เสน่หาในเพลิงแค้น
ความรักของ 'ธนาดล' ผลิบานท่ามกลางความแค้นที่รอวันสะสาง 'ธนาดล' จะทำเช่นไรหากต้องเลือกระหว่างความรักกับความแค้นที่มีตัวแปรชื่อ 'รัตติกาล' เจ้าของหัวใจที่หักห้ามรักร้อนจากเขาคนนั้น เมื่อปฏิเสธความรักอันหอมหวาน หากผลักไสแล้วใจกลับร้าวราน หัวใจดวงนี้ฤาไม่ใช่ของเธออีกต่อไป
Tags: สโนไวท์

ตอน: บทที่ี่่่ 13

บทที่ 13

หลังจากนิธิพนธ์รับเงินก้อนใหญ่จากเมศร์แล้วลังเลว่าจะบอกความจริงบางอย่างดีหรือไม่ คนไม่ค่อยทำความดีก่อนตัดสินใจว่าจะเริ่มชีวิตใหม่หลังจากหมดหนี้ครั้งนี้ นิธิพนธ์รวบรวมความกล้าเรียกเมศร์ไว้ก่อนที่เมศร์จะกลับ

“เดี๋ยว คุณเมศร์”

เสียงเรียกทำให้มือที่กำลังจะเปิดประตูรถชะงัก

“อะไรอีก หรือว่าเงินที่ให้น้อยไป” เมศร์ถามตรงๆ ไม่ได้อยากดูถูกแต่อย่างใด

“มีอีกเรื่องที่คุณควรจะทราบไว้”

“เรื่องอะไร”

“ชุติมาสั่งให้ผมไปฆ่าเมรยาก็จริง แต่เธอไม่ได้ตายเพราะคนของผม...เอ่อ ถ้าจะพูดให้ถูกคนของพ่อผม”

“อะไรนะ” เมศร์ถามอย่างงงงวย

“ผมไม่ทราบนะว่าใครสั่งฆ่าเธอ เพราะเธอไม่ได้ถูกยิงตาย”

เมศร์นิ่งอึ้งคิดตามคำพูดของนิธิพนธ์ ชายหนุ่มเห็นด้วยกับทุกคำพูดของลูกชายนักการเมืองดัง ถ้าเป็นคำสั่งของนิธิพนธ์แล้วไม่มีทางที่เมรยาจะเสียชีวิตเพราะอุบัติเหตุ


////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////


ธนาดลหลับไปด้วยฤทธิ์ของยานอนหลับอ่อนๆ ของภานุมาศหลังจากที่ธนาดล และรัตติกาลมาตั้งหลักที่บ่อนของสักรินทร์ ภานุมาศกระดี๊กระด๊าสุดขีดที่ได้เจอกับรัตติกาลอีกครั้ง หญิงสาวเนรเทศสักรินทร์ให้ไปนอนกับธนาดลเพราะอยากพูดคุยกับรัตติกาลให้หายคิดถึง สักรินทร์คอตกยอมรับสภาพหมาหัวเน่าของตนอย่างเสียไม่ได้

“แค่คืนเดียวนะ” สักรินทร์แอบกระซิบบอกภานุมาศก่อนหอบหมอน และผ้าห่มไปนอนกับธนาดล

ภานุมาศอยากปฏิเสธชายหนุ่ม แต่ก็ไม่อยากทรมานตนเอง เพราะตอนนี้เธอชินแล้วที่นอนกับหมอนข้างมีชีวิตอย่างสักรินทร์

“อยู่กับเขาไม่กี่วัน...ชอบเขาแล้วล่ะสิ” รัตติกาลทันเห็นอาการเขินอายของเพื่อนสาวสุดเปรี้ยวจึงล้อเลียนจนภานุมาศอายม้วน

“บะ...บ้า นิกซ์อ่ะ พูดอะไรก็ไม่รู้” คนเขินน่าเกลียดฟาดผลัวะที่แผ่นหลังของเพื่อนตน

ปฏิกิริยาของภานุมาศทำให้รัตติกาลชักหวั่นแทนแฟนตัวจริงอย่างน่านนำ้ไม่ได้

“ไม่เขินเลยแฮะ ฟาดมาซะเต็มแรง”

“จะเขินหรือไม่เขินก็เรื่องของฉัน มาคุยเรื่องยัยน้องเอ้ดีกว่า” ภานุมาศคันปากยิบเพราะเกลียดนิสัยเชิดๆ หยิ่งๆ ของชุติมาเป็นทุนเดิม

