ลิขิตรักกระชากหัวใจ (ปีเตอร์ VS ทับทิม)
เดี๋ยวมาอัพให้
Tags: ปีเตอร์ ทับทิม อาเซียน นิยาย อาหารไทย ต้มยำกุ้ง

ตอน: ตอนที่ 7

ตอนที่ 7


“ว่าแต่คนร้ายที่คุณว่ามันหายไปไหนเสียแล้วล่ะครับ” เขากวาดตามองไปจนทั่วแต่ไม่เห็นใคร

“รถพวกมันเสียอยู่ด้านนอกประตูทางเข้าโรงแรม คุณจะไปดูกับฉันไหม” ไม่ได้รอให้ปีเตอร์ตอบทับทิมก็กระชากแขนเขาให้เดินตามเธออกไปหวังจะให้ช่วยตามจับคนร้าย ปีเตอร์จึงตามออกไปอย่างเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งเมื่อลมพัดมาปีเตอร์พบกว่าจมูกเขาได้กลิ่นน้ำหอมชั้นดีของผู้ชายมาจากตัวหญิงสาวแต่กลิ่นน้ำหอมคล้ายๆน้ำหอมของชาวอาหรับ


ตอนขึ้นรถมาปีเตอร์จำกลิ่นน้ำหอมของทับทิมได้มันเป็นกลิ่นน้ำหอมแบรนด์ดังแบรนด์หนึ่งซึ่งเขาชอบกลิ่นนี้มากและเหมาะกับบุคลิกของหญิงสาวแต่มันไม่ใช่กลิ่นนี้อย่างแน่นอน คิ้วเข้มดกดำขมวดเข้าหากันหรือว่าที่เธอพูดจะเป็นเรื่องจริง เขาอาจจะหลงตัวเองไปก็ได้ที่ไปกล่าวหาเธอในใจว่าเธอทำไปเพื่อดึงดูดความสนใจจากเขา

ทับทิมกวาดตามองถนนที่มีรถวิ่งบางตาเพราะเริ่มดึก “เมื่อครู่พวกมันยังอยู่ตรงนี้เลย”

“พวกมันหายไปไหนกันแล้ว เมื่อครู่รถพวกมันยังเสียอยู่ตรงนี้จริงๆนะคะ”

“ไหนครับไม่เห็นมีใครเลย” ปีเตอร์กวาดตามองจนทั่ว

ทับทิมมีสีหน้าไม่อยากจะเชื่อรถเสียก็ไม่น่าจะหายไปอย่างรวดเร็วขนาดนั้น เวลาไม่ถึงห้านาที

“แน่ใจนะว่าคุณไม่ได้ไปแอบหลับที่ไหนสักแห่ง และฝันไป” ที่จริงปีเตอร์เริ่มห่วงในตัวหญิงสาวมาตั้งแต่ได้กลิ่นน้ำหอมแขกออกมาจากตัวของทับทิมเพราะเขาจำกลิ่นกายเธอได้แม้เพิ่งจะคบกันก็ตาม แต่ก็ไม่รู้ทำไมปากของเขาถึงพูดจายั่วโทสะเธออีกจนได้
“คุณกำลังจะหาว่าฉันปั้นเรื่อง หรือไม่ก็เพ้อเจ้อไปเองใช่ไหม”ทับทิมมีสีหน้าไม่พอใจ

“ผมไม่ได้พูดสักหน่อย คุณพูดของคุณเอง” เขาหยักไหล่

ทับทิมท้าวเอวไม่สนใจแล้วว่าใครเจ้านายใครลูกน้อง“นี่คุณจะไม่สร้างความประทับใจสักเรื่องเลยใช่ไหมคะ”
“ผมคิดว่าหน้าตาผมจะสร้างความประทับใจแรกพบให้กับคุณเสียอีก” เขาจ้องตาเธอ เพราะมองจากสภาพร่างกายเธอยังปลอดภัยดีส่วนเรื่องนั้นเขาจะหาความจริงได้ไม่ยาก


“คนอะไรหลงตัวเองที่สุดถ้าไม่เสียดายคลอกเทลที่ทานมาเมื่อครูคงได้อาเจียน นี่มันยามหน้าสิ่วหน้าขวานผู้หญิงตัวเล็กๆคนหนึ่งที่บอบบางและอยู่ห่างไกลบ้านกำลังขอความช่วยเหลือกับคุณอยู่นะ”


