พักตร์อสูร
ชีวิตปกติสุขของเธอต้องสิ้นสลาย เมื่อตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าตัวเองอยู่ในร่างของเด็กหญิงคนหนึ่ง โชคชะตาหรือเวรกรรม ทำให้มาโผล่ในสถานการณ์ผัว1เมีย6 แถมต้องสู้รบเพื่อเอาตัวให้รอดอีก “ขอชีวิตเก่าฉันคืนมาเถิด”
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: บทที่ 5 (2/3)




มาอัพอีกทีวันพุธนะคะ

รัก จุ๊บุ๊ จุ๊บุ๊

สุชาคริยา

-----------------------------------------------------



“แต่อิฉันได้ยินเต็มสองหูเจ้าข้า” บ่าวคนสนิทของวาดยืนยันเสียงแข็ง หันไปถลึงตาใส่บ่าวในครัว

อุษามันตราอยากจะเบ้ปากใส่ แต่ก็ทำไม่ได้ นายบ่าวช่างไม่ผิดกันเลย

“แม่แจ่ม แม่วาดบอกว่าแม่แจ่มอยู่ใกล้ที่สุด แลได้ยินทั้งหมด จงตอบมาว่าอุษามันตราใช้คำพูดใดเมื่อตอบแม่วาด” โชติระเสสั่ง

แม่ครัวใหญ่แห่งมนสิการสบตาโชติระเสครั้ง ตยาวดีครั้ง จิตราครั้ง และอุษามันตราครั้งหนึ่ง ถอนหายใจ แล้วตอบว่า “แม่นายน้อยอุษามันตรากล่าวว่า ‘แม่วาดมีอะไรกับฉันหรือเจ้าข้า’ เพียงเท่านี้เจ้าข้า นายท่าน”

โชติระเสหันขวับมาที่อุษามันตราทันใด สีหน้าซื่อๆ มองตาใสทำให้เขาโกรธ แต่ที่โกรธมากกว่าก็คือตยาวดีและจิตราที่ไม่สั่งสอนลูกให้ดีจนทำให้เป็นเรื่องขึ้นมาได้ เขาหวังว่านี่จะไม่ใช่เรื่องจริงและลูกจะปฏิเสธเมื่อถามว่า

“อุษามันตรา เจ้าพูดเช่นนั้นจริงหรือไม่”

สีหน้าแววตาไม่เกรงกลัวจ้องเขาอย่างไม่ไหวหวั่น เสียงเล็กๆ นั้นตอบเต็มคำว่า

“เจ้าข้า”

วาดอมยิ้ม สายตาสะใจ มองไปทางสามคนบนเรือนใหญ่ ตอนนี้มือของโชติระเสกำแน่น แววตาแสดงความผิดหวัง

อุษามันตรากลืนความขื่นขมลงคออย่างยากลำบาก แต่ก็นั่งนิ่งไม่เผยความรู้สึกใด อยากให้มีคำถามต่อว่าเหตุใดเธอจึงพูดเช่นนี้ แต่ก็มีเพียง...

“เจ้ารู้รึไม่ ว่าได้ทำสิ่งใดลงไป อุษามันตรา”

รู้สิ ทำไมจะไม่รู้ แต่จากสภาพการณ์ไม่มีโอกาสเอื้ออำนวยที่จะให้เธอบอกว่าแท้จริงแล้วมันเกิดอะไรขึ้นก่อนจะมาถึงคำพูดนี้ นึกเคืองป้าแจ่ม แต่ก็ไม่ต่อว่าอะไรเมื่อธรรมเนียมปฏิบัติในสังคมนี้คือจะพูดอะไรไม่ได้นอกเหนือจากให้คำตอบในสิ่งที่ผู้ปกครองต้องการโดยไม่สามารถกล่าวนอกเรื่องจนกว่าอีกฝ่ายอนุญาตให้พูด แต่สำหรับเธอในตอนนี้... ไม่มีเลย

