บ้านนราธร (ภาคต่อของทรัพย์สิดีฯ)
ถ้าใครเคยอ่านทรัพย์สิดี ชื่อนี้ที่ผมรัก นี่คือภาคต่อ ที่มีตัวละครคือลูกๆทั้งสามค่ะ การแหกกฏของตระกูลนราธรได้เริ่มขึ้นในรุ่นนี้ มีตัวเอก 3 คน คือ นรนทร์ ลูกชายคนโต ที่ไม่ต้องการดูแลบริษัท นราธิป ลูกชายคนรองที่ไม่ได้เป็นที่คาดหวังของใคร และสิดาริน ลูกสาวคนเล็กของบ้านที่คุณย่าต้องการให้สวยสมบูรณ์แบบ แต่เธอกลับแก่นเซี้ยว ห่างไกลคำว่ากุลสตรี

แล้วบ้านนราธร รุ่นที่ 5 จะเป็นอย่างไร

ปฏิบัติการความเป็นแม่ของทรัพย์สิดี เริ่มขึ้นแล้ว
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: (3)ไฟเชอรี่

ตอนที่ 3

1ม.ค. วันอังคาร 13.20 น.

สมุดบันทึกที่รัก

สวัสดีปีใหม่นะ วันนี้ฉันเริ่มทำตัวสุขุมนุ่มลึกแล้วล่ะ แต่ขอเล่าเรื่องเมื่อวานก่อน
พองานเลี้ยงของเราเริ่มขึ้น ฉันกับพี่ๆก็ใส่หน้ากากลงมาต้อนรับญาติ อานรันทร์กับอานลิน ยังคงใจดีและสดใสเหมือนเดิม ท่านซื้อขนมจากเชียงใหม่มาฝากพวกเราเยอะแยะไปหมด ส่วนเจ้าตัวเล็กทั้งสองก็ซนสิ้นดี ใส่ชุดสไปเดอร์แมนกับซูเปอร์แมนเต็มยศ เล่นต่อสู้ปล้ำกับพี่ชายฉันจนเกือบชนนู่นนี่ล้มให้คุณย่าใจหายเนืองๆ อานลินชอบใจหน้ากากฉันมาก บอกว่าเหมาะกับฉันดี คือน่ารักและตลก อานรันทร์ชมว่าฉันโตขึ้นแล้วสวยขึ้นเป็นกอง เว้นแต่ยังกระโดกกระเดกอยู่เท่านั้น

ไม่นานนักครอบครัวบ้านคุณลุงจิทัศน์ก็ตามมา พร้อมกับที่แพรวาเพื่อนรักของฉันมาถึง ดังนั้นเราจึงเริ่มจับกลุ่มสาวๆ คือฉัน พี่ดีน่า และแพรวา ไปคุยกันกระหนุงกระหนิงที่ซุ้มขนม วันนี้พี่ดีน่าออกจะสวยมาก เธอสวมหน้ากากเซเลอร์วีนัส ใส่ชุดกระโปรงสุ่มยาวคลุมเข่า สีฟ้าสดใส ผมยาวสวยของเธอเกล้าเป็นมวยน้อยๆน่าดูไว้ด้านหลัง อีกทั้งยังสวมถุงมือยาวสีขาว ราวกับเจ้าหญิงอีกด้วย ทำเอาฉันและแพรวาชมไม่หยุด จนพี่ดีน่าเขิน

และขณะที่พวกผู้ใหญ่คุยกันเรื่องสารทุกข์สุขดิบ รอเวลาอาหารเย็นและรอคุณปู่สุรยุทธมาถึง ฉันจึงชวนทุกคนไปเล่นเกมปาลูกโป่งที่ฉันกับพี่ๆเตรียมขึ้น นั่นคือมีซุ้มลูกโป่งแขวนไว้และใช้ลูกดอกปาให้แตก เกมนี้พวกผู้ชายสนุกกันใหญ่เพราะชอบใช้กำลังอยู่แล้ว พี่นรนทร์เลยให้พวกเราแบ่งเป็นสองทีม คือทีมชายได้แก่พี่รนทร์ พี่ธิป และพี่จิตรินลูกชายคนรองของลุงจิทัศน์ ทีมหญิงคือพวกฉัน ส่วนเจ้าตัวน้อยสองคนของอานรันทร์เป็นตัวแถม เราตกลงกันว่าใครแพ้ต้องยอมให้อีกฝ่ายสั่งให้ทำอะไรก็ได้

