บ่วงรักแรงอธิษฐาน
รักในปัจจุบันผูกพันกับรักที่ปวดร้าวในอดีตชาติ
คำอธิษฐานและบุพเพสันนิวาสนำเขาและเธอกลับมาพบกันอีกครั้ง
แต่จะทำเช่นไรเมื่อหนึ่งคือเพื่อนรักที่ยอมสละชีพเพื่อเราและหนึ่งคือยอดดวงใจที่เฝ้ารักเฝ้ารอมาหลายภพชาติ
Tags: ย้อนอดีต ระลึกชาติ บุพเพสันนิวาส

ตอน: ตอนที่ 12 ด่านฐานันดร


แดดยามบ่ายลอดทิวไม้หนาที่แผ่ปกคลุมเป็นลำแสงทอทับบนผิวน้ำก่อนจะทะลุความใสแจ๋วลงไปถึงพื้นหินด้านล่าง ฝูงปลาน้อยใหญ่แหวกว่ายไปมาหยอกเย้าคลื่นอ่อนๆ ที่ซัดมาเป็นระลอก บ้างก็ไล่กันเข้าซอกโน้นทะลุซอกนี้โขดหินขนาดใหญ่จำนวนมากวางเรียงรายสงบนิ่งในน้ำมานานนมอย่างไม่รู้จักความหนาวเหน็บ โผล่พ้นผิวน้ำมาเพียงด้านบนให้เป็นที่นั่งพักผ่อนหย่อนใจ ที่วิ่งเล่น หรือทำกิจกรรมสันทนาการอื่นๆ ตามความพอใจของผู้มาเยือน

ถัดออกไปไม่ไกลสายน้ำธรรมชาติที่ไหลเรื่อยลงมาจากด้านบนตกกระทบชั้นหินที่วางลดหลั่นเหลื่อมล้ำเป็นหน้าผาสูงชันชั้นแล้วชั้นเล่าเกิดเป็นพรายฟองสีขาวก่อนไหลลงกระทบผืนน้ำเบื้องล่าง ดอกไม้หลากสีนานาพันธุ์แข่งกันแย้มกลีบเบ่งบานอวดโฉมให้โลกสวยรายรอบริมตลิ่งทั้งสองฝั่ง ส่งกลิ่นหอมอบอวลไปทั่วบริเวณ บ้างก็หลุดร่วงล่องลอยอ้อยอิ่งก่อนจะไหลตามสายน้ำเพื่อแสวงหาโอกาสเติบโตงอกเงยงดงามในที่ที่เหมาะสมต่อไป

“อย่านะ...”
เสียงเด็กผู้หญิงแว่วมากระทบความรู้สึก และเพียงนึกภาพเด็กหญิงตัวเล็กๆ ก็ปรากฏเบื้องหน้า เด็กหญิงอายุประมาณห้าขวบ ในชุดเสื้อคอกระเช้าสีฟ้าอ่อนนุ่งจงกระเบนสีแดงเข้มรัดเอวไว้เรียบร้อย ข้อมือเล็กๆ มีกำไลสีทองอันจิ๋วที่ส่งเสียงกรุ๋งกริ๋งเวลาขยับมือ นั่งบนโขดหินปริ่มน้ำหย่อนขาลงหยอกเย้าความฉ่ำเย็นของน้ำใส คะเนจากหน้าตาและผิวพรรณบอกว่าเธอไม่ใช่ลูกชาวบ้านธรรมดาเป็นแน่ ตาโตใสแป๋วบ่งบอกถึงความไร้เดียงสา คิ้วบางแบบเด็กๆ ปากจิ้มลิ้มสีชมพูจมูกเล็กๆ รับกับโค้งหน้าผากโหนกและผมยาวบางๆ ที่ถูกรวบเป็นจุกไว้ด้านบน ใบหูกางดูน่ารัก สองแก้มยุ้ยก็น่าหยิกเหลือเกิน

‘เด็กคนนี้คือ...พุดซ้อนในชาติใหม่...น้องปิ่นในชาติที่แล้วเหรอ?’

