บ้านนราธร (ภาคต่อของทรัพย์สิดีฯ)
ถ้าใครเคยอ่านทรัพย์สิดี ชื่อนี้ที่ผมรัก นี่คือภาคต่อ ที่มีตัวละครคือลูกๆทั้งสามค่ะ การแหกกฏของตระกูลนราธรได้เริ่มขึ้นในรุ่นนี้ มีตัวเอก 3 คน คือ นรนทร์ ลูกชายคนโต ที่ไม่ต้องการดูแลบริษัท นราธิป ลูกชายคนรองที่ไม่ได้เป็นที่คาดหวังของใคร และสิดาริน ลูกสาวคนเล็กของบ้านที่คุณย่าต้องการให้สวยสมบูรณ์แบบ แต่เธอกลับแก่นเซี้ยว ห่างไกลคำว่ากุลสตรี

แล้วบ้านนราธร รุ่นที่ 5 จะเป็นอย่างไร

ปฏิบัติการความเป็นแม่ของทรัพย์สิดี เริ่มขึ้นแล้ว
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: (4) สุขุม

ตอนที่4

“ว้ายสายแล้วค่ะคุณ!!!” ฉันโวยวายเป็นยายเพิ้งเมื่อตื่นเช้ามาแล้วพบว่าเป็นเวลาเจ็ดโมงครึ่งของวันที่ 2 มกราคม เมื่อคืนฉันนอนไม่ค่อยหลับ เพราะคุณนรินทร์ใช้คอมพิวเตอร์จากโต๊ะทำงานข้างเตียงแล้วแสงเข้าตาฉัน คุณนรินทร์ก็คงนอนดึกพอสมควร เราทั้งสองจึงตื่นสายอย่างนี้ เขาดูเลิ่กลั่ก ไม่แพ้กันก่อนจะกระโดดลุกจากที่นอนโดยไวไปเข้าห้องน้ำ ส่วนฉันก็เปิดตู้เสื้อผ้า หยิบเสื้อผ้าของเขาออกมาวางเป็นชุด มีสูทสีเข้มที่เขาชอบ เสื้อเชิร์ตสีฟ้าอ่อน เน็กไท และกางเกงแสล็ค พอเขาออกมาจากห้องน้ำหลังจากเข้าใช้เวลาไม่ถึงสิบนาที ฉันก็จะออกจากห้องนอนไปเตรียมอาหารให้

“นั่นคุณจะไปไหน" เขาถามขณะกำลังใส่เชิร์ต แม้เราทั้งสองจะอายุขึ้นเลข 4 แล้ว แต่คุณนรินร์ก็ยังไม่มีพุง อาจจะเพราะออกกำลังกายอย่างสม่ำ้เสมอ ส่วนฉันนี่สิ หลังจากมีลูกสามคน น้ำหนักก็ขึ้นมา 10 โล ดีที่ยังไม่ได้ดูอ้วนเผละ แต่ก็มีเนื้อมีหนังกว่าเดิม

“ฉันจะไปเตรียมอาหารให้คุณทานในรถไงคะ อาหารกลางวันด้วย ฉันรบกวนป้าเนียรให้ทำใส่กล่องไว้แล้ว" ฉันพูดพลางใส่เสื้อคลุมทับชุดนอนแล้วรวบผมเป็นมวยไว้ คุณนรินทร์เดินเข้ามาหา แล้วยื่นเน็กไท ของเขาให้ ก่อนจะเอามือมาโอบเอวฉัน

“เอ่อ ใส่เน็กไท ให้หน่อย" เขามาทำอ้อน นี่มันเกิดอะไรขึ้น ตั้งแต่เราเริ่มมีลูกเล็กๆ เราก็แทบไม่ได้หวานกันอีกเลย เกือบจะยี่สิบปีได้แล้วมั้ง เราจะออกแนวคุยปรึกษากันมากกว่า มีไปทานข้าวเฉพาะวันเกิดกับวันครบรอบแต่งงาน (ฉันดีใจที่เขาใส่ใจและจำได้นะ) นอกนั้นเราจะพูดคุยกันฉันเพื่อน ไม่จี๋จ๋า เหมือนแรกๆอีกแล้ว แล้วนี่มันอะไรกัน

ฉันจ้องเขางงๆแล้วรับมาอย่างยินดี ก่อนจะคล้องคอแล้วรูดไทอย่างสวยงาม ไม่มีการรัดคอแบบสมัยสาวๆอีก แล้วเขาก็ก้มศีรษะหอมแก้มฉันทีหนึ่ง แล้วพูดเบาๆว่า ชื่นใจ

“อุ๊ย" ฉันอุทาน มันตกใจจริงๆนะ คุณต้องลองนึกภาพสิว่าเราไม่ได้ทำหวานกันมานานมาก เราแค่เรื่อยๆ แต่มั่นคง

“ตกใจทำไม ทำอย่างกับเป็นสาวบริสุทธิ์" ต๊ายตาบ้า พูดกับฉันอย่างนี้ทำไม แล้วฉันก็ผลักอกเขาโดยแรง

“ก็คุณไม่ได้หวานกับฉันมานานมากแล้วนี่ เกิดอะไรขึ้นมาล่ะ สายแล้วคุณ ไปเถอะ เดี๋ยวไปส่งลูกไม่ทัน" แต่ก่อนเราจะออกจากห้องกันไป ตานรินทร์ก็โอบเอวฉันไว้อีกแล้วกระซิบข้างหูเบาๆ "คืนนี้ผมกลับดึกหน่อยนะ" ฉันไม่ได้สงสัยอะไรแล้วพยักหน้าอายๆเล็กน้อยกับการกระทำของเขา เพราะคุณนรินทร์ไม่เคยกลับดึกเลย