ขณะที่พวกเรากำลังปากันอย่างสนุกสนาน ต่างฝ่ายต่างข่มกันสุดๆ แม้ว่าฝ่ายหญิงอย่างเราจะปาได้น้อยกว่าแต่ก็ยังสู้จนกว่าจะหมดเวลา แล้วน้าลูกอ๊อด แม่ครัวคนหนึ่งก็เดินมาสะกิดแขนฉัน

“คุณหนูรินคะ คุณย่าเรียกแน่ะ" พูดแล้วพยักเพยิดไปทางคุณย่าซึ่งกำลังยืนคุยกับใครไม่รู้ ฉันถามว่าฉันต้องไปคนเดียวเหรอ น้าลูกอ๊อดก็พยักหน้า ฉันจึงขอตัวทุกคนออกมา เมื่อค่อยๆเดินเข้าไปใกล้ก็เห็นว่าคุณปู่คุณย่ากำลังคุยกับผู้ชายร่างท่วมคนหนึ่งซึ่งใส่หน้ากากอยู่ แต่เนื่องจากเขาหันข้างฉันจึงไม่อาจเห็นได้ว่าเป็นหน้ากากอะไร อีกทั้งยังมีผู้ชายร่างสูงคนหนึ่งใส่หน้ากากเช่นกันยืนกุมเป้า คือฉันหมายถึงกุมมือด้านหน้าน่ะเหมือนพวกนักฟุตบอลเวลาป้องกันการยิงจุดโทษอยา่งนั้น และเมื่อฉันเดินเข้าไป คุณย่าซึ่งผิดธีมด้วยการใส่หน้ากากขนนกก็หันมาหาฉันแล้วเรียกฉันด้วยน้ำเสียงสูงปรี๊ด ซึ่งฉันจับได้ว่า ทำให้ดูเหมือนเอ็นดูฉันสุดๆ

“สิดาริน มานี่สิลูก มาสวัสดีท่านสุรยุทธ" ฉันจึงเดินเข้าไปแล้วยกมือไหว้อย่างสวยงาม พอเงยหน้าขึ้นมาก็ได้เห็นว่า โอ้ว ให้ตายสิ ฮ่าๆๆๆๆ ฉันขอขำหน่อยนะ ผู้เฒ่าเต่าน่ะ คุณปู่สุรยุทธใส่หน้ากากผู้เฒ่าเต่า แล้วผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างหลังก็คือแบทแมน ทั้งสองคนจ้องฉัน ฉันเห็นเพียงแววตาและรู้สึกได้ว่าพวกเขามองฉันอย่างเอ็นดู

“สวัสดีหนูดารินคนสวย คนน่ารักของปู่ และนี่ก็คือ...” ผู้เฒ่าเต่า เอ้ย ท่านสุรยุทธหันไปแนะนำหนุ่มแบทแมนให้ฉัน

"กงศุล หลานของปู่เอง เคยเล่นกันตอนเด็กๆไม่รู้ยังจำได้ไหม ฮ่าๆ" แล้วท่านก็หัวเราเสียงดัง ไม่เห็นจะขำตรงไหน ฉันยกมือไหว้แบทแมน แล้วพูดฉะฉาน

“สวัสดีค่ะ รินจำไมไ่ด้ค่ะ" ฉันพูดความจริงนี่นา ทุกคนไม่ควรโกหกนะ แต่นั่นล่ะทำเอาเงียบกันทั้งวง ก่อนคุณปู่ของฉันจะพูดขึ้น

“คงนานมากแล้วล่ะ สิบกว่าปี ตอนนี้ยายรินก็ขึ้น ม.4แล้ว กงศุลก็จะจบตรีแล้ว"
แบทแมนจ้องฉัน ฉันเลยจ้องกลับ

“แต่วันนี้กลายเป็นอาราเล่ ปู่เลยจำไม่ได้เลยทีเดียว" ผู้เฒ่าเต่าพูดแล้วหัวเราะเอิ๊กอ๊ากอีก และนั่นทำให้คุณย่ากระซิบใส่ฉัน "ถอดหน้ากากซะดาริน"

ฉันเลยกระซิบบอกท่าน "ไม่ค่ะ รินถอดหลังเที่ยงคืน" แล้วคุณย่าก็หยิกฉันเบาๆ จนฉันร้องโอ๊ย

