^วันอยากเขียน^
รวมเรื่องสั้น ฉบับลิขิตราค่ะ ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว จับเรื่องสั้นมารวมกันไปเลยดีกว่า
Tags: เรื่องสั้น ลิขิตรา
ตอน: บางบทตอน...ละครรัก
บางบทตอน...ละครรัก
...เป็นไปได้ไหม ถ้าผมจะรู้จักคุณ แบบที่เป็นคุณ...
...ง่าย ๆ นะครับ ขอโอกาสให้ผมจีบคุณได้ไหม???
คำถามง่าย ๆ ที่ปรากฏบนหน้าจอ คล้ายข้อความที่เธอเคยพิมพ์ในนิยายชวนฝัน เรื่องราวของพระนางที่น่ารักชวนให้หัวใจเต้นผิดจังหวะ ใครจะคิดว่าเวลานี้กำลังเกิดขึ้นจริงตรงหน้าเธอ
หญิงสาวกระพริบตาปริบ ๆ ก่อนถอนใจเบา ๆ
เขาทำตามเงื่อนไขของเธอได้อย่างน่าประหลาดใจ...ครั้งหนึ่งเธอเคยบอกเพื่อนรัก จะให้โอกาสคนที่กล้าเดินมาขอโอกาส
แต่ไม่...ไม่ควรเลย วันนี้เธอทำได้แค่ถอนใจ...เกมจบแล้ว...
เธอวางโทรศัพท์ในมือลงบนโต๊ะอย่างไม่ใยดี แล้วเดินไปล้มตัวลงนอนพัก หลังผ่านงานหนักมาค่อนวัน สายตาตวัดผ่านนาฬิกาปลุกหลังเล็กที่หิ้งข้างเตียง เธอมีเวลาอีก 3 ชั่วโมง ก่อนจะตื่นไปรับเวรอีกครั้ง
หน้าจอโทรศัพท์ปรากฏข้อความยาวเหยียดจากคนคนเดิมที่เพียงส่งมาถามหาคำตอบ ปนกับคร้องขอโอกาสที่จะพูดคุยกัน เธอแค่กดเปิดพอให้อีกฝ่ายได้รู้ว่าเธอเห็นและอ่านทุกข้อความแล้ว ก่อนจะปิดโปรแกรมสนทนาโดยไร้คำตอบ และแทบทันทีข้อความก็ถูกส่งกลับมาอีกครั้ง
...นะครับ เรายังเป็นเพื่อนกันได้นี่...
เธอกัดริมฝีปากเบา ๆ ก่อนกดเปิดโปรแกรม ไล่นิ้วพิมพ์ข้อความตอบ
...ก็ได้ค่ะ...
...แต่กฎของเพื่อนคือไม่จีบเพื่อนใช่ไหมคะ...
เธอไม่พร้อมกับความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกว่านั้น หญิงสาวตั้งป้อมหนาแน่นฝังตัวเองอยู่หลงกำแพงแห่งความหวาดกลัวมาตลอด นับแต่วันที่ความรักครั้งก่อนสลายกลายเป็นเพียงความทรงจำ
เธอรู้ว่าตัวเองอ่อนไหวแค่ไหนนับจากวันนั้น บ่อยครั้งเธอจึงเลือกกรองคนที่เข้ามาด้วยการบีบคอถามง่าย ๆ ว่าเขาคงไม่ได้คิดจะจีบเธออยู่ใช่ไหม ถ้าใช่เธอก็แค่อัญเชิญเขามาเป็นพี่ เป็นเพื่อน หรือไม่ก็เดินออกไป ถ้าไม่ เธอก็โคลงศีรษะรับ แล้วเป็นเพื่อนกันต่อ
...เอ่อ...มีกฏนี้ด้วยเหรอครับ
...ใส่เอาไว้ไม่ได้เหรอคะ
...ละไว้ก่อนแล้วกันนะครับ
หญิงสาวคลี่ยิ้มบาง อะไรบางอย่างในอกไหวเบา ๆ เป็นสัญญาณอันตราย เธอกำลังจะติดกับดักของตัวเอง
...ละไว้ถึงเมื่อไรล่ะคะ
...ไม่มีกำหนดได้ไหมครับ
เธอถอนใจเบา ๆ ก่อนจะหลุบตาลงมองข้อความบนจอโทรศัพท์
...ผมมีเรื่องราวมากมายอยากจะแชร์ ถ้าคุณไม่รังเกียจ ไว้จะเล่าให้ฟังนะครับ
หญิงสาวกระตุกยิ้มเบา ๆ ที่มุมปาก ก่อนไล่นิ้วกดเบา ๆ
...เราเป็นคนเขียนหนังสือ การมีเรื่องราวใหม่ ๆ มาให้เขียนเล่นก็ไม่น่าจะแย่สักเท่าไร
...โอเคครับ ไว้ไปนั่งในร้านกาแฟสักร้าน แล้วผมจะเล่าให้ฟัง โอเคไหม...
เธอไม่ได้ตอบ เพียงกดปิดหน้าจอแล้วหย่อนโทรศัพท์ลงในกระเป๋า ถอนใจเบา ๆ เมื่อหันไปมองถนนด้านนอกหน้าต่างรถ สายฝนโปรยลงมาเป็นเม็ดเล็ก ๆ เกาะที่ข้างหน้าต่าง อากาศชื้นเย็นที่เธอเกลียดนักทำให้หัวใจยิ่งเหงาเป็นทวีคูณ
คงไม่แย่เท่าไร หากจะมีใครลองของมาเล่นเกมรักกันสักกระดาน
ร่างสูงของผู้ป่วยที่เดินเข้ามานั่งลงตรงเก้าอี้หมุนหน้าจอคอมพิวเตอร์ซึ่งจัดวางไว้สำหรับแพทย์ทำให้หญิงสาวหลุดอมยิ้มจาง ๆ บนใบหน้า คล้ายภาพวันก่อนเมื่อไม่นานมานี้จะย้อนกลับมาอีกครั้ง
เธอเคยเดินเข้ามาในห้องตรวจแล้วพบกับคนไข้ตัวโตที่เดินเข้ามานั่งตรงเก้าอี้หมุนหน้าจอคอมพิวเตอร์นั้น คราวนั้นเธอยืนนิ่ง ปล่อยให้พี่พยาบาลที่อยู่ใกล้ ๆ ร้องบอกว่านั่นเป็นที่ของหมอ แล้วเขาก็ลุกเดินไปนั่งที่เก้าอี้อีกตัวริมผนังอย่างเขิน ๆ
วันนั้นเธอละเมิดกฎของตัวเอง ปกติเธอไม่เคยให้เบอร์ติดต่อกับผู้ป่วยนอกเหนือจากรอยยิ้มบาง ๆ และคำบอกให้ติดต่อมาทางโรงพยาบาล แต่ด้วยความรู้สึกผิดเบา ๆ ที่ต้องส่งตัวเขาไปต่อที่โรงพยาบาลอื่น เพราะแพทย์เฉพาะทางกระดูกและข้อที่เข้าเวรติดผ่าตัดยาวจนไม่สามารถลงมารักษาอาการข้อนิ้วเคลื่อนให้เขาได้ ร่วมกับฟิล์มสวย ๆ ที่เธอเก็บภาพไว้ทำรายงานเคส หญิงสาวจึงไม่ได้ปฏิเสธเมื่อเขาร้องขอ
'...ขอไลน์ไอดีได้ไหมครับ'
เธอนิ่งมองหน้าเขาเพียงครู่ อีกฝ่ายก็รีบบอก 'ถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไรฮะ แต่...เผื่อมีอะไร จะขอถาม'
แล้วเธอก็เผลอมอบช่องทางติดต่อให้เขาอย่างง่ายดาย
พระเจ้าต้องแกล้งเธอแน่ ๆ บทสนทนายาวเหยียดในเวลาแค่ 2 วันทำให้เธอนึกขันที่ตัวเองพูดคุยกับคนเพิ่งรู้จักได้ขนาดนี้ แต่ความไม่มั่นใจปนหวาดกลัวทำให้เธอคิดอะไรตื้น ๆ ออกมา
รอยยิ้มบาง ๆ ผุดขึ้นที่มุมปาก...บางที...มันอาจไม่แย่เท่าไร ถ้าเราจะลองรักใครอีกสักครั้ง...