“ก็เรื่องนี้แหละทำให้คุณดลเครียด”

“เรื่องมันเป็นมายังไงล่ะ เมื่อกี้จะถามก็ไม่สะดวก เดี๋ยวเขาจะหาว่าเสือกไม่เข้าเรื่อง”

“เรื่องมันมีอยู่ว่ายัยเอ้ชอบคุณดลที่มีศักดิ์เป็นน้าชาย แล้วก็กำจัดทุกคนที่ขัดขวางความรักของเธอน่ะสิ...คิดดูนะทั้งแม่ ทั้งเลขาฯ คุณดล อึ๋ย พูดแล้วขนลุก” รัตติกาลทำท่าสยองพองขนจนภานุมาศอดขำไม่ได้

“บ้าไปแล้ว...บ้าไปแล้วแน่ๆ ศัตรูที่รักของแก”

“คนดีๆ ที่ไหนไม่อยากให้แม่หายป่วย แล้วคนดีๆ ที่ไหนจะสั่งฆ่าคน”

“คนอะไรเนี่ย หน้าตาก็ดี เสียแต่เลือดเย็น”

“หน้าสวยๆ อย่างชุติมานี่แหละทำได้ทุกอย่าง”

“แกก็ต้องระวังตัวไว้นะนิกซ์ ถ้ายัยเอ้รู้ว่าแกกิ๊กอยู่กับน้าชายของมันล่ะก็...มันสั่งเก็บแกแน่ๆ โทษฐานเป็นศรศิลป์ไม่กินกัน และศัตรูหัวใจ” ภานุมาศคาดการณ์ล่วงหน้า

“กิ๊ก เกิ๊กที่ไหน ฉันตัวจริงย่ะ” รัตติกาลไม่สนใจว่าชุติมาจะอาฆาตตนอย่างที่ภานุมาศบอกหรือเปล่า เพียงตอนนี้เธอกำหัวใจของธนาดลไว้แล้ว และมั่นใจว่าตนจะปลอดภัยถ้าอยู่ใกล้ๆ เขา

“ไปทำอีท่าไหนยะ คุณดลถึงตกหลุมพรางแก”

“ทำตั้งหลายท่า แกต้องคิดไม่ถึงแน่ๆ เลยพลัม” กุลสตรีตามสมัยนิยมบอกอย่างทะลึ่งตึงตังก่อนยักไหล่อย่างมั่นใจ “ไว้ฉันจะสอนนะ”

“พูดจาน่าเกลียด เป็นสาวเป็นนาง” ภานุมาศติงเพื่อนสาวเบาๆ กับคำพูดที่ไม่สมควร

“ผู้หญิงมีสิทธิ์เลือกสิ่งดีๆ ให้ตัวเองนะจ๊ะ”

“จ้ะ แม่สาวเฟมินิสต์” ภานุมาศเออออตามรัตติกาล

ทั้งคู่หาเรื่องคุยกันอยู่ค่อนคืนก่อนจะฝืนความง่วงไม่ไหว ยอมแพ้นอนหันหลังให้กันแล้วนอนหลับสนิท


////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////


ธนาดลยังทำใจไม่ได้กับความจริงที่ปรากฏ ชายหนุ่มไม่พร้อมจะเผชิญหน้ากับชุติมาในเวลานี้จึงแอบไปไหว้ศพเมรยาแล้วไปพักผ่อนที่บ้านพักริมทะเลของสักรินทร์ ชายหนุ่มอยากหลบหนีจากโลกภายนอก โดยเฉพาะเหยี่ยวข่าวต่างๆ ที่ล้วนต้องการสัมภาษณ์เขาเกี่ยวกับสถานการณ์ภายในของบริษัท

“เหนื่อยมากเลยเหรอคะ” รัตติกาลถามด้วยความเป็นห่วง

“ครับ” ธนาดลตอบสั้นๆ ก่อนกระชับหญิงสาวไว้ในอ้อมแขนแล้วสูดหาความหอมจากเรือนผมนุ่ม

“คุณดลยังมีนิกซ์นะ” หญิงสาวเห็นใจเขาอย่างสุดซึ้ง

รัตติกาลเองก็ไม่ได้ขัดขืนเแล้วก็อดแปลกใจกับความรู้สึกที่เปลี่ยนไปของตนเอง ธนาดลเป็นคนแรกที่รัตติกาลยอมให้ใกล้ชิด

