แผนรักพันใจ

Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: ตอนที่ 13

ธนินต้องกลั้นยิ้ม เมื่อยศกฤตทำหน้าเหรอหรา หญิงสาวหนึ่งในสองคนที่ซ่อนตัวอยู่เดินมาคล้องแขนทันทีที่เห็นเขาเดินออกจากห้องเรียนทำขนม เขาไม่ใจร้ายพอที่จะซ้ำเติมจึงได้แต่นิ่งรอดูเหตุการณ์เพียงลอบมองจารุดาเล็กน้อยเห็นเธอเลิกคิ้วอย่างประหลาดใจกับภาพที่ได้เห็น ส่วน 'คู่แข่ง' ของธนินนั้นไม่ต้องพูดถึงอึ้ง พูดอะไรไม่ออกเลยทีเดียว

"ร้ายกาจนักนะคะยอร์ช" หญิงสาวตัดพ้อ "ทำบอกว่าช่วงนี้วันอาทิตย์ก็ยังต้องทำงาน นัดเจอกันได้เฉพาะช่วงเย็น ทำไมไม่บอกคะว่ามาลงเรียนเบเกอรี่สำหรับร้านกาแฟ ที่จริงยอร์ชไม่จำเป็นต้องทำขนาดนี้ก็ได้นะคะ ที่ร้านก็มีคนช่วยเยอะแยะ"

"อ้าว...นกยูงมากินข้าวกลางวันเหรอ"

ธนินทำเป็นไม่รับรู้อะไร หันเอ่ยถามกับผู้หญิงอีกคน ทั้งที่เป็นคน 'หลุดปาก' เล่าให้รายนั้นฟังเองเรื่องที่ยศกฤตมาเรียนทำเบเกอรี่ที่นี่เอง เขาใช้เวลาตลอดช่วงเย็นวานโทรหาเพื่อนเก่าสมัยเรียนแสร้งพูดคุยเรื่องโน้นนี้ก่อนจะวกเข้าถามเรื่องยศกฤต กระทั่งรู้เรื่องเด็ดเรื่องหนึ่งเข้า

ยศกฤตกำลังจะหมั้น และว่าที่คู่หมั้นก็เป็นเพื่อนสนิทสมัยมัธยมของนกยูงเพื่อนร่วมคณะของชายหนุ่มทั้งสอง ธนินพอจะรู้จักคุ้นเคยกับเพื่อนที่ชื่อนกยูงอยู่บ้างและรู้ว่ารายนี้ช่างพูด โดยเฉพาะพูดถึงเรื่องคนอื่น พอโทรหาแสร้งถามอะไรนิดก็พูดออกมาหมด

'แหม...จู่ ๆ ก็โทร.มาคุยโน่นนี่ แล้วก็วกเข้าเรื่องยอร์ช อยากจะรู้เรื่องของคู่แข่งธุรกิจเหมือนกันเหรอนิน'

'ยังไงก็เป็นเพื่อนเรียนมาด้วยกันอยากรู้ข่าวคราวบ้างเท่านั้นเอง วันนี้ไม่รู้ยังไงนึกถึงเรื่องเพื่อนเก่า ๆ'

'รายนั้นสบายดีหรอก ทำอะไรเงียบเชียบไม่เป็นข่าวทั้งที่เป็นทายาทนักธุรกิจดัง จะว่าไปก็เหมือนนินนั่นแหละ'

'คงไม่เหมือนกันทีเดียวหรอกมั้ง นอกจากว่ายอร์ชจะยังโสดเหมือนเรา'

นกยูงหัวเราะเสียงใสก่อนให้ข้อมูล 'ก็ไม่เหมือนกันจริง ๆ นั่นแหละ ยอร์ชเขามีแฟนแล้วเป็นเพื่อนเราเอง เป็นลูกสาวนักธุรกิจเหมือนกัน พ่อแม่เขาแนะนำให้รู้จักกันได้สองปีแล้ว แต่รายนั้นเขาไม่ทำธุรกิจกับครอบครัวแต่เปิดร้านขนมกับกาแฟแถวย่านธุรกิจ ลูกค้าแน่นร้านเกือบตลอด'

'อ๋อ...มิน่าล่ะ' ธนินหยอดความอยากรู้ให้คู่สนทนาแล้วหยุดไว้เพียงเท่านั้น

'มิน่าอะไรเหรอนิน'

'ก็เห็นยอร์ชมาเรียนทำเบเกอรี่กับชงกาแฟ สงสัยอยากจะไปช่วยแฟนมั้ง'

'เอ๊ะ! ไม่เห็นเกรซเล่าให้ฟังเลยสงสัยต้องสักหน่อยละ'

สำเร็จ!