การที่ต้องอยู่ท่ามกลางสายตาตำหนิหลากหลายไม่ได้เจ็บปวดเท่ากับถูกสายตาของคนที่เธอให้ความรักมองมา ความรู้สึกผิดหวัง ไม่อยากเชื่อว่าเธอทำแบบนั้น ยิ่งทำให้เธอรู้สึกเจ็บ อุษามันตราไม่ปฏิเสธที่ความผูกพันในช่วงปีกว่าๆ ทำให้เธอรักตยาวดี ป้าจิตรา และโชติระเสเช่นผู้ที่ผูกพันตามสายเลือด และนั่นจึงทำให้ตอนนี้ความกดดันจากทุกคนทำให้อัดอั้นไม่น้อย

“จงกราบขอโทษแม่วาดประเดี๋ยวนี้ อุษามันตรา”

คำสั่งนี้ประหนึ่งฟ้าผ่าลงที่ใจเธอ หูของเธออื้ออึง ทุกอย่างตรงหน้าพร่ามัวเฉียบพลัน

“มิเกินไปดอกหรือเจ้าข้านายท่าน”

จิตราอุทธรณ์ เพราะการกราบขอโทษ ก็คือให้กราบเท้าของอีกฝ่ายนั่นเอง ซึ่งการให้ลูกภริยาเอกไปกราบเท้าภริยารองด้วยเรื่องเท่านี้ถือว่าหยามเกียรติหยามศักดิ์ศรีประหนึ่งให้ตายทั้งเป็น

อุษามันตรารู้ดีกว่าโชติระเสต้องการให้ทำอะไรเพื่อยืนหยัดความทรงธรรม แต่นั่นไม่ใช่ความจริง เธอไม่ผิด เหตุใดจึงต้องให้ทำถึงขนาดนั้น นับแต่เกิดมาก่อนจะมาอยู่โลกนี้ พ่อไกรกับแม่สร้อยที่เลี้ยงเธอจนอายุได้ยี่สิบเจ็ดปี เธอยังไม่เคยจะได้กราบเท้าของท่าน กราบแทบเท้าเพื่อขอบพระคุณในทุกสิ่ง จนมาอยู่ในโลกนี้ที่เธอยอมกราบเท้าบุพการีของอุษามันตราก็ตามธรรมเนียมลูกเคารพบิดามารดและเพื่อเอาตัวรอด แต่จะให้เธอมากราบเท้าของผู้หญิงอย่างวาด ก็อย่าได้หวัง!

อุษามันตรานั่งนิ่งแบบนั้น ก็ยิ่งทำให้โชติระเสโกรธมากขึ้น ลูกไม่เชื่อฟังเขา ไม่ยอมพูดหรือขยับไปไหน

“ถ้าเจ้ามิกราบขอโทษด้วยตนเอง พ่อจะให้แม่ของเจ้าเป็นคนกราบขอโทษแม่วาดเอง ด้วยความผิดที่เลี้ยงดูสั่งสอนเจ้ามิได้ความ”

คำพูดนี้ดั่งแส้ฟาดลงที่กลางใจซ้ำให้เจ็บช้ำหนักกว่าเดิม อุษามันตรามองโชติระเสตาไม่กะพริบ โชติระเสก็จ้องเธอตาไม่กะพริบเช่นเดียวกัน ใบหน้าของเธอนั้นเชิดขึ้นอย่างไม่เกรงกลัว ถ้าผิด เธอก็ยินดี แต่ความจริงมันไม่ใช่ จึงทำให้ทำใจไม่ได้ ก่อนจะพูดแบบช้าๆ ชัดถ้อยชัดคำ และบังคับเสียงไม่ให้สั่นว่า

“ความผิดลูกใช่ถึงขั้นนั้น เหตุใดลูกจักต้องกราบแม่วาด เหตุใดจึงต้องให้คุณแม่กราบแม่วาดด้วยเจ้าข้า”

