พายุรักซาตานร้าย
Tags: ซาตาน
ตอน: ตอนที่ 7
ตอนที่ 7
แม้เป็นช่วงเทศกาลสำคัญแต่สังขละบุรีในยามนี้ ผู้คนกลับไม่หนาตามากนักคงเป็นเพราะมีข่าวว่าปีนี้น้ำแห้งกว่าทุกปีทำให้นักท่องเที่ยวส่วนหนึ่งที่ต้องการมาล่องแพรในแม่น้ำสามประสบเปลี่ยนใจไปเที่ยวที่อื่นแทน แต่ก็มีนักท่องเที่ยวบางส่วนที่เห็นว่าเป็นโอกาสทองในการไปเยี่ยมชมโบสถ์ใต้น้ำหนึงใน Unseen Thaที่ในปีนี้ที่จะโผล่ขึ้นมาเหนือน้ำให้ได้ยลโฉมกัน
ณ.ร้านอาหารลือชื่อ ในอำเภอสังขละบุรี
ครอบครัวของพลอยญาวีเลือกนั่งที่โต๊ไม้ริมเขาซึ่งมีลมพัดเย็นสบาย
“ เอาทอดมันกุ้ง, ต้มยำปลาคัง ,ผัดเผ็ดหมูป่า ,ยำผักกูด ,ข้าวเปล่าหนึ่งโถ แล้วก็ข้าวผัดหมูจานใหญ่ค่ะ” พลอยสั่งอาหารกับพนักงานสาวที่เข้ามารับออเดอร์อย่างรวดเร็วเพราะรู้ดีว่าทุกคนกำลังหิว
“ไม่ใช่ข้าวผัดหมู หนูจะเอาข้าวผัดช้างพี่พลอยนี่ไม่รู้เรื่องเลย” กระท้อนนั่งกอดอก ทำหน้ามุ่ย ก็แค่อยากจะกินข้าวผัดช้างแค่นี้ยังต้องถูกขัดใจอีก
“ข้าวผัดช้างเหรอคะ” พนักงานสาวหัวเราะออกมาอย่างลืมตัว “เราไม่มีหรอกค่ะ ถึงมีช้างก็ไม่มีกะทะจะผัดให้”
แต่สาวน้อยกระท้อนทำทีจะร้องไห้ขึ้นมาจริงๆ “ อยู่กรุงเทพฯ ยังมียำยำช้างน้อยเลย ทำไมที่นี่ไม่มีข้าวผัดช้างล่ะคะ”
เฮ้อ!
คุณยุวดีและสามีหันไปมองหน้ากัน“กระท้อนยังเด็กมากแกคงจะเข้าใจอะไรผิดไปบ้างใช่ไหมคะคุณ ลูกเราคงไม่ได้ตะกะขนาดคิดจะกินช้างเป็นตัวๆหรอก”
“ผมชักไม่แน่ใจแล้วสิ”
พลอยหันไปขยิบตากับพนักงานสาว “เอาข้าวผัดช้างจานใหญ่ๆ หนึ่งจานนะคะ ข้าวผัดหมูเมื่อสักครู่ไม่เอาแล้วยกเลิก”
“ได้ค่ะ”
พนักงสาวกับพลอยเข้าใจกันดีก็ข้าวผัดหมูนั่นแหละ ยัยจอมจุ้นกินไปก็ไม่รู้เรื่องหรอกอันไหนหมูอันไหนช้าง แต่คนเป็นพี่สาวก็อดแปลกใจไม่ได้ยัยนี่ไปเอาเมนูข้าวผัดช้างมาจากไหน แหม...ช่างคิดจะกินช้างเป็นตัวๆลูกยักษ์ลูกมารชัดๆ
“เย้ๆๆ พี่พลอยสั่งข้าวผัดช้างให้หนูแล้ว พี่พลอยใจดีที่สุดเลย”
“พี่สั่งให้แล้วกินให้หมดด้วยนะ ถ้ากินไม่หมดล่ะก็น่าดู” พลอยแกล้งดุ +++++++++++++
ไม่นานนักข้าวผัดช้างจานใหญ่หอมกรุ่นก็ออกมาเสริฟก่อนเมนูอื่น เพราะพ่อครัวคงรู้ดีว่าคนสั่งคงกำลังหิวมากจากการที่พนักงานสาวแอบไปเมาท์กันในห้องครัวว่าเด็กโต๊ะเก้าเขาสั่งข้าวผัดช้างมา
พลอยมองบรรยากาศรอบๆ ร้านอาหาร ร้านนี้วิวสวยมองเห็นสะพานมอญด้วยถ้าเป็นเวลาค่ำหรือเวลาเช้าคงจะบรรยากาศดีกว่านี้มาก และแล้วสายตาของเธอก็หยุดนิ่งอยู่ที่โต๊ะหนึ่งแขกหญิงชายกำลังเดินเข้ามาและนั่งลงที่โต๊ะเบอร์สิบสอง
“คุณแม่คะ คุณพ่อคะนั่นใช่พนักงานต้อนรับกับเด็กยกกระเป๋าโรงแรมที่เราไปพักเมื่อคืนหรือเปล่าคะ”
คุณยุวดีกับคุณสุเทพจึงหันไปมองพร้อมกัน เป็นจังหวะเดียวกับที่ริษาเงยหน้าขึ้นจากเมนูอาหารและสบตาเข้ากับครอบครัวของพลอย ริษาจึงรีบยกเมนูขึ้นปิดบังใบหน้าอย่างรวดเร็ว
“อาหารเอาเท่าที่สั่งไปค่ะ แต่เมนูขอยืมไว้ดูก่อนนะคะ” ริษาทำสีหน้าเก้อๆ
“ได้ค่ะ” พนักงานสาวรับออเดอร์เสร็จจึงเดินไปที่โต๊ะอื่นต่อ
“เป็นอะไรของเธอเอาเมนูมาปิดหน้าปิดตายังกับกลัวใครจะเห็น” ไตรเทพถาม
“ไตรเทพคะ อย่าหันหลังไปเด็ดขาดเชื่อริษานะคะ”
“ทำไม มีอะไรเหรอริษา หรือว่าคุณเจอเจ้ามือแชร์”ไตรเทพหัวเราะเบาๆ เขาชอบริษาเพราะเธอดูเป็นคนตื่นตัวตลอดเวลาอาจจะดูตลกๆแต่ก็น่ารักดี
“ไม่ใช่ค่ะ ริษาเคยเล่นแชร์กับเขาที่ไหนกัน แต่เจอโจทย์ของเจ้านายต่างหาก”
“ใครกัน”
“คุณพลอยญาวียังไงล่ะ รีบเผ่นกันเถอะ”