ปีเตอร์แปลกใจตนเองทำไมปากพาไปหาเรื่องตลอด หรือว่านี่คืออาการเขิน...ไม่จริงคนอย่างปีเตอร์จะเขินผู้หญิงเป็นไปไม่ได้ สะสมวิชาจนได้ขึ้นชื่อว่าคาสโนว่าหน้าหล่อ อาการเขินจะเกิดขึ้นได้อย่างไร ปกติเวลาอยู่ใกล้หญิงสาวสวยเขามักจะปากหวานเป็นพิเศษ ไม่ใช่แบบนี้สักนิด
“ถ้าคุณต้องการความช่วยเหลือผมก็ยินดีจะอ้าแขนโอบรัด...” ทับทิมส่งสายตาค้อนควับมามองหน้าคนพูด “เอ่อผมแค่พูผิด….ปกป้องคุณต่างหาก และก็ไม่ได้คิดว่าคุณปั้นเรื่องเลยสักนิดอย่าคิดมากสิเดี๋ยวหน้าแก่นะคุณ ผู้หญิงยิ่งแก่ง่ายอยู่ด้วย” เขายิ้มเล็กน้อยและเลิกคิ้วขวาขึ้น ทับทิมเองมีนิสัยรักสวยรักงามอยู่เป็นทุนจึงเผลอจับใบหน้าตัวเองเมื่อเห็นรอยยิ้มที่มุมปากของปีเตอร์ผุดขึ้น

“จะบ้าเหรอ แต่ถ้าต้องคิดมากจนหน้าแก่ก็คงเป็นเพราะฉันตัดสินใจผิดที่เดินทางมาทำงานให้คนอย่างคุณ”


เธอตอบอย่างไม่เกรงใจ ปีเตอร์กลืนน้ำลายลงคอเชฟของเขาไม่ใช่ธรรมดาขนาดยืนเถียงเจ้านายฉอดๆ

“ช่างเถอะผมไม่อยากจะเถียงกับคุณแล้ว เราเข้าไปในงานกันดีกว่า”

“แล้วพวกมันล่ะคะ จะปล่อยมันไปแบบนี้เหรอถ้ามันย้อนมาจับตัวฉันอีกละ”

“เรื่องนั้นปล่อยให้เป็นธุระของผมเอง ผมรู้จักกับเจ้าของโรงแรมแห่งนี้ผมจะขอดูกล้องวงจรปิดของเขา”

คนรู้จักหรือคนรู้ใจกันแน่ ทับทิมคิดแต่ไม่ได้พูด ผู้หญิงผิวขาวหน้าหมวย ใบหน้าสวยแต่เชิดใส่เธอตลอดเวลาเห็นคุณมิเชลบอกว่าคุณแวนด้า เป็นลูกสาวเจ้าของโรงแรมนี้

ผู้หญิงหน้าสวยหวานที่ยืนตรงข้ามเขาเวลาโมโหขึ้นมาแก้มเธอแดงไปจนถึงใบหูน่ารักชะมัด ปีเตอร์คิดนี่เขาโรคจิตหรือเปล่าเจะยั่วโมโหเธอเล่นทำไมกันหากเธอเจอเรื่องร้ายมาจริงความรู้สึกเธอคงยิ่งแย่ไปกันใหญ่ แต่ภายในใจปีเตอร์เขามีแผนเอาไว้แล้วสำหรับเรื่อง ขืนเฟสาวคนสวยได้รับอันตรายนายธนาเล่นงานเขาแน่เธอเป็นเชฟคนที่สามแล้วที่ธนาหามาให้ แต่ที่เหนือกว่านั้นใจเขาเริ่มมีปัญหาเต้นแรงผิดจังหวะเวลาเข้าใกล้แม่ครัวคนไทยคน
ทับทิมมีท่าทีที่ไม่สบายใจ ถ้ามันย้อนกลับมาอีกล่ะแต่ในเมื่อเขาไม่สนใจจะช่วยทำไมเธอจะต้องไปแคร์
เขาอาจจะไม่เชื่อเรื่องที่เธอเล่าให้ฟังก็ได้ ดีนะที่เขาไม่คิดว่าเรื่องทั้งหมดที่เล่าไปเป็นการเรียกร้องความสนใจตจากเขา


