เจ้าสาวแสนแสบ
เมื่อสายลับสาวแสบ ต้องจับพลัดจับผลูไปเป็นเมียเจ้าพ่อหนุ่มเข้าให้


มาลุ้นกันว่า...เธอจะทำภารกิจลับที่ได้รับมอบหมายสำเร็จ


หรือจะ...เสร็จ...มาเฟียตัวร้ายก่อนกัน!!


และถ้าต้องเลือก...เธอจะเลือกอย่างไหน...



หน้าที่...หรือ...หัวใจ


Tags: รัตนรัตน์,เจ้าสาวแสนแสบ,romantic comedy

ตอน: บทที่ 6 : ซวย! บอกได้คำเดียวว่า ซวย!!! PART I




เจ้าสาวแสนแสบ


โดย รัตนรัตน์





บทที่ 6 : ซวย! บอกได้คำเดียวว่า ซวย!!!






“รีบแต่งตัวเข้าล่ะ ฉันจะรอดูโชว์ของเธอสาวน้อย!” เสียงทุ้มกระซิบที่ข้างหูอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะสาวเท้าจากไป


ภิตะวันค่อยๆ คลายหัวคิ้วที่ยับยู่ลงเมื่อเสียงฝีเท้าจำนวนมากค่อยๆ ห่างออกไป จนเมื่อแน่ใจว่าคนที่เธอไม่ต้องการให้เห็นใบหน้ามากที่สุดได้เดินจากไปแล้ว เจ้าตัวจึงค่อยๆ เงยหน้าขึ้น


“โชว์บ้าโชว์บออะไรวะ บ้ารึเปล่า!” ริมฝีปากสีชมพูสดยู่จนแทบชิดจมูก ขณะปรายตามองตามตำแหน่งที่ชายในสูทชุดดำเดินจากไป


“ว่าแต่เธอเป็นใครกันแน่ ฉันจำคนของ THE HEAVEN ได้ทุกคน และฉันมั่นใจว่าไม่เคยรู้จักเธอมาก่อน” ศักดิ์ชัยผู้จัดการคลับเอ่ยถาม และเมื่อหญิงสาวที่เขาซักหันกลับมา หนุ่มใหญ่ใจปลาซิวจึงต้องยอมรับว่า หญิงสาวตรงหน้านั้นสวยผุดผ่องไปทั้งเนื้อทั้งตัว นี่ขนาดยังไม่แต่งองค์ทรงเครื่อง ใบหน้าหวานไร้เครื่องประทินผิวนั้นยังชวนมอง ทั้งดวงตากลมโตภายใต้แพขนตางอนยาว จมูกโด่งแหลมได้รูป ริมฝีปากบางจิ้มลิ้มสีสด ผิวพรรณก็ขาวนวลเนียนน่าลูบไล้ กับทั้งทรวดทรงองค์เอวก็งดงามราวสวรรค์ปั้นแต่งอย่างลำเอียง


ยังไม่แต่งยังดึงดูดตาดึงดูดใจได้ถึงเพียงนี้ หากว่าแต่งขึ้นมา ขี้คร้านคืนนี้แขกได้เรียกหากันจ้าละหวั่นทั้งคืนแน่ๆ แต่น่าเสียดายก็ในเมื่อเจ้านายเขาเล่นพูดกั๊กเสียขนาดนั้นมีหรือเขาจะกล้าส่งหญิงสาวตรงหน้าไปยังอ้อมอกชายอื่น หัวคงหลุดจากบ่าหาทางกลับบ้านไม่ได้น่ะสิ เขายังอยากมีแรงตักข้าวกินเอง ยังไม่อยากไปนอนหยอดน้ำข้าวต้มในโรงพยาบาล


…แถมนี่ยังเป็นผู้หญิงคนแรกที่คุณพายุสนใจเสียด้วย เพราะก่อนหน้านี้ต่อให้สวยหยาดฟ้ามาดินมายั่วยวนใส่ขนาดไหน ก็ไม่เห็นคุณพายุจะชายตามองสักนิด!