ปราณ เฝ้ามองภาพเด็กหญิงตัวเล็กๆ อย่างสุขใจเหลือเกิน การได้นั่งมองใครสักคนที่เฝ้าฝัน ได้เห็นรอยยิ้มของใครสักคนที่เฝ้าคอยมาเนิ่นนาน ช่างเป็นความรู้สึกที่แสนวิเศษ ถึงแม้นั่นจะเป็นอดีตที่ผ่านมาแล้วนานแสนนานก็ตาม
‘ไม่สิ นี่ไม่ใช่ความรู้สึกของเราคนเดียว มีความรู้สึกรักและเอ็นดูคละเคล้าความสนุกสนานแบบเด็กผู้ชายปนอยู่ด้วย ต้องมีเราอีกคนอยู่ที่นี่’

“อย่าแกล้งเขา...อ๊า....” ขณะที่ร้องห้ามคนอื่นไม่ให้แกล้งแต่มือน้อยๆ กลับวิดน้ำใส่อีกคนไม่ยั้ง พลางเบือนหน้าหลับตาปี๋ป้องกันน้ำเข้าตาปากก็ร้องวี้ดว้ายไปตามเรื่อง
“ไม่ยอมให้แกล้งฝ่ายเดียวหรอกนะ”
‘เด็กผู้ชายที่กำลังวิดน้ำอย่างเบามือ รอยยิ้มปริ่มใบหน้า ใช่แล้วละ...รอยยิ้มแห่งความสุขแบบนั้นเป็นความรู้สึกเดียวกับที่เรากำลังรู้สึกได้ในขณะนี้ เด็กผู้ชายคนนั้นคือ...เราเอง’ คนที่อยู่ในฐานะคนเฝ้ามองอดจะอมยิ้มไม่ได้ ความสุขที่สัมผัสได้ปริ่มล้นหัวใจจนอยากจะอยู่กับความรู้สึกนี้นานๆ

“พี่กล้าแกล้งเขา” เมื่อเห็นท่าว่าจะสู้ไม่ไหว เด็กน้อยก็เริ่มงัดไม้ตายที่เคยใช้ได้เสมอออกมา ไม้ตายที่ใช้ได้กับ ‘พี่กล้า’ ของเธอ มือน้อยเปลี่ยนมาปิดหน้าส่งเสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นอย่างเสียใจเหลือคณา คนตัวโตที่แช่น้ำอยู่ครึ่งตัวละมือจากการวิดน้ำ ตรงเข้าปลอบประโลมเด็กน้อยที่ทำท่าว่าจะงอแง รอยยิ้มเมื่อครู่เปลี่ยนเป็นแววกังวลเข้ามาแทนที่ คะเนจากรูปร่างแล้วเห็นทีกล้าจะโตกว่าสักห้าปีเห็นจะได้ หน้าตาบอกว่าเฉลียวฉลาด ผิวสีเข้ม ท่อนบนเปลือยเปล่ารูปร่างผอมบางอย่างเด็กชาวบ้านทั่วไป

ปราณรับรู้ได้ถึงความห่วงหาอาทรที่กล้ามีต่อเธอ มันช่าง...มากมายเกินที่เด็กทั่วไปจะพึงมี
“พี่ขอโทษนะเนื้ออ่อน ขอโทษๆๆ ไม่แกล้งแล้วอย่าร้องนะคนเก่ง”

‘ชื่อเนื้ออ่อน? น่ารักจังเลย’

“พี่กล้าแกล้งเขา” คนขี้แกล้งเอื้อมมือลูบศีรษะคนตัวเล็กเบาๆ
“เย้...เชื่อด้วย ฮ่าๆๆ” ฉับพลันนั้นมือน้อยก็ถูกเปิดออก เผยให้เห็นรอยยิ้มแก้มปริโชว์ฟันซี่เล็กๆ และเหงือกสีชมพูน่ารัก โยกหัวไปมาอย่างผู้กำชัยจนตัวโยน
“ถูกหลอกจนได้ ลงมาเล่นด้วยกันไหมเนื้ออ่อน ขี่หลังพี่ก็ได้นะ” เด็กผู้หญิงอีกคนที่คาดว่าคงโต กว่าสักสองสามปีเอื้อมมือชวนคนตัวเล็กที่ยังหัวเราะสะใจไม่หาย เธอส่ายหน้าปฏิเสธ ชอบนั่งหย่อนขาลงน้ำแบบนี้มากกว่าถึงจะตัวเปียกแล้วก็ตาม