“อยู่นี่เอง ทับทิมผมหาคุณจนทั่วนึกว่าหนีกลับไปเสียแล้ว” ปริญส่งเสียงดังขึ้น ทับทิมหันไปตามเสียงเรียกเมื่ออยู่ไกลบ้านได้พบคนไทยด้วยกันก็เหมือนเจอญาติ

“คุณปริญทับทิมถูกคนร้ายจับตัวไปค่ะ แต่รถมันเสียทับทิมเลยหนีรอดมันมาได้”

ปริญมีสีหน้าตกใจและดึงมือทับทิมมาจับเอาไว้ด้วยความเป็นห่วง ขณะที่ปีเตอร์กำลังคิดว่าถ้าเป็นแบบที่เธอเล่าพวกมันเป็นใครมาจับเธอทำไม

“พวกมันเป็นใคร แล้วคุณเป็นอะไรหรือเปล่าครับ ไปแจ้งความกันดีกว่าผมจะพาคุณไปเอง”ปริญอาสา เดินหน้าทำคะแนน ที่จริงปีเตอร์ตั้งใจว่าจะพาหญิงสาวไปแจ้งความในวันพรุ่งนี้เพราะคืนนี้ดึกมากแล้วเธอควรจะได้พักผ่อน


“ขอบคุณมากที่เป็นห่วงนะคะ” ทับทิมส่งยิ้มหวานให้ปริญ

“อยู่ต่างบ้านแบบนี้โชคดีจริงๆที่เจอคนไทยด้วยกันทำให้ฉันรู้สึกอุ่นใจและปลอดภัยขึ้น” ทับทิมรู้สึกซาบซึ้งในการอาสาของปริญแต่ปีเตอร์ฟังแล้วรู้สึกแสลงหูที่เขาไม่พาไปคืนนี้เพราะเห็นว่าเธอเหนื่อยมาทั้งวันแล้วต่างหาก


“ถ้าอย่างนั้นเชิญคุณทับทิมไปที่รถผมครับผมจะพาคุณไปเอง จากนั้นจะไปส่งคุณยังที่พัก” ปีเตอร์ขมวดคิ้ว

“ไม่ต้องพรุ่งนี้ผมจะพาเธอไปแจ้งความเอง เพราะตอนนี้คุณทับทิมเป็นพนักงานของผมมันเป็นหน้าที่และความรับผิดชอบโดยตรงของผม” ปีเตอร์ประกาศตัวให้ปริญรู้ตัวว่าอย่างมายุ่งกับคนของเขาได้ยินแล้วถอยไปซะ

“แต่ผมกับเธอเป็นคนไทยด้วยกัน คนบ้านเดียวกันย่อมดูแลกันได้ดีกว่า” ปริญยืนกรานเขายิ้มเล็กน้อยแต่จากน้ำเสียงดูจะสู้ไม่ถอย ปริญคิดว่าคำพูดของปีเตอร์เหมือนกันท่ามากกว่าเจ้านายที่ห่วงลูกน้อง


“เธอเป็นพนักงงานของผม ผมดูแลเองได้” ปีเตอร์พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบและภายมือให้ทับทิม ให้เธอเดินไปทางรถที่เขาได้จอดไว้ ทับทิมมีสีหน้าปั้นยากที่จริงอยากจะไปกับปริญแต่ก็ไม่อยากจะบาดหมางกับเจ้านายตั้งแต่วันแรกจึงหันไปพูดกับปริญ


“เอาไว้ฉันจะโทรหาคุณนะคะปริญ”เธอส่งยิ้มหวาน ปีเตอร์รู้สึกว่าเขาไม่ชอบยิ้มสวยๆของเธอเลยในเวลานี้เพราะเธอยิ้มให้คนอื่นที่ไม่ใช่เขาอาการเหมือนวัยรุ่นที่กำลังตกหลุมรัก มันกลับมาหาเขาอีกครั้งความรู้สึกแบบนี้นี่เขาเกิดปิ๊งเธอจริงๆเหรอ
“ผมจะรอโทรศัพท์ของคุณนะครับทับทิม”

“ฉันโทรหาคุณแน่นอนค่ะ จะได้มีเพื่อนไปช้อปปิ้งหน่อยหากคุณยังอยู่ที่นี่อีกสักพัก”