คู่รักที่เปลี่ยนเพลิงแค้นเป็นเพลิงเสน่หานั่งจิบเบียร์มองพระอาทิตย์ลาลับขอบฟ้า ไม่มีบทสนทนา มีแต่เพียงเสียงคลื่นทะเลซัดฝั่งบรรเทาความหมองหม่นในจิตใจ ทั้งสองยังนั่งอยู่ที่ระเบียงบ้านไม่สนใจจะย้ายเข้าไปในบ้านแต่อย่างใด

ครั้นรัตติกาลห่อตัวด้วยความหนาว ธนาดลจึงรู้สึกว่าร่างค่อนข้างสูงสั่นอย่างเห็นได้ชัดจึงกระชับอ้อมแขนให้แน่นขึ้น

“ปล่อยเถอะค่ะ นะคุณดล” หญิงสาวพูดเสียงหวาน

แทนที่ชายหนุ่มจะปล่อยเขากลับซุกหน้ากับลำคอระหงก่อนมองไปบนฟ้า

“คืนนี้ดาวสวยนะ” ธนาดลชี้ไปยังท้องฟ้าสีดำที่แต่งแต้มไปด้วยดวงดาวระยับ

“นี่คุณ...นิกซ์หนาวแล้วนะ เรานั่งตั้งแต่ดวงอาทิตย์ยังไม่ตกดินจนถึงดวงอาทิตย์จะตื่นแล้ว คุณไม่เมื่อยหรือไง” รัตติกาลพูดอย่างเอาเรื่องทำให้ธนาดลหน้าเหวอคลายอ้อมกอดจากเธอทันที

เฮ้อ ไม่โรแมนติกเอาซะเลย

“เป็นอะไรไปอีกล่ะ” รัตติกาลถามธนาดลที่เดินเข้าไปในบ้านอย่างเดาอารมณ์ไม่ถูก ไม่ทันที่เธอจะตามเขาไป เสียงโทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังขึ้น รัตติกาลยิ้มแป้นทันที

สิ้นสุดบทสนทนา คนจะมาอยู่เป็นเพื่อนกลับหนีเที่ยวทิ้งให้ธนาดลมองตามรัตติกาลขึ้นรถไปกับพื่อนกลุ่มใหญ่จนรถเคลื่อนออกไปสุดสายตา

‘นี่คุณ ฉันจะไปเที่ยวกับเพื่อนนะ’

‘อืม’

‘ฉันไปละนะ เฝ้าบ้านด้วยล่ะ’ คำพูดของรัตติกาลทำให้ธนาดลรู้สึกเหมือนตนเป็นคนแก่ที่น่าสงสาร ถูกทิ้งยังไงไม่รู้

เฝ้าบ้านงั้นหรือ เธอจะรู้ไหมว่ามีบอดี้การ์ดของสักรินทร์แฝงตัวอยู่รอบบ้านไม่ต่ำกว่าสิบคน

‘หึ กลับมาผมจะทำให้นิกซ์ร้องไม่ออกเลย’ ธนาดลกระตุกยิ้มที่มุมปาก บอกได้ว่ามีแผนร้ายในสมอง

ล่วงเข้าวันใหม่มาสามชั่วโมง รัตติกาลเดินสะเปะสะปะเข้ามาในบ้าน หญิงสาวค่อยๆ คลานขึ้นบันไดไปอย่างหัวเสียเมื่อหลังจากตะโกนเรียกตาแก่บนบ้านนั้นก็ไร้วี่แววของธนาดล

“นอนหลับอุตุอยู่นี่เองอีตาบ้า” ว่าแล้วเธอก็หมอนกดทับใบหน้าของธนาดล

“กลับมาแล้วหรือ” ชายหนุ่มปรือตามองแล้วยกมือป้องปากหาวสองทีเรียกอารมณ์ขุ่นมัวจากเธอได้เป็นอย่างดี

“นิกซ์เรียกคุณตั้งหลายที ทำไมไม่ไปรับนิกซ์...เอิ๊ก”

“อ้าวนิกซ์เรียกผมหรอกหรือ ผมได้ยินว่านิกซ์เรียกหาตาแก่นะ” ธนาดลยังไม่เลิกกวนคนเมา ชายหนุ่มชอบพวงหน้าแดงระเรื่อจากแอลกอฮอล์ และเสื้อรัดรูปสีดำที่เน้นรูปร่างของเธอให้น่ามอง

“ทำไมต้องมองนิกซ์แบบนี้ด้วย เอิ๊ก...ไปอาบน้ำดีกว่า”

“เฮ้ย” ธนาดลรีบถลาลงจากเตียงไปคว้าตัวรัตติกาลไว้หลังจากที่ถอดเสื้อ เหลือแต่กางเกงยีนขายาวกับบราเซีย อวดหน้าอกหน้าใจขนาดเหมาะมือ และหน้าท้องแบนเรียบ

อย่าเพิ่งถ๊อด!!