ธนินนึกในใจก่อนทำทีเป็นชวนคุยเรื่องคนโน้นคนนี้ต่อ แน่ใจว่า 'แหล่งข่าว' อย่างเขาจะต้องไม่ได้รับการกล่าวอ้าง เพราะนกยูงเป็นประเภท ฉันรู้ก่อนใคร การจะมาอ้างอิงเขาทำลายเครดิตตัวเองนั้นคงเป็นเรื่องที่หญิงสาวไม่ทำแน่

"พาเพื่อนมาเซอร์ไพรส์ว่าที่คู่หมั้นน่ะ แอบรู้มาว่ายอร์ชมาเรียนเบเกอรี่ที่นี่ ไม่คิดว่าจะเจอนินด้วย" นกยูงเอ่ยสีหน้าภาคภูมิใจก่อนหันไปค้อนยศกฤต "ยอร์ชนี่ก็...ทำเหมือนไม่รู้จักกันไปได้ เราก็เรียนมาด้วยกันนี่"

"ตายจริง ขอโทษนะคะ ลืมแนะนำตัวเลย ฉันชื่อเกรซค่ะ ว่าที่คู่หมั้นของยอร์ช" หญิงสาวที่เกาะแขนยศกฤตอยู่คลี่ยิ้มให้ธนินและจารุดา "คุณเป็นครูสอนทำขนมใช่ไหมคะ ส่วนคุณ..."

"เอ่อ...ผมธนินครับ เรียนคณะเดียวกับอ่ะ..." ธนินกลืนคำนำหน้าชื่อที่เคยชินสำหรับเรียกยศกฤตลงคอ "ยอร์ชน่ะครับ ไม่ได้สนิทกันเท่าไหร่ แต่บังเอิญมาเจอกันได้อีกได้ยังไงก็ไม่รู้"

"ฉันชื่อจารุดาค่ะ" จารุดาเอ่ยแนะนำตัวเสียงเรียบ ใบหน้าไม่บ่งบอกอารมณ์ใด "ต้องขอตัวไปพักก่อนนะคะ เห็นว่าจะมารับประทานอาหารกัน เชิญตามสบายค่ะ"

"ไปค่ะยอร์ช ถ้ารู้ว่ายอร์ชมาเรียนที่นี่ เกรซจะมากินข้าวกลางวันด้วยทุกวันเลยล่ะ"

"อย่างนี้ฉันก็เป็นก้างน่ะสิยัยเกรซ"

"ไม่หรอกจ๊ะนกยูง ยอร์ชเขาไม่ว่าอะไรหรอก ใช่ไหมคะยอร์ช"

ยศกฤตรับคำเสียงอ่อย ก้าวเท้าเหมือนยังงงงวยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไปทางหน้าห้องอาหาร ก่อนที่เหมือนจะนึกขึ้นได้ตอนที่กำลังจะเดินถึงหน้าประตูทางเข้าที่มีพนักงานคอยต้อนรับอยู่ หันกลับมามองทางธนินเหมือนจะบอกว่ารู้เท่าทันว่าใครอยู่เบื้องหลังสิ่งที่เกิดขึ้นวันนี้

ธนินยิ้มกว้างยอมรับแต่โดยดีว่าเป็นฝีมือตน



ตลอดบ่ายบรรยากาศในห้องเรียนทำอาหารดำเนินไปตามปกติเกือบทุกประการ เว้นแต่ผู้สอนเหมือนจะให้ความสนใจกับนักเรียนหนุ่มสองคนที่ยืนติดกันน้อยกว่าที่เคยเป็นอยู่บ้าง จารุดาเลี่ยงที่จะมองทั้งยศกฤตและธนิน ความกระหยิ่มในชัยชนะของธนินจึงหดหายไปกว่าครึ่งแต่ยังดีกว่ายศกฤต จะว่าไปแล้วธนินก็อดสงสารคู่แข่งของเขาไม่ได้เหมือนกัน

