เสน่หาในเพลิงแค้น
ความรักของ 'ธนาดล' ผลิบานท่ามกลางความแค้นที่รอวันสะสาง 'ธนาดล' จะทำเช่นไรหากต้องเลือกระหว่างความรักกับความแค้นที่มีตัวแปรชื่อ 'รัตติกาล' เจ้าของหัวใจที่หักห้ามรักร้อนจากเขาคนนั้น เมื่อปฏิเสธความรักอันหอมหวาน หากผลักไสแล้วใจกลับร้าวราน หัวใจดวงนี้ฤาไม่ใช่ของเธออีกต่อไป
Tags: สโนไวท์
ตอน: บทที่ี่่่ี่ 14
บทที่ 14
“คุณดลกับคุณนิกซ์จะให้ผมยกอาหารขึ้นมาหรือว่าจะลงไปทานข้างล่างครับ” ชายหน้าบากถามอย่างสุภาพ นำ้เสียง และกิริยาช่างขัดกับหน้าตายิ่งนัก
“นิกซ์ว่าทานข้างบนดีกว่าค่ะ” รัตติกาลตัดสินใจแทนธนาดลก่อนพูดจาไพเราะแสดงมิตรจิตรมิตรใจ “รบกวนพี่ยกขึ้นมาให้ด้วยนะ”
“ไม่รบกวนเลยครับ หน้าที่ของผมอยู่แล้ว” คนของสักรินทร์ขอตัวไปยกกับข้าวมาบริการ
“เปิดทีวีดีกว่าเนอะ” คล้อยหลังชายหน้าบาก รัตติกาลตัวแข็งเมื่อต้องอยู่กับธนาดลตามลำพัง หญิงสาวแก้เก้อด้วยการเปิดทีวีแล้วเปลี่ยนช่อง ปรับภาพ ปรับเสียง สารพัดเท่าที่จะนึกออก “สารคดีนกเพนกวินดูแล้ว การ์ตูนเรื่องนี้ก็ดูแล้ว นี่ๆ ดีกว่าสาวน้อยมหัศจรรย์..เอทำไมภาพมันเหลืองๆ นะ ต้องปรับ...เสียงมันแปลกๆ เนอะ คุณดลว่าไหมคะ”
“ครับ แปลกจริงๆ ด้วย” ธนาดลเออออตามทำให้รัตติกาลถอนหายใจอย่างโล่งใจ แม้จริงๆ แล้วธนาดลไม่เห็นว่าจอโทรทัศน์จะเป็นสีหรือมีอาหารอย่างที่หญิงสาวว่า
“สงสัยต้องให้ช่างมาดู” รัตติกาลกลดรีโมตมั่วจนช่องสัญญาณที่ตั้งไว้รวนไปหมด ถ้าบางช่องไม่เป็นสีขาวดำก็ไม่มีเสียง
ธนาดลก็ทราบวิธีแก้แต่ทำเฉยเสียเพราะเข้าใจพฤติกรรมเพี้ยนของรัตติกาล “พรุ่งนี้ผมให้คนตามช่างมาซ่อม”
เพียงไม่นานหลังจากที่รัตติกาลกดปิดโทรทัศน์ ถาดอาหารสีเงินก็ถูกนำมาวางบนโต๊ะมุมห้อง
เกือบไปแล้วไหมล่ะนิกซ์เอ๊ย
รัตติกาลมองอาหารทะเลสารพัดเมนูที่มีให้เลือกละลานตาพร้อมห่อปากร้องโอ้โหลืมความกระดากอายไปชั่วขณะ
“ตื่นเต้นอย่างกับสามล้อถูกหวยแน่ะ” ธนาดลมองหญิงสาวอย่างเอ็นดูก่อนอดล้อเลียนรัตติกาลไม่ได้
“ก็กับข้าวน่ากินทั้งนั้น” รัตติกาลว่าขณะใช้นิ้วนับอาหารจานเล็ก “ดีนะที่จานนึงไม่เยอะมาก ไม่อย่างนั้นเราสองคนต้องท้องแตกตายแน่ๆ เลย”
“กับข้าวเจ้าที่”
“อะไรนะคะ นิกซ์ฟังไม่ถนัดเลย”
“ผมบอกว่ากับข้าวเจ้าที่ เอ่อ...จะอธิบายอย่างไรดีล่ะ คือว่าอาหารสิบอย่างที่นิกซ์เห็นน่ะ เป็นเมนูโปรดของผมเลยนะ เวลามาพักที่นี่น่ะสักรินทร์จะสั่งแม่บ้านทำให้เป็นพิเศษ มันก็จานปกตินั่นแหละ แต่แบ่งให้ลูกน้องของสักรินทร์ทานด้วย”
“อ๋อ นิกซ์เข้าใจแล้ว” รัตติกาลพยักหน้าหงึกเข้าใจความคิดของธนาดล
“เข้าใจว่ายังไงครับ”
“ทั้งป้องกันทั้งยาพิษ และซื้อใจลูกน้องสิท่า...ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว” รัตติกาลพอจะอ่านกลวิธีผูกใจลูกน้องธนาดล และสักรินทร์ได้
“เก่งจัง อย่างนี้ต้องให้รางวัล” ธนาดลชื่นชมความเฉลียวฉลาดของรัตติกาล
“รางวัลอีกแล้ว เหมือนจะใจดีนะเนี่ย...นิกซ์ไม่หลงกลคุณหรอก มาทานข้าวค่ะคุณดล” รัตติกาลรู้ทันจึงพูดขัดคอเขา
“แขนผมเจ็บนี่ คุณก็เห็น” ธนาดลยังไม่ยอมแพ้ อยากอ้อนให้หญิงสาวดูแล แม้จะไม่ได้จูบเธอ เขาก็หวังให้เธอปรนนิบัติ และเอาใจเขา “ป้อนผมหน่อยนะ”
รัตติกาลแพ้สายตาขี้อ้อนของธนาดลจึงเลี่ยงไม่ได้ที่จะตักกับข้าวใส่ปากเขาอย่างอายๆ สำหรับธนาดลแล้วรู้สึกว่าอาหารมื้อนี้พิเศษ และน่ากินยิ่งกว่ามื้อไหนๆ รัตติกาลจักข้าวเข้าปากตนสลับกับป้อนชายหนุ่ม คำแล้วคำเล่าจนกระทั่งหมด
“ผมอยากอาบน้ำ” จู่ๆ ธนาดลก็เอ่ยขึ้นมาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ทำเอามือที่ประคองจานไปวางบนถาดแทบจะปล่อยให้กระทบกับถาดเงิน
“ทานข้าวเพิ่งเสร็จ อย่าเพิ่งเลยค่ะ เดี๋ยวปวดท้องเดี๋ยว” รัตติกาลไม่เห็นด้วยจึงเตือนอย่างหวังดี
หัวใจของธนาดลอบอุ่นที่มีคนคอยห่วงใย รอยยิ้มสดใสของรัตติกาลเป็นเหมือนยาวิเศษที่เยียวยาบาดแผลในจิตใจ ความเอื้ออาทรที่ได้รับทำให้ชายหนุ่มมีกำลังใจต่อสู้ และยอมรับความจริงที่เจ็บปวด
“ขอบคุณนะครับที่เป็นห่วง” ธนาดลบอกอย่างจริงใจ
“คนรักกันก็ต้องห่วงกันเป็นธรรมดานี่คะ” รัตติกาลหยอดคำหวานพร้อมส่งรอยยิ้มพิมพ์ใจให้ธนาดล หญิงสาวหวังว่าการทำดีเล็กๆ น้อยๆ ของเธอจะทำให้อาการบาดเจ็บทางร่างกาย และจิตใจของเขาดีขึ้น
“ดูหนังกันดีกว่า” ธนาดลยกกล่องดีวีดีภาพยนตร์บู๊ล้างผลาญมาล่อทำให้รัตติกาลกระโจนขึ้นเตียงไปนั่งดูหนังกับเขาได้ไม่ยาก
ธนาดลแปลงร่างเตียงนุ่มเป็นโรงหนังส่วนตัวโดยใช้คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คเป็นจอหนัง แถมยังมีโปรโมชั่นพิเศษเป็นขนมถุง และนำ้หวานหลากสีที่รัตติกาลชอบ ทั้งหมดนี้ก็เพื่อให้รัตติกาลคลายความกังวลที่จะใกล้ชิดเขาสองต่อสอง ดูเหมือนจะได้ผลดีทีเดียวเมื่อตลอดการชมภาพยนตร์นั้นรัตติกาลไม่ได้เกร็งเขาอย่างเมื่อก่อนรับประทานอาหารเย็น ธนาดลทำเป็นใจดีคอยหยิบขนม และนำ้อัดลมส่งให้หญิงสาวไม่ขาด ธนาดลตั้งใจแล้วว่าเขาจะแก้ตัวที่ทำรุนแรงกับหญิงสาวในคืนนั้น!