“จะทามอา...ราย…เอิ๊ก” และแล้วรัตติกาลก็ทิ้งร่างไว้ในอ้อมแขนหมาป่าแก่

ธนาดลอุ้มรัตติกาลไปวางไว้บนเตียงแล้วบริการจัดการลอกคราบคนเมาที่ตัวเหม็นทั้งกลิ่นเหล้า และบุหรี่

“เป็นน้องเป็นนุ่งจะจับตีก้นให้เข็ด” ชายหนุ่มบอกแม้จะทราบว่ารัตติกาลไม่มีทางได้ยินขณะที่เอาผ้าขนหนูชุบน้ำพอหมาดเช็ดตัวให้หญิงสาว

เช้าวันใหม่

รัตติกาลซุกหน้าหนีแสงแดดที่ลอดผ่านผ้าม่านสีหวาน ธนาดลยิ้มอย่างพึงพอใจก่อนตัดสินใจลุกจากเตียงแล้วคลี่ผ้าห่มผืนบางห่มให้เธออย่างเบามือ ชายหนุ่มบิดขี้เกียจสองสามทีแล้วลุกไปทำกับข้าวไว้รอคนขี้เมาตื่น

ข้าวต้มกุ้งทรงเครื่องหอมฉุยกำลังสุกได้ที่ ธนาดลละมือจากกระเทียมเจียวถ้วยเล็ก และการเตรียมพริกไทยบนโต๊ะแล้วปรุงรสด้วยซอสก่อนชิมอย่างพึงพอใจ มือหนาที่เคยถือปากกานั้นคนข้าวต้มในหม้อเดือดปุดอย่างชำนาญ

“กรี๊ด! ” เสียงแหลมของรัตติกาลดังมาจากบนบ้านทำให้ธนาดลเผลอทำทัพพีหลุดมือ

“คุณดลบ้า ลามก...ฉวยโอกาส” เสียงด่าของหญิงสาวดังเข้ามากระทบโสตสัมผัสของธนาดลเรื่อยๆ เมื่อเขาปิดแก๊สแล้วกลับไปดูผลงานการลอกคราบของตน

“โอ๊ะโอ๋...อารมณ์เสียแต่เช้าแก่เร็วนะ” เมื่อได้ยินคำพูดกลั้วหัวเราะของธนาดลทำให้รัตติกาลแทบเต้น

รัตติกาลตื่นมาก็พบว่าตนเองสวมเพียงชุดชั้นในปกปิดร่างไว้ไม่ให้โป๊ หญิงสาวส่องกระจกก็พบรอยแดงเป็นจ้ำทั้งบริเวณเนินอก และลำคอ ดูปราดเดียวเธอก็ทราบว่ามันเป็น...คิสมาร์ค

“คุณดลฉวยโอกาสกับนิกซ์...แย่ที่สุดเลย”

“เปล่าสักหน่อย นิกซ์ถอดเองก่อนนี่นา ผมก็เลยถอดกางเกงให้นิกซ์นอนสบาย แล้วเมื่อคืนนิกซ์เองก็ไม่ได้ขัดขืนเลยสักนิด”

“อ๊าย...พูดมาได้ไงว่านิกซ์ไม่ขัดขืน” รัตติกาลพูดเสียงสูง โมโหธนาดลเป็นที่สุด

“ก็นิกซ์ไม่ขัดขืนจริงๆ นี่” ธนาดลไม่ถือสาหาความกับคนเมา “ผมไม่ทำอะไรคนเมาหรอกน่า ไปอาบน้ำได้แล้ว ผมเตรียมข้าวต้มไว้ให้คุณแต่เช้าเลยนะ” ธนาดลเปลี่ยนเรื่องกระทันหัน เป็นผลให้คนเห็นแก่กินวิ่งเข้าไปในห้องนำ้

