้วยความรู้สึกของคนตรงหน้า นี่ไม่ใช่เรื่องเสแสร้ง เป็นความรู้สึกจริงๆ ของชายหนุ่ม

“พี่คิดว่าจะทำยังไงดีถ้าอลิสเป็นอะไรไป พี่จะอยู่ได้ยังไง พี่ยังไม่ได้ไถ่โทษที่เคยทำไม่ดีไว้กับอลิสเลย ยังไม่ได้ทำในสิ่งที่พี่อยากทำให้เลย...มันเร็วเกินไป” น้ำเสียงสั่นเครือนั้นสะท้อนความรู้สึกของชายหนุ่มเป็นอย่างดี อลินายิ้มทั้งน้ำตาก่อนจะโอบกอดเขาไว้

“ไม่เป็นไรค่ะ อลิสไม่เป็นอะไร อลิสอยู่ที่นี่แล้ว” เธอกล่าวน้ำเสียงสั่นไม่แพ้กัน มือบางค่อยๆ ลูบไหล่หนานั้นไปมาเป็นการปลอบประโลมอย่างดีที่สุด หากชีวิตต้องดับสูญจริงๆ แล้ว ได้เห็นคนที่รักโศกเศร้าเธอคงเสียใจเช่นกัน ใจตอนนี้นึกอยากให้ชีวิตยาวนานได้อยู่กับคนในอ้อมกอดไปตลอด...นี่เธอกำลังคิดอะไรอยู่นะ...อลินา



พัชระเดินทางมาถึงสนามแข่งหลังจากที่รับทราบข่าวจากอนุทัต เขากำลังสำรวจสภาพรถที่ดูยับเยินจนน่าใจหาย ด้านขวาฝั่งคนขับนั้นประตูพังไปทั้งแถบ

“ปกติ นักแข่งรถเขาจะไม่เบรกช่วงเลี้ยวโค้ง แต่ตอนนั้นมีรถอีกคันอยู่ข้างหน้า ลีน่าคงจะชะลอพอแตะเบรกเลยรู้ว่ามันเสียถึงเบี่ยงไปด้านขวาไถลออกนอกเลนไป จากที่ดูสายเบรกถูกตัด มันเป็นการวางแผนไว้”

“หมายความว่ายังไง นี่อยากชนะกันถึงขนาดทำร้ายกันเลยหรือไง บ้าไปแล้ว ถ้าลีน่าเกิด...เจ็บหนักกว่านี้จะทำยังไง” พัชระยั้งปากเรื่องตายไว้ทัน สีหน้านั้นแสดงความโกรธอย่างเห็นได้ชัด

“ไม่น่าจะใช่นักแข่งด้วยกันหรอกครับ มันจะมีช่วงหนึ่งที่เราทิ้งรถไว้ไปกินข้าวกัน น่าจะเป็นช่วงนั้น ตอนนี้ก็แจ้งความไว้เรียบร้อย ตำรวจคงสืบหาตัวทำได้”

พัชระพยักหน้ารับก่อนจะเดินออกมาด้านนอกเพื่อโทรศัพท์หาคนที่ต้องรู้เรื่องนี้ มากที่สุด เขาฟังสัญญาณเพียงไม่นานปลายสายจึงกล่าวออกมา

“สวัสดดีครับคุณพ่อ ผมมีเรื่องที่ต้องบอก มันมีปัญหาบางอย่าง”

“ปัญหาอะไร”

“อลิสเกิดอุบัติเหตุระหว่างแข่ง มีคนบอกว่ามีคนแกล้งตัดสายเบรกครับ...” พัชระรายงานเรื่องที่เกิดขึ้นให้ผู้เป็นพ่อฟัง เขาเพียงต้องการบอกเล่าความเป็นไปของน้องสาวเท่านั้น อย่างน้อยคนเป็นพ่อก็ควรจะได้รับรู้

ชายหนุ่มคุยเสร็จหันกลับไปเห็นมีนกำลังเดินเข้ามาหาพอดีจึงวางสาย “ลีน่าเป็นไงบ้าง”

“นอนพักที่ห้องในโรงแรมแล้ว เดี๋ยวเสร็จธุระทั้งหมดค่อยพากลับบ้าน”

“ดีเหมือนกัน ทางนี้ฉันคุยกับเฮียสามแล้วเขาจะจัดการเรื่องทั้งหมดเองเราไม่ต้องห่วง แล้วนี่ก็แจ้งความไว้แล้วให้ตำรวจเป็นคนสืบเรื่องทั้งหมด”