“หนังจบไวจัง” รัตติกาลบ่นอุบโดยหารู้ไม่ว่าธนาดลได้เตรียมการเพื่องานนี้โดยเฉพาะ
“ผมอยากอาบนำ้แล้ว” ธนาดลบอกพลางหาวประกอบคำพูด
“ง่วงนอนแล้วใช่ไหมคะ”
“ครับ ผมง่วงแล้ว อยากอาบนำ้”
“อ่า นิกซ์ไปตามคนมาช่วยดีกว่าค่ะ” จากสถานการณ์ล่อแหลมก่อนอาหารเย็นทำให้รัตติกาลเลี่ยงการแตะเนื้อต้องตัวชายหนุ่ม
“นิกซ์จะไปตามคนอื่นทำไม นิกซ์นั่นแหละต้องอาบให้ผม...ผมเจ็บแขน อาบนำ้เองไม่ได้”
“นิกซ์เนี่ยนะ” รัตติกาลชี้หน้าตนเองถามอย่างไม่มั่นใจ
“ครับ คนดีของผม” ธนาดลกระพริบตาปริบๆ เรียกความเห็นใจจากหญิงสาว
“แค่แขนเจ็บ ทำอย่างกับเป็นง่อย” รัตติกาลบ่นกระปอดกระแปดเข้าห้องน้ำไป หากแต่ธนาดลไม่ได้ใส่ใจมากนัก เมื่ออยู่คนเดียวรัตติกาลก็อดบ่นไม่ได้ “เขานอกบท...ไม่เห็นมีในบทเลยสักนิด คอยดูนะฉวยโอกาสอีกเมื่อไหร่จะทำให้เป็นง่อยจริงๆ เลย”
รัตติกาลหมายถึงเมโลดราม่าที่เธอเขียนบทเอง เล่นเอง และกำกับการแสดงเอง พอนึกถึงฉากเลิฟซีนที่เกือบจะพลาดท่า เสียทีเขาก็ทำให้หญิงสาวหืดขึ้นคอ คนด้อยประสบการณ์อย่างรัตติกาลจึงหมดหนทางไปต่อ
รัตติกาลผสมน้ำอุ่นกับน้ำเย็นให้อุณหภูมิของน้ำพอเหมาะ เตรียมใยขัดตัวกับสบู่เหลวกลิ่นหอมไว้คอยท่า ขณะนั้นเองชายหนุ่มที่หล่อนแช่งชักหักกระดูกก็เดินเข้ามาในนำ้ ท่อนบนของธนาดลยังสวมเสื้อเรียบร้อยผิดกับท่อนล่างที่มีเพียงผ้าขนหนูพันกันอุจาดไว้ ครั้นจังหวะที่หญิงสาวหันมา ชายหนุ่มทำท่าจะปลดผ้าผืนหนา
“อ๊าย! คุณดล ทำอะไรของคุณน่ะ คุณจะถอดตรงนี้ไม่ได้นะ” รัตติกาลรีบห้ามพลางยกมือปิดตา
“อ้าว ถ้าไม่ให้ถอดตรงนี้แล้วให้ผมถอดตรงไหน” ชายหนุ่มถามพาซื่อ
“ก็ เอ่อ ก็เดี๋ยวคุณก็ค่อยถอดก็แล้วกัน เดี๋ยว เอ่อ เดี๋ยวนิกซ์...นิกซ์ถอดเสื้อให้คุณก่อน แล้วพอนิกซ์ เอ่อ หันหลังคุณค่อยถอดผ้าเช็ด...ตัว” หญิงสาวเกิดอาการติดอ่างขึ้นมาดื้อๆ
“งั้นนิกซ์ช่วยผมถอดเสื้อหน่อยสิ ผมถอดไม่ได้”
ด้วยความสูงของรัตติกาลทำให้หญิงสาวถอดเสื้อกล้ามของธนาดลได้ไม่ยาก หญิงสาวหน้าแดงกับเรือนร่างชายหนุ่มตรงหน้า ผ่านฝนผ่านหนาวมายี่สิบสามปี รัตติกาลยังไม่เคยเห็นผู้ชายเกือบเปลือยอย่างนี้ แม้ว่าจะมีผ้าขนหนูพันท่อนล่างไว้ก็เถอะ
รัตติกาลเปลี่ยนแผน ใช้สบู่เหลวตีน้ำให้เกิดฟองเพื่อบดบังสิ่งที่ไม่ควรเห็นเมื่อต้องอาบนำ้ให้ธนาดล
“เดี๋ยวคุณค่อยๆ ลงไปในอ่างนะ ก็เรียกฉันก็แล้วกัน”
ธนาดลก็ปลดผ้าเช็ดตัวก่อนลงไปแช่ในอ่างอาบน้ำแล้วเรียกรัตติกาล
“นิกซ์”
คนถูกเรียกสะดุ้ง แต่ก็ปั้นหน้าให้เรียบเฉยสุดชีวิตแล้วฝืนยิ้มให้เขา รัตติกาลเดาได้ว่ามันคงเป็นยิ้มที่เจื่อนที่สุดในชีวิตเลยก็ว่าได้
จิตใจของธนาดลว้าวุ่น ไม่รู้ว่าเขาคิดถูกหรือคิดผิดที่ให้ยัยจอมจุ้นอาบน้ำให้ ธนาดลหายใจติดขัดเมื่อมือน้อยๆ ของรัตติกาลลูบไล้ไปทั่วร่างกาย
รัตติกาลเองก็ใช่ว่าจะไม่ตื่นเต้น ภายในห้องน้ำเงียบสงัด ปราศจากบทสนทนาของทั้งคู่ หญิงสาวได้ยินเพียงเสียงเต้นของหัวใจในจังหวะแทงโก้
“หยุด ออกไปก่อน เดี๋ยวผมจัดการต่อเอง” จู่ๆ ธนาดลก็ไล่หญิงสาวทำเอาเธอทำอะไรไม่ถูก แต่เธอก็ทำตามอย่างว่าง่าย
ไม่ทันที่หญิงสาวจะก้าวพ้นประตูก็ได้ยินเสียงชายหนุ่มตีน้ำเป็นผลให้น้ำในอ่างกระฉอกเต็มพื้นห้องน้ำ รัตติกาลไม่เข้าใจการกระทำของชายหนุ่มที่ทำราวกับว่าโกรธใครมาสักสิบชาติ
“นี่คุณทำบ้าอะไรของคุณน่ะ เดี๋ยวแผลก็โดนนำ้หรอก” หญิงสาวคว้ามือที่หมายจะตีผิวน้ำไว้ได้ เขาหันมองด้วยดวงตาวาววับ
“นิกซ์ ออกไป ก่อนที่ผมจะหมดความอดทน” ชายหนุ่มพูดรัวและเร็วตามอารมณ์ ที่บัดนี้เขาพยายามระงับความต้องการบางอย่างของร่างกายอย่างยากเย็น
“ไม่ค่ะ นิกซ์ไม่ออกไป จนกว่าคุณจะเลิกบ้า” หญิงสาวที่ตีความหมายไปอีกทางกลับดื้อแพ่งไม่สนใจคำเตือน รัตติกาลคว้ามือชายหนุ่มได้กลางอากาศ
“ผมจะเตือนเป็นครั้งสุดท้าย ออกไป”
“ไม่ค่ะ” สิ้นสุดคำพูดของเธอร่างบางก็ถูกดึงให้ลงมาในอ่างด้วยกัน “ว๊าย! ”
“ตอนนี้คุณอยากออกก็ไม่ทันแล้ว” เสียงห้าวเอ่ยพลางดึงเธอให้นั่งบนตักเขา รัตติกาลรับรู้ถึงการตื่นตัวภายใตผิวนำ้จึงเข้าใจถึงสิ่งที่เขาต้องการจะสื่อเมื่อครู่ หญิงสาวเริ่มดิ้นรนให้พ้นจากร่างหนา
“ปล่อยนะ คุณจะทำอย่างนี้ไม่ได้นะคุณดล คุณต้อง...” รัตติกาลไม่พูดต่อเมื่อริมฝีปากบางของเขาเกือบชิดริมฝีปากเธอ หญิงสาวอยู่ใกล้ชายหนุ่มจนได้ยินเสียงลมหายใจของเขา
รัตติกาลมองดวงตานั้นอย่างหลงใหล เธอเองที่เป็นฝ่ายแนบริมฝีปากไปหาเขา ธนาดลเองก็ไม่ได้ปฏิเสธความต้องการของหญิงสาว ชายหนุ่มสอนให้เธอรู้จักกับจุมพิตที่เร่าร้อนแฝงไปด้วยความปรารถนา
มือข้างหนึ่งของธนาดลปลดกระดุมกางเกงของหญิงสาวโดยที่เธอไม่รู้ตัว เสื้อสีขาวเปียกลู่แนบรูปร่างได้สัดส่วนของรัตติกาล ธนาดลกระชากทีเดียวเสื้อขาวตัวนั้นก็หลุดตามมือ คนคิดจะแก้ตัวอยากให้หญิงสาวมีความทรงจำที่ดีในรสรักไม่อาจปล่อยให้ตนทำตามอารมณ์ดิบได้ เมื่อเห็นว่าหญิงสาวไม่ขัดขืนจึงจัดการถอดปราการสองชิ้นสุดท้ายออกก่อนอุ้มร่างบางเข้าไปในห้องนอน ธนาดลค่อยๆ วางหญิงสาวไว้บนเตียง ทั่งคู่อยู่ไม่สนความเปียกปอนของตน รัตติกาลเองก็แปลกใจกับความต้องการทางร่างกายของตน ที่ดูเหมือนว่าพึงพอใจในสัมผัสของธนาดลที่ลูบไล้ไปทั่วร่างตน
กลางดึกที่เงียบสงัด สองร่างยังคงแนบสัมผัสกันทุกตารางนิ้ว เสียงกรีดร้องของฝ่ายหญิงแล้วตามด้วยเสียงคำรามอย่างพึงพอใจของฝ่ายชาย ธนาดลยังไม่อิ่มเอมกับร่างกายที่เป็นเหมือนผลไม้แสนหวานสำหรับชายหนุ่มแต่สภาพอ่อนแรงของรัตติกาล และความใหม่กับประสบการณ์ในเรื่องนี้ทำให้ธนาดลยอมรามือก่อนฝ่ายหญิงผล็อยหลับไปด้วยความเหนื่อยอ่อน
“ฝันดีนะครับ”
ธนาดลกระซิบบอกหญิงสาวเสียงแผ่ว ก่อนเช็ดเหงื่อที่บริเวณขมับของเธออย่างเอ็นดูแล้วกวาดสายตามองไปทั่วร่างของเธออย่างชื่นชม แม้ว่าจะมีหยดเลือดสีแดงแต่งแต้มผ้าปูที่นอนสีขาวสะอาด แต่นั่นก็ทำให้เขาเอะใจ
“ไอ้ดลเอ๊ยไอ้ดล ถูกต้มเสียเปื่อย” ธนาดลกระจ่างแก่ใจแล้วว่าความเข้าใจผิดดังกล่าวถูกรัตติกาลจัดฉากขึ้นมา หากนึกถึงของเหลวสีขุ่นที่ได้รับการปลดปล่อยก็เอามือกุมหน้าผาก ชายหนุ่มไม่อาจบรรยายความรู้สึกของตนในตอนนี้ได้ก่อนบอกตนเองอย่างหมดสภาพว่า “อย่าบอกนะว่าคืนนั้นเรา...ฝันเปียก”
ธนาดลไม่ได้ถือสาหาความหญิงสาวแต่อย่างใด กลับยินดีด้วยซำ้ที่ความเข้าใจผิดนั้นผูกมัดให้เธอต้องอยู่ใกล้ๆ จนกระทั่งเรื่องลงเอยแบบนี ้ธนาดลกระชับร่างของรัตติกาลไว้ในอ้อมแขน ชายหนุ่มกระจ่างแก่ใจแล้วว่าเขารักเธอมากเพียงใด