“เธอเป็นเพื่อนของฉันเองค่ะ มาเต้นแทนฉันซึ่งบาดเจ็บที่ขา” ดาราเอ่ยแทนอย่างหวังดี ด้วยยังซึ้งในน้ำใจหญิงสาวคนดังกล่าวที่ปกป้องตนไว้ทั้งที่ไม่รู้จักกัน


ภิตะวันหันไปมองด้วยแววตาซาบซึ้ง อย่างน้อยตัวตนของเธอก็ยังไม่ถูกเปิดเผย และการที่มีคนยืนยันว่ารู้จักเธอก็จะทำให้ไม่มีใครสงสัยว่าเธอคือใครและมาทำอะไรที่นี่กันแน่ เพราะหากว่ามีใครล่วงรู้ล่ะก็ มีหวังเธอคงกลับไปแบบต่อชิ้นส่วนคืนไม่ครบแน่ๆ


ทว่าเจ้าตัวจะลืมไปว่า ยิ่งพูด ยิ่งตอบรับ คำพูดเหล่านั้นก็ยิ่งผูกมัดตัวเองเข้าไปอีก!


“ถ้าอย่างนั้นก็อย่ามัวเสียเวลาเลย เธอต้องไปแต่งตัวสำหรับขึ้นโชว์ เรามีเวลาไม่มากแล้ว” ผู้จัดการหนุ่มใหญ่เอ่ยอย่างร้อนรน หากแต่ได้รับคิ้วขมวดมุ่นของภิตะวันเป็นคำตอบ


“ฉันไม่เต้น!”


เท่านั้นแหละเหมือนฟ้าจะผ่าลงกลางกระหม่อมศักดิ์ชัยในทันที ยังไงเขาก็ต้องลากตัวหญิงสาวตรงหน้าขึ้นเวทีให้จงได้ ประกาศิตเจ้านายใหญ่ก็บอกอยู่แล้วว่าจะรอดูในอีกครึ่งชั่วโมงข้างหน้า และเขาไม่มีวันทำให้เจ้านายของเขาผิดหวังเป็นอันขาด!



“เด็กๆ!” ศักดิ์ตะโกนขึ้นพร้อมกับปรบมือเรียก เพียงไม่กี่อึดใจถัดมา ชายหนุ่มที่มีรูปร่างสูงใหญ่ราวกับยักษ์ปักหลั่นหลายคนก็มาล้อมหน้าล้อมหลังร่างบางของภิตะวันไว้



“เฮ้ย! จะทำอะไรน่ะ อย่านะ สู้นะเว้ย!!” ภิตะวันตั้งการ์ดพร้อมรบ หากแต่ดารากลับพาตัวเองมาขวางไว้ ด้วยไม่อยากให้ผู้มีพระคุณของตนต้องเดือดร้อน



“อย่ามีเรื่องกันเลยนะคะ ดาราขอร้อง”



“อย่ามาขวางนะดารา เธอเองก็เอาตัวให้รอดก่อนเถอะ เจ็บขาขนาดนี้คืนนี้จะเต้นไหวรึเปล่าก็ไม่รู้! แล้วรู้ใช่มั้ยว่าถ้าเธอไม่เต้น ฉันก็คงจ่ายค่าตัวให้เธอไม่ได้เหมือนกัน!” ผู้จัดการหนุ่มใหญ่เอ่ยอย่างเป็นต่อ เพราะรู้ดีว่าดารานั้นร้อนเงินเพียงใด ด้วยมีสามีที่ขี้เหล้าไม่เอาการเอางานนั่นเอง



“ผู้จัดการ!” ใบหน้าสวยของดาราหน้าถอดสีเมื่อได้ยินผู้จัดการของคลับย้ำเรื่องค่าตัวของตนที่อาจชวดในคืนนี้ หากว่าเธอไม่สามารถเต้นโชว์ได้ตามปกติ


ข้างภิตะวันมองทางโน้นที ทางนี้ที เมื่อเห็นใบหน้าซีดเซียวของดารา เธอก็รู้สึกเห็นใจหญิงสาวคนดังกล่าวอยู่ไม่น้อย