เอาน่าไอ้ยอร์ช อย่างน้อยวันแสดงละครว่าโดนทิ้ง แกก็เลือกจังหวะคนไม่พลุกพล่าน ตอนตัวจริงมาแสดงตัวก็แทบไม่มีใครเห็น ไม่น่าอายเท่าไหร่หรอก

ทันทีที่หมดเวลาเรียนช่วงเย็นวันนั้น ยศกฤตก็ยังคงรีรอ ถ่วงเวลาเพื่อที่จะหาโอกาสพูดคุยกับจารุดา ธนินขวางหูขวางตา แต่คิดว่ายศกฤตคงจะสามารถปฏิเสธอะไรได้จึงรอดูว่าคู่แข่งจะหาทางดิ้นไปทางไหนอีก

ชั่วขณะที่แววตาของยศกฤตเหมือนจะฉายแววอะไรบางอย่างซึ่งทำให้ธนินใจคอไม่ดีขึ้นมา วินาทีต่อมายศกฤตก็เดินไปหยุดยืนตรงหน้าจารุดาที่กำลังจะคว้ากระเป๋าเดินออกจากห้องหลังจากรอให้นักเรียนส่วนใหญ่ออกจากห้องและตรวจตราความเรียบร้อยแล้ว

"คุณจาครับ"

"มีอะไรเหรอคะคุณยอร์ช"

"คือ...ผมอยากขอโทษคุณจาครับ"

"ขอโทษเรื่องอะไรคะ" จารุดาถามกลับ "คุณยอร์ชไม่ได้ทำอะไรผิดนี่คะ"

"คุณจาไม่แปลกใจเหรอครับ"

"เรื่องที่วันก่อนมีผู้หญิงคนนึงมาบอกเลิกคุณ แล้ววันนี้ก็มีผู้หญิงอีกคนมาแสดงตัวว่าเป็นคู่หมั้นคุณน่ะเหรอคะ"

"เอ่อ...ครับ"

ไม่เพียงยศกฤตแต่ธนินเองก็รอฟังคำตอบจากจารุดาเช่นกัน

"มันก็น่าแปลกใจนะคะ แต่มันก็ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับฉันเลยสักนิด ไม่ว่าคุณจะเลิกหรือว่าหมั้นกับใคร"

"เยส!"

เสียงผู้ชายอีกคนที่ไม่ได้ร่วมสนทนาแต่ยืนฟังอยู่ห่าง ๆ เรียกให้คู่สนทนาหน้าห้องเรียนหันกลับมามอง ธนินทำเหมือนไก๋ยืนมองซ้ายมองขวารอฟัง

"ผมคงต้องยอมรับกับคุณจาว่าที่ผมมาลงเรียนที่นี่ ผมมีแผน" ยศกฤตเอ่ยจริงจัง "ผมเป็นทายาทเจ้าของห้างไดมอนด์ ห้างของผมกับห้างเดอะเบสท์กำลังวางแผนระยะยาว พยายามหาซื้อที่ที่เหมาะสมจะขยายสาขาต่อไปในอนาคต"

"เฮ้ย! ไอ้ยอร์ช"

ธนินที่กระหยิ่มในชัยชนะมาตลอดบ่ายใจหายวาบ คิดไม่ถึงว่ายศกฤตจะยอมรับผิดแถมดึงเอา 'ห้างเดอะเบสท์' เข้าไปเกี่ยวด้วย เขาขยับจะเดินเข้าไปปฏิเสธแต่จารุดาเหมือนจะคิดอะไรได้เร็วเธอรีบโพล่งขึ้นทันที

"ถ้าอย่างนั้นคุณสองคนคงหวังได้ที่ดินของคุณยายฉันสินะคะ"

"อันที่จริง ตอนนี้มันเป็นชื่อคุณแล้วแต่คุณยายของคุณคงยังไม่ได้บอก" ยศกฤตตอบทันควันเช่นกัน "ผมเสียใจที่ต้องหาทางนี้ในการเข้าเจรจา ไม่ต้องห่วงนะครับ ผมจะไม่รบกวนคุณจาเรื่องที่ดิน เราเล็งจะขยายไปจังหวัดใหญ่หลายแห่ง ที่ดินของคุณจาก็เป็นแค่ทางเลือกในการพิจารณาทางหนึ่งของเรา"

"คุณสองคนคงต้องพิจารณาทางเลือกอื่นแล้วค่ะ ฉันคงไม่คิดขายที่ดินของยาย"