“อ๊ะ ช่วยด้วย อะไรก็ไม่รู้ดึงขาพี่ อ๊ากกก..” แล้วรอยยิ้มกำชัยก็หุบลงเปลี่ยนเป็นความตกใจที่เข้ามาแทนที่แบบกะทันหัน รู้สึกกลัวจนตัวสั่น ตัวอะไรก็ไม่รู้ดึงขาพี่กล้าจนจมน้ำบุ๋งๆ ไปแล้ว
“อ๊า.....” คนตัวเล็กรีบเอาขาขึ้นจากน้ำและออกไปยืนให้ห่างตลิ่งเอาไว้ โน้มตัวชะโงกหน้าตาตื่นพ้นชะง่อนหินออกไปดูซิว่าพี่กล้าเป็นอย่างไรบ้าง พี่มะปรางเองก็ตกใจจนต้องรีบขึ้นมายืนเป็นเพื่อน

“พี่...” น้ำเสียงแผ่วเบาเต็มไปด้วยความกังวล นานเกินไปสำหรับการอยู่ใต้น้ำแบบนั้น ความเป็นห่วงก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็วในหัวใจดวงน้อยพร้อมๆ กับหยดน้ำใสๆ ที่รื้นขึ้นที่ดวงตา
“พี่กล้าตายแล้ว...ฮือๆๆ” เมื่อเห็นว่าพี่กล้าคงตายแน่แล้ว น้ำตาแห่งความเสียใจก็ไหลอาบสองแก้ม ครั้งนี้เป็นน้ำตาจริงๆ ร่างเล็กๆ โอบกอดพี่มะปรางเอาไว้แน่นเบือนหน้าไปทางริมน้ำด้วยสายตาวิงวอนต่อใครสักคน ใครสักคนที่จะช่วยให้เกิดปาฏิหาริย์ทำให้พี่กล้าโผล่ขึ้นมาจากน้ำเสียที…คืนพี่กล้ามาให้เนื้ออ่อนเถอะนะ
“พี่กล้าตายแล้ว...”

“มาแล้ว... โอย นานเหมือนกันนะเนี่ย”
“หลอกเขา” มือเล็กๆ ตรงเข้าทุบตีคนขี้แกล้งให้สาสมกับที่หลอกให้คนอื่นเป็นห่วง
“โอ๋ๆๆ พี่ไม่เป็นไรซะหน่อย ไม่ต้องร้องนะ”
“นี่แน่ะๆๆๆ ชอบแกล้งนักใช่ไหม” ทั้งทุบตีแหละหยิกข่วนแต่คงไม่เจ็บเท่าไหร่หรอกเพราะพี่กล้าจะต้องรู้ว่าหยิกเพราะรัก
“อ๊า...” หยิกเพลินจนลืมดูตลิ่ง และแล้วร่างเล็กๆ ก็ต้องหล่นตูมลงน้ำจนได้ ยังดีที่มีพี่กล้าคอยรับและพยุงให้พ้นจากน้ำไม่เช่นนั้นคงโดนตัวอะไรก็ไม่รู้ลากไปเป็นแน่

“คุณหนูคะ คุณหนู เจ้าคุณพ่อท่านเรียกหาแล้วเจ้าค่ะ” แม่สีนวลเดินกึ่งวิ่งพาร่างอันตุ้ยนุ้ยโยกย้ายมาอย่างยากลำบาก ไม่น่าเชื่อว่านี่จะเป็นรูปร่างของคนที่เป็นบ่าวมาค่อนชีวิต
คนตัวเล็กค่อยวางมือจากการทำโทษคนขี้แกล้ง แต่สายตายังคงจิกเล็กๆ แบบ ‘ฝากไว้ก่อนเถอะ’ เพราะนอกจากเจ้าคุณพ่อจะเรียกหาแล้ว ยังเปียกจนหนาวสั่นไปทั้งตัว