“เอาเป็นว่าฉันเต้นแทนให้ก็ได้”



อาจเป็นเพราะน้ำตาที่กำลังคลอหน่วยตาของดารา หรือเพราะเธอนั้นเป็นโรคขี้สงสารซึ่งเป็นกรรมพันธุ์ส่งต่อมาจากมารดาก็ไม่รู้ ที่ทำให้เธอตอบออกไปเช่นนั้น อา...นี่เธอเป็นคนขี้สงสารตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ...หญิงสาวได้แต่ถามตัวเอง



พูดไปแล้วก็อยากตบปากตัวเองเสียจริง เพราะหากเธอยอมไปเต้นโชว์แทนดาราจริงๆ แล้วล่ะก็ แม้ไม่ต้องมีดวงตาทิพย์ที่มองเห็นอนาคต เธอก็พอเดาออก...ว่าจะต้องประสบพบเจอกับใคร!



‘แต่ช่างเถอะช่วยคน กุศลแรง ยังไงซะผลบุญต้องคุ้มครองเราแน่ๆ’ ภิตะวันบอกกับตัวเองในใจ ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เพราะการที่เธอตัดสินใจเช่นนั้น นั่นหมายความว่าเธอกำลังเดินเข้าสู่สถานที่ที่ซึ่งอันตรายอย่างยิ่งยวด และเธอจะต้องระมัดระวังตัวอย่างมาก เพราะทุกย่างก้าวหมายถึงความปลอดภัยและชีวิต



“ขอบใจมากนะ” ดารายื่นมือไปจับมือหญิงสาวที่เพิ่งพบหน้ากันเป็นครั้งแรก แต่ก็น้ำใจงามช่วยเหลือเธอสองครั้งสองคราเข้าไปแล้ว



“ตกลงกันได้ก็ดี จะได้รีบไปแต่งตัวซะที ใกล้จะถึงเวลาโชว์อยู่แล้ว” ศักดิ์ชัยเอ่ยอย่างร้อนใจ ขณะมองนาฬิกาที่ข้อมือของตนไปด้วย



“เดี๋ยวก่อน” หากแต่เสียงที่ดังขัดจังหวะขึ้นมา ทำให้ผู้จัดการหนุ่มต้องหันมามอง



“มีอะไรก็ว่ามา พิรี้พิไรอยู่นั่นล่ะ เดี๋ยวก็ไม่ทันกันพอดี”


“ฉันมีข้อแม้!”



“เรื่องมากจริงๆ เลยอยากได้อะไรก็บอกดาราก็แล้วกัน ฉันยังมีเรื่องให้ต้องดูแลอีกเยอะ ไม่ได้มีเวลามาดูแลนักเต้นอย่างพวกเธอตลอดเวลาหรอกนะ” เสียงตอบกลับเริ่มอารมณ์ไม่ค่อยดี เพราะแม้หญิงสาวตรงหน้าจะสวยสะคราญกับทั้งเป็นที่ต้องตาต้องใจของชายหนุ่มสักเพียงไหน ก็ไม่อยู่ในสายตาของเขาสักนิด



ดังนั้นพอเจอพวกชะนี เอ๊ย ผู้หญิงที่มากเรื่องเข้าให้ ทำให้เขาอดแสดงทาสแท้ของตนออกมาไม่ได้ ว่าแล้วจึงหันไปไล่เบี้ยกับคนที่อยู่ใต้อาณัติแทน



“ฝากเธอดูแลด้วย ห้ามมีอะไรผิดพลาดขึ้นเป็นอันขาด เข้าใจมั้ยดารา!” กล่าวจบไม่รอให้ดาราพยักเพยิด ผู้จัดการหนุ่มใหญ่ก็หันหลังขวับออกไปในทันที ทั้งนี้เหตุที่เขาปล่อยให้เป็นหน้าที่ของดารานั้นก็เพราะว่า ดาราทำงานให้คลับแห่งนี้มาหลายปี รู้ดีว่าอะไรเหมาะอะไรควร กับทั้งรู้ดีว่าเธออยู่ในสถานะที่ไม่ได้มีทางเลือกให้เลือกมากนัก สิ่งไหนที่เขาสั่ง ยังไงซะเธอก็ต้องทำตาม



ซึ่งนั่นก็ทำให้ผู้จัดการหนุ่มใหญ่หาได้รู้ไม่ว่า ข้อแม้ที่ภิตะวันขอนั้นคืออะไร! และจะส่งผลอันตรายกับชีวิตน้อยๆ ของเขาแค่ไหน!


