ทางเดินหัวใจ
เรื่องหนึ่งเรื่องเริ่มมาจากความฝัน อีกหลายเรื่องคืความผูกพันธ์
มีการพัฒนาอย่างเงียบๆ รอเพียงเวลาที่เหมาที่ควรเท่านั้น
แล้วความรกจะดำเนินต่อไป
มีการพัฒนาอย่างเงียบๆ รอเพียงเวลาที่เหมาที่ควรเท่านั้น
แล้วความรกจะดำเนินต่อไป
Tags: ฝัน และ จริง
ตอน: 11.2 วันที่มรสุมครั้งใหญ่ถาโกม ครึ่งหลัง
ห้องแถลงข่าว บริษัท บรรเลงเพลงไทย จำกัดมหาชน
คุณบรรเลงจัดแถลงข่าวเป็นการเร่งด่วน ม่านรุ้งพานรีกับมยุรามานั่งข้างดูด้านหลังนักข่าวเพื่อไม่ให้เป็นที่สนใจ
“ก่อนอื่นนะครับผมต้องขอโทษที่ให้พวกพี่เสียเวลานะครับ”แดนไทยไหว้พี่ๆนักข่าว “ตามที่ข่าวออกนั้นผมขอยืนยันนะครับว่าผมไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดใดๆทั้งสิ้น พวกพี่มีอะไรอยากรู้ก็ถามมาได้เลยครับ”แดนไทยเงียบรอฟังคำถามจากนักข่าว
“แล้วน้องดิวมีความรู้สึกยังไงที่แฟนของตัวเองไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดคะ”
“ถ้าคนที่เป็นแฟนผมไปยุ่งกับยาเสพติดผมคงโกระมาก เพราะนั้นเป็นการทำร้ายตัวเองและทำให้ผมเสียงใจ แต่ผมคิดว่าแฟนผมคงไม่ทำแบบนั้นหรอกครับ เพราะเธอเป็นคนน่ารัก”แดนไทยพูดพร้อมส่งสายตาไปยังคนที่อยู่ด้านหลังนักข่าว
“หยอดกันเข้าไป”ม่านรุ้งพูดลอยๆ คนถูกแซวก็หน้าแดงได้อีก
นักข่าวมองงหน้ากันงงๆก็ในเมื่อชารินีโดนจับข้อหายาเสพติดแล้ว แต่ที่แดนไทยพูด
“ทำไมน้องดิวพูดแบบนั้นล่ะครับ ก็ในเมื่อน้องใบชาถูกจับไปแล้วในข้อหามียาเสพติดและเล่นยา”
“อ้าวนี่พวกพี่หมายถึงใบชากันเหรอครับ”แดนไทยตีมึน “ผมก็รู้สึกเสียใจครับที่เพื่อนร่วมงานคิดสั้นแบบนั้น”แดนไทยเน้นคำว่าเพื่อนชัดเป็นพิเศษ
“น้องดิวกำลังจะหมายความว่าน้องใบชาเป็นแค่เพื่อนเหรอคะ แล้วข่าวที่ออกมาว่าน้องดิวกับน้องน้ำชาเป็นแฟนกัน”
“ก็แค่ข่าวละครับ”แดนไทยตอบยิ้ม
แต่บรรดานักข่าวก็งงเข้าไปให้ หันไปปรึกษากัน รู้สึกเหมือนถูกด่าทางอ้อม
“แล้วแฟนตัวจริงของน้องคือใครคะ”
“คือเธอ...”
“คือเธอไม่มีตัวจริงหรอกค่ะเจ้ยืนยัน”การดาชิงพูดแดนไทยหันไปมองตาเขียวอยากจะฆ่าคนเห็นแก่ตัว
“แล้วคุณบรรเลงจะทำยังไงกับคอนเสิร์ตที่จะล่มล่ะครับ”
“ผมคิดว่าต่อไป...”