“ไม่มีมารยาท ถอดเดี๋ยวนี้" คุณย่าเอาจริงแฮะ ฉันเลยต้องถอดหน้ากากอาราเล่ออก แล้วฉันก็เผลอทำหน้าบึ้ง คุณย่ากระซิบใส่อีก "ยิ้มสิ แล้วยกมือไหว้ใหม่" ฉันก็ต้องทำตามอีก ทีนี้ผู้เฒ่าเต่าลูบศีรษะฉันอย่างเอ็นดูแล้วหัวเราะต่อไป

“สวย สวยจริงๆด้วยนะ แหมถึงว่าปู่ของหลานเลยต้องไว้หนวดเสียเลย จริงไหมนรินทร์ ฮ่าๆๆๆ" พูดเสร็จท่านกับคุณปู่ของฉันก็เดินไปที่วงของพวกอาๆ ส่วนคุณย่าก็ดูหลุกหลิกพิกล

“เอาละสิดาริน ย่าฝากพี่กงศุลด้วยแล้วกันนะ พาพี่เขาไปหาอะไรทานสิ หลานซันจ๊ะตามสบายเลยนะ"
แบทแมนยกมือไหว้แล้วพูดขอบคุณ จากนั้นคุณย่าก็เดินไปสมทบคุณปู่ ฉันกับตาแบทแมนเลยยืนจ้องกันไปมา แล้วเขาก็ถอดหน้ากากออก เผยให้เห็นใบหน้าที่แท้จริงๆ

“สวัสดีครับน้องริน พอจะจำพี่ได้หรือยัง" ฉันมองเขาพินิจพิจารณาสักครู่ โอเค ฉันไม่ปฏิเสธว่าเขาหน้าตาดี แต่น้อยกว่า บรูซ เวย์น อีกโข แล้วฉันก็ยิ้ม

“ไม่ได้เลยค่ะ" แล้วฉันก็ใส่หน้ากากอาราเล่ต่อไป พี่กงศุลเลิกคิ้วเหมือนจะผิดหวังแล้วใส่หน้ากากตัวเองบ้าง

“มาสิคะ รินจะพาไปพบพวกพี่ๆ ว่าแต่พี่กงศุลทานอะไรหรือยังคะ" ฉันถามอย่างมีมารยาท นี่ฉันถือว่าอดทนสุดๆแล้วนะ เพราะฉันเสียเวลาปาลูกโป่ง

แบทแมนเดินนิ่งๆ มองไปข้างหน้า "เรียกพี่ซันก็ได้นะน้องริน พี่ยังไม่ได้ทานหรอก แต่พาพี่ไปพบนรนทร์ กับนราธิปหน่อยเถอะ ไม่ได้เจอกันนาน" ว่าแล้วฉันก็พาเขาไป พอพวกผู้ชายเจอกัน ก็ทักทายกันใหญ่เล่นกันชวนหัวสนุกสนาน จนฉันต้องเตือนว่านี่เรากำลังแข่งกันอยู่ พี่กงศุลหรือพี่ซันจึงถามว่าเล่นอะไรกัน ฉันบอกว่าเล่นปาลูกโป่ง ฝ่ายไหนแพ้ต้องทำตามคำสั่งของอีกฝ่าย

“โอเค พี่เล่นด้วย" พี่ซันประกาศ

“คงไม่ได้แล้วมั้งคะ เพราะมีฝ่ายละ 3 คนครบแล้ว" ฉันบอก

“ไม่เอาน่าริน พูดอย่างนี้เสียมารยาทนะจ๊ะ เอางี้พี่สละสิทธิ์ขอยืนดูดีกว่า เพราะพี่ปาไม่ค่อยโดนเลย" พี่ดีน่าพูดขึ้นมา พี่คนสวยของฉันก็แสนดีอย่างนี้เสมอล่ะ ฉันกำลังจะต่อต้านแล้วเชียว แต่พี่ดีน่ากลับยื่นลูกดอกให้อีตาแบทแมนเฉย ตรงนี้เองที่ฉันสังเกตว่าตาแบทแมนจ้องหน้ากากเซเลอร์วีนัสของพี่ดีน่านานไปหน่อย และรับลูกดอกเชื่องช้าเหลือเกิน แพรวากระทุ้งแขนฉัน