“ถ้าเราไปตอนนี้คุณพลอยจะสงสัยเอาได้ เขายังไม่รู้เรื่องนั้นหรอกทำเฉยๆเอาไว้ ทำตัวให้เป็นปกติพนักงานโรงแรมก็มีสิทธิมาเที่ยวได้เหมือนกัน”
“ลางานมาเที่ยวในช่วงเทศกาลนี่นะเหรอคะ เมื่อวานเขายังเห็นเราใส่ชุดพนักงานโรงแรมอยู่เลย” ริษาค้าน
“เอาเถอะ ยังไงก็ช่างแต่ถ้าออกไปตอนนี้เขาต้องจับพิรุธเราได้อย่าตื่นตูมไปเลย”
“ริษาไม่น่าติดรถคุณมาเที่ยวเลย นายให้หยุดงานตั้งเจ็ดวันริษาน่าจะไปพักผ่อนที่เกาหลีบินไปหาจางกึนซ็อกให้หายคิดถึง ไปเที่ยวตามรอยซีรีย์เกาหลี”ริษาทำสีหน้าเคลิบเคลิ้ม
“เบื่อจริงพวกบ้าดาราเกาหลี อาตี๋หน้าตาจืดๆจะหล่ออะไรกันนักกันหนา” น้ำเสียงของไตรเทพดูขุ่นๆ
“อย่ามาว่าจางกึนซ็อกของริษานะคะ ยังไงเขาก็หล่อกว่าคุณตั้งร้อยเท่า น่ารักกว่า แมนกว่าตั้งเยอะ”
“แล้วคุณเคยพิสูจน์แล้วเหรอว่าผมแมนสู้นายอะไรซ็อกๆของคุณไม่ได้”
“บ้า ใครจะอยากพิสูจน์กัน” ริษาหน้าแดงรีบหันไปมองทางอื่น
ไม่นานนักอาหารก็ถูกวางจนเต็มโต๊ะ
“ริษา คุณจะกินข้าวทั้งๆที่มีเมนูปิดหน้าอย่างนั้นเหรอครับ” ไตรเทพอยากจะบอกว่าเขาน่ะแมนเต็มร้อยชายทั้งแท่งแต่เธอไม่เคยมองต่างหาก
“ก็ริษาไม่อยากสบตากับคุณพลอยนี่คะ”
“ทำแบบนี้มันยิ่งพิรุธผมว่าคุณวางเมนูลงแล้วกินข้าวซะทำตัวตามสบายให้เป็นปกติจะดีกว่า” ไตรเทพเตือน
++++++++++++++++
“คุณพ่อคุณแม่คะ พลอยว่าผู้หญิงคนนั้นเขามีอาการแปลกๆนะคะ เหมือนกับว่าเขาพยายามจะหลบหน้าเรา”
“ช่างเขาเถิด ลูกอย่าไปสนใจเลย เขาคงจำเราไม่ได้มั้ง”
“จำไม่ได้อะไรกันคะ เมื่อวานทั้งโรงแรมมีเราไปพักอยู่ครอบครัวเดียว”
“พี่พลอยจะกินข้าวผัดช้างไหม อร้อย อร่อย ถ้าไม่กินหนูขอเหมาหมดนะ”
พลอยหันมามองน้องสาวอีกครั้งก็เห็นว่าข้าวผัดในจานเปลใบใหญ่ถูกแบ่งหายไปครึ่งจานแล้ว
“กระท้อนพี่พลอยว่าหนูควรเปลี่ยนชื่อเป็นน้องกระท้อนยักษ์นะดูจะเหมาะกว่า”
กระท้อนไม่เถียงไม่สนใจเพราะเธอกำลังก้มหน้าก้มตาคุยกับข้าวผัดแสนอร่อย
จนกระทั่งครอบครัวของพลอยทานข้าวเสร็จเรียบร้อย และเรียกพนักงานมาเช็คบิล
“ไปกันเถอะค่ะคุณพ่อคุณแม่ เดี๋ยวเราจะได้ไปเช็คอินท์เข้าที่พักพลอยโทรมาจองแต่เช้าและก็โชคดีที่เขามีห้องว่างเนื่องจากปีนี้นักท่องเที่ยวมากันน้อย”
“ดีลูก แม่เข็ดแล้วตระเวรหาที่พักเสียเหนื่อยแบบเมื่อคืน ไม่เอาอีกแล้ว”
++++++++++++++++++++++++++++
มือถือของริษาดังขึ้นเธอรีบรับมันเพราะเห็นว่าเป็นเบอร์ของใคร อีกทั้งมีข่าวสำคัญจะรายงาน
“คุณวาโยคะ แย่เล้วค่ะริษามีอะไรจะบอก” น้ำเสียงแสดงอาการตื่นเต้น
“เดี๋ยวริษาสัญญาณไม่ค่อยดีเลย แบตผมก็กำลังจะหมด แล้วตอนนี้พวกคุณอยู่ที่ไหนกันครับ”
วาโยมีแผนที่จะเดินทางมาที่สังขละบุรีอยู่แล้วถึงจะเป็นจังหวัดบ้านเกิดแต่เขากลับชอบสังขละบุรีไม่เคยเบื่อประจวบกับลูกน้องมาพักผ่อนที่นี่วาโยจึงคิดว่าน่าจะมาเที่ยวด้วยกันเสียเลยและเขาจะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายให้เองทั้งหมด
ริษาบอกชื่อร้านอาหารไปและบังเอิญเหลือเกินที่วาโยก็อยู่ใกล้ๆร้านอาหารแห่งนี้เพียงนิดเดียว
“ดีเลยริษาถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวเจอกัน” จากนั้นแบตของวาโยก็หมดลงจริงๆ
“อย่าเข้ามานะคะเจ้านาย” ริษาพยายามจะบอกวาโยแต่สัญญาณโทรศัพท์ถูกตัดหายไป โทรเธอกลับอีกหลายครั้งแต่ก็ไม่ติด
“แย่แล้วไตรเทพ นายกำลังจะแวะมาที่นี่ทำไมมันถึงบังเอิญขนาดนี้ริษาอยากจะบ้าตาย”
“ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวคุณไปดักรอนายที่หน้าร้านอย่าให้เข้ามา คงอีกสักพักกว่านายจะมาถึง บางทีคุณพลอยอาจจะออกไปก่อนก็ได้”
