(เรื่องสั้น)
รวมเรื่องสั้นค่ะ

เขียนขึ้นในวันที่อารมณ์ดี
และอยากให้คนอ่าน อ่านแล้วอารมณ์ดีตามเหมือนกัน

@^__^@
Tags: เรื่องสั้น

ตอน: ความลับ

“คุณครับ ผมมีอะไรจะบอก”

ผู้ชายหน้าตาคงแก่เรียนที่ฉันไม่เคยคุ้นหน้าเดินตรงเข้ามาพูดประโยคนี้กับฉันกลางโรงอาหารประจำคณะ ฉันมั่นใจว่าไม่เคยรู้จักเขามาก่อน จะว่าเป็นเพื่อนร่วมคณะก็ไม่น่าใช่ ถึงฉันจะอยู่ในกลุ่มท้ายๆที่จะเป็นที่รู้จัก แต่หน้าตาอย่างนี้ ท่าทางอย่างนี้ ฉันเชื่อว่าเขาคงไม่ใช่คนที่อยู่ในคณะบ้าบิ่น และขึ้นชื่อลือชาในเรื่องความกล้าแสดงออกล้นเหลืออย่างคณะฉันแน่ๆ

“อะไรนะ” ฉันถามกลับไปด้วยเสียงสั่นๆ กลัวก็กลัวล่ะหนึ่ง เกรงก็เกรง อายก็อาย แม้ว่าตอนนี้จะเป็นเวลาบ่ายแก่ๆ แต่โรงอาหารยังคงมีเพื่อนๆพี่ๆน้องๆร่วมคณะยืนนั่งเดินกันให้ทั่ว ไม่ใช่ทุกคนที่จับจ้องสายตามาที่ฉันและเขา แต่วินาทีนี้แม้มีแค่เพียงหนึ่ง ฉันก็อายจะตายอยู่แล้ว

... ความลับข้อที่ 1 ของฉัน ความเป็นคนขี้อายอย่างสุดซึ้งเมื่ออยู่ตัวคนเดียว แต่ถ้ามีเพื่อนสาวอยู่ข้างๆกล้าไหน บ้าไหน ทำได้หมด และ ณ เวลานี้ฉันก็ยังยืนอยู่คนเดียว

“ผมมีอะไรจะบอกครับ” เขายังคงยืนยันประโยคเดิม ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนหลังกรอบแว่นสีดำนั้นมีประกายบางอย่างที่ทำให้ฉัน... อายยิ่งกว่าเดิม “เราไปนั่งคุยกันที่เก้าอี้ริมน้ำได้ไหม”

ชายแปลกหน้าชวนฉันไปนั่งม้านั่งริมแม่น้ำสายใหญ่ที่ไหลเลียบข้างมหาวิทยาลัย มองเผินๆมันก็ไม่ใช่ที่ที่เปลี่ยว แต่ฉันว่า นั่งคุยกันที่นี่จะดีกว่าไหม ดูท่า เขาจะเห็นสายตาแสดงความปฏิเสธของฉัน ท่าทางของเขาสลดลงเล็กน้อย ประกายตาวูบลง ก่อนที่จะกลับมากระตือรือร้นด้วยข้อเสนอใหม่

“นั่งคุยริมสนามบอลก็ได้ ลมกำลังพัดเย็นๆเลย นะ นะครับ”

มีลูกอ้อน ผู้ชายท่าทางเคร่งขรึมคนนี้มีลูกอ้อน

... ความลับข้อที่ 2 ของฉัน ฉันมันคนใจง่าย อ้อนฉันเพียงนิด ฉันก็จะยอมทำตามโดยไม่มีข้อแม้อะไร

และนั่น ... ก็ทำให้ฉันเดินตามเขามาที่ศาลาริมสนามฟุตบอลอย่างง่ายดาย

“เรารู้จักกันเหรอคะ”

“คุณไม่รู้จักผม แต่ผมมองคุณมานานแล้ว” เสียงเรียบๆเอื่อยๆที่เขาพูดทำให้สันหลังฉันลุกชัน ถ้าไม่ติดว่านี่เป็นเวลากลางวันแสกๆ ฉันต้องคิดว่าฉันยืนอยู่คนเดียว และตรงหน้าฉันนี่คือวิญญาณ แล้วยังประโยคกำกวมนั่นอีกล่ะ มองฉัน มานาน ประหลาดแล้ว ผู้ชายคนนี้

“แล้วมีอะไรจะคุยกับเราเหรอ” ฉันเร่งก่อนจะสร้างเรื่องโกหกในเร่งด่วน “เดี๋ยวเรามีเรียนต่อน่ะ เพื่อนขึ้นไปรอบนห้องแล้ว”

เขามองกลับมาด้วยแววตาที่เปลี่ยนไป ให้ตายสิผู้ชายคนนี้ แววตาบอกอารมณ์ได้ชะมัด แล้วตอนนี้สายตาเขาบอกว่า รู้นะว่าฉันโม้อยู่ ประโยคถัดมาทำให้ฉันเข้าใจ ฉันอ่านสายตาผู้ชายคนนี้ไม่ผิดเลย