"คุณจาครับ...ผม..." ธนินทำใจดีสู้เสือเดินไปหยุดยืนตรงหน้าจารุดา

"ฉันพอจะทราบว่าคุณสองคนต้องมีวัตถุประสงค์อะไรแอบแฝงอยู่ แต่ตอนนี้ฉันรู้แผนของพวกคุณแล้ว และอยากบอกว่ามันไม่มีทางสำเร็จค่ะ ถ้าคุณยังคิดจะเรียนต่อ ฉันไม่ว่าอะไรนะคะ แต่เรื่องที่จะมาตีสนิทหวังเจรจาเรื่องที่ ฉันเสียใจด้วย"

จารุดาพูดแล้วคว้ากระเป๋าสะพายบ่าก้าวฉับออกจากห้องทิ้งให้ธนินมองตามอย่างใจหาย ก่อนจะหันไปมองยศกฤตที่ยืนยิ้มสะใจอยู่ข้างตัว

"นี่แกทำอะไรของแกวะไอ้ยอร์ช"

"แกทำลายแผนฉัน ในเมื่อฉันหมดหวัง คิดเหรอว่าฉันจะยอมให้แกทำสำเร็จ ถ้าจะเหลวก็ต้องเหลวทั้งคู่"

"แกทำให้คุณจาเกลียดฉัน" ธนินโพล่งอย่างโมโหจริงจัง

"เฮ้ย" ยศกฤตทำน้ำเสียงตกใจ "นี่แกอย่าบอกนะไอ้นิน ว่าแกหลงผู้หญิงเฉิ่มเชยคนนี้เข้าจริง ๆ น่ะ"

ธนินขยับจะแย้งแต่เหมือนไม่อาจจะเปล่งเสียงออกมาได้ ยศกฤตส่ายหน้าเล็กน้อย

"ฉันมองแกผิดไปจริง ๆ ว่ะไอ้นิน คิดว่าแกจะมีรสนิยมกว่านี้ซะอีก" ฝ่ายนั้นพูดพลางตบบ่าธนินแผ่วเบา "อ้อ...แล้วถ้าแกยังคิดจะเรียนทำเบเกอรี่ ชงกาแฟกับคุณจาที่แกหลงใหลได้ปลื้มก็เชิญตามสบายนะ ฉันคงไม่มาที่นี่อีกแล้ว ยอมรับว่าอยากจะได้ที่ดินไปให้พ่อเก็บเอาไว้ว่ะ แต่พอทำไม่สำเร็จ ฉันก็ยังดีใจที่ได้ขัดแข้งขัดขาแกได้ ฉันไม่ได้แกก็ไม่ได้ ไม่มีใครชนะ"

"ไอ้ยอร์ช"

ชายหนุ่มคำราม แค้นแน่นอกที่ยศกฤตทำลายโอกาสที่เขาจะได้ใกล้ชิดกับจารุดา วินาทีนั้นไม่มีความคิดเรื่องที่ดินเข้ามาเกี่ยวข้องแต่อย่างใด



จารุดาพยายามทำตัวให้วุ่นวายที่สุดแม้ว่าจะมีคนคอยช่วยเก็บข้าวของอยู่หลายคน แม้ว่าธนินจะเตรียมของให้แล้วส่วนหนึ่งแต่เมื่อถึงเวลาเข้าจริงก็ไม่เพียงพอ จารุดากับคุณจอมขวัญจึงนำภาชนะส่วนหนึ่งจากสวนอาหารมาใช้ร่วมด้วย งานเทศกาลอาหารวันสุดท้ายผู้คนมาจับจ่ายซื้อหาอาหารกันมากจนเธอวุ่นมาเกือบตลอดจนกระทั่งถึงเวลาที่จะต้องเก็บของกลับบ้าน เธอเมินเฉยกับธนินตลอดสองวันที่ผ่านมา

ในเมื่อเธอยืนยันแล้วว่าสิ่งที่เขาพยายามจะทำนั้นไม่มีทางสำเร็จ จะไม่มีการขายที่ดินแปลงที่คุณยายจันทร์ยกให้เป็นสมบัติของเธอ ธนินก็ควรจะเลิกรา ไม่มีเหตุอะไรต้องตอแยเธออีก นอกเสียจากว่าเขายังไม่ยอมถอดใจ

"คุณจา ผมอยากจะคุยกับคุณ"