“ ได้ค่ะคุณอยู่ทางนี้เช็คบิลไปเลยนะคะ”
++++++++++++++++++++++++++++++
ครอบครัวของพลอยเตรียมตัวลุกขึ้นจากโต๊ะและเดินไปขึ้นรถ
“อิ่มไหมข้าวผัดช้าง” พลอยแซวน้องสาว
“อิ่มค่ะ อร่อยด้วย ดีนะที่พี่พลอยเชื่อหนูถ้าสั่งข้าวผัดหมูเราต้องกินกันไม่อิ่มแน่ๆ”
“เราเหรอ พี่พลอยว่ากระท้อนกินคนเดียวมากกว่า”
รถกระบะยี่ห้อนาวาร่าสีดำขับเข้ามาจอดในร้านอาหารข้างรถของพลอย โดยชายหนุ่มไม่ทันได้มองว่ามีคนที่เขาไม่ต้องการพบอีกแล้วในชาติน้ำกำลังเดินออกมาจากร้าน
“แย่แล้วคุณวาโยทำไมมาเร็วแบบนี้ นี่หรือเปล่าที่เขาว่ายิ่งหนียิ่งเจอ” ริษากำลังจะเดินไปที่รถเจ้านายแต่หันไปเห็นครอบครัวของพลอยกำลังเดินมาเธอจึงไม่กล้าเข้าไปใกล้รถของนายกลัวถูกจับได้
วาโยเดินลงมาจากรถเขาอยากจะถอยหลังกับขึ้นรถทันทีเมื่อเงยหน้าหล่อคมขึ้น ถ้าหากว่าทำได้ แต่คงไม่ทันแล้วเมื่อกระท้อนลูกยักษ์กำลังกลิ้งมาทัก
“พี่สุดหล่อๆ ใช่ไหมคะ” กระท้อนปล่อยมือจากพี่สาวและวิ่งไปหาชายหนุ่มตรงหน้าทันที
“พลอยใครกันลูก ทำไมน้องถึงรู้จักเขาด้วย”
“เอ่อ..คุณวาโยค่ะเคยพบกันที่สะพานแม่น้ำแคว”
กระท้อนวิ่งไปหาชายหนุ่มด้วยนิสัยช่างพูดช่างคุยไม่กลัวคน “พี่จำหนูได้ไหม” สาวน้อยส่งยิ้มหวานให้
วาโยชอบในความช่างพูดของสาวน้อยตรงหน้ามากแต่ทว่ารู้สึกละอายใจเมื่อพบพี่สาวของเธอ
“จำได้สิครับ น้องกระท้อนหวานคนสวย” วาโยรู้สึกเอ็นดูสาวน้อยช่างพูด เข้าอุ้มสาวน้อยตัวกลมที่น้ำหนักตัวไม่เบาเลยขึ้นมา และเดินตรงเข้ามาหาครอบครัวพลอย” จากนั้นวางกระท้อนลงเพื่อที่จะทำความเคารพผู้ใหญ่ทั้งสองที่วาโยคิดว่าคงเป็นพ่อและแม่ของสองสาว
“สวัสดีครับคุณอาทั้งสอง”
“ไหว้พระเถอะคุณ” คุณสุเทพรับไหว้ในใจนึกชมท่าทางสุภาพแต่สง่าผ่าเผยของชายหนุ่ม
“คุณพลอยพาครอบครัวมาเที่ยวถึงนี่เลยเหรอครับ บังเอิญจริงๆที่พบกันอีกครั้ง” เขาส่งยิ้มให้เธอ
“ค่ะเรามาเที่ยวกันกะว่าจะพักสักคืน พรุ่งนี้ก็คงเดินทางกลับแล้ว”
“อย่างนั้นเอง ผมก็นัดกับเพื่อนไว้ครับโชคดีจริงๆที่ได้พบคุณอีกครั้ง”
“ดีใจที่ได้พบคุณวาโยอีกครั้งเช่นกันค่ะ แต่ตอนนี้พลอยคงจะต้องขอตัวก่อนพอดีจะพาครอบครัวเข้าที่พักแล้วค่ะ”
“เชิญครับ” วาโยส่งยิ้มให้ครอบครัวของพลอย และไม่ได้ถามว่าเธอพักที่ไหนเพราะคิดว่าคงไม่มีการบังเอิญไปมากกว่านี้แล้ว
“น้องกระท้อนไปก่อนนะคะ” สาวน้อยไม่ลืมโบกมือให้ชายหนุ่ม
“บ๊าย บาย” วาโยไม่ลืมหันไปโบกมือให้กับสาวน้อยที่กำลังเดินตามพี่สาวไปขึ้นรถและลอบถอนหายใจเฮือกใหญ่ออกมา “ทำไมนะโลกมันถึงได้กลมขนาดนี้ ยิ่งหนีก็ยิ่งเจอกัน”
++++++++++++++++
พลอยเช็คอินเข้าที่พักและเก็บสัมภาระจนเรียบร้อยเธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหารันเป็นสิบครั้งแต่เขากับไม่ยอมรับสายทั้งที่ก็มีสัญญาณ
“ทำอะไรอยู่นะพี่รัน สงสัยจะงานยุ่งจนลืมพลอยอีกตามเคย”
“พี่พลอยแอบโทรหาแฟนเหรอ” กระท้อนไปเดินสำรวจห้องแม่จนเสร็จเรียบร้อยแล้วจึงกลับมาหาพลอยที่ห้อง
“ไม่ได้แอบโทรหาแฟนสักหน่อย พี่ตั้งใจโทรต่างหาก”
“หนูก็อยากโทรบ้างแต่ไม่มีเบอร์แฟน” กระท้อนยิ้มเขินๆเดินไปนั่งตัวกลมที่เตียงนอน
“โทรหาใครนะ อย่าบอกนะว่าเธอมีแฟนแล้ว” พลอยทำสีหน้าตกใจออย่างบอกไม่ถูก “อนุบาลหนึ่งเนี่ยนะมีแฟนเดี๋ยวนี้ทำไมมันไวไฟกันจังฟะ”
“หนูก็มีแฟน” สาวน้อยยิ้มเขินๆ จริงๆเธอไม่ได้รู้ความหมายของคำว่าแฟนแม้แต่น้อยแค่พูดไปเรื่อยเปื่อยอยากอวดพี่สาวบ้างเท่านั้น ในใจคิดว่าแฟนคือเพื่อนคนหนึ่งที่โทรศัพท์คุยกันบ่อยๆ