ตื้ด ตื้ด ตื้ด
โทรศัพท์ของนรีมีสายเข้า
“ใครโทรมาเหรอน้ำค้าง”มยุราถาม
“พี่น้ำตก”
“รับเลยๆ”มยุราเร่งเพื่อน
“มี...พ่อ”โทรศัพท์หลุดจากมือของนรี โชคดีที่มยุรารับไว้ได้สงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นเลยรีบเอามาคุยต่อ
“พี่น้ำตกคะมีคะไรเหรอคะ”
[ลูกโป่งเหรอ อยู่ที่ไหนกันพี่มาหาที่คณะแล้วไม่เจอ] เสียงปลายสายดูร้อนรน
“คือ…”มยุราไม่กล้าตอบ
[ไม่ต้องตอบแล้วรีบพาน้ำค้างมาที่โรงพยาบาลแถวบ้านเร็วพ่อพี่โดนยิง แค่นี้ก่อนนะ ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด]
“ลุงจ่า”
“มีอะไรกัน”ม่านรุ้งถามเมื่อเห็นน้องสองคนดูอาการไม่ดี
“พ่อของน้ำค้างโดนยิงค่ะรบกวนพี่ม่านช่วยพาพวกเราไปส่งหน่อยได้ไหมคะ”
“ได้ๆน้ำค้างทำใจดีๆนะไปเรารีบไปกันพี่ไปส่ง”ม่านรุ้งห่วงอาการของนรี แต่ก็รู้ว่ายังไงก็ต้องพาสาวน้อยไปหาพ่อ
แดนไทยจะลุกจากที่นั่งเมื่อเห็นกำลังใจคนสำคัญเดินออกจากห้อง แต่ก็ถูกผู้บงการส่วนตัวยึดไว้เสียก่อน
“น้องดิวจะไปไหนคะ”นักข่าวรีบถาม
“น้องเมื่อยนะคะ สัมภาษณ์ต่อเลยค่ะ”การดารีบแก้ตัว
และหลังจากนั้นชายหนุ่มก็ไม่มีสมาธิต่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้าอีกเลย การดามองหน้าแดนไทยคิดหาวิธีเอาประโยชน์ใสตัว
ที่โรงพยาบาลแถวบ้านนรี สาวน้อยรีบวิ่งไปหน้าห้องฉุกเฉินที่มีมารดานั่งอยู่ที่เก้าอี้ และพี่ชายที่กำลังเดินไปเดินมามีสีหน้ากังวน
“ตัวพ่อเป็นไงบ้าง”นรีรีบวิ่งมาถามพี่ชาย
“นี่ตัวยังห่วงพ่ออีกเหรอ”นายบีบแขนน้องสาว “ไปไหนมา”เสียงของนายเริ่มดังขึ้น
“ใจเย็นนะลูก”แม่ดวงใจรีบห้ามลูกชายไม่ให้ทำร้ายน้องสาว
“ฉันถามว่าเธอไปไหนมา”นายตะคอยถามอีกครั้งใช้คำพูดที่ไม่เคยพูดถึงน้องสาวมาก่อน นรีได้แต่นิ่งเงียบไม่มีเสียงใดๆหลุดมาจากปาก “อาหมวดบอกว่าพ่อไม่มีสมาธิในการทำงานจนพลาดถูกคนร้ายยิง ทุกอย่างเป็นเพราะเธอ”นายตะคอกน้องสาวหนักขึ้นเลยๆเมื่อเห็นน้องไม่ยอมพูดอะไรสักคำ แม้จะรักแต่ก็โกรธน้องสาวมาก
“น้ำตกแม่บอกให้ลูกหยุด โอ้ย!!!”
“แม่”จู่ๆแม่ดวงใจก็หน้ามืดเซจะล้มแต่โชคดีที่มยุรารับไว้ทันแล้วพามานั่ง
“ค่อยๆนะคะแม่”
“คุณใจเย็นหน่อยไม่ได้เหรอจะให้แม่คุณหัวใจวายรึไงปล่อยๆได้แล้ว”ม่านรุ่งช่วยพูดแกะมือนายออกจากนรี นายยอมปล่อยมือแล้วมาดูมารดา “น้ำค้างเป็นยังไงบ้าง”
สาวน้อยส่ายหน้าช้าๆแล้วเดินไปหน้าห้องฉุกเฉิน น้ำตาไหลออกมาไม่หยุดพยายามมองเข้าไปในห้อง นึกโทษตัวเองว่าเป็นต้นเหตุ
ตื้ด ตื้ด ตื้ด
ม่านรุ้งก้มดูโทรศัพท์เห็นสายที่เข้ามาเป็นรุ่นน้องคนสำคัญเลยเดินแยกออกมารับสาย
“ดิวว่าไง”
[[พี่ม่านไปไหนกันทำไมทิ้งผมแบบนี้ล่ะ]] เสียงปลายสายตัดพ้อ
“พ่อของเด็กนายโดนยิง อาการน่าจะหนัก”
[[จริงเหรอพี่]]
“อืม”
[[งั้นเดี๋ยวผมไปหาพี่]]
“ไม่ต้องเลยพ่อคุณพี่ชายของน้ำค้างกำลังคลั่งได้ที่เลยถ้านายมามีหวังน้ำค้างได้ตายแน่ แค่นี้ก่อนนะหมอออกมาแล้ว เดี๋ยวจะโทรไปบอกสถนการณ์อีกทีนะ”ม่านรุ้งวางสายแล้วเดินมาดูเหตุการณ์