รัตติกาลรู้สึกตัวในตอนสายก็พบว่าธนาดลยังคงหลับสนิท ความละอายใจวูบหนึ่งแล่นสู่จิตใจเมื่อพบว่าสิ่งที่ตนหวงแหนได้มอบให้กับชายหนุ่มผู้เป็นที่รักไปแล้ว มือเรียวลูบไล้ไปตามโครงหน้าใบหนุ่มราวกับจะค้นหาคำตอบว่าเธอควรทำอย่างไรต่อไปดี รัตติกาลแทบไม่น่าเชื่อว่าชายหนุ่มจะเป็นนักธุรกิจไฟแรงที่เป็นที่น่าจับตามองในขณะนี้ ขณะเดียวกันเขาก็เป็นนักรักที่ร้อนแรง ครั้นเห็นสิ่งแปลกปลอมบนผ้าปูสีขาวก็กลัวว่าเขาจะถอนคำพูดที่ได้เคยล่วงเกินเธอในครานั้น
“น่าไม่อาย” รัตติกาลว่าตนเองที่ใจง่ายถึงเพียงนี้ เมื่อไม่อาจย้อนเวลากลับไปแก้ไขสิ่งที่เกิดขึ้นได้หญิงสาวจึงขอซึมซับความสุขในเวลานี้ให้นานเท่านานแล้วเธอจะจากเขาไปโดยไม่มีข้อแม้...พอกันทีกับการปั้นนำ้เป็นตัว
รัตติกาลซุกใบหน้ากับอกกว้างของธนาดลเตือนตนเองว่าเวลาของเธอเหลือน้อยลงเต็มที ที่สำคัญธนาดลไม่ต้องรับผิดชอบการกระทำที่ผิดพลาดของเขาแล้ว
เมื่อสมควรแก่เวลาเธอจะเป็นฝ่ายไปเอง คิดได้แค่นี้รัตติกาลก็ปล่อยให้น้ำตาไหลเป็นสาย ราวสัญชาตญาณ คนที่หลับสนิทกอดหญิงสาวไว้แน่นแล้วกดจมูกที่ขมับเธออย่างปลอบประโลมเบาๆ
///////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
เสียงโทรศัพท์บนหัวเตียงกรีดร้องทำให้ธนาดลต้องรับอย่างเสียไม่ได้ เพราะถ้าไม่มีธุระสำคัญจริงคนของสักรินทร์คงไม่โอนสายมาให้เขา สายตาคมปลาบของเขาพิจารณาร่างของรัตติกาลที่นอนแนบกายอยู่ เขาแทบไม่ได้ห่างจากเธอเลยตลอดสามวันที่ผ่านมานี้
“ฮัลโหล”
“มัวทำไรอยู่วะไอ้ดล มือถือก็ปิด” สักรินทร์ถามด้วยความแปลกใจ
“อือ ก็ยุ่งนิดหน่อย มีอะไรหรือเปล่า”
“ให้ตายเถอะไอ้เวร มัวแต่หลงสาวจนไม่รู้อะไรเลยหรือเนี่ย พับผ่าสิ”
สักรินทร์สบถด่ามาตามสาย ก่อนเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ชายหนุ่มฟัง สำหรับธนาดลไม่รู้ว่าเป็นข่าวดีหรือข่าวร้าย คำบอกกล่าวของสักรินทร์ทำให้เขาควานหาเสื้อมาใส่แทบไม่ทัน
“อือ...ศพอยู่ไหน” ธนาดลคุยกับสักรินทร์สองสามคำก่อนวางหูไป
ชายหนุ่มหันไปมองร่างหญิงสาวที่นอนเคียงข้างโดยมีผ้าห่มปกปิดร่างกายไว้ ใบหน้าเปี่ยมสุขยามนิทรา เขาไม่อยากห่างเธอสักวินาทีเดียวเลย ร่างเย้ายวนของรัตติกาลทำให้มือที่ติดกระดุมเสื้อชะงัก ธนาดลถอนเสื้อเหวี่ยงไปไม่รู้ทิศทาง
“นิกซ์...นิกซ์” เขาเรียกเธอเบาๆ
“หือ...อะไร ขอนิกซ์นอนหน่อยไม่ได้หรือ” ว่าแล้วรัตติกาลก็เอาหมอนปิดหน้า เสียงอู้อี้ของเธอเรียกรอยยิ้มจากธนาดลได้ดีที่เดียว
“เราจะกลับกันแล้ว ผมมีธุระ” ชายหนุ่มดึงหมอนของเธอออก ก่อนบอกเหตุผลที่เขาต้องทำ
“อือ...ขออีกสิบนาที คุณไปอาบน้ำก่อนก็แล้วกันนะ”
“เดี๋ยวผมช่วยคุณอาบน้ำ” เสียงทุ้มบอกอย่างเจ้าเล่ห์
“ไม่ต้องเลยนะ ไปอาบนำ้เลย”
รัตติกาลได้ยินเพียงเสียงหัวเราะของธนาดลใกล้ๆ หู หญิงสาวส่งเสียงจิ๊จ๊ะอย่างขัดใจก่อนสะบัดตัวลุกขึ้น เมื่อลงจากเตียงก็พบว่าขาของเธอแทบไม่มีแรง มันล้าเหมือนว่าเธอเพิ่งวิ่งระยะทางไกลมาอย่างไรอย่างนั้น
“หึ บอกแล้วว่ายังไงคุณยังต้องการผม”
“กรี๊ด ไอ้คุณดลบ้า ถ้านิกซ์ตกลงมาคุณจะว่ายังไง” รัตติกาลหวีดร้องเสียงหลงเมื่อเขาอุ้มเธอโดยไม่ให้เธอได้ตั้งตัว
“ผมไม่ปล่อยให้นิกซ์ตกลงมากหรอกนะ”
“ปล่อยนิกซ์ลงนะ”
“อย่าดิ้นสิ ถ้าตกลงไปผมจะไม่สนใจเธอเลย”
เพราะคำขู่สุดท้ายทำให้รัตติกาลยอมให้ธนาดลพาเธอเข้าไปในห้องน้ำได้สำเร็จ เสียงกรีดร้องของหญิงสาวดังขึ้นแล้วตามด้วยเสียงหัวเราะของธนาดลอย่างอารมณ์ดีเมื่อธนาดลโยนรัตติกาลลงไปในอางอาบนำ้โครมใหญ่
“นี่ปล่อยนิกซ์นะคุณดล”
ฝ่ายหญิงไม่สบอารมณ์ที่ถูกฝ่ายชายฉุดขาไป อ่างอาบน้ำก็ออกจะกว้างแต่สายตาของธนาดลที่มองมาทำให้หญิงสาวรู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก
“ก็ผมบอกให้นิกซ์เรียกผมว่ายังไง” ชายหนุ่มพุดประโยคนี้เป็นครั้งที่สาม ธนาดลไม่สนใจ จี้เท้าหญิงสาวที่หัวเราะคิก รัตติกาลถลึงตาใส่เขาแล้วดิ้นหวังจะให้เขาปล่อยแต่มันไม่ง่ายอย่างนั้น “เหนื่อยหรือยัง...สาวน้อย”
“เหนื่อยแล้วค่ะพี่ดล”
///////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
ภานุมาศไม่อาจอยู่กับสักรินทร์ได้ครบสามเดือนตามที่บอกกับเขาไว้ได้เพราะไม่อยากให้ตนเองถลำลึกไปมากกว่านี้ หญิงสาวแอบหนีออกทางประตูด้านหลังบ่อนโดยที่ไม่มีใครสังเกตเห็นเธอเลย และไม่ลืมที่จะแอบหยิบเงินของสักรินทร์มาด้วย ร่างบางโบกเรียกแท็กซี่กลับบ้านด้วยความปลอดภัย ผู้เป็นบิดาแสดงความยินดีเมื่อเห็นหน้าเธอ
“เป็นไงบ้างลูกไปเที่ยวต่างจังหวัด”
“ต่างจังหวัด? ”
ภานุมาศลืมไปว่าโกหกบิดาทำหน้าสงสัยก่อนนึกได้จึงปรับสีหน้าให้เป็นปกติ “สนุกดีค่ะ เสียแต่พี่น้ำไม่ได้ไปด้วยก็เท่านั้นเองค่ะ”
“สนุกก็ดีแล้ว พ่อไม่อยากให้ลูกเครียดกับการเรียนมากเกินไป”
“เอ ว่าแต่คุณพ่อกลับจากมาเก๊าเร็วจังเลยคะ”
“พูดถึงเรื่องมาเก๊า พรรคพวกของพ่อชวนพ่อไปทำงานที่นู่น พ่อเลยจะมาถามความคิดเห็นของลูกสาวของพ่อก่อน”
คำตอบของบิดาทำให้ภานุมาศยิ้มระรื่นที่บิดายังให้ความสำคัญกับตนอยู่ “ถ้าพ่ออยากไปพลัมก็ไม่ขัดค่ะ”
“แล้วลูกจะอยู่คนเดียวได้หรือ”
“พ่อพูดอย่างกับว่าพลัมเป็นเด็ก พลัมโตแล้วนะพ่อ แล้วอีกอย่างถ้าพลัมคิดถึงพ่อก็บินไปหาได้ แค่มาเก๊าเอง บินไม่กี่ชั่วโมงหรอกค่ะ” ภานุมาศไม่อยากให้บิดาเป็นห่วง
“เวลาที่พ่อไม่อยู่อย่าให้หนุ่มหน้าไหนมาวอแวได้นะ” บิดาพูดเสียงเข้มทำให้ภานุมาศอดขำไม่ได้
“โธ่พ่อ ลูกสาวพ่อออกจะสวยขนาดนี้ ใจคอพ่อจะไม่ให้ใครมาจีบเลยหรือคะ” ภานุมาศบอกยิ้มๆ ก่อนขอตัวขึ้นไปอาบน้ำ และพักผ่อนบนบ้าน
ภานุมาศกดโทรศัพท์หารัตติกาล แต่ต้องเจออุปสรรคชิ้นโตที่บิดายังไม่ได้ชำระค่าโทรศัพท์ให้นั่นเอง บิดาของหญิงสาวรับหน้าที่เป็นพ่อบ้าน คอยจัดการสิ่งต่างๆ ในบ้านเพราะอยากให้ลูกสาวคนเดียวได้เรียนหนังสืออย่างเต็มที่
“เฮ้อ! ” ภานุมาศกลุ้มใจเมื่อเห็นปัญหาที่กำลังจะตามมา ทั้งค่านำ้ ค่าไฟ ค่าอินเทอร์เน็ตที่จะตามมาเป็นหางว่าว หญิงสาวเดาได้ไม่ยากว่าบิดาต้องเสียพนันมาอีกแน่
ร่างบางเปลื้องผ้าหน้ากระจกบานใหญ่ก่อนจะผ่อนคลายอารมณ์ในอ่างอาบน้ำ ฟองสบู่ฟูฟ่องทว่าจิตใจของภานุมาศกลับห่อเหี่ยว หญิงสาวอยากหนีไปให้ไกล ไม่อยากเผชิญกับโลกของความเป็นที่โหดร้าย ด้วยสภาวะการเงินที่ตกต่ำสุดขีดของบิดาทำให้ภานุมาศมองบ้านหลังเดียวที่เธออาศัยอยู่ซึ่งราคาไม่ต่ำกว่าแปดหลัก หญิงสาวหวังว่าสมบัติชิ้นสุดท้ายของบิดาจะไม่ถูกขายเพื่อนำเงินไปละลายกับการพนันอีก
“บ้าเอ๊ย” ภานุมาศสบถเมื่อจู่ๆ ไฟในห้องน้ำหรูกระพริบสองสามทีก่อนดับไปเฉย
ร่างบางลุกจากอ่างกุดชี่อย่างไม่เต็มใจนัก ภานุมาศจุดเทียนหอมกลิ่นหวานละมุนที่เธอชอบเสียทั่วห้อง หญิงสาวค้นเสื้อผ้าชิ้นเล็กชิ้นน้อยที่ชอบใส่ด้วยความเคยชิน ก่อนความคิดบางอย่างผุดขึ้นในหัว รอยยิ้มยินดีปรากฏบนใบหน้าสวย
“ก็ไม่เสียหายนะ ถ้า....”