“วันนี้คุณไม่มีเรียนแล้ว แถมเพื่อนๆก็กลับกันไปหมดแล้วด้วย ไม่งั้นคงไม่อยู่คนเดียวหรอก” เขานิ่งไปสักพักเมื่อเห็นฉันอ้าปากค้าง คราวนี้แววตาแสดงออกถึงความขบขัน เอาล่ะ เขาเริ่มดูเป็นมนุษย์ขึ้นหน่อยแล้ว “ถ้าไม่ใช่เพราะคุณอยู่คนเดียว ผมคงไม่กล้าเข้ามาคุยด้วย”

เขาทำให้ฉันอึ้งเป็นรอบที่เท่าไรแล้วก็ไม่รู้ มีอะไรก็รีบๆพูดมาได้ไหม เริ่มอึดอัดแล้วนะ

... ความลับข้อที่ 3 ของฉัน ฉันมันพวกวิตกกังวลเกินกว่าเหตุ เยอะกว่าที่ใครๆคาดคิดนัก

เขาไม่บอกฉันสักทีว่ามีเรื่องอะไร สายตาของเขาก็ไม่บอกอะไรเลยสักอย่าง ไม่มีประกายใดๆที่ให้ฉันคาดเดาได้ ฉันเลยต้องมั่วไปเรื่อย อาการวิตกจริตเริ่มมาเป็นระยะ หรือว่าฉันใส่กางเกงเป้าขาด คราบนมติดอยู่บนริมฝีปาก ผักติดฟัน ผมหงอกโผล่มา 3 เส้น มีกระดาษแปะอยู่กลางหลัง หรือเขาจะเห็นคลิปลับของฉัน เอ๊ะ อย่างหลังเป็นไปไม่ได้สิ ฉันเคยถ่ายคลิปบ้าอะไรนั่นที่ไหนเล่า

ผู้ชายแปลกหน้าที่กล้าดุ่มๆเข้ามาขอคุยกับฉันเป็นการส่วนตัวกลางโรงอาหารก็ยังคงมองตรงมาที่ฉัน ดวงตาของเขามีเสน่ห์อย่างประหลาด แม้ตอนนี้มันจะไม่บอกอะไรเลย ฉันปัดความวิตกกังวลออกจากหัวสมอง คิดอย่างอื่นที่น่าจะเข้าเค้ามากกว่าเช่น เขาเรียนคณะอะไร มาจากไหน คิดยังไงถึงมาพูดกับคนแปลกหน้าอย่างฉัน

... ความลับข้อที่ 4 ของฉัน ฉันมันพวกความอดทนต่ำถ้ามีความหงุดหงิดเพราะร้อน หิว หรือง่วงเข้ามากวน

“ตกลงมีเรื่องอะไร” ฉันเริ่มถามเสียงแข็ง แถมกอดอกให้เขารู้ด้วยว่า นี่ ! ฉันกำลังหาเรื่องนายนะ

“ก็ไม่มีอะไร” ผู้ชายตรงหน้าทอดเสียงกวนๆ เมื่อกี้เขาดูเป็นเด็กวัดคงแก่เรียน ตอนนี้เหมือนวิญญาณเด็กหลังห้องเจ้าปัญหาจะเข้าสิง “แค่อยากคุยด้วย”

“จะคุยอะไรก็คุยมาดิ ร้อนนะ”

“ก็ชวนไปนั่งริมน้ำแล้วไม่ไปเอง” เขาบ่นกลับ แต่ฉันเห็นนะ แววตานายกำลังยิ้ม แซวฉันเรอะ เดี๊ยะ !!!

“ไหนล่ะเรื่องที่จะคุย” ฉันกวนกลับ “มานั่งตั้งนานแล้ว ยังไม่เห็นจะได้คุยอะไรกันสักอย่าง ถ้ายังไม่บอกว่ามีเรื่องอะไร เราจะไปแล้วนะ”

ขู่ๆ อย่างนี้ต้องขู่ แต่ตาเด็กหลังห้องตอนนี้ก็แปลงร่างเป็นผู้ใหญ่ใจดี ทำเหมือนเห็นเด็กน้อยอายุสัก 3 ขวบกำลังขู่ในเรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง ประเภท ถ้าไม่บอกหนูมาเดี๋ยวนี้ หนูจะร้องไห้จริงๆนะ

“คุณพร้อมจะรู้แล้วเหรอไง”

“ก็ถ้าคุณพร้อมจะบอก เราก็พร้อมจะฟังแล้ว มีอะไรล่ะ”

... ความลับข้อสุดท้ายของฉัน ฉันไม่เคยถูกผู้ชายจีบแบบซึ่งๆหน้ามาก่อน ... นี่คือครั้งแรก

“ผมว่าผมชอบคุณแหละ”

ตึ่ง ! หูฉันอื้อไปชั่วขณะ ปากฉันคงจะอ้าค้าง หน้าตาของฉันคงจะตลกมาก เพราะคราวนี้ เขายิ้มทั้งตา ทั้งปาก จากเด็กวัดคงแก่เรียน มาเด็กผู้ชายหลังห้อง เป็นผู้ใหญ่ที่รู้ทันคนอ่อนวัยกว่า ตอนนี้ผู้ชายตรงหน้าฉันคนนี้ เหมือนวัยรุ่นที่กำลังริมีความรัก แล้วสาวคนแรกที่เขาเลือกก็คือฉัน

“จริงๆนะ ผมมองคุณมานานแล้ว ผมรู้ว่าคุณชอบอะไร ไม่ชอบอะไร ผมพยายามจะ...”