“สืบ? หมายความว่ายังไง มันไม่ใช่อุบัติเหตุหรอกหรือ”

“ไม่ใช่...มีคนตัดสายเบรก” คำตอบนั้นทำเอาตัวมีนแข็งทื่อ เขาคิดถึงสาเหตุที่อลินาจะถูกปองร้ายไม่ได้เลยนอกจากว่า...เรื่องมันเกิดจากเขา

“คุณรตี...” มีนกล่าวออกมาเพียงแผ่วเบา ทำให้พัชระเหลือบมองก่อนจะทำสีหน้าเหมือนครุ่นคิด

“นี่ต้นเหตุจากนายงั้นเหรอ? มีน...”

ชายหนุ่มพยักหน้ารับ ถอนหายใจเหมือนเหน็ดเหนื่อยหนักหนา จนพัชระแสยะยิ้มเหมือนเยาะมากกว่าจะจริงใจ

“ฉันเคยบอกแกไปแล้ว สุดท้ายเป็นเป็นยังไงล่ะตอนนี้คนที่แกรักก็มาเจ็บตัวเพราะแก ตกลงยังอยากแก้แค้นอีกไหม ฉันอยากรู้จริงๆ ว่าถ้าสองแม่ลูกนั่นแพ้แล้วแกจะรู้สึกดีขึ้นอย่างนั้นหรือ พ่อแกจะฟื้นกลับมาได้อย่างนั้นหรือเปล่า ไม่เลย...คนเราไม่สามารถแก้ไขอดีตได้หรอก มีแต่ปัจจุบันเท่านั้นแหละมีน แกทำปัจจุบันนี้ให้มันดีหรือยังล่ะ” ถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนที่จะกล่าวต่อหลังร่ายยาวด้วยความโกรธสุดที่จะยับยั้งได้ “ถ้าแกยังแก้ปัญหาพวกนี้ไม่ได้หรือยังคิดที่จะแก้แค้นอีกละก็...เลิกยุ่งกับน้องสาวฉัน แล้วจะเดินไปหานรกที่ไหนก็เรื่องของแก” ว่าจบก็หุนหันเดินจากไป มีนไม่มีคำอธิบายใดๆ เพราะมันเป็นเรื่องจริง เขาไม่มีข้อแก้ตัวอีกแล้ว



พัชระเข้าไปที่บ้านพชรเทพหลังจากกลับมาถึงกรุงเทพฯ คุณพิมพิกาและธนาดุลนั่งฟังสิ่งที่ลูกชายเล่าในห้องนั่งเล่นของบ้าน ทั้งคู่ได้แต่เงียบครุ่นคิดกับเหตุการณ์ดังกล่าว สีหน้าของรัฐมนตรีธนาดุลเคร่งเครียดฉับพลันที่รู้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นอาจจะไม่ใช่อุบัติเหตุ

“พ่อจะให้คนสืบให้แน่ใจอีกครั้งว่าตกลงเป็นคนของคุณรตีแน่หรือเปล่าที่มากลั่นแกล้งลีน่า”

“ขอบคุณครับ”

“แล้วนี่อาการแม่คนนั้นเป็นยังไงบ้างล่ะ” น้ำเสียงที่เอ่ยถึงอลินาค่อนข้างห่างเหินแต่คุณพิมพิกาก็ยังมีกะใจเอ่ยถึง

“ก็ไม่เป็นอะไรมากครับ ตรวจหมดแล้วยังไม่มีอะไรน่าห่วง ตอนนี้ก็นอนพักอยู่ที่ห้อง มีนเขาคอยดูแลอยู่ไม่ห่าง”

“ตกลงว่าคู่นี้เขารักกันจริงๆ เหรอ”

“ก็...เอ่อ...มีนกับลีน่าเคยเจอกันมาแล้วที่เมืองนอก เขาชอบกันตั้งแต่อยู่ที่โน่นแล้วครับแต่ว่ามีนเจอเรื่องคุณพ่อเสียเลยต้องกลับมาก่อนแต่ตอนกลับดันไม่ได้บอกลีน่าไว้เลยกลายเป็นว่าเกิดเรื่องเข้าใจผิดกัน พอมาเจอกันอีกครั้ง ลีน่าทำศัลยกรรมใหม่หน้าก็เปลี่ยน มีนเลยไม่รู้ว่าเป็นคนเดียวกันครับ แต่พอรู้ทั้งคู่เลยปรับความเข้าใจกันจนกลับมาคบกันใหม่”