มือบางลูบไล้ตามเสื้อผ้าชุดสวยที่แขวนไล่เฉดสีอย่างเป็นระเบียบ ภานุมาศนึกเสียดายอยู่เนืองๆ หากต้องขายมันเพื่อเงิน ที่สำคัญเธอไม่ทราบว่าคนที่ซื้อไปนั้นจะรัก และดูแลเสื้อผ้าเหล่านี้ดีเหมือนตนหรือไม่ ภานุมาศมองเสื้อผ้าในสองตู้ใบใหญ่อย่างหนักใจ คนมีกิเลสไม่อาจตัดใจกับสิ่งของนอกกายเหล่านี้ได้ ภานุมาศจึงตัดสินใจขายเสื้อผ้าของตนในบางส่วน หญิงสาวเลือกชุดสวยที่ตนไม่ค่อยใส่ และชุดที่ไม่พอดีตัวพับใส่ลังพลาสติก เมื่อกำจัดชุดสวยไปกว่าครึ่งตู้ ภานุมาศก็เลือกกองทัพกระเป๋าที่วางเรียงกันตามยี่ห้อ เข้ากับสีของรองเท้าใส่หญิงสาวใส่กล่องพลาสติกใส
“หลุยส์ ปราด้า แชลแนล” หญิงสาวจำใจหยิบกระเป๋าหนังราคาแพงมากอดด้วยความเสียดาย “แม่จำเป็นจริงๆ นะลูก”
ภานุมาศยังจำวันที่เธอรูดบัตรเดดิตเพื่อซื้อกระเป๋าพวกนี้มาได้ดี แม้กระทั่งวันที่ฝนตก หญิงสาวไม่ยอมให้ละอองฝนกระเซ็นใส่มันแน่นอน
“โอ๊ย....ให้ตายสิพลัม ใช้โค้ชใบเดียวก็ได้” ภานุมาศหลับหูหลับตาหยิบกระเป๋านับสิบใบมาใส่ถุงกระดาษที่เคยบรรจุมันมา “ย่าไปคิดถึงมันเชียวนะ มันก็แค่หลุยส์ติ๊งต๊อง แล้วก็ป้าดา แว้ก! ”
ภานุมาศแพ็คถุงกระเป๋าก่อนจะนำไปรวมกับลังเสื้อผ้า มองกี่ทีๆ น้ำตาของภานุมาศจะไหลเสียให้ได้ หลังจากอาบนำ้ แต่งตัวเสร็จก็วิ่งตึงตังลงบันไดเพื่อจะไปหามินิคูเปอร์คู่ชีพ
หากแต่...
“จะไปไหนน่ะลูก หอบข้าวของพะรุงพะรังเชียว” บิดานั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ถามอย่างสนใจ
“อ๋อ พลัมจะเอาของไปบริจาคค่ะคุณพ่อ” ภานุมาศบอกหน้าซื่อ
จุ๊บ
บิดาหอมแก้มลูกสาวเบาๆ “พ่อดีใจนะลูกที่ลูกเป็นคนดี มีจิตเมตตตาคนยากคนจน”
ฮึ่ม...พ่อนะพ่อ เห็นพลัมเป็นคนยังเนี่ย ก็แค่ชอบแกล้งเด็ก แล้วก็ไม่เคยคิดจะทำบุญก็แค่นั้นเอง
///////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
“เหอๆ อีกนิดเดียว” ภานุมาศปาดเหงื่อหลังจากที่บรรทุกลังเสื้อผ้ากับถุงกระเป๋าไว้ที่ท้ายรถมินิคูเปอร์สีดำ “ไปเลยลูกรัก”
ในที่สุดรถคู่กายก็พาภานุมาศมาถึงจุดหมายปลายทางอย่างปลอดภัย หลังจากที่รถเจ้าปัญหาของเธอติดๆ ดับๆ หลายครั้งหลายครา
ภานุมาศหารู้ไม่ว่าการหายตัวไปของเธอทำเอาคนตัวโตอยู่ไม่สุข ทั้งวัน สักรินทร์ยุ่งเรื่องการจัดการอายัดศพของเมรยาก่อนจะมีการเผาเพียงไม่กี่ชั่วโมง รอการหาหลักฐานเพิ่มเติมเมื่อคนในตระกูลอมรวัฒนกุลเพิ่งประสบอุบัติเหตุอย่างคล้ายคลึงกัน
“อะไรนะ” เสียงตวาดของสักรินทร์ทำให้เมศร์สะดุ้ง นานนักที่จะเห็นเขาอยู่ในอารมณ์แบบนี้ อย่างมากก็แค่ตาขวาง “ฉันต้องการตัวเธอภายในสี่สิบแปดชั่วโมง”
“ครับ” บอดี้การ์ดหน้าเดียวเดินออกไปอย่างเซ็งสุดชีวิต ตายหละหว่า แล้วจะไปตามหาที่ไหนเนี่ย
สักรินทร์แทบคลั่งเมื่อลูกน้องของตนรายงานว่าภานุมาศหายไปหลังจากที่ออกตามหาจนทั่ว ชายหนุ่มขึ้นไปสูบบุหรี่บนดาดฟ้า เขาไม่อาจลืมความหอมหวาน และความสุขสมที่ได้รับจากภานุมาศได้ เมื่อคิดว่าหล่อนอดทนรอให้น่านนำ้กลับมาไม่ไหวก็ระบายอารมณ์กับกระถางต้นไม้ใกล้ตัว
“คิดหรือว่าจะหนีฉันรอดหรือ คิดผิดแล้วล่ะ ภานุมาศ”
อาการของภราดาดีขึ้นตามลำดับ ภราดาฟื้นขึ้นมาก็ได้พบกับความสูญเสียในครอบครัวจนคิดว่าถ้าต้องมารับทราบความเจ็บปวดในครั้งนี้ หากเลือกได้ก็ขอเลือกไม่รับรู้อะไรแบบเดิมอีกว่า
หนังสือพิมพ์ต่างพาดหัวข่าวเกี่ยวกับการตายของบวร อมรวัฒนกุล และชุติมา บุตรสาวที่ตอนนี้ อาการ...สาหัส
หลังจากไปส่งรัตติกาลที่แมนชั่น ธนาดลตรงรี่ไปยังโรงพยาบาลที่ภราดารักษาตัวอยู่ ชายหนุ่มไม่ลืมซื้อของบำรุงร่างกายไปให้ผู้เป็นพี่สาว รอยยิ้มดีใจฉายบนใบหน้าคมคายเมื่อพบภราดา
“ดะ...ดล” เสียงของภราดาแหบพร่า เธอเรียกธนาดลอย่างยินดี ชีวิตครอบครัวที่ล้มเหลวคล้ายกับแซ่หวายคอยกระหนำ่ซำ้เติมชีวิตของเวิร์คกิ้งวูแมนอย่างภราดาทำให้เธอไม่อาจกลั้นนำ้ตาไว้ได้
“พี่ดา” ธนาดลทำตัวไม่ถูกได้แต่กอดภราดาไว้ปล่อยให้หญิงสาวร้องไห้จนกว่าจะพอใจ มือหนาลูบหลังเธอเพื่อจะบอกว่ายังมีเขาที่จะอยู่เคียงข้าง “ร้องเสียให้พอ ผมว่าพี่ไม่ได้ร้องไห้นานแล้วนะ”
“บวรทิ้งพี่ไปแล้ว น้องเอ้...น้องเอ้ก็...” ภราดาฟูมฟายร้องไห้ปริ่มจะขาดใจ สะอื้นฮึกราวกับต้องการที่พึ่ง
ธนาดลพยายามเรียบเรียงคำพูดของภราดาที่ฟังแทบไม่ได้ศัพท์เลยสักนิดก่อนบอกให้กำลังใจคนที่ต้องสูญเสียสามี “น้องเอ้ต้องไม่เป็นอะไรครับพี่ดา”
“พี่ไม่รู้ แต่ตอนนี้พี่ไม่เหลือใครแล้ว ดลอย่าทิ้งพี่ไปนะ”
“ผมไม่มีทางทิ้งพี่ ทิ้งน้องเอ้แน่นอน”
ภราดาค่อยมีกำลังใจที่ได้ยินคำพูดหนักแน่นจากธนาดล หญิงสาวตั้งสติ เลิกฟูมฟายเพื่อตั้งรับเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันที่มักมาเยือนมนุษย์โดยไม่บอกกล่าวล่วงหน้า
“พี่สงสารลูกเอ้เหลือเกิน”
ธนาดลได้ยินพี่สาวพูดถึงชุติมาอย่างแสนรักจึงไม่กล้าบอกภราดาไปว่าบาปกรรมที่ชุติมาเป็นคนก่อไว้กับเมรยา บัดนี้ได้คืนสนองชุติมาแล้ว
///////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