ธนินที่จดจ้องอยู่นานขยับเข้ามายืนอยู่เบื้องหลัง หญิงสาวตอบโดยไม่วางมือจากการเช็ดภาชนะเตรียมจัดเก็บ

"ถ้าเป็นเรื่องที่ดิน ฉันบอกไปแล้วไงคะ ว่าฉันคงไม่ขาย"

"ผมอยากคุย...เรื่องของเรา" เขาชะโงกเข้ามากระซิบ

หญิงสาวยืดตัวเกร็งขึ้นเล็กน้อย ยังคงไม่หันไปมองเขาขณะเอ่ยตอบ

"มันไม่มีเรื่องของเราหรอกค่ะ คุณธนิน"

"คุณจา"

"น้าขวัญคะ ทางนี้เสร็จแล้วค่ะ"

"น้าก็เรียบร้อยแล้ว" คุณจอมขวัญเงยหน้าจากการเก็บของลงกล่อง

"งั้นเดี๋ยวให้ช่วยกันยกไปเก็บที่รถเลยนะคะ"

จารุดาเอ่ยกับน้าสาวแล้วหันมาเผชิญหน้ากับชายหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างตัวอีกครั้ง อะไรบางอย่างในแววตาคู่นั้นทำให้หญิงสาวเอ่ยสิ่งที่คิดได้ยากลำบาก

"ยินดีที่ได้ร่วมงานนะคะคุณธนิน ลาก่อนค่ะ"

"คุณจา"

"ไปจ๊ะ ช่วยยกของไปที่รถ จะได้แยกย้ายกลับบ้าน พรุ่งนี้ก็ไปทำงานที่สวนอาหารกันได้แล้วนะ"

หญิงสาวตัดบทด้วยการหันไปสั่งคนจากสวนอาหารก่อนเดินนำออกไปทางประตูทางออก สูดลมหายใจยาวลึกเหมือนจะระงับความรู้สึกหลากหลายที่ประดังเข้ามาภายในใจ เธอตอบตัวเองไม่ได้ว่ารู้สึกอย่างไรกับสิ่งที่เกิดขึ้น ความรู้สึกที่แท้จริงที่มีต่อชายหนุ่มและความรู้สึกเมื่อได้รู้อย่างแน่ชัดว่าเขาไม่ได้จริงใจกับเธอ



ชายหาดขาวสะอาดสุดลูกหูลูกตา ท้องทะเลใส ตัดกับภาพของความเจริญของตึกรามใหญ่โตที่ผุดขึ้นโดยรอบ ลมที่พัดมาเป็นระยะช่วยไล่ความร้อนจากไอแดดและนำความสดชื่นมาสู่คนที่นั่งพักผ่อนอยู่บนเก้าอี้ผ้าใบใต้ร่มคันใหญ่ นิคมสูดลมหายใจเข้ายาวลึกแต่ไม่ใช่เพราะจะสูดลมทะเลหากหวังจะสูดกลิ่นกลุ่มวัยรุ่นชายชาวต่างชาติที่สวมกางเกงว่ายน้ำเดินผ่านหน้าไป

ชายหนุ่มที่มีหัวใจหญิงสาว...สวย มองตามกลุ่มหนุ่มหุ่นดีไปก่อนจะหยุดสายตาไว้ที่คนที่นั่งบนเก้าอี้ผ้าใบตัวข้างกัน จารุดาเหมือนกำลังมองไปยังภาพทิวทัศน์เบื้องหน้าแต่นิคมรู้ว่าเธอไม่ได้มองเห็นภาพความงามของหาดทรายและท้องทะเลแม้แต่น้อย

"ยัยจา"

นิคมทดสอบโดยการเรียกและยิ่งแน่ใจว่าจารุดาไม่ได้รับรู้ถึงสภาพรอบตัวเลยแม้แต่น้อยเมื่อต้องเรียกซ้ำอยู่ถึงสามครั้งและครั้งสุดท้าย เขาต้องเรียกเสียงดังขึ้นอีกหน่อยด้วย

"นี่ ฉันชวนเธอมาพักผ่อนเปลี่ยนบรรยากาศนะ ไม่ได้ชวนให้มานั่งทางใน ใจลอยไปถึงไหน ๆ"