สิบห้านาทีไม่ขาดไม่เกิน รัตติกาลอาบนำ้ สระผมเดินลงบันไดมานั่งบนโต๊ะอาหารอย่างคนหิวเต็มแก่ ดวงตาสีดำปรายมองธนาดลว่าเขาเป็นคนบ้ากามคนหนึ่ง

“อย่ามองผมแบบนี้สินิกซ์”

“ก็นิกซ์ไม่ไว้ใจคุณดลนี่” สภาพเกือบเปลือยเมื่อเช้านี้ทำให้รัตติกาลบอกกับตนเองว่าอย่าอยู่ใกล้ผู้ชายที่ชื่อธนาดลในรัศมีเกินหนึ่งเมตร!

“ผมทำอะไรนิกซ์งั้นหรือ” ธนาดลถามหน้าตาเฉยราวกับว่าไม่เข้าใจสิ่งที่รัตติกาลพูดก่อนละสายตามาสนใจข้าวต้ม

รัตติกาลเองก็กลืนน้ำลายเอื๊อกโดยทีชายหนุ่มชำเลืองมองอาการเป็นระยะๆ ในท้องของหญิงสาวตอนนี้มีแต่นำ้ย่อย และเสียงพยาธิร้องหาอาหาร

“หิวก็กินสิ ผมไม่หวงหรอก”

“ใครหิว” รัตติกาลเชิดหน้าว่าอย่างถือดี จนธนาดลนึกหมั่นไส้อยากดึงคนปากเก่งมาจูบให้ขาดใจตาย

“...” ธนาดลส่ายหน้าไม่พูดอะไรก่อนจัดการข้าวต้มของตน โดยรัตติกาลลงมือตาม ไม่ต่อปากต่อคำกับธนาดล คนไม่หิวจัดการข้าวต้มชามแรกหมดก่อนธนาดลเสียอีก แถมยังจัดการข้าวต้มในหม้อเสียเรียบอาวุธ

ก็หิวนี่นา เมื่อคืนไม่ได้กินอะไร มีแต่แอลกอฮอล์ แสบท้องไปหมด


////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////


บ้านตากอากาศของสักรินทร์มีหนึ่งหนุ่มสุดหล่อกับหนึ่งหญิงสติแตกอาศัยอยู่ร่วมกัน ฝ่ายธนาดลนั้นตั้งใจจะมาพักผ่อนเพื่อทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นในครอบครัวอมรวัฒนกุล แต่ดูเหมือนว่าเขาต้องมาดูแลอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ ของรัตติกาลเสียมากกว่า ยิ่งสัมผัสตัวตนของหญิงสาวมากขึ้นทำให้ธนาดลทราบว่าเธอออกจะเพี้ยนไปนิด

สวยแบบโก๊ะๆ

“เฮ้ย...แกฟังฉันอยูหรือเปล่า” ปลายสายปลุกธนาดลจากภวังค์

“ฟังอยู่ มีไรอีกไหม ถ้าไม่มีฉันจะวาง” ธนาดลพูดอย่างร้อนรนขณะที่มองหารัตติกาลจากหน้าต่างกระจกใส ชั้นบนสุดของบ้าน ชายหนุ่มเห็นเพียงหลังไวๆ ของร่างค่อนข้างสูงที่คุ้นตาไปทางหน้าผา!

รัตติกาลในชุดเสื้อยืดสีขาวตัวโคร่งของธนาดลกับกางเกงขาสั้นลัดเลาะไปทางหน้าผาสูงชัน หลังจากที่หญิงสาวแนบหูกับประตู คอยฟังว่าธนาดลคุยโทรศัพท์กับใครสักคนที่เธอคิดว่าเป็นสักรินทร์ แต่ไม่อาจจับใจความสำคัญได้ รัตติกาลกระสับกระส่ายรอชายหนุ่มอยู่หน้าประตูแต่ไม่มีทีท่าว่าเขาจะจบบทสนทนาลงง่ายๆ

“ค่อยตามไปทีหลังก็แล้วกัน” รัตติกาลไม่อาจรอคนที่ชวนไปดูพระอาทิตย์ตกดินอีกต่อไปได้จึงเดินลัดเลาะไปหามุมสวยที่ธนาดลอวดไว้โดยลำพัง