คำพูดแรกที่หลุดออกจากปากของอุษามันตรา ทำให้ผู้ใหญ่รอบข้างไม่อยากเชื่อว่านี่คือคำพูดของเด็กอายุสี่ขวบ มือเล็กๆ ที่ยกขึ้นประนมไปทางวาด ก้มหน้า แล้วพูดว่า

“ฉันขอโทษแม่วาดเจ้าข้า”

ก็ทำให้แม่ครัวใหญ่และคนครัวที่รู้เหตุการณ์สะอึก ท่าทางสง่างามและหยิ่งผยองของบุตรีนายช่างใหญ่โชติระเสทำให้ผู้คนมีความรู้สึกแตกต่างกันออกไป นางแจ่มคันปากอยากจะพูดแต่ก็เหมือนมีน้ำมาท่วมปิดเอาไว้เมื่อนายท่านไม่ได้ให้โอกาสผู้ใดตอบ ซึ่งเสี่ยงต่อการถูกโบยหลังลายที่ขัดจังหวะ อีกทั้งเป็นการมิสมควรที่บ่าวจักกระทำ แต่สำหรับโชติระเสนั้นกลับกลายเป็นว่าเติมเชื้อไฟให้ลุกโชน

“ตยาวดีน้องเจ้า จงกราบขอโทษวาดเสียบัดเดี๋ยวนี้ ลูกของเจ้าช่างมารยาททรามนัก”

เป็นคำต่อว่าที่รุนแรงจนทำให้ตยาวดีและจิตราน้ำตาคลอ ตยาวดีหันมามองเธอนิดหนึ่งแล้วมองท่านโชติระเส และที่สุดก็ขยับตัว อุษามันตราได้แต่เก็บความไม่พอใจลงไปให้ลึกที่สุด ก่อนจะพูดว่า

“คุณแม่อย่าทำเลยเจ้าข้า เสียมือเปล่า”

พูดจบก็เดินเข้าไปหาวาด อุษามันตราหยุดตรงหน้าโชติระเส มอง... มองนิ่งๆ เพื่อให้รู้ว่าในใจคุณพ่อกำลังคิดเช่นไร นี่ใช่ความยุติธรรมที่ควรดำรงจริงหรือไม่ แล้วหันไปมองวาด สายตาสะใจของหล่อนเธอรับรู้มันทั้งหมด

อุษามันตรากัดฟัน ก้มลงแทบเท้าภริยารองของคุณพ่อ แล้วกราบ

“อุษากราบขอโทษเจ้าข้า”

ไม่คิดว่าน้ำเสียงของตัวเองจะสั่นเครือ น้ำตาคลอเบ้า โดยเฉพาะตอนนี้ที่วาดชักเท้าหนี ซึ่งมันทำให้เธอเจ็บลึกเข้าไปถึงข้างใน ได้แต่กำมือไว้แน่น ถ้ามิใช่เพราะความผิดที่เธอก่อจนลุกลามบานปลายเดือดร้อนไปถึงคุณแม่ วาดก็อย่าได้หวังว่าจะมีโอกาสเช่นนี้ และเช่นกันที่นึกโทษตัวเองกับการไม่คิดให้ดีและต้องมาเจ็บใจภายหลัง เพราะไม่เช่นนั้น... ตอนนี้เธอคงไม่ต้องมาทำกราบผู้หญิงตรงหน้าให้เสียมือ

อุษามันตราค่อยๆ ลุกขึ้น ใช้หลังมือปาดน้ำตาออกไป มองเรียงตัวบ่าวในครัวทั้งหลายรวมถึงบ่าวคนสนิทของวาดแล้วมาหยุดอยู่ที่โชติระเส นัยน์ตาเธอแดงก่ำ น้ำตารินไหลรดแก้ม แล้วกล่าวออกไปว่า

“คุณพ่อจะมิถามลูกสักคำเชียวหรือเจ้าข้า ว่าเหตุใด ลูกจึงพูดเช่นนั้น”