“พี่บอกหลายครั้งหลายหนแล้วไม่ใช่รึแม่รำไพ ว่าอย่าให้เนื้ออ่อนไปคลุกคลีกับพวกบ่าวให้มันมากนัก อีกหน่อยโตขึ้นจะแยกกันไม่ออกว่าใครเป็นบ่าวใครเป็นนาย โดยเฉพาะกับเด็กผู้ชาย”
‘ท่านเจ้าคุณเฟื่อง’ ผู้เป็นบิดาไม่ใคร่จะชอบใจนักที่เด็กๆ เล่นกันสนิทสนมจนเกินไป ท่านเจ้าคุณแม้จะอายุเพิ่งย่างเข้าวัยสี่สิบเศษ แต่ก็ก้าวหน้าในวงราชการ แม้ไม่ใช่คนเจ้ายศเจ้าอย่างสักเท่าไร แต่การปกครองคนหมู่มากก็จำเป็นจะต้องวางตัวให้เป็นที่ยำเกรงอยู่เสมอ

ร่างสูงสง่าดูภูมิฐานอย่างชายไทยโบราณ ใบหน้าเข้มคิ้วหนาตาคม จมูกโด่งเป็นสัน สวมเสื้อทรงกระบอกแขนยาวสีขาวกางเกงแพรสีแดงเข้มเบาสบาย ทรุดตัวลงนั่งข้างๆ ภริยาแสนสวย ‘คุณหญิงรำไพ’ แม้อายุจะเลยหลักสามสิบมาแล้วหลายปี แต่ก็ยังคงเค้าความงามอยู่ไม่สร่าง ดวงหน้ารูปไข่แววตาอ่อนโยน คิ้วเรียวสวยได้รูป จมูกโด่ง ริมฝีปากรูปกระจับที่ฉาบด้วยรอยยิ้มอยู่เสมอเป็นสีแดงตามธรรมชาติ ผมยาวสลวยถูกรวบเอาไว้ด้านหลังยังให้ดวงหน้านั้นดูอ่อนเยาว์อยู่เสมอ ห่มสไบแพรสีเขียวและผ้าจีบสีเดียวกัน ช้อนตามองสามีอย่างเข้าใจแต่ก็อดจะอมยิ้มขำในท่าทีแบบนั้นไม่ได้

“คงไม่เป็นไรกระมังคะคุณพี่ เด็กๆ เขาก็เล่นกันสนุกๆ เท่านั้นเอง ยายหนูจะได้ไม่เหงาไงคะ ส่วนเรื่องนายเรื่องบ่าวน้องว่าไม่เห็นจะต้องไปแบ่งแยกอะไรให้มันวุ่นวาย ปล่อยให้เป็นหน้าที่พ่อแม่เขาสั่งสอนกันเองจะดีกว่า เราไปยุ่งมากบ่าวไพร่มันจะคิดว่าเรารังเกียจเอาได้นะคะ” พูดพลางสองมือจัดกลีบดอกไม้ในเข็มยาวให้เข้าที่สลับสีสวยงาม เตรียมมาลัยไว้สำหรับไหว้พระในตอนเย็น แม้มีบ่าวมากมายแต่คุณหญิงก็มักจะทำอะไรด้วยตัวเองเสมอ โดยมีบ่าวเป็นลูกมือสักคนก็เพียงพอแล้ว

“แม่รำไพก็เป็นเสียแบบนี้ เฮ้อ...คอยดูเถอะสักวันจะต้องมานั่งเสียใจ” ถอนหายใจเฮือกใหญ่กับความเป็นคนใจดีมีเมตตาเกินไปของภริยาสาว รั้งกายลุกขึ้นอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์นักได้ไปเดินเล่นในสวนสักพักคงจะดีขึ้น
“คิดมากระวังแก่ไวนะคะ คุณพี่จะรับของว่างเลยไหม น้องให้คนจัดไว้ให้แล้วของโปรดของคุณพี่ทั้งนั้นเลยนะคะ” รีบพูดดักคอสามีอย่างรู้ใจ ท่านเจ้าคุณโปรดขนมครกใบเตยนัก แล้วถ้ามีของขบเคี้ยวกรอบๆ เป็นขนมเบื้องอร่อยๆ พร้อมน้ำมะพร้าวอ่อนหอมชื่นใจแถมมาด้วยแล้วละก็อารมณ์ขุ่นมัวมีหวังหายเป็นปลิดทิ้ง
“ชอบเอาของกินมาล่อ ก็ให้เด็กยกมาสิ” ตอบภรรยาไปด้วยน้ำเสียงราบเรียบแผ่วเบา ครั้นจะยิ้มออกมาก็เกรงจะเสียหน้า