“แล้วกระท้อนมีแฟนกี่คนล่ะ” พลอยถามแกมขำรู้ดีว่ากระท้อนพูดเลอะเทอะไปด้วยไม่รู้ความหมาย
กระท้อนชูมือขวากลางออกจนครบทุกนิ้ว
“ห้าคนเชียวเหรอ น้องสาวของพี่ป็อบขนาดนั้นเชียว” พลอยหัวเราะออกมาเสียงดัง
“ใช่” กระท้อนยังยิ้มอย่างภาคภูมิใจ
“เด็กหนอเด็ก” พลอยส่ายหน้าให้กับความไร้เดียงสาของกระท้อน
“ยัยจอมยุ่งแล้วตกลงคืนนี้จะนอนกับแม่หรือนอนกับพี่”
“นอนกับแม่ดีกว่าผีไม่หลอก นอนกับพี่พลอยเดี๋ยวผีหลอกอีก”
“ที่นี่มีคนพักจนเต็มทุกห้องไม่เหมือนโรงแรมเมื่อคืนสักหน่อยไม่ต้องกลัวไปหรอก”
“ไม่เอาเขาจะนอนกับแม่”
“ถ้าอย่างนั้นก็ตามใจ”
“พี่พลอย แล้วที่นี่จะมีอะไรให้กินตอนเช้าไหม” กระท้อนคิดข้ามขั้นไปถึงวันพรุ่งนี้
“มีสิ ที่นี่ราคาที่พักรวมอาหารเช้าเห็นบอกว่าเป็นแบบบุฟเฟต์ด้วยนะ”
เป็นภาษาอังกฤษเพียงไม่กี่คำที่กระท้อนจำความหมายได้ดี กระท้อนชอบอาหารแบบบุฟเฟต์มากๆเพราะมันมีอะไรหลายอย่างให้เธอเลือกตักมารับประทานแล้วที่สำคัญตักมาทานได้หลายครั้งจนกว่าจะอิ่ม แต่พี่พลอยกับแม่จะสอนอยู่เสมอว่าให้ตักครั้งละน้อยๆก่อนถ้าไม่อิ่มค่อยเดินไปตักใหม่
“ไชโย มีบุฟเฟต์ด้วย” กระท้อนชูสองมือดีใจกระโดดโลดเต้นอยู่สองสามทีก็เหนื่อย
“เฮ้อ! นิ่งเป็นหลับ ขยับเป็นกิน”
+++++++++++++++
รันพยายามคิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออกว่าคนที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์เลวร้ายที่เกิดขึ้นกับพลอยเป็นใคร เขาเองก็ไม่เคยไปมีเรื่องมีราวกับใครที่ไหน จะมีบ้างก็พวกคดีที่ถูกดาราฟ้องหมิ่นประมาท แต่พวกนั้นห่วงชื่อเสียงจะเสียหายไม่น่าที่จะทำกับเขาถึงขนาดนี้
“ใครวะ มึงเป็นใคร”
รันระเบิดอารมณ์ลงบนโต๊ะทำงานเขาขว้างปาข้าวของระบายอารมณ์ ภาพข่าวทั้งหลายที่เขาเคยเขียนตกกระจายอยู่เต็มพื้นห้อง
รันมองข้าวของที่ตกจนเกลื่อนกลาดเขาค่อยๆหยิบมันขึ้นมา งานทั้งหลายเหล่านี้ทำให้เขามีชื่อเสียงและมีเงินทองขึ้นมาถึงบางคนจะว่าเอาความทุกข์ของคนอื่นมาหากินก็เถอะ เขาไม่ผิดสักหน่อยพวกนั้นขยันทำเรื่องฉาวกันเอง แต่ก็มีครั้งหนึ่งที่รันรู้ดีว่าเขารู้ทั้งรู้ว่าจะเกิดอะไรกับผู้หญิงคนหนึ่งแต่เพราะความโลภของเขาที่อยากจะได้ข่าวเขาไม่ยอมช่วยเธอทั้งๆที่มีโอกาสจะช่วย
+++++++++++++++
แม้เป็นช่วงเทศกาลสำคัญแต่สังขละบุรีในยามนี้ ผู้คนกลับไม่หนาตามากนักคงเป็นเพราะมีข่าวว่าปีนี้น้ำแห้งกว่าทุกปีทำให้นักท่องเที่ยวส่วนหนึ่งที่ต้องการมาล่องแพรในแม่น้ำสามประสบเปลี่ยนใจไปเที่ยวที่อื่นแทน แต่ก็มีนักท่องเที่ยวบางส่วนที่เห็นว่าเป็นโอกาสทองในการไปเยี่ยมชมโบสถ์ใต้น้ำหนึงใน Unseen Thaที่ในปีนี้ที่จะโผล่ขึ้นมาเหนือน้ำให้ได้ยลโฉมกัน
ณ.ร้านอาหารลือชื่อ ในอำเภอสังขละบุรี
ครอบครัวของพลอยญาวีเลือกนั่งที่โต๊ไม้ริมเขาซึ่งมีลมพัดเย็นสบาย
“ เอาทอดมันกุ้ง, ต้มยำปลาคัง ,ผัดเผ็ดหมูป่า ,ยำผักกูด ,ข้าวเปล่าหนึ่งโถ แล้วก็ข้าวผัดหมูจานใหญ่ค่ะ” พลอยสั่งอาหารกับพนักงานสาวที่เข้ามารับออเดอร์อย่างรวดเร็วเพราะรู้ดีว่าทุกคนกำลังหิว
“ไม่ใช่ข้าวผัดหมู หนูจะเอาข้าวผัดช้างพี่พลอยนี่ไม่รู้เรื่องเลย” กระท้อนนั่งกอดอก ทำหน้ามุ่ย ก็แค่อยากจะกินข้าวผัดช้างแค่นี้ยังต้องถูกขัดใจอีก
“ข้าวผัดช้างเหรอคะ” พนักงานสาวหัวเราะออกมาอย่างลืมตัว “เราไม่มีหรอกค่ะ ถึงมีช้างก็ไม่มีกะทะจะผัดให้”
แต่สาวน้อยกระท้อนทำทีจะร้องไห้ขึ้นมาจริงๆ “ อยู่กรุงเทพฯ ยังมียำยำช้างน้อยเลย ทำไมที่นี่ไม่มีข้าวผัดช้างล่ะคะ”
เฮ้อ!