แต่พอเราทั้งสองเปิดประตูออกมาจากห้องนอน ก็พบว่าสิดารินเพิ่งวิ่งผมกระเซิงในชุดนักเรียนออกมาจากห้องนอน พอเห็นเราทั้งสองคนก็ตาโต ปากก็พูดว่า อย่าเพิ่งบ่นรินนะคะ รินสายแล้วค่ะ ก่อนจะวิ่งจู๊ดลงบันไดไปที่ห้องอาหาร ส่วนลูกชายของฉันทั้งสองคนโวยวายกันอยู่ในห้องนราธิปจนฉันต้องเดินเข้าไปดูก็พบว่า นรนทร์หาหนังสือเรียนของตัวเองไม่เจอ เลยมาค้นห้องนราธิป

“ธิปจะมีได้ไงพี่รนทร์ ธิปเห็นพี่รนทร์อ่านอยู่ที่ศาลาเมื่อวานเหอะ" นรนทร์ทำนิ่งคิดแล้ววิ่งคว้ากระเป๋าตัวเองออกไป ส่วนฉันไล่คุณนรินทร์ให้ไปที่ห้องครัว ก่อนนราธิปจะทำหน้าเหยเก

“คุณแม่ครับ ผมต้องคัดทีมบาสโรงเรียนวันนี้ แล้วหาถุงเท้าคู่ใจไม่เจอ"

ฉันกุมขมับ ไอ้เจ้าถุงเท้าสีน้ำเงินไม่มียี่ห้อ ที่ป้าเนียรซื้อมาฝากจากตลาดนัด แต่ใส่กี่ครั้งก็ชนะหรือผ่านการคัดตัวทุกครั้งเนี่ยนะ มันขาดจนฉันต้องปะเป็นหลายครั้ง ฉันพยายามเสนอจะซื้อคู่ใหม่ที่เหมือนเป๊ะให้ แต่นราธิปไม่เคยยอม

“แล้วลูกเห็นครั้งล่าสุดเมื่อไหร่" พูดพลางจ้องนาฬิกาพลาง จะแปดโมงแล้ว

“ไม่แน่ใจ สงสัยสัปดาห์ก่อน ธิปถอดส่งใส่ตะกร้าไป"

“เอาละๆ ลูกลงไปกินอะไรก่อน เดี๋ยวแม่หาให้" นราธิปลงไปสมทบกับคนอื่นแล้ว ส่วนฉันเดินไปหลังบ้านบริเวณเครื่องซักผ้า พี่ลูกกบแม่บ้านคนหนึ่งเห็นฉันมาด้อมๆ มอง ฉันเลยถามดู

“เอ ลูกกบเห็นแว้บๆ แถวตะกร้านะคะ"

พอฉันไปดู ก็เจอจริงๆ สงสัยซัักกันแล้วลืมเก็บคิดว่าเป็นของเก่าใช้ไม่ได้ล่ะมั้ง ฉันวิ่งโร่เอาไปให้ลูกชายที่ห้องอาหาร แต่สี่คนพ่อลูก เดินไปขึ้นรถกันแล้ว

“หึหึ วันนี้สายกันทั้งบ้านนะ" คุณพ่อหัวเราะอย่างใจเย็น

ฉันจึงต้องติดเกียร์ห้าวิ่งไปที่โรงรถ พอนราธิปเห็นฉันก็โบกมือพัลวัน แล้วนั่นอะไร โอยย ยายสิดาริน ลูกสาวตัวดีของฉัน ผมเผ้ายุ่งเหยิงยังไม่ได้มัดเลย ฉันเดินไปประชิดรถแล้วสั่งให้คุณนรินทร์อย่าเพิ่งขับออกไป ตั้งแต่เรามีลูก คุณนรินทร์ไม่ได้นั่งบีทีเอสอีก เขาขับรถไปส่งลูกๆด้วยตัวเองทุกวัน

ฉันยื่นถุงเท้าให้นราธิป ลูกชายคนรองรับไปใส่โดยไว แล้วฉันก็ดึงตัวสิดารินมาถักเปียเดี่ยวให้เรียบร้อย ฉันทำจนชิน ทั้งๆที่เมื่อก่อนทำไม่เป็นเลย แต่พอมามีลูกสาว อะไรที่ไม่เคยทำ ก็ต้องทำให้ได้

“ทำไมไม่เรียบร้อยอย่างนี้ล่ะลูก แล้วทำไมวันนี้ตื่นสายกัน" พูดพลางใช้โบผูกผมเป็นอันเสร็จ

“อย่าเพิ่งบ่นเลยครับ ไปกันเถอะครับคุณพ่อ" นรนทร์พูดขึ้น พ่อลูกชายนักเรียนดีเด่นไม่ชอบไปสาย แล้วคุณนรินทร์ก็ปลดกระจกมายักคิ้วให้ฉันทีหนึ่งแล้วขับรถออกไปอย่างรวดเร็ว

ภารกิจตอนเช้าอันแสนวุ่นวายของฉันเป็นอันจบลง

ถ้าทุกคนสงสัย ตอนนี้ฉันไม่ได้เป็นเลขาแล้วค่ะ ออกมาทำงานเป็นแม่บ้านเต็มตัว

ฉันเดินเข้ามาในบ้าน รู้สึกหิวเป็นกำลัง ว่าจะขึ้นไปอาบน้ำแต่งหัวให้เรียบร้อยเสียหน่อย แต่แล้วแม่สามีของฉันซึ่งวันนี้ทำผมกระบังสูงกว่าเดิม กำลังนั่งเปิดนิตยสาร ก็กวักมือเรียกฉันเข้าไปหา

“สิดีมานี่สิจ๊ะ วันนี้โทรชวนนิดหน่อยมาด้วยสิ (แม่ฉันเอง) บ้านเราจะเลี้ยงต้อนรับท่านสุรยุทธอย่างเป็นทางการน่ะ แม่ต้องรบกวนสิดีช่วยเรื่องอาหารหน่อยนะ"

เดี๋ยวนี้ฉันทำอาหารคล่องแล้วนะคะ "ได้ค่ะคุณแม่แล้วมีใครมาเพิ่มอีกไหมคะ เสียดายนะคะคุณรันกลับไปซะแล้ว จะได้ทานพร้อมหน้าพร้อมตากันอีก"