ข้างภิตะวันที่แม้จะรับปากไปว่าจะเต้นแทนดารานั้น แท้ที่จริงในใจของเจ้าตัวก็ยังอดวิตกกังวลกับการแสดงในครั้งนี้ไม่ได้ ด้วยกลัวโฉมหน้าที่แท้จริงของตนเองจะถูกเปิดเผย และแน่นอนย่อมไม่เป็นผลดีทั้งกับเธอเองและคู่หูร่วมทีม เพราะบางทีตอนนี้ดนัยอาจปะปนอยู่กับผู้คนในคลับแห่งนี้แล้วก็เป็นได้ เธออยากช่วยแบ่งเบาภาระเขา ไม่ใช่เป็นตัวถ่วงที่เขาต้องมาช่วยหากว่าเธอตกอยู่ในอันตรายเช่นเหตุการณ์เมื่อคืนวาน
ปลอมตัว! ใช่เธอต้องปลอมตัวภิตะวัน!



หญิงสาวบอกตัวเองในใจ เพราะการที่จะให้อีกฝ่ายเห็นใบหน้าที่แท้จริงของเธอนั้นคงไม่เป็นการดี กับทั้งหากเขาจำได้ขึ้นมาเมื่อไหร่ว่าเป็นเธอที่หยามหมิ่นศักดิ์ศรีเจ้าพ่ออย่างเขาแล้วล่ะก็...เฮือก! ไม่อยากจะคิด มีหวังฝ่าเท้านับร้อยคงได้ย่ำบนหน้าของเธอจนแทนพรมนุ่มๆ เป็นแน่


***********************************


ข้างพายุที่กำลังต้อนรับมาเฟียวัยกลางคนจากแดนปลาดิบนั้น แม้พื้นที่ๆ เขาจัดเตรียมไว้สำหรับรับรองแขกพิเศษจะถูกจัดห่างออกมาจากแขกที่มาใช้บริการทั่วไป และอยู่ห่างจากเวทีด้านหน้าพอสมควรเพื่อให้ได้รับความเป็นส่วนตัว แต่กระนั้นก็สามารถมองเห็นเวทีใหญ่ได้อย่างชัดเจน




“ผมหวังว่าคุณคงไม่โกรธที่ผมติดธุระเมื่อวานนะครับ” เจ้าพ่อหนุ่มแห่งนนท์ธนิตเอ่ยขออภัยกับการเสียมารยาทของตนเมื่อวาน ก่อนจะก้มศีรษะให้เล็กน้อย ทว่าดวงตาสีสนิมกลับเรียบนิ่งไม่ได้แสดงออกว่ากำลังรู้สึกผิดสักนิด ซึ่งนั่นก็ทำให้ผู้ร่วมสนทนาอดรู้สึกฉุนเล็กๆ ไม่ได้



“ช่างเถอะ เรื่องมันแล้วก็ให้แล้วกันไปเถอะคุณพายุ เรามาคุยเรื่องธุรกิจของเราดีกว่า” ฟูจิวาระเอ่ยตัดบท ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากจะถือสาหาความ เพราะอันที่จริงในใจของเขานั้นก็คุกรุ่นกับสิ่งที่อีกฝ่ายหยามหมิ่นตนเองไม่น้อย แต่เมื่อคิดถึงผลประโยชน์ที่จะได้รับ หากว่านนท์ธนิตยอมตกลงร่วมมือทำให้จำต้องข่มความไม่พอใจของตนไว้ภายใน