น้ำเสียงขึ้นจมูก อุษามันตราหยุด มองดูคนตรงหน้าว่าจะห้ามหรือจะอนุญาต และเมื่อคุณพ่อไม่เอ่ยขัด เธอจึงเอ่ยต่อ ใบหน้ายังคงเชิดเอาไว้ ยืนหลังตรง สายตาไม่ละไปจากดวงตาของท่านโชติระเส

“แม่วาดเดินเข้ามาถามลูกว่า ‘อุษา เจ้าทำสิ่งใดอยู่’ ลูกหารู้ไม่ว่าแม่วาดจักหมายถึงลูก เมื่อธรรมดาแล้ว แม่วาดเรียกลูกว่า ‘แม่นายน้อยอุษามันตรา’ ลูกจึงมิได้ตอบ จนแม่วาดนั่งลง ลูกจึงได้ถามกลับไปว่า ‘แม่วาดเรียกฉันหรือเจ้าข้า’ แม่วาดไม่พอใจ ตะคอกใส่ลูก แล้วเอ่ยว่า ‘เหตุใดเจ้าจึงเรียกข้าเช่นนี้’ เมื่อถูกตะคอก ลูกจึงรีบกลับเรือนใหญ่ เรื่องมันก็เป็นเช่นนี้แลเจ้าข้า”

พูดจบก็เดินออกมากอดตยาวดี “คุณแม่เจ้าข้า ลูกง่วงแล้วเจ้าข้า เข้าห้องเถิด” น้ำตาเธอไหลเป็นสาย ไม่เคยคิดว่ามันจะไหลออกมาได้ง่ายดายถึงเพียงนี้ เธอไม่ใช่คนอ่อนแอ แต่ ณ ตอนนี้ มันสุดจะทน

ตยาวดีเช็ดน้ำตาให้ กระซิบบอกกับเธอริมใบหูทั้งสะอื้นว่า “ประเดี๋ยวค่อยนอนนะลูกเอ๋ย อดทนไว้ก่อนเถิดเจ้า” แล้วก็เช็ดน้ำตาของตนเอง สายตาเสียใจ ผิดหวังของตยาวดีส่งไปให้สามีของตน กี่ครั้งกี่หนที่หล่อนต้องทนและเป็นฝ่ายถูกกระทำ ในใจของคนเป็นแม่ร้าวรานหม่นไหม้ เมื่อความรักที่เหมือนจะได้จากพ่อของลูกนั้นกลับถูกทำลายลงเพียงเพื่อหาความยุติธรรมให้กับภริยารองโดยไม่สอบถามสิ่งใดให้รอบคอบเสียก่อนนอกจากคำตอบที่ต้องการ

“พวกเจ้าลงจากเรือนใหญ่ไปได้แล้ว” จิตราไล่

บ่าวทั้งหลายลนลาน แม่ครัวใหญ่คลานเข้ามาที่หน้าของนายท่านโชติระเส

“นายท่านมิได้สั่งให้อิฉันเล่าเรื่องทั้งหมด นายท่านเพียงแต่ถามอิฉันว่าใช่หรือไม่ อิฉันจึงตอบเท่าที่นายท่านถาม อิฉันกลัวโทษโบยแลผิดกาลเทศะ แต่เรื่องทั้งหมดล้วนเป็นจริงดั่งแม่นายน้อยอุษามันตราเรียนให้นายท่านทราบเจ้าข้า”

แจ่มกราบที่เท้าของโชติระเส ขัดเข่าเข้ามาหาตยาวดีที่กอดอุษามันตราไว้แน่น แล้วกราบแทบเท้าน้อยๆ ของอุษามันตราเพราะยืนกอดมารดาอยู่

“อิฉันกราบขอโทษแม่นายน้อยอุษามันตราเจ้าข้า ที่มิได้ปกป้องให้ทันเหตุ แม่นายน้อยอุษามันตรายกโทษให้อิฉันด้วยนะเจ้าข้า”