คุณแม่หยิบหนังสือตำราอาหารส่งให้ฉัน "แม่กะว่าเดือนหน้าจะขึ้นไปเยี่ยมตารันกับแม่นลินที่เชียงใหม่สักหน่อย จะได้หายคิดถึง วันนี้มีแค่บ้านเรากับท่านสุรยุทธและหลานกงศุล" พอพูดถึงชื่อนี้คุณแม่มีแววตาเป็นประกาย

“สิดีว่าตากงศุล เป็นยังไง"

ฉันนึกภาพชายหนุ่มหน้าตาดี รูปร่างสูงโปร่ง แววตามุ่งมั่น ฉันชอบรอยยิ้มของเขานะ เวลายิ้มดูใจดี ออกจะเจ้าชู้นิดๆ ฉันเคยเห็นเขาตอนเด็กๆไม่กี่ครั้ง เขามาเล่นกับลูกๆของฉันอยู่พักหนึ่ง แต่พอคุณพ่อของเขาถูกส่งไปประจำการประเทศนอก กงศุลก็หายไป ได้ข่าวว่ากลับมาเรียน ม.ปลายที่ประเทศเรา แต่ช่วงนั้นฉันก็ไม่ได้เจอเลย และแล้วภาพที่ยายสิดารินตกต้นไม้ลงมาทับตากงศุลที่วิ่งไปช่วยได้ทันอย่างไม่เป็นท่า แล้วอุ้มลูกสาวฉันมาส่งถึงในบ้าน ฉันก็ขอยอมรับว่าเขาสุภาพบุรุษดี

“เป็นเด็กผู้ชายที่น่ารักดีนะคะ"

คุณแม่ทำตาโต "ต๊าย คำแค่นั้นมันไม่พอหรอกนะจ๊ะ กงศุลน่ะเขาได้ทุนไปเรียนรัฐศาสตร์ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่มหาลัยชั้นนำของอังกฤษ สมัยเด็กๆ ก็เรียนดีมาตลอด แถมหน้าตาก็หล่อเหลา ตระกูลพ่อกงศุลก็เป็นทูตมาตั้งแต่สมัยคุณทวด ที่สำคัญ" คุณแม่สายตาแพรวพราวมาก ฉันไม่ไหวแล้วนะ

“ท่านสุรยุทธสนิทกับเรามากด้วย แล้วตากงศุลก็เคยมาเล่นกับสิดารินตั้งแต่เล็ก" ดูคุณแม่จะเน้นคำนี้มาก

“แล้วยังไงเหรอคะ" ฉันถามแบบซื่อๆ คุณแม่ทำเสียงฮึดฮัด

“ไม่ยังไงหรอก เอาเป็นว่าแม่ปลื้มเด็กคนนี้ เอาละสิดี แม่ฝากเรื่องอาหารหน่อยนะ เดี๋ยวแม่จะไปรับเสื้อผ้าที่ร้านหนูเล็ก เสื้อผ้าสิดารินน่ะ"

ฉันประหลาดใจ นี่คุณแม่ตัดเสื้อผ้าให้สิดารินอีกแล้วเหรอ คุณแม่ก็รู้ยายรินน่ะ ไม่ชอบใส่อะไรอย่างนั้น เปลืองจะตาย "อีกแล้วเหรอคะ แล้วคุณแม่รู้ไซส์ยายรินเหรอคะ " ฉันประหลาดใจ เพราะล่าสุดที่ยายรินยอมให้วัดตัวคือตอน ม.1

คุณแม่หัวเราะแบบผู้ชนะทุกทิศ (คือสิบทิศอาจจะน้อยไป) “แม่แอบไปวัดตอนสิดารินนอนหลับน่ะสิ ได้ไม่ครบก็กะเอา ใช้ได้หลายชุดอยู่นะ ฮึฮึ" ท่านพูดแล้วลุกเดินจากไป

แม่สามีฉัน...ฉันยอม...ท่านชนะเลิศทุกงาน


2 ม.ค.วันอังคาร 16.30น.

สมุดบันทึกที่รัก

วันนี้เป็นวันอะไรไม่รู้ของครอบครัวเรา ฉันตื่นสาย มัดผมไม่ทัน คุณพ่อคุณแม่ก็ตื่นสาย พี่รนทร์ พี่ธิปก็ตื่นสาย แถมหาของกันให้วุ่น คุณพ่อคุณแม่ตื่นสายฉันไม่ทราบสาเหตุหรอกนะ บางที่ท่านอาจจะกำลังทำกิจกรรมเข้าจังหวะ ซึ่งจริงๆ ฉันก็ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไร แต่พี่รนทร์กับพี่ธิปชอบพูดว่าเป็นกิจกรรมที่จำเป็นของคุณพ่อคุณแม่ตอนกลางคืน

แต่ฉันกับพี่ๆตื่นสายเนี่ย เป็นเรื่องที่บ้ามากๆ เพราะสี่ทุ่มของเมื่อวานฉันจะไปยืมหนังสือภาษาอังกฤษที่มีเฉลยสมัยพี่ธิปเรียน ม.4 แต่ปรากฏว่าพี่ธิปลืมล็อกประตู พอฉันเปิดประตูเข้าไปก็เจอพี่ธิปกำลังแกะของขวัญกล่องกระทัดรัดกล่องหนึ่งอยู่ พี่ธิปอ้าปากหวอตกใจสุดขีด ฉันถามว่าใครให้มา พี่ธิปหุบปากเงียบ ฉันจึงไปลากตัวพี่รนทร์ที่กำลังอ่านหนังสือเตรียมสอบอยู่มาช่วยสอบปากคำ แต่พี่ธิปเก็บของขวัญนั้นไปแล้ว เหลือแต่ซากล่องรุ่งริ่ง

“ใครให้มา ทำไมบอกพวกเราไม่ได้ คิดจะมีแฟนก่อนคนอื่นเหรอ" ฉันแกล้งกอดอกถามจริงจัง ฉันจะไปหวงอะไร้ พี่ชายฉันมีแฟนน่าจะสนุกดีออก ฉันจะไปเที่ยวเป็น ก ข ค กับพี่ชายด้วยทุกครั้งเลย ล้อเล่นหรอกนะ