“แปลกดีนะ อย่างนี้สินะเขาถึงเรียกว่าคู่กันแล้วไม่แคล้วกันจริงๆ” พิมพิกาว่าแล้วก็นึกได้ว่าตัวเองปั้นหน้าไม่ชอบอลินาอยู่แล้วจึงทำเป็นเฉยเหมือนไม่ได้กล่าวอะไรออกมาทำให้พัชระลอบยิ้ม

“นั่นสิครับ ผมถึงอยากให้แม่สนับสนุนพวกเขามากกว่า”

“พัชไม่ต้องยุ่งเรื่องนี้แล้ว เดี๋ยวพ่อจัดการเอง ถ้าเป็นจริงอย่างที่ลูกพูด...คุณรตีเห็นจะอยู่ยากสักหน่อย”

“ได้ยินว่าเธอเป็นคนรักลูกสาวมาก แล้วมีนก็ดันไปทำร้ายเธอก่อนด้วย ผมว่าคนของเราก็ผิด”

“ใช่...มีนก็ทำตัวไม่ถูกเหมือนกันแต่ลีน่าไม่เกี่ยวกับหนี้แค้นของพวกเขานี่ เธอไม่ใช่หมากแต่เป็นคนมีเลือดเนื้อมีจิตใจ พ่อคงไม่ยอมให้ใครมาทำให้ลูกสาวพ่อเป็นแค่หมากในเกมชีวิตหรอกนะ”

“ผมเองก็ยื่นคำขาดมีนไปแล้วเหมือนกันว่า ถ้ายังรักยังชอบลีน่าอยู่ก็ให้หยุดแผนการบ้าๆ นั้นเสีย”

“ดีมาก พัชทำได้ดีมากจริงๆ สมแล้วที่พ่อให้ลูกดูแลน้อง”

“ผมแค่ทำตามหน้าที่”

“แต่ลูกทำได้ดีมาก”

พัชระไม่ตอบรับอะไรอีก เมื่อเห็นสายตาค้อนตวัดของผู้เป็นแม่ส่งมาให้ทั้งพ่อและลูก เธอยกน้ำชาขึ้นจิบด้วยท่าทางหมั่นไส้ผู้ชายสองคนในห้อง ส่วนรัฐมนตรีธนาดุลยังคงทำหน้าเคร่งขรึมต่อไป



ในห้องทำงานของผู้บริหารบริษัทเรียลเอสของรตี เจ้าของบริษัทยังคงนั่งจิบกาแฟรอคอยแขกที่จะเข้ามาหา มีนโทรศัพท์เข้ามานัดพบเธอตั้งแต่เย็นวาน เรื่องนี้กลายเป็นสิ่งที่สร้างความประหลาดใจให้เธออย่างมาก ปกติแล้วมีนไม่เคยเอ่ยทักเธอก่อนหรือแม้กระทั่งการพูดคุยนอกจากฉะ ปะทะคารมกันแล้ว เขาก็ไม่เคยพูดอะไรที่มันรื่นหูนัก

ตามเวลานัดมีนเดินทางมาถึง เขายกมือขึ้นไหว้ทักทายนั่นยิ่งทำให้ม่ายสาวนิ่วหน้า ชายหนุ่มไม่เคยแสดงพฤติกรรมเคารพเธอเลยตั้งแต่เกิดเรื่อง

“เธอมีแผนอะไรอีกหรือเปล่า” รตีอดไม่ได้ที่จะไต่ถาม ด้วยความระแวง ชายหนุ่มยิ้มบาง นึกสงสัยว่าเขาทำให้หญิงม่ายระแวงขนาดนี้เชียวหรือ

“เปล่าครับ ผมแค่มาสงบศึก”

“หมายความว่ายังไง สงบศึก? เมื่อเช้าฉันยังเห็นลิษาบอกว่ามีนัดกับเธออยู่เลย เล่นแผนให้ฉันตายใจหรือยังไง”

“ผมไม่มีแผนอีกแล้ว ตั้งแต่คุณทำให้อลิสเจ็บ”

รตีแสยะยิ้ม มือที่ถือแก้วชานั้นวางลงบนโต๊ะ ตวัดสายตามองชายหนุ่มอีกครั้ง “คงเป็นกรรมตามสนองมากกว่า”