“หมอไม่สามารถเอาลูกกระสุนออกมาได้จริงๆครับลูกกระสุนอยู่ไกลหัวใจมาก และตอนนี้ทางเราไม่มีหมอเฉพาะทางเราคงต้องย้ายผู้ป่วยไปโรงพยาบาลอื่น”
เมื่อได้ยินคุณหมอพูดแบบนั้นแม่ดวงใจก็เซไปข้างหลังเป็นลมอีกครั้งแต่ยังมีนายและมยุราประคองอยู่ ส่วนนรีก็ชาไปทั้งตัวดวงตาที่มองไม่ชัดเพราะน้ำตาอยู่แล้ว แต่ตอนนี้มันค่อยๆมิดลงพบเจอแต่ความมืดความรู้สึกต่างๆถูกตัดขาดไปหมดสิ้น
“น้ำค้าง”ม่านรุ้งรับตัวนรีได้ทันมีพยาบาลมาช่วยพาไปห้องพัก ม่านรุ้งตามไปด้วย
ตื้ด ตื้ด ตื้ด
โทรศัพท์ของนายมีสายเข้า เขารีบหยิบมาดูว่าใครโทรมา
‘คุณณัทชัย’
เมื่อเห็นว่าเป็นท่านรองผอ.โรงพยาบาลของมหาวิทยาลัย โทรมานายก็นึกแปลกใจ แต่ก็รีบรับสาย
“สวัสดีครับคุณณัทชัย”
[[คุณนายใช่ไหมครับ]]
“ครับ”
[[ผมได้ข่าวว่าพ่อของคุณโดนยิงใช่ไหมครับ]]
“ใช่ครับ คุณทราบได้ยังไงครับ”นายถามความสงสัยออกไป
[[ดิวเพื่อนของน้องชายภรรยาผมนะครับ เอาเป็นว่าคุณสามารถส่งตัวพ่อของคุณมาที่นี่ได้เลยนะครับ ตู๊ด ตู๊ด]]
“คุณหมอครับช่วยส่งตัวพ่อผมไปที่โรงพยาบาลเมืองหลวง บางกอก ซิดตี ไทยแลนด์ นะครับ”
แม้นายจะไม่ค่อยเข้าใจว่าแดนไทยมายุ่งเรื่องนี้ได้อย่างไรแต่เขาก็ไม่มีเวลาคิดอะไรอีกแล้ว
คุณบรรเลงจัดแถลงข่าวเป็นการเร่งด่วน ม่านรุ้งพานรีกับมยุรามานั่งข้างดูด้านหลังนักข่าวเพื่อไม่ให้เป็นที่สนใจ
“ก่อนอื่นนะครับผมต้องขอโทษที่ให้พวกพี่เสียเวลานะครับ”แดนไทยไหว้พี่ๆนักข่าว “ตามที่ข่าวออกนั้นผมขอยืนยันนะครับว่าผมไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดใดๆทั้งสิ้น พวกพี่มีอะไรอยากรู้ก็ถามมาได้เลยครับ”แดนไทยเงียบรอฟังคำถามจากนักข่าว
“แล้วน้องดิวมีความรู้สึกยังไงที่แฟนของตัวเองไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดคะ”
“ถ้าคนที่เป็นแฟนผมไปยุ่งกับยาเสพติดผมคงโกระมาก เพราะนั้นเป็นการทำร้ายตัวเองและทำให้ผมเสียงใจ แต่ผมคิดว่าแฟนผมคงไม่ทำแบบนั้นหรอกครับ เพราะเธอเป็นคนน่ารัก”แดนไทยพูดพร้อมส่งสายตาไปยังคนที่อยู่ด้านหลังนักข่าว
“หยอดกันเข้าไป”ม่านรุ้งพูดลอยๆ คนถูกแซวก็หน้าแดงได้อีก
นักข่าวมองงหน้ากันงงๆก็ในเมื่อชารินีโดนจับข้อหายาเสพติดแล้ว แต่ที่แดนไทยพูด
“ทำไมน้องดิวพูดแบบนั้นล่ะครับ ก็ในเมื่อน้องใบชาถูกจับไปแล้วในข้อหามียาเสพติดและเล่นยา”
“อ้าวนี่พวกพี่หมายถึงใบชากันเหรอครับ”แดนไทยตีมึน “ผมก็รู้สึกเสียใจครับที่เพื่อนร่วมงานคิดสั้นแบบนั้น”แดนไทยเน้นคำว่าเพื่อนชัดเป็นพิเศษ
“น้องดิวกำลังจะหมายความว่าน้องใบชาเป็นแค่เพื่อนเหรอคะ แล้วข่าวที่ออกมาว่าน้องดิวกับน้องน้ำชาเป็นแฟนกัน”
“ก็แค่ข่าวละครับ”แดนไทยตอบยิ้ม
แต่บรรดานักข่าวก็งงเข้าไปให้ หันไปปรึกษากัน รู้สึกเหมือนถูกด่าทางอ้อม
“แล้วแฟนตัวจริงของน้องคือใครคะ”
“คือเธอ...”