พี่ธิปตีหน้านิ่ง "เพื่อนพี่ให้มา ไม่มีอะไรพิเศษนี่"

ตลกแล้ว โรงเรียนพี่ธิปเป็นชายล้วน มีแต่เพื่อนผู้ชาย กล่องของขวัญห่อกระดาษกุ๊กกิ๊กขนาดนั้น ผู้หญิงให้มาอยู่แล้ว

พี่รนทร์ทำหน้าใช้ความคิด แล้วขยับแว่นเบาๆ "หรือจะเป็นซูซี่ห้อง3”

คำพูดนี้ทำเอาฉันหันขวับ พี่รนทร์เลยบอกว่าซูซี่คือเพื่อนชายใจหญิงที่ดังที่สุดในโรงเรียน มีข่าวว่าชอบแอบไปดูที่ธิปซ้อมบาสบ่อยๆ ชื่อจริงคือ สุชาติ ฉันขำกิ๊ก

“บ้าน่า เลิกยุ่งเถอะ นี่มันเรื่องส่วนตัว" พี่ธิปพูดคำนี้ออกมาพวกเราเลยโกรธ เพราะเราสามคนพี่น้องไม่มีใครมีความลับ สมัยพี่รนทร์ปิ๊งสาวที่เรียนพิเศษด้วยกันเป็นครั้งแรก ยังบอกฉันแล้วให้ฉันพาไปซื้อของขวัญเลย แต่สุดท้ายแห้วนะ เพราะหล่อนเป็นเลสเบี้ยน นั่นล่ะพวกเราเลยเค้นเอาคำตอบจากพี่ธิปทั้งคืน ทั้งเค้นทั้งขู่ ทั้งทำน้อยใจ ไหนว่าจะไม่มีความลับต่อกัน กว่าพี่ธิปจะเผยมาสักนิด ก็เกือบเที่ยงคืนแล้ว เหนื่อยจริงๆ

“เออๆ ผู้หญิงให้มา ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้น มีแล้วจะบอก ไปนอนกันไป๊"​ แล้วไล่พวกเราออกมา พวกเรายอมนะ เพราะง่วงมากๆ เลยเป็นเหตุให้ตื่นสายนั่นล่ะ

ตอนนี้ฉันรอแพรวา และพี่ดีน่า ให้มารวมตัวกันที่หน้าโรงเรียน เพราะอยากไปทานไอศกรีมก่อนกลับบ้าน วันนี้คุณพ่อไม่มารับเพราะติดธุระ จะกลับมืด เลยส่งลุงชมมา ส่วนพี่ชายของฉันจะกลับกันเอง พี่รนทร์รอพี่ธิปคัดตัวนักกีฬาบาสของโรงเรียนวันนี้ลุงชมยังไม่รู้หรอกว่ากำลังจะถูกฉันอ้อนให้แวะห้างแถวๆบ้านสักหน่อย แต่ลุงชมรักฉันอยู่แล้ว ยอมฉันตลอด อิอิ

นั่นไงพี่ดีน่ากับแพรวา มาพอดี รถของบ้านฉันก็มาพอดี ถ้าอย่างนั้นฉันไปก่อนนะสมุดบันทึก แล้วจะกินไอศกรีมเผื่อนะจ๊ะ
สิดาริน



2ม.ค. วันอังคาร สี่ทุ่ม

สมุดบันทึกที่รัก

จำได้ไหมที่ฉันพยายามจะทำตัวสุขุมน่ะ ฉันจะบอกว่ามันทำยากมากเลยนะ ถึงมันจะทำให้ชีวิตฉันดีขึ้นไม่มากนัก แต่ฉันจะลองอีกสักที

ฉัน แพรวา พี่ดีน่า ไปนั่งทานไอศกรีมกันที่ร้านน่ารักๆ บรรยากาศดีในห้างสรรพสินค้าแถวบ้าน มันเป็นเรื่องปกตินะ ที่เวลาฉันไปที่ไหนๆกับพี่ดีน่าแล้วจะมีแต่ผู้ชายมองเหลียวหลัง เพราะพี่ดีน่าออกจะสวย บุคลิกสง่างามปานนั้น วันนี้ก็เช่นกัน ขณะที่เราทั้งสามกำลังนั่งทานไอศกรีมและพูดคุยกันเรื่องเพื่อนคนหนึ่งที่โรงเรียน ก็มีพนักงานเสิร์ฟคนเดินเข้ามาวางสตรอเบอรี่ สมู้ทตี้ข้างพี่ดีน่า พี่ดีน่ามองอย่างสงสัยแล้วบอกว่าไม่ได้สั่ง

“คุณผู้ชายโต๊ะนู้น ส่งมาค่ะ" เราทั้งสามจึงหันไปมองเป็นตาเดียว เห็นผู้ชายร่างบึ้กคนหนึ่งนั่งอยู่มีไอศกรีมวางตรงหน้าหนึ่งถ้วย แล้วเขาก็ยิ้มให้พวกเราเฉย เอ่อ เขาคงยิ้มให้พี่ดีน่าล่ะ แล้วพวกเราก็หันกลับมาสุมหัวกันทันที
“ทำยังไงดี ไม่กินก็กลัว กินก็เดี๋ยวหาว่าตอบรับ" พี่ดีน่าหน้าซีดเผือด

แพรวาดูดน้ำดังจู๊ด แล้วมองไปที่ตานั่น "เขาดูเป็นคนดีนะคะ อาจจะไม่มีอะไรหรอก เราก็ทานกันทั้งสามคนดีไหมคะ รินว่าไง" พูดเสร็จก็มองฉันหวั่นๆ ปกติเวลามีอะไรแบบนี้ฉันชอบทำอะไรบ้าๆ บางทีก็แย่เกินไป เช่นครั้งหนึ่งเราไปช็อปปิ้งกันสามคน มีผู้ชายมาขอเบอร์พี่ดีน่า พี่ดีน่ากลัว ฉันเลยบอกว่า รับเบอร์รองเท้าก่อนไหมคะ แล้วพาพี่ดีน่าวิ่งจู๊ดหนีไปไกลเลยทีเดียว