ความรู้สึกเหมือนผีเสื้อกระพือปีกอยู่ในอกเป็นอะไรที่ชวนเสพติด โดปามีนในสมองหลั่งออกมาสร้างความสุข ความพอใจ และชวนให้ลิ้มลองซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างไม่รู้เบื่อ เธอเรียกร้องหา และเริ่มๆ จะเสพติดอย่างจริงจัง
'2 อาทิตย์...พอไหมคะ'
'ครับ ?'
'สำหรับการที่คุณจะเบื่อ และหายไปเอง' หญิงสาวพิมพ์ตอบอย่างนึกขัน คนที่คุ้นเคยกับเธอย่อมรู้ ตรรกะเธอไม่เหมือนคนอื่น เมื่อไรที่เธอเริ่มถูกใจกับอะไรหรือใคร นางฟ้าตัวน้อย ๆ จะเปลี่ยนเป็นนางมารไปในทันที
'ทำไมผมต้องหายไป'
'ไม่รู้ค่ะ...เราไม่ชอบอะไรที่มันยืดเยื้อ ให้เวลา 2 อาทิตย์กับการที่คุณจะลากเราไปในจุดที่คุณต้องการ หรือไม่อย่างั้นก็...ถอยมายืนตรงจุดที่เราต้องการ'
เกมส์เริ่มจากวันนั้น บทสนทนาโต้ตอบทั้งทางโปรแกรม ก้าวไปจนถึงเสียงที่ผ่านโทรศัพท์ ช่องทางการสื่อสารแทบทุกประเภท กระทั่งพบกัน
หญิงสาวไม่เคยมั่นใจกับความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่เขายังยืนยันชัดเจน
...ผมแค่อยากดูแลคุณ...
...ไหน ๆ ก็อุตส่าห์ได้รู้จักกันทั้งที่ จะไม่ให้โอกาสดูแลกันหน่อยหรือครับ...
เธอได้แต่นั่งขำในใจ เธอเป็นหมอ แล้วเขาเป็นใครถึงคิดจะมาดูแลกัน เหอะ...น่าตลกไหมล่ะ
แต่น้ำหยดลงหินทุกวัน หินมันก็กร่อน เมื่อวันหนึ่งเขาเงียบไป กลับเป็นหญิงสาวที่นั่งย้ออ่านบันทึกข้อความซึ่งเคยพูดคุยกันซ้ำแล้วซ้ำเล่า
'เราตกหลุมรัก...การอยู่ใกล้ ๆ เขา' เธอบอกเพื่อนรักเช่นนั้น ขณะที่ทุกคนเฝ้าเตือนถึงผู้ชายที่เดินเข้ามาในชีวิตด้วยอาการแปลกประหลาดเช่นนี้
เธอยังรั้น เล่นเกมส์กับเขาจนถึงที่สุด จนครบสองอาทิตย์
'...พรุ่งนี้แล้ว...เราตกลงกันว่าอย่างไรนะคะ'
'จะยอมคบกับพี่'
'หืม...ใช่เหรอ อย่ามามั่วนะ'
'ใช่...จริง ๆ'
หญิงสาวนั่งขัน ย้อนกลับไปอ่านข้อความที่ตกลงกันไว้แล้วเธอก็ยอมรับว่ามันแปลความหมายได้สองทาง เพราะประโยคพูดคุยที่ถูกคั่นสลับกันไปมาจนไม่ต่อเนื่อง ถือเป็นการเล่นตลอกของเทคโนโลยีการส่งข้อความ
แล้วนางฟ้าตัวน้อยก็ถูกแทนที่ด้วยนางมาร
'ตลกแล้วค่ะ...หนูไม่ยื่นเงื่อนไขง่ายขนาดนั้นหรอก'
'พี่รู้จักหนูดีเท่าไรเชียว คิดจะมาจับหนูใส่ปลอกคอ'
นั่นล่ะเธอ...นางมารร้ายของผู้ชายที่คิดจะเดินเข้ามาในชีวิต
เขาเงียบหายไปครู่ใหญ่ ก่อนตอบกลับมา 'ก็แล้วแต่...พี่คงเป็นได้แค่เกมส์ของหนูสินะ'
ถ้อยคำบีบหัวใจทำให้เธอนิ่งงันไปครู่ใหญ่ ก่อนจะถอนใจเบา ๆ วางโทรศัพท์ลงแล้วก้าวไปทิ้งตัวนอนบนเตียงคล้ายไม่ใส่ใจ
...มันไม่ได้ทรมานและลึกซึ้งขนาดนั้นหรอก...