มีนชะงักกึก ใจนั้นเริ่มฉุนกับคำพูดของอดีตแม่เลี้ยง “ถ้ากรรมมันจะตามสนองคงไม่ใช่ฝ่ายผมมั้งครับ เอาเถอะวันนี้ผมไม่ได้มามีเรื่อง แต่อยากยุติสิ่งที่เรามีปัญหาค้างคากันมานาน ผมจะหยุดทุกอย่าง จะบอกความจริงกับลิษาแต่ขอแค่คุณอย่ายุ่งกับอลินาเป็นพอ ได้หรือเปล่า”

รตีขมวดคิ้วมุ่น แทบจะอยากฟังซ้ำรอบที่สอง เธอยืดตัวตรงจ้องมองดวงตาคมของคนตรงหน้า ไม่มีเค้าของความโป้ปดเลยสักนิด “ทำไมอยู่ดีๆ เธอถึงได้หยุดล่ะ เมื่อไม่กี่วันก่อนหน้านี้เธอยังไม่ได้มีทีท่าแบบนี้นี่”

ชายหนุ่มถอนใจก่อนจะกล่าวอะไรออกมา “เพราะผมไม่อยากเสียสิ่งที่รักไปเพราะความแค้นในใจ แค่ปล่อยให้มันเผาใจตัวเองก็มากเกินพอแล้ว ไม่อยากให้มันทำให้ชีวิตผมทุกข์เพราะมันอีก”

“ถ้าคิดได้อย่างนั้นก็ดี ฉันไม่ใช่คนเริ่มเกมนี้นะแต่เป็นเธอต่างหาก มีน”

“ครับ ผมยอมรับ แล้วก็จะจบเกมนี้ด้วยตัวผมเอง หวังว่าคุณจะรักษาสัญญาไม่ยุ่งเกี่ยวกับอลินาอีก”

“ได้ฉันรับปาก” รตีรับคำ เธอเองก็เป็นคนรักษาสัญญาเช่นกัน

“ผมคงต้องไปแล้ว เดี๋ยวจะได้เวลาที่ผมนัดคุณลิษไว้ ผมทำตามสัญญาเช่นกัน” มีนกล่าวจบก็ลุกขึ้นเดินออกไปจากห้องทำงานของรตี เธอโล่งอกอย่างบอกไม่ถูกที่มีนตัดสินใจที่จะหยุดทุกอย่าง แม้ว่าใครจะมองว่าประเด็นที่มีนทำก็แค่ทำให้ลูกสาวของเธอลุ่มหลง แต่สำหรับคนเป็นแม่แล้ว...ลูกกำลังจะเดินไปสู่หนทางแห่งความเจ็บปวดเธอคงไม่มีทางปล่อยให้มันเป็นไปอย่างแน่นอน เธอจะต้องทำทุกวิถีทางให้ ลิษา กลับมาอยู่ในอ้อมกอดของเธออีกครั้ง



ลิษานั่งแกร่วรอมีนมาเกือบสิบนาที ปกติเธอไม่เคยมานั่งรอใครก่อน ผู้ชายคนนี้เป็นคนแรก หลายครั้งที่เธอนัดเขาแล้วต้องมานั่งรอ เธอเดาว่านั่นคงเป็นการทดสอบของเขา เมื่อก่อนเธออาจจะไม่ได้ฉุกคิดเรื่องดังกล่าวจนกระทั่งได้เห็นความจริงทั้งหมด เขาคิดว่าจะหลอกเธอได้ตลอดไปอย่างนั้นหรือ คนอย่างลิษา ไม่เคยถูกใครทิ้ง มีแต่จะทิ้งผู้ชายคนนั้นก่อน เมื่อเห็นร่างสูงของมีนเดินเข้ามาในร้านอาหาร เธอยืดตัวตรงเหมือนตระเตรียมความพร้อมทุกอย่างไว้ เขาก้าวเข้ามาใกล้ก่อนจะเลื่อนเก้าอี้ตรงกันข้ามออกเพื่อทรุดตัวลงนั่ง

“พี่มีนโทร.มานัดษา มีเรื่องอะไรหรือคะ แต่ก่อนที่พี่จะพูดอะไร ษาเองก็มีเรื่องที่จะพูดกับพี่เหมือนกัน”

ชายหนุ่มเลิกคิ้ว ก่อนจะพยักหน้ารับ “เชิญคุณษาก่อนเลยครับ”