อุษามันตรายิ่งน้ำตาไหล ใจหนึ่งที่อยากโกรธป้าแจ่มก็ทำไม่ได้เมื่อรู้เหตุผล สังคมนี้ คนเป็นบ่าวจะพูดอะไรมากกว่าคนเป็นนายถามมิได้ นี่คือธรรมเนียม ช่างเป็นธรรมเนียมบ้าบอสิ้นดีเมื่อถึงเวลาคับขัน

อุษามันตราแทบไม่อยากมองหน้าใคร เธอไม่ตอบ ซบหน้าไว้กับบ่าของคุณแม่เท่านั้น

“แม่แจ่มกลับโรงครัวเถิด อุษาแลฉันมิถือโทษแม่แจ่มดอก อย่ากังวลเลย”

ตยาวดีเป็นคนให้คำตอบแทน แม่ครัวใหญ่ก้มกราบที่พื้นอีกครั้ง ก่อนจะขัดเข่าลงจากเรือน

“หากเสร็จกิจแล้ว เชิญแม่วาดกลับเรือนเช่นกัน”

เป็นครั้งแรกที่ตยาวดีออกปากไล่คนโดยเฉพาะวาด เมื่อตอนนี้เหลือเพียงแม่ภริยารอง จิตรา ตยาวดี ท่านโชติระเส และอุษามันตรา ทว่าเมื่อเจ้าเรือนพูดถึงเพียงนี้ วาดที่มีสีหน้าเจื่อนสลับบูดบึ้งก็กราบท่านโชติระเสแล้วลงจากเรือนไป

โชติระเสยังนิ่งอยู่แบบนั้น ไม่มีเสียงพูดใดๆ ของเขาอีก นับตั้งแต่อุษามันตราอธิบายความ ใจหนึ่งของคนเป็นลูกอยากจะถามว่าเหตุใดจึงไม่ให้ความยุติธรรมกับเธอบ้าง หากให้เธอกราบวาดเพื่อขอโทษ แล้วเหตุใดตอนนี้จึงไม่เรียกวาดเอาไว้แล้วให้กราบขอโทษเธอบ้าง แม้ป้าแจ่มก็ยังทำโดยไม่ต้องมีใครสั่ง นั่นจึงยิ่งทำให้ความเจ็บเพิ่มขึ้นอย่างมากทวี เจ็บ... เจ็บ... และเจ็บ จนไม่อาจพูดคำใดให้ออกมาอย่างที่ใจรู้สึก เพราะต้นเรื่องแท้จริงกลับลอยลำสบายแฮ ทิ้งเธอกับแม่เป็นผู้ถูกกระทำ ก็ยิ่งทำให้ในอกตรอมตรมเหลือเกิน

“อิฉันจะพาลูกไปนอนแล้วเจ้าข้าคุณพี่” ตยาวดีบอกเท่านั้นก็อุ้มอุษามันตราจากมา จิตราก็ตามเข้ามาด้วย

ตยาวดีวางเธอลงบนเสื่อที่ปูไว้กับพื้น หยิบหมอนมาให้ ป้าจิตราหยิบพัดโบกไปโบกมา ฝ่ามือของแม่ที่ลูบศีรษะเธอยิ่งทำให้น้ำตาหลั่ง

นี่หรือ... สภาพชีวิตของผู้หญิงในสังคมที่ผู้ชายเป็นใหญ่ ความอบอุ่นจากฝ่ามือของแม่ที่สัมผัสยิ่งทำให้เธอร้องไห้ ร้องไห้เพื่อระบายความรู้สึกทั้งหมด ศักดิ์ศรีความเป็นคนอยู่ที่ไหน ศักดิ์ศรีของเธออยู่ที่ไหน ศักดิ์ศรีของคุณแม่อยู่ที่ไหน ทำไมไม่ได้รับความยุติธรรมบ้าง ตอนนี้เธออยากกลับบ้าน กลับไปยังบ้านที่เธอจากมา เจ็บเหลือเกิน... กับการถูกรังแกแล้วสู้ไม่ได้ เมื่อผู้เป็นเสาหลักเอนเอียงและไม่ให้ความยุติธรรมอย่างแท้จริง

ในใจนึกเพียงอย่าให้เธอลุกขึ้นมายืนหยัดได้อย่างมั่นคงเชียว เพราะวันนั้น... จะเป็นวันที่ใครก็จะทำร้ายเธอและแม่ไม่ได้เช่นกัน!