นั่นคือคำที่เธอเพียรบอกตัวเองเสมอมา
'พี่คิดยังไงกันแน่คะถึงเดินมาตรงหน้าหนูอย่างนี้' คำถามที่เธอเคยเอ่ยกับเขาก้องอยู่ในหัวแม้หลับตานอน
'พี่เชื่อในตัวหนู และอยากเห็นความศรัทธาในรักของหนู'
พระเจ้า...มีดที่เธอยื่นให้เขากำลังกลับมาทำร้ายตัวเธอเอง หญิงสาวกำลังเสพติดกับความรัก หลงอยู่ในวังวนประหลาด จนเธออยากจะยื่นกรงให้เขาจับเธอเข้าไปขังไว้
แต่ความสุขไม่เคยยั่งยืน ความหวานซึ้งที่ชวนละลายบางครั้งก็เป็นแค่คำหลอกลวง เมื่อเธอติดบ่วงตัวเองและเผลอก้าวไปหาเขา คนที่คิดจะก้าวมาตรงหน้าเธอกลับเดินออกห่าง
เขาทำตามเงื่อนไขข้อที่สองของเธอได้โดยไม่ตั้งใจ
...ถ้าเราพอใจ ก็ให้เขายืนอยู่ตรงนั้นล่ะ ไม่ต้องวิ่งตามเราหรอก เราจะเดินเข้าไปเอง...
เธอเคยบอกเพื่อนอย่างนั้นถึงนิยามความรัก และคนรักที่เธอรอ
แต่การก้าวเข้าไปบ่อย ๆ ก็เหนื่อย เมื่อเธอหยุด เขาก็ก้าวเข้ามา มันเป็นเกมส์กึ่งผลักกึ่งดึงที่น่าตื่นตาตื่นใจ จนเธอแทบไม่ได้หันไปมองใครที่พยายามก้าวเข้ามาอีกเลย
หญิงสาวเล่นเกมส์อยู่นาน ก่อนที่เธอจะรู้สึกถึงเซนส์บางอย่างที่ผิดปกติ
เขาหายไปในบางช่วงเวลา และมีผู้หญิงมากมายเหลือเกิดในคอนแทคลิสท์
เธอรู้นานแล้วว่าผู้ชายคนนี้เจ้าชู้และไว้ใจไม่ได้ จึงไม่เคยกล้าพอจะไว้ใจ
แต่เขาเคยบอก 'มองผมเป็นสีเทา ๆ ได้ไหม อย่าให้เป็นสีดำอย่างนั้นเลย'
'พี่ยอมรับว่าเจ้าชู้ แต่พี่แค่ตามหาคนที่ใช่'
'แล้วเมื่อไรจะหยุดคะ' เธอเคยถามตรงไปตรงมา
'เมื่อพี่เจอคนที่ใช่ และพร้อมจะเชื่อในตัวพี่'
หญิงสาวได้แต่คลี่ยิ้ม เธอไม่เคยพร้อมที่จะเชื่อในตัวเขา บทเรียนเรื่องความรักครั้งก่อนทรมานจนเธอไม่กล้าจะเชื่อใครอีก แม้มันจะเป็นความทรงจำที่สวยงาม แต่ก็ไม่หวานพอให้เธอกล้ามั่นใจในตัวใคร
โดยไม่ได้ตั้งใจ ชื่อของผู้หญิงคนหนึ่งปรากฏขึ้นบนกระดานพูดคุยหน้าเฟซบุ๊คของเขา เธอโยนหินถามทางโดยไม่ได้หวังคำตอบ
'แฟนเก่าครับ...'
เขาตอบง่าย ๆ 'รู้จักด้วยหรือ'
'พี่เขาคงไม่รู้จักหนู แต่หนูรู้จักเขาแล้วล่ะค่ะ' เธอตอบไปอย่างไม่ใส่ใจนัก
แล้วคืนนั้นเขาก็โทร.มา เพียงเพื่อจะบอกความจริงบางอย่าง
“หนูรู้จักพี่เขาได้ยังไงคะ”
“หนูเคยบอกแล้วว่าอะไรที่หนูอยากรู้...ไม่ยากเลยที่จะหาคำตอบ” เธอตอบเป็นกลาง ๆ ด้วยความเป็นลูกสาวคนเดียวของข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ด้วยความเป็นหลานสาวที่รักของนักธุรกิจชั้นนำ ด้วยความเป็นเพื่อนรักของบรรดาสาว ๆ ในตระกูลที่หลายคนรู้จักดี ไม่ยากเลยที่เธอจะร้องหาประวัติ หรือกระทั่งเรื่องราวในชีวิตของใครสักคน
ความรักครั้งก่อนเคยจบลงง่ายดาย เพียงเพราะคนที่รักเธอทั้งหลายสรรหาข้อมูลแทบทุกอย่างของผู้ชายคนนั้นมามอบให้เธอ
ครั้งนั้นหญิงสาวเลือกเดินออกมาทันที ส่วนหนึ่งเพราะเขาไม่คู่ควรแก่ความรักของเธอ อีกส่วน...เธอไม่อยากทำร้ายความเป็นส่วนตัวของเขา
ครั้งนี้เธอจึงระวังยิ่ง ไม่ให้ใครก้าวล่วงความเป็นส่วนตัวของเขา เธอยินดีจะเจ็บหากต้องเสี่ยงอีกครั้งด้วยตัวเองโดยไม่มีข้อมูลใดในมือ ก้าวเข้าไปทำความรู้จักกับเขา อ่านหนังสือเล่มนี้ช้า ๆ โดยไม่คิดเปิดหาเงื่อนงำที่ซ่อนอยู่
“พี่คบกับเขา...และเราเพิ่งเลิกกันเมื่อสิ้นปี”
“มันหลังจากที่พี่จีบหนู...”
“ครับ แต่ตอนที่พี่เจอหนู เราทะเลาะกันอยู่แล้ว แล้วพี่ก็เริ่มรู้สึกว่าเขาไม่ใช่”
เธอนิ่งงัน ได้แต่รับฟัง “พี่คิดว่าหนูอาจจะใช่ พี่ชอบเวลาหนูยิ้ม พี่อยากนั่งมองหน้าหนู แต่บางครั้งหนูก็ทำให้พี่กลัว เวลาหนูเดินหนีพี่ไปมันทำให้พี่รู้สึกไม่มีค่าและคิดว่าหนูหยิ่ง”
หญิงสาวได้แต่เหยียดริมฝีปากบาง ๆ อย่างหยันตัวเอง เขาคิดว่าเธอเป็นใครกัน ด้วยจุดที่เธอยืนอยู่มันเสิรมให้อัตตาในตัวเธอมันพุ่งทะยานสูงติดเพดานจนหลายครั้งหลายหนเธอเชิดหน้าขึ้นคล้ายไม่แยแสต่อคนรอบข้าง หลายคนว่าเธอร้าย เธอหยิ่ง ความจริงคือ...เธอไม่รู้จะจัดการกับความสัมพันธ์อย่างไร
วิชาแพทย์ทำให้เธอรู้จักโรคมากกว่าโลก เธอเปราะบาง อ่อนต่อโลก และซ่อนตัวเองอยู่หลังกำแพงน้ำแข็งแห่งความเย็นชาเพื่อจะไม่ต้องเผชิญหน้ากับความวุ่นวายของชีวิต
ความอยากรู้อยากเห็น ความอ่อนไหวลางอย่างเท่านั้นพาเธอออกมาจากหลังกำแพงสูง
...เพื่อจะพบกับความเจ็บปวด...ซ้ำแล้วซ้ำเล่า...