“ษาสืบเรื่องของพี่มาแล้ว พี่โกหกษา ผู้หญิงคนนี้เป็นแฟนพี่เหรอคะ” เธอกล่าวพร้อมกับยื่นรูปให้ชายหนุ่มดู มีนเหลือบมองเพียงเล็กน้อยก็พอจะทราบว่านั่นคือ อลินา เขาพยักหน้ารับ

“ครับ พี่ไม่ปฏิเสธ”

หญิงสาวกำหมัดแน่นบนหน้าตัก “ไม่คิดจะอธิบายหรือหาคำแก้ตัวหรือคะ ถ้าพี่ทำอย่างนี้ ษาจะขอเลิกกับพี่นะคะ”

“ไม่อธิบายหรอกครับตามนั้น พี่รักอลิสมานานแล้ว เพิ่งมาคบจริงจังเมื่อไม่นานมานี้เอง ส่วนเรื่องของเรา...เราไม่ได้เป็นอะไรกันนี่ พี่ไม่เคยพูดสักคำว่าเราเป็นแฟนกัน” สิ้นคำพูดนั้นน้ำในแก้วตรงหน้าของลิษาก็สาดเข้าที่ใบหน้าของเขาทันที

ลิษาเม้มริมฝีปากแน่น ในมือยังถือแก้วเปล่าด้วยอาการสั่นด้วยความโกรธ “ไม่เคยพูด!! นี่หาว่าฉันคิดไปเองงั้นเหรอ ฮึ!! สุดท้ายก็เป็นเรื่องหลอกลวงทั้งหมดสินะ ตั้งใจตั้งแต่แรกใช่ไหม”

มีนไม่ปฏิเสธอีกครั้ง เขายอมรับทุกข้อกล่าวหา ยอมให้เธอทุบตีหรือทำร้ายอย่างไรก็ได้ให้เธอสมใจ แล้วเลิกแล้วต่อกันไป

“พี่คิดว่าตัวเองหลอกได้คนเดียวใช่ไหม คิดใหม่ได้เลยนะ พี่เองก็โดนหลอกเหมือนกันนั่นแหละ รู้ไหมยายผู้หญิงคนนั้นน่ะหลอกพี่อยู่ เธอรับเงินจากเพื่อนพี่เพื่อหลอกให้พี่รักแล้วหักอก ทดสองว่าเพลย์บอยตัวพ่อจะรักใครเป็นหรือเปล่า...ดูท่าทางจะสำเร็จเสียด้วย ผู้หญิงคนนี้ต่างหากที่เจ๋งจริงไม่ใช่พี่”

“เธอพูดเรื่องอะไรน่ะ”

“ไม่เชื่อหรือคะ ไม่เชื่อก็ลองถามเพื่อนพี่ดูสิ คนที่ชื่อชารีน คงนึกอยากทดลองโปรแกรมหาคู่ที่ตัวเองทำอยู่ละมั้ง...ส่วนวันนี้ษาเลี้ยงละกัน เผื่อว่าพี่จะเก็บเงินไปไว้จ้างยายผู้หญิงคนนั้นให้เป็นแฟนต่อไป” ลิษายิ้มเหยียดอีกครั้งก่อนจะเดินสะบัดออกไปจากร้านที่ตอนนี้คนหันมาสนใจทั้งคู่หลังเหตุการณ์สาดน้ำ

มีนเหมือนคนหมดแรงเอาดื้อๆ มันจริงหรือเปล่า...จริงหรือที่อลินาจะรับจ้างจากชารีนเพื่อหักอกเขา อย่างที่เขาเคยทำไว้กับผู้หญิงหลายคนมาแล้ว...กรรมตามสนองเขาสินะ...กรรมที่เขาปวดร้าวในอกเพราะเธอคือคนที่เขารักจริงๆ สิ่งที่เธอแสดงออกทั้งหมด นั่นคือการเสแสร้งอย่างนั้นหรือ!!!!



ณิชนิตา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 4 ม.ค. 2556, 09:42:17 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 4 ม.ค. 2556, 09:42:17 น.

จำนวนการเข้าชม : 1752





<< บทที่ ๑๙ เธอเจ็บฉันเจ็บ   บทที่ ๒๑ ความจริงที่ปวดใจ >>
nutcha 4 ม.ค. 2556, 15:03:33 น.
อลิสจะแก้แค้นมีนจริงเหรอ


ณิชนิตา 4 ม.ค. 2556, 15:49:49 น.


หมูบูลิน 4 ม.ค. 2556, 16:55:36 น.
งานเข้าแล้วไงล่ะนายมีน


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account