คุณยุวดีและสามีหันไปมองหน้ากัน“กระท้อนยังเด็กมากแกคงจะเข้าใจอะไรผิดไปบ้างใช่ไหมคะคุณ ลูกเราคงไม่ได้ตะกะขนาดคิดจะกินช้างเป็นตัวๆหรอก”
“ผมชักไม่แน่ใจแล้วสิ”
พลอยหันไปขยิบตากับพนักงานสาว “เอาข้าวผัดช้างจานใหญ่ๆ หนึ่งจานนะคะ ข้าวผัดหมูเมื่อสักครู่ไม่เอาแล้วยกเลิก”
“ได้ค่ะ”
พนักงสาวกับพลอยเข้าใจกันดีก็ข้าวผัดหมูนั่นแหละ ยัยจอมจุ้นกินไปก็ไม่รู้เรื่องหรอกอันไหนหมูอันไหนช้าง แต่คนเป็นพี่สาวก็อดแปลกใจไม่ได้ยัยนี่ไปเอาเมนูข้าวผัดช้างมาจากไหน แหม...ช่างคิดจะกินช้างเป็นตัวๆลูกยักษ์ลูกมารชัดๆ
“เย้ๆๆ พี่พลอยสั่งข้าวผัดช้างให้หนูแล้ว พี่พลอยใจดีที่สุดเลย”
“พี่สั่งให้แล้วกินให้หมดด้วยนะ ถ้ากินไม่หมดล่ะก็น่าดู” พลอยแกล้งดุ +++++++++++++
ไม่นานนักข้าวผัดช้างจานใหญ่หอมกรุ่นก็ออกมาเสริฟก่อนเมนูอื่น เพราะพ่อครัวคงรู้ดีว่าคนสั่งคงกำลังหิวมากจากการที่พนักงานสาวแอบไปเมาท์กันในห้องครัวว่าเด็กโต๊ะเก้าเขาสั่งข้าวผัดช้างมา
พลอยมองบรรยากาศรอบๆ ร้านอาหาร ร้านนี้วิวสวยมองเห็นสะพานมอญด้วยถ้าเป็นเวลาค่ำหรือเวลาเช้าคงจะบรรยากาศดีกว่านี้มาก และแล้วสายตาของเธอก็หยุดนิ่งอยู่ที่โต๊ะหนึ่งแขกหญิงชายกำลังเดินเข้ามาและนั่งลงที่โต๊ะเบอร์สิบสอง
“คุณแม่คะ คุณพ่อคะนั่นใช่พนักงานต้อนรับกับเด็กยกกระเป๋าโรงแรมที่เราไปพักเมื่อคืนหรือเปล่าคะ”
คุณยุวดีกับคุณสุเทพจึงหันไปมองพร้อมกัน เป็นจังหวะเดียวกับที่ริษาเงยหน้าขึ้นจากเมนูอาหารและสบตาเข้ากับครอบครัวของพลอย ริษาจึงรีบยกเมนูขึ้นปิดบังใบหน้าอย่างรวดเร็ว
“อาหารเอาเท่าที่สั่งไปค่ะ แต่เมนูขอยืมไว้ดูก่อนนะคะ” ริษาทำสีหน้าเก้อๆ
“ได้ค่ะ” พนักงานสาวรับออเดอร์เสร็จจึงเดินไปที่โต๊ะอื่นต่อ
“เป็นอะไรของเธอเอาเมนูมาปิดหน้าปิดตายังกับกลัวใครจะเห็น” ไตรเทพถาม
“ไตรเทพคะ อย่าหันหลังไปเด็ดขาดเชื่อริษานะคะ”
“ทำไม มีอะไรเหรอริษา หรือว่าคุณเจอเจ้ามือแชร์”ไตรเทพหัวเราะเบาๆ เขาชอบริษาเพราะเธอดูเป็นคนตื่นตัวตลอดเวลาอาจจะดูตลกๆแต่ก็น่ารักดี
“ไม่ใช่ค่ะ ริษาเคยเล่นแชร์กับเขาที่ไหนกัน แต่เจอโจทย์ของเจ้านายต่างหาก”
“ใครกัน”
“คุณพลอยญาวียังไงล่ะ รีบเผ่นกันเถอะ”
“ถ้าเราไปตอนนี้คุณพลอยจะสงสัยเอาได้ เขายังไม่รู้เรื่องนั้นหรอกทำเฉยๆเอาไว้ ทำตัวให้เป็นปกติพนักงานโรงแรมก็มีสิทธิมาเที่ยวได้เหมือนกัน”
“ลางานมาเที่ยวในช่วงเทศกาลนี่นะเหรอคะ เมื่อวานเขายังเห็นเราใส่ชุดพนักงานโรงแรมอยู่เลย” ริษาค้าน
“เอาเถอะ ยังไงก็ช่างแต่ถ้าออกไปตอนนี้เขาต้องจับพิรุธเราได้อย่าตื่นตูมไปเลย”
“ริษาไม่น่าติดรถคุณมาเที่ยวเลย นายให้หยุดงานตั้งเจ็ดวันริษาน่าจะไปพักผ่อนที่เกาหลีบินไปหาจางกึนซ็อกให้หายคิดถึง ไปเที่ยวตามรอยซีรีย์เกาหลี”ริษาทำสีหน้าเคลิบเคลิ้ม
“เบื่อจริงพวกบ้าดาราเกาหลี อาตี๋หน้าตาจืดๆจะหล่ออะไรกันนักกันหนา” น้ำเสียงของไตรเทพดูขุ่นๆ
“อย่ามาว่าจางกึนซ็อกของริษานะคะ ยังไงเขาก็หล่อกว่าคุณตั้งร้อยเท่า น่ารักกว่า แมนกว่าตั้งเยอะ”
“แล้วคุณเคยพิสูจน์แล้วเหรอว่าผมแมนสู้นายอะไรซ็อกๆของคุณไม่ได้”
“บ้า ใครจะอยากพิสูจน์กัน” ริษาหน้าแดงรีบหันไปมองทางอื่น
ไม่นานนักอาหารก็ถูกวางจนเต็มโต๊ะ