แต่คราวนี้ไม่ เพราะฉันจะทำตัวสุขุม ฉันเปลี่ยนไปแล้ว ฉันยืดตัวขึ้น พยายามทำท่านิ่งแบบเป็นผู้ใหญ่เสียเหลือเกิน

“เขาให้มา ก็รับตามมารยาทเถอะค่ะ หันไปยกมือไหว้เขาดีไหมคะ แล้วแบ่งกันทาน" สองสาวมองฉันอึ้งๆ ประมาณว่าวันนี้มาแนวไหน แนวสวย สุขุม สิคะ ฉันเลยนับหนึ่ง สอง สาม แล้วเรา สามคนก็หันไปไหว้เขา พอฉันเงยหน้าขึ้นมา ปรากฏว่า ตาล่ำบึ้กคนนั้นมองพวกเรางงๆ แล้วรับไหว้แบบเขินๆ ก่อนจะหันไปมองผู้ชายที่เพิ่งมานั่งข้างๆ สงสัยจะเป็นเพื่อน เพื่อนพ่อหนุ่มลำบึ้กเลยสงสัยแล้วมองมาทางพวกเรา ให้ตายสิ...

“พี่กงศุล!" พี่ดีน่าพูดออกมาอย่างตื่นเต้น แล้วยิ้ม ฉันกับแพรวามองหน้ากัน

อีตาแบทแมน เอ้ย กงศุล มองพวกเรางงๆ แล้วหันไปมองเพื่อนตัวเอง พ่อบึ้กนั่นเลยอธิบายอะไรสักอย่าง แล้วพี่กงศุลก็หัวเราะลั่น ก่อนจะเดินดุ่มมาหาเรา

ภาพที่ฉันตกจากต้นไม้ทับเขาอย่างไม่เป็นท่า ปรากฏขึ้น ไม่ได้ๆ ต้องคงมาดสุขุมไว้ ฉันบอกตัวเอง

“ไง สาวๆ มาทานไอศกรีมเหรอครับ" เขาทักน้ำเสียงอารมณ์ดี ฉันคิดในใจ แล้วนี่มันร้านจิ้มจุ่มหรืออย่างไร แต่ไม่ได้ๆ ฉันกำลังสุขุมได้ที่

ฉันยกมือไหว้ ก้มศีรษะอย่างงดงาม "สวัสดีค่ะ พวกเรากำลังทานไอศกรีมค่ะ เชิญพี่ซันนั่งก่อนค่ะ" แล้วทั้งอีตากงศุล พี่ดีน่า และแพรวา ก็มองฉันอย่างทึ่ง ฉันไม่ได้ถูกเจ้าเข้านะ อย่าคิดมากสิ ฉันกำลังเปลี่ยนตัวเอง

พี่ซันมองฉันยิ้มๆ แล้วมองพี่ดีน่า "ไปนั่งกับพวกพี่ไหมครับ" เราสามสาวมองกันเอง ฉันมองแพรวา หล่อนทำเฉยๆ มองพี่ดีน่า พี่ยิ้ม ฉันแปลไม่ออก ส่วนฉัน เฮ้อ...ฉันไม่ชอบนั่งกับคนที่ไม่สนิท

ฉันยกมือไหว้พี่กงศุลอีกครั้ง "ขอบคุณนะคะในความกรุณา แต่พวกเราทานอิ่มแล้วล่ะค่ะ เย็นมากแล้ว เดี๋ยวคุณแม่จะห่วง คงต้องกลับก่อน" ฉันไม่รู้ว่าคนอื่นมองฉันอย่างไร แต่อีตากงศุลมองกิริยางดงามของฉันแบบแปลก แล้วยิ้มมุมปาก ก่อนจะพูดสั้นๆว่า ครับ

ฉันมองสตรอเบอรี่สมู้ทตี้แล้วเสียดาย เลยใช้หลอดดูดน้ำของตัวเองใส่แก้วนั้นแล้วดูดรวดเดียวหมด ทุกคนมองฉันอย่างอึ้ง

“ฝากขอบคุณเพื่อนพี่ซันด้วยนะคะ ไปกันเถอะทุกคน" แล้วฉันกับสองสาวก็เดินออกมาจากร้านอย่างสง่างาม

แพรวาหัวเราะ "รินเป็นอะไรเหรอวันนี้ ทำไมทำท่าหยิ่งๆชอบกล"

สวนพี่ดีน่ามองเหลียวหลังไปที่ร้านไอศกรีม แล้วไม่พูดอะไรอีก

“ก็ไม่มีอะไรนี่จ๊ะ แพร กลับกันดีกว่า อยากรู้จังพี่ธิปคัดตัวผ่านหรือเปล่า"

“พี่ธิปคัดตัววันนี้เหรอ"​แพรวาถาม ฉันบอกว่าใช่ แล้วเธอก็หน้าแดงๆ เราทั้งสามแยกย้ายกัน พี่ดีน่ามีคุณลุงจิทัศน์มารับ ส่วนแพรวานั่งรถโดยสารกลับเอง เนื่องจากบ้านอยู่ใกล้แถวนี้

ลุงชมพาฉันมาถึงบ้านอย่างปลอดภัย แต่เมื่อฉันเหยียบเท้าเข้าบ้านเท่านั้นล่ะ ความหายนะมาถึงฉันอีกแล้ว

คุณย่าเดินนวยนาดเข้ามา กระบังผมสูงกว่าปกติ

“มาแล้วเหรอหลานรักของย่า มานี่สิจ๊ะ ชุดวันนี้ของหนู สวยไหมล่ะ" คุณย่านำชุดกระโปรงยาวเท่าเข่า สีสันน่ารักมาทาบตัวฉัน