แค่รูปงามอย่างเดียวคงไม่พอสำหรับการมัดใจสามีให้อยู่หมัด ยังต้องมีเรื่องอื่นๆ อีกมากมายนัก ซึ่งคุณหญิงรำไพเองก็เป็นหนึ่งในผู้หญิงที่สามารถทำได้ดี...ดีมากเสียด้วยซ้ำ

“มาแล้วค่ะเจ้าคุณพ่อ...” ลูกสาวตัวเล็กๆ วิ่งขึ้นเรือนมาเนื้อตัวเปียกปอนฝากรอยเท้าเล็กๆ ชื้นแฉะไว้บนพื้นเรือนตลอดทาง กล้า และมะปรางตามขึ้นมาติดๆ นั่งลงกับพื้นอย่างสำนึกผิดที่พาคุณหนูเนื้ออ่อนไปเล่นจนเปียกไปทั้งตัวแบบนี้ ไม่กล้าสบตาท่านเจ้าคุณเพราะรู้ว่าท่านต้องขุ่นเคืองเป็นแน่

“ไปผลัดผ้า มีอะไรก็ไปทำได้แล้วไป” คุณหญิงรีบตัดบทก่อนที่ท่านเจ้าคุณจะทันพูดอะไร เด็กทั้งสองรีบวิ่งลงเรือนไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้ท่านเจ้าคุณอ้าปากค้างยังไม่ได้ต่อว่าเลยสักคำ
“ลูกเนื้ออ่อนก็ไปผลัดผ้าได้แล้วเดี๋ยวจะไม่สบายนะ ไปแม่สีนวลแล้วก็ให้เด็กยกของว่างมาได้แล้ว”
“เจ้าค่ะ ไปค่ะคุณหนู ดูซิเปียกหมดแล้ว”

“เจ้าคุณพ่อหน้าบูดระวังแก่ไวนะเจ้าคะ” ไม่วายจะหันมากระเซ้าเรียกรอยยิ้มจากเจ้าคุณพ่อก่อนจะเดินตามแม่สีนวลต้อยๆ เข้าห้องไปผลัดผ้า



“เนื้ออ่อนทางนี้”
วันเวลาผ่านไปไวดังความคิด เพียงไม่กี่อึดใจปราณก็ได้เห็นเนื้ออ่อนโตเป็นสาวแรกรุ่น ผิวพรรณเปล่งปลั่งดังดอกไม้แรกแย้ม ตาโตผมยาวประบ่า ปากยังจิ้มลิ้มเหมือนเมื่อยังเด็กสองแก้มใสอวบอิ่มเป็นสีชมพูด้วยเลือดฝาดของวัยสาว นุ่งกระโจมอกตีโป่งเล่นน้ำสนุกสนาน ‘อายุคงสักสิบห้าเห็นจะได้ ยังเล่นน้ำเป็นเด็กอยู่เลย’

“เนื้ออ่อนมาทางนี้ดีกว่า”
มะปรางเป็นสาวแล้วแม้จะไม่ผุดผ่องเช่นเนื้ออ่อนแต่หน้าตาก็แลดูหมดจด สวยงามอย่างที่คนเป็นบ่าวจะพึงเป็นได้ อยู่ในชุดกระโจมอกพร้อมตีโป่งเช่นกัน ยืนกวักมืออยู่ในน้ำที่ลึกเพียงอกไกลๆ คนแก้มใสต้องปล่อยลมออกจากโป่งเอี้ยวตัวไปตามเสียงเรียก สองแขนเรียวแหวกว่ายพาร่างบอบบางในน้ำใสมุ่งไปหาพี่มะปรางขาเรียวกระดิกไวไวช่วยให้ไปถึงเร็วขึ้น ทันใดนั้นบางสิ่งที่มีลักษณะยาวๆ สีดำผิวตะปุ่มตะป่ำโผล่พ้นผิวน้ำพอให้รู้ว่าส่วนลำตัวที่จมอยู่ใต้น้ำคงยาวร่วมสามเมตรกำลังพุ่งตรงมาที่เธอ หัวใจอ่อนๆ กระตุกวูบ กรีดร้องออกมาอย่างตื่นตระหนก

