(เรื่องสั้น)
รวมเรื่องสั้นค่ะ

เขียนขึ้นในวันที่อารมณ์ดี
และอยากให้คนอ่าน อ่านแล้วอารมณ์ดีตามเหมือนกัน

@^__^@
Tags: เรื่องสั้น

ตอน: เท่ารัก


ฉันรู้สึกว่ากรรมกำลังจะตามสนอง

เมื่อก่อน ตอนที่ยังไร้คนข้างกาย ไร้ใครเคียงข้าง และมีชีวิตเหงาๆไปวันๆ ฉันเกลียดคำพูดฉอเลาะอ่อนหวานที่คนรักมีให้กันมากที่สุด คำพูดและประโยคเจือความเลี่ยน ที่มาพร้อมกับเสียงเล็กเสียงน้อย ที่ต่อให้คนพูดเสียงใหญ่แค่ไหน เจ้าตัวก็จะดัดให้กลายเป็นเสียงเล็กๆได้เมื่อคุยกับแฟน

“ตะเอง กินข้าวยัง” “เค้าไม่รู้ดิ ตะเองว่าไงอ่ะ” “คิดถึงเหมือนกัน”

หลากหลายประโยคที่ฉันเชื่อว่าเขียนยังไงก็คงไม่ได้ยินเสียงหรืออารมณ์ความรู้สึกเท่ากับฟังพวกเขาเหล่านั้นมาพูดเอาเอง บางทีเมื่อเพื่อนสาวตัวดีของฉันรับโทรศัพท์แฟนและคุยด้วยเสียงอย่างนี้ เพื่อนๆในกลุ่มที่กล้าๆหน่อย ก็จะแซวด้วยเสียงเล็กเสียงน้อยเหมือนกับที่เธอเป็น หรือบางทีก็เป็นฉันเองนี่แหละ ที่จะตะโกนบอกว่า

“แกพูดให้เป็นปกติเหมือนเวลาพูดกับเพื่อนก็ได้ เอาแบบห้าวๆซะจนน้ำตาลไม่กล้านับญาติอ่ะ ฟังแกพูดอย่างนี้ทีไร บรื๋อ ขนลุก”

คนมีความรักก็จะค้อนด้วยสายตาเล็กน้อย แต่ปากก็ยังพูดเสียงอ่อนเสียงหวานกับแฟน

“รักจ้า รักจ้า”

จนเมื่อวางสายแล้วนั่นแหละ กระบวนการเฉ่งก็จะเกิดขึ้น แต่ยังไงพวกเราก็ไม่ถือ คิดซะว่าเป็นการเรียกสีสันหรือเสียงหัวเราะในหมู่เพื่อนเอาแล้วกัน

“ไอ้เร แกเชื่อฉันเลยนะ แกต้องมีแฟนที่โคตรฉอเลาะ น้ำตาลเรียกปู่ น้ำเชื่อมเรียกทวด แกจะต้องจุกความหวานตายสักวันนึง” เพื่อนที่โดนแซวอาฆาตแค้น และฉันก็หัวเราะรับ คิดในใจว่ายังไงๆก็ไม่มีทาง

ก็ในเมื่อเรารู้ว่าเราชอบแบบไหนไม่ชอบแบบไหน เราก็มีสิทธิหาใครสักคนในแบบที่เราชอบนิหน่า


แต่วันนี้ ฉันรู้แล้วว่า กรรมกำลังตามสนอง เกลียดสิ่งไหนย่อมได้สิ่งนั้น

ก็เขา คนที่เสนอตัวมาเคียงข้างเวลาเหงาๆ มาปลอบโยนยามเกิดปัญหา มาเดินคู่กันไปตามเส้นทางแห่งชีวิตคนนี้ เป็นคนที่ช่างแสดงออกด้วยคำพูดเสียจริง