ฉันหน้าบึ้ง แล้วคิดในใจว่า ไม่โวยวาย สุขุม เข้าไว้

ฉันสบตาคุณแม่ คุณยาย ที่นั่งอยู่ ประมาณว่าจะดูปฏิกิริยาของฉันว่าจะโวยวายแค่ไหน แต่เปล่า ฉันกลับยิ้ม

“คุณย่าจะพารินไปงานไหนอีกเหรอคะ" แล้วคุณแม่กับคุณยายก็ถอนหายใจโล่ง ดุคุณย่าจะประหลาดใจเช่นกัน

“ไม่ไปงานไหนหรอกจ้ะ วันนี้ย่าเชิญท่านสุรยุทธกับตากงศุลมาทานอาหารน่ะ เลี้ยงต้อนรับอย่างเป็นทางการ เดี๋ยวอาทิตย์หน้ากงศุลก็ต้องกลับไปเรียนที่อังกฤษแล้ว"

อะไรนะ อีกแล้วเหรอ ฉันเพิ่งจะเจอเขาไปเองนะเนี่ย แล้วทำไมต้องต้อนรับอีตาแบทแมนด้วย ฉันไม่ห็นจะเข้าใจ

ฉันรับชุดไปอย่างไม่ขัดขืน ทั้งๆที่ในใจอยากกรี๊ด

“ค่ะ ถ้าอย่างนั้นรินขอตัวไปอาบน้ำนะคะ" แล้วฉันก็รีบเดินขึ้นห้องไปบ่นกับตัวเองดังๆในห้องน้ำ ว่าเบื่อจังเลยยยยย

ฉันก็ทำได้แค่นี้ล่ะนะ ฉันรู็สึกว่าความสุขุม นุ่มลึก อะไรเนี่ย มันไม่เหมาะกับฉันจริงๆ แต่ข้อดีคือ ฉันไม่ต้องเหนื่อยทะเลาะกับคุณย่า หลังจากฉันอาบน้ำเสร็จก็แต่งตัวแล้วลงมาข้างล่าง ได้ยินเสียงคุยกันหลายคน จึงพอจะนึกออกว่า คนสำคัญของคุณย่ามาแล้ว คุณแม่เห็นฉันเลยเข้ามาประชิดตัว แล้วลูบเนื้อลูบตัวฉัน ชมว่าชุดนี้สวย แล้วคุณย่าก็เดินมาสมทบอีกคน

“สิดาริน แต่งตัวเสร็จแล้วเหรอจ๊ะ มานี่เร็ว สวัสดีท่านเสียสิ" แล้วสายตาทุกคู่ก็จับจ้องมาที่ฉัน ฉันเห็นละ อีตากงศุลเปลี่ยนชุดที่เป็นทางการมากกว่าเดิม เขากำลังคุยกับพี่รนทร์และพี่ธิปที่เพิ่งกลับมา พี่ธิปเหงื่อท่วมตัว หน้าแดงแต่ยิ้มแย้ม สงสัยคัดตัวผ่าน ฉันเดินเข้าไปหาคุณปู่สุรยุทธ และพี่กงศุล ก่อนจะยกมือไหว้งดงาม แล้วจากนั้นทุกคนก็หายไปจากตรงนั้นเฉย คุณแม่ คุณย่า คุณยาย เข้าไปในครัว พี่ชายของฉันไปอาบน้ำ คุณปู่สองคนคุยกัน

“เจอกันอีกแล้วนะครับ" เขาพูดแล้วยิ้มๆ อีตากงศุลน่ะ ฉันยิ้มแสยะพอเป็นมารยาท ฉันไม่ชอบบรรยากาศแบบนี้ ปล่อยให้ฉันอยู่กับคนที่ไม่รู้จักสองต่อสอง ฉันเกร็ง ฉันเลยเสนอว่าไปดูลุงชมตัดต้นไม้ไหม ลุงชมตัดต้นไม้สวยมาก ตัดได้หลายแบบ ฉันชอบให้ลุงชมสอนอยู่เรื่อย แต่ก็ตัดเละบ่อย ลุงชมเลยไม่ค่อยให้ทำอีก

“ขาหายเจ็บหรือยังน้องริน" เขาถามขณะเราเดินไปที่สวนหลังบ้าน

ถ้าเป็นปกติ ฉันอาจจะพูดกวน แต่วันนี้ฉันจะนิ่ง "ไม่เจ็บแล้วค่ะ ขอบคุณนะคะ วันนั้นพี่ซันก็คงเจ็บนะคะ"​ ไงล่ะฉัน มีมารยาทน่าดู

“วันนั้นเจ็บนะ แต่ตอนเด็กๆ รินก็ขี่คอพี่ออกบ่อย คอเคล็ดไปเลย จำไม่ได้ล่ะสิ ใจร้ายนะเนี่ย" เขาทำมาตัดพ้อ เล่าเรื่องขี่คออีกแล้ว ฉันล่ะเบื่อ

“รินจำไม่ได้จริงๆค่ะ หรือรินอาจจะเด็กมาก ตอนนั้นรินอายุเท่าไรได้" ฉันถามมองไปที่แววตากลมโตของเขา พี่ซันยิ้ม แล้วฉันรู้สึกว่า ใจฉันมันหวิวๆแฮะ

“รินคงจะอนุบาลน่ะ เอาเถอะ มันนานมาก แต่พี่จำได้นะ" แล้วเขาก็ยิ้มกว้างมากขึ้นอีก หลังจากนั้นฉันก็ไม่ยอมเสียเวลาอยู่กับเขาสองคนเพราะฉันทำตัวไม่ถูกกับคนที่ไม่สนิท แต่ฉันก็ต้องคงความมีมารยาทไว้ ฉันพาเขาไปหาลุงชมแล้วชวนคุยนู่นคุยนี่ แต่อีตากงศุลก็คุยกับลุงชมถูกคอแฮะ เรื่องต้นไม้ใบหญ้าอะไรไม่รู้ พอถึงเวลาอาหารเย็นเราเลยเข้าไปในบ้านกัน โต๊ะอาหารพร้อมแล้ว พี่รนทร์กับพี่ธิปขี้โกงสุดๆ นั่งก่อนไม่เรียกฉันเลย ฉันกับพี่ซันเข้ามาสองคนสุดท้าย แล้วฉันก็ได้เห็นว่าคุณย่ายิ้มหน้าบานมาก
ฉันต้องนั่งติดกับอีตากงศุล เพราะเหลือสองที่สุดท้ายไว้อย่างนั้น แล้วพวกผู้ใหญ่ก็คุยกันเอง ส่วนฉันกำลังหิวจัดเลยทานแบบไม่สนใจใคร