นุ่นลงไว้ให้สองบทนะคะ แล้วขอลากิจไปทำธุระกับครอบครัว กลับมาอีกทีวันจันทร์เลย กระซิกๆ T.T อย่าเพิ่งหายไปไหนกันนะจ๊ะ รอนักเขียนตัวกลมๆ ก่อนนะ :]
@ คุณ saralun สมหวังแล้วนะคะ อิอิ
@ คุณ lovemuay น่าจับหักคอจิ้มพริกมากเลยค่ะ
@ คุณ ปูสีนำ้เงิน จะให้พระเอกสมหวังง่ายๆ ก็ไม่สนุกสิคะ
@ คุณ Ida ขัดจังหวะครั้งเดียวก็โล่งสะดวกแล้วค่ะ
@ คุณ angle101 นุ่นก็แทบขาดใจค่ะ แต่เลิฟซีนไม่เก่ง กระซิกๆ
“คุณดลกับคุณนิกซ์จะให้ผมยกอาหารขึ้นมาหรือว่าจะลงไปทานข้างล่างครับ” ชายหน้าบากถามอย่างสุภาพ นำ้เสียง และกิริยาช่างขัดกับหน้าตายิ่งนัก
“นิกซ์ว่าทานข้างบนดีกว่าค่ะ” รัตติกาลตัดสินใจแทนธนาดลก่อนพูดจาไพเราะแสดงมิตรจิตรมิตรใจ “รบกวนพี่ยกขึ้นมาให้ด้วยนะ”
“ไม่รบกวนเลยครับ หน้าที่ของผมอยู่แล้ว” คนของสักรินทร์ขอตัวไปยกกับข้าวมาบริการ
“เปิดทีวีดีกว่าเนอะ” คล้อยหลังชายหน้าบาก รัตติกาลตัวแข็งเมื่อต้องอยู่กับธนาดลตามลำพัง หญิงสาวแก้เก้อด้วยการเปิดทีวีแล้วเปลี่ยนช่อง ปรับภาพ ปรับเสียง สารพัดเท่าที่จะนึกออก “สารคดีนกเพนกวินดูแล้ว การ์ตูนเรื่องนี้ก็ดูแล้ว นี่ๆ ดีกว่าสาวน้อยมหัศจรรย์..เอทำไมภาพมันเหลืองๆ นะ ต้องปรับ...เสียงมันแปลกๆ เนอะ คุณดลว่าไหมคะ”
“ครับ แปลกจริงๆ ด้วย” ธนาดลเออออตามทำให้รัตติกาลถอนหายใจอย่างโล่งใจ แม้จริงๆ แล้วธนาดลไม่เห็นว่าจอโทรทัศน์จะเป็นสีหรือมีอาหารอย่างที่หญิงสาวว่า
“สงสัยต้องให้ช่างมาดู” รัตติกาลกลดรีโมตมั่วจนช่องสัญญาณที่ตั้งไว้รวนไปหมด ถ้าบางช่องไม่เป็นสีขาวดำก็ไม่มีเสียง
ธนาดลก็ทราบวิธีแก้แต่ทำเฉยเสียเพราะเข้าใจพฤติกรรมเพี้ยนของรัตติกาล “พรุ่งนี้ผมให้คนตามช่างมาซ่อม”
เพียงไม่นานหลังจากที่รัตติกาลกดปิดโทรทัศน์ ถาดอาหารสีเงินก็ถูกนำมาวางบนโต๊ะมุมห้อง
เกือบไปแล้วไหมล่ะนิกซ์เอ๊ย
รัตติกาลมองอาหารทะเลสารพัดเมนูที่มีให้เลือกละลานตาพร้อมห่อปากร้องโอ้โหลืมความกระดากอายไปชั่วขณะ
“ตื่นเต้นอย่างกับสามล้อถูกหวยแน่ะ” ธนาดลมองหญิงสาวอย่างเอ็นดูก่อนอดล้อเลียนรัตติกาลไม่ได้
“ก็กับข้าวน่ากินทั้งนั้น” รัตติกาลว่าขณะใช้นิ้วนับอาหารจานเล็ก “ดีนะที่จานนึงไม่เยอะมาก ไม่อย่างนั้นเราสองคนต้องท้องแตกตายแน่ๆ เลย”
“กับข้าวเจ้าที่”
“อะไรนะคะ นิกซ์ฟังไม่ถนัดเลย”
“ผมบอกว่ากับข้าวเจ้าที่ เอ่อ...จะอธิบายอย่างไรดีล่ะ คือว่าอาหารสิบอย่างที่นิกซ์เห็นน่ะ เป็นเมนูโปรดของผมเลยนะ เวลามาพักที่นี่น่ะสักรินทร์จะสั่งแม่บ้านทำให้เป็นพิเศษ มันก็จานปกตินั่นแหละ แต่แบ่งให้ลูกน้องของสักรินทร์ทานด้วย”
“อ๋อ นิกซ์เข้าใจแล้ว” รัตติกาลพยักหน้าหงึกเข้าใจความคิดของธนาดล
“เข้าใจว่ายังไงครับ”
“ทั้งป้องกันทั้งยาพิษ และซื้อใจลูกน้องสิท่า...ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว” รัตติกาลพอจะอ่านกลวิธีผูกใจลูกน้องธนาดล และสักรินทร์ได้
“เก่งจัง อย่างนี้ต้องให้รางวัล” ธนาดลชื่นชมความเฉลียวฉลาดของรัตติกาล
“รางวัลอีกแล้ว เหมือนจะใจดีนะเนี่ย...นิกซ์ไม่หลงกลคุณหรอก มาทานข้าวค่ะคุณดล” รัตติกาลรู้ทันจึงพูดขัดคอเขา
“แขนผมเจ็บนี่ คุณก็เห็น” ธนาดลยังไม่ยอมแพ้ อยากอ้อนให้หญิงสาวดูแล แม้จะไม่ได้จูบเธอ เขาก็หวังให้เธอปรนนิบัติ และเอาใจเขา “ป้อนผมหน่อยนะ”
รัตติกาลแพ้สายตาขี้อ้อนของธนาดลจึงเลี่ยงไม่ได้ที่จะตักกับข้าวใส่ปากเขาอย่างอายๆ สำหรับธนาดลแล้วรู้สึกว่าอาหารมื้อนี้พิเศษ และน่ากินยิ่งกว่ามื้อไหนๆ รัตติกาลจักข้าวเข้าปากตนสลับกับป้อนชายหนุ่ม คำแล้วคำเล่าจนกระทั่งหมด
“ผมอยากอาบน้ำ” จู่ๆ ธนาดลก็เอ่ยขึ้นมาอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ทำเอามือที่ประคองจานไปวางบนถาดแทบจะปล่อยให้กระทบกับถาดเงิน
“ทานข้าวเพิ่งเสร็จ อย่าเพิ่งเลยค่ะ เดี๋ยวปวดท้องเดี๋ยว” รัตติกาลไม่เห็นด้วยจึงเตือนอย่างหวังดี
หัวใจของธนาดลอบอุ่นที่มีคนคอยห่วงใย รอยยิ้มสดใสของรัตติกาลเป็นเหมือนยาวิเศษที่เยียวยาบาดแผลในจิตใจ ความเอื้ออาทรที่ได้รับทำให้ชายหนุ่มมีกำลังใจต่อสู้ และยอมรับความจริงที่เจ็บปวด
“ขอบคุณนะครับที่เป็นห่วง” ธนาดลบอกอย่างจริงใจ
“คนรักกันก็ต้องห่วงกันเป็นธรรมดานี่คะ” รัตติกาลหยอดคำหวานพร้อมส่งรอยยิ้มพิมพ์ใจให้ธนาดล หญิงสาวหวังว่าการทำดีเล็กๆ น้อยๆ ของเธอจะทำให้อาการบาดเจ็บทางร่างกาย และจิตใจของเขาดีขึ้น
“ดูหนังกันดีกว่า” ธนาดลยกกล่องดีวีดีภาพยนตร์บู๊ล้างผลาญมาล่อทำให้รัตติกาลกระโจนขึ้นเตียงไปนั่งดูหนังกับเขาได้ไม่ยาก
ธนาดลแปลงร่างเตียงนุ่มเป็นโรงหนังส่วนตัวโดยใช้คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คเป็นจอหนัง แถมยังมีโปรโมชั่นพิเศษเป็นขนมถุง และนำ้หวานหลากสีที่รัตติกาลชอบ ทั้งหมดนี้ก็เพื่อให้รัตติกาลคลายความกังวลที่จะใกล้ชิดเขาสองต่อสอง ดูเหมือนจะได้ผลดีทีเดียวเมื่อตลอดการชมภาพยนตร์นั้นรัตติกาลไม่ได้เกร็งเขาอย่างเมื่อก่อนรับประทานอาหารเย็น ธนาดลทำเป็นใจดีคอยหยิบขนม และนำ้อัดลมส่งให้หญิงสาวไม่ขาด ธนาดลตั้งใจแล้วว่าเขาจะแก้ตัวที่ทำรุนแรงกับหญิงสาวในคืนนั้น!