“ริษา คุณจะกินข้าวทั้งๆที่มีเมนูปิดหน้าอย่างนั้นเหรอครับ” ไตรเทพอยากจะบอกว่าเขาน่ะแมนเต็มร้อยชายทั้งแท่งแต่เธอไม่เคยมองต่างหาก
“ก็ริษาไม่อยากสบตากับคุณพลอยนี่คะ”
“ทำแบบนี้มันยิ่งพิรุธผมว่าคุณวางเมนูลงแล้วกินข้าวซะทำตัวตามสบายให้เป็นปกติจะดีกว่า” ไตรเทพเตือน
++++++++++++++++
“คุณพ่อคุณแม่คะ พลอยว่าผู้หญิงคนนั้นเขามีอาการแปลกๆนะคะ เหมือนกับว่าเขาพยายามจะหลบหน้าเรา”
“ช่างเขาเถิด ลูกอย่าไปสนใจเลย เขาคงจำเราไม่ได้มั้ง”
“จำไม่ได้อะไรกันคะ เมื่อวานทั้งโรงแรมมีเราไปพักอยู่ครอบครัวเดียว”
“พี่พลอยจะกินข้าวผัดช้างไหม อร้อย อร่อย ถ้าไม่กินหนูขอเหมาหมดนะ”
พลอยหันมามองน้องสาวอีกครั้งก็เห็นว่าข้าวผัดในจานเปลใบใหญ่ถูกแบ่งหายไปครึ่งจานแล้ว
“กระท้อนพี่พลอยว่าหนูควรเปลี่ยนชื่อเป็นน้องกระท้อนยักษ์นะดูจะเหมาะกว่า”
กระท้อนไม่เถียงไม่สนใจเพราะเธอกำลังก้มหน้าก้มตาคุยกับข้าวผัดแสนอร่อย
จนกระทั่งครอบครัวของพลอยทานข้าวเสร็จเรียบร้อย และเรียกพนักงานมาเช็คบิล
“ไปกันเถอะค่ะคุณพ่อคุณแม่ เดี๋ยวเราจะได้ไปเช็คอินท์เข้าที่พักพลอยโทรมาจองแต่เช้าและก็โชคดีที่เขามีห้องว่างเนื่องจากปีนี้นักท่องเที่ยวมากันน้อย”
“ดีลูก แม่เข็ดแล้วตระเวรหาที่พักเสียเหนื่อยแบบเมื่อคืน ไม่เอาอีกแล้ว”
++++++++++++++++++++++++++++
มือถือของริษาดังขึ้นเธอรีบรับมันเพราะเห็นว่าเป็นเบอร์ของใคร อีกทั้งมีข่าวสำคัญจะรายงาน
“คุณวาโยคะ แย่เล้วค่ะริษามีอะไรจะบอก” น้ำเสียงแสดงอาการตื่นเต้น
“เดี๋ยวริษาสัญญาณไม่ค่อยดีเลย แบตผมก็กำลังจะหมด แล้วตอนนี้พวกคุณอยู่ที่ไหนกันครับ”
วาโยมีแผนที่จะเดินทางมาที่สังขละบุรีอยู่แล้วถึงจะเป็นจังหวัดบ้านเกิดแต่เขากลับชอบสังขละบุรีไม่เคยเบื่อประจวบกับลูกน้องมาพักผ่อนที่นี่วาโยจึงคิดว่าน่าจะมาเที่ยวด้วยกันเสียเลยและเขาจะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายให้เองทั้งหมด
ริษาบอกชื่อร้านอาหารไปและบังเอิญเหลือเกินที่วาโยก็อยู่ใกล้ๆร้านอาหารแห่งนี้เพียงนิดเดียว
“ดีเลยริษาถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวเจอกัน” จากนั้นแบตของวาโยก็หมดลงจริงๆ
“อย่าเข้ามานะคะเจ้านาย” ริษาพยายามจะบอกวาโยแต่สัญญาณโทรศัพท์ถูกตัดหายไป โทรเธอกลับอีกหลายครั้งแต่ก็ไม่ติด
“แย่แล้วไตรเทพ นายกำลังจะแวะมาที่นี่ทำไมมันถึงบังเอิญขนาดนี้ริษาอยากจะบ้าตาย”
“ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวคุณไปดักรอนายที่หน้าร้านอย่าให้เข้ามา คงอีกสักพักกว่านายจะมาถึง บางทีคุณพลอยอาจจะออกไปก่อนก็ได้”
“ ได้ค่ะคุณอยู่ทางนี้เช็คบิลไปเลยนะคะ”
++++++++++++++++++++++++++++++
ครอบครัวของพลอยเตรียมตัวลุกขึ้นจากโต๊ะและเดินไปขึ้นรถ
“อิ่มไหมข้าวผัดช้าง” พลอยแซวน้องสาว
“อิ่มค่ะ อร่อยด้วย ดีนะที่พี่พลอยเชื่อหนูถ้าสั่งข้าวผัดหมูเราต้องกินกันไม่อิ่มแน่ๆ”
“เราเหรอ พี่พลอยว่ากระท้อนกินคนเดียวมากกว่า”
รถกระบะยี่ห้อนาวาร่าสีดำขับเข้ามาจอดในร้านอาหารข้างรถของพลอย โดยชายหนุ่มไม่ทันได้มองว่ามีคนที่เขาไม่ต้องการพบอีกแล้วในชาติน้ำกำลังเดินออกมาจากร้าน
“แย่แล้วคุณวาโยทำไมมาเร็วแบบนี้ นี่หรือเปล่าที่เขาว่ายิ่งหนียิ่งเจอ” ริษากำลังจะเดินไปที่รถเจ้านายแต่หันไปเห็นครอบครัวของพลอยกำลังเดินมาเธอจึงไม่กล้าเข้าไปใกล้รถของนายกลัวถูกจับได้