จารุดาไม่ได้สวมแว่นใสอย่างทุกครั้งหากสวมแว่นตากันแดด เสื้อผ้าที่เคยใส่มิดชิด ปรับเปลี่ยนมาเป็นเสื้อกล้ามสีขาวสวมทับด้วยเสื้อเชิ๊ตฟ้าตัวบางกับกางเกงยีนขาสั้นที่นิคมแอบเตรียมไว้ให้เปลี่ยนหลังไปรับออกจากบ้านสวนแล้ว ผมดำยาวที่ปกติเกล้าเป็นมวยปล่อยยาวระช่วงอก

นิคมเอื้อมไปหยิบหมวกสานปีกกว้างที่วางอยู่บนโต๊ะส่งให้หญิงสาวก่อนเอ่ยสั่ง "ใส่หมวกเลย ไปเดินเล่นชายหาดกัน"

"ไม่อยากเล่น"

"ไม่ได้ ต้องไปเล่น มาถึงทะเลแล้วไม่มีร่างกายส่วนไหนสัมผัสน้ำทะเลเลยนี่ผิดระเบียบมากสำหรับฉัน อย่างน้อยเท้าก็ต้องเหยียบน้ำทะเลบ้างล่ะ อีกอย่างเธอก็จะได้เลิกคิดถึงคุณนินจนฉันหมดสนุกสักที"

"ฉัน...ไม่ได้...คิดถึง...เขา" จารุดาเอ่ยย้ำทีละคำ

"ฉัน...ไม่เชื่อ...เธอ...หรอก...ย่ะ"

นิคมสวนทีละคำเช่นกันมือโบกหมวกขึ้นลงไปมา เหมือนจะบอกให้จารุดารับจากมือ หญิงสาวจำใจดึงหมวกสานมาสวม ยกมือขึ้นจัดหมวกให้กระชับกับศีรษะ ยอมลุกขึ้นเดินตามแรงจูงของนิคมแต่โดยดี นิคมหันไปหากลุ่มเพื่อนสาวอีกสามคนที่นั่งอยู่ใต้ร่มอีกคันเอ่ยเชิญชวนให้ออกมาเล่นน้ำด้วยกัน

ความเย็นของน้ำทะเล สายลมและพลังความสนุกสนานของนิคมและเพื่อนคนอื่น ๆ เหมือนจะถ่ายทอดมาถึงจารุดาด้วยไม่นานเธอก็สามารถวิ่งเล่นกับกลุ่มเพื่อนได้อย่างสนุกสนาน

พักใหญ่กว่าต่างคนต่างก็รู้สึกถึงความเหนื่อยล้าจากการเล่นน้ำและความร้อนจากไอแดด นิคมเป็นตัวตั้งตัวทีเช่นเคย

"สาว ๆ คนสวยเหนื่อยแล้วค่ะ ร้อนด้วย ขึ้นไปเติมพลังด่วน เดี๋ยวมีแรงแล้วค่อยลงมาเล่นกันใหม่"

"ไปยัยจา"

จารุดาพยักหน้ารับคำ เดินตามอย่างนิคมและเพื่อนอีกสามคนไป หากต้องหยุดชะงักเมื่อมีกลุ่มวัยรุ่นไทยเดินผ่าน แม้จะไม่ได้อยู่ในชุดกางเกงว่ายน้ำแต่หน้าตาของเด็กหนุ่มแต่ละคนนั้นทำให้นิคมต้องติดเบรกยืนมอง ปล่อยให้เพื่อนสาวสามคนเดินนำหน้าไปก่อน

"คุก ๆ ๆ" จารุดาแสร้งทำเสียงไอ

"บ้าเหรอยัยจา แค่มองเป็นอาหารตาหรอกจ๊ะ แล้วไม่ต้องมาพูดเรื่องคุกเรื่องตารางเลยนะ เด็กเดี๋ยวนี้โตวัยจะได้ ฉันไม่มีโอกาสได้พรากผู้เยาว์หรอก ถ้าไม่เสร็จเพื่อนผู้หญิงในโรงเรียน ก็เสร็จเพื่อนผู้ชายด้วยกันเองหมดแล้วแหละ"

"แต่ยังไงก็คุกอยู่ดี เด็กไม่บรรลุนิติภาวะ"

"ก็บอกแล้วไงว่าแค่อาหารตา นิกกี้ชอบมอง แต่ไม่ชอบสอนงานจ๊ะ ขอแบบพร้อมใช้ไม่ต้องเทรนอะไรมาก เข้าใจป่ะ"

"จ๊ะ"