“หนังจบไวจัง” รัตติกาลบ่นอุบโดยหารู้ไม่ว่าธนาดลได้เตรียมการเพื่องานนี้โดยเฉพาะ
“ผมอยากอาบนำ้แล้ว” ธนาดลบอกพลางหาวประกอบคำพูด
“ง่วงนอนแล้วใช่ไหมคะ”
“ครับ ผมง่วงแล้ว อยากอาบนำ้”
“อ่า นิกซ์ไปตามคนมาช่วยดีกว่าค่ะ” จากสถานการณ์ล่อแหลมก่อนอาหารเย็นทำให้รัตติกาลเลี่ยงการแตะเนื้อต้องตัวชายหนุ่ม
“นิกซ์จะไปตามคนอื่นทำไม นิกซ์นั่นแหละต้องอาบให้ผม...ผมเจ็บแขน อาบนำ้เองไม่ได้”
“นิกซ์เนี่ยนะ” รัตติกาลชี้หน้าตนเองถามอย่างไม่มั่นใจ
“ครับ คนดีของผม” ธนาดลกระพริบตาปริบๆ เรียกความเห็นใจจากหญิงสาว
“แค่แขนเจ็บ ทำอย่างกับเป็นง่อย” รัตติกาลบ่นกระปอดกระแปดเข้าห้องน้ำไป หากแต่ธนาดลไม่ได้ใส่ใจมากนัก เมื่ออยู่คนเดียวรัตติกาลก็อดบ่นไม่ได้ “เขานอกบท...ไม่เห็นมีในบทเลยสักนิด คอยดูนะฉวยโอกาสอีกเมื่อไหร่จะทำให้เป็นง่อยจริงๆ เลย”
รัตติกาลหมายถึงเมโลดราม่าที่เธอเขียนบทเอง เล่นเอง และกำกับการแสดงเอง พอนึกถึงฉากเลิฟซีนที่เกือบจะพลาดท่า เสียทีเขาก็ทำให้หญิงสาวหืดขึ้นคอ คนด้อยประสบการณ์อย่างรัตติกาลจึงหมดหนทางไปต่อ
รัตติกาลผสมน้ำอุ่นกับน้ำเย็นให้อุณหภูมิของน้ำพอเหมาะ เตรียมใยขัดตัวกับสบู่เหลวกลิ่นหอมไว้คอยท่า ขณะนั้นเองชายหนุ่มที่หล่อนแช่งชักหักกระดูกก็เดินเข้ามาในนำ้ ท่อนบนของธนาดลยังสวมเสื้อเรียบร้อยผิดกับท่อนล่างที่มีเพียงผ้าขนหนูพันกันอุจาดไว้ ครั้นจังหวะที่หญิงสาวหันมา ชายหนุ่มทำท่าจะปลดผ้าผืนหนา
“อ๊าย! คุณดล ทำอะไรของคุณน่ะ คุณจะถอดตรงนี้ไม่ได้นะ” รัตติกาลรีบห้ามพลางยกมือปิดตา
“อ้าว ถ้าไม่ให้ถอดตรงนี้แล้วให้ผมถอดตรงไหน” ชายหนุ่มถามพาซื่อ
“ก็ เอ่อ ก็เดี๋ยวคุณก็ค่อยถอดก็แล้วกัน เดี๋ยว เอ่อ เดี๋ยวนิกซ์...นิกซ์ถอดเสื้อให้คุณก่อน แล้วพอนิกซ์ เอ่อ หันหลังคุณค่อยถอดผ้าเช็ด...ตัว” หญิงสาวเกิดอาการติดอ่างขึ้นมาดื้อๆ
“งั้นนิกซ์ช่วยผมถอดเสื้อหน่อยสิ ผมถอดไม่ได้”
ด้วยความสูงของรัตติกาลทำให้หญิงสาวถอดเสื้อกล้ามของธนาดลได้ไม่ยาก หญิงสาวหน้าแดงกับเรือนร่างชายหนุ่มตรงหน้า ผ่านฝนผ่านหนาวมายี่สิบสามปี รัตติกาลยังไม่เคยเห็นผู้ชายเกือบเปลือยอย่างนี้ แม้ว่าจะมีผ้าขนหนูพันท่อนล่างไว้ก็เถอะ
รัตติกาลเปลี่ยนแผน ใช้สบู่เหลวตีน้ำให้เกิดฟองเพื่อบดบังสิ่งที่ไม่ควรเห็นเมื่อต้องอาบนำ้ให้ธนาดล
“เดี๋ยวคุณค่อยๆ ลงไปในอ่างนะ ก็เรียกฉันก็แล้วกัน”
ธนาดลก็ปลดผ้าเช็ดตัวก่อนลงไปแช่ในอ่างอาบน้ำแล้วเรียกรัตติกาล
“นิกซ์”
คนถูกเรียกสะดุ้ง แต่ก็ปั้นหน้าให้เรียบเฉยสุดชีวิตแล้วฝืนยิ้มให้เขา รัตติกาลเดาได้ว่ามันคงเป็นยิ้มที่เจื่อนที่สุดในชีวิตเลยก็ว่าได้
จิตใจของธนาดลว้าวุ่น ไม่รู้ว่าเขาคิดถูกหรือคิดผิดที่ให้ยัยจอมจุ้นอาบน้ำให้ ธนาดลหายใจติดขัดเมื่อมือน้อยๆ ของรัตติกาลลูบไล้ไปทั่วร่างกาย
รัตติกาลเองก็ใช่ว่าจะไม่ตื่นเต้น ภายในห้องน้ำเงียบสงัด ปราศจากบทสนทนาของทั้งคู่ หญิงสาวได้ยินเพียงเสียงเต้นของหัวใจในจังหวะแทงโก้
“หยุด ออกไปก่อน เดี๋ยวผมจัดการต่อเอง” จู่ๆ ธนาดลก็ไล่หญิงสาวทำเอาเธอทำอะไรไม่ถูก แต่เธอก็ทำตามอย่างว่าง่าย
ไม่ทันที่หญิงสาวจะก้าวพ้นประตูก็ได้ยินเสียงชายหนุ่มตีน้ำเป็นผลให้น้ำในอ่างกระฉอกเต็มพื้นห้องน้ำ รัตติกาลไม่เข้าใจการกระทำของชายหนุ่มที่ทำราวกับว่าโกรธใครมาสักสิบชาติ
“นี่คุณทำบ้าอะไรของคุณน่ะ เดี๋ยวแผลก็โดนนำ้หรอก” หญิงสาวคว้ามือที่หมายจะตีผิวน้ำไว้ได้ เขาหันมองด้วยดวงตาวาววับ
“นิกซ์ ออกไป ก่อนที่ผมจะหมดความอดทน” ชายหนุ่มพูดรัวและเร็วตามอารมณ์ ที่บัดนี้เขาพยายามระงับความต้องการบางอย่างของร่างกายอย่างยากเย็น
“ไม่ค่ะ นิกซ์ไม่ออกไป จนกว่าคุณจะเลิกบ้า” หญิงสาวที่ตีความหมายไปอีกทางกลับดื้อแพ่งไม่สนใจคำเตือน รัตติกาลคว้ามือชายหนุ่มได้กลางอากาศ
“ผมจะเตือนเป็นครั้งสุดท้าย ออกไป”
“ไม่ค่ะ” สิ้นสุดคำพูดของเธอร่างบางก็ถูกดึงให้ลงมาในอ่างด้วยกัน “ว๊าย! ”
“ตอนนี้คุณอยากออกก็ไม่ทันแล้ว” เสียงห้าวเอ่ยพลางดึงเธอให้นั่งบนตักเขา รัตติกาลรับรู้ถึงการตื่นตัวภายใตผิวนำ้จึงเข้าใจถึงสิ่งที่เขาต้องการจะสื่อเมื่อครู่ หญิงสาวเริ่มดิ้นรนให้พ้นจากร่างหนา
“ปล่อยนะ คุณจะทำอย่างนี้ไม่ได้นะคุณดล คุณต้อง...” รัตติกาลไม่พูดต่อเมื่อริมฝีปากบางของเขาเกือบชิดริมฝีปากเธอ หญิงสาวอยู่ใกล้ชายหนุ่มจนได้ยินเสียงลมหายใจของเขา
รัตติกาลมองดวงตานั้นอย่างหลงใหล เธอเองที่เป็นฝ่ายแนบริมฝีปากไปหาเขา ธนาดลเองก็ไม่ได้ปฏิเสธความต้องการของหญิงสาว ชายหนุ่มสอนให้เธอรู้จักกับจุมพิตที่เร่าร้อนแฝงไปด้วยความปรารถนา
มือข้างหนึ่งของธนาดลปลดกระดุมกางเกงของหญิงสาวโดยที่เธอไม่รู้ตัว เสื้อสีขาวเปียกลู่แนบรูปร่างได้สัดส่วนของรัตติกาล ธนาดลกระชากทีเดียวเสื้อขาวตัวนั้นก็หลุดตามมือ คนคิดจะแก้ตัวอยากให้หญิงสาวมีความทรงจำที่ดีในรสรักไม่อาจปล่อยให้ตนทำตามอารมณ์ดิบได้ เมื่อเห็นว่าหญิงสาวไม่ขัดขืนจึงจัดการถอดปราการสองชิ้นสุดท้ายออกก่อนอุ้มร่างบางเข้าไปในห้องนอน ธนาดลค่อยๆ วางหญิงสาวไว้บนเตียง ทั่งคู่อยู่ไม่สนความเปียกปอนของตน รัตติกาลเองก็แปลกใจกับความต้องการทางร่างกายของตน ที่ดูเหมือนว่าพึงพอใจในสัมผัสของธนาดลที่ลูบไล้ไปทั่วร่างตน
กลางดึกที่เงียบสงัด สองร่างยังคงแนบสัมผัสกันทุกตารางนิ้ว เสียงกรีดร้องของฝ่ายหญิงแล้วตามด้วยเสียงคำรามอย่างพึงพอใจของฝ่ายชาย ธนาดลยังไม่อิ่มเอมกับร่างกายที่เป็นเหมือนผลไม้แสนหวานสำหรับชายหนุ่มแต่สภาพอ่อนแรงของรัตติกาล และความใหม่กับประสบการณ์ในเรื่องนี้ทำให้ธนาดลยอมรามือก่อนฝ่ายหญิงผล็อยหลับไปด้วยความเหนื่อยอ่อน
“ฝันดีนะครับ”
ธนาดลกระซิบบอกหญิงสาวเสียงแผ่ว ก่อนเช็ดเหงื่อที่บริเวณขมับของเธออย่างเอ็นดูแล้วกวาดสายตามองไปทั่วร่างของเธออย่างชื่นชม แม้ว่าจะมีหยดเลือดสีแดงแต่งแต้มผ้าปูที่นอนสีขาวสะอาด แต่นั่นก็ทำให้เขาเอะใจ
“ไอ้ดลเอ๊ยไอ้ดล ถูกต้มเสียเปื่อย” ธนาดลกระจ่างแก่ใจแล้วว่าความเข้าใจผิดดังกล่าวถูกรัตติกาลจัดฉากขึ้นมา หากนึกถึงของเหลวสีขุ่นที่ได้รับการปลดปล่อยก็เอามือกุมหน้าผาก ชายหนุ่มไม่อาจบรรยายความรู้สึกของตนในตอนนี้ได้ก่อนบอกตนเองอย่างหมดสภาพว่า “อย่าบอกนะว่าคืนนั้นเรา...ฝันเปียก”
ธนาดลไม่ได้ถือสาหาความหญิงสาวแต่อย่างใด กลับยินดีด้วยซำ้ที่ความเข้าใจผิดนั้นผูกมัดให้เธอต้องอยู่ใกล้ๆ จนกระทั่งเรื่องลงเอยแบบนี ้ธนาดลกระชับร่างของรัตติกาลไว้ในอ้อมแขน ชายหนุ่มกระจ่างแก่ใจแล้วว่าเขารักเธอมากเพียงใด