“สงสัยจะตกหลุมความสวยเสียแล้วมั้ง" แล้วฉันก็หันไปตอบหล่อน

“ไม่ได้ ต้องฝ่าด่านน้องรักอย่างฉันไปก่อน ตาแบทแมนนี่ยังไว้ใจไม่ได้"

แล้วพี่ดีน่าเลยกลายเป็นพี่เลี้ยงเด็ก คอยดูแลเจ้าตัวน้อยของอานรันทร์เสียอย่างนั้น ส่วนพี่ซันมาอยู่ฝ่ายเรา
และปาลูกโป่งทำแต้มได้มากโข แพรวาปาพลาดเป็นส่วนมาก ส่วนฉันก็ปาได้บ้างไม่ได้บ้าง ดีกว่าหน่อย

“นี่พี่สอนให้ ทำมือนิ่งๆ จ้องไปตรงๆแล้ว โอ๊ย!”

“ว้าย! ได้แล้วไชโย! อุ้ย พี่ซันเป็นอะไรคะ” ฉันร้องดีใจเมื่อลูกดอกตัวสุดท้ายของทีมปาโดนลุกโป่งแตกได้ปัง แต่ก็ตกใจเหมือนกันที่อยู่ดีดีตาแบทแมนก็มายืนข้างหลังฉัน พูดกำกับข้างหู แล้วยื่นมือมาจับลูกดอกพร้อมกับฉัน ทีนี้ฉันอาจจะง้างแขนมากไปหน่อยตอนปา ศอกฉันคงไปกระทุ้งท้องแบทแมนเข้าให้

“โอย เจ็บน่ะซิ" เขาบ่นแล้วกุมท้อง แล้วฉันก็ขอโทษขอโพย จริงๆเขาผิดนะ เขาเข้ามายืนข้างหลังฉันทำไม เอ หรือเขาจะคิดมาแต๊ะอั๋งฉัน นี่ฉันอายุ 16 เองนะยะ ร่างกายฉันยังไม่พร้อม ฉันเริ่มรู้สึกไม่ดีกับนายแล้วนะ ตาแบทแมน! แล้วพี่ดีน่าก็เข้ามาพยุงแล้วพาเขาไปนั่ง ส่วนพวกพี่ผู้ชายของฉันก็ไม่ได้สนใจอะไรนอกจากนับจำนวนลูกโป่งที่แตกแล้วประกาศว่ากลุ่มฉันแพ้

“เอ จะให้ทำอะไรดี" พี่จิตรินในหน้ากากทักซิโด้เหมือนพ่อของเขาเป๊ะ พูดขึ้น

พี่นรนทร์กับพี่นราธิป ยืนกอดอกข่มฉันและแพรวา "จะให้ทำอะไรดีจ๊ะสาวน้อย"

“รู้ละ ร้องคาราโอเกะ ดีกว่า" แล้วพี่ธิปก็หัวเราะร่า "ไงแพรวา พอทำได้ไหม" พี่ธิปหยอกเธอ แล้วฉันรู้สึกได้ว่าแพรวาเขิน

“ไม่เอา!!!!รินไม่ชอบน้องเพลง พี่ธิปก็รู้" ฉันโวยวาย

แล้วพี่ผู้ชายทั้งสามก็มายืนข่มฉัน "แต่พวกเธอแพ้!” โอ๊ยยยยยยย ไม่น่าเล้ย ฉันไม่เคยร้องเพลงได้ดีเลย แล้วก็ไม่ชอบมากๆด้วย

“โอเค แล้วจะรินจะร้องไห้ ไปกันเถอะแพรวา" แล้วฉันก็จูงมือเพื่อนรักผ่านอีตาซันและพี่ดีน่าไป ด้วยความโกรธในความพ่ายแพ้ของตัวเอง จริงๆอีตาซันนั่นต้องมาร้องด้วยเหมือนกันล่ะ

ฉันกับแพรวาไปยืนตรงแถวเครื่องเสียงแล้วกระซิบบอกลุงชมว่าจะขอร้องเพลงกันหน่อย

พวกคุณแม่กับคุณยาย และอาหนูเล็กนั่งอยู่ตรงนั้นพอดี เลยพูดถามฉันอย่างเป็นห่วงว่าจะไหวหรือลูก เพราะคุณแม่รู้น่ะสิว่าฉันไม่อาไหนเรื่องร้องเพลงสุดๆ ฉันทำท่าจะบ่นแต่หันไปสบตาพี่ชายทั้งสามพอดี พวกนั้นร้ายจริงๆ พูดกันเสียงดังว่า ขี้แพ้ แล้วหัวเราะกันใหญ่ นั่นล่ะฉันถึงเดือด แล้วบอกลุงชมเปิดเพลงที่ฉันพอจะนึกออก "เพลงว้าวค่ะ"