สุชาคริยา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 14 ม.ค. 2556, 08:46:16 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 14 ม.ค. 2556, 09:21:20 น.

จำนวนการเข้าชม : 2759





<< บทที่ 5 (1/3)   บทที่ 5 (3/3) ----- จริงแล้วคือบทที่ 6 (เต็มบท) จ้า >>
ม่านฟ้า 14 ม.ค. 2556, 09:04:07 น.
โฮ น้ำตาคลอเลย อ่านบทนี้


ปิงปิง 14 ม.ค. 2556, 09:15:23 น.
มีเมียเยอะยังไม่พอ แถมยังโง่อีก ฮึ่ย


wind 14 ม.ค. 2556, 09:43:15 น.
ผิดหวังแฮะ นึกว่าพ่อนางเอกจะฉลาดกว่านี้ซะอีก แล้วจะคุมคนอยู่ได้ไง


chompuh 14 ม.ค. 2556, 09:54:19 น.
น้ำตาคลอเหมือนกันค่ะ สงสารแม่นายน้อยอุษาจริงๆ


ใบบัวน่ารัก 14 ม.ค. 2556, 10:07:39 น.
เสียใจนะ
มีพ่อโง่ๆแบบนี้ สงสารแม่
กลับคืนร่างจริงเถอะ


แว่นใส 14 ม.ค. 2556, 12:00:24 น.
น่าสงสารแม่ลูกที่พ่อรักเมียน้อยมากกว่า ไม่ยุติธรรมเลย


เดิมเดิม 14 ม.ค. 2556, 12:22:10 น.
ว่าแล้วเจ้าคุณพ่อ


konhin 14 ม.ค. 2556, 14:46:26 น.
ขอให้รู้สึกผิดไปจนตาย อ๊ากๆๆๆ ไม่ยุติธรรม


supayalak 14 ม.ค. 2556, 16:21:42 น.
เพิ่งเข้ามาอ่านรวดเดียวจบ ยังไม่ค่อยชินกับแนวนี้อะค่ะ ยังชอบแนวพี่ขุนกะหนูหริอยู่อ่าาาาาา แต่ก็ไม่ปฏิเสธความน่ารัก เจ้าเล่ห์ในตัวของอุษามันตรา นึกไม่ออกว่าเรื่องนี้จะมีพระเอกออกตอนไหนหรือว่าตอนโต แต่ก็จะติดตามต่อไปจ้า


supayalak 14 ม.ค. 2556, 16:22:44 น.
อ้อลืมบอกไปว่าไปสอยหนูหริกะพี่ขุนมาครอบครองนอนกอดเรียบร้อยแย้วววว


Pat 14 ม.ค. 2556, 18:37:12 น.
อ่านตอนนี้แล้วปวดใจ


แล่นแต๊ 14 ม.ค. 2556, 21:30:09 น.
อ่านแล้วน้ำตาคลอ คุณพ่อจะแก้ตัวยังไงคะ


ree 15 ม.ค. 2556, 00:45:25 น.
อ่า... ตอนนี้ดราม่าจัง
นายช่างใหญ่จะทำเยี่ยงไรต่อหนอ
แต่แอบลุ้นให้นายน้อยอุษารำเรียนให้เชี่ยวชาญทั้งงานช่างและงานเรือน จะได้มีสิทธิ์มีเสียงได้มากขึ้น


โซดา 15 ม.ค. 2556, 10:37:37 น.
เจ็บกินใจจริงๆๆ เก่งมากเลยคะ ที่ทำให้คนอ่านเข้าถึงอารมณ์ตัวละครได้ วันพุธ เจอกันนะคะ จุ๊ฟๆๆ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account