รัตติกาลรู้สึกตัวในตอนสายก็พบว่าธนาดลยังคงหลับสนิท ความละอายใจวูบหนึ่งแล่นสู่จิตใจเมื่อพบว่าสิ่งที่ตนหวงแหนได้มอบให้กับชายหนุ่มผู้เป็นที่รักไปแล้ว มือเรียวลูบไล้ไปตามโครงหน้าใบหนุ่มราวกับจะค้นหาคำตอบว่าเธอควรทำอย่างไรต่อไปดี รัตติกาลแทบไม่น่าเชื่อว่าชายหนุ่มจะเป็นนักธุรกิจไฟแรงที่เป็นที่น่าจับตามองในขณะนี้ ขณะเดียวกันเขาก็เป็นนักรักที่ร้อนแรง ครั้นเห็นสิ่งแปลกปลอมบนผ้าปูสีขาวก็กลัวว่าเขาจะถอนคำพูดที่ได้เคยล่วงเกินเธอในครานั้น
“น่าไม่อาย” รัตติกาลว่าตนเองที่ใจง่ายถึงเพียงนี้ เมื่อไม่อาจย้อนเวลากลับไปแก้ไขสิ่งที่เกิดขึ้นได้หญิงสาวจึงขอซึมซับความสุขในเวลานี้ให้นานเท่านานแล้วเธอจะจากเขาไปโดยไม่มีข้อแม้...พอกันทีกับการปั้นนำ้เป็นตัว
รัตติกาลซุกใบหน้ากับอกกว้างของธนาดลเตือนตนเองว่าเวลาของเธอเหลือน้อยลงเต็มที ที่สำคัญธนาดลไม่ต้องรับผิดชอบการกระทำที่ผิดพลาดของเขาแล้ว
เมื่อสมควรแก่เวลาเธอจะเป็นฝ่ายไปเอง คิดได้แค่นี้รัตติกาลก็ปล่อยให้น้ำตาไหลเป็นสาย ราวสัญชาตญาณ คนที่หลับสนิทกอดหญิงสาวไว้แน่นแล้วกดจมูกที่ขมับเธออย่างปลอบประโลมเบาๆ
///////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
เสียงโทรศัพท์บนหัวเตียงกรีดร้องทำให้ธนาดลต้องรับอย่างเสียไม่ได้ เพราะถ้าไม่มีธุระสำคัญจริงคนของสักรินทร์คงไม่โอนสายมาให้เขา สายตาคมปลาบของเขาพิจารณาร่างของรัตติกาลที่นอนแนบกายอยู่ เขาแทบไม่ได้ห่างจากเธอเลยตลอดสามวันที่ผ่านมานี้
“ฮัลโหล”
“มัวทำไรอยู่วะไอ้ดล มือถือก็ปิด” สักรินทร์ถามด้วยความแปลกใจ
“อือ ก็ยุ่งนิดหน่อย มีอะไรหรือเปล่า”
“ให้ตายเถอะไอ้เวร มัวแต่หลงสาวจนไม่รู้อะไรเลยหรือเนี่ย พับผ่าสิ”
สักรินทร์สบถด่ามาตามสาย ก่อนเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ชายหนุ่มฟัง สำหรับธนาดลไม่รู้ว่าเป็นข่าวดีหรือข่าวร้าย คำบอกกล่าวของสักรินทร์ทำให้เขาควานหาเสื้อมาใส่แทบไม่ทัน
“อือ...ศพอยู่ไหน” ธนาดลคุยกับสักรินทร์สองสามคำก่อนวางหูไป
ชายหนุ่มหันไปมองร่างหญิงสาวที่นอนเคียงข้างโดยมีผ้าห่มปกปิดร่างกายไว้ ใบหน้าเปี่ยมสุขยามนิทรา เขาไม่อยากห่างเธอสักวินาทีเดียวเลย ร่างเย้ายวนของรัตติกาลทำให้มือที่ติดกระดุมเสื้อชะงัก ธนาดลถอนเสื้อเหวี่ยงไปไม่รู้ทิศทาง
“นิกซ์...นิกซ์” เขาเรียกเธอเบาๆ
“หือ...อะไร ขอนิกซ์นอนหน่อยไม่ได้หรือ” ว่าแล้วรัตติกาลก็เอาหมอนปิดหน้า เสียงอู้อี้ของเธอเรียกรอยยิ้มจากธนาดลได้ดีที่เดียว
“เราจะกลับกันแล้ว ผมมีธุระ” ชายหนุ่มดึงหมอนของเธอออก ก่อนบอกเหตุผลที่เขาต้องทำ
“อือ...ขออีกสิบนาที คุณไปอาบน้ำก่อนก็แล้วกันนะ”
“เดี๋ยวผมช่วยคุณอาบน้ำ” เสียงทุ้มบอกอย่างเจ้าเล่ห์
“ไม่ต้องเลยนะ ไปอาบนำ้เลย”
รัตติกาลได้ยินเพียงเสียงหัวเราะของธนาดลใกล้ๆ หู หญิงสาวส่งเสียงจิ๊จ๊ะอย่างขัดใจก่อนสะบัดตัวลุกขึ้น เมื่อลงจากเตียงก็พบว่าขาของเธอแทบไม่มีแรง มันล้าเหมือนว่าเธอเพิ่งวิ่งระยะทางไกลมาอย่างไรอย่างนั้น
“หึ บอกแล้วว่ายังไงคุณยังต้องการผม”
“กรี๊ด ไอ้คุณดลบ้า ถ้านิกซ์ตกลงมาคุณจะว่ายังไง” รัตติกาลหวีดร้องเสียงหลงเมื่อเขาอุ้มเธอโดยไม่ให้เธอได้ตั้งตัว
“ผมไม่ปล่อยให้นิกซ์ตกลงมากหรอกนะ”
“ปล่อยนิกซ์ลงนะ”
“อย่าดิ้นสิ ถ้าตกลงไปผมจะไม่สนใจเธอเลย”
เพราะคำขู่สุดท้ายทำให้รัตติกาลยอมให้ธนาดลพาเธอเข้าไปในห้องน้ำได้สำเร็จ เสียงกรีดร้องของหญิงสาวดังขึ้นแล้วตามด้วยเสียงหัวเราะของธนาดลอย่างอารมณ์ดีเมื่อธนาดลโยนรัตติกาลลงไปในอางอาบนำ้โครมใหญ่
“นี่ปล่อยนิกซ์นะคุณดล”
ฝ่ายหญิงไม่สบอารมณ์ที่ถูกฝ่ายชายฉุดขาไป อ่างอาบน้ำก็ออกจะกว้างแต่สายตาของธนาดลที่มองมาทำให้หญิงสาวรู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก
“ก็ผมบอกให้นิกซ์เรียกผมว่ายังไง” ชายหนุ่มพุดประโยคนี้เป็นครั้งที่สาม ธนาดลไม่สนใจ จี้เท้าหญิงสาวที่หัวเราะคิก รัตติกาลถลึงตาใส่เขาแล้วดิ้นหวังจะให้เขาปล่อยแต่มันไม่ง่ายอย่างนั้น “เหนื่อยหรือยัง...สาวน้อย”
“เหนื่อยแล้วค่ะพี่ดล”
///////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
ภานุมาศไม่อาจอยู่กับสักรินทร์ได้ครบสามเดือนตามที่บอกกับเขาไว้ได้เพราะไม่อยากให้ตนเองถลำลึกไปมากกว่านี้ หญิงสาวแอบหนีออกทางประตูด้านหลังบ่อนโดยที่ไม่มีใครสังเกตเห็นเธอเลย และไม่ลืมที่จะแอบหยิบเงินของสักรินทร์มาด้วย ร่างบางโบกเรียกแท็กซี่กลับบ้านด้วยความปลอดภัย ผู้เป็นบิดาแสดงความยินดีเมื่อเห็นหน้าเธอ
“เป็นไงบ้างลูกไปเที่ยวต่างจังหวัด”
“ต่างจังหวัด? ”
ภานุมาศลืมไปว่าโกหกบิดาทำหน้าสงสัยก่อนนึกได้จึงปรับสีหน้าให้เป็นปกติ “สนุกดีค่ะ เสียแต่พี่น้ำไม่ได้ไปด้วยก็เท่านั้นเองค่ะ”
“สนุกก็ดีแล้ว พ่อไม่อยากให้ลูกเครียดกับการเรียนมากเกินไป”
“เอ ว่าแต่คุณพ่อกลับจากมาเก๊าเร็วจังเลยคะ”
“พูดถึงเรื่องมาเก๊า พรรคพวกของพ่อชวนพ่อไปทำงานที่นู่น พ่อเลยจะมาถามความคิดเห็นของลูกสาวของพ่อก่อน”
คำตอบของบิดาทำให้ภานุมาศยิ้มระรื่นที่บิดายังให้ความสำคัญกับตนอยู่ “ถ้าพ่ออยากไปพลัมก็ไม่ขัดค่ะ”
“แล้วลูกจะอยู่คนเดียวได้หรือ”
“พ่อพูดอย่างกับว่าพลัมเป็นเด็ก พลัมโตแล้วนะพ่อ แล้วอีกอย่างถ้าพลัมคิดถึงพ่อก็บินไปหาได้ แค่มาเก๊าเอง บินไม่กี่ชั่วโมงหรอกค่ะ” ภานุมาศไม่อยากให้บิดาเป็นห่วง
“เวลาที่พ่อไม่อยู่อย่าให้หนุ่มหน้าไหนมาวอแวได้นะ” บิดาพูดเสียงเข้มทำให้ภานุมาศอดขำไม่ได้
“โธ่พ่อ ลูกสาวพ่อออกจะสวยขนาดนี้ ใจคอพ่อจะไม่ให้ใครมาจีบเลยหรือคะ” ภานุมาศบอกยิ้มๆ ก่อนขอตัวขึ้นไปอาบน้ำ และพักผ่อนบนบ้าน
ภานุมาศกดโทรศัพท์หารัตติกาล แต่ต้องเจออุปสรรคชิ้นโตที่บิดายังไม่ได้ชำระค่าโทรศัพท์ให้นั่นเอง บิดาของหญิงสาวรับหน้าที่เป็นพ่อบ้าน คอยจัดการสิ่งต่างๆ ในบ้านเพราะอยากให้ลูกสาวคนเดียวได้เรียนหนังสืออย่างเต็มที่
“เฮ้อ! ” ภานุมาศกลุ้มใจเมื่อเห็นปัญหาที่กำลังจะตามมา ทั้งค่านำ้ ค่าไฟ ค่าอินเทอร์เน็ตที่จะตามมาเป็นหางว่าว หญิงสาวเดาได้ไม่ยากว่าบิดาต้องเสียพนันมาอีกแน่
ร่างบางเปลื้องผ้าหน้ากระจกบานใหญ่ก่อนจะผ่อนคลายอารมณ์ในอ่างอาบน้ำ ฟองสบู่ฟูฟ่องทว่าจิตใจของภานุมาศกลับห่อเหี่ยว หญิงสาวอยากหนีไปให้ไกล ไม่อยากเผชิญกับโลกของความเป็นที่โหดร้าย ด้วยสภาวะการเงินที่ตกต่ำสุดขีดของบิดาทำให้ภานุมาศมองบ้านหลังเดียวที่เธออาศัยอยู่ซึ่งราคาไม่ต่ำกว่าแปดหลัก หญิงสาวหวังว่าสมบัติชิ้นสุดท้ายของบิดาจะไม่ถูกขายเพื่อนำเงินไปละลายกับการพนันอีก
“บ้าเอ๊ย” ภานุมาศสบถเมื่อจู่ๆ ไฟในห้องน้ำหรูกระพริบสองสามทีก่อนดับไปเฉย
ร่างบางลุกจากอ่างกุดชี่อย่างไม่เต็มใจนัก ภานุมาศจุดเทียนหอมกลิ่นหวานละมุนที่เธอชอบเสียทั่วห้อง หญิงสาวค้นเสื้อผ้าชิ้นเล็กชิ้นน้อยที่ชอบใส่ด้วยความเคยชิน ก่อนความคิดบางอย่างผุดขึ้นในหัว รอยยิ้มยินดีปรากฏบนใบหน้าสวย
“ก็ไม่เสียหายนะ ถ้า....”