ลุงชมมองฉันงงๆ "ว้าวอะไรคุณหนูริน"

“ว้าวประกอบละครปัญญาชนฯ ไงคะลุง ที่ลุงชอบดูเหมือนกันน่ะ" ลุงชมทำท่าคิด แล้วร้องอ๋อ ก่อนจะเลือกเพลงให้

แพรวาตัวสั่น ชะเง้อมองอะไรไม่รู้ "จะไหวเหรอริน แพรก็เสียงแย่เหมือนกัน อาย...แย่" ฉันฟังไม่ทันว่าแพรวาบอกว่าอายใคร แต่พอเพลงขึ้น ฉันก็ร้องทันที พอแพรวาเห็นฉันเต้นบ้าๆบอๆด้วย หล่อนก็สนุกขึ้นมา แล้วเราทั้งสองคนก็ร้องเพลงกันแบบไม่สนใจใคร

“หว่าว วาว วาว ว้าว ว้าว วาว อยากบอกรัก ดางๆๆ ว้าว ว่าว วาว จาเป็นไปด้ายหม๊ายยยย" ฉันร้องเต็มเสียงทั้งๆที่รู้ว่าผิดคีย์์ มองเห็นทุกคนขำกันใหญ่ คุณพ่อที่อยู่ไม่ไกลนัก พูดกับคุณแม่ให้ฉันได้ยินว่า "เหมือนคุณไม่มีผิด" แล้วคุณแม่ก็กระทุ้งสีข้างเข้าให้ และแม้แต่พี่ดีน่ายังนั่งขำ

“แต่ช้าน เป็นผู้หญิงต้องเก็บไว้ เดี๋ยวจาดูไม่ดี" ฉันกับแพรวาร้องประสานเสียงกันต่อ แล้วฉันก็เห็นคุณย่ากุมขมับ แต่คุณปู่ทั้งสองตบมือกันเกรียว ส่วนพี่ชายทั้งสามยืนขำกันใหญ่ มีเจ้าตัวเล็กทั้งสองเต้นมั่วๆอยู่ไม่ห่าง ทุกคนสนุก ฉันก็โอเคนะ แต่แล้วตาแบทแมนก็ลุกขึ้นเดินหนีไปที่ซุ้มอาหารเฉยเลย พี่ดีน่ามองตามแล้วลุกไปด้วย อะไรกัน ทุกคนกำลังสนุกกับฉันนะ แต่อีตานี่ทำไม่สนใจได้อย่างไรกัน ไร้มารยาทที่สุด พอฉันร้องกับแพรวาเสร็จ เราก็ขำกันใหญ่ อานรันทร์ และลุงจิทัศน์เดินมามอบดอกไม้ให้เราทั้งสองคน อาน่ารักจัง

ฉันพาแพรวาไปทานขนมกันแก้หิว แต่แล้วเธอก็ขอตัวไปเข้าห้องน้ำ ปล่อยให้ฉันยืนกินขนมอยู่คนเดียว แล้วก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้น

“ไงอาราเล่ ร้องเพลงผิดคีย์จนเหนื่อยเลยหรือ" ฉันหันไปมองตามเสียงก็ได้เห็นอีตาแบทแมนยืนสูงตระหง่านอยู่ ฉันไม่พอใจนะ เราเพิ่งรู้จักกัน ไม่ได้สนิทกันสักหน่อย เขามาแซวฉันได้อย่างไร

“ไม่เหนื่อยหรอกค่ะ" ฉันตอบสั้นๆ แล้วเดินหนี แต่เขาก็เดินตามมาอีก

“จำพี่ไม่ได้จริงๆหรือริน" แบทแมนเซ้าซี้ ฉันจ้องเขากลับ ด้วยหน้ากากอาราเล่ "จำได้สิคะ ทำไมรินจะจำไม่ได้"
ตาแบทแมนพูดขึ้นน้ำเสียงตื่นเต้น "จำได้แล้วใช่ไหม ตอนเด็กๆ พี่มาเล่นด้วยพักหนึ่ง ตอนนั้นรินชอบขี่คอพี่ออกบ่อย" เขาพูดอะไรน่ะ ฉันไม่เคยเล่นกับใครอย่างนั้นนอกจากพี่ชายตัวเองนะ