“แน่นอนครับผมจะอยู่ที่สิงคโปร์อีกราวๆหนึ่งเดือน พอร้านผ้าไหมที่นี่เข้าที่เข้าทางแล้วผมถึงจะเดินทางกลับเมืองไทย”


“ถ้าอย่างนั้นคืนนี้ทับทิมขอตัวกลับก่อนนะคะ”


ทับทิมส่งยิ้มให้ปริญก่อนแยกจากกัน เธอหันหลังเดินกลับไปยังที่จอดปีเตอร์เดินตามประกบหลังแต่ก่อนไปไม่วายเสือหนุ่มทั้งคู่หันมาสบตาอย่างมีเชิงแม้ไม่พูดอะไรแต่ชายหนุ่มหล่อไปคนละแบบทั้งคู่ก็ต่างรู้ตัวว่าเจอคู่แข่งเข้าแล้ว


+++++++++++++++++++++++


หญิงสาวในชุดพนักงานเสริฟท์ของโรงแรมค่อยๆผ่อนลมหายใจก่อนจะค่อยขยับกายและเดินออกมาจากห้องเก็บของเล็กๆซึ่งป็นทางเดินไปที่ห้องน้ำเพราะเสียงผู้คนเงียบลงแล้วงานคงจะเลิกแล้ว


“ให้ตายเถอะ ไม่อยากเชื่อจริงๆ ว่าท่านการิม กับ ฟารุก จะตามเรามาถึงที่นี่ แล้วผู้หญิงคนนั้นเป็นใครทำไมถึงมีหน้าตา..” บาลาซาน มองไปที่เสาอาคารต้นกลมตรงหน้าวัสดุของมันเป็นอลูมิเนียมชั้นดีสะท้อนใบหน้าหญิงสาวหน้าหวานสวยเหมือนสาวเอเชียแต่มีคิ้วและตาเข้มกว่าทับทิม

หลังจากพนักงานเก็บบูธจนเรียบร้อยดีแล้วปริญจึงคิดว่าจะแวะไปเข้าห้องน้ำอันที่จริงเจ้าของบริษัทอย่างเขาไม่จำเป็นต้องลงมาที่หน้างานเองคอยนั่งสั่งการแบบผู้บริหารทั่วไปก็ได้แต่ปริญมักทำตัวราวกับเป็นพนกังานขายคนหนึ่งของบริษัท เขาขยายกิจการผ้าไทยมาถึงสิงคโปร์เขาต้องการรู้ว่าลูกค้าต้องการงานแบบใด

“เหนื่อยทั้งวันแล้วคุณปริญกลับก่อนก็ได้นะคะไม่ต้องรอพวกเราหรอก”

“จะให้ผมหนีกลับก่อนได้อย่างไรครับมาด้วยกันก็ต้องกลับด้วยกันสิครับ” ปริญบอกกับพนักงานหญิงคนหนึ่ง


“ถ้าอย่างนั้นไปพักก่อนก็ได้ค่ะ สินค้าที่บูธพวกเราเก็บกันเองได้นี่ก็จวนจะเสร็จแล้ว”

ปริญวางผ้าทอมือผืนงาม “เป็นเพราะผมเก็บผ้าไม่เรียบร้อยเท่าคุณฝ้ายคำหรือเปล่าครับ”
“โถ...ใครว่าคะคุณปริญผับผ้าได้เรียบร้อยกว่าพวกเราเสียอีก” พนักงานสาวใหญ่ส่งยิ้มกว้าง ก่อนจะรีบหันไปผับผ้าต่อ
ปริญเดินมุ่งหน้าไปที่ห้องน้ำผู้คนเงียบสนิทแม้เป็นโรงแรมใหญ่แต่เวลาเกือบเที่ยงคืนแบบนี้แล้วจึงไร้ซึ่งผู้คน เมื่อเดินผ่านบริเวณฟร้อนสำหรับต้อนรับแขกด้านหน้าโรงแรมปริญเดินเลี้ยวเข้าไปตามป้ายที่ชี้ทางไปห้องน้ำ


“ว้าย!” เสียงหญิงสาวร้องขึ้น ปริญกล่าวคำขอโทษเป็นภาษอังกฤษ แต่เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นก็ต้องตกใจเมื่อพบว่าคนที่เขาเดินชนคือทับทิม