“ว้าย จระเข้ พี่กล้าช่วยด้วย...!” คนกำลังตกใจมีอันต้องยืนตัวแข็งก้าวขาไม่ออก คนเดียวที่หวังว่าจะมาช่วยชีวิตเอาไว้ได้ในเวลานี้คือพี่กล้าที่คุ้นเคยนั่นเอง
“พรูดด...มีจระเข้ที่ไหนล่ะ นี่มันขอนไม้” แล้วคนที่หวังว่าจะมาช่วยชีวิตก็โผล่มาจากใต้น้ำ แต่เป็นการโผล่มาแบบที่คนแก้มใสไม่ปลื้มเลยสักนิด ก็ไอ้พี่กล้าขี้แกล้งมันเป็นคนพาจระเข้ขอนไม้มาหลอกให้ตกใจจนแทบสิ้นสติ

“ชอบแกล้งนักใช่ไหม นี่แน่ะ” คนที่หน้าซีดเป็นไก่ต้มเมื่อสักครู่กลายร่างเป็นแม่เสือสาวขึ้นมาทันใด มืองามทว่ายามที่ใช้บิดพุงอ่อนๆ แบบนี้ช่างดูมีพิษภัยร้ายแรงเหลือเกิน
“โอ๊ย...เจ็บจังเลย ยอมแล้วๆ” พ่อตัวดีที่มีเค้าความหล่อปรากฏให้เห็นบนใบหน้าต้องร้องโอดโอยใบหน้าเหยเกด้วยความเจ็บปวดถึงกล้ามท้องจะเป็นมัดๆ แต่มันไม่ได้ช่วยอะไรจากการถูกบิดพุงเลยแม้แต่น้อย
“ยังจะกล้าทำอีกไหม?”
“ไม่แล้วขอร้าบ คุณหนูเนื้ออ่อน” นาทีนี้จำต้องยอมไว้ก่อน แม้จะตัวเล็กกว่า ร่างกายก็อ่อนแอกว่าทว่ากล้ามปูน้อยๆ ของเธอช่างมีพลังมากมายอย่างกับเป็นกล้ามปูพลังหมีเลยทีเดียว ในความเจ็บปวดนั้นปราณรับรู้ได้ถึงความสุขใจเปี่ยมล้น เป็นความสุขของชายหนุ่มที่มีโอกาสใกล้ชิดหญิงผู้เป็นที่รัก..เจ็บปวดอย่างรัญจวนใจ..
“เอาให้ตายไปเลยเนื้ออ่อน...” มะปรางยุส่ง พลางหัวเราะชอบใจ
“แล้วก็บอกกี่ครั้งแล้วว่า ถ้าไม่ต่อหน้าเจ้าคุณพ่อไม่ต้องเรียกแบบนี้ โกรธแล้วด้วย”

“คุณหนูเจ้าคะ เจ้าคุณพ่อให้หาแล้วเจ้าค่ะ”
‘เกลียดนักชอบทำให้อารมณ์เสียอยู่เรื่อย’




“ไปเล่นไหนกันมาล่ะ เนื้อตัวเปียกมาเชียว”
“ไปเล่นน้ำที่น้ำตกมาขอรับ”
“ข้าถามลูกสาวข้า” ท่านเจ้าคุณพูดเสียงเข้มชำเลืองมองเพียงหางตา อาจถึงเวลาต้องกำราบกันเสียบ้าง ก่อนทุกอย่างจะบานปลายไปมากกว่านี้ ท่านเจ้าคุณเองก็เคยเป็นหนุ่มมาก่อนย่อมรู้ดีว่าหนุ่มสาวใกล้ชิดกันอะไรก็เกิดขึ้นได้ ทางที่ดีควรหาทางป้องกันเอาไว้เสียแต่เนิ่นๆ เนื้ออ่อนกำลังแตกเนื้อสาวงามสะพรั่ง เจ้ากล้าเองก็อายุย่างยี่สิบปีนี้ เป็นหนุ่มเต็มตัวจะปล่อยให้ไปไหนมาไหนกันเหมือนเมื่อก่อนเห็นทีจะไม่งามนัก
“ก็มันร้อนนี่คะเจ้าคุณพ่อ เนื้ออ่อนก็เลยชวนพี่กล้ากับพี่มะปรางออกไปเล่นน้ำกัน สนุกดีออกไม่ได้เล่นแบบนี้มานานแล้ว”