จารุดารับคำขยับเดินตามนิคมหากหมวกที่สวมบนศีรษะถูกลมพัด ปลิวไปทางหนึ่ง

"หมวกฉันปลิว ไปโน่นแล้วนิกกี้ เธอไปรอกับเพื่อนก่อน เดี๋ยวฉันตามไป"

หญิงสาววิ่งไล่ตามเมื่อมันกลิ้งไปบนพื้นทรายหยุดอยู่ตรงใต้ร่มคันใหญ่บริเวณพื้นที่ของรีสอร์ทหรูติดกับหาดที่เธอและเพื่อนมานั่งเล่นกันอยู่ ชายหนุ่มในชุดลำลองเสื้อกล้ามสวมทับด้วยเสื้อเชิ๊ตสีคราม กางเกงสีขาวสะอาดลุกขึ้นจากเก้าอี้เดินมาหยิบหมวกสานส่งคืนให้

หญิงสาวที่จับจ้องแต่หมวกที่ตนวิ่งตามกล่าวคำขอบคุณขณะที่เงยหน้าขึ้นชักหมวกจากมืออีกฝ่าย พลางสายตามองผ่านเขาไปยังผู้หญิงที่นั่งอยู่ใต้ร่มคันเดียวกันกับเขา แม้จะเห็นใบหน้าเพียงด้านข้างเพราะเธอคนนั้นกำลังหันไปสั่งอะไรบางอย่างกับพนักงานของรีสอร์ทแต่จารุดาก็จำได้ทันที...สุจิรา

"คุณจา"

จารุดาดึงหมวกขึ้นสวมดึงปีกหมวกปิดบังใบหน้าตนเอง "คุณจำคนผิดแล้วค่ะ"

"คุณจาแน่ ผมจำได้ไม่ผิดคน"

ไม่ทันที่หญิงสาวจะปฏิเสธซ้ำ สุจิราซึ่งส่งคืนเมนูให้กับพนักงานและหันมาเห็นว่าธนินกำลังยืนคุยกับผู้หญิงคนหนึ่งอยู่ก็ผุดลุกขึ้นมาทันทีส่งเสียงเรียกธนินมาแต่ไกลพร้อมกับสาวเท้าเดินตรงเข้ามา

"พิ่นินคะ จินนี่สั่งของว่างกับเครื่องดื่มให้แล้วนะคะ"

"ขอบคุณอีกครั้งนะคะที่ช่วยเก็บหมวกให้"

จารุดารีบหันหลังเดินผละออกมาทันทีได้ยินเสียงสุจิราเอ่ยถามธนินแว่ว ๆ ว่าเขาคุยอยู่กับใคร เธอชะลอฝีเท้ารอฟังได้ยินคำตอบของชายหนุ่ม

"พอดีหมวกเขาโดนลมพัดปลิวมาทางนี้ พี่ก็เลยช่วยเก็บให้น่ะครับ"

"จินนี่มองไม่ถนัดแต่รู้สึกคุ้น ๆ ผู้หญิงคนนี้จังค่ะ ไปนั่งหลบแดดกันเถอะค่ะ จินนี่ร้อน"

หญิงสาวได้ยินเสียงน้องสาวแว่วมาเพียงเท่านั้นก็เร่งฝีเท้าอีกครั้งเพื่อกลับไปร่วมกลุ่มสมทบกับเพื่อน



สุจิราหย่อนตัวลงนั่งก่อนธนิน สังเกตอาการที่ชายหนุ่มมองตาม 'ผู้หญิง' คนนั้นไป ความรู้สึกบางอย่างตีขึ้นมาในอกหากเมื่อธนินนั่งลงเธอกลับเอ่ยด้วยน้ำเสียงยั่วล้อ

"สงสัยผู้หญิงคนนั้นต้องสวยมาก ๆ แน่เลยนะคะ พี่นินถึงได้มองตามขนาดนี้"

"อ๋อ...เปล่าครับ ไม่ใช่อย่างนั้น ตอนแรกนึกว่าเจอคนรู้จักน่ะครับ แต่สงสัยว่าจะจำคนผิด"

หญิงสาวยิ้มกว้างขึ้น เบือนหน้าไปทางหนึ่งแล้วผ่อนลมหายใจยาวอย่างโล่ง ทว่ายังคงติดใจความคุ้นตาของผู้หญิงที่ธนินยืนคุยด้วยอยู่เมื่อครู่