“บางครั้งหนูก็ดูเหมือนจะใช่ แต่บางครั้งก็ไม่ใช่ แล้วพี่ก็รู้สึกว่าหนูไม่ใช่”
“อืม...เป็นคำปฏิเสธที่หวานจนหนูไม่รู้ว่าจะหัวเราะดีไหม”
“หนูตอบพี่ได้ไหมล่ะ ว่าพี่มีดีอะไรพอให้หนูรัก สักสามข้อ”
เธอหัวเราะ “หนูไม่รู้หรอกค่ะ...หูว่าหนูอาจไม่รู้จักี่เลย”
“นั่นไง หนูก็ตอบไม่ได้ เราไม่รู้จักกันดีพอ ที่พี่หายไปช่วงหนึ่ง พี่พยายามไปเคลียร์กับเขา แต่บางทีพี่ก็เหนื่อย พอพี่มาเจอหนู พี่ว่ามันไม่แฟร์ที่พี่จะใส่ปลอกคอหนูไว้ทั้งที่พี่ยังไม่เคลียร์ตัวเอง พี่ขอเวลาไปเคลียร์ทุกอย่าง แล้วถ้ามันจบแล้วจริง ๆ วันหนึ่ง ถ้าพี่เดินกลับมา หนูจะให้โอกาสพี่ได้ไหม”
หญิงสาวได้แต่นิ่งงัน เขายังกล้า...ขอโอกาส ทั้งที่มันไม่เคลียร์
...ว่ากันว่าผู้ชายเป็นเพศที่เห็นแก่ตัว มันอาจจะจริง
เธอไม่มีคำตอบให้เขา แต่เขากลับมีคำตอบให้เธอชัดเจนทีเดียว เมื่อภาพโพรไฟล์ในหน้าจอเว็บเพจส่วนบุคคลเปลี่ยนไปเป็นรูปคู่ แล้วหญิงสาวก็ได้แต่นั่งขันกับตัวเอง
คำตอบชัดเจนจนเธอได้คำตอบให้ตัวเองเช่นกัน
...เธออาจชอบเขาเข้าแล้วจริง ๆ...มันถึงได้เจ็บขนาดนี้
หญิงสาวถอนใจเบา ๆ
มันจบแล้ว เธอไม่มีสิทธิ์เดินเข้าไปตรงหน้าเขาอีกแล้ว
เธอกดโทรศัพท์ เมื่อได้ยินเสียงตอบ เธอก็บอกเขาเบา ๆ
“คำตอบชัดเจนแล้วล่ะค่ะ...รู้ไหม...ความผิดประการเดียวของพี่ที่มันใหญ่หลวงมากคือ พี่จีบหนู ทั้งที่ยังมีเขาอยู่ แต่ไม่เป็นไรหนูให้อภัย แค่โทร.มาเพื่อจะบอกว่า หนูคงไม่มีสิทธิ์เดินมาตรงหน้าพี่อีกแล้ว แต่หนูมีความสุขที่ได้อยู่ใกล้ ๆ พี่ ดังนั้นถ้าพี่เหนื่อย แล้วอยากจะเดินเข้ามา หนูอยู่ตรงนี้ ถ้ารอยยิ้มของหนูทำให้พี่รู้สึกดีขึ้นได้ หนูยินดีจะยิ้มให้พี่ แต่เรา...จะไม่จับมือเดินไปด้วยกันอีกแล้ว”
“ให้มันจบอย่างสวยงาม...เป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน อย่าได้เกินเลยกว่านั้น และหนู...จะไม่เดินไปตรงหน้าพี่อีก”
เพื่อนรักต่างไม่พอใจเมื่อเธอเล่าให้ฟัง ถ้อยคำที่เหมือนเว้นช่องให้เขาก้าวเข้ามานั้นอ่อนหวานเกินกว่าที่ผู้ชายร้ายกาจคนหนึ่งพึงจะได้รับ แต่เธอแค่ยิ้มบาง ๆ กลับมาเป็นนางฟ้าตัวน้อยที่เปราะบาง
“อย่างน้อย...ช่วงที่โดปามีนหลั่ง มันก็ยังเป็นความทรงจำที่สวยงาม”
...If u like my smile, i will smile for u. Not to make u love me, but to be your good memmory.
Please...just forget all of my evilness, remember how i am a good girl...
-------------
เขียนไปแล้วรู้สึกมันหลายฉากและยืดยาวจนเกือบเป็นนิยายได้
พยายามเล่าสั้น ๆ ให้พอได้เค้าเรื่องและข้อสรุป
ยิ้มหวานๆให้กับความรัก
ขอบคุณ ที่สอนให้เราเข้มแข็งขึ้น
ขอบคุณ ที่สอนให้เรารักคนที่รักเราได้มากกว่าเดิม
ขอบคุณ สำหรับเรื่องสั้นทีเราหาตอนจบไม่ได้มานาน
จุดนี้...พูดไม่ออก
มันจุก!
...เป็นไปได้ไหม ถ้าผมจะรู้จักคุณ แบบที่เป็นคุณ...
...ง่าย ๆ นะครับ ขอโอกาสให้ผมจีบคุณได้ไหม???
คำถามง่าย ๆ ที่ปรากฏบนหน้าจอ คล้ายข้อความที่เธอเคยพิมพ์ในนิยายชวนฝัน เรื่องราวของพระนางที่น่ารักชวนให้หัวใจเต้นผิดจังหวะ ใครจะคิดว่าเวลานี้กำลังเกิดขึ้นจริงตรงหน้าเธอ
หญิงสาวกระพริบตาปริบ ๆ ก่อนถอนใจเบา ๆ
เขาทำตามเงื่อนไขของเธอได้อย่างน่าประหลาดใจ...ครั้งหนึ่งเธอเคยบอกเพื่อนรัก จะให้โอกาสคนที่กล้าเดินมาขอโอกาส
แต่ไม่...ไม่ควรเลย วันนี้เธอทำได้แค่ถอนใจ...เกมจบแล้ว...