นั่นเพราะแม้ตนเองจะมีอำนาจเหลือล้นที่ญี่ปุ่น แต่ที่ประเทศไทยอำนาจของเขาไฉนเลยจะเทียบกับมาเฟียเจ้าถิ่นตรงหน้าได้ ดังนั้นหากว่าเขาต้องการเส้นสายและการอำนวยความสะดวกที่จะช่วยทำให้งานของเขาสำเร็จลุล่วงได้ง่ายขึ้นนั้นจำเป็นต้องพึ่งพาชายหนุ่มตรงหน้าจริงๆ อย่างไรเสียที่นี่ก็ยังเป็นแหล่งวัตถุดิบชั้นเลิศอยู่ ต้องยอมรับว่าในบรรดาหญิงสาวชาวเอเชียที่ส่งไปยังประเทศต่างๆ นั้น หญิงสาวชาวไทยนับว่าได้รับความนิยมและเป็นที่ต้องการมากที่สุด และนี่ก็เป็นเหตุผลหลักให้เขาต้องยอมบินข้ามประเทศเพื่อมาพูดคุยตกลงกับชายหนุ่มตรงหน้าด้วยตัวเองอย่างไรเล่า…เพราะคำว่า ‘ผลประโยชน์’ คำเดียว!



“นี่คือเอกสารข้อตกลงและผลประโยชน์หากว่าเราจะร่วมมือกัน” ฟูจิวาระยื่นซองสีน้ำตาลไปยังเบื้องหน้าชายหนุ่มรุ่นราวคราวลูก ที่แม้อายุจะห่างจากเขาเกือบสองรอบ ประสบการณ์ก็ต่างชั้นกันอย่างเทียบไม่ได้ แต่อีกฝ่ายกลับหาได้แสดงท่าทีหวั่นเกรงให้เห็นแม้แต่น้อย ซ้ำยังแสดงท่าทียโสไร้ซึ่งความเคารพยำเกรงให้กับผู้อาวุโสเช่นตน




เมื่อเห็นปฎิกิริยาของคู่สนทนา รอยหยักลึกปรากฏที่มุมปากของเจ้าพ่อหนุ่ม ทว่ายังไม่ทันได้กล่าวอะไรออกไป ศักดาลูกน้องคนสนิทก็ปรี่เข้ามาหาเสียก่อน



“มีอะไร?” เพราะรู้ว่าหากไม่ใช่เรื่องสำคัญถึงขั้นคอขาดบาดตายแล้วล่ะก็ ศักดาไม่มีทางมาคั่นบทสนทนาระหว่างเขาและอาคันตุกะตรงหน้าเป็นแน่




“ดูเหมือนว่าจะมีแขกไม่ได้รับเชิญ จะให้ผมทำยังไงกับมันดีครับ” ศักดาเอ่ยถามอย่างนอบน้อม ชายหนุ่มได้รับหน้าที่ให้ดูแลความปลอดภัยในวันนี้ และนั่นก็ทำให้เขาพบว่าข่าวการเจรจาของเจ้านายกับฟูจิวาระในครั้งนี้ได้รั่วไหลไปถึงหูคนมีสีเข้าให้แล้ว




“จัดการไปตามที่เห็นสมควร แต่อย่าให้ถึงตาย” น้ำเสียงเรียบเอ่ยชัดถ้อยชัดคำ ศักดาน้อมรับคำบัญชาก่อนจะเดินออกไป และเพราะการขัดจังหวะของศักดาแท้ๆ ทำให้เจ้าพ่อหนุ่มหันไปเห็นว่าตอนนี้เกิดอะไรขึ้นบนเวทีของ THE HEAVEN ที่ถือได้ว่าเป็นสวรรค์บนดินของชายหนุ่มทั้งหลายบ้าง




เช่นเดียวกับศักดิ์ชัย ผู้จัดการหนุ่มใหญ่ที่ยืนรอรับคำสั่งอยู่ห่างๆ แต่เมื่อเห็นเจ้านายมองไปยังเวทีอย่างอึ้งๆ จึงมองตามไป และนั่นก็ทำให้ใบหน้าคร้ามเข้ม ใจหายวาบในบัดดล



“บ้าเอ๊ย! ใครเอาเทเลทับบี้มาปล่อยวะเนี่ย!!”