“เปล่าค่ะ รินหมายถึงว่ารินจำได้ ว่าคุณคือแบทแมน คู่หูโรบิ้น อ้อ ภาคล่าสุด อัศวิน รัตติกาล รินยังไม่ได้ดูค่ะ" แล้วฉันก็ขำออกมาเอง แต่แล้วอะไรติดคอฉันไม่รู้ ฉันจึงพยายามไอออกมา แต่ก็ยังติดคอ คุณแบทแมนเห็นแล้วตกใจ เลยหวังดีส่งน้ำให้ฉันดื่ม ที่ไหนได้ ฉันกลับไอเอาน้ำและเศษขนมออกมาใส่หน้ากากและชุดสูทของเขาเต็มๆ พี่ดีน่าที่อยู่ไม่ห่างจากนั้นร้องว้าย แล้วเดินเข้ามาช่วยเราทั้งสอง แต่ที่น่ากลัวกว่านั้นคือคุณย่าเดินมาจากไหนไม่รู้รวดเร็วมาก แล้วดุฉันใหญ่บอกว่าไม่มีมารยาท ไม่เป็นกุลสตรี อะไรกัน ขนมติดคอเนี่ยถึงกับต้องเสียความเป็นกุลสตรีเลยเหรอ

“ยายริน พาพี่เขาไปเช็ดคราบน้ำลายเราเดี๋ยวนี้" คุณย่าทำดุใหญ่ ฉันมองแบทแมนและคุณย่าอย่างไม่พอใจ แม้ตาแบทแมนจะบอกคุณย่าว่าไม่เป็นอะไรก็ตาม แล้วฉันก็เดินนำเขาไปที่หน้าห้องน้ำ
เราทั้งสองถอดหน้ากากออก แล้วฉันก็ใช้ผ้าแถวนั้นเช็ดหน้ากาเขาและเสื้อรวมถึงกางเกงเขาให้
“ไม่ต้องครับ เสื้อพี่ พี่เช็ดเอง อาเราเล่ เอ้ย ริน เช็ดของตัวเองเถอะ" เขาพูดยิ้มๆ ดูไม่ได้เดือดร้อนอะไร
หรือฉันต้องขอโทษเนี่ย "อ่า รินขอโทษนะคะ ทำพี่ซันสองเรื่องแล้ว รินไม่ได้ตั้งใจ"
ตาแบทแมนยิ้ม บอกฉันไม่เป็นไร แล้วก้มเช็ดเสื้อตัวเองต่อ
"ซนแต่เด็กนะเรา โตเป็นสาวก็ยังไม่เปลี่ยน" เขาบ่นเบาๆ เราเคยเจอกันมาก่อนจริงๆเหรอตอนเด็ก ฉันจำไม่ได้
"ตอนเด็กเราเคยเล่นกันเหรอคะ โทษทีรินจำไม่ได้"

เขายิ้มอย่างใจดี ฉันยอมรับว่าเขาดูใจเย็น สุขุม แล้วตอบว่าช่างมันเถอะ

พอเช็ดเสร็จเราทั้งสองออกมาที่สวนหลังบ้าน ก็เห็นว่าทุกคนกำลังจับฉลากกันแล้ว สุดท้ายฉันได้กระปุกออมสินของลูกชายคนโตของอานรันทร์ ทุกคนดูมีความสุขดีกับของขวัญแล้วก็ใกล้ถึงเวลานับถอยหลังเข้าปีใหม่ ฉันมองหาแพรวาจะถามว่าเธอได้ของขวัญของใคร แต่ก็เห็นเพียงพี่รนทร์ที่กำลังคุยอย่างสนุกสนานกับคุณพ่อ พี่จิตรินและลุงจิทัศน์ ส่วนคุณปู่ คุณย่า และคุณยาย จับกลุ่มคุยกันเอง คุณแม่ อานลิน กำลังเปิดดูอัลบัมแฟชั่นวีคล่าสุดที่อาหนูเล็กกำลังเสนอ แล้วฉันก็ได้เห็นว่า ตาแบทแมนและพี่ดีน่าของฉัน คุยกันถูกคอ แต่...พี่ธิปกับแพรวา หายไป