“รักนะ” จบประโยค ฉันว่าฉันได้ยินเสียงโห่ดังลอดโทรศัพท์มาด้วย “ไม่มีอะไรหรอก เพื่อนมันแซว”

“นี่กล้าพูดต่อหน้าเพื่อนๆเลยเหรอ” ขนาดฉันเป็นแค่คนฟัง ยังเขินแทบแย่ แต่ตาคนพูดไม่รู้สึกอะไรเลยเหรอไง

“ก็ทำไมจะพูดไม่ได้ล่ะจ๊ะที่รัก” เริ่มตีรวน แล้วฉันก็จะหาคำตอบให้เขาไม่ได้ทุกที

“แล้วคิดถึงกันมั้ย”

ฉันเงยหน้ามองเพื่อนรอบตัว ทุกคนจ้องเขม็งมาที่ฉัน อย่างกับรู้ว่าคนในสายพูดอะไรมา ฉันรู้สึกถึงความร้อนที่พุ่งขึ้นบนในหน้า ก่อนจะอ้อมแอ้มตอบกลับไปให้ฝ่ายนั้นเลิกสนใจสักที

“อืม”

“เฮ้ย แค่เนี๊ยะ” แต่ดูท่าเขาจะไม่ค่อยพอใจ และฉันก็ทำไรไม่ได้มากไปกว่า “แค่นี้นะ แล้วคุยกัน”


หลากหลายประโยคชวนเลี่ยนมาเป็นระยะ ทุกครั้งที่เขาโทรมา พอรับสาย จะต้องเริ่มต้นด้วยคำพูดชวนเลี่ยน

“ฮัลโหล” “คิดถึงจัง”

“ไง” “เสาร์นี้ไปเที่ยวกันป่าว”

“มีไร” “เมื่อเช้าลืมบอกรัก ขอบอกตอนนี้แล้วกันนะ”

แต่ดูเวลาฉันโทรไปสิ

“ฮัลโหล” “มีเรื่องให้ช่วยอ่ะ”

“ฮัลโหล” “รถดับไปเฉยเลย ช่วยด้วย”

“ฮัลโหล” “อยากกินเค้กอ่ะ ไปซื้อให้หน่อยดิ ร้านนั้นอ่ะนะ”

สารพัดเรื่องรบกวน ไม่มีซะหรอก ที่จะโทรไปเพราะว่าคิดถึง และไม่มีซะหรอกที่จะเอ่ยคำหวานๆเหล่านั้นก่อน

จนวันนี้ วันที่ฉันจุกความหวาน เริ่มคิดว่ามดชักจะไต่เกินแล้ว แล้วยังสายตาที่เพื่อนสาวตัวดีมองมา อย่างกับเธอจำได้ว่าเคยอาฆาตแค้นฉันว่ายังไง

“นี่คุณ ไม่เอาแล้วนะคำเลี่ยนๆอ่ะ เบื่อ”

ฝ่ายนั้นทำหน้าเหรอหรา แล้วก็จะถามตามความเคยชินเดิมๆ “ทำไมล่ะ”

“ไม่รู้แหละ พูดบ่อยๆไม่เบื่อบ้างเหรอไง เลี่ยนจะตาย มันเยอะเกิน เดี๋ยวมันจะดูไม่มีค่านะ”

“เอางั้นเหรอ แล้วจะทำไงดีล่ะ” เขานิ่งคิดไป

“ก็งี้ไง เวลาอยากพูดว่ารักหรือคิดถึง ก็เปลี่ยนเป็นทำอย่างอื่นแทน”

“ทำอย่างอื่น อ๋อ” เขาลากเสียงยาว แววตาเจ้าเล่ห์ “หอมแก้มใช่ม่ะ ได้ๆ ตัวเองเค้า...”