เส้นแสงสีทองพาดผ่านเต็มฟ้าใส ดวงอาทิตย์สีส้มทองดวงโตสะท้อนกับพื้นนำ้ส่องแสงระยิบระยับน่ามอง ลมเย็นพัดคลายเหนื่อยให้คนที่ฝืนแรงโน้มถ่วงของโลกเดินขึ้นมาบนทางแคบๆ และสูงชัน

“เฮ้อ” รัตติกาลสูดอากาศสดชื่นเข้าเต็มปอด ทัศนียภาพที่เห็นทำให้หญิงสาวรู้สึกสดชื่นเป็นพิเศษ อาการเหนื่อยจากการเดินขึ้นบนที่สูงหายเป็นปลิดทิ้ง

ธนาดลเติมตามหญิงสาวมาอดยิ้มกับรอยยิ้มของรัตติกาลไม่ได้ ยิ้มทั้งปาก และดวงตา ชายหนุ่มอยากแกล้งให้เธอได้ตกใจแต่ไม่คิดว่ากรรมติดจรวดจะตามสนองตน

“อุ๊ย” รัตติกาลตกใจเมื่อหันกลับมาก็ชนกับอกกว้างของธนาดล ชายหนุ่มรวบร่างที่จวนจะล้มไว้แนบอก

“หอมจัง” ธนาดลกดจมูกกับขมับของเธอแล้วยิ้มยียวนตามฉบับ

รัตติกาลรีบผลักอกเขาออก ส่งผลให้ร่างสูงของเขาที่ไม่ได้เตรียมตัวกับการจู่โจมกะทันหัน เสียศูนย์เล็กน้อย

“เฮ้ย...”

ธนาดลสัมผัสได้ถึงอันตรายที่กำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้า ขาของเริ่มไม่รู้ถึงสัมผัสของพื้นดิน รัตติกาลเองก็ตกใจไม่แพ้กัน ไม่นึกว่าเหตุการณ์จะลงเอยแบบนี้ ธนาดลพลัดตกหน้าผา! เคราะห์ดีที่ชายหนุ่มคว้ากอหญ้าแถวซอกหินได้ทันแต่รอยบาดของหินแหลมทำให้แขนแข็งแรงของเขาเป็นแผลทางยาว

“จับมือฉันไว้นะคุณดล” รัตติกาลบอกด้วยเสียงสั่นพลางร้องขอความช่วยเหลือ รัตติกาลจับมือซ้ายของธนาดลไว้ ทว่านำ้หนักของร่างใหญ่ไซส์ยุโรปทำให้รัตติกาลต้องนิ่วหน้า

“นิกซ์ ผมไม่ไหวแล้ว” ธนาดลบอกอย่างยากลำบากก่อนก้มมองไปยังเบื้องล่างอย่างหวาดเสียว ถ้ามันเป็นพื้นนำ้เขาคงเสี่ยงตายกระโดดลงไป แต่เบื้องล่างเขาคืนโขดหินก้อนใหญ่ ในเวลานี้เสียงคลื่นซัดสาดโขดหินกลายเป็นเสียงเรียกจากนรกสำหรับธนาดล

“ไม่นะ” รัตติกาลหวีดร้องเสียงหลงเมื่อมือของธนาดลที่จับมือเธอไว้แน่นจะหลุดออกเสียให้ได้ หญิงสาวสังเกตว่าเขานิ่วหน้าด้วยความเจ็บปวด เลือดสีแดงสดไหลจากต้นแขนชุ่มเสื้อเชิ้ตสีขาวอย่างน่ากลัว รัตติกาลรอคอยปาฏิหาริย์ครั้งสุดท้ายของธนาดลจึงหันไปมองที่บ้านพักอีกครั้ง เธอเห็นชายหนุ่มชุดดำกำลังวิ่งมาทางนี้ “อดทนอีดนิดเดียว...มีคนมาช่วยเราแล้ว”

“ปล่อยเถอะ” ธนาดลบอกปากสั่น ชายหนุ่ทราบดีว่าตนไม่ไหวจริงๆ

“อีกนิดเดียวค่ะ...อีกนิดเดียวจริงๆ ” รัตติกาลบอกเสียงแห้งละโหย

ธนาดลเห็นแววตาของความเจ็บปวดอย่างสุดซึ้งในดวงตาสีดำสนิทคู่นั้นจึงมีแรงฮึด กลั้นใจสู้อีกครั้ง