“วัน ทู้ วัน ทู้" ฉันจับไมค์ขึ้นพูดทดสอบเสียง สายตาทุกคู่หันมา "เอ่อ รบกวนเวลานิดนึงนะคะทุกคน รินจะบอกว่าเหลือเวลาอีกไม่กี่นาทีก็จะขึ้นปีใหม่แล้วค่ะ ถึงเวลานับถอยหลังแล้วนะคะ ขอเชิญ เอ่อ คุณปู่สุรยุทธให้เกียรติมานับถอยหลังแล้วกันค่ะ" แล้วทุกคนก็ปรบมือ พอท่านขึ้นมารับไมค์ต่อจากฉันก็ลูบศีรษะด้วยความเอ็นดูทีหนึ่ง ทีนี้ก็ได้เวลาเซอร์ไพรส์ของฉันละ ฉันเตรียมไฟเชอรี่สวยงามไว้บนต้นไม้เกือบทุกต้นรอบสวนเรา โดยอ้อนลุงชมให้ขึ้นไปติดให้ ทีนี้ฉันคิดว่าพอทุกคนนับถอยหลังเสร็จ ฉันจะแกล้งสับคัทเอ๊าท์ปิดสวิทช์ไฟในสวนทั้งหมด แล้วเปิดสวิทช์ไฟเชอรี่ตามต้นไม้แทน ทีนี้ ทุกคนก็จะตะลึงในความงามของแสงไฟยามค่ำคืน ตอนนี้แหละทุกคนกำลังนับถอยหลัง

“10 9 8 7 6 5 4 3 2 1” ฉันวิ่งไปสับคัทเอ๊าแถวห้องน้ำ ไฟในสวนดับลง มีเสียงทุกคนโวยวาย แล้วฉันก็วิ่งไปกดสวิทช์ไฟเชอรี่ในสวน แต่ปรากฏว่าฉันลืมเตี๊ยมกับลุงชมไว้ให้ทำสวิทช์ต่ำๆ สวิทช์เลยอยู่สูงบนต้นไม้ ฉันจึงพยายามปีนลำต้นซึ่งไม่สูงนัก แล้วเอื้อมมือไปคว้ากิ่งต้นไม้ที่สวิทช์ไฟแขวนอยู่ แล้วฉันก็ทำสำเร็จ ฉันเอื้อมแตะสวิทช์ถึง ทำเอาต้นไม้สว่างไสวทั้งสวน แต่ฉันดันพลาดไม่ได้เกาะต้นไม่ให้ดีเลยหล่นลงมา ตอนนั้นฉันใจหายวาบ และกรีดร้องดังแต่แล้ว ตุ้บ! ฉันนอนทับร่างร่างหนึ่งอยู่ หน้าแนบหน้า ใบหน้าของเขาเปล่าเปลือย ไม่มีหน้ากาก และแสดงออกว่าเจ็บ ส่วนฉันยังโชคดีที่ใส่หน้ากากไว้

ให้ตาย!เถอะ ฉันจะบอกว่าคนที่รองรับร่างฉันอยู่นั้นคืออีตากงศุลลลลลลล ทุกคนเห็นเราสองคนในท่านั้นก็โวยวายกันใหญ่ ฉันยังตั้งสติไม่ได้เพราะเจ็บ แต่แล้วตาแบทแมนก็เอ่ยขึ้น

“สวัสดีปีใหม่ครับ น้องดาริน"

ฉันจ้องเขาผ่านหน้ากาก แต่หน้าเราก็ใกล้ชิดกันทีเดียว พอฉันตั้งสติได้เลยกรี๊ดดังลั่น พร้อมลุกขึ้นโดยไว แล้วก็รู้สึกได้ว่าเข่าเจ็บแปล๊บ เลยล้มลงอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย อีตาแบทแมนมือไวนักเลยพยุงฉันไว้แล้ว ประคองฉันลุกขึ้น แต่ฉันก็เเข่าพับลงไปอีก ทีนี้เขาเลยอุ้มฉันขึ้นมาเสียอย่างนั้น ทุกคนจ้องฉันราวกับตัวประหลาด ตาแบทแมนก็อุ้มฉันขึ้นมาอย่างทุลักทเล