วาโยเดินลงมาจากรถเขาอยากจะถอยหลังกับขึ้นรถทันทีเมื่อเงยหน้าหล่อคมขึ้น ถ้าหากว่าทำได้ แต่คงไม่ทันแล้วเมื่อกระท้อนลูกยักษ์กำลังกลิ้งมาทัก
“พี่สุดหล่อๆ ใช่ไหมคะ” กระท้อนปล่อยมือจากพี่สาวและวิ่งไปหาชายหนุ่มตรงหน้าทันที
“พลอยใครกันลูก ทำไมน้องถึงรู้จักเขาด้วย”
“เอ่อ..คุณวาโยค่ะเคยพบกันที่สะพานแม่น้ำแคว”
กระท้อนวิ่งไปหาชายหนุ่มด้วยนิสัยช่างพูดช่างคุยไม่กลัวคน “พี่จำหนูได้ไหม” สาวน้อยส่งยิ้มหวานให้
วาโยชอบในความช่างพูดของสาวน้อยตรงหน้ามากแต่ทว่ารู้สึกละอายใจเมื่อพบพี่สาวของเธอ
“จำได้สิครับ น้องกระท้อนหวานคนสวย” วาโยรู้สึกเอ็นดูสาวน้อยช่างพูด เข้าอุ้มสาวน้อยตัวกลมที่น้ำหนักตัวไม่เบาเลยขึ้นมา และเดินตรงเข้ามาหาครอบครัวพลอย” จากนั้นวางกระท้อนลงเพื่อที่จะทำความเคารพผู้ใหญ่ทั้งสองที่วาโยคิดว่าคงเป็นพ่อและแม่ของสองสาว
“สวัสดีครับคุณอาทั้งสอง”
“ไหว้พระเถอะคุณ” คุณสุเทพรับไหว้ในใจนึกชมท่าทางสุภาพแต่สง่าผ่าเผยของชายหนุ่ม
“คุณพลอยพาครอบครัวมาเที่ยวถึงนี่เลยเหรอครับ บังเอิญจริงๆที่พบกันอีกครั้ง” เขาส่งยิ้มให้เธอ
“ค่ะเรามาเที่ยวกันกะว่าจะพักสักคืน พรุ่งนี้ก็คงเดินทางกลับแล้ว”
“อย่างนั้นเอง ผมก็นัดกับเพื่อนไว้ครับโชคดีจริงๆที่ได้พบคุณอีกครั้ง”
“ดีใจที่ได้พบคุณวาโยอีกครั้งเช่นกันค่ะ แต่ตอนนี้พลอยคงจะต้องขอตัวก่อนพอดีจะพาครอบครัวเข้าที่พักแล้วค่ะ”
“เชิญครับ” วาโยส่งยิ้มให้ครอบครัวของพลอย และไม่ได้ถามว่าเธอพักที่ไหนเพราะคิดว่าคงไม่มีการบังเอิญไปมากกว่านี้แล้ว
“น้องกระท้อนไปก่อนนะคะ” สาวน้อยไม่ลืมโบกมือให้ชายหนุ่ม
“บ๊าย บาย” วาโยไม่ลืมหันไปโบกมือให้กับสาวน้อยที่กำลังเดินตามพี่สาวไปขึ้นรถและลอบถอนหายใจเฮือกใหญ่ออกมา “ทำไมนะโลกมันถึงได้กลมขนาดนี้ ยิ่งหนีก็ยิ่งเจอกัน”
++++++++++++++++
พลอยเช็คอินเข้าที่พักและเก็บสัมภาระจนเรียบร้อยเธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหารันเป็นสิบครั้งแต่เขากับไม่ยอมรับสายทั้งที่ก็มีสัญญาณ
“ทำอะไรอยู่นะพี่รัน สงสัยจะงานยุ่งจนลืมพลอยอีกตามเคย”
“พี่พลอยแอบโทรหาแฟนเหรอ” กระท้อนไปเดินสำรวจห้องแม่จนเสร็จเรียบร้อยแล้วจึงกลับมาหาพลอยที่ห้อง
“ไม่ได้แอบโทรหาแฟนสักหน่อย พี่ตั้งใจโทรต่างหาก”
“หนูก็อยากโทรบ้างแต่ไม่มีเบอร์แฟน” กระท้อนยิ้มเขินๆเดินไปนั่งตัวกลมที่เตียงนอน
“โทรหาใครนะ อย่าบอกนะว่าเธอมีแฟนแล้ว” พลอยทำสีหน้าตกใจออย่างบอกไม่ถูก “อนุบาลหนึ่งเนี่ยนะมีแฟนเดี๋ยวนี้ทำไมมันไวไฟกันจังฟะ”
“หนูก็มีแฟน” สาวน้อยยิ้มเขินๆ จริงๆเธอไม่ได้รู้ความหมายของคำว่าแฟนแม้แต่น้อยแค่พูดไปเรื่อยเปื่อยอยากอวดพี่สาวบ้างเท่านั้น ในใจคิดว่าแฟนคือเพื่อนคนหนึ่งที่โทรศัพท์คุยกันบ่อยๆ
“แล้วกระท้อนมีแฟนกี่คนล่ะ” พลอยถามแกมขำรู้ดีว่ากระท้อนพูดเลอะเทอะไปด้วยไม่รู้ความหมาย
กระท้อนชูมือขวากลางออกจนครบทุกนิ้ว
“ห้าคนเชียวเหรอ น้องสาวของพี่ป็อบขนาดนั้นเชียว” พลอยหัวเราะออกมาเสียงดัง
“ใช่” กระท้อนยังยิ้มอย่างภาคภูมิใจ
“เด็กหนอเด็ก” พลอยส่ายหน้าให้กับความไร้เดียงสาของกระท้อน
“ยัยจอมยุ่งแล้วตกลงคืนนี้จะนอนกับแม่หรือนอนกับพี่”