“คือเธอไม่มีตัวจริงหรอกค่ะเจ้ยืนยัน”การดาชิงพูดแดนไทยหันไปมองตาเขียวอยากจะฆ่าคนเห็นแก่ตัว
“แล้วคุณบรรเลงจะทำยังไงกับคอนเสิร์ตที่จะล่มล่ะครับ”
“ผมคิดว่าต่อไป...”
ตื้ด ตื้ด ตื้ด
โทรศัพท์ของนรีมีสายเข้า
“ใครโทรมาเหรอน้ำค้าง”มยุราถาม
“พี่น้ำตก”
“รับเลยๆ”มยุราเร่งเพื่อน
“มี...พ่อ”โทรศัพท์หลุดจากมือของนรี โชคดีที่มยุรารับไว้ได้สงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นเลยรีบเอามาคุยต่อ
“พี่น้ำตกคะมีคะไรเหรอคะ”
[ลูกโป่งเหรอ อยู่ที่ไหนกันพี่มาหาที่คณะแล้วไม่เจอ] เสียงปลายสายดูร้อนรน
“คือ…”มยุราไม่กล้าตอบ
[ไม่ต้องตอบแล้วรีบพาน้ำค้างมาที่โรงพยาบาลแถวบ้านเร็วพ่อพี่โดนยิง แค่นี้ก่อนนะ ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด]
“ลุงจ่า”
“มีอะไรกัน”ม่านรุ้งถามเมื่อเห็นน้องสองคนดูอาการไม่ดี
“พ่อของน้ำค้างโดนยิงค่ะรบกวนพี่ม่านช่วยพาพวกเราไปส่งหน่อยได้ไหมคะ”
“ได้ๆน้ำค้างทำใจดีๆนะไปเรารีบไปกันพี่ไปส่ง”ม่านรุ้งห่วงอาการของนรี แต่ก็รู้ว่ายังไงก็ต้องพาสาวน้อยไปหาพ่อ
แดนไทยจะลุกจากที่นั่งเมื่อเห็นกำลังใจคนสำคัญเดินออกจากห้อง แต่ก็ถูกผู้บงการส่วนตัวยึดไว้เสียก่อน
“น้องดิวจะไปไหนคะ”นักข่าวรีบถาม
“น้องเมื่อยนะคะ สัมภาษณ์ต่อเลยค่ะ”การดารีบแก้ตัว
และหลังจากนั้นชายหนุ่มก็ไม่มีสมาธิต่อสิ่งที่อยู่ตรงหน้าอีกเลย การดามองหน้าแดนไทยคิดหาวิธีเอาประโยชน์ใสตัว
ที่โรงพยาบาลแถวบ้านนรี สาวน้อยรีบวิ่งไปหน้าห้องฉุกเฉินที่มีมารดานั่งอยู่ที่เก้าอี้ และพี่ชายที่กำลังเดินไปเดินมามีสีหน้ากังวน
“ตัวพ่อเป็นไงบ้าง”นรีรีบวิ่งมาถามพี่ชาย
“นี่ตัวยังห่วงพ่ออีกเหรอ”นายบีบแขนน้องสาว “ไปไหนมา”เสียงของนายเริ่มดังขึ้น
“ใจเย็นนะลูก”แม่ดวงใจรีบห้ามลูกชายไม่ให้ทำร้ายน้องสาว
“ฉันถามว่าเธอไปไหนมา”นายตะคอยถามอีกครั้งใช้คำพูดที่ไม่เคยพูดถึงน้องสาวมาก่อน นรีได้แต่นิ่งเงียบไม่มีเสียงใดๆหลุดมาจากปาก “อาหมวดบอกว่าพ่อไม่มีสมาธิในการทำงานจนพลาดถูกคนร้ายยิง ทุกอย่างเป็นเพราะเธอ”นายตะคอกน้องสาวหนักขึ้นเลยๆเมื่อเห็นน้องไม่ยอมพูดอะไรสักคำ แม้จะรักแต่ก็โกรธน้องสาวมาก
“น้ำตกแม่บอกให้ลูกหยุด โอ้ย!!!”