“ทานไอศกรีมมาแล้ว ไหนว่าอิ่ม" คนข้างๆพูดขึ้น ฉันสะดุด ก่อนจะหันไปยิ้มแหยๆใส่ เรื่องอะไรของนายเนี่ย แต่แล้วเขาก็ตักกับข้าวใส่จานฉันเฉย ฉันมองงงๆ ไม่เคยมีใครตักอาหารให้ฉัน คุณย่าสบตาฉันทันทีแล้วบุ้ยใบ้ไปทางที่ซัน ฉันไม่เข้าใจ เลยเรียกเขา

“พี่ซันคะ คุณย่าเรียกค่ะ" แล้วคุณย่าก็ทำตาโตประมาณว่าไม่ใช่ แล้วฉันจะไปรู้เหรอ แต่นั่นแหละก็ดีเหมือนกัน เพราะคุณย่าเลยต้องหาเรื่องคุยกับเขาไม่ให้เสียมารยาททันที ฉันเลยได้โอกาสคุยกับพี่ธิปที่นั่งข้างกัน

“ผ่านไหมพี่ธิป"

พี่ธิปหันมายักคิ้วอวดเก่ง "แน่นอนอยู่แล้ว ระดับนี้" จริงๆวันนี้เราควรฉลองให้พี่ธิปสิ เวลาพี่ธิปทำอะไรได้ ไม่เห็นมีใครชื่นชมเลย มีแต่คุณแม่ที่ให้ของขวัญ บางทีก็พาไปเลี้ยงกันเองในครอบครัว แต่ทีพี่นรนทร์สอบอะไรได้ คุณย่าแทบจะปิดบ้านเลี้ยง

พี่นรนทร์ได้ยินก็หัวเราะ "เพราะถุงเท้าคู่นั้นล่ะมั้ง"

คุณแม่นั่งอยู่ไม่ไกลเลยพลอยยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ก่อนจะพูดเสียงดังแบบลืมตัว จริงๆนะ ฉันเข้าใจธรรมชาติคุณแม่ คุณแม่ชอบเปิ่นแบบไม่รู้ตัว

“นราธิปคัดตัวนักบาสโรงเรียนผ่านเหรอลูก อีกปีแล้วสินะ เก่งจริงลูกแม่" พูดเสร็จก็มองคนบนโต๊ะอาหารแบบเกรงใจว่าตัวเองพูดดังเกินไป แต่แล้วคุณปู่ผู้น่ารักของฉันก็พูดเสียงดังขึ้นมาอีกว่าพ่อธิปของปู่ เก่งและหล่อเหมือนปู่ตอนเด็กจริงๆ แล้วก็ไม่มีใครสนใจต่อ พี่ธิปก็นั่งเงียบทานอาหารต่อไปดูไม่ทุกข์ร้อนอะไร

“นราธิปเก่งตั้งแต่ ม.ต้นแล้วครับ สมัยผมเป็นกัปตันทีมเคยคัดตัวธิปด้วย จำได้ไหม ตอนนั้นผมยังคุยกับเพื่อนเลยว่า ไอ้น้องคนนี้ดูมีแววมากกว่าคนอื่น เดี๋ยวปีหน้าคงจะได้เป็นกัปตันทีมสินะธิป" อยู่ดีดีอีตากงศุลก็พูดขึ้นมา ทำเอาพี่ธิปของฉันหัวใจพองโต หน้าแดง เอาละฉันยอมรับว่าตรงนี้เขาทำได้ดี ฉันต้องขอบใจเขา เพราะบางทีฉันกลัวว่าพี่ธิปจะเปรียบเทียบตัวเองกับพี่รนทร์

“ก็หวังว่านะครับ พี่ซันก็เป็นไอดอลของธิปเหมือนกันครับ" พี่ชายฉันพูดยิ้มๆ

พี่รนทร์เอาบ้าง "ตอนพี่ซันสอบชิงทุนได้ ทำเอาโรงเรียนเราเห่อกันไปสักพกใหญ่เลยครับ" เอากับเขาสิ นั่นไงล่ะ สุดท้ายบทสนทนาก็ตกมาอยู่กับเรื่องอีตากงศุลอีกแล้ว ได้ทีคุณย่า ฉันรู้สึกว่าคุณย่าชอบพ่อหนุ่มคนนี้มาก บางทีคุณย่าอาจจะคิดว่าตัวเองเกิดมาเร็วไป 50 ปี

“ต้องชื่มคุณพ่อคุณแม่นะคะ คุณยุทธ ที่เลี้ยงตาซันได้ดีขนาดนี้ จบกลับมาคงได้รับใช้ประเทศชาติ ว่าแต่หล่อๆอย่างหลานซันมีแฟนหรือยังล่ะจ๊ะ" คำถามคุณย่า ทำเอาอึ้งกันทั้งวง

“ยังครับ" เขาตอบนิ่งๆ ฉันไม่ได้สนใจยังคงทานอาหารต่อด้วยความหิวโหย

แต่แล้วคุณย่าก็พูดอะไรประหลาดๆออกมาอีก

“ยายรินก็ยังไม่มีนะ" ฉันที่กำลังทานอาหารอย่างเพลิดเพลินถึงกับต้องหยุดมองหน้าคุณย่า นี่มันหมายความว่าอะไร ก่อนจะหันมามองอีตากงศุลที่จ้องฉันไม่กะพริบตา