“คุณนิกซ์ คุณดล!” เสียงห้าวของหนุ่มร่างใหญ่เรียกอย่างตกใจเมื่อเห็นรัตติกาลกำลังก้มๆ เงยๆ บนหน้าผา

คนของสักรินทร์ช่วยกันดึงธนาดลขึ้นจากหน้าผาอย่างทุลักทุเล เมื่อครู่ทั้งสามได้ยินเสียงกรีดร้องมาจากที่ไหนสักแห่งจึงวิ่งขึ้นไปบนบ้าน เมื่อไม่พบใครจึงเดินหาจนทั่ว จนกระทั่งออกมายังระเบียงแล้วมองมายังหน้าผา ภาพที่เห็นสร้างความตกใจเป็นอย่างมาก

“ไม่เป็นอะไรแล้ว เดี๋ยวทำแผลก็หาย” ธนาดลบอกอย่างไม่ถือสาหาความกับการช่วยเหลือที่ล่าช้า

“ขืนคุณดลเป็นอะไรไปสิครับ คุณรินเอาผมตาย” หนึ่งในสามบอดี้การ์ดบอกอย่างใจหาย

“เอาน่า ฉันยังไม่ตายสักหน่อย...อีกอย่าง ไม่ใช่ความผิดของพวกนายเพราะว่าฉันไม่ได้บอกก่อนว่าจะมาแถวนี้” ธนาดลไม่ให้ทั้งสามไม่สบายใจ และจะได้เลิกว่าเป็นความผิดของพวกเขาเสียที “มีอะไรก็ไปทำเสีย เดี๋ยวฉันจะให้คุณนิกซ์ทำแผล”

บอดี้การ์ดทั้งสามเดินมาส่งธนาดล และรัตติกาลก่อนจะแยกย้ายไปตามคำสั่งของผู้เป็นเจ้านายอีกคน

รัตติกาลแกะห่อสำลีแล้วชุบกับแอลกอฮอล์ กลิ่นฉุนของมันทำให้ธนาดลย่นจมูก แต่ไหนแต่ไรชายหนุ่มพยายามหลีกเลี่ยงการตีรันฟันแทงกับชาวบ้านเพราะขยาดความแสบบาดจิตของมัน

หากเปรียบเทียบบุ๋น และบู๊แล้ว สองเพื่อนรักอย่างธนาดลกับสักรินทร์ต่างมีดีกันคนละอย่าง ธนาดลนั้นเก่งใช้สมอง และควบคุมอารมณ์ ผิดกับสักรินทร์ที่เก่งใช้กำลัง ทั้งคู่ต่างจับขั้วความต่างเข้าด้วยกัน อาจกล่าวได้ว่าถ้าทั้งสองร่วมมือกันแก้ปัญหาหรือทำสิ่งได้นั้นจะประสบความสำเร็จได้ไม่ยาก

“โอ๊ะ...” ธนาดลสะดุ้งเล็กน้อยก่อนสูดปากว่าแสบแผลเมื่อรัตติกาลแตะก้อนสำลีกับบาดแผลยาว

“เจ็บมากไหม” เจ้าของดวงตากลมโตที่เอ่อไปด้วยน้ำตาถามเบาๆ

ธนาดลส่ายหน้าแทนคำตอบ ชายหนุ่มสวมเสื้อกล้ามเพียงตัวเดียวกึ่งนั่งกึ่งนอนบนเตียงกว้างเพื่อง่ายแก่การทำแผล ดังนั้นพยาบาลจำเป็นจึงไม่เชื่อคำตอบของเขาเมื่อมีโอกาสเห็นบาดแผลที่เธอเป็นต้นเหตุ

แหมะ

น้ำตาไหลผ่านร่องแก้มของรัตติกาลหยดบนท่อนแขนแข็งแรงของธนาดล

“อย่าร้องไห้สิ”

“...”

ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ น้ำตาของรัตติกาลไหลราวกับนบแตก หญิงสาวได้แต่ซบกับอกกว้าง นานเท่านานในความรู้สึกของธนาดลจนกระทั่งรู้สึกถึงอาการเปียกชื้นบริเวณอกด้านซ้ายของตน

“ไหนดูซิ ตาแดงหมดแล้ว” เสียงทุ้มบอกอย่างอ่อนโยน แต่หญิงสาวยังไม่ยอมเงยหน้าขึ้น

“นิกซ์ขอโทษ”

สามคำเพียงเท่านั้นที่ธนาดลให้หญิงสาวได้มีโอกาสพูด ชายหนุ่มบดริมฝีปากเขากับริมฝีปากอิ่มนั้นทันที

รัตติกาลเองก็ไม่ได้ปฏิเสธ จูบตอบเขาอย่างดูดดื่มไม่แพ้กัน มือไม้ของรัตติกาลปะป่ายร่างใหญ่อย่างคนหาที่พึ่ง ความวาบหวามแปลกใหม่ที่ได้รับทำให้รัตติกาลแอ่นอกเบียดธนาดลอย่างลืมตัว

มือหนาสอดเข้าไปในเสื้อตัวใหญ่อย่างง่ายดาย ไม่ว่าฝ่ามือสากจะเคลื่อนไปทางใดก็ทำให้รัตติกาลร้อนวาบไปทั้งตัว รัตติกาลยังคงเป็นเด็กสอนง่าย หญิงสาวเลียนแบบการกระทำของธนาดล มือน้อยๆ ของหญิงสาวลูบ จับ สัมผัสอย่างนักเรียนหัวไว ธนาดลครางอย่างถูกใจที่รัตติกาลมีปฏิกิริยาตอบสนองอย่างถึงพริกถึงขิงไม่แพ้กัน

“อ๊ะ...” รัตติกาลร้องอย่างตกใจเมื่อธนาดลยกตัวเธอขึ้นเพื่อนดึงกางเกงออกพ้นร่าง

“นิกซ์ของผม” ธนาดลแทบลืมหายใจเมื่อเห็นเรียวขาขาวราวกับหยวกกล้วยที่เขาได้แต่มองมาโดยตลอด (ไม่นับคืนนี้ชายหนุ่มคิดว่าตนได้ขืนใจหญิงสาว)

อารมณ์เสน่หาของรัตติกาลที่ถูกธนาดลปลุกเร้าขึ้นมาทำให้หญิงสาวไม่อาจหยุดการกระทำของเขาไว้แค่นี้ได้ หญิงสาวไม่ทราบเลยว่าเสียงครางแหบๆ ริมฝีปากเจ่อจากการจุมพิต และผมเผ้าที่ยุ่งเหยิงปลุกอารมณ์บางอย่างในตัวธนาดลให้โหมกระพือเป็นเท่าตัว

ก็อกๆ

เสียงเคาะประตูทำให้ทั้งคู่ผละออกจากกันแทบไม่ทัน หญิงสาวเด้งลงจากเตียงอย่างเหนื่อยหอบแล้วสวมใส่เสื้อผ้าของตนให้เข้าที่ก่อนเดินไปเปิดประตู


////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////

แอบเอาบทนี้มายั่วนักอ่านเล่น อิอิ ขอบคุณสำหรับทุกคนที่ชื่นชอบนะค่ะ

จะบอกว่านุ่นเขียนเลิฟซีนไม่ค่อยเก่งอ่ะค่ะ ยังไงจะพัฒนา และปรับปรุงให้ดีขึ้นค่ะ :]

@ คุณ ida ร้ายมากค่ะ จบเรื่องนี้จะให้คุณ ida สั่งสอนเสียให้เข็ดเลยค่ะ

@ คุณ angle101 นุ่นว่าตอนนี้ก็น่าติดตามนะค่ะ

@ คุณ lovemuay คนเขียนก็ลุ้นใจจะขาดค่ะว่าจะมีคนชอบหรือเปล่า










เรียงอักษร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 21 พ.ค. 2554, 19:51:37 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 21 พ.ค. 2554, 19:59:38 น.

จำนวนการเข้าชม : 2209





<< บทที่ 12   บทที่ี่่่ี่ 14 >>
saralun 21 พ.ค. 2554, 20:15:17 น.
ลุ้น ๆ ๆ อิอิ


lovemuay 21 พ.ค. 2554, 22:55:07 น.
โอ๊ย...หงุดหงิดอ่ะ ใครกันมาขัดจังหวะ? ฮ่วย -*-


ปูสีน้ำเงิน 22 พ.ค. 2554, 00:31:47 น.
ใครกันนะ ขัดจังหวะคุณดลซะได้


ida 22 พ.ค. 2554, 15:17:45 น.
โห้ย .. มาไม่รู้เวล่ำเวลา !!


angle101 23 พ.ค. 2554, 13:08:04 น.
โอ๊ย จะขาดจัยยยยยยย


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account