ศักดิ์ชัยสบถอย่างหัวเสีย เมื่อเห็นว่ามีตุ๊กตาเทเลทับบี้สี่สี ทั้งเขียว เหลือง ม่วง และแดงกำลังโลดเต้นอยู่บนเวทีอย่างสนุกสนาน เปลี่ยนวิมานบนอากาศของเหล่าชายชาตรีให้กลายเป็นสนามเด็กเล่นไปเสียแล้ว และดูเหมือนว่าเหล่านางฟ้านางสวรรค์ที่เคยอรชรอ้อนแอ้นระเริงรื่นหยอกล้อกับแสงไฟหลากสี ดนตรีเร้าใจ ด้วยท่วงท่าสุดแสนจะเย้ายวน จะถูกคำสาปของปีศาจร้ายทำให้กลายร่างเป็นตัวประหลาดไปแล้วเช่นกัน



ยิ่งเมื่อเห็นท่าเต้นโยกไปเยกมาอย่างน่ารักน่าชังของเทเลทับบี้แต่ละตัว ก็ยิ่งบีบหัวใจดวงน้อยๆ ของเขาให้ร่วงหล่นลงไปยังตาตุ่มเร็วยิ่งขึ้น



ผู้จัดการหนุ่มใหญ่ลอบกลืนน้ำลายฝืดเฝื่อนอย่างยากลำบาก ก่อนจะหันไปมองสีหน้าของเจ้านายใหญ่ว่ารู้สึกเช่นไรกับภาพที่เห็น หากแต่เขาไม่สามารถอ่านใจคนเป็นนายได้เลยสักนิด เพราะใบหน้าหล่อเหลานั้นยังคงเรียบนิ่งดุจเดิม จะต่างออกไปก็เพียงแววตาเปล่งประกายแบบแปลกๆ เท่านั้น ซึ่งเขาไม่รู้ว่าประกายตาเช่นนั้นหมายความถึงอะไร รู้แต่ว่าตอนนี้เขารู้สึกเสียวสันหลังวาบอย่างไรก็ไม่รู้



"คุณพายุครับ ผมต้องขอประทานโทษด้วยที่เกิดเรื่องผิดพลาดชนิดไม่น่าให้อภัยแบบนี้ขึ้นมา ผมจะรีบจัดการให้เรียบร้อยเดี๋ยวนี้เลยครับ" เจ้าของใบหน้าเลิ่กลั่ก เหงื่อกาฬแตกพรูเอ่ยรัว




“ไม่ต้อง ฉันจัดการเอง! ฝากดูแลแขกของฉันอย่าให้ขาดตกบกพร่องด้วยล่ะ”



เจ้าพ่อหนุ่มเอ่ยขอตัวกับแขกต่างบ้านต่างเมือง ด้วยหมายไปจัดการกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นด้วยตัวเอง ดวงตาสีสนิมคมกล้ามองไปยังเวทีขนาดใหญ่ที่มีการจัดแต่งอย่างอลังการทั้งแสง สี และเสียง ที่บัดนี้ถูกใครบางคนเปลี่ยนเป็นสนามเด็กเล่นด้วยแววตาหมายมาด







ทั้งนี้การที่มีเรื่องวุ่นวายเกิดขึ้นแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน เขาจะได้ใช้เป็นข้ออ้างขอตัวจากคู่สนทนาได้อย่างไม่น่าเกลียด เพราะอันที่จริงเขาเองก็ยังไม่พร้อมที่จะให้คำตอบอะไรกับฟูจิวาระทั้งนั้น



ร่างสูงใหญ่ยืนขึ้นเต็มความสูง ก่อนจะก้าวออกไปด้วยท่วงท่าดุจพญาราชสีห์ ไม่ลืมที่จะหยิบซองเอกสารสำคัญติดตัวไปด้วย