คุณย่าคงรู้สึกได้ว่าตัวเองพลาดไป เลยพูดต่อให้จบ "เอ่อ ตารนทร์ ตาธิป ก็ยังไม่มี แหม เราก็ควรให้ลูกหลานเราเรียนให้จบก่อนนะคะ ถึงจะสนับสนุนเรื่องคู่ แต่เราก็หวังให้ลูกหลานเรามีคู่ที่ดี จริงไหมคะคุณยุทธ โฮะๆ" แล้วเสไปคุยเรื่องอื่นแทน

ฉันยังคงจ้องตากับพี่ซันค้างไปพักหนึ่ง แววตาเขาจ้องแบบจริงจังเกินไปจนฉันกลัว เลยกลืนน้ำลายดังเอื๊อก แล้วทานอาหารต่อ

“ไม่มีจริงหรือเรา" พี่ซันถามฉันเสียงเบา ฉันไม่ค่อยเข้าใจว่าเขาถามเพื่ออะไร มันอาจจะไม่มีอะไรเลย แต่ฉันก็ยอมรับว่าคำพูดแบบนี้ น้ำเสียงแบบนี้มันไม่ธรรมดา มันทำฉันขนลุก แล้วรู้สึกไม่ปลอดภัย

“พี่ซันจะทราบไปทำไมคะ" ฉันพยายามพูดเบาบ้าง และทำสุขุม ไม่กระโตกกระตาก

เขายิ้มเจ้าเล่ห์ "ก็แค่อยากรู้ว่ากระโดกกระเดกอย่างเราจะมีแฟนได้หรือ" หนอยยยย นี่เองเหตุผล คิดว่าฉันสวยไม่พอ อยากเย้ยฉันสินะ ผู้หญิงอย่างฉันน่ะ ฆ่าได้ หยามไม่ได้ นะยะ ถึงตอนนี้ร่างกายฉันไม่พร้อม แต่พอโตขึ้น ฉันจะต้องสวยและอึ๋ม กว่านี้แน่นอน

ฉันวางช้อนดังแกร๊ง คุณย่ามองทันทีว่าไม่มีมารยาท เลยรีบปรับท่าทีใหม่ให้กระด้างน้อยลง

“คุณย่าคะ ใครบอกรินไม่มีมีแฟน รินมีแล้วค่ะ" ทุกคนหยุดทานอาหาร จ้องฉันแบบประหลาดใจ คุณแม่ทำตาโตสุดๆ

แต่พี่ธิปหัวเราะออกมา ตามด้วยพี่รนทร์

“แฟนอะไรยายริน วันๆ อยู่โรงเรียนหญิงล้วน มีแต่เพื่อนผู้หญิง ไปนอกบ้านก็พ่อแม่ กับพี่ไปด้วยตลอด รินเอาเวลาไปมีแฟนที่ไหนเหรอ บอกพี่หน่อย" แล้วพี่ชายตัวดีของฉันก็หัวเราะกันสนุกสนาน อีตากงศุลก็หัวเราะ หึหึ แบบไม่เก็บไว้ โอ๊ยยยยยย ฉันพลาดดดด ฉันต้องทำตัวสุขุม นี่นา แล้วนี่ฉันพูดอะไรออกไปเนี่ย!!!!

เอาเถอะสิดาริน ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว เติมเรื่องหน่อยจะเป็นไรไป

“พูดเหลวไหลยายริน"​คุณปู่บ่น ฉันไม่เคยโดนคุณปู่บ่นฉันเลยนะ ต้นเหตุคืออีตากงศุลแท้ๆทีเดียว

ฉันประกาศกร้าว แต่พยายามทำเสียงอ่อนนุ่ม ก็ฉันขายหน้านี่นา

"รินไม่ได้โกหกค่ะ รินมีแฟนจริงๆ ไม่เชื่อไปดูที่ห้องเลย ฮิตาชิ น่ะ รินใช้มาจะสิบปีแล้ว" แล้วทุกนก็หัวเราะครื้นเครง คิดว่ามุกตลกของฉันสร้างสรรค์จริงๆ เอาเถอะ พอกันที ฉันจะเลิกทำอะไรขายหน้าตัวเองแล้ว แต่ต่อจากนั้นฉันรู้สึกได้ว่า อีตาพี่ซันมองฉันแล้วแอบหัวเราบ่อยๆ โอ๊ยยยยย





ลายเส้น
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 24 ม.ค. 2556, 20:10:45 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 24 ม.ค. 2556, 20:10:45 น.

จำนวนการเข้าชม : 1830





<< (3)ไฟเชอรี่   (5) กลับบ้าน >>
goldensun 24 ม.ค. 2556, 21:22:13 น.
เหมือนแม่จริงๆ สิดาริน


ใบบัวน่ารัก 24 ม.ค. 2556, 21:23:51 น.
เกือบจะสุขุม สง่างามแล้วเชียว
มาตายตอนจบ เพลี้งงงง
เอาใหม่นะหนูริน สู้ๆๆๆ
จะเป็นรักต้องห้ามหรือเปล่ากะ ดีน่า
เหมือนชอบซันนะ


จิงโกะ 24 ม.ค. 2556, 21:48:50 น.
ฮา แบบลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น


Kapoh 24 ม.ค. 2556, 22:24:44 น.
หนูรินมีแฟนแล้ว ฮ่าๆๆๆ


Pat 27 ม.ค. 2556, 20:14:13 น.
นึกว่าจะไม่หลุดมาดสุขุมแล้วเชียว 555


agentaja 27 ม.ค. 2556, 21:24:46 น.
ไม่พลาด.....ที่จะหลุด....ทุกที 555


ลายเส้น 27 ม.ค. 2556, 23:29:11 น.
Ieie


ผักหวาน 13 ก.พ. 2556, 21:01:00 น.
555 ขำอีกระลอก
ขอบคุณคุณลายเส้นค่ะ


kaze 3 มี.ค. 2556, 02:37:56 น.
หยุดขำมะด้ายยยยย 555555


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account