เธอวางโทรศัพท์ในมือลงบนโต๊ะอย่างไม่ใยดี แล้วเดินไปล้มตัวลงนอนพัก หลังผ่านงานหนักมาค่อนวัน สายตาตวัดผ่านนาฬิกาปลุกหลังเล็กที่หิ้งข้างเตียง เธอมีเวลาอีก 3 ชั่วโมง ก่อนจะตื่นไปรับเวรอีกครั้ง
หน้าจอโทรศัพท์ปรากฏข้อความยาวเหยียดจากคนคนเดิมที่เพียงส่งมาถามหาคำตอบ ปนกับคร้องขอโอกาสที่จะพูดคุยกัน เธอแค่กดเปิดพอให้อีกฝ่ายได้รู้ว่าเธอเห็นและอ่านทุกข้อความแล้ว ก่อนจะปิดโปรแกรมสนทนาโดยไร้คำตอบ และแทบทันทีข้อความก็ถูกส่งกลับมาอีกครั้ง
...นะครับ เรายังเป็นเพื่อนกันได้นี่...
เธอกัดริมฝีปากเบา ๆ ก่อนกดเปิดโปรแกรม ไล่นิ้วพิมพ์ข้อความตอบ
...ก็ได้ค่ะ...
...แต่กฎของเพื่อนคือไม่จีบเพื่อนใช่ไหมคะ...
เธอไม่พร้อมกับความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกว่านั้น หญิงสาวตั้งป้อมหนาแน่นฝังตัวเองอยู่หลงกำแพงแห่งความหวาดกลัวมาตลอด นับแต่วันที่ความรักครั้งก่อนสลายกลายเป็นเพียงความทรงจำ
เธอรู้ว่าตัวเองอ่อนไหวแค่ไหนนับจากวันนั้น บ่อยครั้งเธอจึงเลือกกรองคนที่เข้ามาด้วยการบีบคอถามง่าย ๆ ว่าเขาคงไม่ได้คิดจะจีบเธออยู่ใช่ไหม ถ้าใช่เธอก็แค่อัญเชิญเขามาเป็นพี่ เป็นเพื่อน หรือไม่ก็เดินออกไป ถ้าไม่ เธอก็โคลงศีรษะรับ แล้วเป็นเพื่อนกันต่อ
...เอ่อ...มีกฏนี้ด้วยเหรอครับ
...ใส่เอาไว้ไม่ได้เหรอคะ
...ละไว้ก่อนแล้วกันนะครับ
หญิงสาวคลี่ยิ้มบาง อะไรบางอย่างในอกไหวเบา ๆ เป็นสัญญาณอันตราย เธอกำลังจะติดกับดักของตัวเอง
...ละไว้ถึงเมื่อไรล่ะคะ
...ไม่มีกำหนดได้ไหมครับ
เธอถอนใจเบา ๆ ก่อนจะหลุบตาลงมองข้อความบนจอโทรศัพท์
...ผมมีเรื่องราวมากมายอยากจะแชร์ ถ้าคุณไม่รังเกียจ ไว้จะเล่าให้ฟังนะครับ
หญิงสาวกระตุกยิ้มเบา ๆ ที่มุมปาก ก่อนไล่นิ้วกดเบา ๆ
...เราเป็นคนเขียนหนังสือ การมีเรื่องราวใหม่ ๆ มาให้เขียนเล่นก็ไม่น่าจะแย่สักเท่าไร
...โอเคครับ ไว้ไปนั่งในร้านกาแฟสักร้าน แล้วผมจะเล่าให้ฟัง โอเคไหม...
เธอไม่ได้ตอบ เพียงกดปิดหน้าจอแล้วหย่อนโทรศัพท์ลงในกระเป๋า ถอนใจเบา ๆ เมื่อหันไปมองถนนด้านนอกหน้าต่างรถ สายฝนโปรยลงมาเป็นเม็ดเล็ก ๆ เกาะที่ข้างหน้าต่าง อากาศชื้นเย็นที่เธอเกลียดนักทำให้หัวใจยิ่งเหงาเป็นทวีคูณ
คงไม่แย่เท่าไร หากจะมีใครลองของมาเล่นเกมรักกันสักกระดาน
ร่างสูงของผู้ป่วยที่เดินเข้ามานั่งลงตรงเก้าอี้หมุนหน้าจอคอมพิวเตอร์ซึ่งจัดวางไว้สำหรับแพทย์ทำให้หญิงสาวหลุดอมยิ้มจาง ๆ บนใบหน้า คล้ายภาพวันก่อนเมื่อไม่นานมานี้จะย้อนกลับมาอีกครั้ง
เธอเคยเดินเข้ามาในห้องตรวจแล้วพบกับคนไข้ตัวโตที่เดินเข้ามานั่งตรงเก้าอี้หมุนหน้าจอคอมพิวเตอร์นั้น คราวนั้นเธอยืนนิ่ง ปล่อยให้พี่พยาบาลที่อยู่ใกล้ ๆ ร้องบอกว่านั่นเป็นที่ของหมอ แล้วเขาก็ลุกเดินไปนั่งที่เก้าอี้อีกตัวริมผนังอย่างเขิน ๆ
วันนั้นเธอละเมิดกฎของตัวเอง ปกติเธอไม่เคยให้เบอร์ติดต่อกับผู้ป่วยนอกเหนือจากรอยยิ้มบาง ๆ และคำบอกให้ติดต่อมาทางโรงพยาบาล แต่ด้วยความรู้สึกผิดเบา ๆ ที่ต้องส่งตัวเขาไปต่อที่โรงพยาบาลอื่น เพราะแพทย์เฉพาะทางกระดูกและข้อที่เข้าเวรติดผ่าตัดยาวจนไม่สามารถลงมารักษาอาการข้อนิ้วเคลื่อนให้เขาได้ ร่วมกับฟิล์มสวย ๆ ที่เธอเก็บภาพไว้ทำรายงานเคส หญิงสาวจึงไม่ได้ปฏิเสธเมื่อเขาร้องขอ
'...ขอไลน์ไอดีได้ไหมครับ'
เธอนิ่งมองหน้าเขาเพียงครู่ อีกฝ่ายก็รีบบอก 'ถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไรฮะ แต่...เผื่อมีอะไร จะขอถาม'
แล้วเธอก็เผลอมอบช่องทางติดต่อให้เขาอย่างง่ายดาย
พระเจ้าต้องแกล้งเธอแน่ ๆ บทสนทนายาวเหยียดในเวลาแค่ 2 วันทำให้เธอนึกขันที่ตัวเองพูดคุยกับคนเพิ่งรู้จักได้ขนาดนี้ แต่ความไม่มั่นใจปนหวาดกลัวทำให้เธอคิดอะไรตื้น ๆ ออกมา
รอยยิ้มบาง ๆ ผุดขึ้นที่มุมปาก...บางที...มันอาจไม่แย่เท่าไร ถ้าเราจะลองรักใครอีกสักครั้ง...