“เฮ้ย ไม่ใช่ๆ” ฉันรีบโบกมือห้าม ตานี่ นอกจากจะเลี่ยนแล้วยังชีกอเจ้าเล่ห์อีกด้วย

“งั้นก็กอด” “บ้าเหรอ”

“หรือตะเองอยากได้จูบ” “ลองสิ ได้โดนดี”

“หรือหวังมากกว่านั้นเหรอไง ก็ได้นะ” “ตาบ้า คิดเรื่องให้มันพ้นเตียงหน่อย”

“ใครคิดไร ตัวเองแหละ ลามก ทะลึ่ง” เขาหัวเราะชอบใจที่ต้อนฉันได้ “มาว่าเขา”

“แบบ พูดคำอื่นไง หรือทำท่าอื่นๆ ที่มันดูปกติๆอ่ะ อย่างเกาหัว เกาคิ้ว ถูจมูก กอดอก พูดว่าหิวข้าว...” ฉันรีบดึงเขากลับมาเรื่องเดิม ก่อนที่ฉันจะเข้าตัวมากกว่านี้

“เดี๋ยวๆ” เขาเบรก “แล้วถ้าเกิดผมหิวข้าวจริงๆล่ะ”

“ก็พูดว่าไปหาไรกินกันไง” ฉันตอบเหมือนไม่ใช่เรื่องยาก แต่คนฟังถึงกับทำหน้าเมื่อย

เราถกเถียงคำพูดพิเศษที่เราจะรู้กันเพียงสองคนอยู่อีกนาน คำพูดที่เป็นรหัสลับ ไม่มีใครรู้ว่าเราสื่ออะไรกันอยู่ นอกจากคนสองคนที่ใจตรงกันอย่างนี้

“รู้แล้วๆๆๆๆๆ” ฉันตะโกน “พูดว่า...ดีมั้ย”

เขามองหน้าฉัน ฉันมองหน้าเขา เราสองคนยิ้มกว้างให้กัน แล้วนั่นก็คือการตกลง



“สวัสดีครับ เร” คนข้างกายของฉันทักทายมาทางโทรศัพท์ เรียกเสียงโห่จากคนรอบข้างอีกแล้ว

“สวัสดี นุ” ฉันตอบกลับให้ปลายสาย เรียกสายตาสงสัยจากเพื่อน รายหนึ่งถึงกับกระซิบให้เข้าหูฉันว่า

“ไอ้เรมันลืมกินยาเขย่าขวดเหรอ พูดจาโคตรทางการกับแฟนเลย ไม่เห็นจะเคยได้ยิน”

“นั่นดิ ทุกทีมันโหล ไง มีอะไร เหมือนคุยกะลูกหนี้มากกว่าแฟน”

ฉันอมยิ้มให้กับคำพูดเหล่านั้น ไม่จำเป็นต้องอธิบาย ว่า “สวัสดี” มีความหมายมากกว่าที่พวกเขาคิดแค่ไหน

เพราะความหมายแท้จริงของคำๆนี้ รับรู้ได้ด้วยใจของเราสองคน...เท่านั้น

(จบ)

ย้ายเรื่องจากเวบเก่ามาลงค่า



สะเรนี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 24 พ.ค. 2554, 19:53:12 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 24 พ.ค. 2554, 19:53:12 น.

จำนวนการเข้าชม : 2420





<< แรงบันดาลใจ   ความลับ >>
babyuglypig 24 พ.ค. 2554, 22:24:06 น.
น่ารัก อ่า


ปูสีน้ำเงิน 25 พ.ค. 2554, 00:31:22 น.
ถ้ามีใครกับเค้าเมื่อไหร่จะจำวิธีเอาไว้ใช้บ้างนะ


saralun 25 พ.ค. 2554, 09:05:38 น.
หวานยิ่งกว่าเดิมอีกนะเนี่ย!!!


ลูกกวาดสีส้ม 25 พ.ค. 2554, 14:40:32 น.
น่ารักมากค่ะ


หยกสีน้ำผึ้ง 28 พ.ค. 2554, 13:22:09 น.
สวัสดี... ^^


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account