ฉันกรี๊ด "ปล่อยค่ะ ไม่ต้องอุ้ม รินเดินได้"

ตาแบทแมนยังคงใจเย็น แล้วดึงหน้ากากอาราเล่ของฉันออก ทำเอาฉันอายทุกคนเข้าไปอีก เพราะไม่รู้จะซ่อนหน้าไว้ที่ไหน

“เงียบเถอะน่า ถ้าไม่อยากอายไปมากกว่านี้" นั่นแหละ เขาเลยอุ้มฉันไปส่งในบ้าน พร้อมคำพูดบ่นว่าของคุณย่าและคุณแม่เต็มสองรูหูฉันตลอดคืนนั้น

นี่ล่ะสมุดบันทึก เป็นเหตุผลที่ฉันไม่ชอบเขา เพราะคุณแม่ว่าว่า ฉันเล่นอะไรพิเรนทร์ไม่รู้เรื่อง เป็นผู้หญิงไปใกล้ชิดผู้ชายอย่างนั้นได้อย่างไร ทำเอาพี่กงศุลเจ็บตัวและทำตัวกะโปโลต่อหน้าทุกคนได้น่าอายนัก มีเด็กผู้หญิงกี่คนที่ปีนต้นไม้แล้วตกมาตอนอายุ 16 กัน แต่คุณย่ากลับมากระซิบฉันตอนใกล้จะหลับว่า ดีมากลูกเอ๋ย นี่มันเรื่องอะไรกัน

ใช่สิ ใครจ้างให้เขามารับตัวฉันไว้ล่ะ ตาบ้าเอ๊ย!
สิดาริน



ลายเส้น
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 23 ม.ค. 2556, 10:04:55 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 23 ม.ค. 2556, 10:09:05 น.

จำนวนการเข้าชม : 1774





<< (2)ครึ่งทาง   (4) สุขุม >>
จิรารัตน์ 23 ม.ค. 2556, 11:37:55 น.
มาให้กำลังใจนักเขียนจ้า


sunflower 23 ม.ค. 2556, 11:45:37 น.
ฮั่นแน่ คุณย่ารู้นะคิดอะไร ^O^


konhin 23 ม.ค. 2556, 12:15:54 น.
ฮ่าๆๆ ฮาเหมือนแม่เลย เอาอีกๆๆ


Edelweiss 23 ม.ค. 2556, 13:07:06 น.
พี่กงศุลเสร็จหนูดารินแน่ ๆ 55555


ใบบัวน่ารัก 23 ม.ค. 2556, 19:01:38 น.
ว้าวววววว แหมเป็นแฟนฉัน ตั้งแต่เด็กเชียว
น่ารักมาก>//< พี่ซัน ใจละลายๆๆๆ


omelate 23 ม.ค. 2556, 20:01:18 น.
น่ารักกกก


Kapoh 23 ม.ค. 2556, 22:31:13 น.
อ่านแล้วยิ้มไม่หุบเลยค่ะ

อะแฮ่มๆ..รู้นะคะว่าคุณย่าคิดอะไรอยู่


ลายเส้น 24 ม.ค. 2556, 00:40:26 น.
ทุกคนชอบ เราก็ดีใจคะ^^


oolong 24 ม.ค. 2556, 07:32:03 น.
ดีใจที่คุณเขียนเรื่องต่อ. คิดถึงตัวละครทุกตัวค่ะ


goldensun 24 ม.ค. 2556, 21:37:46 น.
เหมือนกงศุลจะชอบดารินตั้งแต่เด็กนะ ถึงอยากให้จำได้ แต่สาวเจ้ากลับลืมสนิท


ลายเส้น 24 ม.ค. 2556, 21:43:06 น.
หึหึ


ผักหวาน 13 ก.พ. 2556, 20:51:20 น.
5555 ขำลูกสาวแม่สิดี


kaze 3 มี.ค. 2556, 02:26:33 น.
"ร่ายกายฉันยังไม่พร้อม"....เป็นความคิดที่สมกับลูกสาวทรัพย์สิดีจริง ๆ แฮะ 555


ณิณ 4 พ.ย. 2556, 11:21:36 น.
พิมพ์เดียวเป๊ะ เลยค่ะ 5555


kaze 22 มี.ค. 2557, 09:38:27 น.
อ่านอีกรอบ ก็ฮา
ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นจริงๆ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account