ความรู้สึกเหมือนผีเสื้อกระพือปีกอยู่ในอกเป็นอะไรที่ชวนเสพติด โดปามีนในสมองหลั่งออกมาสร้างความสุข ความพอใจ และชวนให้ลิ้มลองซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างไม่รู้เบื่อ เธอเรียกร้องหา และเริ่มๆ จะเสพติดอย่างจริงจัง
'2 อาทิตย์...พอไหมคะ'
'ครับ ?'
'สำหรับการที่คุณจะเบื่อ และหายไปเอง' หญิงสาวพิมพ์ตอบอย่างนึกขัน คนที่คุ้นเคยกับเธอย่อมรู้ ตรรกะเธอไม่เหมือนคนอื่น เมื่อไรที่เธอเริ่มถูกใจกับอะไรหรือใคร นางฟ้าตัวน้อย ๆ จะเปลี่ยนเป็นนางมารไปในทันที
'ทำไมผมต้องหายไป'
'ไม่รู้ค่ะ...เราไม่ชอบอะไรที่มันยืดเยื้อ ให้เวลา 2 อาทิตย์กับการที่คุณจะลากเราไปในจุดที่คุณต้องการ หรือไม่อย่างั้นก็...ถอยมายืนตรงจุดที่เราต้องการ'
เกมส์เริ่มจากวันนั้น บทสนทนาโต้ตอบทั้งทางโปรแกรม ก้าวไปจนถึงเสียงที่ผ่านโทรศัพท์ ช่องทางการสื่อสารแทบทุกประเภท กระทั่งพบกัน
หญิงสาวไม่เคยมั่นใจกับความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่เขายังยืนยันชัดเจน
...ผมแค่อยากดูแลคุณ...
...ไหน ๆ ก็อุตส่าห์ได้รู้จักกันทั้งที่ จะไม่ให้โอกาสดูแลกันหน่อยหรือครับ...
เธอได้แต่นั่งขำในใจ เธอเป็นหมอ แล้วเขาเป็นใครถึงคิดจะมาดูแลกัน เหอะ...น่าตลกไหมล่ะ
แต่น้ำหยดลงหินทุกวัน หินมันก็กร่อน เมื่อวันหนึ่งเขาเงียบไป กลับเป็นหญิงสาวที่นั่งย้ออ่านบันทึกข้อความซึ่งเคยพูดคุยกันซ้ำแล้วซ้ำเล่า
'เราตกหลุมรัก...การอยู่ใกล้ ๆ เขา' เธอบอกเพื่อนรักเช่นนั้น ขณะที่ทุกคนเฝ้าเตือนถึงผู้ชายที่เดินเข้ามาในชีวิตด้วยอาการแปลกประหลาดเช่นนี้
เธอยังรั้น เล่นเกมส์กับเขาจนถึงที่สุด จนครบสองอาทิตย์
'...พรุ่งนี้แล้ว...เราตกลงกันว่าอย่างไรนะคะ'
'จะยอมคบกับพี่'
'หืม...ใช่เหรอ อย่ามามั่วนะ'
'ใช่...จริง ๆ'
หญิงสาวนั่งขัน ย้อนกลับไปอ่านข้อความที่ตกลงกันไว้แล้วเธอก็ยอมรับว่ามันแปลความหมายได้สองทาง เพราะประโยคพูดคุยที่ถูกคั่นสลับกันไปมาจนไม่ต่อเนื่อง ถือเป็นการเล่นตลอกของเทคโนโลยีการส่งข้อความ
แล้วนางฟ้าตัวน้อยก็ถูกแทนที่ด้วยนางมาร
'ตลกแล้วค่ะ...หนูไม่ยื่นเงื่อนไขง่ายขนาดนั้นหรอก'
'พี่รู้จักหนูดีเท่าไรเชียว คิดจะมาจับหนูใส่ปลอกคอ'
นั่นล่ะเธอ...นางมารร้ายของผู้ชายที่คิดจะเดินเข้ามาในชีวิต
เขาเงียบหายไปครู่ใหญ่ ก่อนตอบกลับมา 'ก็แล้วแต่...พี่คงเป็นได้แค่เกมส์ของหนูสินะ'
ถ้อยคำบีบหัวใจทำให้เธอนิ่งงันไปครู่ใหญ่ ก่อนจะถอนใจเบา ๆ วางโทรศัพท์ลงแล้วก้าวไปทิ้งตัวนอนบนเตียงคล้ายไม่ใส่ใจ
...มันไม่ได้ทรมานและลึกซึ้งขนาดนั้นหรอก...
นั่นคือคำที่เธอเพียรบอกตัวเองเสมอมา
'พี่คิดยังไงกันแน่คะถึงเดินมาตรงหน้าหนูอย่างนี้' คำถามที่เธอเคยเอ่ยกับเขาก้องอยู่ในหัวแม้หลับตานอน
'พี่เชื่อในตัวหนู และอยากเห็นความศรัทธาในรักของหนู'
พระเจ้า...มีดที่เธอยื่นให้เขากำลังกลับมาทำร้ายตัวเธอเอง หญิงสาวกำลังเสพติดกับความรัก หลงอยู่ในวังวนประหลาด จนเธออยากจะยื่นกรงให้เขาจับเธอเข้าไปขังไว้
แต่ความสุขไม่เคยยั่งยืน ความหวานซึ้งที่ชวนละลายบางครั้งก็เป็นแค่คำหลอกลวง เมื่อเธอติดบ่วงตัวเองและเผลอก้าวไปหาเขา คนที่คิดจะก้าวมาตรงหน้าเธอกลับเดินออกห่าง
เขาทำตามเงื่อนไขข้อที่สองของเธอได้โดยไม่ตั้งใจ
...ถ้าเราพอใจ ก็ให้เขายืนอยู่ตรงนั้นล่ะ ไม่ต้องวิ่งตามเราหรอก เราจะเดินเข้าไปเอง...