มือบางลูบไล้ตามเสื้อผ้าชุดสวยที่แขวนไล่เฉดสีอย่างเป็นระเบียบ ภานุมาศนึกเสียดายอยู่เนืองๆ หากต้องขายมันเพื่อเงิน ที่สำคัญเธอไม่ทราบว่าคนที่ซื้อไปนั้นจะรัก และดูแลเสื้อผ้าเหล่านี้ดีเหมือนตนหรือไม่ ภานุมาศมองเสื้อผ้าในสองตู้ใบใหญ่อย่างหนักใจ คนมีกิเลสไม่อาจตัดใจกับสิ่งของนอกกายเหล่านี้ได้ ภานุมาศจึงตัดสินใจขายเสื้อผ้าของตนในบางส่วน หญิงสาวเลือกชุดสวยที่ตนไม่ค่อยใส่ และชุดที่ไม่พอดีตัวพับใส่ลังพลาสติก เมื่อกำจัดชุดสวยไปกว่าครึ่งตู้ ภานุมาศก็เลือกกองทัพกระเป๋าที่วางเรียงกันตามยี่ห้อ เข้ากับสีของรองเท้าใส่หญิงสาวใส่กล่องพลาสติกใส
“หลุยส์ ปราด้า แชลแนล” หญิงสาวจำใจหยิบกระเป๋าหนังราคาแพงมากอดด้วยความเสียดาย “แม่จำเป็นจริงๆ นะลูก”
ภานุมาศยังจำวันที่เธอรูดบัตรเดดิตเพื่อซื้อกระเป๋าพวกนี้มาได้ดี แม้กระทั่งวันที่ฝนตก หญิงสาวไม่ยอมให้ละอองฝนกระเซ็นใส่มันแน่นอน
“โอ๊ย....ให้ตายสิพลัม ใช้โค้ชใบเดียวก็ได้” ภานุมาศหลับหูหลับตาหยิบกระเป๋านับสิบใบมาใส่ถุงกระดาษที่เคยบรรจุมันมา “ย่าไปคิดถึงมันเชียวนะ มันก็แค่หลุยส์ติ๊งต๊อง แล้วก็ป้าดา แว้ก! ”
ภานุมาศแพ็คถุงกระเป๋าก่อนจะนำไปรวมกับลังเสื้อผ้า มองกี่ทีๆ น้ำตาของภานุมาศจะไหลเสียให้ได้ หลังจากอาบนำ้ แต่งตัวเสร็จก็วิ่งตึงตังลงบันไดเพื่อจะไปหามินิคูเปอร์คู่ชีพ
หากแต่...
“จะไปไหนน่ะลูก หอบข้าวของพะรุงพะรังเชียว” บิดานั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ถามอย่างสนใจ
“อ๋อ พลัมจะเอาของไปบริจาคค่ะคุณพ่อ” ภานุมาศบอกหน้าซื่อ
จุ๊บ
บิดาหอมแก้มลูกสาวเบาๆ “พ่อดีใจนะลูกที่ลูกเป็นคนดี มีจิตเมตตตาคนยากคนจน”
ฮึ่ม...พ่อนะพ่อ เห็นพลัมเป็นคนยังเนี่ย ก็แค่ชอบแกล้งเด็ก แล้วก็ไม่เคยคิดจะทำบุญก็แค่นั้นเอง
///////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
“เหอๆ อีกนิดเดียว” ภานุมาศปาดเหงื่อหลังจากที่บรรทุกลังเสื้อผ้ากับถุงกระเป๋าไว้ที่ท้ายรถมินิคูเปอร์สีดำ “ไปเลยลูกรัก”
ในที่สุดรถคู่กายก็พาภานุมาศมาถึงจุดหมายปลายทางอย่างปลอดภัย หลังจากที่รถเจ้าปัญหาของเธอติดๆ ดับๆ หลายครั้งหลายครา
ภานุมาศหารู้ไม่ว่าการหายตัวไปของเธอทำเอาคนตัวโตอยู่ไม่สุข ทั้งวัน สักรินทร์ยุ่งเรื่องการจัดการอายัดศพของเมรยาก่อนจะมีการเผาเพียงไม่กี่ชั่วโมง รอการหาหลักฐานเพิ่มเติมเมื่อคนในตระกูลอมรวัฒนกุลเพิ่งประสบอุบัติเหตุอย่างคล้ายคลึงกัน
“อะไรนะ” เสียงตวาดของสักรินทร์ทำให้เมศร์สะดุ้ง นานนักที่จะเห็นเขาอยู่ในอารมณ์แบบนี้ อย่างมากก็แค่ตาขวาง “ฉันต้องการตัวเธอภายในสี่สิบแปดชั่วโมง”
“ครับ” บอดี้การ์ดหน้าเดียวเดินออกไปอย่างเซ็งสุดชีวิต ตายหละหว่า แล้วจะไปตามหาที่ไหนเนี่ย
สักรินทร์แทบคลั่งเมื่อลูกน้องของตนรายงานว่าภานุมาศหายไปหลังจากที่ออกตามหาจนทั่ว ชายหนุ่มขึ้นไปสูบบุหรี่บนดาดฟ้า เขาไม่อาจลืมความหอมหวาน และความสุขสมที่ได้รับจากภานุมาศได้ เมื่อคิดว่าหล่อนอดทนรอให้น่านนำ้กลับมาไม่ไหวก็ระบายอารมณ์กับกระถางต้นไม้ใกล้ตัว
“คิดหรือว่าจะหนีฉันรอดหรือ คิดผิดแล้วล่ะ ภานุมาศ”
อาการของภราดาดีขึ้นตามลำดับ ภราดาฟื้นขึ้นมาก็ได้พบกับความสูญเสียในครอบครัวจนคิดว่าถ้าต้องมารับทราบความเจ็บปวดในครั้งนี้ หากเลือกได้ก็ขอเลือกไม่รับรู้อะไรแบบเดิมอีกว่า
หนังสือพิมพ์ต่างพาดหัวข่าวเกี่ยวกับการตายของบวร อมรวัฒนกุล และชุติมา บุตรสาวที่ตอนนี้ อาการ...สาหัส
หลังจากไปส่งรัตติกาลที่แมนชั่น ธนาดลตรงรี่ไปยังโรงพยาบาลที่ภราดารักษาตัวอยู่ ชายหนุ่มไม่ลืมซื้อของบำรุงร่างกายไปให้ผู้เป็นพี่สาว รอยยิ้มดีใจฉายบนใบหน้าคมคายเมื่อพบภราดา
“ดะ...ดล” เสียงของภราดาแหบพร่า เธอเรียกธนาดลอย่างยินดี ชีวิตครอบครัวที่ล้มเหลวคล้ายกับแซ่หวายคอยกระหนำ่ซำ้เติมชีวิตของเวิร์คกิ้งวูแมนอย่างภราดาทำให้เธอไม่อาจกลั้นนำ้ตาไว้ได้
“พี่ดา” ธนาดลทำตัวไม่ถูกได้แต่กอดภราดาไว้ปล่อยให้หญิงสาวร้องไห้จนกว่าจะพอใจ มือหนาลูบหลังเธอเพื่อจะบอกว่ายังมีเขาที่จะอยู่เคียงข้าง “ร้องเสียให้พอ ผมว่าพี่ไม่ได้ร้องไห้นานแล้วนะ”
“บวรทิ้งพี่ไปแล้ว น้องเอ้...น้องเอ้ก็...” ภราดาฟูมฟายร้องไห้ปริ่มจะขาดใจ สะอื้นฮึกราวกับต้องการที่พึ่ง
ธนาดลพยายามเรียบเรียงคำพูดของภราดาที่ฟังแทบไม่ได้ศัพท์เลยสักนิดก่อนบอกให้กำลังใจคนที่ต้องสูญเสียสามี “น้องเอ้ต้องไม่เป็นอะไรครับพี่ดา”
“พี่ไม่รู้ แต่ตอนนี้พี่ไม่เหลือใครแล้ว ดลอย่าทิ้งพี่ไปนะ”
“ผมไม่มีทางทิ้งพี่ ทิ้งน้องเอ้แน่นอน”
ภราดาค่อยมีกำลังใจที่ได้ยินคำพูดหนักแน่นจากธนาดล หญิงสาวตั้งสติ เลิกฟูมฟายเพื่อตั้งรับเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันที่มักมาเยือนมนุษย์โดยไม่บอกกล่าวล่วงหน้า
“พี่สงสารลูกเอ้เหลือเกิน”
ธนาดลได้ยินพี่สาวพูดถึงชุติมาอย่างแสนรักจึงไม่กล้าบอกภราดาไปว่าบาปกรรมที่ชุติมาเป็นคนก่อไว้กับเมรยา บัดนี้ได้คืนสนองชุติมาแล้ว
///////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
นุ่นลงไว้ให้สองบทนะคะ แล้วขอลากิจไปทำธุระกับครอบครัว กลับมาอีกทีวันจันทร์เลย กระซิกๆ T.T อย่าเพิ่งหายไปไหนกันนะจ๊ะ รอนักเขียนตัวกลมๆ ก่อนนะ :]
@ คุณ saralun สมหวังแล้วนะคะ อิอิ
@ คุณ lovemuay น่าจับหักคอจิ้มพริกมากเลยค่ะ
@ คุณ ปูสีนำ้เงิน จะให้พระเอกสมหวังง่ายๆ ก็ไม่สนุกสิคะ
@ คุณ Ida ขัดจังหวะครั้งเดียวก็โล่งสะดวกแล้วค่ะ
@ คุณ angle101 นุ่นก็แทบขาดใจค่ะ แต่เลิฟซีนไม่เก่ง กระซิกๆ
เรียงอักษร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 24 พ.ค. 2554, 13:00:48 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 24 พ.ค. 2554, 13:08:47 น.
จำนวนการเข้าชม : 2280
<< บทที่ี่่่ 13 | บทที่ 15 >> |
angle101 24 พ.ค. 2554, 13:10:59 น.
คริคริ มาคนแรกกกเลย กดlike100ครั้งเลย
คริคริ มาคนแรกกกเลย กดlike100ครั้งเลย
lovemuay 24 พ.ค. 2554, 19:12:05 น.
+55 ในที่สุดหนูนิกซ์ก็เสร็จพระเอกของเราจนได้ >/////<
+55 ในที่สุดหนูนิกซ์ก็เสร็จพระเอกของเราจนได้ >/////<
ปูสีน้ำเงิน 24 พ.ค. 2554, 21:55:26 น.
อุปสรรคเยอะจัง
อุปสรรคเยอะจัง