“นอนกับแม่ดีกว่าผีไม่หลอก นอนกับพี่พลอยเดี๋ยวผีหลอกอีก”
“ที่นี่มีคนพักจนเต็มทุกห้องไม่เหมือนโรงแรมเมื่อคืนสักหน่อยไม่ต้องกลัวไปหรอก”
“ไม่เอาเขาจะนอนกับแม่”
“ถ้าอย่างนั้นก็ตามใจ”
“พี่พลอย แล้วที่นี่จะมีอะไรให้กินตอนเช้าไหม” กระท้อนคิดข้ามขั้นไปถึงวันพรุ่งนี้
“มีสิ ที่นี่ราคาที่พักรวมอาหารเช้าเห็นบอกว่าเป็นแบบบุฟเฟต์ด้วยนะ”
เป็นภาษาอังกฤษเพียงไม่กี่คำที่กระท้อนจำความหมายได้ดี กระท้อนชอบอาหารแบบบุฟเฟต์มากๆเพราะมันมีอะไรหลายอย่างให้เธอเลือกตักมารับประทานแล้วที่สำคัญตักมาทานได้หลายครั้งจนกว่าจะอิ่ม แต่พี่พลอยกับแม่จะสอนอยู่เสมอว่าให้ตักครั้งละน้อยๆก่อนถ้าไม่อิ่มค่อยเดินไปตักใหม่
“ไชโย มีบุฟเฟต์ด้วย” กระท้อนชูสองมือดีใจกระโดดโลดเต้นอยู่สองสามทีก็เหนื่อย
“เฮ้อ! นิ่งเป็นหลับ ขยับเป็นกิน”
+++++++++++++++
รันพยายามคิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออกว่าคนที่อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์เลวร้ายที่เกิดขึ้นกับพลอยเป็นใคร เขาเองก็ไม่เคยไปมีเรื่องมีราวกับใครที่ไหน จะมีบ้างก็พวกคดีที่ถูกดาราฟ้องหมิ่นประมาท แต่พวกนั้นห่วงชื่อเสียงจะเสียหายไม่น่าที่จะทำกับเขาถึงขนาดนี้
“ใครวะ มึงเป็นใคร”
รันระเบิดอารมณ์ลงบนโต๊ะทำงานเขาขว้างปาข้าวของระบายอารมณ์ ภาพข่าวทั้งหลายที่เขาเคยเขียนตกกระจายอยู่เต็มพื้นห้อง
รันมองข้าวของที่ตกจนเกลื่อนกลาดเขาค่อยๆหยิบมันขึ้นมา งานทั้งหลายเหล่านี้ทำให้เขามีชื่อเสียงและมีเงินทองขึ้นมาถึงบางคนจะว่าเอาความทุกข์ของคนอื่นมาหากินก็เถอะ เขาไม่ผิดสักหน่อยพวกนั้นขยันทำเรื่องฉาวกันเอง แต่ก็มีครั้งหนึ่งที่รันรู้ดีว่าเขารู้ทั้งรู้ว่าจะเกิดอะไรกับผู้หญิงคนหนึ่งแต่เพราะความโลภของเขาที่อยากจะได้ข่าวเขาไม่ยอมช่วยเธอทั้งๆที่มีโอกาสจะช่วย
+++++++++++++++
อัปสรา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 24 พ.ค. 2554, 16:07:12 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 24 พ.ค. 2554, 16:07:12 น.
จำนวนการเข้าชม : 7530
<< ตอนที่ 6 | ตอนที่ 8 >> |
แพม 24 พ.ค. 2554, 16:48:49 น.
ผลกรรม
ผลกรรม
lovemuay 24 พ.ค. 2554, 19:31:13 น.
นั่นแหละ ผู้หญิงคนนั้น นั่นแหละที่ไม่ยอมช่วยคือพี่สาวของวาโยไง แล้วเป็นสาเหตุให้เค้ามาแก้แค้น
ปล.นายวาโยเอ๋ย ยังไงก็หนียัยกระท้อนหวานไม่พ้นหรอก อิอิ
นั่นแหละ ผู้หญิงคนนั้น นั่นแหละที่ไม่ยอมช่วยคือพี่สาวของวาโยไง แล้วเป็นสาเหตุให้เค้ามาแก้แค้น
ปล.นายวาโยเอ๋ย ยังไงก็หนียัยกระท้อนหวานไม่พ้นหรอก อิอิ
ปูสีน้ำเงิน 24 พ.ค. 2554, 19:49:45 น.
เริ่มเข้มข้นแล้วสิ
เริ่มเข้มข้นแล้วสิ
ยุพากร 24 พ.ค. 2554, 20:12:47 น.
คุณอัปสราขา...อ่านแล้ว...มันเกิดอาการหิวน่ะค่ะ แถมได้กลิ่นอาหารที่สั่งอีกต่างหาก (แย่แล้วเรา)อิอิ น้ำหนักขึ้นอีกแน่ๆ
คุณอัปสราขา...อ่านแล้ว...มันเกิดอาการหิวน่ะค่ะ แถมได้กลิ่นอาหารที่สั่งอีกต่างหาก (แย่แล้วเรา)อิอิ น้ำหนักขึ้นอีกแน่ๆ
หมู้หมู 25 พ.ค. 2554, 00:29:06 น.
เอิ้ก ๆ ๆ ค้างคา 555
เอิ้ก ๆ ๆ ค้างคา 555
kaero 25 พ.ค. 2554, 11:50:28 น.
สงสัยคงอ้วนพี พร้อมยัยกระท้อนแน่ๆๆๆๆๆๆ
สงสัยคงอ้วนพี พร้อมยัยกระท้อนแน่ๆๆๆๆๆๆ