เธอเคยบอกเพื่อนอย่างนั้นถึงนิยามความรัก และคนรักที่เธอรอ
แต่การก้าวเข้าไปบ่อย ๆ ก็เหนื่อย เมื่อเธอหยุด เขาก็ก้าวเข้ามา มันเป็นเกมส์กึ่งผลักกึ่งดึงที่น่าตื่นตาตื่นใจ จนเธอแทบไม่ได้หันไปมองใครที่พยายามก้าวเข้ามาอีกเลย
หญิงสาวเล่นเกมส์อยู่นาน ก่อนที่เธอจะรู้สึกถึงเซนส์บางอย่างที่ผิดปกติ
เขาหายไปในบางช่วงเวลา และมีผู้หญิงมากมายเหลือเกิดในคอนแทคลิสท์
เธอรู้นานแล้วว่าผู้ชายคนนี้เจ้าชู้และไว้ใจไม่ได้ จึงไม่เคยกล้าพอจะไว้ใจ
แต่เขาเคยบอก 'มองผมเป็นสีเทา ๆ ได้ไหม อย่าให้เป็นสีดำอย่างนั้นเลย'
'พี่ยอมรับว่าเจ้าชู้ แต่พี่แค่ตามหาคนที่ใช่'
'แล้วเมื่อไรจะหยุดคะ' เธอเคยถามตรงไปตรงมา
'เมื่อพี่เจอคนที่ใช่ และพร้อมจะเชื่อในตัวพี่'
หญิงสาวได้แต่คลี่ยิ้ม เธอไม่เคยพร้อมที่จะเชื่อในตัวเขา บทเรียนเรื่องความรักครั้งก่อนทรมานจนเธอไม่กล้าจะเชื่อใครอีก แม้มันจะเป็นความทรงจำที่สวยงาม แต่ก็ไม่หวานพอให้เธอกล้ามั่นใจในตัวใคร
โดยไม่ได้ตั้งใจ ชื่อของผู้หญิงคนหนึ่งปรากฏขึ้นบนกระดานพูดคุยหน้าเฟซบุ๊คของเขา เธอโยนหินถามทางโดยไม่ได้หวังคำตอบ
'แฟนเก่าครับ...'
เขาตอบง่าย ๆ 'รู้จักด้วยหรือ'
'พี่เขาคงไม่รู้จักหนู แต่หนูรู้จักเขาแล้วล่ะค่ะ' เธอตอบไปอย่างไม่ใส่ใจนัก
แล้วคืนนั้นเขาก็โทร.มา เพียงเพื่อจะบอกความจริงบางอย่าง
“หนูรู้จักพี่เขาได้ยังไงคะ”
“หนูเคยบอกแล้วว่าอะไรที่หนูอยากรู้...ไม่ยากเลยที่จะหาคำตอบ” เธอตอบเป็นกลาง ๆ ด้วยความเป็นลูกสาวคนเดียวของข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ด้วยความเป็นหลานสาวที่รักของนักธุรกิจชั้นนำ ด้วยความเป็นเพื่อนรักของบรรดาสาว ๆ ในตระกูลที่หลายคนรู้จักดี ไม่ยากเลยที่เธอจะร้องหาประวัติ หรือกระทั่งเรื่องราวในชีวิตของใครสักคน
ความรักครั้งก่อนเคยจบลงง่ายดาย เพียงเพราะคนที่รักเธอทั้งหลายสรรหาข้อมูลแทบทุกอย่างของผู้ชายคนนั้นมามอบให้เธอ
ครั้งนั้นหญิงสาวเลือกเดินออกมาทันที ส่วนหนึ่งเพราะเขาไม่คู่ควรแก่ความรักของเธอ อีกส่วน...เธอไม่อยากทำร้ายความเป็นส่วนตัวของเขา
ครั้งนี้เธอจึงระวังยิ่ง ไม่ให้ใครก้าวล่วงความเป็นส่วนตัวของเขา เธอยินดีจะเจ็บหากต้องเสี่ยงอีกครั้งด้วยตัวเองโดยไม่มีข้อมูลใดในมือ ก้าวเข้าไปทำความรู้จักกับเขา อ่านหนังสือเล่มนี้ช้า ๆ โดยไม่คิดเปิดหาเงื่อนงำที่ซ่อนอยู่
“พี่คบกับเขา...และเราเพิ่งเลิกกันเมื่อสิ้นปี”
“มันหลังจากที่พี่จีบหนู...”
“ครับ แต่ตอนที่พี่เจอหนู เราทะเลาะกันอยู่แล้ว แล้วพี่ก็เริ่มรู้สึกว่าเขาไม่ใช่”
เธอนิ่งงัน ได้แต่รับฟัง “พี่คิดว่าหนูอาจจะใช่ พี่ชอบเวลาหนูยิ้ม พี่อยากนั่งมองหน้าหนู แต่บางครั้งหนูก็ทำให้พี่กลัว เวลาหนูเดินหนีพี่ไปมันทำให้พี่รู้สึกไม่มีค่าและคิดว่าหนูหยิ่ง”
หญิงสาวได้แต่เหยียดริมฝีปากบาง ๆ อย่างหยันตัวเอง เขาคิดว่าเธอเป็นใครกัน ด้วยจุดที่เธอยืนอยู่มันเสิรมให้อัตตาในตัวเธอมันพุ่งทะยานสูงติดเพดานจนหลายครั้งหลายหนเธอเชิดหน้าขึ้นคล้ายไม่แยแสต่อคนรอบข้าง หลายคนว่าเธอร้าย เธอหยิ่ง ความจริงคือ...เธอไม่รู้จะจัดการกับความสัมพันธ์อย่างไร
วิชาแพทย์ทำให้เธอรู้จักโรคมากกว่าโลก เธอเปราะบาง อ่อนต่อโลก และซ่อนตัวเองอยู่หลังกำแพงน้ำแข็งแห่งความเย็นชาเพื่อจะไม่ต้องเผชิญหน้ากับความวุ่นวายของชีวิต
ความอยากรู้อยากเห็น ความอ่อนไหวลางอย่างเท่านั้นพาเธอออกมาจากหลังกำแพงสูง
...เพื่อจะพบกับความเจ็บปวด...ซ้ำแล้วซ้ำเล่า...