“หยุด หยุดก่อน รู้ไหม นายกำลังทำให้เรากลัว”

เขาทำหน้าตาเหรอหรา ที่เห็นฉันยกมือเป็นปางห้ามญาติอย่างนั้น เขากำลังทำให้ฉันกลัวจริงๆนะ

“มองดูเรามาตลอดงั้นเหรอ ได้แค่มอง ทำไมไม่เข้ามาคุยกับเราล่ะ เข้ามาทำความรู้จัก อะไรก็ได้ ถ้ามาจับสังเกตเราอย่างนี้ เรากลัวนะ”

ที่ฉันละไว้ในใจคือ นายเหมือนคนโรคจิตเลยหง่ะ

เขาสลดลงเล็กน้อย แต่นั่นก็ทำให้ฉันต้องเอ่ยคำว่า “ขอโทษที่พูดอย่างนั้น” แต่ฉันคิดอย่างนั้นจริงๆนี่หน่า

“ผมก็ไม่กล้า ไม่รู้สิ อย่างถ้าวันนี้คุณไม่อยู่คนเดียว ผมคงไม่กล้าเดินมาพูดกับคุณอย่างนี้หรอก ถ้าคุณไม่พอใจ คุณเก็บผมไว้เป็นความลับข้อหนึ่งในชีวิตคุณก็ได้ ความลับที่ว่าเคยมีผู้ชายโรคจิตๆมาชอบ”

“เฮ้ย ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น นายก็พูดซะ” เขาทำให้ฉันสงสารจริงๆนะ ใจอ่อนอีกแล้วฉัน “เราขอโทษ ถ้าทำให้นายรู้สึกแย่ เราก็แค่ ... ถ้าจะมีคนมาชอบเรา หรือเราจะไปชอบใคร เราอยากให้เริ่มต้นด้วยการพูดคุยกันน่ะ”

เขามองหน้าฉัน ส่งยิ้มให้ ยิ้มที่ดูสดใส ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนฉายประกายอยู่ในนั้น ตอนนี้ฉันเริ่มชอบที่ตาเขาแสดงความรู้สึกได้แล้วสิ

“เอาล่ะ นายก็บอกอย่างที่อย่างบอกแล้ว...”

“เดี๋ยว แล้วคุณจะเอาไงต่อล่ะ”

“ก็คง...” ฉันนิ่งคิด เม้มปากนิดนึง ให้ดูเหมือนว่ากำลังตัดสินใจเรื่องหนักๆ ให้เขาลุ้นไปอย่างนั้นแหละ เพราะจริงๆน่ะ ฉันตัดสินใจได้ตั้งแต่เขาทำตาเศร้าๆเหมือนหมาหงอยนั่นแล้ว “ขอบคุณที่รู้สึกดีๆด้วย ดูๆกันไปก่อนแล้วกันนะ ไว้ค่อยมาคุยเรื่องนี้กันใหม่ ตอนนี้เรามาทำความรู้จักกันอย่างเป็นทางการก่อน ดีมั้ย ?”

ฉันยิ้มให้เขา หวังว่าแววตาของฉันจะแสดงความรู้สึกที่เขาจะรับรู้ได้บ้างนะ

อ้อ เห็นที่คงต้องเพิ่มความลับของฉันไปอีกข้อ

... ความลับข้อที่ 6 ถึงฉันว่าวิธีการจีบของเขาจะดูโรคจิตๆนิดๆ แต่ว่ามันก็น่ารักดีนะ ผู้ชายขี้อาย คว้าใจฉันไปได้เสมอ

ข้อนี้คงบอกเขาไม่ได้ เดี๋ยวจะได้ใจก่อนเวลาอันควร

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ขุดเรื่องเก่ามาลงอีกแล้ว

@^__^@



สะเรนี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 28 พ.ค. 2554, 18:32:14 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 28 พ.ค. 2554, 18:32:14 น.

จำนวนการเข้าชม : 2081





<< เท่ารัก    เพ(ร)าะรัก >>
ปูสีน้ำเงิน 28 พ.ค. 2554, 19:46:18 น.
มีกี่เรื่องล่ะ เอามาลงอีกสิ
จะรออ่าน


sai 29 พ.ค. 2554, 13:42:58 น.
อ่านอีกรอบก็อมยิ้มทุกที อิอิ


หยกสีน้ำผึ้ง 29 พ.ค. 2554, 21:28:01 น.


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account