“คุณทับทิมยังไม่กลับอีกเหรอครับ” เขาพูดภาษาไทย

แต่หญิงสาวเหมือนจะฟังภาษาที่เขาพูดไม่เข้าใจและมีทีท่ารีบร้อนเหมือนกำลังหนีอะไรสักอย่าง จากนั้นเธอก็ผละไปจากเขาทันที


“คุณทับทิมครับ” ปริญเรียกตามหลังแต่หญิงสาวคนนั้นเดินเร็วราวกับร่องหนได้เมื่อผ่านมุมหนึ่งปริญก็ไม่เห็นหลังไวไวของเธอเสียแล้ว

“คุณทับทิมเป็นอะไรไป จะรีบไปไหน” ความรู้สึกของปริญผู้หญิงคนนั้นหน้าเหมือนทับทิมแต่บางอย่างทำให้เขาคิดว่านั่นไม่ใช่ทับทิม ปริญได้แต่เก็บความสงสัยนั้นเอาไว้

“ทับทิม คือใครหรือว่าคือผู้หญิงคนนั้น” บาลาซานรีบเร้นกายออกมาจากโรงแรมให้พ้นจากการตามล่าของใครบางคนหากเธอถูกจับได้ก็เท่ากับว่าชีวิตนี้คงจะจบสิ้นลงตามไปด้วย ที่สำคัญงานที่รับจ้างมาก็ยังไม่ประสบความสำเร็จ
+++++++++++++++++++++++

“หยุดรถเดี๋ยวนี้นะคะ” ทับทิมสั่งสีหน้าเหมือนกับว่าทำของอะไรหายบางอย่าง

“มีอะไรเหรอครับ” ปีเตอร์หันมาถาม

“คุณลืมคุณมิเชลไปหรือเปล่าคะ ตอนมาก็มาพร้อมกัน แล้วตอนกลับเธอหายไปไหนเสียล่ะคะ” มัวแต่ยุ่งเรื่องของตนเองจนทำให้ทับทิมลืมไปว่ามิเชลไม่ได้กลับขึ้นรถมาด้วย


“ สามีเธอมารับกลับไปนานแล้วครับ” ปีเตอร์ใช้ช่วงชุลมุลภายหลังที่พบทับทิมและเธอปลอดภัยโทรตามฟิลลิปญาติผู้พี่ให้มารับภรรยาของเขากลับไปด้วยเพราะปีเตอร์มีแผนการบางอย่างอยู่ในใจ

“กลับไปแล้วเหรอคะ ทำไมไม่เห็นเธอมาบอกคุณเลย”

“มิเชลอายุตั้งสามสิบกว่าแล้ว เธอคงไม่ต้องรายงานผมเวลาจะไปไหน กลับบ้านกลับใคร เธอไม่ใช่”ปีเตอร์มองมาที่หญิงสาวข้างกายยามเธอหายใจเข้าออกเขาอึดอัดแทนเจ้าเข็มขัดนิรภัยเหลือเกินในเวลานี้เขาอยากลองเป็นเข็มขัดนิรภัยดูบ้าง เมื่อทับทิมหันมาปีเตอร์จึงมองไปถนน

“คุณไม่ต้องห่วงเธอหรอกครับ สามีเธอมารับเธอถึงบ้านอย่างปลอดภัยแน่”

ใช่สิถ้าหากมิเชลปลอดภัยเพราะมีสามีมารับกลับบ้าน และตัวเธอล่ะกำลังกลับพร้อมผู้ชายที่ตั้งแต่เกิดมาก็เพิ่งจะพบหน้ากันวันแรกที่จริงตัวเธอหน้าห่วงมากกว่าตั้งหลายเท่า หญิงสาวกำกระชับเข็มขัดนิรภัยเอาไว้แน่นคิดบางอย่างอยู่ในใจและเหลือบมองปีเตอร์เป็นครั้งคราว

“จะไว้ใจได้ไหมเนี่ย” และทับทิมก็รู้สึกว่าแอร์ที่เย็นอยู่แล้วเย็นมากขึ้นไปอีก ปีเตอร์ยิ้มที่มุมปากเมื่อมองไปที่ตึกหนึ่งที่หัวมุมถนนเขาเลี้ยวเข้าไปที่นั่นทันทีโดยไม่ได้ถามความเห็นของทับทิมแม้แต่น้อย