น่าแปลกแทนที่เขาจะอารมณ์เสียที่มีคนทำให้คลับสุดหรูของเขาแปรสภาพไปอย่างไม่น่าให้อภัย แต่เขากลับรู้สึกตรงกันข้าม...ภาพตุ๊กตาหลากสีที่กระโดดโลดเต้นบนเวทีแบบหลุดโลกทำเอาเขาเกือบหลุดขำ ผู้หญิงอะไร ทำไมถึงได้กล้าหาญชาญชัยขนาดนี้ เจ้าหล่อนไม่รู้เลยหรือไงว่ากำลังเหยียบย่างเข้ามาในป่าดงดิบที่มีอันตรายรอบด้าน ป่าที่มีเขา...พญาราชสีห์เป็นใหญ่เหนือสัตว์ทั้งปวง!



หรือเธอคิดว่าตัวเองมี ดี ถึงได้ไม่กลัวตาย และกล้าเสี่ยงอันตรายเช่นนี้?



เมื่อคิดมานึงตอนนี้เจ้าพ่อหนุ่มก็อดหวนนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืนวานไม่ได้...กลิ่นกายหอมกรุ่นของกายสาว...เนินเนื้ออวบหยุ่นที่บดเบียดจนแทบเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับกายแกร่งของเขา...พวงแก้มเนียนนุ่มแสนเย้ายวนที่เขาเคยได้ลิ้มลองสัมผัสดอมดม และทำให้กลางคืนของเขายาวนานอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน


หึๆ ...เขาก็ชักอยากรู้แล้วสิ ว่า ‘ของดี’ ที่เธอมีน่ะ มันคืออะไร!


ส่วนจะดีจริงหรือไม่ เห็นทีคงต้องพิสูจน์ดูเสียแล้ว!!




ร่างสูงก้าวไปยังเวทีอย่างไม่รอช้า ดวงตาคมกล้ามองปราดไปยังสี่พี่น้องเทเลทับบี้บนเวทีอย่างพินิจพิจารณา ตอนนี้สิ่งที่เขาอยากรู้อย่างที่สุดก็คือ เจ้าตุ๊กตาสีไหน...คือ...เธอ!








to be continued....


ขอไปต่อความซวยที่ตอนหน้านะคะ


***************************


ซวยจริง ไรจริง ผิดมั้ยถ้าอยากให้นางเอกซวยบ่อยๆ 555


ขอบคุณที่แวะมาอ่านนะคะ...^^


~รัตนรัตน์ ~


*****************************




รัตนรัตน์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 3 เม.ย. 2554, 11:06:10 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 5 เม.ย. 2554, 16:16:33 น.

จำนวนการเข้าชม : 2727





<< บทที่ 5 : พรหมลิขิต หรือซวย!!!    บทที่ 6 : ซวย! บอกได้คำเดียวว่า ซวย!!!) PART II >>
crossbear 3 เม.ย. 2554, 17:51:59 น.
สนุกมากๆ


ข้าวหอม 3 เม.ย. 2554, 19:53:30 น.
แสบ มิแพ้แม่ภัทรจริงๆด้วย^^


แว่นใส 3 เม.ย. 2554, 21:46:53 น.
ยินดีจ๊ะ รออ่านตอนต่อไปนะ


jink 5 เม.ย. 2554, 19:10:01 น.
โอย ขำ คิดได้ไงเนี่ย เต้น เทเลทับบี้


SaiParn 10 เม.ย. 2554, 19:03:00 น.
ฮาได้อีกคร่า ชอบ ๆ ๆ เทเลทับบี้ กิกิ


cherryfirm 8 พ.ค. 2554, 19:31:03 น.
เทเลทับบี้ โลดแล่นยามค่ำคืน..555++


dino 9 พ.ค. 2554, 13:30:20 น.
ชอบจัง พระเอกจำกลิ่นนางเอกได้ด้วย


XaWarZd 29 พ.ค. 2554, 01:37:33 น.
ฮาอ่ะ น่ารักซะ แต่ดนัยโดนจับได้เหรอ ไม่นะ


fullmoonparty2000 18 ก.ค. 2554, 21:05:43 น.
ฮาโครตๆๆๆๆๆ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account