“เล่นกันพ่อไม่ว่าหรอก แต่เนื้ออ่อนโตเป็นสาวแล้ว จะไปสนิทชิดเชื้อหรือไปไหนมาไหนกับใครก็ดูให้เหมาะสมด้วย ให้มันรู้ว่าใครเป็นนายใครเป็นบ่าว”

แค่คำพูดธรรมดาๆ ก็ทำให้คนฟังรู้สึกเจ็บแปลบเข้าไปถึงข้างในหัวใจได้ กล้าได้แต่ก้มหน้ารับฟัง เขารู้และสำนึกอยู่เสมอว่าตนอยู่ในฐานะเช่นไรในบ้านหลังนี้ ไม่ได้เป็นเลือดเนื้อเชื้อไข ไม่ใช่ใครสักคนที่มีฐานะเท่าเทียม หากแต่เป็นเพียงลูกบ่าวที่คุณหญิงท่านเมตตาชุบเลี้ยงเอาไว้เท่านั้นเอง คงถึงเวลาที่เขาจะต้องอยู่อย่างเจียมเนื้อเจียมตัวให้มากกว่านี้ ตลอดเวลาที่ผ่านมาแม้ท่านเจ้าคุณจะไม่ใคร่ชอบใจนักที่เห็นเขาสนิทสนมกับเนื้ออ่อนแต่ก็ไม่เคยแสดงออกอย่างชัดเจนเช่นวันนี้ นี่คงเป็นการประกาศอย่างเป็นทางการแล้วกระมัง
“เจ้าคุณพ่อ...” เนื้ออ่อนท้วงเสียงสั่นเครือพลางใช้สายตาขอความช่วยเหลือจากผู้เป็นแม่
“คุณพี่คะ…”
“แม่รำไพเงียบเถอะ พี่ขี้เกียจจะทะเลาะด้วยแล้ว” ท่านเจ้าคุณกล่าวตัดบทก่อนเดินหนีขึ้นเรือนด้วยสีหน้าบึ้งตึง

“กระผมขอประทานโทษจริงๆ ขอรับ” กล้ามองตามผู้เป็นนายพลางกล่าวด้วยความรู้สึกผิดเต็มหัวใจ
“ไม่เป็นไรหรอก มีอะไรก็ไปทำเถอะ รู้ว่าคุณท่านไม่ชอบทีหลังจะทำอะไรก็ให้ระวังกันหน่อยก็แล้วกัน”
สำหรับคุณหญิงรำไพแล้ว กล้าเป็นเหมือนลูกชายคนหนึ่ง เป็นพี่ชายคนโตที่คอยดูแลเนื้ออ่อนมาตั้งแต่ไหนแต่ไร และกล้าก็เป็นเด็กว่านอนสอนง่าย เอาการเอางานจึงไม่แปลกที่คุณหญิงรำไพจะเมตตาเป็นพิเศษ
“ขอรับ”



ไอรายา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 24 พ.ค. 2554, 08:10:37 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 24 พ.ค. 2554, 08:10:37 น.

จำนวนการเข้าชม : 1887





<< ตอนที่ 11 ผู้เสียสละ   ตอนที่ 13 การกลับมาของเพื่อนเก่า >>
ศศิริษา 25 พ.ค. 2554, 12:36:46 น.
เริ่มเศร้าแล้ว


ปิลันธน์ 25 พ.ค. 2554, 14:42:33 น.
ตามรักกันไปทุกภพทุกชาติแบบนี้ แสดงว่ารักจริง รักมั่นคง...


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account