“บางครั้งหนูก็ดูเหมือนจะใช่ แต่บางครั้งก็ไม่ใช่ แล้วพี่ก็รู้สึกว่าหนูไม่ใช่”
“อืม...เป็นคำปฏิเสธที่หวานจนหนูไม่รู้ว่าจะหัวเราะดีไหม”
“หนูตอบพี่ได้ไหมล่ะ ว่าพี่มีดีอะไรพอให้หนูรัก สักสามข้อ”
เธอหัวเราะ “หนูไม่รู้หรอกค่ะ...หูว่าหนูอาจไม่รู้จักี่เลย”
“นั่นไง หนูก็ตอบไม่ได้ เราไม่รู้จักกันดีพอ ที่พี่หายไปช่วงหนึ่ง พี่พยายามไปเคลียร์กับเขา แต่บางทีพี่ก็เหนื่อย พอพี่มาเจอหนู พี่ว่ามันไม่แฟร์ที่พี่จะใส่ปลอกคอหนูไว้ทั้งที่พี่ยังไม่เคลียร์ตัวเอง พี่ขอเวลาไปเคลียร์ทุกอย่าง แล้วถ้ามันจบแล้วจริง ๆ วันหนึ่ง ถ้าพี่เดินกลับมา หนูจะให้โอกาสพี่ได้ไหม”
หญิงสาวได้แต่นิ่งงัน เขายังกล้า...ขอโอกาส ทั้งที่มันไม่เคลียร์
...ว่ากันว่าผู้ชายเป็นเพศที่เห็นแก่ตัว มันอาจจะจริง
เธอไม่มีคำตอบให้เขา แต่เขากลับมีคำตอบให้เธอชัดเจนทีเดียว เมื่อภาพโพรไฟล์ในหน้าจอเว็บเพจส่วนบุคคลเปลี่ยนไปเป็นรูปคู่ แล้วหญิงสาวก็ได้แต่นั่งขันกับตัวเอง
คำตอบชัดเจนจนเธอได้คำตอบให้ตัวเองเช่นกัน
...เธออาจชอบเขาเข้าแล้วจริง ๆ...มันถึงได้เจ็บขนาดนี้
หญิงสาวถอนใจเบา ๆ
มันจบแล้ว เธอไม่มีสิทธิ์เดินเข้าไปตรงหน้าเขาอีกแล้ว
เธอกดโทรศัพท์ เมื่อได้ยินเสียงตอบ เธอก็บอกเขาเบา ๆ
“คำตอบชัดเจนแล้วล่ะค่ะ...รู้ไหม...ความผิดประการเดียวของพี่ที่มันใหญ่หลวงมากคือ พี่จีบหนู ทั้งที่ยังมีเขาอยู่ แต่ไม่เป็นไรหนูให้อภัย แค่โทร.มาเพื่อจะบอกว่า หนูคงไม่มีสิทธิ์เดินมาตรงหน้าพี่อีกแล้ว แต่หนูมีความสุขที่ได้อยู่ใกล้ ๆ พี่ ดังนั้นถ้าพี่เหนื่อย แล้วอยากจะเดินเข้ามา หนูอยู่ตรงนี้ ถ้ารอยยิ้มของหนูทำให้พี่รู้สึกดีขึ้นได้ หนูยินดีจะยิ้มให้พี่ แต่เรา...จะไม่จับมือเดินไปด้วยกันอีกแล้ว”
“ให้มันจบอย่างสวยงาม...เป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน อย่าได้เกินเลยกว่านั้น และหนู...จะไม่เดินไปตรงหน้าพี่อีก”
เพื่อนรักต่างไม่พอใจเมื่อเธอเล่าให้ฟัง ถ้อยคำที่เหมือนเว้นช่องให้เขาก้าวเข้ามานั้นอ่อนหวานเกินกว่าที่ผู้ชายร้ายกาจคนหนึ่งพึงจะได้รับ แต่เธอแค่ยิ้มบาง ๆ กลับมาเป็นนางฟ้าตัวน้อยที่เปราะบาง
“อย่างน้อย...ช่วงที่โดปามีนหลั่ง มันก็ยังเป็นความทรงจำที่สวยงาม”
...If u like my smile, i will smile for u. Not to make u love me, but to be your good memmory.
Please...just forget all of my evilness, remember how i am a good girl...
-------------
เขียนไปแล้วรู้สึกมันหลายฉากและยืดยาวจนเกือบเป็นนิยายได้
พยายามเล่าสั้น ๆ ให้พอได้เค้าเรื่องและข้อสรุป
ยิ้มหวานๆให้กับความรัก
ขอบคุณ ที่สอนให้เราเข้มแข็งขึ้น
ขอบคุณ ที่สอนให้เรารักคนที่รักเราได้มากกว่าเดิม
ขอบคุณ สำหรับเรื่องสั้นทีเราหาตอนจบไม่ได้มานาน
จุดนี้...พูดไม่ออก
มันจุก!

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 5 ม.ค. 2556, 15:28:26 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 5 ม.ค. 2556, 15:28:26 น.
จำนวนการเข้าชม : 1923
<< แค่ปีกบางๆที่ไม่อาจสยาย...กลางสายลม | เพียงใจในสายลม(50%) >> |



subrosa 5 ม.ค. 2556, 17:23:17 น.
อย่างนัอยยังมีความสุขและความทรงจำดีๆให้นึกถึงนะ ...แม้ว่ามันจะผ่านเลยไม่คืนกลับมาแล้วก็ตาม
อย่างนัอยยังมีความสุขและความทรงจำดีๆให้นึกถึงนะ ...แม้ว่ามันจะผ่านเลยไม่คืนกลับมาแล้วก็ตาม

kraten 6 ม.ค. 2556, 01:02:31 น.
เจ็บจุกเสียดแน่นโดนใจ...
เจ็บจุกเสียดแน่นโดนใจ...

sai 6 ม.ค. 2556, 08:12:53 น.
โดนที่สุดดดดด
โดนที่สุดดดดด

Setia 6 ม.ค. 2556, 14:00:24 น.
ช่างเป็นอะไรที่ชวนปวดใจดีจริงๆค่ะ T_T
ช่วงนี้มีแต่เรื่องที่ทำให้เจ็บแปล๊บในหัวใจเนอะ
สู้ต่อไปนะคะ วันพรุ่งนี้ที่สดใสกำลังรอเราอยู่ //คำพูดส่วนหนึ่งจากแก๊งค์ร็อกเกตในโปเกมอน
ช่างเป็นอะไรที่ชวนปวดใจดีจริงๆค่ะ T_T
ช่วงนี้มีแต่เรื่องที่ทำให้เจ็บแปล๊บในหัวใจเนอะ
สู้ต่อไปนะคะ วันพรุ่งนี้ที่สดใสกำลังรอเราอยู่ //คำพูดส่วนหนึ่งจากแก๊งค์ร็อกเกตในโปเกมอน

Kapoh 6 ม.ค. 2556, 16:40:11 น.
Bitter love doesn't make your whole life bitter. Fighting!!!
Bitter love doesn't make your whole life bitter. Fighting!!!

เทียนจันทร์ 6 ม.ค. 2556, 18:45:09 น.
ชอบสำนวนคุณจังเลย อยากเขียนได้แบบนี้บ้าง
ชอบสำนวนคุณจังเลย อยากเขียนได้แบบนี้บ้าง

anOO 8 ม.ค. 2556, 18:19:59 น.
ถ้าเราข้ามผ่านความรู้สึกนี้ไปได้ แน่นอนว่าเราจะเข้มแข็งขึ้น และรักตัวเองมากขึ้น
ถ้าเราข้ามผ่านความรู้สึกนี้ไปได้ แน่นอนว่าเราจะเข้มแข็งขึ้น และรักตัวเองมากขึ้น

สะเรนี 31 ม.ค. 2556, 23:20:47 น.
เศร้าง่ะ
เศร้าง่ะ