“แม่”จู่ๆแม่ดวงใจก็หน้ามืดเซจะล้มแต่โชคดีที่มยุรารับไว้ทันแล้วพามานั่ง
“ค่อยๆนะคะแม่”
“คุณใจเย็นหน่อยไม่ได้เหรอจะให้แม่คุณหัวใจวายรึไงปล่อยๆได้แล้ว”ม่านรุ่งช่วยพูดแกะมือนายออกจากนรี นายยอมปล่อยมือแล้วมาดูมารดา “น้ำค้างเป็นยังไงบ้าง”
สาวน้อยส่ายหน้าช้าๆแล้วเดินไปหน้าห้องฉุกเฉิน น้ำตาไหลออกมาไม่หยุดพยายามมองเข้าไปในห้อง นึกโทษตัวเองว่าเป็นต้นเหตุ
ตื้ด ตื้ด ตื้ด
ม่านรุ้งก้มดูโทรศัพท์เห็นสายที่เข้ามาเป็นรุ่นน้องคนสำคัญเลยเดินแยกออกมารับสาย
“ดิวว่าไง”
[[พี่ม่านไปไหนกันทำไมทิ้งผมแบบนี้ล่ะ]] เสียงปลายสายตัดพ้อ
“พ่อของเด็กนายโดนยิง อาการน่าจะหนัก”
[[จริงเหรอพี่]]
“อืม”
[[งั้นเดี๋ยวผมไปหาพี่]]
“ไม่ต้องเลยพ่อคุณพี่ชายของน้ำค้างกำลังคลั่งได้ที่เลยถ้านายมามีหวังน้ำค้างได้ตายแน่ แค่นี้ก่อนนะหมอออกมาแล้ว เดี๋ยวจะโทรไปบอกสถนการณ์อีกทีนะ”ม่านรุ้งวางสายแล้วเดินมาดูเหตุการณ์
“หมอไม่สามารถเอาลูกกระสุนออกมาได้จริงๆครับลูกกระสุนอยู่ไกลหัวใจมาก และตอนนี้ทางเราไม่มีหมอเฉพาะทางเราคงต้องย้ายผู้ป่วยไปโรงพยาบาลอื่น”
เมื่อได้ยินคุณหมอพูดแบบนั้นแม่ดวงใจก็เซไปข้างหลังเป็นลมอีกครั้งแต่ยังมีนายและมยุราประคองอยู่ ส่วนนรีก็ชาไปทั้งตัวดวงตาที่มองไม่ชัดเพราะน้ำตาอยู่แล้ว แต่ตอนนี้มันค่อยๆมิดลงพบเจอแต่ความมืดความรู้สึกต่างๆถูกตัดขาดไปหมดสิ้น
“น้ำค้าง”ม่านรุ้งรับตัวนรีได้ทันมีพยาบาลมาช่วยพาไปห้องพัก ม่านรุ้งตามไปด้วย
ตื้ด ตื้ด ตื้ด
โทรศัพท์ของนายมีสายเข้า เขารีบหยิบมาดูว่าใครโทรมา
‘คุณณัทชัย’
เมื่อเห็นว่าเป็นท่านรองผอ.โรงพยาบาลของมหาวิทยาลัย โทรมานายก็นึกแปลกใจ แต่ก็รีบรับสาย
“สวัสดีครับคุณณัทชัย”
[[คุณนายใช่ไหมครับ]]
“ครับ”
[[ผมได้ข่าวว่าพ่อของคุณโดนยิงใช่ไหมครับ]]
“ใช่ครับ คุณทราบได้ยังไงครับ”นายถามความสงสัยออกไป
[[ดิวเพื่อนของน้องชายภรรยาผมนะครับ เอาเป็นว่าคุณสามารถส่งตัวพ่อของคุณมาที่นี่ได้เลยนะครับ ตู๊ด ตู๊ด]]
“คุณหมอครับช่วยส่งตัวพ่อผมไปที่โรงพยาบาลเมืองหลวง บางกอก ซิดตี ไทยแลนด์ นะครับ”
แม้นายจะไม่ค่อยเข้าใจว่าแดนไทยมายุ่งเรื่องนี้ได้อย่างไรแต่เขาก็ไม่มีเวลาคิดอะไรอีกแล้ว

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 8 ม.ค. 2556, 16:24:53 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 8 ม.ค. 2556, 16:24:53 น.
จำนวนการเข้าชม : 1184
<< ตอนที่7.7 สอบเข่งขัน สอบๆๆ | ตอนที่ 15 วันที่จำจากลา >> |