“คุณพูดอะไร”


“เปล่า แค่สงสัยว่าเราจะกลับไปที่โรงแรมใช่ไหม”ก็ที่นั่นเป็นที่พักเธอ

“เราจะกลับไปที่โรงแรมแน่นอน” ปีเตอร์อมยิ้ม และหักพวงมาลัยเลี้ยวรถทันทีแต่ไม่ใช่ทางกลับโรงแรมคาร์ลตัน สิงคโปร์อย่างแน่นอน ทับทิมจำได้


“นี่คุณจะไปไหน” น้ำเสียงตื่นเต้น หวาดระแวง


“เดี๋ยวก็รู้เอง” ปีเตอร์ตอบสั้นๆ


“อยากรู้ตอนนี้” ทับทิมหายใจแรงขึ้นแฝงความกลัวความระแวง นัยน์ตาใสราวแก้วเจียระไนมองปีเตอร์แบบไม่ไว้ใจเคยได้ยินกิตติศัพท์เรื่องผู้หญิงของเขาในแง่ลบมาแล้ว


“รู้ช้าสักนิดจะเป็นอะไรไป นั่งเฉยๆ และพูดน้อยๆ แล้วทุกอย่างมันจะดีเอง”


“ทำไม่ได้ นี่คุณคิดจะทำอะไรกันแน่ แล้วเลี้ยวเข้ามาทำไม จอดรถเดี๋ยวนี้นะ คุณคิดจะทำอะไรฉัน” ทับทิมถามซ้ำ วนไปวนมาแบบต้องการคำตอบเดี๋ยวนี้

“ไม่จอด ตรงนี้จอดไม่ได้ถ้าจอดจะถูกปรับแพงมาก นั่งเฉยๆได้ไหมคุณไหนเขาว่าผู้หญิงไทยน่ารัก มีใครจู้จี้ ขี้สงสัยเหมือนคุณบ้างหรือเปล่า”


“นี่มันจะมากไปแล้วนะคุณมีสิทธิ์อะไรมาพูดกับฉันแบบนี้”

“ไม่ต้องกลัวไปหรอกหุ่นแบบนี้ หน้าตาแบบนี้ " เขาหันมามองหน้าเลยไปจนรูปร่างของทับทิม"รับรองว่าปลอดภัย”

ทับทิมแทบจะกรีดร้องออกมา กับคำพูดที่ออกมาจากปากของปีเตอร์เจ้าตัวเอาแต่มองถนนกับที่หมายไม่หันมามองหน้าเธอสักนิดไม่งั้นคงเห็นว่าหน้าทับทิมตอนนี้มีเลือดสูบฉีดเต็มที่


++++++++++++++++++++++++++++



















อัปสรา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 18 ม.ค. 2556, 16:17:18 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 18 ม.ค. 2556, 16:55:41 น.

จำนวนการเข้าชม : 2073





<< ตอนที่ 6   ตอนที่ 8 >>
อัปสรา 18 ม.ค. 2556, 16:25:05 น.
สวัสดีค่ะ ไม่ได้มาโพสหลายวันคิดถึง คนอ่านมากมายๆ เร็วๆนี้นกมีนิยายจะออก ถ้าออกแล้วจะมาแจกให้ร่วมเล่นเกมกันเช่นเคย


อัปสรา 18 ม.ค. 2556, 16:26:27 น.
ใครที่มีนิยายของอัปสราเตรียมรวมไว้นะคะ เดี๋ยวนิยายเล่มใหม่ออกจะมาชวนเล่นเกมไปหาสปอนเซอร์มาเพียบเพื่อคนอ่านและพี่ๆเพื่อนๆชาวสิรินดาโดยเฉพาะ รางวัลน่าลุ้นมากๆ เร็วๆนี้


konhin 18 ม.ค. 2556, 21:33:04 น.
กลายเป็นแอบมีฝาแฝดทางหน้าตาด้วยอ่ะ หุๆๆ เรื่องเริ่มเข้มข้นแล้ว


shotang 6 ต.ค. 2556, 14:12:14 น.
มีฝาแฝดได้ไงอ่ะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account