"พรุ่งนี้พี่นินไม่น่าต้องรีบกลับเลยนะคะ จินนี่นึกว่าเรามาพักผ่อนกันสองครอบครัวจะได้มีเวลาคุยกับพี่นินนาน ๆ เสียอีก"

"พอดีพี่มีธุระครับ"

"วันอาทิตย์เนี่ยนะคะ"

"ครับ งานแบบพี่บางทีเลือกวันหยุดให้เหมือนคนอื่นไม่ได้หรอกครับ งานอีเวนท์ งานเปิดตัวอะไรพวกนี้มันมีมาตลอด"

"แต่พี่นินก็น่าจะให้ลูกน้องจัดการได้ไม่ใช่เหรอคะ"

"บางงานลูกค้ารายใหญ่ พี่ก็ต้องไปดูแลเองครับ ปล่อยให้ลูกน้องทำลูกค้าจะหาว่าเราไม่ให้เกียรติเขา"

สุจิราแสร้งยิ้มเหมือนจะพึงพอใจในคำตอบนั้นหากใจก็นึกแย้ง ใช่ว่าจะต้องยอมตามลูกค้าไปเสียทุกอย่าง เป็นเจ้าคนนายคนแท้ ๆ ถ้าสั่งงานให้ลูกน้องทำไม่ได้ ต้องลงไปจัดการด้วยตัวเองจะมีประโยชน์อะไรกัน

ชั่วขณะที่ภาพของธนินที่ยืนคุยกับผู้หญิงคนหนึ่งเมื่อครู่นี้ผ่านเข้ามาในห้วงความคิด หญิงสาวเพิ่งนึกออกว่าทำไมถึงได้คุ้นท่าทางลักษณะของผู้หญิงคนนั้นนัก

ดวงตาคู่งามกร้าวขึ้นมาวูบหนึ่ง ก่อนที่จะเลือนหายไปเมื่อพนักงานนำของว่างและเครื่องดื่มค็อกเทลที่เธอสั่งไว้มาให้ หญิงสาวชักชวนให้ชายหนุ่มลิ้มรสคานาเป้ ก่อนจะยกแก้วคอสโมโพลิแทนขึ้น

"ดื่มหน่อยนะคะ ไม่รู้พี่นินจะชอบโมจิโต้รึเปล่า แต่จินนี่เคยเห็นพวกเพื่อนผู้ชายเขาสั่งกันน่ะค่ะ"

สุจิรารอให้ธนินยกแก้วโมจิโต้ของเขามาสัมผัสแผ่วเบา จึงยกขึ้นดื่ม ความสดชื่นที่ได้รับจากค็อกเทลแก้วนั้นไม่อาจดับความรุ่มร้อนในใจลงได้แม้แต่น้อย




กมลภัทร
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 21 ม.ค. 2556, 22:36:13 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 21 ม.ค. 2556, 22:36:51 น.

จำนวนการเข้าชม : 2979





<< ตอนที่ 12   ตอนที่ 14 >>
กมลภัทร 21 ม.ค. 2556, 22:42:25 น.
nasa >>>> ประมาณนั้นนะครับ

lovemuay >>>> นั่นสิเนอะ พอกันทั้งยอร์ชทั้งนิน

แล่นแต๊ >>>> ได้รู้แล้วนะครับ

nunoi >>>> อิอิ

panon >>>> เจอยอร์ชหักมุมเข้าให้ ^_^

น้องอุด้ง >>>> สอยลงมาให้แล้วคร้าบบบบ


จิรารัตน์ >>>> เซอร์ไพรส์จริง ๆ เหมือนไม่เห็นมาพักนึงนะครับ


lovemuay 21 ม.ค. 2556, 23:02:10 น.
งืม ถ้ายอบรับผิดไปขอโทษนางเอกซะ ตอนนี้ยังไม่สายเกินไปหรอกนะ


แล่นแต๊ 23 ม.ค. 2556, 11:14:50 น.
หมดคู่แข่งไปอีกหนึ่ง แต่ว่าหนูจาจะซวยมั๊ยเนี่ยมาเจอน้องสาวเข้า


ของขวัญ 25 ม.ค. 2556, 23:32:23 น.
งานจะเข้าหนูจาไหมเนี่ย หนีมาเที่ยวแบบนี้


น้องอุด้ง 28 ม.ค. 2556, 17:04:24 น.
แย่หละหนูจา เจอน้องทำไงหละเนี่ย><


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account